Share

บทที่4.ปลาน้อยในลำคลอง

Penulis: Luna of The Sea
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-18 05:29:30

7 ปีผ่านไป…

ฮันน่าโตเป็นสาวน้อยวัยรุ่นที่มีชีวิตเรียบง่ายในชนบท เธอใช้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ช่วยปู่ย่าทำไร่ไถนาตามประสาคนในครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำ แต่เมื่อกลับมาบ้าน เธอมักจะแอบหลบอยู่ในห้องนอนเล็กๆ ของตัวเอง โลกส่วนตัวที่เธอสร้างขึ้นยังคงเต็มไปด้วยการขีดเขียนนิยายน้ำเน่าเล่มแล้วเล่มเล่าลงบนสมุดเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของเจ้าชาย เจ้าหญิง หรือชีวิตแสนสุขที่เธอจินตนาการขึ้นเพื่อหลีกหนีจากความเหงาและความโดดเดี่ยวที่เกาะกินใจ

ในห้องเล็กๆ นั้น เธอรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากโลกภายนอก มีเพียงแต่เสียงดินสอขูดขีดบนกระดาษและเรื่องราวในหัวของเธอคือสิ่งเดียวที่ทำให้วันเวลาผ่านไปอย่างมีความหมาย

แต่แล้ว เสียงของหญิงชราก็ดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง "ฮันน่า ได้เวลาออกจากห้องแล้วนะ" เสียงนั้นเข้มงวด เรียกให้เธอออกมาจากโลกส่วนตัว เสียงฝีเท้าของหญิงชราดังชัดเจนขึ้นเมื่อเธอเดินมาเคาะประตูซ้ำ

ฮันน่าเงยหน้าขึ้นจากสมุดที่เธอกำลังเขียน นิ้วเล็กๆ ของเธอยังคงจับดินสอแน่น เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะไม้เก่าที่เต็มไปด้วยรอยขูดขีด เธอเดินออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าเก่าๆ ที่มีกลิ่นอายของบ้านไร่ติดตัว

"ไปหาปูหาปลากันเถอะ" ย่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและเหนื่อยล้า ราวกับคนที่ใช้แรงกายและใจในแต่ละวันจนแทบหมดสิ้นในแต่ละวัน

ฮันน่าเดินตามย่าไปอย่างเงียบๆ ผ่านทุ่งนา เส้นทางที่นำไปสู่คลอง น้ำในคลองสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกายระยิบระยับ เสียงน้ำไหลเบาๆ คล้ายกับเพลงที่กล่อมให้ใจสงบฮันน่ามองไปยังน้ำในคลอง รู้สึกเหมือนความฝันในหัวของเธอไหลไปกับกระแสน้ำนั้น เธอแอบหวังว่า วันหนึ่ง ชีวิตของเธออาจจะได้หลุดพ้นจากความซ้ำซากและโลกแคบๆ นี้ไปสู่ที่ที่ใหญ่กว่า…

ช่วงปิดเทอม ชีวิตของฮันน่ายังคงดำเนินไปในวงจรเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมากนัก เธอก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในไร่ในสวนหาปูหาปลาตามลำห้วยและหนองน้ำ

ฮันน่าก้มตัวลงใกล้ผืนน้ำตื้นๆ ของหนองน้ำเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยหญ้ารกและต้นไม้น้อยใหญ่ เสียงแซะไม้ไผ่กับพื้นดินเลนดัง "แกรกๆ " สลับกับเสียงน้ำกระเพื่อมเบาๆ ทุกครั้งที่เธอดันไม้ไปด้านหน้าเพื่อไล่ปลาเล็กปลาน้อยให้เข้าไปในมุมที่ติดอยู่ในเลน

ดวงตาของเธอจับจ้องอยู่ที่ผิวน้ำที่สั่นไหวสะท้อนแสงแดดอ่อนๆ ปลาตัวเล็กๆ ว่ายผ่านไปอย่างรวดเร็วในขณะที่เธอพยายามเคลื่อนแซะไม้ไผ่อย่างระมัดระวัง "วอนเถอะนะ ขอให้มีปลาเยอะๆ หน่อย" เธอพึมพำในใจเหมือนกำลังพูดคุยกับหนองน้ำ หวังว่าโชคจะเข้าข้างในวันนั้นหลังจากพยายามอยู่นาน เธอเริ่มเห็นปลาตัวเล็กๆ กระโดดพล่านขึ้นมาบนแซะไม้ไผ่ที่เธอค่อยๆ ยกขึ้นจากน้ำ "ได้แล้ว!" ฮันน่าอุทานเบาๆ ด้วยความตื่นเต้น เธอเก็บปลาตัวเล็กๆ ลงในถังเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ อย่างประณีต ปลาบางตัวดิ้นไปมาเบาๆ ในถังน้ำ ทำให้เธอรู้สึกมีความหวังขึ้นเล็กน้อยแม้ว่าปลาที่จับได้จะไม่ใช่ปลาตัวใหญ่หรือจำนวนมากมายแต่ทุกตัวที่ได้มานั้นมีความหมายสำหรับเธอ

เปิดเทอมภาคเรียนปีสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นเหมือนกับภาคเรียนอื่นๆ แต่สำหรับฮันน่า ความรู้สึกที่เคยสดใสเหมือนทุกครั้งกลับหายไป ความกดดันจากการถูกจับตามองเพราะเป็นนักเรียนทุนและเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากเหตุการณ์ในอดีตยังคงหลอกหลอนเธอ แม้เธอจะพยายามตั้งใจเรียนและทำให้ดีที่สุด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอาจารย์ห้องปกครองดูเหมือนจะเปราะบางขึ้นเรื่อยๆ

เพียงไม่กี่เดือนหลังจากเปิดเทอม ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป อาจเพราะการตัดสินใจเล็กๆ ในช่วงเวลาที่เธอรู้สึกเหนื่อยล้าหรือท้อแท้กับชีวิต ฮันน่าเริ่มพลาดในการปฏิบัติตามกฎระเบียบอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการนั่งเล่นกับเพื่อนๆ ตามคลองหรือหนองน้ำ แต่เป็นการขาดเรียนบ่อยครั้งและหลบไปอยู่ในโลกส่วนตัวของเธอเลือกที่จะเพ้อฝันและเขียนนิยายน้ำเน่าในมุมเงียบๆ มากกว่าจะเผชิญหน้ากับความจริงในห้องเรียน

ครูที่เคยเป็นที่ปรึกษาเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวฮันน่า และพยายามดึงเธอกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็น แต่ดูเหมือนทุกคำพูดจะไปไม่ถึงใจเธออีกต่อไป ความโดดเดี่ยวที่ฝังลึกและความรู้สึกว่างเปล่ากลายเป็นสิ่งที่ฮันน่าไม่สามารถหลุดพ้นได้ "ฮันน่า เธอต้องกลับมามุ่งมั่นให้ได้นะ เทอมนี้สำคัญที่สุดในชีวิตเธอ" ครูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่น้ำเสียงนั้นเหมือนลอยผ่านตัวเธอไป ฮันน่าเพียงพยักหน้ารับ แต่ในใจของเธอกลับว่างเปล่า

เมื่อฮันน่ากลับถึงบ้านหลังเลิกเรียน เธอวางกระเป๋าใบเล็กลงข้างประตูไม้ที่เริ่มผุพังจากกาลเวลาเดินช้าๆ ไปยังห้องของตัวเองที่อยู่ติดกับห้องครัว เสียงของปู่ดังขึ้นลอดผ่านฝาไม้เก่าๆ ที่มีรอยแตก เธอหยุดนิ่ง ไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่คำพูดที่ลอดผ่านมาทำให้เธอหยุดฟังด้วยความรู้สึกถอดใจ

“เราไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าเรียนของฮันน่าแล้วนะแม้ค่าใช้จ่ายจะไม่มาก” ปู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยสะท้อนถึงความเหนื่อยล้าจากชีวิตที่ต้องดิ้นรนในทุกวัน “ทุนการศึกษาที่รัฐบาลให้มาก็ช่วยได้แค่บางส่วน แต่แค่นั้นมันไม่พอ… พรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะมีอะไรกิน แต่ละมื้อ แต่ละวัน ก็ยากลำบากเหลือเกิน” น้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อยราวกับคนที่หมดหนทาง แต่ก็ยังพยายามรักษาความเข้มแข็งไว้เพื่อครอบครัว

คำพูดของปู่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาถูกเรียกเข้าพบครูใหญ่ในห้องผู้ปกครอง ข่าวที่ฮันน่าถูกเตือนเรื่องการทำผิดกฎในฐานะนักเรียนทุนทำให้หัวใจของชายชราเต้นแรงด้วยความกังวล เธอถูกจับได้หลายครั้งว่าไปนั่งจับกลุ่มเล่นกับเพื่อนๆ ตามห้วยหนองคลองบึงแทนที่จะตั้งใจเรียนและเป็นตัวอย่างที่ดีตามที่โรงเรียนคาดหวัง แต่เด็กวัยรุ่นบ้านนอกที่ไม่มีทางเลือกมากนักมักหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในสิ่งรอบตัว แต่สำหรับระบบการศึกษาที่เข้มงวดในสมัยนั้น การเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางที่กำหนดไว้ถือเป็นเรื่องใหญ่โต

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่33.ริมฝั่งทะเลและคำสัญญา

    อาดัมเชื่อว่า... อาการป่วยของฮันน่าไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาเพียงอย่างเดียว มันต้องการบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น คือ ความรัก และ หัวใจ เขาเชื่ออย่างยิ่งว่าเขาจะเป็นคนที่เยียวยาเธอได้ ไม่ใช่ด้วยคำพูดหวานหูหรือคำสัญญาที่เลื่อนลอย แต่ด้วยการอยู่เคียงข้างเธอทุกวัน ทุกวินาที คอยประคองเธอขึ้นจากความเจ็บปวด ให้เธอเห็นว่าโลกใบนี้ยังมีที่ให้เธอยืนอยู่ได้ …………….. แสงแรกของพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามา กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกวางรออยู่กลางห้อง รอคอยการเดินทางครั้งสำคัญที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวออกไปจากที่นี่ ฮันน่ามีบางสิ่งที่ต้องเผชิญ บางสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ ประตูห้องน้ำเปิดกว้าง... ฮันน่ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ขวดยาในมือถูกกำไว้แน่นจนฝ่ามือสั่นระริก เธอค่อยๆ เปิดฝาขวด เทเม็ดยาสีขาวจำนวนมากลงบนมือ เธอจ้องมันนิ่งงัน หัวใจเต้นแรง ความลังเลและความกลัวตีตื้นขึ้นมา นี่คือสิ่งที่เธอพึ่งพามาตลอด… สิ่งที่ช่วยให้เธอหลับในคืนที่ฝันร้าย สิ่งที่กดเสียงในหัวให้เงียบลง แต่วันนี้ เธอจะปล่อยมันไป เธอหันมองอาดัม เขายืนอยู่ข้างๆ ดวงตาของเขาส่งผ่านความมั่นใจและความเข้าใจ ไม่มี

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่32.ระหว่างความมืดมนและแสงแรกของวัน

    สามเดือนผ่านไป.. ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ฮันน่าอาศัยอยู่กับอาดัม แม้จะยังต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเอง และต้องทานยารักษาอาการทางจิตควบคู่ไปด้วย เธอก็ยังคงไปพบแพทย์ตามนัด โดยมีอาดัมคอยดูแลอยู่ไม่ห่างแม้กายจะค่อยๆ ฟื้นตัว แต่หัวใจของเธอยังคงกลัวและหวาดระแวง... เงาของ "ลินลี่" และคำขู่ในวันนั้นยังตามหลอกหลอนเธอเสมอ ทำให้บางคืนเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก พร้อมกับเสียงหายใจหอบหนักแต่ไม่ว่าเมื่อไรที่เธอตื่นขึ้นมา เธอมักจะพบว่า อาดัมยังอยู่ตรงนั้นเขาไม่เคยห่างไปไหนเธออาจจะยังลังเลและหวาดกลัว แต่สำหรับอาดัม… ยิ่งวันเวลาผ่านไป เขากลับแน่ใจมากขึ้น"เขารักเธอเข้าแล้ว..."กลางดึกที่เงียบสงัด ความเงียบโรยตัวไปทั่วทั้งบ้าน“กรี๊ดดด!!”เสียงกรีดร้องดังลั่น ทำลายความสงบในชั่วพริบตาฮันน่าสะดุ้งตื่นขึ้นมา ดวงตาเบิกกว้าง ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นสาย ลมหายใจของเธอหอบหนักราวกับขาดอากาศ เงาของฝันร้ายยังคงตามหลอกหลอน ภาพเลือนรางจากอดีตซ้อนทับเข้ามาไม่หยุดเธอพยายามควบคุมตัวเอง สูดลมหายใจลึกแม้จะไม่ช่วยอะไรเลยเธอเอื้อมไปจับไม้พยุง ก่อนค่อยๆ พยุงร่างกายที่อ่อนแรงไปยังห้องน้ำ ก้า

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่31.มือนำทาง

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาลอดผ่านหน้าต่างห้องของอาดัม เขายืนถือโทรศัพท์ไว้แนบหู ปลายสายนั้นคือวิน เพื่อนสนิทที่โทรมาจากต่างแดน เพราะหลังจากเหตุการ์ณ์ที่เกาะทองคำวันนั้นวินได้บินกลับไปอย่างกระทันหัน "นายแน่ใจเหรอ...อาดัม?" เสียงของวินชัดเจนผ่านใบหูของอาดัมในขณะที่ทั้งสองได้คุยกันมาได้สักพักแล้วจนมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะวางสายลง “แน่ใจสิ…”อาดัมตอบกลับด้วยความมั่นใจขณะที่ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววความแน่วแน่มั่นคง ถึงแม้เขาจะรู้จักเธอแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม แต่บางอย่างในตัวเธอทำให้เขาตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล เมื่อวินได้ยินคำตอบที่ราวกลั่นออกมาจากหัวใจของอาดัมแล้ว เขาก็เอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงแห่งความยินดี “เมื่อนายมั่นใจและเชื่อมั่นแล้ว ฉันก็เชื่อในตัวนายเช่นกันว่านายนั้นทำได้ดี” วินตอบกลับแล้วหันมองดูเวลาบนข้อมือที่ใกล้เข้ากะทำงานไปทุกที“ ไว้คุยกันใหม่ ฉันต้องเข้าทำงานแล้ว ขอพระเจ้าอวยพร นายกับฮันน่า นะ" “ขอบใจมากเพื่อน ..วิน! แล้วเจอกัน ” .. ตุ๊ด.. ตุ๊ด.. ตุ๊ด..………….เมื่อวางสายไปแล้ว อาดัมถอนหายใจออกมาช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี แสงดาวระยิบระยับสะท้อ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่30.แสงแห่งคำอธิษฐาน

    ยามหัวค่ำในห้องพักฟื้น อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ซ่านลึกเข้าไปถึงกระดูก ฮันน่า นอนนิ่งอยู่บนเตียง แม้ร่างกายยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่ถึงกระนั้นความเจ็บปวดจากร่างกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่กัดกินเธออยู่ภายในความกลัว ที่เหมือนเงาดำซึ่งคืบคลานเข้ามารัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออกเธอรู้ดีว่าการหนีจาก ลินลี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย... ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างเธอ นี่คือเมืองที่ลินลี่ครอบครองทุกสิ่งหญิงผู้มีอิทธิพล ผู้ทรงพลังยิ่งกว่ากฎหมายและความยุติธรรม ไม่มีมุมใดของเมืองนี้ที่จะหลบพ้นสายตาของเธอได้หัวใจของฮันน่าเต้นแรงในอก ดวงตาจ้องมองเงาตรงประตูหน้าห้องที่ดูเหมือนจะขยับเคลื่อนไหวตามเสียงฝีเท้าในจินตนาการของเธอ ทุกวินาทีราวกับกำลังรอคอยหายนะที่จะมาถึงโดยไม่มีวันเลี่ยงได้เธอไม่ได้หวังปาฏิหาริย์อีกต่อไป... ในเมืองของลินลี่ คนที่หนีไปได้ มีเพียงเงา หรือซากศพตึก... ตึก...ตึกเสียงรองเท้าส้นสูงดังสะท้อนก้องมาตามทางเดินยาวนอกห้อง ทุกก้าวการเดินนั้นราวกับกำลังย้ำเตือนถึงชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง ทุกก้าว ยิ่งกระชั้นชิด เสมือนเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่น

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่29..เคียงข้าง...แม้วันอ่อนแอ

    ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล บรรยากาศเงียบงัน แสงไฟนวลตาส่องกระทบผนังสีขาวสะอาดตา ทว่ากลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว อากาศอบอวลด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจาง เตียงคนไข้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ม่านสีขาวกั้นเป็นสัดส่วน อาดัมก้าวเข้ามาอย่างช้าๆสายตาของเขามองไปยังหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบศีรษะของเธอ และขาของเธอถูกดามไว้อย่างแน่นหนา ร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำปรากฏให้เห็นบนผิวกายซีดเซียว ร่างกายของเธอดูเปราะบางราวกับอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ เสียงลมหายใจแผ่วเบาของเธอยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อาดัมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ กดทับอยู่ในอก ราวกับแบกรับความรู้สึกผิดที่มองไม่เห็น เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ สายตาไล่มองไปตามร่างของเธอ พลางครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องเจ็บหนักขนาดนี้ เขารู้ว่าเธอรอดมาได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะผ่านมันไปได้โดยง่าย เสียงฝีเท้าของเขาเบาลงขณะก้าวถอยหลัง สุดท้ายอาดัมเลือกจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแม้ความกังวลยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ... เขาตรงกลับมาบ้านที่อบอุ่นเสียงฝีเท้าดังก้องทั่วห้องโถ่งทางเด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่28.เงาแห่งโชคชะตา

    กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เรือสปีดโบ๊ทแล่นตัดผ่านเกลียวคลื่นอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์คำรามกลบความเงียบของท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังมืดลง อาดัมนั่งเงียบอยู่ข้างฮันน่า ดวงตาของเขามองไปยังใบหน้าของฮันน่าที่เปื้อนไปด้วยเลือด เธอดูอ่อนล้าและไร้เรี่ยวแรงและในแววตาของเธอนั้นช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด“คุณ…เข้มแข็งไว้นะ” อาดัมเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ขณะที่นันย์ตาเขามองเธอราวกับต้องการส่งกำลังใจทั้งหมดที่เขามีให้กับเธอ ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนแขนของเธอเบา ๆ สัมผัสแผ่วเบาที่ไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้เผชิญกับสิ่งนี้เพียงลำพัง ฮันน่ามองอาดัม ก่อนพยักหน้าแม้ไม่มีคำพูดใดออกมา แต่แววตาของเธอนั้นรับรู้ถึงความห่วงใยของเขา และเธอจะพยายามอดทน ให้ถึ่งฝั่งเรือสปีดโบ๊ทเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความเร่งด่วน ไฟสีแดงของรถพยาบาลที่จอดรออยู่ที่ท่าเรือสะท้อนบนผิวน้ำ ราวกับประกาศความสำคัญของชีวิตที่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายทันทีที่เรือจอดเทียบที่ท่า คนขับเรือและเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วยอาดัมพยุงฮันน่าขึ้นไปยังรถพยาบาล เสียงไซเรนดังก้องเมื่อรถพุ่งออกจากท่าเรือ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status