Share

ตามหาผ้ายันต์

last update Last Updated: 2025-10-31 20:14:30

หลังจากที่ออกมาจากปราสาทได้สำเร็จ บาระและเร็นก็พบว่าตัวเองอยู่ในป่าทึบที่ไร้ซึ่งแสงอาทิตย์ตลอดกาล มีเพียงแสงจันทร์สีขาวนวลที่สาดส่องลงมาอย่างริบหรี่ผ่านม่านกิ่งไม้ที่หนาแน่น พวกเขาเดินฝ่าความมืดลงมาจากเนินเขาจนถึงพื้นป่าที่เต็มไปด้วยพงหญ้าสูงและกลิ่นดินชื้น ๆ

"อย่างน้อย... เราก็รู้ว่าเงาปีศาจผู้เฝ้าประตูถูกกำจัดไปแล้ว" บาระพูดพลางกอดขวดกักเก็บวิญญาณไว้แน่น ขวดนั้นเป็นเหมือนเครื่องยืนยันความสำเร็จเดียวที่พวกเขามี

เร็นใช้มีดอาคมของเขาฟันกิ่งไม้ที่ขวางทางออกไปเบา ๆ "ใช่ แต่ฉันว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น" เขาหยุดเดินและหันไปมองบาระ "ตอนที่เราอยู่ในปราสาท ฉันเห็นสัญลักษณ์บางอย่างบนกำแพง... ดูเหมือนจะเป็นคำใบ้ หรือแผนที่ที่บอกถึง ผ้ายันต์ 5 ผืน"

"ผ้ายันต์ 5 ผืน?" บาระเลิกคิ้ว "มันคืออะไร?"

"ฉันคิดว่ามันเป็นกุญแจสำคัญในการกลับโลกของเรา หรืออย่างน้อยก็เป็นกุญแจที่จะหยุดยั้งพลังงานเงาปีศาจทั้งหมดไม่ให้แพร่กระจายไปมากกว่านี้" เร็นอธิบาย "ในแผนที่คร่าว ๆ ที่ฉันเห็น มันเหมือนถูกกระจายไปตามทิศทางต่าง ๆ ของมิตินี้"

บาระครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องตามหาผ้ายันต์พวกนั้นให้เจอ" เธอเงยหน้ามองความมืดมิดรอบตัว "แต่... เราจะหาทั้งหมด 5 ผืนได้เร็วแค่ไหนกัน? แล้วไอโกะกับคนอื่น ๆ จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"

เร็นรู้ว่าบาระหมายถึงอะไร "เธอคิดจะแยกกันหาใช่ไหม?"

"ใช่" บาระตอบอย่างไม่ลังเล "ถ้าเราแยกกัน เราก็มีโอกาสเจอผ้ายันต์ได้เร็วขึ้น อาจจะสองผืนต่อหนึ่งทีม หรืออาจจะเจอเพื่อน ๆ ได้เร็วขึ้นด้วย"

เร็นขมวดคิ้วด้วยความกังวล เขาก้าวเข้าไปใกล้บาระและจับไหล่เธอไว้ "บาระ... ไม่ได้นะ"

"ทำไมล่ะเร็น?"

"ดูรอบ ๆ ตัวเราสิ! ที่นี่ไม่ใช่ป่าทั่วไป! มันมืดมิดตลอดเวลา และเราเพิ่งเจอปีศาจผู้เฝ้าประตูที่แข็งแกร่งขนาดนั้นมานะ! ถ้าเธอเจอเงาปีศาจที่รวมร่างกันแบบเมื่อกี้คนเดียวล่ะ? นาฬิกาของเธอก็ใช้ไม่ได้แล้วด้วยนะ!" เร็นพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาไม่สามารถซ่อนความกลัวไว้ได้เมื่อนึกภาพบาระต้องเผชิญหน้ากับปีศาจลำพัง

บาระพยายามโต้แย้ง "แต่เราก็ใช้มีดอาคมแทงที่หัวมันได้นี่! ฉันกักเก็บวิญญาณได้ นายก็สู้ได้ ถ้าเราเร็วกว่านี้..."

"ไม่! ความเร็วไม่สำคัญเท่าความปลอดภัย! จำตอนที่เราสู้กับผู้เฝ้าประตูได้ไหม? ถ้าไม่มีเธอที่ชี้จุดอ่อนที่เคลื่อนไหว ฉันก็ไม่มีทางแทงมันเข้าหรอก! และถ้าไม่มีมีดของฉัน เธอจะกักเก็บวิญญาณของพวกมันที่แตกสลายได้ยังไง?" เร็นชี้ให้เห็นถึงการพึ่งพาอาศัยกันอย่างชัดเจน "เราแข็งแกร่งที่สุดตอนที่เราอยู่ด้วยกันบาระ! ทั้งด้านสติปัญญาและพละกำลัง!"

บาระเงียบไป เธอพิจารณาคำพูดของเร็นอย่างถี่ถ้วน ความมืดมิดรอบตัวทำให้เธอรู้สึกเปราะบางอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน การไม่มีสัญญาณจากนาฬิกาอาคมเป็นเหมือนการสูญเสียดวงตาที่สามในการรับรู้ถึงอันตราย

"โอเค... นายพูดถูก" บาระถอนหายใจยาว "ความปลอดภัยต้องมาก่อน เราจะหาไปด้วยกัน"

เร็นยิ้มอย่างโล่งใจ "ขอบใจนะบาระ" เขากำมือของเธอแน่นขึ้น "เราจะพึ่งพากันและกัน เราต้องหาทางออกไปจากมิติบ้า ๆ นี่ให้ได้"

บทที่ 2: การเผชิญหน้าของเงาปีศาจรวมร่าง

ทั้งสองตกลงที่จะเดินไปตามทิศทางที่แสงจันทร์ดูเหมือนจะส่องลงมาหนาแน่นที่สุด พวกเขาเดินลึกเข้าไปในป่าที่มืดมิด เสียงใบไม้แห้งและกิ่งไม้หักใต้ฝ่าเท้ากลายเป็นเสียงเดียวที่ดังขึ้นในความเงียบงันที่น่าขนลุก พวกเขาต้องหยุดเดินเป็นระยะเพื่อให้ตาชินกับความมืดและใช้สัญชาตญาณนำทาง

"ระวังนะเร็น" บาระกระซิบ "ฉันรู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองเราอยู่"

เร็นชูมีดอาคมไปด้านหน้าอย่างระแวดระวัง "ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน"

ทันใดนั้นเอง ดวงตาเล็ก ๆ นับสิบดวงก็พลันปรากฏขึ้นท่ามกลางพงหญ้าที่อยู่รอบตัวพวกเขา พวกมันเป็น เงาปีศาจตัวเล็ก ๆ ที่มีขนาดเท่าแมว แต่จำนวนของมันมีมากจนนับไม่ถ้วน พวกมันเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ จนแทบจะกลืนหายไปกับความมืด

"เงาปีศาจตัวเล็ก? มันมาจากไหนกัน?" บาระถามด้วยความประหลาดใจ เงาปีศาจเหล่านี้ดูเหมือนอ่อนแอ แต่จำนวนที่มากขนาดนี้ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

"ไม่รู้สิ... แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม เราต้องผ่านไปให้ได้" เร็นพูด เขาเตรียมพร้อมที่จะใช้มีดอาคมฟาดฟันพวกมัน แต่ก็ลังเลที่จะลงมือเนื่องจากจำนวนที่มากเกินไป

เงาปีศาจตัวเล็ก ๆ เหล่านั้นไม่ได้พุ่งเข้ามาโจมตีทันที แต่มันกลับ ล้อมรอบ พวกเขาไว้เป็นวงกลมแคบ ๆ และเริ่มส่งเสียง ซู่ซ่า คล้ายเสียงกระซิบที่พันกันไปมา เสียงนั้นทำให้บาระรู้สึกปวดหูและเวียนหัว

"เสียงอะไรน่ะ? มันทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ" บาระเอามืออุดหู

เร็นเองก็รู้สึกมึนงงเช่นกัน "มันกำลังพยายามก่อกวนเรา! อย่าเสียสมาธินะบาระ!"

ทันใดนั้นเอง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เงาปีศาจตัวเล็ก ๆ ที่อยู่รอบตัวพวกเขาเริ่ม เคลื่อนที่เข้าหากัน อย่างรวดเร็ว พวกมันไม่ได้โจมตี แต่กลับหลอมรวมกันเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ กลุ่มก้อนนั้นขยายตัวอย่างรวดเร็วและบิดเบี้ยวผิดรูปไปมา

"เร็น! ดูนั่นสิ! มันกำลังรวมร่างกัน!" บาระตะโกนลั่น ความตกใจทำให้เธอรู้สึกชาไปทั้งร่าง

เร็นมองดูการรวมร่างอย่างตะลึงงัน กลุ่มเงาปีศาจขนาดเล็กนับร้อยนับพันตัวหลอมรวมกันอย่างบ้าคลั่ง เสียงกระซิบที่เคยดังก็กลายเป็นเสียง คำราม ที่รุนแรงจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที พวกมันก็รวมร่างกันจนกลายเป็น เงาปีศาจรวมร่าง ที่สูงเสียดฟ้า ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าผู้เฝ้าประตูที่พวกเขาเคยเจอมาเสียอีก รูปร่างของมันดูเหมือนอสุรกายที่ประกอบขึ้นจากแขนและขาที่บิดเบี้ยวมากมาย

มันคือ ขุนพลเงา (Shadow General) ที่เกิดจากการรวมตัวกันของเงาปีศาจชั้นล่าง!

"ไม่จริงน่า! ตัวใหญ่กว่าเดิมอีกเหรอเนี่ย!" เร็นพูดด้วยความหวาดหวั่น เขารู้สึกถึงความแตกต่างของพลังงานที่มหาศาลจากปีศาจตนนี้

ทันทีที่การรวมร่างเสร็จสิ้น ขุนพลเงาก็ไม่รอช้า มันยกแขนขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคมขึ้น พุ่งเข้าฟาดบาระและเร็นอย่างบ้าคลั่ง

"บาระ! หนีเร็ว!" เร็นตะโกน เขารีบดึงมือบาระให้วิ่งหนี แต่พวกเขาก็รู้ว่าความเร็วไม่สามารถช่วยให้พวกเขาพ้นจากการโจมตีของปีศาจที่ใหญ่ขนาดนี้ได้

ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง บาระตัดสินใจทำสิ่งที่พวกเขาตกลงกันไว้ เธอไม่ปล่อยมือจากเร็น แต่กลับกำมือของเขาไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม

"ไม่ทันแล้วเร็น! เราต้องป้องกัน!" บาระตะโกน เธอหลับตาลง และเริ่มร่าย บทอาคมกางอาณาเขตป้องกัน คาถาที่เธอเคยอ่านเจอจากตำราเก่า ๆ ที่เธอค้นคว้ามา:

"ด้วยพันธะแห่งมิติ และจิตวิญญาณแห่งการปกป้อง... ข้าขอเรียกร้องกำแพงแห่งแสง! อาณาเขตผนึก!"

ทันใดนั้นเอง แสงสีม่วงอ่อน ๆ ก็พลันพุ่งออกมาจากร่างกายของบาระ และแผ่ขยายออกไปเป็น โดมพลังงานสีม่วงใส ที่โอบล้อมพวกเขาไว้ มันคืออาณาเขตป้องกันที่บาระร่ายขึ้นมาโดยใช้พลังงานทั้งหมดที่เธอมี

แขนขนาดมหึมาของขุนพลเงาฟาดลงมากระทบกับโดมป้องกันของบาระ ปัง!!! เสียงปะทะกันดังกึกก้องไปทั่วป่าทึบ มันเป็นเสียงที่รุนแรงราวกับระเบิด แรงปะทะทำให้พื้นดินรอบตัวพวกเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ต้นไม้รอบ ๆ ถึงกับโค่นล้มลง

"บาระ! มันรับไม่ไหวแล้วนะ!" เร็นตะโกน เมื่อเห็นว่าโดมป้องกันของบาระเริ่มมี รอยร้าว ปรากฏขึ้นราวกับใยแมงมุม พลังงานที่ใช้ในการป้องกันนั้นมหาศาลเกินกว่าที่บาระจะรับไหว

"ฉัน... ฉันพยายามเต็มที่แล้ว!" บาระกัดฟันพูด เธอรู้สึกได้ว่าพลังงานในร่างกายของเธอกำลังถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดจากการถูกพลังงานย้อนกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะฉีกขาด

เพล้ง!

โดมพลังงานสีม่วงใสของบาระแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมกับการโจมตีครั้งที่สองของขุนพลเงา แรงกระแทกที่เหลือพุ่งเข้าใส่บาระและเร็นอย่างรุนแรงจนพวกเขา กระเด็นลอยละลิ่ว ไปกระทบกับกำแพงหินขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังอย่างจัง

"อั้ก!" ทั้งสองร้องออกมาพร้อมกันด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของพวกเขาแน่นิ่งอยู่กับกำแพงหิน ก่อนจะร่วงลงสู่พื้นอย่างหมดสภาพ เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาจากมุมปากของเร็น ส่วนบาระ ใบหน้าของเธอขาวซีดจนน่ากลัว

บทที่ 3: แสงสุดท้ายในความมืดมิด

เร็นพยายามลุกขึ้นยืน เขาขยับแขนและขาอย่างยากลำบาก มีดอาคมในมือของเขาหลุดจากมือและตกลงไปในพงหญ้าที่อยู่ใกล้ ๆ เขารู้สึกเหมือนซี่โครงของตัวเองร้าว การโจมตีนั้นรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะรับไหว

"บาระ! เธอเป็นยังไงบ้าง!?" เร็นคลานเข้าไปหาบาระที่นอนนิ่งอยู่กับพื้น

บาระพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งของเธอ "เร็น... ฉัน... ฉันไม่ไหวแล้ว..." เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ขวดยันต์กักเก็บวิญญาณกลิ้งหลุดออกจากมือของเธอไปไกล

ขุนพลเงายืนตระหง่านอยู่เหนือพวกเขา มันมองดูเหยื่อของมันด้วยความดูถูก ดวงตาที่เปล่งประกายสีแดงก่ำนับสิบดวงจ้องมองลงมาที่พวกเขา ราวกับกำลังตัดสินใจว่าจะจบชีวิตพวกเขาด้วยวิธีใด

"จบสิ้นแล้ว... นักเรียนตัวน้อย..." เสียงของขุนพลเงาดังก้องในอากาศ มันไม่ใช่เสียงพูด แต่เป็นเสียงที่ส่งผ่านความคิดที่เต็มไปด้วยความมืดมิด

เร็นพยายามเอื้อมมือไปคว้ามีดอาคมของเขา แต่ก็เอื้อมไม่ถึง ขุนพลเงายกเท้าขนาดมหึมาขึ้น หมายจะเหยียบพวกเขาให้แหลกคาที

"ไม่นะ! ฉันจะไม่ยอมแพ้!" เร็นตะโกนอย่างสิ้นหวัง เขามองไปที่บาระที่หมดสติอยู่ข้าง ๆ และมองไปที่ขวดกักเก็บวิญญาณที่กลิ้งอยู่ห่างออกไป

จู่ ๆ ขณะที่เท้าของขุนพลเงากำลังจะเหยียบลงมา แสงสีเงินจ้าก็พลันพุ่งออกมาจาก มีดอาคม ที่ตกลงไปในพงหญ้า แสงนั้นสว่างวาบจนเร็นต้องหรี่ตา

ผ้ายันต์ผืนที่หนึ่ง... ถูกพันรอบด้ามมีดอาคมของเขา!

ผ้ายันต์ผืนนั้นเป็นสีขาวเก่าแก่ แต่มีอักขระสีแดงเข้มที่ส่องแสงระยิบระยับเมื่อถูกพลังงานมหาศาลของขุนพลเงาเข้าใกล้ มันไม่ได้ปรากฏขึ้นเอง แต่เป็นสิ่งที่ถูก ผนึก อยู่ในมีดอาคมมาตั้งแต่แรก!

เร็นสัมผัสได้ถึงพลังงานที่พุ่งเข้ามาในตัวเขาอย่างรุนแรง มันเป็นพลังงานแห่งการ ควบคุม และ ป้องกัน ที่แข็งแกร่งกว่าคาถาของบาระหลายเท่า

ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่งได้รับมาอย่างไม่คาดคิด เร็นรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มี และตัดสินใจทำสิ่งที่บ้าบิ่นที่สุดในชีวิต เขาไม่ลุกขึ้นยืน แต่กลับ พุ่งตัว เข้าหาเท้าของขุนพลเงาที่กำลังจะเหยียบลงมา!

"แกทำลายเราไม่ได้หรอก!" เร็นตะโกนเสียงดังก้องไปทั่วป่า

การเผชิญหน้าในครั้งนี้ทำให้บาระและเร็นตระหนักถึงความแข็งแกร่งของศัตรู และความสำคัญของการอยู่ด้วยกันอย่างแท้จริง การค้นพบผ้ายันต์ผืนแรกที่ถูกผนึกอยู่ในมีดอาคมของเร็นได้มอบพลังงานและโอกาสใหม่ให้พวกเขาในการเอาชนะขุนพลเงาตัวนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   เส้นทางที่บิดเบือน

    หลังจากที่เร็นช่วยบาระออกมาจากกับดักที่ปีกทิศใต้ได้สำเร็จ ทั้งคู่รีบออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ หอสังเกตการณ์ทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ซ่อนของผ้ายันต์ผืนสุดท้าย พวกเขาใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์เป็นเครื่องนำทาง"แผนที่บอกว่าเราต้องผ่านซากปรักหักพังเก่า ๆ ทางทิศใต้ไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง" บาระกล่าวขณะที่ใช้แท่นแก้วใส (กุญแจอาคม) ชี้ทิศทางเร็นพยักหน้า "ต้องระวังให้มาก บาระ พวกเงาปีศาจรู้แล้วว่าเรากำลังจะถึงจุดสุดท้ายของการรวบรวมผ้ายันต์ พวกมันจะส่งทุกอย่างที่มีมาขวางทางเราแน่"เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่บริเวณที่เป็นซากปรักหักพังที่มีกำแพงหินสูงใหญ่เรียงรายอยู่มากมาย ทันใดนั้น แสงรอบตัวก็พลันบิดเบือน พวกเขารู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว"เร็น! นี่มันไม่ใช่แค่ซากปรักหักพัง!" บาระอุทานด้วยความตื่นตระหนก "กำแพงมันเปลี่ยนทิศทาง! เราถูกดึงเข้ามาในอาณาเขตอาคม!"พวกเขาพบว่าตัวเองยืนอยู่กลาง เขาวงกตที่ไร้จุดสิ้นสุด ที่ทำจากกำแพงหินสีดำขัดเงาสูงเสียดฟ้า กำแพงเหล่านี้ไม่ได้อยู่นิ่ง แต่ เลื่อนและเปลี่ยนตำแหน่ง ได้เองตามความตั้งใจของพลังงานมืดมิด"เขาวงกต! นี่คือ เขาวงกตแห

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   การได้มาซึ่งผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต

    เร็นและบาระใช้ กุญแจอาคม ที่ได้มาจากบาลาซาร์ในการเปิดประตูมิติที่นำไปสู่ สวนต้องห้าม (The Forbidden Gardens) สวนแห่งนี้ไม่ได้มืดมิดเหมือนปราสาท แต่กลับสวยงามอย่างน่าขนลุก ทุกอย่างเป็นสีเขียวมรกตและมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมพวกเขาต้องฝ่าฟันกับ กับดักแห่งชีวิต ที่ซับซ้อน: พืชกินคน ที่มีพลังอาคม, ภูติพฤกษา ที่โจมตีด้วยภาพลวงตาแห่งความอุดมสมบูรณ์, และ ทางเดินที่บิดเบือน กาลเวลาในที่สุด พวกเขาก็มาถึงแท่นบูชาที่อยู่ใจกลางสวน ที่นั่น ผ้ายันต์ผืนที่ 4 (ผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต) เรืองแสงสีทองอร่ามอยู่"เราทำได้แล้วเร็น!" บาระเอื้อมมือไปเก็บผ้ายันต์ไว้ในทันที พลังงานฟื้นฟู ที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังแผ่ออกมาจากผ้ายันต์ผืนนั้น ทำให้ความอ่อนล้าของพวกเขาบรรเทาลงทันที"ผืนที่สี่แล้วบาระ" เร็นยิ้มอย่างโล่งอก "เหลืออีกแค่ผืนเดียวเท่านั้น... ผ้ายันต์แห่งการหยุดยั้ง!"บทที่ 2: กับดักมรณะและการถูกจับกุมพวกเขาใช้เวลาพักฟื้นเล็กน้อยในสวนต้องห้าม และใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์นำทาง พวกเขาต้องเดินทางผ่าน ปีกทางทิศใต้ของปราสาท เพื่อไปยังผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่เชื่อว่าถูกซ่อนอยู่ในหอสังเกตการณ์ทิศใต้เมื่อ

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   ของ10อย่าง

    เร็นและบาระปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอคอยหลักของปราสาทอย่างทุลักทุเล หลังจากเอาชนะผู้บัญชาการเงา 10 ตนมาได้ พวกเขาทั้งเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ที่นั่นเป็นห้องขนาดใหญ่ มี คริสตัลเงาสีดำ ขนาดมหึมาลอยอยู่กลางอากาศ มันคือแหล่งพลังงานหลักที่แผ่ความมืดมิดไปทั่วปราสาทเมื่อพวกเขาเตรียมตัวที่จะใช้ ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ ทำลายคริสตัล ทันใดนั้น แสงสีทองอร่าม ก็พลันสาดส่องลงมาจากเพดานผู้พิทักษ์ ตนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้น! เขาไม่ได้ดูเหมือนปีศาจเงาหรือภูตน้ำแข็ง แต่มีรูปลักษณ์ที่สง่างามราวกับ นักปราชญ์โบราณ ที่ล้อมรอบด้วยอักษรรูนสีทอง"จงหยุด ณ ที่แห่งนี้ ผู้ถูกเลือก" ผู้พิทักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจแต่แฝงไว้ด้วยความเมตตา "ข้าคือ 'บาลาซาร์' ผู้พิทักษ์แห่งความสมดุลและหอคอย! ข้ารู้ถึงเจตนาของพวกเจ้า... แต่การทำลายนั้นง่ายเกินไป""เราไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับท่าน บาลาซาร์" บาระกล่าวอย่างระมัดระวัง "เรามาเพื่อหา ผ้ายันต์ผืนที่ 4 และทำลายแหล่งพลังงานที่ชั่วร้ายนี้!"บาลาซาร์ยิ้มอย่างขมขื่น "ผ้ายันต์ผืนที่ 4 ไม่ได้อยู่ที่นี่... แต่มันถูกซ่อนอยู่ใน สวนต้องห้าม และมี กุญแจอาคม ที่จำเป็นในการเปิ

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   การเบี่ยงเบนเส้นทางและจุดมุ่งหมายใหม่

    เร็นและบาระไม่ได้มุ่งหน้าสู่ สวนต้องห้าม ทันทีตามที่มาวินสั่ง หลังจากเดินทางผ่านอุโมงค์ลับและออกมาสู่ทางเดินหลักของปราสาท บาระหยุดชะงัก"เร็น... ฉันคิดว่าเราไม่ควรไปสวนต้องห้ามตอนนี้" บาระกล่าวขณะที่มองไปยังยอด หอคอยหลัก ที่สูงเสียดฟ้าของปราสาทที่ปกคลุมด้วยเงามืด"ทำไมล่ะบาระ? มาวินสั่งให้เราไป..." เร็นถามด้วยความแปลกใจ"พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากหอคอยนั้น รุนแรงกว่าเดิมมาก" บาระอธิบาย "ฉันสัมผัสได้ว่าพวกมันกำลังใช้หอคอยนี้เป็น ศูนย์กลางพลัง ในการควบคุมปีศาจทั้งหมด! ถ้าเราไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4 ทันที โดยที่ปล่อยให้แหล่งพลังงานนี้ทำงานต่อไป... การต่อสู้ของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุด! เราต้องทำลายมันก่อน!"เร็นมองไปยังดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ในมือของเขา ดาบนั้นเรืองแสงสีม่วงอ่อน ๆ ราวกับตอบรับกับความมุ่งมั่นของบาระ"ถูกต้อง! เรามีอาวุธใหม่และทักษะใหม่ที่เพิ่งฝึกมา! เราจะทำลายแหล่งกำเนิดพลังงานนี้ก่อน แล้วค่อยไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4! ไปกันเถอะ... สู่หอคอย!"พวกเขาปีนขึ้นไปยังบันไดวนที่ทอดสู่ด้านบนของหอคอย แต่เมื่อพวกเขาเดินมาถึง ชั้นที่สาม ของหอคอย ทางเดินแคบ ๆ ก็พลันถูกสกัดกั้นด้วย ปีศาจเงา ถึง 10 ตน

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   คำสั่งจากมาวินและผู้บัญชาการที่รอดชีวิต

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากการลงอาคมดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เสร็จสิ้น มาวินได้เรียก จอมทัพเกรย์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระองค์ที่เหลือรอดเพียงไม่กี่คน และ อดีตองครักษ์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธมาเข้าพบ"จอมทัพเกรย์!" มาวินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ถูกสร้างขึ้นแล้ว! แต่ดาบที่ทรงพลังนี้จะเป็นเพียงเหล็กไร้ค่า หากผู้ใช้ไม่เชี่ยวชาญ! เจ้าจงใช้เวลา 5 วันเต็ม ในการฝึกฝนเร็นและบาระให้สามารถใช้ดาบนี้ได้อย่างคล่องแคล่วและรู้ถึงขีดจำกัดสูงสุดของมัน!"จอมทัพเกรย์เป็นชายร่างกำยำ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการสู้รบ แต่ดวงตาของเขายังคงส่องประกายด้วยความภักดีและความมุ่งมั่น เขาคุกเข่าลงต่อหน้ามาวิน"พะยะค่ะ ฝ่าบาท! ข้าน้อยจะทำการฝึกฝนพวกเขาอย่างเข้มงวดที่สุด! พวกเขาจะพร้อมออกรบภายใน 5 วัน!"การฝึกฝนถูกจัดขึ้นในบริเวณที่กว้างที่สุดของห้องโถงแห่งพันธะ ที่นี่กลายเป็น สนามฝึกซ้อมชั่วคราว ที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลและความมุ่งมั่นบทที่ 2: การฝึกฝน 5 วันกับดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เป้าหมายหลักของการฝึกฝน 5 วันนี้คือการทำให้เร็นสามารถใช้ดาบได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่า

  • 5/B ปราสาทต้องคำสาป   คำมั่นสัญญาของช่างตีเหล็ก

    มาวิน, เร็น, และบาระกลับมาถึงห้องโถงแห่งพันธะด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความสำเร็จ พวกเขามอบ แร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน ที่มีประกายคล้ายกระจกให้แก่ไอรอนฮาร์ท ช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่ไอรอนฮาร์ทรับแร่เหล็กนั้นไว้ด้วยความเคารพ เขาใช้มือที่หยาบกร้านสัมผัสผิวของแร่เหล็กราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด"แร่นี้... เป็นเพียงชิ้นส่วนสุดท้ายที่ขาดหายไป" ไอรอนฮาร์ทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "ข้าขอรับรองต่อหน้าเจ้าชายมาวินและผู้ถูกเลือกทั้งสอง... ข้าจะใช้เวลา 3 วันเต็มในการตีเหล็กให้ได้รูปทรง และอีก 1 วันเต็มในการลงอาคมแห่งพันธะสมบูรณ์!"มาวินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ข้าฝากความหวังของอาณาจักรไว้ที่ท่านไอรอนฮาร์ท!""แล้วเราจะทำยังไงในช่วงสี่วันนี้คะ? เราควรไปหาผ้ายันต์ผืนต่อไปเลยไหม?" บาระถามด้วยความกระตือรือร้นมาวินส่ายศีรษะ "ไม่ได้บาระ... การบุกเข้าไปใน สวนต้องห้าม โดยไม่มีอาวุธที่สามารถผนึกพลังมืดมิดได้สมบูรณ์เป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป"เอเลน่า ผู้อาวุโสแห่งอาคมก้าวเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "พวกเจ้ายังไม่ได้ใช้เวลาที่นี่อย่างคุ้มค่าเลย... พวกเจ้าอาจได้อาวุธ แต่ คาถาอาค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status