LOGINพ่อกับแม่บอกว่าฉันเป็นลูกสาวที่มีค่ามากมายสำหรับท่าน แต่กับผู้ชายคนหนึ่ง ฉันมีค่าเป็นเพียงหมากในเกมเดิมพันของเขาเท่านั้นเอง
View Moreเดิมพันรักครั้งที่ 0
บ่ายอ่อน ๆ ณ ลานหน้าตึกเรียนของคณะบริหาร ปกติแล้วลานนี้จะเป็นลาโล่งและสามารถจอดรถจักรยานยนต์ได้ แต่วันนี้ต่างออกไปเพราะมีกิจกรรมที่ทางสโมสรนักศึกษาของคณะจัดขึ้น มีตลอดขนาดย่อม เวทีแสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรมร่วมสนุกด้านบน
แต่ละสาขา และแต่ละชั้นปีของคณะมีร้านจำหน่ายสินค้าของตัวที่ต่างคนต่างคิดมา ซึ่งคนที่รับผิดชอบดูแลร้านก็จะมีประมาณสี่ถึงห้าคนช่วยกันเพื่อนไม่ให้ร้าดแออัดเกินไป มีร้านของเหล่าคณะจารย์ที่มาร่วมด้วย ร้านของชมรมที่ทำในคณะซึ่งก็หลายร้านมากพอที่แปลงให้ลานนี้กลายเป็นตลาดขนาดย่อม
คณะบริหารเป้นอีกหนึ่งคณะที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของมหาลัย และด้วยทำเลที่ตั้งของตัวตึกก็ทำให้คนนักศึกษาในคณะอื่นที่ผ่านไปมานั้นเห็นงานที่จัดแล้วเข้ามาร่วมด้วย ทำให้วันนี้คนแน่นขนัดที่ลานหน้าคณะกว่าปกติ และกิจกรรมบนเวทีที่ ตอนนี้มีการประกวดร้องเพลงของผู้ที่สนใจสมัครก็กำลังดำเนิน
ร้านที่ดูจะขายดิบขายดีที่สุดในลานนี้คงหนีไม่พ้นร้านขายน้ำ มีน้ำเปล่า น้ำอัดลมกระป๋อง และน้ำผลไม้ ร้านนี้เป็นของสาขาการจัดการ ชั้นปีที่สาม ซึ่งเลือกที่จะทำขายน้ำแบบนี้เพราะมันสะดวกดี แค่เช่าตู้แช่มาใส่น้ำแล้วก็รอรับเงินอย่างเดียว
แถมกลยุทธิ์เรียกลูกค้าก็เอาหนุ่มหน้าตาดี (ตามบิวตี้สแตนดาร์ด) มาเป็นจุดขาย รองลงมาจากร้านนี้ก็คงเป็นร้านขายขนมของสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ เห็นว่าขายขนมขับเคี้ยวและพวกคุกกี้ อะไรทำนองนั้น แต่ว่าร้านอื่นก็ขายดิบขายดีไม่แพ้กัน
งานนี้ถือว่าเป็นจุดขายของคณะที่เด็กต่างคณะอยากเข้าร่วมเป็นอย่างมากรองลงมาจากงาน Freshman night ของคณะที่มีคอนเสิร์ตใหญ่ของมหาลัย
“รับอะไรดีครับ” เสียงของเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงหน้าร้านเอ่ยปากทำให้ สถิรวิชญ์ ปรีดาพรรณ หรือ เกียร์ นักศึกษาชายชั้นปีที่สามของสาขาการจัดการที่ประจำอยู่หน้าร้านกับเพื่อน ละสายตาจากมือถือขึ้นมามอง ตอนนี้ลูกค้าไม่รุมเหมือนตอนแรกแล้วอาจจะสนใจกิจกรรมบนเวทีอยู่
การมาของลูกค้าคนนี้ทำให้เหล่าผู้ชายที่ตอนแรกสนใจมือถือมองเธอเป็นตาเดียว
“น้ำเปล่าสองขวดแล้วก็โค้กสองกระป๋องค่ะ” เสียงหวาน ๆ ของลูกค้าสาวมาใหม่นั้นเป็นของ ภริตา ธาดากิตติกุล หรือมินนี่ นักศึกษาชั้นปีที่สามของสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ
เธอเป็นดาวสาขาของเธอตอนปีหนึ่ง ดาวคณะตอนปีนั้นและรองดาวมหาลัย คนในคณะน่าจะรู้จักเธอบ้างประปราย รูปสแตนดี้หน้าตึกที่เป็นแบบอย่างของการแต่งกายก็เป็นรูปเธอคู่กับเดือนสาขา เดินเข้าออกคณะก็คงจะเห็นรูปนั้นอยู่ประจำ
เหล่าเพื่อนผู้ชายของเกียร์ชอบพูดว่ามินนี่สวยเหมือนนางฟ้า อะไรทำนองนั้น มันก็ไม่ได้ดูเว่อร์เกิดเหตุหรอก ในเมื่อเธอทั้งหน้าตาดีตามมาตรฐานที่สังคมเคยกำหนด และปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตราฐานนั้นฝังรากลึกลงไปจนยากที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงในทันที
มินนี่เรียนเก่ง นิสัยดี ตัวเล็ก ยิ้มหวานแถมลักยิ้มที่แก้มซ้ายของเธอมันทำให้รอยยิ้มหวาน ๆ ของเธอดูน่ามองขึ้นไปอีก บวกกับภาพลักษณ์บอบบางน่าทะนุถนอมนั้นก็ยิ่งทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนปราบปลื้มเธออยู่พอสมควร เพื่อนของเธอชอบเรียกว่าคุณหนูเสียจนติดปาก
แต่ก็คงจะไม่น่าแปลกใจอะไร บ้านของมินนี่ร่ำรวย พ่อเป็นนายตำรวจยศใหญ่มากที่อาจจะได้เป็นผบ.ตร.ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แม่ของเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบริษัทผลิตและนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่ แถมครอบครัวฝั่งยายยังมีเชื้อเจ้าอีก เรียกได้ว่าเป็นชันนั้นElite ของแท้ตามแบบฉบับนิยาม
“มินนี่ตัวหอมมาก” เพื่อนในกลุ่มของเกียร์อย่างลมเอ่ยปากหลังจากสาวเจ้าเดินจากไปจากซุ้มขายน้ำแล้ว เพื่อนหน้าแดงน้อย ๆ “ขี้โกงจังวะ หน้าตาก็สวย ชื่อก็น่ารัก”
“เว่อร์มาก” แก้วตา ศิวารัตน์ หรือแก้วตา เบ้ปากใส่ลมอย่างไม่ชอบใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนชายกล่าวชมหญิงสาวคนสวยที่พึ่งจากไป
“เก็บสายตาขี้อิจฉาหน่อยจ้า” เหมยเพื่อนอีกคนแซะอย่างอดไม่ได้ ดูเหมือนจะดูออกมาสักพักแล้วว่าแก้วตาคนนี้ดูอคติอะไรในใจกับมินนี่ สาวสวยร่วมชั้นปีแต่ต่างสาขาคนนั้น
“จะอิจฉาทำไมก่อน” แก้วตาบตอบแล้วก็สะบัดหน้าหนีไป การสนทนาและการถกเถียงทุกอย่างอยู่ในโสตประสาทการับรู้ของเกียร์ตลอด เขาก็เห็นด้วยกันเพื่อนว่ามินนี่นั้นสวยมาก
เกียร์ไม่เคยปฏิเสธความสวยของเธอที่โดดเด่นสะดุดตา แต่เขาไม่ได้อะไรมากมายเพราะเธอกับเขาเหมือนอยู่คนละวงโคจรกันแม้จะอยู่ใกล้กันแค่นี้
เกียร์ชอบควงผู้หญิงที่ออกแนวเซ็กซี่ ร้าย ๆ และดูเผ็ดมากกว่าสาวหวานหยดย้อยแบบมินนี่ คู่ขาของเขารวมถึงคนที่เคยร่วมหลับนอนกันก็มีแต่แนวนั้น แต่ไม่นานมานี้เขาก็เกิดสนใจเธอขึ้นมา
อาจจะเพราะมินนี่ ภริตาคนนั้นกำลังเป็นที่หมายปองของอริเขาที่เคยมีเรื่องกัน
แม้เกียร์จะไม่ชอบการมีเรื่อง แต่เขาค่อนข้างเป็นคนสู้คนและเจ้าคิดเจ้าแค้อยู่ในระดับหนึ่ง หลายเดือนก่อนเขามีเรื่องกับ ปกรณ์ เปี่ยมณรงสุข หรือเปรม หนุ่มนักเรียนนายร้อยตำรวจ และลูกชายนายตำรวจยศใหญ่ที่สุดของสายงาน สาเหตุมาจากความเข้าใจผิดกัน
เขาโดนเปรมต่อยหน้าไปสองครั้ง เนื่องจากจับได้ว่าแฟนสาวของเขาแอบมามีสัมพันธ์ทางกายกับเกียร์ ซึ่งย้อนไปเมื่อสองเดือนก่อนเกิดเหตุ เป็นช่วงฝึกงานในเขตต่างจังหวัดของเปรม ต้องไปประจำอยู่ที่ต่างจังหวัดหลายสัปดาห์ และแฟนสาวของเขาไปเที่ยวแล้วได้พบกับเกียร์ที่เป็นนักดนตรีในร้าน
เกิดพูดคุยกันถูกคอแล้วไปต่อกัน แฟนสาวของเปรมไม่ได้บอกว่ามีแฟนหนุ่มอยู่แล้ว และเกียร์เองก็ไม่ได้สนใจจะไปตามดูโซเชียลอะไรของเธอเพราะมีสัมพันธ์ทางกายกันแบบข้ามคืนเท่านั้น
แต่หลังจากมีอะไรกันครั้งแรกหญิงสาวก็เกิดชอบพลอเขาขึ้นมาเลยมาที่ร้านอีก แล้วก็ได้มีสัมพันธ์กัน แค่สามครั้งและเปรมแฟนหนุ่มของเธอจับได้ แม้จะรู้จากปากแฟนสาวที่รับสารภาพว่าโกหกเกียร์ว่าโสดแต่เขาก็ยังไม่วายพาเพื่อนไปหาเรื่องเกียร์จนต่อยตีกัน
ซึ่งหนึ่งในเพื่อนที่มีเรื่องกันวันนั้นคือ ภชร ธาดากิตติกุล หรือมิกกี้ พี่ชายของมินนี่สาวสวยคนนั้น
เปรมไม่ได้รักแฟนขนาดนั้น ไม่ได้เสียใจที่แฟนนอกใจ แต่เขาแค่ไม่ชอบที่ตัวเองถูกหมิ่นศักดิ์ศรี อาจจะสังคมของเขาหล่อหลอมและบ่มเพาะมาเป็นแบบนั้น พ่อเขาเป็นนายนายตำรวจใหญ่ แม่เป็นลูกของนักการเมืองดังและเคยเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่เขาจึงเหย่อหยิ่งและถือตัวพอสมควร
ถึงการต่อยตีกันในครั้งนั้นจะไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่นั่นก็ทำให้เกียร์และเปรมเกลียดขี้หน้ากันเข้าไส้ แม้จะผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่เกียร์ยังจำและอยากหาวิธีเอาคืนเปรมอยู่ตลอด
ไม่รู้สิ อาจจะเพราะเกียร์รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ผิดขนาดนั้น เพราะแฟนสาวของเปรมบอกว่าโสด และเขาไม่ใช่คนชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของอยู่แล้ว ถ้าหากตอนนั้นแฟนสาวของเปรมบอกเขาว่ามีแฟน เขาสาบานให้ฟ้าผ่าตายว่าคงไม่ยุ่งด้วย
แต่ไม่นานมานี้เกียร์ก็ได้รู้บางอย่างมาจากเพื่อนว่าเปรมกำลังชอบมินนี่อยู่ ครอบครัวของเปรมกับมินนี่รู้จักกัน และเปรมก็บอกว่าผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วยคือมินนี่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเปรมถึงไม่ไดอะไรกับหญิงสาวที่เขาคบขนาดนั้นนอกจากรู้สึกเสียศักดิ์ศรี
อาจจะเพราะเขามีคนที่ต้องแต่งงานด้วยอยู่แล้ว และฐานะทางสังคมก็เหมาะสมกัน ถ้าสองคนนี้แต่งงานกันก็คงจะทำให้ตำแหน่งในอนาคตของพ่อมินนี่มั่นคงมากขึ้น เส้นทางการเมืองของพ่อมินนี่คงจะโรยด้วยกรีบกุหลาบ ซึ่งไม่ใช่กุหลาบธรรมดานะ อาจจะเป็นกุหลาบเพชรเลยก็ได้
“วันนี้แก้วเห็นนะว่าเกียร์มองยัยมินนี่ไม่เลิก” ตอนที่เกียร์พรูควันบุหรี่ออกจากปากเขาก็หันมาเห็นแก้วตา เพื่อนในกลุ่มของเขา “สนใจยัยนั่นเหรอ”
“.....” เกียร์ไม่ได้ตอบแต่ยักไหล่เบา ๆ
“ถ้าสนใจก็คงจะไม่ได้หรอกนะ ยัยนั่นมีคู่หมายอยู่แล้ว” แก้วตาหยิบบุหรี่ออกมาเช่นกัน ตอนนี้เขาสองคนยืนอยู่หลังคณะที่ด้านหลังมีกำแพงและไม่มีคนพลุกพล่าน “แต่ต่อให้ไม่มีเกียร์ก็คงจีบไม่ติด”
“ทำไม” เกียร์ส่งเสียงถามห้วน ๆ พร้อมกับอัดนิโคตินเข้าปอดอีกเฮือก
“ก็น่าจะรู้กัน ยัยนั่นคงไม่ได้ชอบแบบเกียร์หรอกมั้ง ถือตัวจะตายไป” เธอเบ้ปากหลังจากพรูควันออก ท่าทางของแก้วตานั้นดูเหมือนจะไม่ชอบมินนี่เอามาก ๆ “คนที่ครอบครัวยัยมินนี่อยากให้คบด้วยก็เปรมไง คนที่มีเรื่องกับเกียร์น่ะ”
“อาฮะ” เกียร์ส่งเสียง วันนั้นที่เปรมมาหรือเรื่องแก้วตาและลมก็อยู่ในเหตุการณ์พอดี
“สองคนนั้นใคร ๆ ก็บอกว่าเหมาะสม ถึงสำหรับแก้วจะมองว่าเกียร์หน้าตาดีกว่าเปรมก็เถอะนะ” แก้วตาพูดติดตลกก่อนจะอัดบุหรี่เข้าไปอีกครั้ง “ถึงเกียร์จะหล่อนะแต่แค่นี้คงจีบยัยนั่นไม่ติดหรอกมั้ง คิดภาพไม่ออกเลยล่ะว่ายัยนั่นจะได้คุยกับเกียร์ยังไง เลิกสนใจยัยนั่นซะเถอะ”
“เรื่องของเราไหม?” คำพูดชายหนุ่มทำให้แก้วตาหุบยิ้มไปอึดใจก่อนจะยกยิ้มอีกครั้ง
“ทำไมเหรอ เกียร์คิดว่าจะจีบติดเหรอ” แก้วตามองด้วยแววตาที่คล้ายจะเป็นประกายอยู่ลึก ๆ “แต่ก็นะ เกียร์คงทำไม่ได้หรอก พ่อแม่ยัยนั่นหวงจะตายไป แถมยัยนั่นยังเวอร์จิ้นด้วยคงไม่หลงกลเกียร์หรอก”
เกียร์มองแก้วตาอย่างสงสัย แก้วตาดูรู้เรื่องของมินนี่พอสมควร แต่ในขณะเดียวกันก็ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลก มินนี่ดูท่าจะยังซิงอยู่จริง ๆ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจตรงนั้น เขาไม่ได้ยึดติกกับความซิงของผู้หญิง
“พนันกันไหมล่ะ เราว่าแค่เกียร์จีบก็ไม่ติดแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นเปิดซิงหรอก คิก ๆ” ท้ายประโยคแก้วตาหัวเราะคิกคัก ดูท่าทางอวดดีอยู่ไม่น้อย “แต่ถ้าเกียร์จีบติดแล้วได้มีอะไรกับยัยนั่นน่ะ เรายอมเกียร์ทุกอย่างเลยนะว่าไม่ว่าจะอยากได้อะไร having sex กันก็ได้ สนใจไหมล่ะ”
“....” เกียร์ไม่ตอบแต่ยกยิ้มมุมปากแล้วโคลงหัวเบา ๆ เกียร์ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ท่าทางอย่างนั้นทำให้แก้วตาคิดว่าหนุ่มหล่อคนนี้อาจจะตกลง
สำหรับเกียร์ แก้วตาไม่ใช่สเปคเขาเหมือนกัน แต่ก็เคยแซวเล่นกันขำ ๆ อยู่บ้าง และต่อให้แก้วตาไม่มาท้าเขา เขาก็ยังจะจีบมินนี่อยู่ดี แต่ถ้ายิ่งมาท้าพนันก็ยิ่งทำให้ท้าทายขึ้นมา
“ดีจะตายนะ ถ้าเกียร์จีบติดอาจจะได้เปิดซิง แถมยังได้ปาดหน้าเปรมอีก สองเด้งเลย” แก้วตายังคงพูดต่อในขณะที่เกียร์ทิ้งก้นบุหรี่ลงกับพื้น “แต่อาจจะยากยนะ เพราะฐานะของเกียร์กับมินนี่ต่างกันมากนี่นา ยัยนั่นน่ะถือตัวจะตายไปนะคงทำไม่สำเร็จหรอก”
มือเล็กตบบ่าเขาและทำเหมือนทำนายได้ว่าเขาคงทำไม่สำเร็จจริง ๆ เกียร์รู้ว่าตอนนี้เขากับมินนี่อาจจะต่างกันมั้ง... แต่เขาไม่ชอบคนมาดูถูกแบบนี้ กี่ครั้งแล้วในห้วงสนทนาที่คนตรงหน้าดูถูกเขา
“จำคำพูดของตัวเองไว้ให้ดีล่ะ” เกียร์ใช้มือขวาปัดมือแก้วตาที่วางอยู่บนไหล่ของเขาออก ก่อนจะเดินผ่านหน้าเธอไป แต่วูบหนึ่งเขาก็เห็นแววตาที่ผสมความเหยียดหยันของเธออยู่
เขารู้ว่าฐานะมินนี่ร่ำรวยและมีอำนาจบารมี เรารู้ว่าตอนนี้เขาคงเทียบเธอไม่ได้ในสายตาคนอื่น แต่พอมีคนมาดูถูกเขาก็รู้สึกถูกกระตุ้น สองครั้งแล้วที่คนดูถูกเขาแบบนี้ แก้วตาบอกว่าเขากับมินนี่ต่างกัน เปรมบอกว่าเขานอกจากหน้าตาก็คงไม่มีอะไรดี
มันก็อาจจะจริงเพราะในสายตาคนอื่นเขาทำงานเป็นนักดนตรีกลางคืน และใช้เงินจากการหามาได้ดำรงชีพ ไม่ใช่แค่เปรมที่หยิ่งในศักดิ์ศรี แต่เกียร์ไม่ต่างกัน
กับอีแค่จีบผู้หญิงคนเดียวก็คงไม่ได้ไกลเกินเอื้อมขนาดนั้นหรอก แล้วยิ่งถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่เข้าเกลียดขี้หน้าหมายปองแล้วด้วย ก็คงจะน่าลองและน่าสนุกเหลือเกินล่ะ....
Special of special - Iคุณพ่อและลูกสาวGear Sathiravich Talk“เทียน่าขา วันนี้คุณแม่ไม่อยู่นะคะ” ผมมารับลูกสาววัยสี่ขวบที่โรงเรียน ปกติแล้วผมกับแม่เขาสลับกันมารับ ไม่ก็มารับด้วยกันบ้างหากช่วงบ่ายผมไม่มีงานอะไรสำคัญ แต่วันนี้ผมมาคนเดียวเพราะมินนี่ต้องไปต่างจังหวัดเป็นเพื่อนแม่ของเธอ“คุณแม่ไปไหนคะ” ลูกสาวตาแป๋วที่ถอดแบบมินนี่มาอย่างกับแฝดมองผมแล้วกอดตุ๊กตาเจ้าหญิงในมือ ผมมองความเรียบร้อยของลูกว่านั่งเรียบร้อยดีหรือไม่แล้วก็รัดเข็มขัดตัวเองไปพลาง“คุณแม่ไปต่างจังหวัดเป็นเพื่อนคุณยายค่ะ” ผมบอกกับลูกสาวแล้วก็ยิ้มให้เธอ “วันนี้คุณพ่อพาเทียน่าทานข้าวนอกบ้านแล้วก็จะซื้อของเล่นให้หนึ่งชิ้นแต่หนูห้ามงอแงนะคะ”“โอเคค่า” ลูกสาวยกมือทำท่าโอเคที่ผมจะพาออกรถไปเทียน่าเป็นเด็กเลี้ยงง่าย แต่ค่อนข้างติดคุณแม่มาก มินนี่เป็นผู้หญิงนิ่มนวลและอ่อนโยน เธอเลี้ยงลูกได้ดีมาก ๆ แต่ทว่าเมื่อถึงคราวที่ต้องดุหรือสอนลูกเธอก็ไม่ได้หย่อนยานจนเกินไป เรียกได้ว่าเป็นคนที่รู้จังหวะมากพอสมควรเลย แต่ลูกก็ติดผมนะหลังจากรับเทียน่าที่โรงเรียนแล้วก็แวะมาที่ห้างแห่งหนึ่งแถว ๆ บ้าน วันนี้ผมอยู่กับลูกสองคน มินนี่บอกผมว่าถ้าเกิด
เดิมพันรักครั้งที่ 213/3วันถัดมาในตอนสายฉันกับเกียร์ออกจากอ๊อกฟอดไปที่ยอร์กกัน ยอร์กเป็นเมืองบ้านเกิดของยายเกียร์ ต้นตระกูลของยายเกียร์เป็นคนฮังการีแต่ยายมาอยู่ที่อังกฤษก่อนยายเกียร์จะเกิด คุณทวดของเกียร์ก็พบรักกันที่นี่แล้วก็เลยมียายของเกียร์ออกมาเป็นลูกครั้งไทยฮังการี เชื้อสายอังกฤษยังไงล่ะยายของเกียร์เกิดแล้วก็อยู่ที่อังกฤษประมาณสิบปีก่อนจะย้ายไปเติบโตที่เมืองไทยจนได้พบกับคุณตาของเขาซึ่งเป็นไทยแท้จนออกมาเป็นแม่เกียร์ แล้วก็มาเป็นเกียร์อีกทีคุณยายของเกียร์ได้รับมรดกจาคุณทวดของเกียร์อีกทีเป็นบ้านพร้อมกับที่ดินที่ขนาดใหญ่พอสมควร แต่ไม่ค่อยมีคนมาอยู่หรอก แล้วท่านก็ไม่ให้คนเช่าด้วยเพราะกลัวจะทำข้าวของเสียหาย เลยให้คนมาดูแลเอาไว้ ซึ่งเกียร์เคยบอกว่าจะพาฉันมานานแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาสสักทีพอมาถึงก็รูได้เลยว่านี่ไม่ใช่บ่านธรรมดา แต่มันคือคฤหาสน์ต่างหากมาถึงเราก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการนอนพักเพราะมันค่อนข้างไกลเลย เดินทางประมาณเกือบสี่ชั่วโมงแหนะ พอมาถึงฉันกับเกียร์ก็หลับเป็นตายเลย สายของวันถัดมาก็ตื่นสายมากเลยด้วย แต่เหมือนว่าเกียร์จะตื่นก่อนนะ เราทานข้าวเช้ากันแล้วก็ไม่มีแพลนจะออกไปไหน
เดิมพันรักครั้งที่ 212/3“มินนี่ เป็นยังไงบ้าง ตอบกลับหาเกียร์หน่อยนะ เธอสอบผ่านไปแล้วหรือยัง เกียร์เป็นห่วงเธอนะเดี๋ยวเสร็จงานแล้วเกียร์รีบโทรไปหา” ช่วงพักเบรกตอนประมาณหกโมงเย็นผมส่งข้อความเสียทิ้งไว้ให้มินนี่เพราะเธอยังไม่อ่านและไม่ตอบข้อความในตอนบ่ายเลยผมแค่กังวลว่ามินนี่จะเป็นอะไรไหม คือถ้าเธอมีธุระจะต้องไปทำต้องไปทำต่อเธอต้องส่งข้อความทิ้งไว้ก่อน ไม่ใช่หายไปเลยแบบนี้ทั้งวันน่ะ“See you on Wednesday, Gear” (ไว้เจอกันวันพุธนะเกียร์) ปีเตอร์ เพื่อนที่เรียนคลาสปริญญาโทด้วยกันแล้วเขาติดรถของผมมาที่งานด้วยบอกตอนผมแวะส่งเข้าที่บ้าน“See you” (ไว้เจอกัน) ผมบอกก่อนจะขับรถออกมา ผมน่ะอยากกลับถึงที่พักเร็ว ๆ เพื่อที่จะได้โทรมามินนี่แล้ว ปกติถ้าเธอไปไหนมาไหนกับเพื่อนอย่างน้อยก็จะมีสตอรีลงโซเชียลนะ แต่นี่เล่นไม่ตอบข้อความ แล้วหายไปเลยทั้งวันแบบติดต่อไม่ได้มันแปลกไปห้องที่ผมอยู่เป็นอพาร์ทเม้นสองห้องนอน ตอนมาแม่ให้คนจัดการให้แล้ว มินนี่เคยมาหาที่นี่หนึ่งครั้งเมื่อสามเดือนก่อน ผมคิด ๆ อยู่ว่าถ้าคืนนี้ติดต่อไม่ได้ผมอาจจะไปหาเธอที่โน่นเพราะวันนี้เป็นสันศุกร์ และผมจะหยุดยาวไปจนถึงวันพุธเช้าเลยระ
เดิมพันรักครั้งที่ 211/3Gear Sathiravich Talk“เธอ ทำอะไรอยู่คะ” ผมมองมินนี่ผ่านกล้องในเย็นของคืนวันศุกร์ ที่อังกฤษตอนนี้พึ่งหนึ่งทุ่มแล้ว ที่ฝรั่งเศสของมินนี่อาจจะสักสองทุ่มได้ เวลามันต่างกันประมาณหนึ่งชั่วโมง มินนี่บอกผมว่าอาบน้ำเสร็จแล้วแต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะแต่งงานหน้า “เธอจะออกไปไหนเหรอ”[เมื่อเย็นพี่ที่โรงเรียนชวนไปกินเลี้ยงเพราะพี่เขาจบคอร์สแล้ว มะรืนเขาจะบินกลับบ้านที่ญี่ปุ่นค่ะ] เธอพูดระหว่างที่กำลังคบคูชั่นลงบนผิว ผมยู่ปากอย่างหน่าย ๆ เพราะช่วงนี้มินนี่ไม่ค่อยมีเวลาให้ผมเลย มินนี่อยู่ในช่วงใกล้จบคอร์สเรียนอาหารฝรั่งเศส และเธอมีแพลนจะเรียนทำอาหารอิตาเลี่ยนต่อ“ไปอีกแล้วเหรอ วันก่อนเธอก็ไปนะคะ” มินนี่อมยิ้มแต่ก็ไม่ได้หลุบตามองผม[พรุ่งนี้ก็ไม่ไปแล้วเธอ วันนี้มินนี่ไปแค่สองชั่วโมงค่ะ] ผมถอนหายใจ มินนี่น่ะเที่ยวบ่อยมากช่วงนี้ ในขณะที่ผมอยู่ในช่วงต้นเทอมสองของการเรียนปริญญาโทซึ่งที่อังกฤษจะใช้เวลาเรียนหนึ่งปี คอร์สมันค่อนข้างหนักแต่ผมก็อยากจะให้เสร็จภายในปีเดียวเพราะอยากกลับไทยแล้ว [เธองอนหรือไงล่ะ]“ไม่ได้งอน แต่น้อยใจเธอมากกว่า เธอเที่ยวเก่งมากช่วงนี้” ผมไม่ได้โอเวอร์นะ แต่





