จุดเริ่มต้น
@มหาวิทยาลัย
พายุนั่งอยู่ใต้อาคารเรียนด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ได้เจอเธอคนนั้นอีกครั้ง หลังจากที่เขาไม่เคยสู้หน้าอดีตคนรักอย่างยูกิได้เลยในตลอดสามปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เลิกกัน และไม่เคยที่จะพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง
แต่หลังจากที่เขาพบกับเธอเมื่อคืน เขาได้กลับไปเช็กบิลที่โต๊ะเมื่อมองลงไปด้านล่างของผับ เห็นว่าเธอเดินไปเกาะแขนผู้ชายคนใหม่อย่างบากิ แล้วชวนมันกลับออกจากผับในทันที เขายังแอบเดินตามคนทั้งคู่ไปที่ลานจอดรถ จนกระทั่งเห็นว่าทั้งสองคนกลับไปด้วยกัน
สายตามองคนทั้งคู่ด้วยความไม่พอใจ สองมือเผลอกำหมัดแน่นด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าเธอคนนั้นมีแฟนใหม่แล้วแถมยังเป็นคู่อริของเขาอีกต่างหาก
ความรู้สึกในอดีตและเรื่องราวเหล่านั้นที่เก็บซ่อนไว้ กลับหวนย้อนกลับมาสู่ความเป็นจริงที่เจ็บปวดอีกครั้ง
เขา…ไม่ได้อยากปล่อยเธอไปในวันนั้น
แต่เพราะวันนั้นเขาทำผิดกับเธอจนไม่กล้าสู้หน้าเธอ ต่างหาก
…
“เหม่อเหี้ยไร”
ฝ่ามือหนัก ๆ จากไฟ ตบลงบนบ่า เล่นเอาคนที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ถึงเรื่องราวในอดีตของตัวเองสะดุ้งไปสุดตัว
“สัส ตกใจหมด เจ็บฉิบหาย นั่นมือหรือตีนวะ” พายุหันไปบ่นให้ไฟที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้ายิ้มกวนตีนอยู่ข้าง ๆ
“แค่นี้เจ็บ งั้นลองตีนกูอีกรอบไหมจะได้รู้ว่าอันไหนเจ็บกว่า” ไฟว่าพลางทำท่าคล้ายจะยกเท้าขึ้นมายันพายุเข้าจริง ๆ
“พอ ๆ คนกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ เหม่อ ๆ มึงก็หยอกซะ”
“แล้วมึงเหม่อหาพ่อง”
“เออดิ กูกำลังเหม่อเพราะเครียด กูกำลังเครียดว่าคืนนี้จะควงสาวคนไหนไปนอนด้วยดี” คนปากดีขิงใส่เพื่อนทั้งที่แทบไม่เคยทำจริงเลยสักครั้ง
ที่มีข่าวว่าพายุคือเพลย์บอยควงสาวไม่ซ้ำหน้าพาไปนอนคอนโดด้วยคือเรื่องจริง สมตามคำร่ำลือว่าคนอย่างพายุเพลย์บอยมากแค่ไหน แต่ที่คนไม่รู้คือข่าวลือก็คือข่าวลือ และเขาก็ขี้เกียจอธิบายทั้งที่ความจริงเขาก็แค่พาสาวไปนอนตีป้อมชวนเล่นเกมเฉยๆ
ก็นะ พอถึงเวลาจะเข้าได้เข้าเข็ม อยู่ ๆ พายุก็พาลเกิดไม่อารมณ์ขึ้นมาซะอย่างงั้น
ส่วนสาว ๆ ที่พายุพาไปด้วยต่างพากันกลัวเสียหน้าที่พายุไม่ยอมมีอะไรด้วย ต่างคนต่างก็พากันไปขิงว่าโดนพายุจัดหนัก ทั้งที่ยังไม่เห็นแม้กระทั่งขอบกางเกงในของเขาเลยสักคน
“ป้องกันบ้างนะมึงเดี๋ยวเอดส์แดก”
“เออน่า กูป้องกันป้อมอยู่แล้วล่ะ”
“ป้อมไรของมึง”
“ไข่กู”
ผลัวะ! ไฟอดไม่ได้ที่จะยกมือเบิ้ดหัวกะโหลกเพื่อนชายจอมกวนตีนสักที
“สัส ไอ้ไฟ” แน่นอนว่าเขาไม่ยอมเจ็บตัวฟรี ยกมือขึ้นจะตอบโต้กลับ แต่ดีว่าไฟไวกว่าคว้ามือของพายุได้ก่อน ส่งผลให้สองหนุ่มเลยยื้อยุดกันอยู่ตรงนั้น
จนกระทั่ง
“มึงสองคน เล่นเหี้ยไรกันเป็นเด็กๆ” เสียงเพลิงที่เดินตามเข้ามาสมทบกลุ่ม ทำให้ทั้งสองหนุ่มหยุดยื้อกันแล้วหันไปมองเพลิงที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งติดหงุดหงิดพอประมาณ
“มาสายนะมึง แล้วเฟียร์ล่ะไม่มาด้วยเหรอ?” เป็นไฟที่เอ่ยถามขึ้นทันทีที่เพลิงนั่งลงบนเก้าอี้
” เออ ไม่สบาย” เขาตอบเสียงเรียบพลางสบตากับไฟด้วยสายตานิ่งเฉยไม่คิดที่จะหลบตา
“มึงนี่แม่ง เอาอีกแล้ว” ไฟถึงกับส่ายหัวด้วยความเอือมระอา แม้จะพอรู้อยู่บ้างว่าระยะหลัง ๆ เพลิงกับเฟียร์มักจะมีปัญหาและทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่บ่อย ๆ แล้วเวลาทั้งคู่มีปัญหากันทีไรมักจะจบลงด้วยเพลิงที่ทำรุนแรงกับหญิงสาวจนมาเรียนไม่ไหวเป็นประจำ
” มึงก็ใจเย็นกับมันหน่อยดิว้า พยายามหน่อย” ไฟเอ่ยเตือนอย่างหัวเสีย
“กูพยายามอยู่” เพลิงตอบเสียงเรียบที่เป็นตัวต้นเหตุทำให้เฟียร์ไม่สบายอยู่บ่อย ๆ และถ้าไม่ติดว่าวันนี้มีเรียนคาบสำคัญ เขาก็คงจะอยู่ดูแลเฟียร์ที่ห้อง ไม่มานั่งหน้าเครียดอยู่แบบนี้
“สัสโว้ย มึงสองคนใช้คำว่าพยายามด้วยนะ กูละอยากจะขำว่ะ เอาน่าไอ้ไฟมึงก็เคยอยู่จุดนี้มาก่อน สัสทำมาเป็นสอนเพื่อน” พายุเอ่ยพร้อมกับขำลั่นให้กับเพื่อนชายทั้งสอง
เพราะในขณะที่ไฟเพื่อนเขากำลังทำหน้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟใส่เพลิง ส่วนอีกคนคือเพลิงก็กำลังทำหน้านิ่งราวกับน้ำแข็งขั้วโลกเหนือที่กำลังรอวันละลายเฉยชาไม่รู้สึกอะไร
แต่ก็เอาเถอะต่อให้เพลิงรู้สึกผิดที่ทำกับเฟียร์ไปแบบนั้น แต่พอมีอะไรมาสะกิดใจนิดหน่อย มันก็ลงเอยด้วยการทำสันดานแบบเดิมอยู่ดี
เห็นจะมีแต่เขานี่แหละที่ดูปกติกว่าคนอื่น
ตกดึก“สลบกันไปหมดแล้วสงสัยจะเหนื่อย” ยูกิเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่กล่อมลูกน้อยทั้งสามหลับไปอย่างที่ทำเป็นประจำทุกคืน“มายุนวดให้ครับ” พายุก็ทำเช่นเดิมเขานั่งอยู่ที่ขอบเตียงก่อนจะดึงแขนภรรยาให้เธอนั่งลงที่ตักแกร่งของเขาก่อนจะนวดไหล่นวดตัวให้ภรรยา“อื้อ” ยูกิเอียงคอให้สามีนวดไหล่ให้อย่างสะดวก“ขอบคุณนะ ที่เสียสละขนาดนี้ เป็นทั้งแม่ที่ดีทั้งเมียที่น่ารัก” แขนแกร่งแปลเปลี่ยนเป็นโอบกอดรอบเอวคอดของเธอ ก่อนจะก้มลงกระซิบที่ข้างหู ก็ไม่วายที่จะใช้จมูกคลอเคลียที่พวงแก้มนิ่มและเลื่อนลงที่ซอกคอหอม“คืนนี้งดเหนื่อยมากไม่ไหว” ยูกิหลับตาเอ่ยพูดพร้อมกับเอนหลังพิงกับอกแกร่งของสามีอย่างทิ้งตัวเพราะเธอเหนื่อยมากจริง ๆ“พายุรักยูกินะ วันแรกรักยังไงวันนี้รักมากกว่าเดิมหลายเท่า ขอบคุณนะครับ พายุยังให้สัญญาเหมือนเดิมว่ายุจะรักเธอไปจนกว่ายุจะตายจากเธอไป” แขนแกร่งกอดภรรยาแน่น“พูดอะไรแบบนั้น ถ้ามีคนต้องตายก่อน ยูกิขอเป็นคนตายก่อน” ยุกิเหวใส่ที่จู่ ๆ เขาก็พูดแบบนั้นออกมา“ไม่ ยุขอตายก่อนยุอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีบี๋” พายุส่ายหน้าไปมาที่ซอกคอของภรรยาสาวอย่างไม่ยอม“ไม่ ยูกิอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีบี๋ บี๋อยากเห็นเมียเศร้า
หลายวันต่อมา...@สนามฟุตบอลเด็ก“คิรินลูกมาหาแม่ลูก” ยูกิเอ่ยเรียกลูกสาวตัวน้อยที่กำลังวิ่งเล่นในสนามกับพี่ ๆ ที่กำลังวิ่งแตะบอลกันกับคุณครูอย่างสนใจ“ทำไมลูกเราเดินตามพี่สกายขนาดนั้น” พายุเอ่ยกับภรรยาสาวสายตาจ้องมองไปยังคิรินที่เอาแต่วิ่งตามสกายไม่ห่าง“พี่ชายหนูก็มีนะลูก ตั้งสองคน” คนเป็นพ่ออดที่จะส่ายหัวรับไม่ได้กับท่าทีของลูกสาววัยสองขวบตัดมาที่อีกฝั่ง“อ๊ะ แง” สมายล้มลงพื้นหญ้าก่อนจะเบะปากร้องไห้ครามที่เตะบอลอยู่ใกล้ที่สุดก็รีบวิ่งเข้าไปหาน้องในทันที“ไม่ร้องนะครับ เพี้ยงพี่เป่าให้” เด็กน้อยวัยสีขวบก้มลงเป่าที่เข่าของน้องอย่างอ่อนโยน ก่อนที่มีอาจะเดินเข้ามาอุ้มลูกสาวตัวน้อยของเธอเดินออกนอกสนามโดยไม่ลืมให้สมายขอบคุณพี่ครามที่เขาเข้าไปช่วยเป่าและปลอบ“ดูครามสิช่างเป็นผู้ชายที่อบอุ่นเหลือเกินลูกแม่” ยูกิที่อุ้มคิรินเดินเข้ามาพูดคุยกับพายุเมื่อเห็นเหตุการ์เมื่อครู่ก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายเป็นที่สุด“นั่นสิ ทำไมแตกต่างจากพ่อมันลิบลับ” ไฟเอ่ยขึ้น“กูก็อบอุ่นเว้ย แต่เฉพาะตอนอยู่กับเมียสองคน” พายุเดินเข้าไปหอมแก้มภรรยาที่กำลังอุ้มคิรินอยู่“มะมี๊ของคิริน” และเช่นเดิมลูกสาวยังคงหวงแม่ก
และในตอนนั้นเองก็มีรถตู้หรูก็ขับเข้ามาจอดภายในบ้าน“ครามครับน้องเมฆน้องหมอกมาแล้ว ไปต้อนรับน้องกัน” ยูกิที่รู้ว่าเป็นรถของบ้านเพลิงและเฟียร์ก็เอ่ยบอกกับลูกชายที่กำลังงอแงอยู่ ให้ละความสนใจจากป๊าของเขา และพาเดินไปต้อนรับ“น้องสกายกับน้องสมายก็มาพร้อมกันเลย” ยูกิเอ่ยบอกกับลูกชายตัวน้อยอีกครั้งเมื่อรถตู้ของบ้านไฟและมีอาก็ขับเข้ามาไล่เลี่ยกัน“สวัสดีครับ อาเพลิงน้าเฟียร์” ครามเดินดุ่มเข้ามาไหว้สวัสดีอาทั้งสองของเขาอย่างที่ไม่ต้องบอก“สุขสันต์วันเกิดนะครับเด็กดีของน้า น้อง ๆ มีของขวัญมาให้ด้วยนะ” เฟียร์เดินเข้ามาลูบหัวครามด้วยความเอ็นดู พร้อมกับเอ่ยบอกถึงลูกชายของเธอสองคนคนแรกชื่อเมฆอายุน้อยกว่าครามหนึ่งปี และคนที่สองชื่อหมอกอายุน้อยกว่าสองปี“ของขวัญครับพี่คราม” เด็กน้อยอายุสามขวบและสองขวบเดินเข้ามายื่นของขวัญให้กับพี่ชายที่วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ“ขอบคุณครับ” ครามก็เอ่ยขอบคุณน้อง ๆ ทั้งสองพร้อมกับรับของขวัญมาถืออย่างดีใจ“สวัสดีครับอาไฟน้ามีอา” ก่อนจะหันเป็นมาสวัสดีไฟและมีอาที่เดินพร้อมกับสกายและสมายลูกทั้งสองคนของพวกเขาที่คนโตและคนเล็กก็มีอายุเท่ากับลูกของเพลิงและเฟียร์“สุขสันต์วันเ
เช้าวันต่อมา…“ไอ้แสบนั่นมันของพ่อนะ” พายุนอนเล่นหยอกล้อกับลูกชายที่กำลังดูดนมจากเต้าของยูกิวันนี้แม่บ้านออกไปซื้อของกับม๊า ส่วนพี่เลี้ยงลากลับต่างจังหวัดทั้งบ้านก็เพียงสามคนพ่อแม่ลูก“แหนะของพ่อนะ พ่อดูดมาก่อนเอ็งอีก” พายุก็เอ่ยแหย่ลูกชายที่กำลังมองเขาตาแป๋วแต่ปากก็คอยดูดนมจากเต้า มือเล็กก็วางทาบอกอวบอย่างน่าอิจฉา จนคนเป็นพ่อที่นั่งเล่นอยู่ด้วยคิดอิจฉาลูกตัวเองส่วนลูกน้อยที่ได้ยินดังนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของคนเป็นพ่อหรือเปล่าจู่ ๆ ก็เบะปากทำท่าจะร้อง“พายุ” ยูกิดุคนตรงหน้าที่แหย่จนลูกร้อง“หึ” พายุขำขันหัวเราะในลำคออย่างชอบใจเขามองแม่ของลูกโอ๋ลูกน้อยด้วยการป้อนนมใส่ปากอีกครั้ง ภาพตรงหน้าทำเขามีความสุขกับชีวิตในตอนนี้เหลือเกินฟอด คิดอย่างนั้นเขาก็เข้าไปกอดแม่ของลูกและหอมเข้าที่แก้มซ้ายและขวาอย่างรักใคร่“อะไรนี่เมียพ่อ” แต่ก็ไม่วายที่จะโดนเจ้าลูกชายเงยมองเขาตาแป๋วฟอด และหอมแก้มยูกิอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างต้องการจะอวดเจ้าลูกน้อยซึ่ง เจ้าเด็กก็เบะปากร้องไห้ลั่น“พอได้แล้ว โอ๋ ไม่ร้องนะครับ พ่อแค่แกล้ง” ยูกิอุ้มลูกซบอกเพื่อปลอบ เธอไม่รู้จะเหนื่อยกับลูกหรือกับพ่อดีในตอนนี้และไม่
หลายเดือนต่อมา...“บี๋ รู้สึกเจ็บปวดท้องบ้างหรือยัง” พายุเดินเข้ามาในห้องที่คนตัวเล็กกำลังนั่งอ่านนิทานให้ลูกน้อยในท้องฟัง“ยังไม่มีวี่แววเลย” เพราะนี่เธอก็ตั้งครรภ์มาได้สามเก้าวีแล้วแต่ยังไม่มีอาการใด ๆ“ลองทำตามที่อาหมอบอกไหม” พายุเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มร่าอย่างเจ้าเล่ห์“ยังไงเหรอ?”“ก็คือ…พ่อต้องเข้าไปตามลูก” ไม่ว่าเปล่าเข้ายังขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับกอดรัดคุณแม่คนสวย“บี๋” ยูกิยิ้มให้กับใบหน้าหล่อที่กำลังแสดงความหื่นออกมาทางสายตาอย่างเปิดเผย“ครับ” ตาคมกะพริบตาปริบ ๆ เพื่อออดอ้อนยูกิก็ยิ้มให้กับว่าที่คุณพ่อที่ตลอดมาเขามาเคยพักเรื่องนี้เลยพายุค่อย ๆ โน้มริมฝีปากประกบจูบอย่างดื่มและจัดการตามลูกชายคนแรกของเขาและเธอและได้ผลอย่างที่คิด ภายในเช้าวันรุ่งขึ้นยูกิก็ปวดท้องคลอดลูกและได้คลอดลูกชายคนแรกของทั้งคู่ในระหว่างที่ต้องดูแลยูกิทั้งที่โรงพยาบาลและเมื่อกลับมาที่บ้านได้แล้วพายุก็พักงานจากบริษัทโดยที่ป๊าของเขาจะเข้าไปดูแลแทนก่อนช่วงที่ยูกิต้องการกำลังใจจากเขาการที่เป็นพ่อแม่มือใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่เรื่องยาก ยุกิเองที่เมื่อได้เห็นพ่อของลุกดูแลเธอและช่วยเลี้ยงลูกตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
“มานี่” พายุดึงมือฉันออกมาจากห้องน้ำก่อนจะพาเดินมานั่งที่เตียงนอน “เรามาคุยเรื่องอนาคตของเราและเจ้าตัวเล็กในท้องกันดีกว่า” พายุปรับโหมดสีหน้าจริงจัง พูดถึงเรื่องเจ้าก้อนในท้องฉันก็กลับมากังวลอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าจะบอกที่บ้านยังไงดีเหมือนกัน “เดี๋ยวยุจะเข้าไปบอกป๊ากับม๊าวันนี้เลย แล้วยุจะเป็นคนบอกพี่บากิเอง” “ที่บ้านคงผิดหวังมากแน่ ๆ” ฉันก้มหน้าลงเมื่อนึกถึงหน้าใครไปไม่ได้นอกจากพ่อกับแม่ ที่น่าจะผิดหวังกับฉันเอามาก ๆ พายุที่เห็นก็เข้าสวมกอดฉันทันที “ยูกิ เราขอโทษถ้าทำให้ยูกิเสียใจและเครียด บางทีเราคงจะคิดน้อยไปยุขอโทษแต่เรื่องจะเอาเด็กออกไม่มีอยู่ในหัวเราเลยนะ” เขาเอ่ยออกมา ฉันในตอนนี้ไม่รู้จะตัดสินไปทางไหนดี ฉันไม่โทษเขาหรอกที่คิดทำอะไรแบบนี้เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันเองที่ลืมซื้อยามาทาน และอีกอย่างถ้าเขาไม่ทำแบบนี้ฉันก็อาจจะต้องไปอยู่กับพ่อและแม่ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ ซึ่งคิดแล้วฉันรักคนตรงหน้าขนาดนี้ถ้าไปจริง ๆ ฉันก็คงจะเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับเขา "อืม ไม่เป็นไรหรอก เพราะเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน” ฉันจับมือของเขา เราสองคนได้แต่สบตากันอย่างให้กำลังใจกันและกัน “ขอเรียกพี่บากิม