Share

ใต้อาณัติครั้งที่ 2

Author: LADY-ZOMBIE
last update Huling Na-update: 2024-12-20 22:41:01

ใต้อาณัติครั้งที่ 2 But I beseech you the rather to do this, that I may be restored to you the sooner. (Hebrews 13:19)

แต่ข้าพเจ้าวิงวอนพวกท่านมากยิ่งขึ้นให้กระทำเช่นนี้ เพื่อข้าพเจ้าจะได้กลับคืนไปอยู่กับพวกท่านเร็วขึ้น (ฮีบรู 13:19)

+++++

ฟาเบียนทำงานมาได้ครึ่งปีแล้ว เป็นครึ่งปีที่ทำให้ชีวิตวุ่นวายจริงๆ นายท่านคนใหม่โดนลอบสังหารไม่ต่ำกว่า 30 ครั้งในครึ่งปี และฟาเบียนที่ทำหน้าที่ขับรถตาม ได้เสี่ยงอันตรายไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง และเพราะแบบนั้นทุกครั้งที่รอดมาได้ก็มักได้โบนัสเสมอ จนกระทั่งวันนี้ วันที่ฟาเบียนจะไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต เช้าวันนี้ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากเช้าวันอื่นๆ นายท่านไปทำงานที่บริษัทตอนเช้า เข้าคลับตอนเย็น และไปกาสิโนตอนดึก แต่ที่ต่างไปคือวันนี้นายท่านไม่ได้ไปที่กาสิโนแต่อยู่ที่คลับกับลูกค้า ฟาเบียนที่ทำหน้าที่รอที่รถกับเปโดรก็ต้องรอจนเปื่อย

“หาว!” ฟาเบียนอ้าปากหาวพลางมองนาฬิกาบนข้อมือด้วยสายตาละห้อยแล้วเอ่ยกับเปโดรด้วยท่าทางอิดโรยว่า “สามวันแล้วนะครับที่นายท่านอยู่ที่คลับดึกขนาดนี้” เปโดรที่กำลังจิบกาแฟร้อนเป่าควันที่แก้วก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงไม่ยี่หระนักว่า

“นี่ยังถือว่าธรรมดาเจ้าเด็กใหม่ ต้องเจอตอนสิ้นปีสิ ตอนนั้นนายจะต้องร้องขอชีวิตเลยล่ะ ฮ่าๆ ” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ส่ายหน้าแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ก่อนที่เปโดรจะเอ่ยต่อว่า “แต่โชคดีที่นายคงได้อยู่แค่ปีเดียว เพราะฉะนั้นทำใจให้สบายซะเถอะ” ฟาเบียนเหลือบตามองเปโดรที่จิบกาแฟเป็นแก้วที่สามด้วยขอบตาดำคล้ำ แล้วส่ายหน้า ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงส่งผ่านจากยูตะมาทางวิทยุว่า

[ลุงเปโดร ฟาเบียน มีเรื่องที่หน้าคลับมาสมทบด้วย] เมื่อได้ยินเปโดรก็ทิ้งแก้วกาแฟกระดาษลงถังขยะใกล้ๆ ก่อนจะที่ฟาเบียนจะดับบุหรี่แล้วเดินตามออกไปสมทบที่ด้านหน้าคลับพร้อมคนอื่นๆ และเพราะแบบนั้นจึงได้เห็นว่ามีคนกำลังลงจากรถมาจริงๆ มาพร้อมกับการ์ดไม่ต่ำกว่า 50 คน และคนที่ลงมาเป็นชายวัยกลางคนหัวล้าน พุงเบียร์แต่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับหรูหรา เจ้าตัวลงมาจากรถก่อนที่ลูกพี่เรโมจะเดินเข้าไปทำความเคารพแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า

“ไม่ทราบว่าท่านโอเลสเตมาที่นี่เพื่อพบนายท่านหรือครับ?” เมื่อได้ยินอีกฝ่ายก็ยกยิ้มที่มีฟันทองคำก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า

“ใช่ ทำไมคนของอะเลสซิโอไม่ต้อนรับหรืออย่างไร?” เมื่อได้ยินเรโมก็ยืดตัวหลังตรงก่อนจะหลุบตาลงจ้อมองอีกฝ่ายด้วยสายตาไร้อารมณ์ แล้วเอ่ยด้วยเสียงสุภาพว่า

“ไม่มีทางมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ ผมจะให้ผู้จัดการเตรียมห้อง-”

“ไม่ๆ วันนี้ฉันต้องการคุยกับผู้นำของอะเลสซิโอด้วยตัวเอง พาฉันไปที่ห้องนั้นหน่อยสิ?” เรโมจ้องมองอีกฝ่ายที่พูดด้วยความไม่ยี่หระขัดจังหวะตัวเองขณะพูด ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างสุภาพกลับไปว่า

“ต้องขอโทษด้วยครับ พอดีนายท่านกำลังติดประชุมกับลูกค้าอีกท่านหนึ่งอยู่ไม่-” แต่ยังไม่ทันที่เรโมพูดจบอีกฝ่ายก็พูดขัดขึ้นเสียก่อนอีกครั้งว่า

“คุณกรีนเบิร์กใช่ไหม? นั่นแหละๆ ฉันเองก็อยากเข้าร่วมการพูดคุยครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน” เมื่อได้ยินและเห็นรอยยิ้มกวนประสาทจากอีกฝ่าย เรโมก็ต้องลอบสูดลมหายใจเข้า เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอต่อยหน้าอีกฝ่ายอย่างใจเย็น ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงสุภาพว่า

“เห็นทีทางเราคงจะไม่สามารถทำให้ท่านโอเลสเตได้แล้วล่ะครับ” เมื่อได้ยินอีกฝ่ายก็หัวเราะเสียงทุ้ม ก่อนจะเอียงศีรษะแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า

“ทำอย่างไรดีล่ะทางนี้เองก็อยากเข้าร่วมการพูดคุยด้วยเหมือนกัน?” เมื่อได้ยินเรโมก็จ้องมองอีกฝ่าย ก่อนจะยืดหลังตรงแล้วเดินถอยหลังออกไป พลางเอ่ยกับกลุ่มบอดีการ์ดของอะเลสซิโอด้วยเสียงจริงจังว่า

“คุ้มกันสถานที่ คนนอกไม่รับอนุญาตให้เข้าไปในคลับได้ตามอำเภอใจ!”

“ครับ!!!!” แม้แต่ฟาเบียนที่ยืนดูสถานการณ์เองก็ยังอดตะโกนตอบเสียงดังอย่างตื่นเต้นไม่ได้ ก่อนจะกำหมัดแน่นเพื่อเตรียมพร้อมการปะทะ และเมื่ออีกฝ่ายกลับเข้าไปในรถก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า

“ฝ่าเข้าไป!”

“ครับ!!!” แล้วทั้งสองกลุ่มก็ปะทะกันอย่างดุเดือด ฟาเบียนยกหมัดกระแทกใบหน้าของคู่ต่อสู้ ก่อนจะถีบอีกฝ่ายที่น่องจนล้มลงกับพื้น แล้วกระแทกศอกใส่จนล้มกับพื้น แล้วรีบเอียงตัวหลบหมัดจากฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะวาดขาแตะเข้าที่กลางเป้าอีกฝ่าย แล้วต่อยเสยเข้ามุมคางจนหงายหลัง ก่อนจะขยับตัวหลบลูกแตะจากด้านข้าง และเตรียมตัวตั้งรับหมัดของอีกฝ่ายที่กระแทกเข้ามาที่แขนอย่างแรง และฟาเบียนเองก็ไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นเพราะสิ่งที่ฟาเบียนรู้คืออะดรีนาลินหลั่งออกมาเยอะมากจนฟาเบียนอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปากในขณะที่ฟาดทั้งมือทั้งเท้าใส่คู่ต่อสู้ที่ว่าอย่างสะใจ

และเพราะแบบนั้นเมื่อโอเลสเตเห็นว่าสถานการณ์ฝั่งตัวเองกำลังเสียเปรียบจึงได้ลงจากรถแล้วแย่งปืนที่เอวของบอดีการ์ดตัวเองออกมา แล้วเล็งไปที่ฟาเบียนที่เป็นจุดเด่นของกำลังฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะลั่นไกอย่างไม่คิดอะไร

ปัง!

เสียงของกระสุนปืนดังขึ้นทำให้สถานการณ์รอบๆ หยุดชะงักก่อนที่ทุกคนจะหยิบปืนออกมาแล้วชี้ไปที่ฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่กับฟาเบียนที่กำลังจับร่างของเปโดรที่เข้ามารับกระสุนปืนแทนตัวเองจนเลือดท่วม ก่อนที่เสียงของเรโมจะดังขึ้นเพื่อออกคำสั่งว่า “เอาคนบาดเจ็บออกไป แล้วยิง!” หลังจากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นจนวุ่นวาย แต่ฟาเบียนทำเพียงแบกเปโดรออกมาจากวงล้อมของกระสุนปืน แล้ววิ่งกลับไปที่รถเป็นครั้งแรกที่ฟาเบียนมือสั่นใจสั่นไปหมด ฟาเบียนพาเปโดรเข้าไปที่เบาะหลัง ก่อนจะรีบขับรถออกจากคลับโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อพาเปโดรไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ท่ามกลางเสียงพึมพำของเปโดรที่ว่า

“อ่า... นายยังเด็ก ฉัน ...”

ผลั่วะ!

กว่าจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น หมัดของเรโมก็กระแทกเข้าที่หน้าของฟาเบียนจนเลือดกำเดาไหลแล้ว “ใครใช้ให้นายออกจากที่นั่น?” เสียงของเรโมไม่ได้ตะคอกหรือตะโกน แต่กลับราบเรียบไร้อารมณ์จนฟาเบียนทำได้เพียงก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด ก่อนจะกำหมัดที่เปื้อนเลือดของเปโดรแล้วเอ่ยขอโทษเสียงเบา

“ขอโทษครับคุณเรโม” เรโมจ้องมองเด็กใหม่ที่เลือดท่วมตัว ด้วยสายตาราบเรียบ ก่อนจะหันไปหาเนโรที่ตามมาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า

“จัดการศพของเปโดรให้ดี แจ้งเรื่องนี้กับทางครอบครัวของอีกฝ่ายด้วย” เมื่อพูดจบเรโมก็หันมามองฟาเบียน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงคล้ายระอาใจเล็กๆ กับพฤติกรรมไม่คิดหน้าคิดหลังของฟาเบียน แล้วเอ่ยด้วยเสียงคล้ายสั่งสอนว่า “สัญญาระยะสั้นกับสัญญาระยะยาวมีหมายเหตุและข้อตกลงที่ไม่เหมือนกัน สำหรับเปโดรนายคิดว่าเขาจะดีใจหรืออย่างไรที่นายพามาที่นี่?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็นิ่งชะงักก่อนจะเงยหน้ามองเรโมด้วยสายตาตกตะลึง

“หมายความว่าอย่างไรครับ?” เรโมจ้องมองฟาเบียนด้วยสายตาราบเรียบไร้อารมณ์ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า

“หมายความว่าสิ่งที่นายทำให้เปโดรมันจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากกว่าเดิมอย่างไรล่ะ เพราะฉะนั้นกลับไปซะ ฉันจะสั่งพักงานนายหนึ่งสัปดาห์” ฟาเบียนเงยหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดกำเดามองเรโมด้วยสายตาตกใจ

“แต่ผม-”

“ฉันรู้ว่านายกำลังจะพูดอะไร แต่จำได้ไหมว่าสัญญาระบุอะไรไว้? คำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยตรงอย่างฉันถือเป็นสิ่งเด็ดขาดรองจากคำสั่งของนายท่าน?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็กลืนน้ำลายก่อนจะกำหมัดแน่น แล้วคอตกปล่อยให้เลือดไหลออกจากจมูกหยดลงบนพื้นอย่างเศร้าซึม เรโมจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ่านยาก ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วตบไหล่ฟาเบียนพลางเอ่ยด้วยเสียงอ่อนลงว่า “ก่อนกลับก็ไปทำแผลซะ แล้วมาทำงานหลังงานศพของเปโดร...” เมื่อพูดจบเรโมก็พยักหน้าให้เนโรไปจัดการเรื่องของเปโดร ในขณะที่ฟาเบียนกำหมัดแน่นยืนก้มหน้าปล่อยให้เลือดออกจากจมูกอยู่อย่างนั้น จนเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเข้ามาพาตัวไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อทำแผล

ฟาเบียนไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาที่ห้องได้อย่างไร รู้เพียงแค่ในหัวมันตื้อตันไปหมด “ไม่มีแม้แต่คำลา...” ฟาเบียนเอ่ยพลางล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียง ก่อนจะจ้องมองเพดานด้วยสายตาสั่นไหว ภาพของเปโดรที่เข้ามาบังกระสุนให้ตัวเองทำเอาฟาเบียนอดนึกถึงคำพูดหนึ่งของเปโดรตอนตัวเองเข้ามาทำงานแรกๆ ไม่ได้ว่า

“ใช่ ปกติจะเป็นประมาณนั้น บอดีการ์ดรอบนอกมักมีระยะสัญญาไม่ยาวนานนัก ปีหรือสองปี แต่ถ้านายสามารถทำงานจนผ่านพ้นได้จนครบ 1 ปีตามสัญญาโดยยังมีชีวิตอยู่ได้ นายอาจได้เลื่อนระดับสัญญาเป็นตลอดชีวิตเหมือนฉัน”

“สัญญาตลอดชีวิต?” ฟาเบียนเอ่ยพึมพำก่อนจะยกแขนปิดบังดวงตาที่กำลังแดงก่ำร้อนผ่าว ภาพใบหน้าของเปโดรที่เข้ามาบังกระสุนทำให้ฟาเบียนทำได้เพียงต้องยกแขนขึ้นมาปิดดวงตาเท่านั้น ก่อนจะผล็อยหลับไปเพราะความเพลีย ....

.............................

งานศพของเปโดรมีคนมาไม่มากนัก นอกจากครอบครัวแล้ว ก็มีเพียงเพื่อนบอดีการ์ดด้วยกันเท่านั้น และฟาเบียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น งานศพแบบคริสต์จัดอย่างเรียบง่าย ฟาเบียนวางดอกไม้สีขาวลงในโลงศพของเปโดร ก่อนจะเอ่ยลาอีกฝ่ายเสียงเบา แล้วเดินหันหลังกลับออกมา และในเวลาต่อมาก็ยืนไว้อาลัยให้เปโดรที่หน้าหลุมศพของอีกฝ่าย ท่ามกลางเสียงร้องไห้ และเสียงพูดคุยเล็กๆ ของคนที่มาร่วมงาน ฟาเบียนจ้องมองโลงศพของเปโดรค่อยๆ ถูกยกวางลงในหลุมด้วยสายตาเหม่อลอย ก่อนจะเม้มปากกลั้นก้อนสะอื้นเมื่อดินส่วนหนึ่งกำลังกระแทกบนฝาโลง เพื่อกลบฝังให้เปโดรนอนหลับด้านในนั้นอย่างสงบ ท่ามกลางเสียงสวดภาวนาของบาทหลวงที่ว่า

“ขอพระคุณจงดำรงอยู่กับพวกท่านทุกคนเถิด เอเมน” ฟาเบียนหลุบตาลงไม่ได้หลั่งน้ำตาออกมาอย่างที่คิด ก่อนจะเอ่ยลากับเปโดรเสียงเบา แล้วจ้องมองภรรยาและหลานสาวของเปโดรที่กอดกันร้องไห้ด้วยสายตาสั่นไหว ก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อหลบหน้าคนพวกนั้นด้วยความรู้สึกผิด ก่อนจะเดินออกมาเมื่อพิธีสิ้นสุดลง ฟาเบียนนั่งพิงหน้าผากกับพวงมาลัยรถ ก่อนจะถอนลมหายใจร้อนๆ ออกมาแล้วเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งว่า

“ผมขอโทษ....”

...................................

คืนวันนั้นฟาเบียนนอนไม่หลับทั้งคืน ก่อนจะตื่นมาด้วยร่างกายอิดโรย แล้วต้องประหลาดใจ เมื่อในโรงอาหารของคอนโดฯ มีร่างของเนโรและริคกี้กำลังจิบกาแฟทานอาหารเช้าด้วยสีหน้าสงบ และเป็นเนโรที่เอ่ยทักทายฟาเบียนอย่างเป็นกันเองว่า “สวัสดีตอนเช้าเพื่อน มาทานด้วยกันซิ” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็เดินไปชงกาแฟอย่างเหม่อลอย ก่อนจะนั่งลงด้านข้างเนโร ฝั่งตรงข้ามกับริคกี้ ก่อนที่เนโรจะกอดคอฟาเบียนแล้วเอ่ยด้วยเสียงไม่ทุกข์ร้อนอะไรว่า “ทำใจซะเถอะ คนจะตายอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี” ฟาเบียนเงยหน้ามองเนโรด้วยสายตาที่หรี่ลงอย่างอันตราย ก่อนที่เนโรจะยกยิ้มแห้งๆ แล้วยกมือยอมแพ้ พลางเอ่ยด้วยเสียงที่สลดลงว่า

“เฮ้เพื่อน! ขอโทษแล้วกันที่ฉันปลอบใครไม่เป็น” ก่อนที่เสียงของริคกี้จะเอ่ยขึ้นว่า

“ถ้าปลอบไม่เป็นก็แค่หุบปากเนโร มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย” เมื่อได้ยินเนโรก็ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระอะไร ก่อนจะนั่งทานอาหารเช้าต่อไป ก่อนที่ริคกี้จะมองไปทางฟาเบียนที่สภาพดูไม่ได้แล้วย่นคิ้ว พลางเอ่ยเตือนสติว่า “ถ้าไม่ไหวนายควรไปพักซะ ได้ยินว่าคุณเรโมให้นายพักงานได้หนึ่งสัปดาห์ใช่ไหม? ไปพักผ่อนซะสิ” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ส่ายหน้าก่อนจะจิบกาแฟที่ตัวไม่ชอบ สัมผัสรสชาติขมอมเปรี้ยวที่ปลายลิ้นแล้วย่นคิ้ว ก่อนที่เสียงของเนโรจะดังขึ้นว่า

“ถ้างั้นนายมาแข่งรถกับฉันไหมล่ะ วันนี้วันหยุดฉันพอดี?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ชะงัก ก่อนจะเงยหน้ามองเนโรที่กำลังเคี้ยวอาหารหยับๆ ก่อนที่ริคกี้จะเอ่ยด้วยเสียงดุว่า

“ฉันบอกให้นายหุบปาก?!” เมื่อได้ยินเนโรก็เบ้ปากก่อนจะทำท่ารูดซิปปากอย่างล้อเลียนริคกี้ แต่แล้วทั้งสองคนก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของฟาเบียนเอ่ยขึ้นว่า

“เอาสิ เงินเดิมพันเท่าไรดี?”

“??????????” เมื่อได้ยินสีหน้าของเนโรก็แปลกไป ก่อนจะตบไหล่ฟาเบียน แล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า “มันต้องแบบนี้สิเพื่อน สักหมื่นยูโรเป็นอย่างไร?”

“ได้ แล้วเราจะเริ่มแข่งกันที่ไหน?” เนโรที่ได้ยินก็ยิ้มเหี้ยม ก่อนจะเอ่ยกับฟาเบียนด้วยเสียงร่าเริงกว่าปกติว่า

“แน่นอนที่อะเลสซิโอมีสนามแข่งรถอยู่ด้วย เราจะไปที่นั่นกัน”

“ตกลง” ฟาเบียนตอบรับ ก่อนจะยกกาแฟที่ตัวเกลียดนักหนาขึ้นกระดก แล้วลุกขึ้นเตรียมตัวไปกับเนโร ท่ามกลางสายตาระอาใจของริคกี้

“พวกนายนี่มัน!”

...........................

อย่างที่เนโรพูดที่อะเลสซิโอมีสนามแข่งจริงๆ เป็นสนามแข่งถูกกฎหมายกรังด์ปรีระดับประเทศที่พนักงานของอะเลสซิโอสามารถมาทำกิจกรรมได้ในวันหยุด นี่ก็ถือเป็นอีกสวัสดิการหนึ่งของเหล่าบอดีการ์ดก็ว่าได้ ฟาเบียนสวมชุดรัดรูปแข่งรถ ก่อนจะถือถุงมือจ้องมองรถแข่งสองคันที่ขับเข้ามาโดยพนักงาน ก่อนที่เนโรจะเดินถือหมวกกันน็อกมาหาตัวเองแล้วเอ่ยด้วยเสียงหยอกเย้าว่า “เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะเพื่อน” เมื่อได้ยินฟาเบียนที่มีขอบตาคล้ำและอดนอนไม่ได้เอ่ยอะไรแค่พยักหน้า แล้วสวมถุงมือเตรียมตัวเข้าไปในรถเพื่อทำการแข่งขันกับเนโร

และการแข่งก็เริ่มต้นในเวลาต่อมา เมื่อหญิงสาวผมบลอนด์คนสวยยกมือขึ้นทิ้งผ้าเช็ดหน้าในมือลงกับพื้น รถของเนโรและฟาเบียนก็ขับออกจากเส้นสตาร์ตอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงโค้งแรกเนโรก็ผ่อนเครื่องก่อนจะเข้าโค้งอย่างสวยงาม แล้วต้องยิ้มค้างเมื่อเห็นว่าฟาเบียนบ้าบิ่นกว่าที่คิด หมอนั่นไม่แม้แต่จะแตะเบรกรถเพื่อเข้าโค้งแต่กลับเร่งความเร็วเหมือนกำลังไล่ตามจรวด และเนโรก็สบถเป็นภาษาบ้านเกิดเมื่อโค้งที่สองฟาเบียนก็ยังบ้าบิ่นเร่งความเร็วขึ้นอีก และในโค้งที่สามฟาเบียนที่เร่งความเร็วจนควบคุมรถไม่ได้เกิดชนเข้าที่ผนังกั้นท่ามกลางสายตาตกตะลึง และเสียงสบถของเนโรที่วิ่งเข้าไปช่วยเหลืออีกฝ่ายออกจากรถอย่างทุลักทุเล

“##$%^&*^%!!!!”

และใช่ ฟาเบียนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะรถคว่ำ... ทำเอาต้องหยุดงานยาว และโดนหักเงินเดือนครึ่งปีที่เหลือ พร้อมกับเนโรไปด้วย...

+++++

Lady Zombie

20/09/67

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งสุดท้าย

    ใต้อาณัติครั้งสุดท้าย The grace of our Lord Jesus Christ be with you all. Amen. (Revelation 22:21)ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายทุกคนเถิด เอเมน (วิวรณ์ 22:21)+++++“Sentino Alessio” เสียงของแองเจโลเอ่ยขึ้นในตอนที่รับลูกชายมาจากมือของพยาบาล ที่พาเข้ามาในห้องพักฟื้นหลังฟาเบียนตื่นแล้ว ใช่ ฟาเบียนคลอดโดยการผ่าคลอด ก่อนที่ฟาเบียนจะอมยิ้มจ้องมองลูกชายตัวแดงๆ ย่นๆ ในอ้อมกอดของแองเจโล ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสงสัยว่า“เซนติโนแปลว่าอะไรครับ?” เมื่อได้ยินแองเจโลก็ยกยิ้มก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“นักบุญตัวน้อย ชื่อน่ารักใช่ไหม?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มแก้มย่นๆ ของลูกชายก่อนที่คุณหมอมิลเลอร์จะเดินมาส่งผลใบตรวจเพศรองของลูกชายครั้งแรกเกิดให้แด๊ดดี้และป่าป๊าดู ฟาเบียนรับมาก่อนจะมองใบหน้าของแองเจโลที่กำลังกอดลูกด้วยท่าทางมีความสุข ก่อนที่แองเจโลจะเงยหน้ามองฟาเบียนแล้วเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร“ผลตรวจเซนติโนเป็นอีนิกม่าครับ” เมื่อได้ยินแองเจโลก็พยักหน้ารับ ก่อนจะยกยิ้มกว้าง พลางกดจูบที่หน้าผากของลูกชาย“เก่งมากเจ้าลูกชาย” ฟาเ

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 19

    ใต้อาณัติครั้งที่ 19 And Adam knew Eve his wife; and she conceived, and bare Cain, and said, I have gotten a man from the LORD. (Genesis 4:1)และอาดัมได้ร่วมกับเอวาภรรยาของเขา และนางได้ตั้งครรภ์ และคลอดคาอิน และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้รับชายคนหนึ่งจากพระเยโฮวาห์” (ปฐมกาล 4:1)+++++วันนี้แองเจโลกลับบ้านมาไวกว่าทุกครั้ง แม้งานจะกองท่วมหัว แต่รู้ดีว่าฟาเบียนคงมีเรื่องอยากคุยกับตัวเองต่อแน่ๆ ในระหว่างที่เดินขึ้นชั้นบนก็เอ่ยกับเรโมไปด้วยว่า “วันนี้ฉันจะไม่เข้ากาสิโน กับไปที่คลับ นายจัดการดูแลไปก่อนเลย”“ครับ” แล้วเรโมก็หยุดตามแล้วหมุนตัวเดินไปทางอื่น ในขณะที่แองเจโลยกมือขึ้นดึงเนกไทลง ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสามโดยมีริคกี้ตามมาเฝ้าที่ทางขึ้นบันไดเช่นเดิม และเมื่อเข้าไปในห้องแองเจโลก็นิ่งไปเมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนเปิดรออยู่ เลยเดินผ่านห้องนั่งเล่นในห้องนอน เข้าไปในห้องแล้วต้องพรูลมหายใจออกอย่างอึดอัดเมื่อกลิ่นฟีโรโมนกลิ่นกาแฟใส่นมภายในห้องมันคลุ้งไปหมด จนทำเอาเจ้าลูกชายเกือบตื่น ก่อนจะจ้องมองก้อนผ้าห่มบนเตียงด้วยสายตาอ่อนลง แต่ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าไปในห้องเสียงเย็นยะเยือกของคนในผ้าห่มก็ดังขึ้นเ

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 18

    ใต้อาณัติครั้งที่ 18 So God created man in his own image, in the image of God created he him; male and female created he them. (Genesis 1:27)ดังนั้นพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ในแบบพระฉายของพระองค์เอง ในแบบพระฉายของพระเจ้าพระองค์ได้ทรงสร้างเขา พระองค์ได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิง (ปฐมกาล 1:27)+++++เรโมจ้องมองภาพที่ลูกน้องตัวเองเดินขยี้ตาออกมาจากสนามบินพร้อมเจ้านายตัวเองที่กำลังโอบเอวอีกฝ่ายเดินออกมาอย่างรักใคร่ด้วยสายตาปลาตาย ก่อนจะก้มหัวลงเพื่อทำความเคารพเจ้านายที่หนีหายหน้าไปเดือนกว่าโดยไม่บอกใครสักคนนอกจากเลขาจอง ด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ ก่อนที่ฟาเบียนจะขืนตัวแล้วเอ่ยเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า “เดี๋ยวผมไปนั่งคันหลัง”“ไม่ต้อง มานั่งกับฉันนี่แหละ” แล้วฟาเบียนก็โดนเจ้านายตัวเองลากไปขึ้นเบาะหลังอย่างงงๆ โดยมีเรโมปิดประตูโบกมือไล่บอดีการ์ดคนอื่นๆ ให้รีบๆ แยกย้ายเตรียมตัวเดินทางกลับคฤหาสน์อะเลสซิโอ โดยที่เรโมขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับอย่างริคกี้ที่กำลังเหลือบมองตัวเองด้วยสายตาเลิ่กลั่ก เพราะภาพจากเบาะหลังคือ เจ้านายตัวเองกำลังพูดเสียงสองกับฟาเบียนที่กำลังบ่นว่าตัวเองง่วงแค่ไหนด้วยสายตาเ

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 17

    ใต้อาณัติครั้งที่ 17 He hath led me, and brought me into darkness, but not into light. (Lamentations 3:2)พระองค์ได้ทรงนำข้าพเจ้า และพาข้าพเจ้าเข้ามาในความมืด แต่ไม่เข้าในความสว่าง (เพลงคร่ำครวญ 3:2)+++++“คุณอยากให้ผมใส่เจ้านี่ตลอดเลยใช่ไหมครับ?” ฟาเบียนเอ่ยถามพลางชี้ไปที่ปลอกคอและสายโซ่ที่แองเจโลถืออยู่ในมือ แองเจโลเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนจะตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า“แล้วได้ไหมล่ะ?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ดึงสายโซ่มาจากมืออีกฝ่าย ก่อนจะเป็นฝ่ายใส่สายโซ่กับปลอกคอตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยเสียงใจเย็นว่า“แล้วผมจะออกไปเดตกับคุณข้างนอกได้อย่างไรครับ?” เมื่อได้ยินแองเจโลก็มองใบหน้าของฟาเบียนก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า“ก็ไม่ต้องออกไป ฉันจะดูแลนายทั้งหมดเอง” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเอนศีรษะพิงไหล่แองเจโล ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า“แต่ผมอยากออกไปเดตกับคุณ มีหลายที่เลยที่ผมอยากไปกับคุณ ผมอยากสร้างความทรงจำมากมายกับคุณ มากกว่าการอยู่ในห้องกันสองคนแบบนี้” ใช่ สัญชาตญาณของอัลฟ่าที่อยากกักขังคู่เอาไว้ใต้ปีกทำไมฟาเบียนจะไม่เข้าใจ ตนเองก็เคยมีความคิดนี้ แต่เพราะฟาเบียนไม่ได้ทำไม่ได้หมายความ

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 16

    ใต้อาณัติครั้งที่ 16 And when the thousand years are expired, Satan shall be loosed out of his prison, (Revelation 20:7)และเมื่อเวลาหนึ่งพันปีนั้นล่วงไปแล้ว ซาตานจะได้รับการปลดปล่อยออกจากคุกของมัน (วิวรณ์ 20:7)+++++แองเจโลจับลำคอของฟ้าที่กำลังฮีตด้วยสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ ไม่ได้สนใจเลยว่ากลิ่นฟีโรโมนของอีกฝ่ายจะยั่วยวนมากแค่ไหน เพราะสำหรับอีนิกม่าอย่างแองเจโลแล้วนั้น ฟีโรโมนของโอเมก้าก็เหมือนน้ำหอมที่หวานเลี่ยนจนน่าพะอืดพะอมจนอยากอ้วกเพียงเท่านั้น เพราะฉะนั้นแองเจโลจึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับฟีโรโมนโอเมก้าที่กำลังฮีต นอกจากความกรุ่นโกรธที่เห็นเมียตัวเองกำลังไปจูบกับคนอื่น ก่อนจะปรายตามองฟาเบียนที่กำลังพยายามยันตัวลุกขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำ และฟีโรโมนที่กำลังผันผวนอย่างรุนแรง “แองเจโล?” เสียงพึมพำของอีกฝ่ายทำให้แองเจโลจิปาก ก่อนจะลากคอโอเมก้าที่กำลังฮีตออกจากห้องด้วยการคว้าหลังคอ แล้วเหวี่ยงลงกระแทกกับพื้นหน้าห้องนอน จนอีกฝ่ายกลิ้งกระเด็นกับพื้นอย่างหมดสภาพ“ฮึก ฮื่อ” อีกฝ่ายร้องไห้โฮเพราะกลิ่นฟีโรโมนของแองเจโลที่ฉุนจมูกจนน่าขนลุก และไหนจะโดนอีกฝ่ายเหวี่ยงกระเด็นล้มกับพื้นจนเจ็บไปทั้งตัวอีก

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 15

    ใต้อาณัติครั้งที่ 15 And God shall wipe away all tears from their eyes; and there shall be no more death, neither sorrow, nor crying, neither shall there be any more pain: for the former things are passed away. (Revelation 21:4)และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของพวกเขา และจะไม่มีความตายอีกต่อไป หรือความโศกเศร้า หรือการร้องไห้ และจะไม่มีการเจ็บปวดใด ๆ อีกต่อไป เพราะว่าสิ่งต่าง ๆ ในกาลก่อนนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” (วิวรณ์ 21:4)+++++“มีอะไรหรือฟา?” แองเจโลเอ่ยพลางจับแขนของฟาเบียนแน่น เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเหลือบตามองโอเมก้าที่ตัวเล็กกว่าตัวเองด้วยสายตาอันตรายทำเอาอีกฝ่าย ก้มหน้าหลบตาไม่กล้าสบตากับแองเจโล แต่สีหน้าของฟาเบียนกลับเปลี่ยนไป ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบปกติว่า“ไม่มีอะไรครับ แองเจโลไปหยิบของที่อยากทานก่อนได้เลย เดี๋ยวผมตามไปครับ” เมื่อได้ยินแองเจโลก็ยกยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา ทำเอาฟาเบียนกลืนน้ำลาย ก่อนที่แรงบีบที่แขนจะแรงขึ้น แล้วหายไปเมื่อเจ้าตัวปลดมือออก แล้วเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบเย็นชาว่า“อย่านาน” แล้วแองเจโลก็จ้องเขม็งไปที่โอเมก้าร่างเล็กตรงหน้า แล้วเดินจากไป ทิ้งไว้เพ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status