Mag-log inหลังจากได้รับ ผ้ายันต์ผืนที่ 3 (การผนึกวิญญาณ) จากโครนอส บาระและเร็นก็ไม่รอช้า พวกเขารีบออกจากอาณาเขตของห้องสมุดที่ถูกแช่แข็งทันที ทั้งคู่รู้สึกถึงความอ่อนล้าอย่างรุนแรงจากการทดสอบ 10 ประการที่ต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังจิตอย่างหนักหน่วง
"เร็น... เราต้องกลับไปพักที่ห้องโถงแห่งพันธะก่อน" บาระพูดเสียงแหบพร่า ขณะที่เธอกุมผ้ายันต์ทั้งสองผืนไว้แน่น "เราใช้พลังงานมากเกินไปแล้ว ถ้าเราไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4 ในสภาพนี้... เราอาจจะตายได้" "เห็นด้วยอย่างยิ่งบาระ" เร็นพยักหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน "เรามีเข็มทิศแห่งการกลับคืนแล้ว ไปกันเถอะ" เร็นหยิบ เข็มทิศแห่งการกลับคืน ที่มาวินมอบให้ขึ้นมา เข็มทองเหลืองพลันชี้ไปยังทิศทางหนึ่งอย่างมั่นคง พวกเขาทั้งสองเริ่มเดินทางตามเข็มทิศกลับสู่ฐานที่มั่นใต้ปราสาท โดยใช้ทักษะการพรางตัวและการเดินที่เงียบเชียบที่ได้จากการฝึกฝน เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง โถงทางเดินหลัก ที่อยู่ใกล้กับจุดที่พวกเขาต่อสู้กับปีศาจ 7 ตัวก่อนหน้านี้ ทันใดนั้น... แคร้งงงงงง! เสียง กระจกแตก ดังสนั่นหวั่นไหวรอบตัวพวกเขา ทั้ง ๆ ที่ไม่มีกระจกอยู่ใกล้ ๆ เลย! พวกเขารู้สึกได้ว่า อาณาเขตป้องกัน ที่มาวินและชาวบ้านเคยสร้างไว้ตามจุดต่าง ๆ ของปราสาทกำลังถูกทำลายอย่างรวดเร็ว "ไม่ดีแล้วเร็น! พวกปีศาจมันรู้การเคลื่อนไหวของเรา!" บาระอุทานด้วยความตื่นตระหนก ทันใดนั้นเอง เงาปีศาจยักษ์ 8 ตัว ก็พลันปรากฏขึ้นพร้อมกันจากทุกทิศทาง พวกมันไม่ได้เป็นแค่เงาธรรมดา แต่เป็น การรวมร่าง ของเงาปีศาจนับร้อยตัว แต่ละตัวมีความสูงเกือบ 3 เมตร มีรูปร่างที่ผิดเพี้ยนและน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด "แปดตัว! บาระ! มันไม่เคยส่งมาเยอะขนาดนี้มาก่อน!" เร็นชักมีดอาคมของเขาออกมาและยืนตั้งรับ บทที่ 2: กลยุทธ์และการใช้ผ้ายันต์เพื่อเอาชนะ 1. อสุรกายแห่งแรงกดดัน (The Crushing Colossus) รูปร่างและลักษณะ: ยักษ์เงาที่ดูเหมือน ก้อนหินขนาดใหญ่ ที่ปกคลุมด้วยหิมะ มันเคลื่อนที่ช้า แต่ทุกย่างก้าวทำให้พื้นสั่นสะเทือน ความสามารถ: มันสามารถปล่อย คลื่นแรงกดดันมหาศาล ออกมาจากร่างกาย ทำให้คู่ต่อสู้ทรุดตัวลงกับพื้นราวกับถูกภูเขาทับ * ทันทีที่มันปรากฏตัว เร็น และ บาระ ก็รู้สึกเหมือนถูกบดขยี้จนหายใจไม่ออก * บทพูด (เร็น): "บาระ! ไม่ไหว... ตัวหนักไปหมด!" * บาระ ตระหนักว่าเธอต้องใช้ผ้ายันต์ผืนที่เพิ่งได้มา ผ้ายันต์ผืนที่ 2 (การควบคุมสภาพอากาศ) * บทพูด (บาระ): "ผ้ายันต์แห่งวารี! จงเปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นอากาศ!" บาระร่ายคาถาโดยใช้ผ้ายันต์ผืนที่ 2 เพื่อ ปรับสมดุลแรงกดดัน รอบตัวพวกเขา * แรงกดดันมหาศาลพลันหายไป เร็นรีบใช้จังหวะนั้นพุ่งเข้าใส่และ แทงมีดอาคม เข้าที่หัวใจของยักษ์หินอย่างรวดเร็ว 2. อสุรกายแห่งการแช่แข็ง (The Freezing Titan) รูปร่างและลักษณะ: ปีศาจที่ดูเหมือนกับ โครงกระดูกน้ำแข็ง ที่มีหอกยาวอยู่ในมือ ร่างกายมันปล่อย ความเย็นจัด ออกมาอย่างต่อเนื่อง ความสามารถ: มันสามารถ แช่แข็ง ทุกสิ่งที่สัมผัสได้ รวมถึงพลังงานอาคมด้วย! * บาระ พยายามร่ายคาถาไฟเพื่อละลายมัน แต่คาถาของเธอพลัน กลายเป็นน้ำแข็ง และตกลงพื้น * บทพูด (บาระ): "เร็น! อย่าเข้าใกล้! มันแช่แข็งพลังงาน!" * เร็น นึกถึงคำแนะนำของมาวิน: เมื่ออาคมล้มเหลว จงใช้ การหลอกล่อ เร็นใช้ความเร็วสูงสุด วิ่งวนรอบ โครงกระดูกน้ำแข็งและล่อให้มันแทงหอกน้ำแข็งใส่พื้น * เมื่อหอกของมันติดพื้น บาระ ใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 3 (การผนึกวิญญาณ) แปะลงบนพื้นหิมะ * บทพูด (บาระ): "ผนึกวิญญาณ! จงตรึงมันไว้!" * พลังงานผนึกสีเขียวเข้มพลันตรึงโครงกระดูกน้ำแข็งไว้ชั่วคราว เร็นใช้จังหวะนั้น เตะ เข้าที่หัวเข่าของมันอย่างแรง จนร่างกายที่เปราะบางของมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ 3. อสุรกายแห่งเสียงกระซิบ (The Whisper Ogre) รูปร่างและลักษณะ: ยักษ์เงาที่ไม่มีดวงตา แต่มี ปาก ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคมนับร้อย ความสามารถ: มันปล่อย เสียงกระซิบแห่งความสงสัยและความไม่ไว้วางใจ เข้าสู่จิตใจของเหยื่อ * บทพูด (เสียงกระซิบ): "บาระ... เร็นไม่ได้รักเธอจริงหรอก! เขาแค่อยากใช้เธอ! เร็น... บาระอ่อนแอเกินไปที่จะช่วยนายได้!" * บาระ และ เร็น รู้สึกถึงความรู้สึกผิดและความหวาดระแวงที่พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรง * พวกเขารีบ คว้ามือกันไว้แน่น และใช้ พันธะแห่งสติ ที่ฝึกฝนมา * บทพูด (เร็น): "โกหก! เราเชื่อใจกัน! บาระ! ใช้คาถาแห่งความเงียบ!" * บาระ ร่ายคาถาที่เธอฝึกฝนมาอย่างรวดเร็ว "คาถาผนึกเสียงรอบตัวเรา!" * เมื่อเสียงกระซิบหายไป พวกเขาก็มีสติกลับคืนมา เร็นพุ่งตัวเข้าไปและใช้ มีดอาคม ฟันเข้าที่ปากที่เต็มไปด้วยฟันของมัน 4. อสุรกายแห่งการแย่งชิง (The Usurper Demon) รูปร่างและลักษณะ: ปีศาจที่มีรูปร่างคล้าย มนุษย์ที่สวมชุดเกราะ มันดูสง่างาม แต่มี ดาบยักษ์ อยู่ในมือ ความสามารถ: มันสามารถ ดึงดูดอาวุธ จากมือของเหยื่อ และเปลี่ยนให้เป็นอาวุธของมันเองได้ * เร็น รู้สึกว่ามีดอาคมในมือของเขาเริ่ม สั่น และพยายามจะหลุดออกไป * บทพูด (เร็น): "มันดึงมีดของฉัน! บาระ! ช่วยฉันหน่อย!" * บาระ ไม่รอช้า เธอร่าย คาถาแห่งการต้านทาน และใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 1 (การปกป้อง) แปะไว้ที่แขนของเร็น เพื่อ เพิ่มแรงยึดเกาะ ให้มีดอาคม * การโจมตีของปีศาจถูกขัดขวาง เร็นใช้จังหวะนั้น ปล่อยมีดอาคม ออกจากมือของเขาเองอย่างรวดเร็ว และใช้ การต่อสู้ด้วยมือเปล่า พุ่งเข้าไปในระยะประชิดที่ปีศาจไม่สามารถใช้ดาบยักษ์ได้ * เร็น เตะ เข้าที่เกราะของมันอย่างรุนแรงจนเกราะแตก ปีศาจจึงสลายตัวไป 5. อสุรกายแห่งการขยาย (The Amplification Horror) รูปร่างและลักษณะ: ยักษ์เงาที่มีลักษณะคล้าย โครงสร้างลวดหนาม ที่พันกันยุ่งเหยิง ร่างกายของมันเรืองแสงสีแดงอ่อน ๆ ความสามารถ: มันสามารถ ขยายพลัง ของเงาปีศาจตัวอื่นที่อยู่ใกล้เคียงได้ (เพิ่มความสามารถในการป้องกัน การโจมตี หรือความเร็ว) * ปีศาจตัวนี้ไม่ได้โจมตีโดยตรง แต่ ยืนอยู่ด้านหลัง ปีศาจตัวอื่น ๆ ทำให้ปีศาจ 3 ตัวที่เหลืออยู่แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด * บทพูด (บาระ): "เร็น! เราต้องจัดการตัวนั้นก่อน! มันเป็นตัวเสริมพลัง!" * เร็น ตัดสินใจใช้ ความเร็วสูงสุด ที่ฝึกฝนมาทั้งหมดเพื่อ วิ่งเลี่ยง ปีศาจ 3 ตัวที่ถูกเสริมพลัง และพุ่งตรงไปยังปีศาจแห่งการขยาย * บาระ ร่าย คาถาแห่งการชะลอความเร็ว ใส่ปีศาจทั้งสามตัวที่ถูกเสริมพลัง เพื่อเปิดช่องให้เร็น * เร็นใช้จังหวะที่บาระเปิดช่องให้ พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว และใช้ มีดอาคมแทงเข้าที่ใจกลาง ของโครงสร้างลวดหนาม 6. อสุรกายแห่งการปลอมแปลง (The Illusion Giant) รูปร่างและลักษณะ: ยักษ์เงาที่มีลักษณะเหมือน กำแพงหมอกหนาทึบ ขนาดใหญ่ ความสามารถ: มันสามารถสร้าง ภาพลวงตา ที่สมจริงอย่างยิ่ง ทำให้เหยื่อไม่สามารถแยกแยะระหว่างความเป็นจริงกับภาพลวงตาได้ * ทันใดนั้น มาวิน และ ผู้รอดชีวิต ก็ปรากฏตัวขึ้นรอบตัวพวกเขา โดยมี ดวงตาสีแดงฉาน และเตรียมโจมตีพวกเขา * บทพูด (ภาพลวงตามาวิน): "พวกเจ้าทำให้เราผิดหวัง! ถึงเวลาที่พวกเจ้าต้องตายแล้ว!" * เร็น แทบจะหยุดนิ่งด้วยความตกใจ * บทพูด (เร็น): "มาวิน... ไม่จริง..." * บาระ ใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 3 (การผนึกวิญญาณ) และร่าย คาถาแห่งการแตกสลายทางภาพ * บทพูด (บาระ): "ไม่มีความจริงในความมืด! จงผนึกภาพลวงตา!" * ภาพลวงตาของมาวินและผู้รอดชีวิตสลายไปทันทีที่คาถาของบาระสัมผัสโดน ยักษ์เงาหมอกก็พลันเผยตัวออกมา * เร็นพุ่งเข้าไปด้วยความโกรธที่มันกล้าหลอกล่อพวกเขา และ ทำลายยักษ์เงาหมอก นั้นอย่างรวดเร็ว 7. อสุรกายแห่งกาลเวลา (The Time Distortion) รูปร่างและลักษณะ: ยักษ์เงาที่มีลักษณะคล้าย นาฬิกาทรายสีดำ ขนาดใหญ่ ความสามารถ: มันสามารถ หยุดเวลาชั่วคราว ในบริเวณแคบ ๆ รอบตัวมันได้ * ยักษ์นาฬิกาทรายพลัน หยุดนิ่ง และพยายามแช่แข็งเร็นไว้ในกาลเวลา * บาระ นึกถึง โครนอส ผู้พิทักษ์ผ้ายันต์ผืนที่ 3! * บทพูด (บาระ): "ผ้ายันต์แห่งการผนึกวิญญาณ! ถ้ามันควบคุมเวลา... เราต้อง ผนึกกาลเวลา! เร็น! ออกมาให้พ้น!" * บาระใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 3 ร่ายคาถาที่รุนแรงที่สุดของเธอ "คาถาผนึกกาลชั่วคราว!" * พลังงานสีเขียวเข้มพุ่งเข้าใส่ยักษ์นาฬิกาทราย ทำให้มัน ไม่สามารถหยุดเวลา ได้อีกต่อไป มันกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง แต่ก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด * เร็น ใช้จังหวะนั้น พุ่งตัวไปด้านหลัง ยักษ์นาฬิกาทราย และ แทงเข้าที่แกนกลาง ที่ดูเหมือนกระจกของมัน 8. อสุรกายแห่งความอ่อนล้า (The Exhaustion Wrecker) รูปร่างและลักษณะ: ยักษ์เงาที่มีลักษณะคล้าย โครงกระดูกที่เรืองแสงสีม่วง มันดูผอมแห้ง แต่ทุกส่วนของร่างกายเต็มไปด้วยพลังงาน ความสามารถ: มันสามารถ ดูดซับความแข็งแกร่ง และ พลังงานอาคม ของเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว * ทันทีที่ปีศาจตัวสุดท้ายปรากฏตัว บาระ และ เร็น รู้สึกเหมือนถูกสูบพลังงานออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ทรุดตัวลงคุกเข่าด้วยความอ่อนเพลียที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ * บทพูด (บาระ): "ไม่ไหวแล้วเร็น... พลังงานฉัน..." * บทพูด (เร็น): "ฉัน... ก็เหมือนกัน... เราต้องสู้ด้วย สัญชาตญาณ เท่านั้น!" * เร็น รวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ และ วิ่งเข้าใส่ ปีศาจตัวสุดท้ายทันทีเพื่อไม่ให้มันดูดพลังไปมากกว่านี้ * บาระ ตัดสินใจทำสิ่งที่กล้าหาญที่สุด: เธอโยนผ้ายันต์ทั้งสามผืนเข้าใส่ปีศาจตัวสุดท้าย! * บทพูด (บาระ): "คาถาแห่งพันธะผสาน! จงระเบิดพลังงานออกมา!" * ผ้ายันต์ทั้งสามผืน (ผืนที่ 1 ปกป้อง, ผืนที่ 2 ควบคุม, ผืนที่ 3 ผนึก) รวมพลังกันและระเบิดคลื่นพลังงาน ที่รุนแรงเข้าใส่ปีศาจโครงกระดูก * เปรี้ยง! ปีศาจโครงกระดูกสลายหายไปทันทีด้วยแสงสีม่วงที่รุนแรง และ พลังงานที่ถูกดูดไปพลันไหลกลับคืน เข้าสู่ร่างกายของบาระและเร็น บทที่ 3: เส้นทางกลับและการเตรียมพร้อม เร็นและบาระทรุดตัวลงกับพื้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาหอบหายใจอย่างหนัก แต่ในที่สุด พวกเขาก็เอาชนะ 8 อสุรกายเงายักษ์ มาได้สำเร็จ "เรา... เราทำได้แล้วเร็น" บาระพึมพำอย่างอ่อนแรง แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "เราใช้ทุกสิ่งที่ฝึกฝนมา... และผ้ายันต์" เร็นลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เขาเก็บมีดอาคมของเขา และหยิบเข็มทิศแห่งการกลับคืนขึ้นมาอีกครั้ง เข็มทิศยังคงชี้ไปทิศทางเดิม "เราต้องรีบไปแล้วบาระ" เร็นพูดด้วยความมุ่งมั่น "เราต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมพวกมันถึงส่งปีศาจยักษ์มามากมายขนาดนี้... และเราต้องไปหาไอโกะกับโช!" บาระพยักหน้า เธอเก็บผ้ายันต์ทั้งสามผืนไว้ และค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน พวกเขาเริ่มเดินทางต่ออย่างช้า ๆ มุ่งหน้ากลับไปยังห้องโถงแห่งพันธะ เพื่อฟื้นฟูร่างกายและเผชิญหน้ากับความจริงที่รออยู่หลังจากที่เร็นช่วยบาระออกมาจากกับดักที่ปีกทิศใต้ได้สำเร็จ ทั้งคู่รีบออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ หอสังเกตการณ์ทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ซ่อนของผ้ายันต์ผืนสุดท้าย พวกเขาใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์เป็นเครื่องนำทาง"แผนที่บอกว่าเราต้องผ่านซากปรักหักพังเก่า ๆ ทางทิศใต้ไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง" บาระกล่าวขณะที่ใช้แท่นแก้วใส (กุญแจอาคม) ชี้ทิศทางเร็นพยักหน้า "ต้องระวังให้มาก บาระ พวกเงาปีศาจรู้แล้วว่าเรากำลังจะถึงจุดสุดท้ายของการรวบรวมผ้ายันต์ พวกมันจะส่งทุกอย่างที่มีมาขวางทางเราแน่"เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่บริเวณที่เป็นซากปรักหักพังที่มีกำแพงหินสูงใหญ่เรียงรายอยู่มากมาย ทันใดนั้น แสงรอบตัวก็พลันบิดเบือน พวกเขารู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว"เร็น! นี่มันไม่ใช่แค่ซากปรักหักพัง!" บาระอุทานด้วยความตื่นตระหนก "กำแพงมันเปลี่ยนทิศทาง! เราถูกดึงเข้ามาในอาณาเขตอาคม!"พวกเขาพบว่าตัวเองยืนอยู่กลาง เขาวงกตที่ไร้จุดสิ้นสุด ที่ทำจากกำแพงหินสีดำขัดเงาสูงเสียดฟ้า กำแพงเหล่านี้ไม่ได้อยู่นิ่ง แต่ เลื่อนและเปลี่ยนตำแหน่ง ได้เองตามความตั้งใจของพลังงานมืดมิด"เขาวงกต! นี่คือ เขาวงกตแห
เร็นและบาระใช้ กุญแจอาคม ที่ได้มาจากบาลาซาร์ในการเปิดประตูมิติที่นำไปสู่ สวนต้องห้าม (The Forbidden Gardens) สวนแห่งนี้ไม่ได้มืดมิดเหมือนปราสาท แต่กลับสวยงามอย่างน่าขนลุก ทุกอย่างเป็นสีเขียวมรกตและมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมพวกเขาต้องฝ่าฟันกับ กับดักแห่งชีวิต ที่ซับซ้อน: พืชกินคน ที่มีพลังอาคม, ภูติพฤกษา ที่โจมตีด้วยภาพลวงตาแห่งความอุดมสมบูรณ์, และ ทางเดินที่บิดเบือน กาลเวลาในที่สุด พวกเขาก็มาถึงแท่นบูชาที่อยู่ใจกลางสวน ที่นั่น ผ้ายันต์ผืนที่ 4 (ผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต) เรืองแสงสีทองอร่ามอยู่"เราทำได้แล้วเร็น!" บาระเอื้อมมือไปเก็บผ้ายันต์ไว้ในทันที พลังงานฟื้นฟู ที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังแผ่ออกมาจากผ้ายันต์ผืนนั้น ทำให้ความอ่อนล้าของพวกเขาบรรเทาลงทันที"ผืนที่สี่แล้วบาระ" เร็นยิ้มอย่างโล่งอก "เหลืออีกแค่ผืนเดียวเท่านั้น... ผ้ายันต์แห่งการหยุดยั้ง!"บทที่ 2: กับดักมรณะและการถูกจับกุมพวกเขาใช้เวลาพักฟื้นเล็กน้อยในสวนต้องห้าม และใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์นำทาง พวกเขาต้องเดินทางผ่าน ปีกทางทิศใต้ของปราสาท เพื่อไปยังผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่เชื่อว่าถูกซ่อนอยู่ในหอสังเกตการณ์ทิศใต้เมื่อ
เร็นและบาระปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอคอยหลักของปราสาทอย่างทุลักทุเล หลังจากเอาชนะผู้บัญชาการเงา 10 ตนมาได้ พวกเขาทั้งเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ที่นั่นเป็นห้องขนาดใหญ่ มี คริสตัลเงาสีดำ ขนาดมหึมาลอยอยู่กลางอากาศ มันคือแหล่งพลังงานหลักที่แผ่ความมืดมิดไปทั่วปราสาทเมื่อพวกเขาเตรียมตัวที่จะใช้ ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ ทำลายคริสตัล ทันใดนั้น แสงสีทองอร่าม ก็พลันสาดส่องลงมาจากเพดานผู้พิทักษ์ ตนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้น! เขาไม่ได้ดูเหมือนปีศาจเงาหรือภูตน้ำแข็ง แต่มีรูปลักษณ์ที่สง่างามราวกับ นักปราชญ์โบราณ ที่ล้อมรอบด้วยอักษรรูนสีทอง"จงหยุด ณ ที่แห่งนี้ ผู้ถูกเลือก" ผู้พิทักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจแต่แฝงไว้ด้วยความเมตตา "ข้าคือ 'บาลาซาร์' ผู้พิทักษ์แห่งความสมดุลและหอคอย! ข้ารู้ถึงเจตนาของพวกเจ้า... แต่การทำลายนั้นง่ายเกินไป""เราไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับท่าน บาลาซาร์" บาระกล่าวอย่างระมัดระวัง "เรามาเพื่อหา ผ้ายันต์ผืนที่ 4 และทำลายแหล่งพลังงานที่ชั่วร้ายนี้!"บาลาซาร์ยิ้มอย่างขมขื่น "ผ้ายันต์ผืนที่ 4 ไม่ได้อยู่ที่นี่... แต่มันถูกซ่อนอยู่ใน สวนต้องห้าม และมี กุญแจอาคม ที่จำเป็นในการเปิ
เร็นและบาระไม่ได้มุ่งหน้าสู่ สวนต้องห้าม ทันทีตามที่มาวินสั่ง หลังจากเดินทางผ่านอุโมงค์ลับและออกมาสู่ทางเดินหลักของปราสาท บาระหยุดชะงัก"เร็น... ฉันคิดว่าเราไม่ควรไปสวนต้องห้ามตอนนี้" บาระกล่าวขณะที่มองไปยังยอด หอคอยหลัก ที่สูงเสียดฟ้าของปราสาทที่ปกคลุมด้วยเงามืด"ทำไมล่ะบาระ? มาวินสั่งให้เราไป..." เร็นถามด้วยความแปลกใจ"พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากหอคอยนั้น รุนแรงกว่าเดิมมาก" บาระอธิบาย "ฉันสัมผัสได้ว่าพวกมันกำลังใช้หอคอยนี้เป็น ศูนย์กลางพลัง ในการควบคุมปีศาจทั้งหมด! ถ้าเราไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4 ทันที โดยที่ปล่อยให้แหล่งพลังงานนี้ทำงานต่อไป... การต่อสู้ของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุด! เราต้องทำลายมันก่อน!"เร็นมองไปยังดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ในมือของเขา ดาบนั้นเรืองแสงสีม่วงอ่อน ๆ ราวกับตอบรับกับความมุ่งมั่นของบาระ"ถูกต้อง! เรามีอาวุธใหม่และทักษะใหม่ที่เพิ่งฝึกมา! เราจะทำลายแหล่งกำเนิดพลังงานนี้ก่อน แล้วค่อยไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4! ไปกันเถอะ... สู่หอคอย!"พวกเขาปีนขึ้นไปยังบันไดวนที่ทอดสู่ด้านบนของหอคอย แต่เมื่อพวกเขาเดินมาถึง ชั้นที่สาม ของหอคอย ทางเดินแคบ ๆ ก็พลันถูกสกัดกั้นด้วย ปีศาจเงา ถึง 10 ตน
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากการลงอาคมดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เสร็จสิ้น มาวินได้เรียก จอมทัพเกรย์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระองค์ที่เหลือรอดเพียงไม่กี่คน และ อดีตองครักษ์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธมาเข้าพบ"จอมทัพเกรย์!" มาวินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ถูกสร้างขึ้นแล้ว! แต่ดาบที่ทรงพลังนี้จะเป็นเพียงเหล็กไร้ค่า หากผู้ใช้ไม่เชี่ยวชาญ! เจ้าจงใช้เวลา 5 วันเต็ม ในการฝึกฝนเร็นและบาระให้สามารถใช้ดาบนี้ได้อย่างคล่องแคล่วและรู้ถึงขีดจำกัดสูงสุดของมัน!"จอมทัพเกรย์เป็นชายร่างกำยำ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการสู้รบ แต่ดวงตาของเขายังคงส่องประกายด้วยความภักดีและความมุ่งมั่น เขาคุกเข่าลงต่อหน้ามาวิน"พะยะค่ะ ฝ่าบาท! ข้าน้อยจะทำการฝึกฝนพวกเขาอย่างเข้มงวดที่สุด! พวกเขาจะพร้อมออกรบภายใน 5 วัน!"การฝึกฝนถูกจัดขึ้นในบริเวณที่กว้างที่สุดของห้องโถงแห่งพันธะ ที่นี่กลายเป็น สนามฝึกซ้อมชั่วคราว ที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลและความมุ่งมั่นบทที่ 2: การฝึกฝน 5 วันกับดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เป้าหมายหลักของการฝึกฝน 5 วันนี้คือการทำให้เร็นสามารถใช้ดาบได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่า
มาวิน, เร็น, และบาระกลับมาถึงห้องโถงแห่งพันธะด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความสำเร็จ พวกเขามอบ แร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน ที่มีประกายคล้ายกระจกให้แก่ไอรอนฮาร์ท ช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่ไอรอนฮาร์ทรับแร่เหล็กนั้นไว้ด้วยความเคารพ เขาใช้มือที่หยาบกร้านสัมผัสผิวของแร่เหล็กราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด"แร่นี้... เป็นเพียงชิ้นส่วนสุดท้ายที่ขาดหายไป" ไอรอนฮาร์ทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "ข้าขอรับรองต่อหน้าเจ้าชายมาวินและผู้ถูกเลือกทั้งสอง... ข้าจะใช้เวลา 3 วันเต็มในการตีเหล็กให้ได้รูปทรง และอีก 1 วันเต็มในการลงอาคมแห่งพันธะสมบูรณ์!"มาวินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ข้าฝากความหวังของอาณาจักรไว้ที่ท่านไอรอนฮาร์ท!""แล้วเราจะทำยังไงในช่วงสี่วันนี้คะ? เราควรไปหาผ้ายันต์ผืนต่อไปเลยไหม?" บาระถามด้วยความกระตือรือร้นมาวินส่ายศีรษะ "ไม่ได้บาระ... การบุกเข้าไปใน สวนต้องห้าม โดยไม่มีอาวุธที่สามารถผนึกพลังมืดมิดได้สมบูรณ์เป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป"เอเลน่า ผู้อาวุโสแห่งอาคมก้าวเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "พวกเจ้ายังไม่ได้ใช้เวลาที่นี่อย่างคุ้มค่าเลย... พวกเจ้าอาจได้อาวุธ แต่ คาถาอาค







