Home / วัยรุ่น / BET ON LOVE : เดิมพันรัก / ตอนที่ 6 เดิมพันรักครั้งที่ 6 [2/3]

Share

ตอนที่ 6 เดิมพันรักครั้งที่ 6 [2/3]

Author: Babybow_
last update Last Updated: 2025-11-13 22:34:39

เดิมพันรักครั้งที่ 6

2/3

“เกียร์ปวดใจเวลาที่ไอ้เปรมมันแสดงความเป็นเจ้าของมินนี่ เกียร์อยากเป็นแฟนตัวจริง”

“สอบเสร็จ มินนี่ให้คำตอบเกียร์นะ อีกอาทิตย์เดียว” ฉันยกมือขึ้นจับแก้มเขาก่อนจะยืดตัวขึ้นไปจุ๊บริมฝีปากหยักลึกเบา ๆ “ได้ไหม”

“ต้องได้อยู่แล้ว” เขาอมยิ้มตอนฉันจุ๊บเขา “แต่ขอมากกว่านี้สิ จูบหน่อยครับ”

“ไม่เอาหรอก อื้อ” ไม่ทันที่จะได้ถอยหนีคนที่กอดอยู่ก็โน้มตัวลงมาจูบฉัน มือข้างหนึ่งเอาขึ้นมารั้งท้ายทอยก่อนล็อกเอาไว้ไม่ให้ฉันขยับหนี เกียร์แทรกลิ้นเข้ามากวาดต้อนลิ้นฉัน รสชาติเค้กบางเบาที่เขากินเข้าไปลอยวนอยู่ด้านใน เหมือนฉันได้ทานด้วยเลย

ทุกครั้งที่เขาจูบฉันเหมือนอยากจะตรอกตึงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของไว้ เหมือนอยากให้ฉันจดจำแต่สัมผัสนี้ของเขาไปตลอด และฉันเองก็เหมือนว่าจะจำได้แต่สัมผัสของเขาเลย

รสจูบหวามไหวและละมุนละไมเปลี่ยนเป็นดุดันในนาทีต่อมา มือข้างหนึ่งของเกียร์บีบเอวฉันเบา ๆ ฉันรับรู้ได้ถึงรสชาติของเลือดจาง ๆ ที่เคล้ากับน้ำลายแต่มันก็ชวนให้ใจเต้นแรงแบบบอกไม่ถูก

“เฮือก” เกียร์หยุดจูบฉัน ถอดถอนริมฝีปากออกไปแล้วก็จูบลงปลายจมูกฉันหนึ่งที

“ทำไมมินนี่ต้องทำให้เกียร์ชอบขนาดนี้ครับ”

มินนี่ว่าไม่ใช่ความผิดมินนี่นะ.....

“มินนี่ขา วันนี้พ่อกับแม่ต้องไปงานที่หาดใหญ่นะลูก อาจจะต้องค้างคืนสองคืน” เช้าวันสอบวันสุดท้ายแม่พูดกับฉัน

ฉันได้ยินคุณแม่เปรยตั้งแต่หลายวันก่อนแล้วล่ะว่าจะต้องไปงานขอะไรสักอย่างเกี่ยวกับสายงานคุณพ่อ คือคุณพ่อเป็นตัวแทนไปน่ะแล้วคุณแม่ในฐานะภรรยาก็มักจะเดินทางไปด้วยน่ะ

“ค่ะ” ฉันตอบรับ “วันนี้มินนี่สอบเสร็จมินนี่จะไปนอนกับน้ำหวานนะคะ แบบว่าจะไปเที่ยวกัน”

“เอ...มิกกี้ไม่ได้ออกมานะคะ หนูไปเที่ยวกลางคืนไม่มีพี่ไปด้วยจะดีเหรอ” ฉันยู่ปากอย่างหน่าย ๆ ทุกครั้งที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงฉันมักจะได้ไปวันศุกร์เสาร์ ซึ่งต้องมีอีตามิกกี้ไปนั่งเฝ้าคนละโต๊ะตลอด แต่สัปดาห์นี้เป็นโชคดีของฉันที่ศุกร์นี้เจ้ามิกกี้จะไม่ได้ออกจากโรงเรียน

“มินนี่โตแล้วค่ะแม่ ไม่จำเป็นต้องให้มิกกี้ตามเฝ้าทุกที่หรอกค่ะ” ฉันบอกไป ฉันไม่ได้เถียงนะแต่กำลังพูดอะไรที่เป็นความจริงอยู่

“นั่นสิคุณ ลูกโตแล้วนะอีกอย่างสอบเสร็จก็ให้ลูกพักบ้างเถอะไม่ใช่ว่าจะต้องให้เจ้ามิกกี้ตามดูแลตลอดหรอก” เห็นไหมล่ะว่าคุณพ่อสปอยฉันนะ คือสปอยทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเปรมไง “ปีหน้าก็จะเรียนจบแล้ว อีกหน่อยก็คงจะมีคู่หมั้น แต่งงาน”

นั่นไง มินนี่ว่ามันยังไม่ทันขาดคำเลยค่ะพ่อ

“งั้นหนูก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ ไม่จำเป็นก็อย่าไปดื่มเหล้าเยอะ พี่ไม่ได้ไปด้วยมันอันตราย”

“มินนี่มีเพื่อนดูแลค่ะ ไม่อันตรายหรอก เวลามิกกี้ไปก็ชอบตามชอบบังคับมินนี่ให้กลับอยู่เรื่อย” ฉันหน้างออีก มิกกี้น๊าชอบลากฉันกลัวก่อนร้านปิดตลอด เวลาเห็นผู้ชายเข้าใกล้ฉันก็แทบจะแยกเขี้ยวใส่ หวงอะไรนักหนาก็ไม่รู้เถอะ หวงไว้ให้เปรมสิท่า

มินนี่เบื่อ ๆ ๆ ๆ อยากกรี๊ดจังเลยนะ TT

วันนี้ฉันกับเพื่อนตั้งใจว่าจะเที่ยวกันหลังสอบเสร็จ ฉันก็เลยจะเอาเสื้อผ้าไปนอนคอนโดน้ำหวานน่ะ

ฉันรู้สึกคล้ายว่าตัวเองเป็นสาวแรกรุ่นอายุสักสิบสี่สิบห้า ที่ต้องแอบพ่อแม่คบหากับผู้ชายเพราะยังเด็กเกินไป แต่นี่ฉันอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว ปีหน้าก็จะยี่สิบสองและใกล้เรียนจบ บางทีฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองมากนักว่าทำไมถึงไม่แหกกฎไป แต่ก็นะ ฉันกับพี่เรมี่ต่างกันมากล่ะ

“มินนี่ใส่ชุดนี้ไหม” เพื่อนถามเมื่อเห็นว่าฉันเตรียมชุดอะไรมา มันเป็นเดรสที่ไม่ได้ดูวาบหวิวอะไร ในขณะที่ชุดของน้ำหวานออกจะเซ็กซี่เลยล่ะ

“จะดีเหรอ” ฉันกระพริบตามอง ชุดที่น้ำหวานถืออยู่เป็นเดรสสายเดี่ยวสีน้ำเงินเข้ม ผูกคอและโชว์หลังด้วย ด้านข้างก็เว้าสามารถโชว์ไหปราร้าอีกต่างหาก

“ดีสิ มินนี่หุ่นดี หลังก็สวยไหปลาร้าก็ออกจะเซ็กซี่” ฉันเขินอายอยู่ แต่สายตาชื่นชมของเพื่อนก็ทำให้ฉันเกิดมีความมั่นใจขึ้นมา ปกติฉันไม่ค่อยใส่เสื้อผ้าแนวนี้เพราะคุณแม่ชอบพูดว่ามันไม่เหมาะสม

ส่วนใหญ่ฉันจะใส่เดรสที่ไม่รัดรูปหรือสั้นจนเกินไป กระโปรงนักศึกษาของฉันก็ไม่เคยขั้นเกินสิบแปด หรือยี่สิบนิ้วเลยด้วยซ้ำ ฉันโดนตีกรอบกำหนดการใช้ชีวิตมาตลอดหลายปีและถูกทำให้รู้สึกว่านี่มันคือความเหมาะสมของสตรีเพศ ทั้งที่นี่มันก็ยุคไหนแล้ว...

“ใส่เถอะน่า ไม่เป็นไรหรอก” ฉันยอมรับเดรสตัวนั้นมาใส่

“เป็นไงบ้าง” ฉันออกมาจากห้องน้ำและพอเหมือนเห็นก็ตาเป็นประกาย

“สวยมากเลยมินนี่ เข้ากับสีน้ำเงินนะเนี้ย” น้ำหวานยกนิ้วโป้งให้ ห่อนจะจูงแขนฉันมาที่โต๊ะเครื่องแป้ง “มานี่สิทำผมแต่งหน้าให้จะได้สวยเช้งเลย”

ฉันไม่ใช่คนแต่งหน้าหรือทำผมไม่เป็นนะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะแต่งแบบเรียบ ๆ ไม่หวือหวามากมายอะไร แต่วันนี้ฉันจะให้น้ำหวานแต่งให้ล่ะ

หลังจากเราแต่งตัวกันอยู่นานร่วมชั่วโมง สามทุ่มเราก็มาถึงร้านเหร้าที่ชื่อว่า 3G ซึ่งเป็นร้านที่เกียร์ทำงานอยู่ เป็นร้านที่ฉันได้เจอเขาวันนั้นล่ะ ฉันไม่ได้บอกเกียร์ว่าจะมาร้านนี้นะ แบบว่าเพื่อนอยากจะมาร้านนี้และฉันก็อยากจะเซอร์ไพรส์เขาน่ะ

ตอนเกียร์ถามว่าจะไปร้านไหนกัน ฉันตอบว่าไม่รู้ทั้งที่พวกเพื่อนก็จองโต๊ะกันแล้ว ซึ่งเจตเพื่อนของฉันกับเพื่อนเขาอีกคนหนึ่งก็อยากมานั่งด้วย ทุกคนโอเคกันแล้ว

ที่มาวันนี้ก็จะมีเพื่อนฉันกลุ่มเดิม แล้วก็มีต้าร์กับปอนด์ กับเจตแล้วก็เพื่อนเจตที่เพิ่มมา เจตเป็นเพื่อนฉันมานานแล้วอย่างที่เคยบอก เจตก็รู้จักมิกกี้นะเพราะบ้านเรารู้จักกัน แต่ทว่าเจตไม่ค่อยชอบสนิทกับมิกกี้ และเจตไม่ชอบนิสัยเปรมเท่าไหร่

เจตเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดเยอะ ไม่ชอบเล่นอะไรที่ต้องใช้แรงหรือว่าแบบเด็กผู้ชายเล่นกันตั้งแต่เด็กแล้ว เขามักจะอยู่กับฉันมากกว่าจะไปเล่นกับมิกกี้ หรือกับเปรมน่ะ

เจตรู้ว่าฉันคุยกับเกียร์ ฉันสนิทใจเขาพอที่จะบอก และไหว้วานให้เขาทำธุระให้ และมั่นใจว่าเจตจะไม่เอาเรื่องของฉันไปเล่าให้มิกกี้หรือเปรมฟังแน่นอน

“ว้าย ยัยคุณหนูสวยมาก รู้เลยวันนี้ฉันดับแน่” พิงกี้จีบปากจีบคอพูดแล้วก็ส่งสายตาชื่นชมมาให้

“ฉันจับชีแต่งชุดนี้เพราะชุดชีไม่เหมาะเลย” น้ำหวานส่ายหัว “เริ่ดไหมล่ะ”

“ที่หนึ่ง” ขิงชมแล้วก็ยกนิ้วโป้งให้ เพื่อน ๆ ฉันน่ารักนะ พยายามซัพพอร์ตให้ฉันมีความกล้าที่จะแต่งตัวมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ไม่กดทับหรือด้อยค่าสิ่งที่ฉันใส่เป็นประจำด้วย “เกียร์ได้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นกว่าเดิมแน่ ยัยคุณหนูแซ่บพอ ๆ กับสาวที่มันเคยควง”

“บ้าน่า” ฉันส่ายหัวไปมาเบา ๆ

เราทั้งหมดได้โต๊ะหน้าเวทีสุด เริ่มสั่งเครื่องดื่มอะไรมา อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้ฉันไม่มีพ่อคนที่สองอย่างมิกกี้ตามคุม ฉันก็เลยเอ็นจอยเป็นพิเศษ แล้วเพื่อนคนอื่นก็สนุกเฮฮาด้วย เพื่อนเจตที่มาด้วยชื่อเมฆ เขาเข้ากับทุกคนง่ายและเอนเตอร์เทนเก่งพอกันกับต้าร์และปอนด์เลย

ฉันถูกเพื่อนเชียร์ให้ดื่มเหล้าพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เหล้าที่แรงอะไรหรอก จนเวลาร่วงเลยมาถึงช่วงใกล้ที่วงเกียร์เริ่ม เพราะวงแรกลงไปแล้วน่ะฉันเลยขอตัวมาห้องน้ำก่อน

ฉันอยากดูเกียร์ให้ตอนทั้งช่วงโดยไม่ถูกขัดจังหวะ เพราะเราก็รู้กันใช่ไหมล่ะว่าการดื่มเหล้ามันทำให้เราอยากเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น ฉันก็เลยมาเข้าก่อน อีกสิบนาทีวงจะขึ้นแล้ว

ทางมาห้องน้ำจะมีทางแยกที่ไปสามารถไปทางที่นั่งพักของพนักงานและห้องเก็บเครื่องดื่มได้ ตอนเดินเข้าห้องน้ำฉันยังไม่เห็นใครยืนอยู่แถวนั้น ฉันเลยเดินเข้าห้องน้ำไป แต่จังหวะที่เดินออกมา หางตาฉันเห็นว่ามีคนอยู่ตรงช่วงห้องเก็บเครื่องดื่มของร้าน ฉันเลยหันไปดูอีกทีและฉันเห็นเกียร์

ใช่ เกียร์นั่นแหละ เขาอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ มีผู้หญิงยืนอยู่กับเขาและกำลังจูบกันด้วย ภาพนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกแปล้บ ๆ ที่หัวใจ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เร็วพอที่จะเดินออกจากตรงนั้นก่อนที่เขาจะหันมาเห็น จะว่ายังไงดีนะ ฉันก็รู้สึกไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่รู้จะหึงหวงได้ไหม

เราไม่ได้เป็นแฟนกันอยู่ ณ ตอนนี้ ฉันยังไม่ให้เขาตอบเขา เราจึงยังมีสถานะเป็นแค่คนคุยกัน และเขามีสิทธิ์จะไปอะไรกับใครก็ได้แม้ว่าจะเคยบอกว่าจะไม่ทำแล้วก็ตาม

“เห้ย ๆ มินนี่เบาได้เบาลูก” พิงกี้ห้ามปรามตอนเห็นฉันกระดึกเหล้าอึก ๆ ทีเดียวหมด

“มินนี่คอแห้ง” ฉันแสร้งยิ้ม ฉันว่าข้อดีของฉันคือการเก็บสีหน้าเอาไว้ และคงโทนความสดใสไว้ได้ คุณแม่สอนเสมอว่าเราควรจะเก็บงำสีหน้าเอาไว้ให้คนอื่นคาดเดามากกว่าจะแสดงออกไปทั้งหมด

ฉันสามารถปฏิบัติกับคนอื่นได้ดี แต่กับเกียร์ ฉันแพ้เขาตลอดเลย

เรานั่งดื่มไปและคุยกันไปจนดนตรีวงของเกียร์ขึ้นเล่น เขามองฉันและส่งยิ้มมาให้ ในขณะที่ฉันนั้นไม่ได้ส่งตอบไปเหมือนทุกที แม้จะพยายามคิดว่าเราสองคนยังไม่ได้คบกัน แต่เขาก็ขอฉันเป็นแฟนแล้ว และฉันก็ตั้งใจจะมาให้คำตอบวันนี้คงต้องคิดใหม่สินะ

“ผัวเกียร์ของพิงกี้มาแล้ว” เที่ยงคืนเกียร์ลงมา ยัยพิงกี้ก็ไปพะเน้าพะนอเกียร์ทันที การที่เกียร์จีบฉัน แวะวมาหามาคุยทำให้เพื่อนสาวของฉันมีของเล่นเอาไว้หยอกเย้านะ และเกียร์ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรพิงกี้ที่เป็น LGBTQ+ และเล่นด้วยบ้างบางครั้ง

“ขอโทษนะครับ” จังหวะที่เกียร์กำลังจะหาเก้าอี้นั่งก็มีคนมาใหม่เข้ามา เป็นผู้ชายหน้าตาหล่อทีเดียว การมาของเขาทำให้เราทั้งโต๊ะสนใจ

“ว่าไงคะสุดหล่อ มีอะไรหรือเปล่าเอ่ย” พิงกี้มองเขา ส่วนเขามองมาที่ฉัน

“เธอคนนี้มีแฟนหรือยังครับ พอดีเพื่อนเราอยากได้ไลน์แต่ไม่กล้ามาขอ” เขาคนนั้นบุ้ยหน้าไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านหลังทำให้ฉันเอี้ยวตัวไปมอง โต๊ะนั้นมีผู้ชายอยู่สองคน แต่คนที่อยากได้ไลน์ฉันนั้นก็หล่อเหมือนกัน เขาพยักหน้าให้ฉันก่อนจะยกยิ้ม

“หล่ออ่า” น้ำหวานกระซิบ

“ได้ไหมครับ” เขาถามซ้ำ เกียร์มองฉัน ฉันสบตาเขาครู่หนึ่งและเกียร์กำลังเผยอปากพูด

“ไม่มีค่ะ” ฉันชิงตอบก่อนทำให้เขาคนนั้นส่งมือถือมาให้ ฉันใส่ไอดีของฉันลงไป ก่อนจะส่งกลับคืนไปให้ ซึ่งทำให้ทั้งโต๊ะที่รู้ว่าฉันกับเกียร์มีซัมติงกันนั้นเงียบสนิท

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • BET ON LOVE : เดิมพันรัก   ตอนที่ 17 เดิมพันรักครั้งที่ 17 [3/3]

    เดิมพันรักครั้งที่ 173/3“เออมินนี่ เปรมมันคบกับแก้วตาอยู่เหรอ” ไอถามฉัน ไอรู้จักเปรมอยู่แล้ว ส่วนแก้วตาเขาก็รู้จักฉันเพราะอย่างที่บอกว่าเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันก่อนจะมาเป็นแฟน ดังนั้นไอก็เป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนที่รู้เรื่องแก้วตา ซึ่งคนที่รู้ก็จะมีเจต ไอ ลิตา แล้วก็จีจี้ ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันตอนมัธยมสี่คนนี้เป็นเพื่อนกลุ่มฉันและไม่มีทางที่จะหลุดปากพูดเรื่องแก้วตาอยู่แล้ว“ทำไมถึงถามแบบนั้นเหรอ” ฉันถามกลับคืนเพราะสองคนนั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีทางโคจรมาคบกันได้หรอก ถึงแก้วตาจะชอบเปรมมานานแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าเปรมจะชอบเธอ เปรมเจ้ายศเจ้าอย่าง และเขารู้อยู่แล้วว่าแก้วตาเป็นลูกเมียน้อยพ่อฉัน“ก็วันก่อนที่ผับ เราเห็นว่าสองคนนั้นไปด้วยกันแล้วก็นัวพอสมควร”“มิกกี้ไปไหม” ไอสั่นหัวเบา ๆ แทนการตอบว่าไม่ไปกลับมา “มินนี่ก็ไม่รู้สิ ตั้งแต่ออกจากบ้านมาก็ไม่ได้คุยกับเปรมเลย มินนี่บล็อกเปมไปแล้วด้วย”“ถ้าคบกันนี่ว้าวเลยนะ คนอย่างไอ้เปรมอะ”“ว้าวมากเลยล่ะ ตั้งแต่เด็กเปรมแทบไม่เคยมองเห็นแก้วตาด้วยซ้ำต่อให้แก้วตาจะยืนตรงหน้าก็เถอะ” มันไม่ใช่คำพูดที่สะใจอะไรหรอก แต่ฉันอิงจากที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโต

  • BET ON LOVE : เดิมพันรัก   ตอนที่ 17 เดิมพันรักครั้งที่ 17 [2/3]

    เดิมพันรักครั้งที่ 172/3“น้องมินนี่” ฉันยิ้มให้พี่จ๋า เพื่อนของพี่เรย์ เธอวนรถมาจอดด้านหน้าพอดี วันนี้ฉันจะไปมหาลัยกับเธอเพราะว่าเธอจะทำธุระแถวนั้นพี่เรย์เลยฝากพี่จ๋าไปส่งฉัน “ยังจะไปกับพี่อยู่ไหมจ๊ะ แฟนมารับแล้วนี่”“ไปค่ะ” ฉันตอบพี่จ๋าไปอย่างไม่สนใจเกียร์ พี่จ๋าฟอลไอจีฉัน ย่อมรู้อยู่แล้วว่าแฟนฉันเป็นใคร“ไม่ไปกับแฟนแล้วเหรอ”“ไม่ค่ะ ไปกับพี่จ๋าดีกว่า” ฉันเดินวนไปขึ้นรถพี่จ๋าแล้วทำเหมือนเกียร์ไม่มีตัวตน และเกียร์ก็ดูไม่ดันทุลังเท่าไหร่ เขาคงรู้งว่าควรจะปฏิบัติตัวยังไงในเวลานี้พี่จ๋าเป็นเพื่อนตอนเรียนป.ตรีใบที่สองของพี่เรมี่ แต่เธอเด็กกว่าพี่เรย์ประมาณสี่ปีนะ แก่กว่าฉันสองปี ตอนพี่ชายฉันกลับมาเมืองไทยแล้วก็เลยหาอะไรทำด้วยการเรียนปริญญาตรีอีกใบเพื่อประชดพ่อน่ะ เพราะถึงแม้ตอนนั้นมิกกี้จะเข้าเตรียมทหารไปแล้วแต่พ่อก็หวังให้พี่เรย์เรียนตำรวจอยู่ดีพี่ชายฉันจบปริญญาโทไปแล้วแต่ก็ยังมาเรียนปริญญาตรีอีกใบที่เป็นบริหาร ทำให้เพื่อนที่เรียนที่ไทยของเขาจะเด็กกว่าอย่างพี่เตอร์ พี่ไปร์ท พี่ชมพู พี่พลอย พี่จูน แต่ทุกคนแก่กว่าฉันนิดหน่อยเอง ปีนี้พี่จ๋าก็อายุยี่สิบสี่ ส่วนพี่เรย์ก็อายุยี่สิแปดแล้ว ฉ

  • BET ON LOVE : เดิมพันรัก   ตอนที่ 17 เดิมพันรักครั้งที่ 17 [1/3]

    เดิมพันรักครั้งที่ 171/3“เธอปล่อยมินนี่ไว้บ้านคนเดียว แทบไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันเลยมินนี่พยายามคิดว่าเธอทำงานแต่สุดท้ายเธอก็มาทำแบบนี้” ฉันเกือบจะมีน้ำตาออกมาแล้ว “ถ้าเธอไม่ทำตัวแบบนั้นมินนี่ก็คงไม่เช็กเธอหรอกเกียร์ รู้ไหมว่าการอยู่แบบระแวงมันอึดอัดนะ”“มินนี่เคยเชื่อใจเกียร์กว่านี้ เคยเข้าใจเกียร์กว่านี้ แต่ถ้าเธอจะอึดอัดขนาดนั้นจะไปจากที่นี่ก็ได้นะมินนี่” เขาไล่ฉันเหรอ เขาไล่ฉันใช่ไหม......ฉันไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจที่อยู่กับเขานะ แต่อึดอัดใจที่ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มากกว่า ซึ่งฉันอยากให้เกียร์บอก หรือคุยกับฉันให้เข้าใจ ไม่ใช่แก้ปัญหาโดยการให้ฉันไปที่อื่นฉันมองตามแผ่นหลังเกียร์ที่เดินผ่านไปหลังจากพูดจบ เขาดูหงุดหงิดและงุ่นง่านใจ ส่วนฉันก็รู้สึกหน่วงแบบบอกไม่ถูก อาจจะเพราะฉันไม่คิดมั้งว่าเกียร์จะพูดกับฉันอย่างนี้เขาหายไปในห้องน้ำเข้าใจว่าอาจจะไปอาบน้ำก็ได้ ส่วนฉันก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบชุดมาสองสามชุดและชุดนักศึกษาเพื่อจะต้องใส่เรียนพรุ่งนี้ด้วยจะหาว่าฉันเล่นใหญ่ก็ได้นะ แต่เข้าใจความรู้สึกของการใช้อำนาจในการเป็นเจ้าของพื้นที่ไหม เกียร์ไล่ฉันแบบนี้ได้ กล้าพูดแบบนี้ได้เพราะเขาเป

  • BET ON LOVE : เดิมพันรัก   ตอนที่ 16 เดิมพันรักครั้งที่ 16 [3/3]

    เดิมพันรักครั้งที่ 163/3“พี่เขายังหามือกลองไม่ได้เลย อีกอย่างช่วงนี้ลูกค้าก็คิวแน่นมากอีก”“ค่ะ” ฉันตอบรับสั้น ๆ แล้วไม่ได้หันไปมองเขา“งอนเหรอ เกียร์ถามมาทั้งที่ก็รู้อยู่”“เปล่าหรอก ร้านคนเยอะนี่ รีบไปดูเถอะ” ฉันมีความน้อยใจปนอยู่ และหวังว่าเกียร์จะรับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน แต่เปล่าเลย ฉันไม่รู้ว่าเขาออกไปตอนไหนเพราะฉันไม่ได้หันหลังไปมอง แต่ว่ารู้อีกทีเสียงรถก็ดังซึ่งบ่งบอกว่าเขาออกไปแล้วฉันถอนหายใจก่อนจะเดินไปเอากู๊ฟฟี่มาอาบน้ำ ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าฉันกับเกียร์เหินห่างกันเกินไป เราไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกันเลย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นฉันก็พยายามบอกตัวเองไม่ให้ระแวงนะ ฉันรักเกียร์แล้วก็ไม่อยากให้เราต้องมามีปญหากันเพราะความน้อยอกน้อยใจของฉันหรอก“หวาน เดี๋ยวหวานแวะส่งมินนี่ที่ร้านเกียร์ก็ได้นะ เกียร์บอกมินนี่ว่าอยู่ร้านหวานจะได้ไม่ต้องเลยไปส่งมินนี่ที่บ้าน” ฉันบอกน้ำหวานในวันถัดมาซึ่งเป็นวันที่เราต้องนัดกันทำวิจัย ฉันไปทำงานกับหวานเสร็จแล้วหวานก็อาสามาส่ง แต่หอหวานมันอยู่ก่อนถึงบ้านฉันน่ะ แต่ร้านเกียร์อยู่ถึงหอหวาน“งั้นก็ได้ เราก็ขี้เกียจยูเทิร์น” ฉันพยักหน้ารับให้กับเพื่อนก่อนที่น้ำหวา

  • BET ON LOVE : เดิมพันรัก   ตอนที่ 16 เดิมพันรักครั้งที่ 16 [2/3]

    เดิมพันรักครั้งที่ 162/3“คุณแม่เคยเห็นแม่หนูตอนสาว ๆ ด้วยเหรอคะ”“ตอนสาว ๆ เคยเห็นแต่ในรูปจ้ะ” คุณแม่ว่าแล้วก็ยิ้มเหมือนเคย ส่วนคุณพ่อดูจะไม่ได้อยากจะร่วมวงสนทนากับเราเท่าไหร่นัก “ตัวจริงได้มาเจอครั้งแรกก็ตอนพ่อเกียร์ย้ายกลับมาประจำที่กรุงเทพล่ะจ้ะ เจอกันที่งานเลี้ยงรุ่นเตรียมทหาร ตอนที่จัดเมื่อก่อนพ่อเขาไม่ได้มาเพราะไปประจำการอยู่ต่างจังหวัด”ตอนนั้นฉันอยากถามว่าแม่เกียร์นะว่าเคยเห็นรูปแม่ฉันตอนสาว ๆ จากไหนแต่ก็ไม่ได้ถามเพราะอาหารมาเสิร์ฟพอดีน่ะเราสี่คนทานข้าวแล้วก็พูดคุยกันไป ฉันคิดว่าเขาน่าจะรู้สึกโอเคกับพ่อแม่เขามากแล้ว ดูไม่ค่อยต่อต้านเท่าช่วงแรกที่กลับมาคุยกัน อาจจะเป็นเพราะว่าพ่อกับแม่เกียร์แสดงออกให้เห็นถึงความอ่อนโยนและเข้าอกเข้าใจลูกมากขึ้น ดูจากมุมมองเขาน่ะนะเราจะอยู่มัลดีฟส์กันประมาณสี่คืนห้าวัน เป็นทริปที่ฉันอยู่แล้วมีความสุขมาก เราไปดำน้ำ ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ฉันเองก็เห็นว่าเกียร์มีความสุขมากเลยล่ะ ฉันได้ทำผมให้แม่เกียร์ ได้พูดคุยกระชับความสนิทสนมขึ้นมาอีก ท่านใจดีและน่ารักกับฉันมากเลย“คุณแม่เห็นเกียร์ไหมคะ วันที่สามฉันออกมาเดินตามหาเกียร์เพราะหลังจากไปดำน้ำมาแล้วฉั

  • BET ON LOVE : เดิมพันรัก   ตอนที่ 16 เดิมพันรักครั้งที่ 16 [1/3]

    เดิมพันรักครั้งที่ 161/3Minnie Pharita Talk“เป็นอะไร หน้าบูดหน้าบึ้ง” ฉันถามเกียร์ตอนที่เขายกข้าวต้มมาให้บนห้อง ฉันไม่สบายเพราะเมื่อวานไปเล่นน้ำมาแล้วก็แช่น้ำในอ่างเกือบชั่วโมง แถมยังนอนทั้งที่แอร์ในห้องยังฉ่ำ แล้วก็เกียร์รังแกฉันจนเกือบตีสาม ฉันหลับไม่เต็มตื่นก็เลยป่วยเช้านี้ฉันตื่นมาแล้วก็เห็นว่าเกียร์ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี ฉันคิดว่าเขาจะหายหงุดหงิดเรื่องเมื่อวานแล้วซะอีกนะ เพราะเมื่อคืนก็เธอคะเธอขาทั้งคืนไปแล้ว“ยังไม่หายงอนอีกหรือไงล่ะ” ฉันบ่น ๆ ใส่ ทั้งที่คนที่งอนหนักกว่ามันคือฉันนะ ฉันก็ยังคิดว่าตัวเองหายงอนแล้วเลยเพราะถ้าไม่หายเกียร์ก็คงพยายามจะง้อฉันต่อ ฉันอาจจะตายได้เพราะการง้อของเขา“ใช่” เกียร์ตอบสั้น ๆ “เธอจะทิ้งเกียร์อะมินนี่”“ทิ้งอะไร เดินลงจากเตียงจะไม่ไหวเลย” ฉันว่าด้วยน้ำเสียงติดแหบหน่อย ๆ เพราะมันเจ็บคอแล้วก็ปวดตัวไปหมด ฉันไม่อยากจะกินข้าวด้วยซ้ำแต่ก็ต้องฝืนเพื่อให้ตัวเองมีแรง ไม่อย่างนั้นมะรืนอาจจะไม่ได้ไปมัลดีฟส์น่ะ ฉันอยากจะไปมัลดีฟส์จริง ๆ นะ“เธอจะทิ้งเกียร์กับลูก” เขาย้ำ ส่วนฉันก็มุ่นคิ้วมอง“อะไรเธอ พูดอะไร” ฉันถามแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ“เธอกินข้าวนะจะได้มีแรง นอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status