แดเรียส เด็กหนุ่มธรรมดาที่แบกรับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ กับสงครามที่มีทั้ง อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต เป็นเดิมพันของเรื่องราวนี้
Lihat lebih banyak"ในค่ำคืนหนึ่ง ที่หมอกเย็นกัดผิวและเงามืดกอดกุมมหานคร...
ลมหายใจของรัตติกาลพัดผ่านม่านหมอกเหน็บหนาว แดเรียสสะดุ้งตื่นจากความฝันอันลึกล้ำ — ฝันที่ดั่งเปลวเพลิงเผาใจเขาจนแทบมอดไหม้ ในฝันนั้น เมืองทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักพัง เงาดำปกคลุมฟ้า อีกาสีดำตัวมหึมาเกาะอยู่บนตึกสูงสุดของมหานคร มันกรีดร้องก้องฟ้า เหมือนประกาศจุดจบของมนุษยชาติ เสียงระเบิด เสียงร้องไห้ และกลิ่นเลือดคละคลุ้ง ทุกอย่างย่อยยับป่นปี้ กลางเมืองย่อยยับนั้น ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ เงาของเขาราวปีศาจจากบาดาล ปีกสีดำปานค้างคาว ปกคลุมด้วยขนนกกา สายตาเย็นชาไร้ความปรานี มองตรงมาที่เขา — แดเรียส เขาตื่นขึ้นมา ใจเต้นโครมคราม เด็กหนุ่มคนหนึ่งสะดุ้งตื่นจากฝันที่คล้ายภาพลางร้าย เขาหอบหายใจ ปวดหัวอย่างรุนแรง "อีกแล้ว... ฝันแบบเดิม... เมืองพัง เงาดำ... แล้วก็... มัน..." ในเช้าวันนั้น แดเรียสนั่งมองออกนอกหน้าต่างรถแท็กซี่ไปยังถนนกรุงเทพที่วุ่นวาย เขามุ่งหน้าไปโรงพยาบาลจิตเวชที่เขาไปทุกหกเดือน เสียงเพลง HipHop ดังคลอเบาๆ ผ่านหูฟังข้างหนึ่ง เพลงที่เขาชอบมัน เหมือนได้ฟังเสียงจากชีวิตที่บอบช้ำเหมือนเขา "...ก็แค่ฝัน... แต่ทำไมรู้สึกเหมือนเคยเกิดขึ้นจริง?" ตั้งแต่แม่ของเขา — อลิตา — เสียไปตอนเขายังเล็ก เขาก็เริ่มมีอาการ “แปลกประหลาด” เห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ได้ยินเสียงจากความว่างเปล่า เห็นชายผมดำสลับขาวในชุดโทรมๆ ชอบหัวเราะไปมา เป็นเพียงเพื่อนในจินตนาการเท่านั้น เขาถูกล้อเลียน โดนรังแก สังคมตีตราว่าเป็นคนเพี้ยน มีเพียงอีธาน ชายผู้ที่เป็นพ่อ คอยรับฟังเขาเสมอ แม้เขาจะไม่รู้ว่าอีธานมีความลับบางอย่าง แดเรียสคุยกับหมอ หมอ: "สวัสดีแดเรียส วันนี้รู้สึกยังไงบ้าง?" แดเรียส "ก็...เหมือนเดิมครับ ฝันแปลกๆ แล้วก็เสียงในหัว..." หมอให้เขารับยาตามปกติ จนแดเรียสเดินเหม่อบังเอิญไปเดินชนกับหญิงสาวผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เดินอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก เขาผงะพร้อมพูดว่า ขอโทษครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? หญิงสาวหันมาด้วยหน้าตาที่ซูบผอมพร้อมเอ่ยประโยคสั้นๆก่อนเดินจากไปว่า ทุกคนก็หิวเหมือนกัน ใช่หรือเปล่า? หลังการพบแพทย์ไม่นาน เสียงโทรศัพท์ของแดเรียสดังขึ้น “รีบกลับบ้าน... ด่วนเลย!” เสียงอีธานสั่นเครือ แดเรียสนั่งรถบ้าง วิ่งบ้าง ฝ่าความวุ่นวายในเมืองที่ผู้คนแตกตื่น จราจรติดขัด เกิดอุบัติเหตุมากมาย เสียงไซเรน เสียงกรีดร้อง รูมิติขนาดใหญ่ใจกลางเมือง พวกเงาดำ พวกสัตว์นรก โผล่มากันให้ว่อนจากทั่วสารทิศทุกทิศทาง เมื่อมาถึงซอยบ้าน กลิ่นไหม้ กลิ่นโลหะคละคลุ้งรุนแรงกระแทกหน้า เขาเห็นควันลอยขึ้นจากบ้านของตน เสียงคำรามจากเงาดำในซอยแคบ เงานั้นไม่ใช่มนุษย์ — มันคือสัตว์นรกจากฝันนั้น! สัตว์ประหลาดมีปีกขนดำเหมือนค้างคาว กรงเล็บแหลมคมดั่งใบมีด มันกรีดร้องเหมือนเสียงนรก ทันใดนั้น หญิงสาวผมยาวสีแดงเพลิง กระโจนเข้าปะทะกับมันพร้อมชายสวมเสื้อคลุมเกราะเงิน ผู้มีปีกแห่งแสงเรืองรอง “แดเรียส ถอยไป!” หญิงสาวตะโกน ก่อนฟาดดาบสั้นคู่พลังเวทใส่สัตว์ร้าย แดเรียสตะโกนถาม พวกคุณเป็นใคร? หญิงสาวแนะนำตัวว่า เธอคือ เจซซี่ หัวหน้าคณะปฏิวัติ และข้างๆคือ ราฟาเอล อดีตองครักษ์แห่งสวรรค์ การต่อสู้ชุลมุน แดเรียสเห็นอีธานผู้เป็นพ่อกำลังจะโดนทำร้าย ภาพในหัวที่เขาเห็นแม่โดนรถบรรทุกชนตายต่อหน้าต่อตามันย้อนเข้ามาในหัวเขา แต่ตัวแดเรียสก็โดนแรงของสัตว์เงาดำยักษ์กระแทกกระเด็นจนไปนอนกองอยู่บนพื้น เขาแน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง — ก่อนที่อุณหภูมิพลังในกายเริ่มร้อน ความร้อนแผดเผาทุกๆอณูในรูขุมขนแม้กระทั่งเส้นเลือด ไฟสีแดงผุดขึ้นจากผิวหนัง ลามไปรอบตัว ดวงตาเปล่งแสงสีเลือดแดงฉาน แดเรียสยืนขึ้น คำรามสาดพลังอย่างบ้าคลั่งแผดเผากลับสู่สัตว์นรกนั้นอย่างไม่รู้ตัว ไฟแรก ได้ก่อตัวถือกำเนิดตื่นขึ้นแล้ว ณ ในอีกสถานที่ ที่ความมืดมิดของห้องหนึ่ง ชายผมขาวสลับดำ ตาสีฟ้า เย็นเฉียบราวน้ำแข็ง กำลังมองภาพของแดเรียสตรงขอบหน้าต่าง “เขาตื่นแล้ว...” ชายปริศนาเอ่ย พลันจางหายลับไปในเงาเสียงของฝนตกกระทบหลังคาเก่า ๆ ดังก้องอยู่ในหูของแดเรียส ขณะที่เขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างโรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง — สถานที่ที่เขาและราฟาเอลใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมลับ ๆ หลังเหตุการณ์ปะทะกับอสูรก่อนหน้านี้ โลกภายนอกเย็นเยียบ ราวกับสะท้อนความรู้สึกในใจเขา "อีกครั้ง" เสียงราฟาเอลดังก้องในความทรงจำ — เสียงที่ทั้งเข้มงวดและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน ราวกับถูกพัดพา แดเรียสจำได้ว่าเมื่อหลายวันก่อน — หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้ครั้งล่าสุด ราฟาเอลไม่ได้เลือกพาเขาไปหาหมอธรรมดา หากแต่เลือกสอนบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า: การ "เยียวยาตนเอง" แฟลชแบ็ค – โรงพยาบาลร้าง, กลางคืน "หลับตา" ราฟาเอลสั่งเบา ๆ ในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์รำไร "ฟังเสียงเลือดของตัวเองให้ดี" แดเรียสกำหมัดแน่น ร่างกายเขาสั่นด้วยพิษไข้และบาดแผลที่ไม่หายซักที ความเจ็บแสบแล่นทั่วร่าง ทว่าเขาก็ทำตาม — หลับตาลง กัดฟันกรอด ราฟาเอลนั่งคุกเข่าข้าง ๆ วางมือเบา ๆ บนบ่าของเด็กหนุ่ม
ในลานฝึกกว้างใหญ่ เนทีรี่ยืนกอดอกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “รู้ไหมว่าพ่อแกมีปีก?” เธอเอ่ยขึ้นลอย ๆ ก่อนที่แดเรียสจะตอบอะไร เนทีรี่ก็จับแขนเขาแล้วพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า“อะไรวะ!? เนทีรี่! ปล่อย!”“อยากบินไหม?” เธอหัวเราะแล้วปล่อยเขาดิ่งลงมา แดเรียสร้องลั่น ลมปะทะใบหน้า ร่างของเขาร่วงผ่านก้อนเมฆลงมาสู่แม่น้ำข้างล่าง...ก่อนจะถูกโฉบขึ้นอีกครั้ง“นี่มันทรมานกันชัด ๆ!”“ไม่หรอก! แกบินได้ แค่ยังไม่รู้ตัว!”การฝึกวันแรกเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงหัวเราะของเนทีรี่เพียงแค่คนเดียว แต่ในขณะเดียวกันร่างกายของแดเรียสก็ถูกบังคับให้แสดงศักยภาพสูงสุด นี่คือการเรียกสายเลือดปีศาจที่อยู่ในตัวเขาให้ตื่นขึ้นเสียงเหล็กกระทบดังก้องกลางลานฝึกที่เปียกชื้นจากฝนตกเมื่อตอนเย็น แดเรียสหอบหายใจหนัก มือทั้งสองกำดาบไม้จนสั่น ก่อนจะพุ่งเข้าหาเป้าหมายตรงหน้าอีกครั้งด้วยแรงฮึดสุดท้ายเพี๊ยะ!ด้ามดาบของเจซซี่บิดรับก่อนพลิกตีกลับอย่างแม่นยำ ร่างของแดเรียสถูกสกัดลงพื้น เสียงล้มกระแทกดินดังสนั่น เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บ แต่ก่อนจะทันได้ตั้งตัว เสียงเย็นเยียบก็ดังขึ้น
เสียงลมหายใจเงียบงันของกลางคืนคล้ายจะเลือนหายไปในความสงัด เมื่อ “ประตูมิติ” กรีดผ่านผืนอากาศเบื้องหน้าภูเขาสูงชันในป่าทึบ เสียงกรีดร้องของพลังลี้ลับบิดเบี้ยวแสงรอบข้าง บิดผันเป็นรอยแยกสีฟ้าอมม่วงเรืองแสง ลานหินวงกลมกลางป่าซึ่งไม่ปรากฏในแผนที่ใดบนโลกมนุษย์—ที่ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ระหว่างรอยต่อแห่งกาลเวลาจากเงาไม้ทึบ ชายชราผู้สวมผ้าฝ้ายสีดินเก่าขาด เดินออกมาช้า ๆ ไม้เท้าไม้ไผ่ในมือข้างหนึ่งกดลงพื้นเป็นจังหวะ ลมหายใจของเขาหนักแน่นแต่เนิบช้า ลุงจันทร์—ผู้เฝ้าประตู ด่านเชื่อมโลกทั้งสาม ผู้เคยหายตัวไปนานกว่าทศวรรษ ปรากฏตัวอีกครั้งเขาเดินตรงไปยังใจกลางลานหิน ที่ซึ่งมีบุรุษคนหนึ่งนั่งหลับตานิ่ง—อีธาน พ่อของแดเรียส เงาสะท้อนในดวงตาลุงจันทร์บ่งบอกถึงความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความเมตตา ความเศร้า และความรู้สึกผิดบางอย่างที่ฝังแน่นในใจมานาน“โลกกำลังจะเปลี่ยน...” ลุงจันทร์พูดเบา ๆ ราวกับสายลมพัดพาเสียงผ่าน “เด็กคนนั้น...จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”แสงจันทร์ส่องลอดร่มไม้ ฉาบร่างอีธานไว้ในความสงบ เขาลืมตาช้า ๆ “ผมจำได้ ว่าท่านเคยเตือนผมเรื่องนี้...ตั้งแต่วันแรก”
หลังการต่อสู้ เจซซี่กับราฟาเอลพาแดเรียสกับอีธานหนีไปยังฐานลับแถวแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นั่น แดเรียสได้เรียนรู้เรื่อง “กลุ่มปฏิวัติ” ซึ่งต่อต้านสิ่งมีชีวิตจากเงามืดที่กำลังรุกรานโลก และพบเจอกับคนอื่นๆ ทั้งปกติและทั้งรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดเจซซี่กล่าวว่า“เรารู้ว่ามันคือใคร... เราเรียกมันว่า ‘ผู้ร่วงหล่น’ พร้อมเปิดภาพชายมีปีกขนดำสนิทเหมือนในฝัน — นามนั้น คืออากัส ผู้ปกครองของเหล่าเดอะฟอล“มันมี ‘ดิอาย’ หนึ่งในอาวุธโบราณ...” ราฟาเอลเสริมหลังเรื่องราวที่ยังคงวุ่นวาย อีธานกับแดเรียส พ่อลูกนั่งคุยกัน แดเรียสร้องไห้พร้อมขอโทษผู้เป็นพ่อที่เขาเป็นสัตว์ประหลาด แต่อีธานก็ยิ้มแล้วกอดลูกพร้อมบอกว่าลูกไม่ใช่สัตว์ประหลาด ลูกคือคนที่พิเศษต่างหากจากนั้นเจซซี่ก็พาแดเรียสมารู้จักคนอื่นๆในกลุ่มเนทีรี่ ราชินีแห่งโลกมังกร ผมขาว ผิวขาว นิสัยใจดีนิว มาจากเผ่าพันธุ์ไททัน เป็นแค่เด็กผู้หญิงที่ร่าเริงกาวาบ้า ครึ่งเผ่าพันธุ์เทวรูปครึ่งเผ่าพันธุ์ทะเล ตัวสูงใหญ่นิสัยใจดี รักพวกพ้อง มีเคราเป็นปลาหมึก
"ในค่ำคืนหนึ่ง ที่หมอกเย็นกัดผิวและเงามืดกอดกุมมหานคร... ลมหายใจของรัตติกาลพัดผ่านม่านหมอกเหน็บหนาว แดเรียสสะดุ้งตื่นจากความฝันอันลึกล้ำ — ฝันที่ดั่งเปลวเพลิงเผาใจเขาจนแทบมอดไหม้ ในฝันนั้น เมืองทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักพัง เงาดำปกคลุมฟ้า อีกาสีดำตัวมหึมาเกาะอยู่บนตึกสูงสุดของมหานคร มันกรีดร้องก้องฟ้า เหมือนประกาศจุดจบของมนุษยชาติ เสียงระเบิด เสียงร้องไห้ และกลิ่นเลือดคละคลุ้ง ทุกอย่างย่อยยับป่นปี้ กลางเมืองย่อยยับนั้น ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ เงาของเขาราวปีศาจจากบาดาล ปีกสีดำปานค้างคาว ปกคลุมด้วยขนนกกา สายตาเย็นชาไร้ความปรานี มองตรงมาที่เขา — แดเรียส เขาตื่นขึ้นมา ใจเต้นโครมคราม เด็กหนุ่มคนหนึ่งสะดุ้งตื่นจากฝันที่คล้ายภาพลางร้าย เขาหอบหายใจ ปวดหัวอย่างรุนแรง "อีกแล้ว... ฝันแบบเดิม... เมืองพัง เงาดำ... แล้วก็... มัน..." ในเช้าวันนั้น แดเรียสนั่งมองออกนอกหน้าต่างรถแท็กซี่ไปยังถนนกรุงเทพที่วุ่นวาย เขามุ่งหน้าไปโรงพยาบาลจิตเวชที่เ
Komen