สามสาวมาที่เคมบริดจ์เพราะมัดหมี่อยากมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เนื่องจากเป็นแหล่งความรู้ระดับโลกเพราะเธอต้องใช้ทำโครงงานจึงต้องมา
The Fitzwilliam Museum
Cambridge
"itzwilliam Museum ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1996 ที่เมืองแคมบริดจ์ (Cambridge) เพื่อเป็นแหล่งศึกษาและรวบรวมโบราณวัตถุและผลงานศิลปะกว่า 500,000 ชิ้น เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของแต่ละยุคสมัยของโลกผ่านวัตุโบราณต่างๆ รวมถึงภาพวาดจากจิตกรชื่อดังของประวัติศาสตร์ศิลปะ เช่น รูเบนส์ (Rubens) เรมบรันต์ (Rembrandt) โมเนต์ (Monet) เซอราต์ (Seurat) ปีกาโซ (Picasso) และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เห็นเลยว่า เมืองแคมบริดจ์นั้นเป้นเมืองแห่งการศึกษาเรียนรู้อย่างแท้จริง"
มัดหมี่อ่านประวัติคร่าวๆ เพื่อจดเลคเชอร์ 'ฉันย้ายมาอยู่อังกฤษไม่ถึงปีก็ได้งานยากเสียแล้ว ฮือ" มัดหมี่พูดอย่างงอแง
"เอาหน่าอยากมาเรียนที่อังกฤษทำไมล่ะ" แพรวาพูดอย่างยิ้มๆ
"ถึงฉันจะย้ายไปเรียนประเทศอื่นฉันก็ขี้เกียดอยู่ดี เสียเวลาช็อปปิ้งชะมัด" มัดหมี่บ่นอุบ
"แล้วที่ฉันลาไปอ่ะงานเยอะป่ะ" หญิงสาวถามเพื่อนรักทั้งสองเธอและแพรวา
"ไม่ค่อยเยอะอ่ะ เพราะช่วงที่แกลาไม่ค่อยได้เรียนหรอกเพราะออกไปหาความรู้ข้างนอกเอาน่ะ ช่วงนี้ต้องลงพื้นที่บ่อย" แพรวาเป็นคนพูด
"ดีจังแค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว" หญิงสาวเผลอแสดงความดีใจออกมาจนเพื่อนๆ สงสัย
"เธออยู่ที่นี่ไม่เคยเที่ยวหรอ?" มัดหมี่เอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะดูเหมือนอีกคนจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ
จะให้บอกยังไงดีล่ะ จะให้บอกว่ามาอยู่กับเขาอยู่แค่ในห้องพอไปเรียนก็ต้องรีบกลับบ้านอ่านหนังสืออาบน้ำและคอยปรนนิบัติเขาบนเตียง
แค่คิดมันก็อดเสียใจไม่ได้ เธอไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนคนอื่นเลย แม้ขนาดเรียนก็ต้องเรียนตามที่เขาอยากให้เรียนอะไรเพื่อจะกลับไปช่วยงานเขาที่บริษัท
"มุก มุก ยัยมุก" มัดหมี่เอ่ยเรียกจนเธอหลุดจากห้วงความคิดเมื่อได้สติก็ตอบโกหกเพื่อนไป
"เปล่าน่ะ ฉันแค่ไม่มีเวลาว่าง"
"แค่นี้?" แพรวาถามอย่างไม่เชื่อเพื่อนเธอจะไม่ว่างอะไรขนาดนั้นเธอชักสงสัยแล้วสิ
"แกไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวให้ฉันฟังเลยนะ ฉันก็เห็นเพียงแต่แกมีคนรับส่งเวลามาเรียนครอบครัวแกน่าจะฐานะดีมากเลยนะเนี้ย เห็นเปลี่ยนรถไม่ซ้ำคันเลยอ่ะ" มัดหมี่หลี่ตาราวกับผิดเด็กโกหก
จะไม่เปลี่ยนทุกคันได้ทำไงล่ะก็ครอบครัวมาเฟียหนุ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับรถสปอร์ตหลายยี่ห้อและยังส่งออกต่างประเทศอีกด้วย แต่มันก็แค่ธุรกิจบังหน้าแหละ
เขาไม่ทำแค่อสังหาฯแต่เขาทำงานสีเทาที่ออกจะทางดำมากกว่าชนิดที่ว่าใช้เงินไปหลายสิบชาติก็ไม่หมด รายได้แต่ละปีเขาทำเงินได้ประมาณสามพันกว่าล้านปอนด์หรือตีเป็นเงินไทยก็เยอะมากจนเธอคาดไม่ถึงเลยหล่ะ
แค่เขาให้เงินสดสามพันปอนด์กับเธอก็แสนกว่าแล้วไหนจะบัตรเครดิตแบล็คการ์ดอีก จะรวยไปไหนก็ไม่รู้! (ก็หาเงินมาให้หนูใช้แหละลูกสาว🤭)
"เปล่าหรอกก็อสังหาฯเหมือนพวกแกนั่นแหละ" เธอตอบโกหกปัดๆ ไป
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็พากันเที่ยวหลายที่แต่ก็ใช่ว่าจะไปหมดซะทีเดียวไม่ว่าจะช้อปปิ้งกินเที่ยว วันนี้เธอมีความสุขมากจริงๆ และเธอก็ไม่อยากให้มันผ่านไปเลย
สามสาวแยกกันกลับบ้านเพราะคนรถของเพื่อนทั้งสองคนของเธอมารับกลับบ้านแล้ว
"ขึ้นรถเถอะครับ นายใหญ่รออยู่" ไคอาร์เป็นคนมารับเธอตามคำสั่ง
"ค่ะ" เธอสุดหายใจเข้าลึกๆ เพราะต้องเผชิญกับชีวิตจริงเเล้วแม้ว่าจะเสียดายก็เถอะ
เมื่อมาถึงบริษัทยักษ์ใหญ่เธอก็ก้าวเท้าลงด้วยความประหม่าโดยที่ไคอาร์เอารถไปเก็บเรียบร้อยเเล้วเดินตามดูแลอย่างปลอดภัย
"สวัสดีค่ะนายหญิง" เลขาหน้าห้องเอ่ยทักทายเนื่องจากที่ไหนใครก็รู้ว่าเธอคือว่าที่ภรรยาของท่านประธานที่นี่เพราะมาดามประกาศออกสื่อซะขนาดนั้น!
"ค่ะ" เธอยิ้มรับอ่อนๆ ก่อนจะผลักประตูเข้ามาอย่างประหม่า
"มาแล้วหรอ สนุกมั้ยวันนี้" เขาถามทั้งที่สายตายังไม่ละจากเอกสารตรงหน้าสักนิด
"ก็สนุกดีค่ะ" เธอตอบอย่างไม่อิดออดก่อนจะเดินไปนั่งตักแกร่งเมื่อเห็นว่าเขาตบบริเวณหน้าขาของเขาเบาๆ เพื่อบ่งบอกให้เธอเข้ามาหา
"ทานข้าวมาหรือยัง หิวมั้ย" เขาถามขณะที่ใบหน้าหล่อเหลากำลังสูดดมซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างกับเป็นสารเสพติด
กลิ่นฟีโรโมนบนตัวเธอมันดึงดูดเขาเป็นอย่างมากและเขาก็คลั่งไคล้และเสพติดไปแล้วจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว
"ยังเลยค่ะทานแค่ข้าวเที่ยง"
"อืม ไว้ตอนเย็นจะพาไปทานข้าว" เขามัวแต่หึงหวงและกักขังเธอจนลืมไปว่าเลยวันเกิดเธอมาเป็นเดือนแล้ว
"ค่ะ" เธอยิ้มรับก่อนจะเอนศีรษะพิงหน้าอกเขาพร้อมหลับตาอย่างง่วงๆ
"ง่วงแล้วทำไมไม่เข้าไปนอนในห้อง" เขาเอี่ยวหน้ามาถามคนบนตัก
"อุ้มมุกไปหน่อยสิคะ" เธอชูเเขนขึ้นพร้อมพูดอย่างออดอ้อนและตอนนี้เธอก็ง่วงเต็มทน
"งอแง" เขาบีบปลายจมูกเล็กเบาๆ และอุ้มเธอฉันบอกเดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมห่มผ้าให้เธอเมื่อเห็นว่าเธอหลับไปแล้ว
"รู้มั้ยว่าฉันหวงเธอมาก แค่คิดว่าวันนี้เธอต้องออกไปเจอใครต่อใครฉันก็แทบอยากจะไปลากเธอกลับมา" เขานั่งข้างเตียงพร้อมลูบศรีษะเล็กเบาๆ
"อิสระที่ฉันให้วันนี้หวังว่าเธอจะมีความสุข แหละมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะให้เธอ" เพราะต่อไปนี้เขาจะตามติดเธอทุกครั้งเพราะเขาไม่อยากให้มีประวัติซ้ำรอย
"เธอเป็นของหวงของฉันมุกดา และเธอก็จะเป็นของหวงของฉันคนเดียวตลอดไป"
เมื่อผู้เป็นภรรยาเดินลงมาจากห้องเพื่อทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งสองครอบครัว"อาหารถูกปากมั้ยคะ" เธอทำอาหารไทยผสมไปด้วยซึ่งบนโต๊ะไม่มีใครเชื่อสายไทยเลยสักคน"ทานได้ค่ะ" ซาเฟียร์เอ่ยขึ้นเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจทุกคนบนโต๊ะอาหารทานข้าวกันพูดคุยกันตามประสาคนที่ไม่ค่อยได้เจอกันก่อนจะแยกตัวออกไปวันต่อมาหญิงสาวใช้เวลาจัดของทุกอย่างบนห้องนอนเพื่อเซอไพรซ์วันเกิดของสามีหนุ่มในช่วงที่เขาทำงาน เธอคิดว่าเราคงลืมวันเกิดตัวเองแน่ๆ เพราะสามีหนุ่มทำงานหนักมากขนาดนี้จนเธอนึกเป็นห่วงสุขภาพของเขา "เฮ้อ เสร็จสักที" ร่างเล็กถอยออกมาห่างเพื่อชื่นชมวันเกิดเธอเมื่อเธอลองดับไฟดูเพื่อความเรียบร้อยจนทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้ เธอใช้เวลาที่เหลือทำธุระส่วนตัวรวมถึงอาบน้ำให้ลูกสาวของเธอบรึ้น!! รถลีมูซีนคันหรูวิ่งเขามาภายในรั้วบ้านก่อนจะปรากฏร่างของสามีหนุ่มเดินลงมาจากรถโดยมีลูกสาวคนสวยวิ่งเข้าไปโอบกอดบิดาเช่นทุกวันฟอด!! ฟอด!!! เมื่ออุ้มลูกสาวแนบอกมาเฟียหนุ่มก็ไม่ลืมหอมแก้มลูกสาวและภรรยาสุดที่รักอย่างเช่นทุกวัน"ขึ้นไปอาบน้ำเถอะค่ะมาเหนื่อยๆ" เธอยื่นแก้วน้ำให้สามีหนุ่มดื่มแก้เหนื่อยก่อนจะกอดหอมจนพอใจและบ
4 ปีต่อมา"หม่ามี๊ขาแด๊ดดี๊มาแล้ว" เบบี๋เด็กหญิงตัวเล็กวัยสามขวบลูกสาวของแด๊ดดี๊เดรร้องเล่นเสียงใสเมื่อรถยนต์คันหรูของผู้เป็นบิดาวิ่งเข้ามาบ้าน"คิดถึงแด๊ดดี๊จังเลยค่ะ" เด็กน้อยได้นิสัยขี้อ้อนเหมือนมารดาไม่มีผิดฟอดด!!! "แด๊ดดี๊ก็คิดถึงเบบี๋เหมือนกันค่ะ" มาเฟียหนุ่มอุ้มลูกสาวคนเล็กแนบอกพร้อมหอมแก้มป่องๆนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว"หม่ามี๊ล่ะครับ" เมื่อไม่เห็นผู้เป็นภรรยาออกมารอรับอย่างเช่นทุกวันก็เอ่ยถามอย่างสงสัย"หม่ามี๊บอกว่าจะไปเตรียมอาหารรอคุณลุงตินกับน้าเฟียร์ค่ะ" เด็กน้อยพูดกับบิดาตลอดทางระหว่างที่เดินเข้าไปหาภรรยาในครัว"หื้ม คุณลุงจะมาหรอคะ" เขาไม่ยักรู้ว่าเพื่อนรักจะแวะมาหาเพราะออสตินไม่ได้โทรมาบอก"ช่ายค่ะ เบบี๋ดีใจมากๆเลยค่ะ พี่ออสก้ากับพี่เดซี่จะมาเล่นกับเบบี๋ด้วย" ลูกๆของออสตินและซาเฟียร์อายุห่างกันกับเบบี๋เพียง 1-2 ปีเขาคงต้องหวงลูกสาวมากแน่ๆ เพราะเบบี๋ค่อนข้างสนิทและรักออสก้ามากด้วย"ทำอะไรอยู่ครับที่รัก" มาเฟียหนุ่มปล่อยลูกสาวไปเล่นกับลัคกี้และคนดูแลก่อนจะเดินเข้ามาหาภรรยาและสวมกอดอย่างแผ่วเบาตามประสาผู้ชายคลั่งรักเมียเด็ก"ทำอาหารรอเพื่อนพี่คะ น้องเฟียร์จะแวะมาเล่นด้วย" พู
นี่ก็แต่งงานมาร่วมสามเดือนแล้ว เธอก็ไม่มีวี่แววว่าจะตั้งครรภ์สักทีซึ่งเธอก็ท้อแล้วแหละ"หวังว่าจะชอบนะคะสามี" หญิงสาวคลี่ยิ้มอย่างสุขใจสายตามองดูกล่องอาหารที่เธอเพิ่งทำเสร็จเพื่อเตรียมจะไปส่งอาหารให้สามีที่บริษัทตามเช่นทุกวัน"ไปกันเถอะค่ะ" เธอถือกล่องอาหารเดินขึ้นรถออกไปพร้อมคนดูแล้วเธอRrrr Rrrrr Rrrrrr เทีี่ยวมือถือเครื่องหรูดังขึ้นมาก่อนจะเห็นเป็นเบอร์ของเคอาร์"ว่าไงคะคุณอองเดรอยากได้อะไร" เธอคิดว่าเขาอยากให้เธอเองของไปให้เสียอีก[คุณมุกครับ นายอาการแย่แล้วไม่รู้ว่านายเป็นอะไรรีบมาเลยนะครับ] เมื่อได้รับแจ้งใจเธอถึงกลับตกวูบเมื่อกลัวว่าอีกคนจะเป็นอะไรไป"ค่ะ มุกจะรีบไปเดี๋ยวนี้"เมื่อมาถึงหน้าบริษัทหญิงสาววิ่งลงจากรถทั้งน้ำตาอย่างไม่อายอะไรเพราะจิตใจตอนนี้เธอลอยไปอยู่กับอีกคนแล้ว"ฮรึก อย่าเป็นอะไรนะคะ" เธอรีบกดลิฟต์ขึ้นชั้นสูงสุดของบริษัททันทีเพราะเธอเข็ดแล้ว กลัวว่าเขาจะจากเธอไป"อ๊วก แหวะ อ๊วก" มาเฟียหนุ่มนั่งคุกเข่าโก่งคออาเจียนในห้องน้ำด้วยความเพลียใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดหยาดเหงื่อผุดขึ้นเต็มไปหมดเขาหงุดหงิดตัวเองมากเพราะไม่มีแรงและทำอะไรก็เวียนหัวไปหมด"คุณอองเดร ฮึก ไหวไหม
หญิงสาวเดินเข้าไปจับมือหนาผู้เป็นสามีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและมีความสุขบาทหลวงกล่าวถึงพิธีแต่งงานก่อนทั้งสองจะตกลงปลงใจรักและเคารพกันฉันท์สามีภรรยาที่รักใคร่"I declare that you two are lawful husband and wife from now on. พ่อขอประกาศว่าเจ้าทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป"ทั้งสองประกบจูบกันด้วยความรักท่ามกลางแขกเหรื่อที่มาร่วมงานตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหลายคู่เดินเข้ามาภายในงานและเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ท่านแคสเซียส ผู้นำองค์กรมาเฟียที่เขาและออสตินอยู่ร่วมองค์กร"congratulations i wish both of you love each other for a long time very happy" [ยินดีด้วย ขอให้ทั้งคู่รักกันนานๆ มีความสุขมากๆ]"Thank you very much" หญิงสาวขอบคุณกล่าวอย่างสุภาพเมื่ออีกฝ่ายอวยพร"It is a great honor for you to join our auspicious event." [รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านมาร่วมงานมงคลของเรา]"Don't be inconsiderate because I'm happy to come and bless you." [ไม่ต้องเกรงใจเพราะฉันยินดีมาร่วมงาน]งานแต่งงานถูกจัดถึงช่วงบ่าย และมี After Party ย้อนหลังงานสละโสด"ถึงเวลาสาวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเ
เช้าวันต่อมาช่วงเช้านี้เธอต้องรีบแต่งตัวเพื่อไปโรงพยาบาลซึ่งอีกคนนัดหมอไว้ให้แล้ว"กลัวหรอ" มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเขาสัมผัสถึงมือที่เย็นเฉียบของเธอ"นิดหน่อยค่ะ กลัวเข็ม" เธอกลัวเข็มเป็นชีวิตจิตใจยิ่งไม่อยากมาแตะโรงพยาบาลเลยสักครั้ง"เชิญคุณมุกดาค่ะ" จากอาการที่เราสอบถามและตรวจไปก่อนหน้านี้ปรากฎว่าคุณมุกดามีอาการป่วยซึมเศร้า "..." ร่างเล็กเงียบไปทันที เธอเป็นซึมเศร้าหรอ เธอก็ใช้ชีวิตปกตินิไม่ต้องกังวนนะคะคุณมุกดาเป็นแค่ระยะแรกทานยาสม่ำเสมอก็จะหายเป็นปกติค่ะ ส่วนที่คุณมุกดาบอกว่าใช้ชีวิตปกติคืออาการแค่แรกเริ่มค่ะอาจจะไม่รู้ตัว ".."อาการพวกนี้ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจจะถึงขั้นฆ่าตัวตายก็ได้ค่ะเพราะงี้เราถึงต้องรีบรักษากึก! ประโยคนี้ทำให้เธอนึกไปถึง..วันที่ฆ่าตัวตายเธอเพียงแค่คิดว่าอยากตามลูกในครรภ์เธอไปแค่นั้น และไม่ได้คิดไปถึงวันที่เธอป่วย"เดี๋ยวหมอจะให้ยาไปทานนะคะ และย้ำว่าให้ทายสม่ำเสมอและที่สำคัญคนไข้ห้ามเครียดนะคะ ไม่ว่าจะผ่านเรื่องเลวร้ายอะไรมาสู้ๆ และยิ้มรับไว้นะคะ" มาเฟียหนุ่มที่ได้ยินเรื่องทุกอย่างที่หมอพูดก็ฉุกคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้แน่ๆ เพราะที่ผ่านมา
เมื่อตัวเองปลดปล่อยอารมณ์สวาทเสร็จสิ้นมาเฟียหนุ่มก็ย่อตัวลงไปโอบอุ้มหญิงคนรักขึ้นมาแนบอกและวางเธอลงช้าๆ อย่างอ่อนโยนตรงอ่างอาบน้ำที่เตรียมเอาไว้"อ๊ะ!" เธอถูกจับคว่ำหน้าลงโดยใช้มือค้ำไว้ที่ขอบอาบโดยมีอีกคนช้อนหลังเธออยู่แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ นิ้วเรียวยาวถูกสอดเข้ามาในกายเธอเพื่อช่วยให้เธอผลิตน้ำหวานออกมาเพื่อจะได้ง่ายต่อการสอดใส่ เพราะที่ผ่านมาห่างเรื่องอย่าว่ามานานพอสมควรแผล็บ แผล็บ แผล็บ จู่เขาก็สอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาดูดดึงร่องสาวของเธอจนร่างเล็กบิดเร้าอารมณ์"อ๊าๆ มุกเสียว อื้อ~" ยิ่งเมื่อเขารัวลิ้นเธอก็แทบทรงตัวไม่ไหวแล้ว"หึ เธอต้องเสร็จจากอย่างอื่น" มาเฟียหนุ่มหยัดตัวขึ้นมามทิหนาชักรูดกายใหญ่เพื่อเตรียมสอดใส่ นิ้วเรียวยาวลูบไล้กายสายของเธออย่างหยอกล้อ มือล็อคสะโพกเล็กทำไงแน่นและค่อยๆกดแก่นกายใหญ่เข้าไปในกายเธอช้าๆ"อ๊ะ มะ..มุกอึดอัด" ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือความเจ็บแต่ไม่มากเท่าตอนที่เธอมีอะไรกันกับเขาครั้งแรก แต่ความเจ็บครั้งนี้เพียงเพราะเธอห่างหายจากเรื่องอย่าว่าไปนานและเมื่อเขากดเข้ามาเรื่อยๆ เธอก็อึดอัดอยากจะให้เขาขยับเพื่อให้เธอคลายความอึดอัดนี้ส๊วบ!! เมื่อกายใหญ่ถูกสอดเข้าไ