ใบหน้าหล่อมองลงไปด้วยแววตาร้ายที่ยากจะคาดเดา
บากิ คือหนึ่งในอริของพวกเขา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เคยมีเรื่องกันดูเหมือนว่าบากิจะพุ่งเป้าหาเรื่องที่ตัวเขามากกว่าเพื่อนในกลุ่มคนอื่น ๆ และเคยมีเรื่องกันจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลกันทั้งคู่ แต่เหตุผลเพราะอะไรนั้นเขาไม่รู้เลย ไม่รู้มาจนถึงทุกวันนี้
แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คราวนี้คงถึงเวลาที่ต้องสะสางกันเสียที
เนิ่นนานที่เขานั่งมองหญิงสาวที่ไม่ได้เจอมานานสลับกับคู่อริอย่างบากิที่นั่งอยู่ข้างกายเธอ มองภาพทั้งสองหัวเราะกันไปมาอย่างมีความสุข
แต่อีกคนกำลังกัดกรามแน่นพร้อมกับยกกระดกดื่มแก้วในมือติด ๆ กัน ด้วยความรู้สึกหลากหลายกำลังถาโถมเข้ามาตั้งแต่เจอหญิงสาวคนที่เขาจ้องไม่ละสายตา
และไม่นานทั้งหมดก็ลุกและเดินออกจากผับ พายุที่เห็นดังนั้นเขาก็รีบยกแก้วกระดกดื่มรวดเดียวหมดก่อนจะเดินตามออกไปเช่นกัน
เมื่อเดินออกมาด้านนอกก็ไม่พบใคร ขายาวเดินออกไปเพื่อไปยังลานจอดรถใบหน้าหล่อนิ่งเรียบเมื่อคิดว่าเขาจะหาเธอไม่เจอแล้ว แต่ทว่า เมื่อเห็นเธอยืนอยู่ข้างกำแพงเพียงลำพังรอยยิ้มร้ายก็ผุดขึ้นที่มุมปาก
เขารีบจ้ำก้าวเดินเข้าไปประชิดยังคนตรงหน้าอย่างไม่รีรอ
“สุขสันต์วันเกิด ฉันจำแม่นไหม” พายุเดินมาหยุดที่ข้างกายหญิงสาวก่อนจะเอ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงยียวน
ยูกิ ที่เห็นเขาก็ตาโตตกใจและทำท่าจะเดินหนีไป
หมับ แต่ทว่ากลับช้ากว่ามือหนาที่คว้าเข้าที่ข้อมือของเธอเพื่อรั้งเอาไว้
“จะหนีไปไหน” ไม่พูดเปล่าเขายังฉุดพาเธอเดินเข้ามายังมุมซอกทางเข้าผับด้านหลังเพื่อหลบจากบากิที่อาจตามมาเห็นเขาและเธอได้
“ปล่อยฉันนะพายุ” ยูกิพยายามสะบัดข้อมือเพื่อให้หลุดจากการกอบกุมของพายุ แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเขาผลักเธอให้หลังชิดกำแพงและมีเขาคล่อมร่างกักขังเธอเอาไว้
“ไม่เจอกันตั้งนาน แต่เธอก็ยังจำผัวคนนี้ได้ น่าชื่นใจจริง ๆ” พายุเอ่ยพูดด้วยใบหน้ายิ้มร้าย
เพี้ยะ ทันทีที่เขาพูดจบ มือเรียวทาบตบเข้าที่แก้มขวาของคนตรงหน้าอย่างจังด้วยความโมโหและโกรธในการกระทำและคำพูดของเขาส่งผลให้ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบ ลิ้นหนาดุนดันที่กระพุ้งแก้มด้วยความเจ็บแสบก่อนที่เขาจะหันหน้ามาสบตากับดวงตาหวานที่กำลังแสดงความโกรธจัดออกมา
“ไม่ต้องพูดคำหยาบเพื่อบ่งบอกสันดานของนายก็ได้”
“เหอะ ทำไมจะพูดไม่ได้เพราะมันคือเรื่องจริงหรือว่าเธอกลัว...ผัวใหม่มาได้ยิน” ท้ายประโยคพายุก้มลงกระซิบกระซาบที่ข้างหูของเธออย่างแผ่วเบาด้วยท่าทางยียวนตั้งใจกวนประสาท
หมับ มือแกร่งจับเข้าที่ข้อแขนเรียวมือเธอกำลังจะยกขึ้นตบแก้มข้างเดิมของเขาอีกครั้ง ก่อนจะรวบอีกข้างด้วยมือเดียวยกกดทาบกับกำแพงไว้เหนือหัว
“อ๊ะ ปล่อย” ยูกิออกแรงดิ้นแต่ก็ไม่เป็นผล และยิ่งกว่านั้นพายุเขยิบเข้ามาแนบชิดกับเธอยิ่งขึ้น ก่อนจะส่งมือแกร่งอีกข้างที่ว่างอยู่ขึ้นมาเชยคางมนให้เงยหน้าสบตากับเขา
“วันเกิดทั้งที ไม่แนะนำผัวเก่าให้ผัวใหม่ได้รู้จักบ้างล่ะเผื่อไปทำอย่างที่ฉันเคยทำ...มันจะได้ไม่ตกใจที่เธอไม่เหลือซิงให้มันแล้ว เอ๊ะ หรือว่ามันรู้แล้วนะ?” สายตาคมก้มสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอเปลี่ยนไปมากและยิ่งชุดที่ใส่มาวันนี้ยิ่งทำให้เห็นทรวดทรงที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
“หุบปากเน่า ๆ ของนายสักที! ฉันเกลียดนาย นายคือสิ่งเดียวที่ฉันไม่อยากจะนึกถึงที่สุดในชีวิต ในเมื่อหายตายจากชีวิตฉันไปแล้วจะกลับมาอีกทำไม” ยูกิเชิดหน้าส่งสายตาแข็งกร้าวสื่อถึงสิ่งที่พูดออกมาชัดเจนสบกับสายตาคมด้วย
“หึ ขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอเป็นคนแรกเลยนะ ที่พูดว่าเกลียดฉัน” พายุหัวเราะในลำคออย่างนึกขันเบา ๆ รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าอย่างไม่สะทกสะท้านสายตาเกลียดที่มองเขาอยู่ตลอดเวลา
“งั้นก็จำแววตาที่เกลียดนายที่สุดในชีวิตคู่นี้เอาไว้” ยูกิขบกรามแน่นจ้องสบตาลึกเข้าไปในดวงตาคม
“เกลียดฉันมากขนาดนี้ ก็อย่าให้ฉันได้เจอเธออีกไม่อย่างนั้น ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่!” ส่งผลให้ใบหน้าหล่อที่กำลังยกยิ้มยียวนแปลเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง
“เลว เลวที่สุด เลวไม่เคยเปลี่ยน!”
“หรือฉันจะเปลี่ยนใจ ไม่ปล่อยเธอไปตั้งแต่ตอนนี้เลยนะ”
“นายจะกลับมายุ่งกับฉันอีกทำไม ในเมื่อนายก็ได้ในสิ่งที่นายต้องการไปตั้งนานแล้ว”
“อยากรู้? ก็ไปถามผัวใหม่เธอดูสิ ว่ามันทำอะไรไว้กับฉันบ้าง”
“ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน นายก็ยังเห็นฉันเป็นเครื่องมือของนายอยู่ตลอดสินะ” คำพูดของหญิงสาวทำเอาเขาชะงัก
สองดวงตาสบกันนิ่ง ประโยคเมื่อครู่ทำให้ทั้งสองหวนนึกถึงอดีตที่ไม่เป็นที่น่าจดจำ
“อย่ามองฉันด้วยแววตาแบบนั้นสิ มันทำให้ฉันคิดว่าเธอยังอาลัยอาวรณ์รักฉันอยู่”
“ฉันจะรักคนเกลียดที่สุดในชีวิตได้ยังไง” ยูกิสวนกลับอย่างทันควัน
“หึ” พายุหัวเราะออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะเงยหน้าปรับสีหน้าเป็นจริงจังพร้อมกับแววตาคมที่ดุดันขึ้น ก่อนจะเอ่ยพูดประโยคถัดไปด้วยเสียงต่ำ
“คืนนี้ก็...ขึ้นสวรรค์กับมันให้เต็มที่ เพราะนรกจากฉัน...กำลังรอเธออยู่”
ตกดึก“สลบกันไปหมดแล้วสงสัยจะเหนื่อย” ยูกิเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่กล่อมลูกน้อยทั้งสามหลับไปอย่างที่ทำเป็นประจำทุกคืน“มายุนวดให้ครับ” พายุก็ทำเช่นเดิมเขานั่งอยู่ที่ขอบเตียงก่อนจะดึงแขนภรรยาให้เธอนั่งลงที่ตักแกร่งของเขาก่อนจะนวดไหล่นวดตัวให้ภรรยา“อื้อ” ยูกิเอียงคอให้สามีนวดไหล่ให้อย่างสะดวก“ขอบคุณนะ ที่เสียสละขนาดนี้ เป็นทั้งแม่ที่ดีทั้งเมียที่น่ารัก” แขนแกร่งแปลเปลี่ยนเป็นโอบกอดรอบเอวคอดของเธอ ก่อนจะก้มลงกระซิบที่ข้างหู ก็ไม่วายที่จะใช้จมูกคลอเคลียที่พวงแก้มนิ่มและเลื่อนลงที่ซอกคอหอม“คืนนี้งดเหนื่อยมากไม่ไหว” ยูกิหลับตาเอ่ยพูดพร้อมกับเอนหลังพิงกับอกแกร่งของสามีอย่างทิ้งตัวเพราะเธอเหนื่อยมากจริง ๆ“พายุรักยูกินะ วันแรกรักยังไงวันนี้รักมากกว่าเดิมหลายเท่า ขอบคุณนะครับ พายุยังให้สัญญาเหมือนเดิมว่ายุจะรักเธอไปจนกว่ายุจะตายจากเธอไป” แขนแกร่งกอดภรรยาแน่น“พูดอะไรแบบนั้น ถ้ามีคนต้องตายก่อน ยูกิขอเป็นคนตายก่อน” ยุกิเหวใส่ที่จู่ ๆ เขาก็พูดแบบนั้นออกมา“ไม่ ยุขอตายก่อนยุอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีบี๋” พายุส่ายหน้าไปมาที่ซอกคอของภรรยาสาวอย่างไม่ยอม“ไม่ ยูกิอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีบี๋ บี๋อยากเห็นเมียเศร้า
หลายวันต่อมา...@สนามฟุตบอลเด็ก“คิรินลูกมาหาแม่ลูก” ยูกิเอ่ยเรียกลูกสาวตัวน้อยที่กำลังวิ่งเล่นในสนามกับพี่ ๆ ที่กำลังวิ่งแตะบอลกันกับคุณครูอย่างสนใจ“ทำไมลูกเราเดินตามพี่สกายขนาดนั้น” พายุเอ่ยกับภรรยาสาวสายตาจ้องมองไปยังคิรินที่เอาแต่วิ่งตามสกายไม่ห่าง“พี่ชายหนูก็มีนะลูก ตั้งสองคน” คนเป็นพ่ออดที่จะส่ายหัวรับไม่ได้กับท่าทีของลูกสาววัยสองขวบตัดมาที่อีกฝั่ง“อ๊ะ แง” สมายล้มลงพื้นหญ้าก่อนจะเบะปากร้องไห้ครามที่เตะบอลอยู่ใกล้ที่สุดก็รีบวิ่งเข้าไปหาน้องในทันที“ไม่ร้องนะครับ เพี้ยงพี่เป่าให้” เด็กน้อยวัยสีขวบก้มลงเป่าที่เข่าของน้องอย่างอ่อนโยน ก่อนที่มีอาจะเดินเข้ามาอุ้มลูกสาวตัวน้อยของเธอเดินออกนอกสนามโดยไม่ลืมให้สมายขอบคุณพี่ครามที่เขาเข้าไปช่วยเป่าและปลอบ“ดูครามสิช่างเป็นผู้ชายที่อบอุ่นเหลือเกินลูกแม่” ยูกิที่อุ้มคิรินเดินเข้ามาพูดคุยกับพายุเมื่อเห็นเหตุการ์เมื่อครู่ก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายเป็นที่สุด“นั่นสิ ทำไมแตกต่างจากพ่อมันลิบลับ” ไฟเอ่ยขึ้น“กูก็อบอุ่นเว้ย แต่เฉพาะตอนอยู่กับเมียสองคน” พายุเดินเข้าไปหอมแก้มภรรยาที่กำลังอุ้มคิรินอยู่“มะมี๊ของคิริน” และเช่นเดิมลูกสาวยังคงหวงแม่ก
และในตอนนั้นเองก็มีรถตู้หรูก็ขับเข้ามาจอดภายในบ้าน“ครามครับน้องเมฆน้องหมอกมาแล้ว ไปต้อนรับน้องกัน” ยูกิที่รู้ว่าเป็นรถของบ้านเพลิงและเฟียร์ก็เอ่ยบอกกับลูกชายที่กำลังงอแงอยู่ ให้ละความสนใจจากป๊าของเขา และพาเดินไปต้อนรับ“น้องสกายกับน้องสมายก็มาพร้อมกันเลย” ยูกิเอ่ยบอกกับลูกชายตัวน้อยอีกครั้งเมื่อรถตู้ของบ้านไฟและมีอาก็ขับเข้ามาไล่เลี่ยกัน“สวัสดีครับ อาเพลิงน้าเฟียร์” ครามเดินดุ่มเข้ามาไหว้สวัสดีอาทั้งสองของเขาอย่างที่ไม่ต้องบอก“สุขสันต์วันเกิดนะครับเด็กดีของน้า น้อง ๆ มีของขวัญมาให้ด้วยนะ” เฟียร์เดินเข้ามาลูบหัวครามด้วยความเอ็นดู พร้อมกับเอ่ยบอกถึงลูกชายของเธอสองคนคนแรกชื่อเมฆอายุน้อยกว่าครามหนึ่งปี และคนที่สองชื่อหมอกอายุน้อยกว่าสองปี“ของขวัญครับพี่คราม” เด็กน้อยอายุสามขวบและสองขวบเดินเข้ามายื่นของขวัญให้กับพี่ชายที่วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ“ขอบคุณครับ” ครามก็เอ่ยขอบคุณน้อง ๆ ทั้งสองพร้อมกับรับของขวัญมาถืออย่างดีใจ“สวัสดีครับอาไฟน้ามีอา” ก่อนจะหันเป็นมาสวัสดีไฟและมีอาที่เดินพร้อมกับสกายและสมายลูกทั้งสองคนของพวกเขาที่คนโตและคนเล็กก็มีอายุเท่ากับลูกของเพลิงและเฟียร์“สุขสันต์วันเ
เช้าวันต่อมา…“ไอ้แสบนั่นมันของพ่อนะ” พายุนอนเล่นหยอกล้อกับลูกชายที่กำลังดูดนมจากเต้าของยูกิวันนี้แม่บ้านออกไปซื้อของกับม๊า ส่วนพี่เลี้ยงลากลับต่างจังหวัดทั้งบ้านก็เพียงสามคนพ่อแม่ลูก“แหนะของพ่อนะ พ่อดูดมาก่อนเอ็งอีก” พายุก็เอ่ยแหย่ลูกชายที่กำลังมองเขาตาแป๋วแต่ปากก็คอยดูดนมจากเต้า มือเล็กก็วางทาบอกอวบอย่างน่าอิจฉา จนคนเป็นพ่อที่นั่งเล่นอยู่ด้วยคิดอิจฉาลูกตัวเองส่วนลูกน้อยที่ได้ยินดังนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของคนเป็นพ่อหรือเปล่าจู่ ๆ ก็เบะปากทำท่าจะร้อง“พายุ” ยูกิดุคนตรงหน้าที่แหย่จนลูกร้อง“หึ” พายุขำขันหัวเราะในลำคออย่างชอบใจเขามองแม่ของลูกโอ๋ลูกน้อยด้วยการป้อนนมใส่ปากอีกครั้ง ภาพตรงหน้าทำเขามีความสุขกับชีวิตในตอนนี้เหลือเกินฟอด คิดอย่างนั้นเขาก็เข้าไปกอดแม่ของลูกและหอมเข้าที่แก้มซ้ายและขวาอย่างรักใคร่“อะไรนี่เมียพ่อ” แต่ก็ไม่วายที่จะโดนเจ้าลูกชายเงยมองเขาตาแป๋วฟอด และหอมแก้มยูกิอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างต้องการจะอวดเจ้าลูกน้อยซึ่ง เจ้าเด็กก็เบะปากร้องไห้ลั่น“พอได้แล้ว โอ๋ ไม่ร้องนะครับ พ่อแค่แกล้ง” ยูกิอุ้มลูกซบอกเพื่อปลอบ เธอไม่รู้จะเหนื่อยกับลูกหรือกับพ่อดีในตอนนี้และไม่
หลายเดือนต่อมา...“บี๋ รู้สึกเจ็บปวดท้องบ้างหรือยัง” พายุเดินเข้ามาในห้องที่คนตัวเล็กกำลังนั่งอ่านนิทานให้ลูกน้อยในท้องฟัง“ยังไม่มีวี่แววเลย” เพราะนี่เธอก็ตั้งครรภ์มาได้สามเก้าวีแล้วแต่ยังไม่มีอาการใด ๆ“ลองทำตามที่อาหมอบอกไหม” พายุเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มร่าอย่างเจ้าเล่ห์“ยังไงเหรอ?”“ก็คือ…พ่อต้องเข้าไปตามลูก” ไม่ว่าเปล่าเข้ายังขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับกอดรัดคุณแม่คนสวย“บี๋” ยูกิยิ้มให้กับใบหน้าหล่อที่กำลังแสดงความหื่นออกมาทางสายตาอย่างเปิดเผย“ครับ” ตาคมกะพริบตาปริบ ๆ เพื่อออดอ้อนยูกิก็ยิ้มให้กับว่าที่คุณพ่อที่ตลอดมาเขามาเคยพักเรื่องนี้เลยพายุค่อย ๆ โน้มริมฝีปากประกบจูบอย่างดื่มและจัดการตามลูกชายคนแรกของเขาและเธอและได้ผลอย่างที่คิด ภายในเช้าวันรุ่งขึ้นยูกิก็ปวดท้องคลอดลูกและได้คลอดลูกชายคนแรกของทั้งคู่ในระหว่างที่ต้องดูแลยูกิทั้งที่โรงพยาบาลและเมื่อกลับมาที่บ้านได้แล้วพายุก็พักงานจากบริษัทโดยที่ป๊าของเขาจะเข้าไปดูแลแทนก่อนช่วงที่ยูกิต้องการกำลังใจจากเขาการที่เป็นพ่อแม่มือใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่เรื่องยาก ยุกิเองที่เมื่อได้เห็นพ่อของลุกดูแลเธอและช่วยเลี้ยงลูกตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
“มานี่” พายุดึงมือฉันออกมาจากห้องน้ำก่อนจะพาเดินมานั่งที่เตียงนอน “เรามาคุยเรื่องอนาคตของเราและเจ้าตัวเล็กในท้องกันดีกว่า” พายุปรับโหมดสีหน้าจริงจัง พูดถึงเรื่องเจ้าก้อนในท้องฉันก็กลับมากังวลอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าจะบอกที่บ้านยังไงดีเหมือนกัน “เดี๋ยวยุจะเข้าไปบอกป๊ากับม๊าวันนี้เลย แล้วยุจะเป็นคนบอกพี่บากิเอง” “ที่บ้านคงผิดหวังมากแน่ ๆ” ฉันก้มหน้าลงเมื่อนึกถึงหน้าใครไปไม่ได้นอกจากพ่อกับแม่ ที่น่าจะผิดหวังกับฉันเอามาก ๆ พายุที่เห็นก็เข้าสวมกอดฉันทันที “ยูกิ เราขอโทษถ้าทำให้ยูกิเสียใจและเครียด บางทีเราคงจะคิดน้อยไปยุขอโทษแต่เรื่องจะเอาเด็กออกไม่มีอยู่ในหัวเราเลยนะ” เขาเอ่ยออกมา ฉันในตอนนี้ไม่รู้จะตัดสินไปทางไหนดี ฉันไม่โทษเขาหรอกที่คิดทำอะไรแบบนี้เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันเองที่ลืมซื้อยามาทาน และอีกอย่างถ้าเขาไม่ทำแบบนี้ฉันก็อาจจะต้องไปอยู่กับพ่อและแม่ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ ซึ่งคิดแล้วฉันรักคนตรงหน้าขนาดนี้ถ้าไปจริง ๆ ฉันก็คงจะเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับเขา "อืม ไม่เป็นไรหรอก เพราะเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน” ฉันจับมือของเขา เราสองคนได้แต่สบตากันอย่างให้กำลังใจกันและกัน “ขอเรียกพี่บากิม