เข้าสู่ระบบเร็นและบาระใช้เวลาเกือบทั้งคืนในการเดินทางกลับสู่ ห้องโถงแห่งพันธะ (The Pact Hall) โดยใช้เข็มทิศนำทาง เมื่อพวกเขาผ่านประตูโลหะลับเข้ามา ร่างกายของพวกเขาก็ทรุดลงแทบจะทันทีด้วยความอ่อนล้าจากการต่อสู้กับ 8 อสุรกายเงายักษ์
เสียงพูดคุยในห้องโถงพลันเงียบลง ผู้รอดชีวิตทุกคนมองไปยังทั้งสองด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของพวกเขาที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและเหนื่อยอ่อนถึงขีดสุด มาวินรีบวิ่งเข้ามาหาพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเจ้าถึงกลับมาในสภาพนี้? การต่อสู้กับผู้พิทักษ์ยากลำบากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?" "ไม่ใช่ผู้พิทักษ์... ท่านมาวิน" บาระกล่าวเสียงแผ่วเบา ขณะที่เร็นถูกผู้รอดชีวิตช่วยประคองให้ไปนั่งพัก "มี... มีเงาปีศาจยักษ์ 8 ตัวจู่โจมพวกเราระหว่างทางกลับ" เร็นเล่าด้วยน้ำเสียงที่หอบเหนื่อย "พวกมันมีความสามารถที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และพวกมัน... รู้เส้นทาง การกลับของเรา!" ทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้ ห้องโถงก็เต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบและความตื่นตระหนก ผู้รอดชีวิตบางคนเริ่มมองหน้ากันด้วยความไม่ไว้วางใจ มาวินกำมือแน่นด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง เขาทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ พวกเขา "แปดตัว? พวกมันไม่เคยกล้าส่งกองกำลังขนาดนี้มาจู่โจมผู้ถูกเลือกเลยนี่นา... หรือว่ามันกำลังเริ่ม โจมตีตอบโต้ อย่างจริงจังแล้ว..." เอเลน่า ผู้อาวุโสเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงชราอีกสองสามคน "เงียบ! ทุกคน! ปล่อยให้ผู้ถูกเลือกพักผ่อนก่อน!" เอเลน่าและผู้มีอาคมการรักษารีบ ร่ายคาถาฟื้นฟูพื้นฐาน ใส่เร็นและบาระ พลังงานอาคมสีอ่อน ๆ ค่อย ๆ ซึมซับเข้าสู่ร่างกายของพวกเขา ทำให้ความเจ็บปวดและความอ่อนล้าบรรเทาลงบ้าง หลังจากที่รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย บาระก็นำ ผ้ายันต์ผืนที่ 3 (การผนึกวิญญาณ) ออกมา "เราได้ผ้ายันต์ผืนที่ 3 มาแล้วค่ะ... มันอยู่ที่ห้องสมุดที่ถูกแช่แข็ง... และมันถูกเฝ้าโดยผู้พิทักษ์ที่ชื่อโครนอส" บาระเล่าเรื่องบททดสอบ 10 ข้ออย่างละเอียด เร็นเสริมต่อด้วยใบหน้าที่จริงจัง "และโครนอสบอกว่า... ไอโกะกับโช ไม่ได้อยู่ที่นี่... พวกเขาถูก ผนึกไว้ในกาลเวลา ในห้องสมุดนั้นต่างหาก! ท่านมาวิน... นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?" มาวินเงียบไปชั่วขณะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเจ็บปวด เขามองไปยังผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว "ข้าขอโทษที่ปิดบังเรื่องนี้" มาวินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "ข้าจำเป็นต้องทำเช่นนั้น... การถูกผนึกในกาลเวลาของโครนอส เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้แน่ใจว่าพลังงานมืดมิดจะไม่สามารถ กลืนกิน พวกเขาทั้งหมดได้... พวกเขาปลอดภัยดีตราบใดที่ผ้ายันต์ผืนที่ 3 อยู่ในมือของพวกเจ้า" บทที่ 2: การเสริมกำลังและการตามล่าแร่ในตำนาน "ไม่ได้การแล้ว! ถ้าพวกเงาปีศาจเริ่มส่งกองกำลังระดับนี้มาจู่โจม... การผจญภัยที่เหลือของพวกเจ้าจะกลายเป็นการฆ่าตัวตาย" มาวินลุกขึ้นยืนด้วยความเด็ดขาด "เร็นและบาระมีทักษะและอาคมที่ยอดเยี่ยมแล้ว แต่พวกเขาขาด อาวุธที่สามารถผนึกพลังงานมืดมิด ได้อย่างถาวร" มาวินหันไปทางมุมห้องที่มืดมิด ที่นั่นมีชายชราตัวใหญ่ที่สวมผ้ากันเปื้อนหนังและมีร่างกายที่กำยำนั่งอยู่ "ท่านช่างตีเหล็ก ไอรอนฮาร์ท! ท่านสามารถสร้างอาวุธที่แข็งแกร่งกว่ามีดอาคมของเร็นได้หรือไม่? อาวุธที่สามารถทนทานต่อพลังของผ้ายันต์ 3 ผืนได้?" ไอรอนฮาร์ท ลุกขึ้นยืน เขามีเคราสีเทาหนาและดวงตาที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ "ฝ่าบาท... ข้าสามารถตี 'ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์' ให้ผู้ถูกเลือกได้! มันเป็นดาบที่ข้าได้ออกแบบไว้เมื่อนานมาแล้ว เพื่อใช้รวมพลังอาคมทั้งหมด!" ไอรอนฮาร์ทหยุดไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาแสดงความกังวล **"แต่... แร่ที่ข้าต้องการที่สุด... 'แร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน (Shadow-Reflect Iron Ore)' ที่สามารถสะท้อนพลังของเงาปีศาจได้... มันเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น! พวกมันถูกเก็บไว้ในโกดังลับที่ ด้านหลังของปราสาท ที่พวกมันเข้ายึดครอง" "ใครจะอาสาไปนำแร่นั้นกลับมา?" มาวินถามอย่างกระตือรือร้น "ผมเองครับ!" เร็นรีบตอบทันที "และฉันจะไปกับเร็นค่ะ" บาระเสริมด้วยความมุ่งมั่น มาวินมองไปยังทั้งสองด้วยความชื่นชม "ดีมาก! ข้าจะไปกับพวกเจ้าเอง! เราจะใช้เส้นทางลับที่ไม่มีใครรู้เพื่อไปถึงด้านหลังปราสาท!" บทที่ 3: เส้นทางใต้ซากปรักหักพังและการต่อสู้กับผู้เฝ้าแร่ มาวิน เร็น และบาระ เดินทางผ่านอุโมงค์ลับที่อยู่ใต้ห้องโถงแห่งพันธะ ซึ่งเป็นทางเดินที่แคบและสกปรก หลังจากเดินมาได้เกือบชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงบริเวณที่ดูเหมือน ห้องเก็บของเก่า ที่พังทลาย ซึ่งอยู่ใกล้กับฐานของกำแพงปราสาทด้านหลัง มาวินชี้ไปยังกองแร่สีเทาเข้มที่ส่องประกายคล้ายกระจกอยู่กลางห้อง "นั่นคือ แร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน! พวกมันอาจไม่รู้คุณค่าของมัน แต่พวกมันรู้ว่ามีพลังงานบางอย่างอยู่ตรงนั้น" และตามที่คาดไว้ ทันทีที่พวกเขาเข้าใกล้กองแร่ เงาปีศาจยักษ์ 5 ตัว ก็พลันผุดขึ้นมาจากเงามืดรอบกองแร่ พวกมันแต่ละตัวมีรูปร่างและพลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และดูเหมือนว่าพวกมันเป็น ผู้เฝ้าระดับสูง ที่ไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อจู่โจม แต่เพื่อ ป้องกัน โดยเฉพาะ 1. ปีศาจแห่งความเฉื่อยชาทางกาย (The Physical Torpor) รูปร่างและลักษณะ: ยักษ์เงาที่ดูเหมือน หมอกควันสีเทาหนา มันเคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็ว ความสามารถ: มันสามารถทำให้ กล้ามเนื้อ ของเหยื่อเกิดอาการ ชาและหยุดการตอบสนอง ได้ชั่วขณะเมื่อเข้าใกล้ * ทันทีที่เร็นพุ่งเข้าใส่ แขนของเขาพลันชา ทำให้เขาไม่สามารถกำมีดได้แน่น * บทพูด (เร็น): "มันโจมตีกล้ามเนื้อ! ฉันเคลื่อนไหวไม่ได้!" * บาระ ใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 2 (การควบคุมสภาพอากาศ) เพื่อ สลายหมอกควัน รอบตัวยักษ์ * มาวิน ใช้ ดาบสีฟ้าอ่อน ของเขาฟันเข้าใส่ยักษ์หมอกอย่างรวดเร็ว "พลังของข้าอยู่ที่จิตวิญญาณ ไม่ใช่กล้ามเนื้อ! สลายไป!" มาวินใช้ทักษะดาบที่ว่องไวกว่าเร็นในการทำลายปีศาจหมอกควัน 2. ปีศาจแห่งการสร้างเกราะ (The Barrier Sentinel) รูปร่างและลักษณะ: ปีศาจที่มีรูปร่างคล้าย โล่ขนาดใหญ่ ที่มีแขนขา ร่างกายของมันเรืองแสงสีฟ้าเข้ม ความสามารถ: มันสามารถ สร้างเกราะป้องกันอาคม รอบตัวเองและปีศาจตัวอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว * บาระ ร่ายคาถาโจมตีใส่ปีศาจที่เหลือ แต่คาถาของเธอพลัน กระดอน ออกมาเมื่อถูกเกราะป้องกัน * บทพูด (บาระ): "มันสร้างเกราะป้องกันอาคม! เราใช้คาถาไม่ได้!" * เร็น นึกถึงการฝึกฝน การโจมตีทางจิต ที่ยากที่สุด! * บทพูด (เร็น): "ถ้าโจมตีภายนอกไม่ได้... ก็โจมตีจากภายใน!" เร็นใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 1 (การปกป้อง) สร้าง คลื่นพลังงาน ที่เล็กที่สุดและแหลมคมที่สุด แทรกซึม ผ่านช่องว่างของเกราะ และทำลายแกนกลางพลังงานของปีศาจเกราะในที่สุด 3. ปีศาจแห่งแรงดึงดูด (The Gravity Abductor) รูปร่างและลักษณะ: ยักษ์เงาที่ดูเหมือน วงแหวนเงาสีดำ ที่หมุนวนอยู่กลางอากาศ ความสามารถ: มันสามารถ ดึงดูด ทุกสิ่งที่เข้าใกล้ด้วยแรงดึงดูดที่รุนแรง และเมื่อดึงเข้าใกล้ก็จะปล่อย คลื่นทำลายล้าง ออกมา * วงแหวนเงาเริ่มดึง เร็น และ มาวิน เข้าไปอย่างรวดเร็ว * บทพูด (มาวิน): "อย่าให้มันดึงเจ้าเข้าไปใกล้! พลังของมันจะบดขยี้เจ้า!" * บาระ ใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 2 (การควบคุมสภาพอากาศ) พลิกแพลงการใช้งาน * บทพูด (บาระ): "ผ้ายันต์วารี! จงสร้าง แรงผลักดันอากาศต้าน!" บาระร่ายคาถาที่สร้าง ลมพายุหมุน ที่มีแรงต้านมหาศาล เพื่อผลักดันเร็นและมาวินให้ออกห่างจากวงแหวน * เมื่อวงแหวนถูกต้านด้วยแรงลม มาวิน กระโดดเข้าใส่ และใช้ดาบของเขา ฟัน เข้าที่ใจกลางของวงแหวนเงาอย่างรุนแรง 4. ปีศาจแห่งความหวาดกลัว (The Fear Inducer) รูปร่างและลักษณะ: ปีศาจที่มีรูปร่างคล้าย นกฮูกยักษ์ ที่มีขนสีดำสนิท ดวงตาของมันส่องแสงสีเหลืองอ่อน ความสามารถ: มันจ้องมองเหยื่อและทำให้เหยื่อเห็น สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุด จนไม่สามารถขยับได้ * เร็น เห็นภาพตัวเองล้มเหลวในการปกป้องบาระ และบาระตายต่อหน้าเขาจนเขาหยุดนิ่ง * บาระ เห็นภาพที่เธอสูญเสียพลังอาคมทั้งหมดและไม่สามารถร่ายคาถาได้อีกต่อไปจนเธอทรุดตัวลง * มาวิน ที่ไม่ได้ถูกโจมตีทางจิตใจจากปีศาจตัวนี้ เข้าใจถึงปัญหาทันที * บทพูด (มาวิน): "มันโจมตีจิตใจ! ผ้ายันต์ผนึกวิญญาณ! บาระ! ใช้มัน!" * บาระ รวบรวมสติทั้งหมดที่เหลืออยู่ เธอใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 3 ร่าย คาถาผนึก ใส่ ดวงตา ของนกฮูกยักษ์ * ดวงตาของนกฮูกพลันถูก ผนึกด้วยพลังงานสีเขียว ทำให้มันไม่สามารถฉายภาพความกลัวได้อีก * เร็น ที่หลุดพ้นจากความกลัว พุ่งเข้าไปและใช้มีดอาคม แทงเข้าที่หัวใจ ของนกฮูกยักษ์อย่างเด็ดขาด 5. ปีศาจแห่งการเลียนแบบอาวุธ (The Weapon Mimic) รูปร่างและลักษณะ: ปีศาจตัวสุดท้ายมีรูปร่างเหมือน กองอาวุธเก่า ๆ ที่มารวมกันเป็นรูปร่างมนุษย์ที่สูงใหญ่ ความสามารถ: มันสามารถ เลียนแบบอาวุธ ที่ถูกใช้ในการโจมตีมัน และสร้างอาวุธที่เหมือนกันเพื่อโต้ตอบ * เร็น ใช้มีดอาคมแทงใส่ มันก็สร้าง มีดอาคมปลอม ขึ้นมา * มาวิน ใช้ดาบฟันใส่ มันก็สร้าง ดาบสีฟ้าปลอม ขึ้นมา * บาระ โจมตีด้วยคาถา มันก็สร้าง ลูกพลังงานอาคมปลอม ขึ้นมา * บทพูด (มาวิน): "มันเลียนแบบอาวุธ! เราใช้พลังโจมตีไม่ได้!" * บทพูด (เร็น): "เราต้องใช้ สิ่งที่เราไม่ได้เป็นอาวุธ! บาระ! แร่!" * บาระ เข้าใจแผนทันที เธอใช้ผ้ายันต์ผืนที่ 2 เพื่อสร้าง กระแสลมพายุ ขนาดใหญ่เพื่อผลักดันปีศาจ * ในขณะที่ปีศาจกำลังวุ่นวายกับการต้านทานลม เร็น และ มาวิน กระโดดเข้าใส่ และใช้ ก้อนแร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน ที่พวกเขาต้องมาเอามา ทุบเข้าที่ส่วนหัว ของปีศาจพร้อมกัน * แร่เหล็ก ที่ไม่ใช่ดาบหรือมีดอาคม ทำให้ปีศาจเลียนแบบเกิดความสับสน และพลังสะท้อนของแร่ก็ ทำลายการรวมร่าง ของมันจนสิ้นซาก! บทที่ 4: ความหวังใหม่และอาวุธแห่งพันธะ เร็น บาระ และมาวินยืนหอบหายใจอยู่ท่ามกลางซากของปีศาจทั้งห้า พวกเขาสามารถเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้ด้วยการทำงานเป็นทีมและไหวพริบอย่างแท้จริง มาวินมองไปยังกองแร่เหล็กแห่งเงาสะท้อนที่ตอนนี้อยู่ในมือของเขา "พวกเจ้าทำได้ยอดเยี่ยมมาก! นี่คือการพิสูจน์แล้วว่าการตัดสินใจให้พวกเจ้าไปต่อสู้ด้วยตัวคนเดียวคือความเสี่ยงที่มากเกินไป! เราต้องทำงานเป็นทีม!" บาระรีบเก็บแร่เหล็กที่พวกเขาใช้โจมตีกลับมาอย่างระมัดระวัง "ตอนนี้เรากลับไปหาไอรอนฮาร์ทเถอะค่ะ" บาระพูดด้วยความหวัง "เมื่อเรามี ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ แล้ว... เราก็จะพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับผ้ายันต์ผืนต่อไป... ผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต ที่สวนต้องห้ามค่ะ!" เร็นมองไปที่มาวินและบาระด้วยความมั่นใจ "เราจะเตรียมพร้อมให้สมบูรณ์ที่สุด และเราจะไปช่วยไอโกะกับโช!"หลังจากที่เร็นช่วยบาระออกมาจากกับดักที่ปีกทิศใต้ได้สำเร็จ ทั้งคู่รีบออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ หอสังเกตการณ์ทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ซ่อนของผ้ายันต์ผืนสุดท้าย พวกเขาใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์เป็นเครื่องนำทาง"แผนที่บอกว่าเราต้องผ่านซากปรักหักพังเก่า ๆ ทางทิศใต้ไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง" บาระกล่าวขณะที่ใช้แท่นแก้วใส (กุญแจอาคม) ชี้ทิศทางเร็นพยักหน้า "ต้องระวังให้มาก บาระ พวกเงาปีศาจรู้แล้วว่าเรากำลังจะถึงจุดสุดท้ายของการรวบรวมผ้ายันต์ พวกมันจะส่งทุกอย่างที่มีมาขวางทางเราแน่"เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่บริเวณที่เป็นซากปรักหักพังที่มีกำแพงหินสูงใหญ่เรียงรายอยู่มากมาย ทันใดนั้น แสงรอบตัวก็พลันบิดเบือน พวกเขารู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว"เร็น! นี่มันไม่ใช่แค่ซากปรักหักพัง!" บาระอุทานด้วยความตื่นตระหนก "กำแพงมันเปลี่ยนทิศทาง! เราถูกดึงเข้ามาในอาณาเขตอาคม!"พวกเขาพบว่าตัวเองยืนอยู่กลาง เขาวงกตที่ไร้จุดสิ้นสุด ที่ทำจากกำแพงหินสีดำขัดเงาสูงเสียดฟ้า กำแพงเหล่านี้ไม่ได้อยู่นิ่ง แต่ เลื่อนและเปลี่ยนตำแหน่ง ได้เองตามความตั้งใจของพลังงานมืดมิด"เขาวงกต! นี่คือ เขาวงกตแห
เร็นและบาระใช้ กุญแจอาคม ที่ได้มาจากบาลาซาร์ในการเปิดประตูมิติที่นำไปสู่ สวนต้องห้าม (The Forbidden Gardens) สวนแห่งนี้ไม่ได้มืดมิดเหมือนปราสาท แต่กลับสวยงามอย่างน่าขนลุก ทุกอย่างเป็นสีเขียวมรกตและมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมพวกเขาต้องฝ่าฟันกับ กับดักแห่งชีวิต ที่ซับซ้อน: พืชกินคน ที่มีพลังอาคม, ภูติพฤกษา ที่โจมตีด้วยภาพลวงตาแห่งความอุดมสมบูรณ์, และ ทางเดินที่บิดเบือน กาลเวลาในที่สุด พวกเขาก็มาถึงแท่นบูชาที่อยู่ใจกลางสวน ที่นั่น ผ้ายันต์ผืนที่ 4 (ผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต) เรืองแสงสีทองอร่ามอยู่"เราทำได้แล้วเร็น!" บาระเอื้อมมือไปเก็บผ้ายันต์ไว้ในทันที พลังงานฟื้นฟู ที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังแผ่ออกมาจากผ้ายันต์ผืนนั้น ทำให้ความอ่อนล้าของพวกเขาบรรเทาลงทันที"ผืนที่สี่แล้วบาระ" เร็นยิ้มอย่างโล่งอก "เหลืออีกแค่ผืนเดียวเท่านั้น... ผ้ายันต์แห่งการหยุดยั้ง!"บทที่ 2: กับดักมรณะและการถูกจับกุมพวกเขาใช้เวลาพักฟื้นเล็กน้อยในสวนต้องห้าม และใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์นำทาง พวกเขาต้องเดินทางผ่าน ปีกทางทิศใต้ของปราสาท เพื่อไปยังผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่เชื่อว่าถูกซ่อนอยู่ในหอสังเกตการณ์ทิศใต้เมื่อ
เร็นและบาระปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอคอยหลักของปราสาทอย่างทุลักทุเล หลังจากเอาชนะผู้บัญชาการเงา 10 ตนมาได้ พวกเขาทั้งเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ที่นั่นเป็นห้องขนาดใหญ่ มี คริสตัลเงาสีดำ ขนาดมหึมาลอยอยู่กลางอากาศ มันคือแหล่งพลังงานหลักที่แผ่ความมืดมิดไปทั่วปราสาทเมื่อพวกเขาเตรียมตัวที่จะใช้ ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ ทำลายคริสตัล ทันใดนั้น แสงสีทองอร่าม ก็พลันสาดส่องลงมาจากเพดานผู้พิทักษ์ ตนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้น! เขาไม่ได้ดูเหมือนปีศาจเงาหรือภูตน้ำแข็ง แต่มีรูปลักษณ์ที่สง่างามราวกับ นักปราชญ์โบราณ ที่ล้อมรอบด้วยอักษรรูนสีทอง"จงหยุด ณ ที่แห่งนี้ ผู้ถูกเลือก" ผู้พิทักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจแต่แฝงไว้ด้วยความเมตตา "ข้าคือ 'บาลาซาร์' ผู้พิทักษ์แห่งความสมดุลและหอคอย! ข้ารู้ถึงเจตนาของพวกเจ้า... แต่การทำลายนั้นง่ายเกินไป""เราไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับท่าน บาลาซาร์" บาระกล่าวอย่างระมัดระวัง "เรามาเพื่อหา ผ้ายันต์ผืนที่ 4 และทำลายแหล่งพลังงานที่ชั่วร้ายนี้!"บาลาซาร์ยิ้มอย่างขมขื่น "ผ้ายันต์ผืนที่ 4 ไม่ได้อยู่ที่นี่... แต่มันถูกซ่อนอยู่ใน สวนต้องห้าม และมี กุญแจอาคม ที่จำเป็นในการเปิ
เร็นและบาระไม่ได้มุ่งหน้าสู่ สวนต้องห้าม ทันทีตามที่มาวินสั่ง หลังจากเดินทางผ่านอุโมงค์ลับและออกมาสู่ทางเดินหลักของปราสาท บาระหยุดชะงัก"เร็น... ฉันคิดว่าเราไม่ควรไปสวนต้องห้ามตอนนี้" บาระกล่าวขณะที่มองไปยังยอด หอคอยหลัก ที่สูงเสียดฟ้าของปราสาทที่ปกคลุมด้วยเงามืด"ทำไมล่ะบาระ? มาวินสั่งให้เราไป..." เร็นถามด้วยความแปลกใจ"พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากหอคอยนั้น รุนแรงกว่าเดิมมาก" บาระอธิบาย "ฉันสัมผัสได้ว่าพวกมันกำลังใช้หอคอยนี้เป็น ศูนย์กลางพลัง ในการควบคุมปีศาจทั้งหมด! ถ้าเราไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4 ทันที โดยที่ปล่อยให้แหล่งพลังงานนี้ทำงานต่อไป... การต่อสู้ของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุด! เราต้องทำลายมันก่อน!"เร็นมองไปยังดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ในมือของเขา ดาบนั้นเรืองแสงสีม่วงอ่อน ๆ ราวกับตอบรับกับความมุ่งมั่นของบาระ"ถูกต้อง! เรามีอาวุธใหม่และทักษะใหม่ที่เพิ่งฝึกมา! เราจะทำลายแหล่งกำเนิดพลังงานนี้ก่อน แล้วค่อยไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4! ไปกันเถอะ... สู่หอคอย!"พวกเขาปีนขึ้นไปยังบันไดวนที่ทอดสู่ด้านบนของหอคอย แต่เมื่อพวกเขาเดินมาถึง ชั้นที่สาม ของหอคอย ทางเดินแคบ ๆ ก็พลันถูกสกัดกั้นด้วย ปีศาจเงา ถึง 10 ตน
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากการลงอาคมดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เสร็จสิ้น มาวินได้เรียก จอมทัพเกรย์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระองค์ที่เหลือรอดเพียงไม่กี่คน และ อดีตองครักษ์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธมาเข้าพบ"จอมทัพเกรย์!" มาวินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ถูกสร้างขึ้นแล้ว! แต่ดาบที่ทรงพลังนี้จะเป็นเพียงเหล็กไร้ค่า หากผู้ใช้ไม่เชี่ยวชาญ! เจ้าจงใช้เวลา 5 วันเต็ม ในการฝึกฝนเร็นและบาระให้สามารถใช้ดาบนี้ได้อย่างคล่องแคล่วและรู้ถึงขีดจำกัดสูงสุดของมัน!"จอมทัพเกรย์เป็นชายร่างกำยำ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการสู้รบ แต่ดวงตาของเขายังคงส่องประกายด้วยความภักดีและความมุ่งมั่น เขาคุกเข่าลงต่อหน้ามาวิน"พะยะค่ะ ฝ่าบาท! ข้าน้อยจะทำการฝึกฝนพวกเขาอย่างเข้มงวดที่สุด! พวกเขาจะพร้อมออกรบภายใน 5 วัน!"การฝึกฝนถูกจัดขึ้นในบริเวณที่กว้างที่สุดของห้องโถงแห่งพันธะ ที่นี่กลายเป็น สนามฝึกซ้อมชั่วคราว ที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลและความมุ่งมั่นบทที่ 2: การฝึกฝน 5 วันกับดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เป้าหมายหลักของการฝึกฝน 5 วันนี้คือการทำให้เร็นสามารถใช้ดาบได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่า
มาวิน, เร็น, และบาระกลับมาถึงห้องโถงแห่งพันธะด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความสำเร็จ พวกเขามอบ แร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน ที่มีประกายคล้ายกระจกให้แก่ไอรอนฮาร์ท ช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่ไอรอนฮาร์ทรับแร่เหล็กนั้นไว้ด้วยความเคารพ เขาใช้มือที่หยาบกร้านสัมผัสผิวของแร่เหล็กราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด"แร่นี้... เป็นเพียงชิ้นส่วนสุดท้ายที่ขาดหายไป" ไอรอนฮาร์ทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "ข้าขอรับรองต่อหน้าเจ้าชายมาวินและผู้ถูกเลือกทั้งสอง... ข้าจะใช้เวลา 3 วันเต็มในการตีเหล็กให้ได้รูปทรง และอีก 1 วันเต็มในการลงอาคมแห่งพันธะสมบูรณ์!"มาวินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ข้าฝากความหวังของอาณาจักรไว้ที่ท่านไอรอนฮาร์ท!""แล้วเราจะทำยังไงในช่วงสี่วันนี้คะ? เราควรไปหาผ้ายันต์ผืนต่อไปเลยไหม?" บาระถามด้วยความกระตือรือร้นมาวินส่ายศีรษะ "ไม่ได้บาระ... การบุกเข้าไปใน สวนต้องห้าม โดยไม่มีอาวุธที่สามารถผนึกพลังมืดมิดได้สมบูรณ์เป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป"เอเลน่า ผู้อาวุโสแห่งอาคมก้าวเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "พวกเจ้ายังไม่ได้ใช้เวลาที่นี่อย่างคุ้มค่าเลย... พวกเจ้าอาจได้อาวุธ แต่ คาถาอาค







