เสียงโหเชียร์ของผู้ชมนับพันบนอัฒจันทร์ดังกึกก้อง ภายในสนามที่มีรถแข่งหลายสิบคันต่างเร่งเครื่องด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันคือเส้นชัย ระหว่างเสียงเชียร์ของแฟนคลับและการแข่งขันที่ดำเนินไปอย่างเมามัน อีกฟากหนึ่งของตึกสูงมีดวงตาคมกริบหลุบมองการแข่งขันผ่านกระจกกั้นเบื้องหน้า ริมฝีปากเขายกโค้งเป็นรอยยิ้มบางๆ พร้อมกับพ่นควันบุหรี่สีขาวคละคลุ้งผ่านกรอบแว่นสีดำ บุหรี่มวนเดิมยังคงถูกยกขึ้นมาสูบนับครั้งไม่ถ้วน ในขณะที่สายตายังจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของรถแข่งในสนาม
“ไอ้เดม่อนอยากท้ามึง ไปดูของเดิมพันที่มันวางก่อนไหม” ประโยคนี้เรียกความสนใจจากเจ้าของใบหน้าคมในชุดเสื้อยืดสวมแจ็คเก็ตหนังทับถกแขนขึ้นเล็กน้อยโชว์นาฬิกาเรือนแพงให้ละสายตาจากสนามหันไปมองคนที่เพิ่งพูด
“จะถามทำไมถ้ารู้คำตอบดีอยู่แล้ว”
“กลับมาทวงตำแหน่งเจ้าสนามหน่อย”
ล่า ไหวไหล่ให้กับคำพูดของพี่ชายอย่างค่าย ก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเลิกแข่งรถไปนานนับปี เรื่องในครั้งนั้นยังทำให้เขาจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้
“เดม่อนมันคงไม่ยอมหยุดวุ่นวายถ้าไม่ได้แข่งกับมึงอีกรอบ”
“ไอ้เวรนั่นมันจะอะไรกับกูนัก น่ารำคาญ” เสียงทุ้มสบถออกไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ล่าได้ยินคนชื่อนี้ท้าแข่งกับตัวเอง
“มันคงแค้นที่แพ้มึงเมื่อสองปีก่อน”
“ก็แค่เด็กหางแถวที่อยากจะโชว์แต่สกิลไม่ถึง ต่อให้แข่งอีกกี่ครั้งมันก็ไม่มีทางชนะกู”
“จริงๆ มันไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นมึง ก็แค่เปรยๆ ว่าอยากท้า มันโชว์ของที่เตรียมมามีคนสนใจวางเดิมพันสู้หลายสิบคน”
“พวกนั้นวางอะไร?”
“ส่วนใหญ่เป็นรถกับเงินสด”
“แลกกับของเดิมพันไอ้เดม่อนที่เป็นแค่ผู้หญิง?” หัวคิ้วหนาขมวดเข้ม ล่ากำลังแปลกใจที่แค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวมีค่ามากกว่ารถกับเงินสดพวกนั้น
“ไปดูด้วยตาตัวเอง มึงอาจจะเปลี่ยนคำพูด”
“โทษที…กูไม่เคยขาด” เขาแค่สงสัยแต่ไม่สนใจ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะวางเดิมพันเป็นอะไรก็ไม่ได้ทำให้อดีตเจ้าสนามอย่างล่าหวนกลับมาทวงตำแหน่ง จะเงินหรือผู้หญิงเขาก็มีครบทุกอย่างไม่จำเป็นต้องดิ้นรนแข่งเพื่อแย่งชิงกับใคร
“ไปดูก่อนแล้วกลับมาบอกกูอีกครั้งว่าจะไม่แข่ง”
“ทำไมต้องไปดูให้เสียเวลา ไม่ว่าง” คนที่ถูกถามเซ้าซี้ปฏิเสธกลับไปทันควัน ทำให้ถูกสายตาของพี่ชายมองอย่างคาดโทษ “ทำไมไม่ว่าง?”
“มีนัด ต้องบอกไหมว่านัดอะไร?” ล่าถามอย่างยียวน พูดเท่านั้นคนเป็นพี่ชายก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าหมายถึงเรื่องอะไร ความหมกมุ่นสมองขลุกคิดแต่เรื่องบนเตียงทำให้เดาได้ไม่ยาก
ชายหนุ่มถอนหายใจมองน้องชายหัวรั้นที่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่ยอมลงแข่งทั้งที่มีฝีมือระดับตำนานที่ใครก็เอาไม่ลง แต่มาพังไม่เป็นท่าเพราะผู้หญิงมักง่ายเพียงคนเดียว น้องชายของเขาเคยเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ บาดแผลครั้งนั้นทำให้ล่าสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองขึ้นมาใหม่ เริ่มจากดื่มหนักทุกคืนควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า
อดีตของล่าเป็นคำต้องห้าม ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเพราะเจ้าตัวเคยลั่นวาจาไว้ว่าห้ามพูดเรื่องนั้นอีกเด็ดขาด
“เบาบ้างเรื่องนี้ อย่าให้มันมากนัก”
“ไม่รู้จะเป็นคนดีไปเพื่อใคร” พูดจบล่าก็จี้บุหรี่ลงในถาดเขี่ยพร้อมพ่นลมหายใจออกมา คนดีเขาเคยเป็นแต่สิ่งที่ได้ตอบแทนคือความทรยศ
“ถ้าพ่อถามกูจะไม่บอกว่ามึงทำตัวเหี้ยขนาดไหน สรุปจะไปดูไหม?”
“มันมีอะไรถึงอยากให้กูไปดูนัก” สายตาคมเริ่มมองอย่างแปลกใจเมื่อถูกคะยั้นคะยออย่างหนัก ปกติค่ายไม่พูดซ้ำถ้าเขาปฏิเสธ แต่รอบนี้ดูเหมือนอยากจะให้ไปตรวจของเดิมพันเป็นพิเศษมากกว่าครั้งไหน
“สนามมึงเองแท้ๆ ช่วยกูดูแลสักนิด ส่วนแบ่งก็ได้เท่ากันแต่ไม่สนใจ กูให้มาเทรนเด็กช่วยก็ไม่เอา”
“ตอนนั้นมึงบอกเองว่าให้กูพักได้เต็มที่”
“มันผ่านมาเกือบสองปีแล้วล่า กลับมาจริงจังกับชีวิตสักที”
“เออไปก็ไป เลิกบ่นกูสักที”
พอถูกบ่นหนักขึ้นคนตัวสูงก็รีบหนีออกมาจากห้องรับรองทันทีเพราะเบื่อจะฟังเสียงจากพี่ชาย ขาแกร่งเดินอ้อมไปยังอีกฟากของโกดังเก็บของเดิมพันที่ถูกเตรียมไว้สำหรับการแข่งขันเถื่อนในค่ำคืนนี้
สนามแข่งคือธุรกิจของสามพี่น้อง ค่าย ล่า คลื่น จากตระกูลทรัพย์หิรัญสกุล แทนที่จะสานต่อธุรกิจอสังหาจากครอบครัวทั้งสามพี่น้องกลับมาหุ้นกันเปิดสนามแข่ง มีทั้งถูกกฎหมายและแบบเถื่อนที่เรียกติดปากว่า ‘สนามนอกเขต’ ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ คนชนะจะได้ของเดิมพันไปไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ ที่ดิน เครื่องเพชร ไม่เว้นแม้กระทั่งคน
ร่างสูงโปร่งเดินมาถึงโกดังขนาดใหญ่พลางกวาดสายตาคมมองไปรอบๆ เพื่อหาของเดิมพันที่พี่ชายอยากให้มาดูนักหนา ก่อนเท้าจะชะงักเมื่อเหลือบเห็นร่างบางของผู้หญิงนั่งก้มหน้าอยู่บนแท่นโดยที่ข้อมือถูกโซ่ตรวนเอาไว้ ทำให้ล่านึกแปลกใจว่าเธอเข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไงเพราะที่นี่มีไว้สำหรับเก็บของเดิมพัน ก่อนจะหวนนึกถึงบทสนทนาในห้องรับรองเมื่อครู่
ที่ค่ายบอกคงจะหมายถึงเธอ ของเดิมพันที่นักแข่งต่างหมายตาอยากได้มาครอบครอง
ล่าเดินไปใกล้กว่าเดิมเพราะอยากเห็นว่าผู้หญิงที่นักแข่งต่างอยากแย่งชิงไปครอบครองจะสวยสักแค่ไหน
ขาแกร่งหยุดยืนตรงหน้าร่างเล็กที่กำลังเนื้อตัวสั่นเทา ล่าโน้มตัวลงยื่นมือเย็นเฉียบไปจับปลายคางมนให้เงยขึ้น ก่อนจะชะงักเมื่อได้เห็นเธอใกล้ๆ ก้อนเนื้อตรงอกข้างซ้ายวูบไหวกับใบหน้าสวยที่คุ้นตา
เหมือน…เหมือนมากแต่ไม่ใช่
“คะ คุณเป็นใคร” ริมฝีปากบางสั่นเทาเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา แต่ตอนนี้คนถูกตั้งคำถามเหมือนไม่ได้ยินทั้งที่อยู่ใกล้ ล่ากำลังไม่มีสติเพราะเธอทำให้เขาหวนคิดถึงอดีตที่เคยทำให้เจ็บปวด ปลายนิ้วยกขึ้นไปเกี่ยวม้วนเส้นผมนุ่มอย่างลืมตัว พลางนึกสงสัยว่าเธอเป็นใครมีความเกี่ยวข้องอะไรกับคนในอดีตของเขาถึงได้หน้าตาเหมือนกันมากขนาดนี้
ในตาคู่คมสะท้อนภาพใบหน้าสวยได้รูปของร่างเล็กในชุดนักศึกษา ก่อนคนตัวสูงจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาบนมุมปาก เธอน่าสนใจอย่างที่พี่ชายเขาบอกไว้จริงๆ
“ไม่ต้องกลัว” บอกอย่างนั้นแต่การกระทำถึงเนื้อถึงตัวทำให้หญิงสาวหวาดกลัวมากกว่าเดิม
“ชื่ออะไร?”
เธอมองด้วยใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาแต่ไร้คำตอบเพราะกำลังสั่นกลัวไปหมดทุกอย่าง เธอไม่ไว้ใจเขา ทำให้คนที่ความอดทนต่ำอย่างล่าหงุดหงิดไม่น้อย เขาไม่ชอบให้ใครเมินคำถามของตัวเอง
“ฉันถามว่าชื่ออะไรทำไมไม่ตอบ” น้ำเสียงแข็งกร้าวตวาดแฝงความเย็นยะเยือกเค้นถามอีกครั้ง ทำเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกรีบก้มหน้าลงแล้วตอบเสียงแผ่ว “จ…เจียร์”
“มาที่นี่ได้ยังไง”
“พะ เพื่อนจ้างให้มาทำงานแทน”
“โง่ฉิบหาย”
“ดะ ด่าเจียหรอคะ”
“แล้วมีคนอื่นในนี้อีกไหม?”
หัวคิ้วหนายกสูงในเชิงตั้งคำถาม ล่าไม่แปลกใจที่เธอจะถูกหลอกเพราะดูท่าทางซื่อบื้อไม่ทันคนเท่าไร สวยซะเปล่าขัดหูขัดตาหงุดหงิดฉิบหาย
“อือเจียโง่ ละ แล้วคุณเป็นใคร”
“เจ้าของสนาม”
คำตอบที่เพิ่งได้ยินทำให้เจียร์มีความหวัง ท่าทางกลัวจนตัวสั่นหายไป เธอรีบเอ่ยขอคนแปลกหน้าด้วยคำพูดเดิมซ้ำๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนในเชิงขอร้องให้อีกฝ่ายเห็นใจ
“ถ้าคุณบอกว่าเป็นเจ้าของสนาม ช่วยเจียร์ได้ไหม นะคะ เจียร์กลัว นะคะขอร้อง”
“อยากได้อะไรบอกมาเลยค่ะเจียร์จะทำให้ทุกอย่าง แต่ได้โปรดช่วยเจียร์ด้วยนะคะ”
ล่าก้มลงมองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะกลับมาเป็นความนิ่งเฉย
“หืม?” เจ้าของตาคมจ้องกลีบปากสวยที่กำลังขยับพูดขอร้องอย่างใช้ความคิด ในเมื่อเธอเสนอมาอย่างนี้ถ้าไม่ช่วยเขาก็คงเป็นคนใจจืดใจดำมากเกินไป
“พี่ล่า”
“ค…คะ”
“เรียกว่าพี่ล่าสิ…แล้วฉันจะช่วยเธอ” เขาขยับเข้าไปใกล้ร่างเล็กอีกครั้ง ปลายนิ้วเย็นเฉียบลากผ่านกรอบหน้าสวยช้าๆ ก่อนจะหยุดที่ปลายคาง
“…พี่ล่า”
ตั้งแต่ความเจ็บปวดครั้งนั้นชีวิตของเขามีผู้หญิงเข้าหามากมายแต่ไม่เคยมีใครถูกใจ ไม่รู้ว่าท่าทางซื่อบื้อหรือหน้าตาที่เหมือนกับคนในอดีตกันแน่ถึงทำให้เขาสนใจเธอมากขนาดนี้
“เป็นเด็กดีหรือเปล่า”
“…คะ”
“ฉันถามว่าเธอเป็นเด็กดีหรือเปล่า”
“อื้อค่ะ เจียร์ขยันทำงานมากๆ ใช้อะไรก็ทำได้หมดเลย”
“ทำได้หมดทุกอย่าง?” เสียงทุ้มต่ำถามทวนคำพูดนั้นอีกครั้งก่อนที่ร่างเล็กจะตอบยืนยัน “ใช่ค่ะ”
เจียร์พยักหน้าดวงตากลมใสมองเขาด้วยความจริงจัง แต่กลับดูเหมือนลูกนกที่กำลังอ้อนวอนสัตว์นักล่า
“สัญญาหรือเปล่า”
“ค่ะเจียสัญญา”
“ฉันไม่ชอบคนผิดสัญญา”
“ไม่แน่นอนค่ะ ขอแค่พี่ล่าช่วยเจียร์”
ล่าเค้นหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากของคนตัวเล็กพลางใช้มือลูบคางเธอเบาๆ
“หึ! เด็กดี จำคำพูดของเธอเอาไว้ให้ขึ้นใจล่ะ….แล้วฉันจะมาทวงสัญญา”
หนึ่งสิ่งที่เจียร์ควรรู้เอาไว้คือคนที่กำลังอ้อนวอนขอให้ช่วยนั้นน่ากลัวกว่าเป็นไหนๆ การได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับผู้ชายที่เย็นชาและเย่อหยิ่งอย่างล่าจะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล…
——- #ล่าเจียร์ พระเอกธงแดง 🚩
พี่ล่ามาแล้วว กรี๊ดดด~ ฝากแม่ยกกดถูกใจ+เพิ่มนิยายลงคลัง+คอมเมนต์