กิ๊ฟโวยวาย กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องถูกประเมินอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้
“แกต้องออกมาอยู่กับโลกความเป็นจริงบ้าง เรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมการทำงานจริง ๆ ซึ่งมันไม่ได้ตรงเป๊ะเหมือนกับในหนังสือ หรือตัวเลขที่แกเรียนมา” นุ้ยพยายามจะพูดให้เพื่อนเข้าใจ และปรับตัว หากขืนมันยังเป็นแบบนี้ ต่อให้เข้าทำงานอีกกี่ที่ก็คงจะลงท้ายอีกหรอบเดิม “กูไม่เข้าใจเว้ย !..... ทำไมว่ะ... ทำไมชีวิตกูมันถึงต้องเป็นแบบนี้ งานวันเกิดกูแต่กลับต้องมาฉลองย้อมใจเพราะตกงาน.... เหี้ยเอ๊ย” กิ๊ฟคร่ำครวญออกมา พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว วันเกิดปีนี้เธออายุครบ 30 ปีแล้ว แต่ชีวิตของเธอยังไม่เข้าใกล้คำว่า “ประสบความสำเร็จ” แม้แต่น้อย “เฮ้ย ๆ พอ ๆ อีกิ๊ฟ กระดกเป็นน้ำเปล่าแบบนี้ เดี๋ยวได้เมาหัวทิ่มกันพอดี” นิวรีบห้ามเพื่อน กิ๊ฟยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดปาก แล้วพร่ำบ่นต่อไปว่า “ตอนเรียน กูก็ตั้งใจเรียน ได้เอทุกวิชา เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่แมร่ง มึงดูกูตอนนี้สิ ตกงาน ! ฮ่า ๆ” คนตกงานเดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ เธอยกมือขึ้นชี้นิ้วกราดไปที่เพื่อนแต่ละคน พร้อมกับพูดว่า “ในขณะที่เพื่อนคนอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกันเขาได้ดีกันหมดแล้ว บางคนเป็นเจ้าของคลินิก บางคนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล เป็นอาจารย์ เป็นนายพัน ไอ้เพื่อนบางคนสมัยเรียนมันติด 0 ติด ร ตอนนี้มันกลายเป็นเถ้าแก่แล้ว บางคนตอนนั้นยังเรียนแทบจะไม่จบ ม. 6 ด้วยซ้ำ ตอนนี้มันกลายเป็นนายแบบไปแล้ว ส่วนกูเป็นคนตกงาน.... ฮ่า ๆ” กิ๊ฟชี้นิ้วมาที่นุ้ยแล้วพล่ามต่อว่า “ส่วนมึง.... ลอกการบ้านกูทุกวัน แต่ตอนนี้มึงเป็นถึงเจ้ากิจการค้าส่ง กูถามหน่อยกูทำอะไรผิด ทำไมชีวิตกูถึงได้เฮงซวยแบบนี้ ฮ่า ๆ” เธอหัวเราะประชดชีวิตห่วย ๆ ของตนเอง “ก็เพราะว่าปากมึงเป็นแบบนี้ไง” นุ้ยย้ำอีกครั้ง “เอ่อแก.... เอาน่าสู้ ๆ ไม่ต้องเสียใจ ตกงานก็หางานใหม่ได้ แกเก่งอยู่แล้ว” บีพยายามปลอบเพื่อน Rrrrrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ของนุ้ยดังขึ้น เมื่อเธอรับสายแล้วคุยเพียงสองสามคำก็วาง จากนั้นก็ลุกขึ้น แล้วบอกกับเพื่อน ๆ ในโต๊ะว่า “ผัวกูโทรตามให้ไปกล่อมลูกนอนแล้ว กูต้องกลับบ้านแล้วนะ” นุ้ยเก็บกระเป๋าเตรียมจะกลับบ้าน “นี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง.... อินุ้ยมีลูกสอง อิบีผัวหนึ่ง ส่วนอินิวมีผัวเป็นสิบ แต่กู...ยางไม่มีควย.... สาก...ควยเลย” เมื่อเมาหนักมาก ลิ้นก็เริ่มพันกันการออกเสียงจึงเพี้ยนขึ้นจนน่าใจหาย “อีกิ๊ฟ... โอ๊ย... มึงเมามากแล้วเนี่ย เป็นสาวเป็นนางพูดจาอะไรแบบนี้” นิวยกมือขึ้นทาบอก หัวใจแทบจะวาย เมื่อเพื่อนสาวผู้เคร่งขรึมต่อการเรียน และจริงจังกับการทำงาน บัดนี้กลับกลายร่างเป็นนารีขี้เมาปากรั่วไปแล้ว “โอ๊ย... ผัวกูโทรตามอีกแล้ว กูต้องรีบกลับบ้านแล้ว ฝากดูอีกิ๊ฟด้วย” นุ้ยรีบล่ำลาเพื่อน ๆ “เอ่อ ๆ ขับรถกลับบ้านดี ๆ มึง” บีโบกมือลานุ้ย จากนั้นก็หันสนใจคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดในตอนนี้ “กิ๊ฟ ฉันว่าแกเมามากแล้ว กลับคอนโดเถอะ” “ม่าย.... เมา.... อึก” คนที่บอกว่าตัวเองไม่เมา ใช้มือเท้าโต๊ะยันตนเองลุกขึ้น แล้วเดินโซซัดโซเซไปยังโต๊ะข้าง ๆ ที่เต็มไปด้วยชายหนุ่มวัยทำงานนับสิบคน “อ่าว... อีกิ๊ฟ มึงจะไปไหน” นิวหันขวับอุทานเสียงหลง “อีนิว รีบไปลากเพื่อนกลับมาเร็ว” บีรีบสะกิดเพื่อนผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม กลัวว่าเพื่อนสาวขี้เมาจะไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับโต๊ะข้าง ๆ “เฮ้ย ! ไอ้น้อง.....มีเมียยัง มาเป็นผัวพี่ไหม” กิ๊ฟปาดเข้าไปใช้แขนคล้องคอผู้ชายคนหนึ่ง ฝ่ายนั้นถึงกับใบหน้าเลิ่กลั่กเมื่อจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงเข้ามาประชิดตัว “เอ่อ... ขอโทษด้วยครับ เพื่อนพี่มันเมา” นิวรีบดึงเพื่อนสาวออกมาจากชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นทันที “ม่าย.... เมา กูไม่เมา กูจะหาผัว” “เดี๋ยวค่อยหา... โอ๊ยอีกิ๊ฟ ยืนดี ๆ” นิวกึ่งลาก กึ่งผลักให้เพื่อนขี้เมาเดินกลับโต๊ะ “อ๊อก.....” คนถูกลากกลับโต๊ะกลับโก่งคอขย้อนอาหารทั้งมื้อเที่ยง มื้อเย็นออกมาจนหมด “อีกิ๊ฟ !” นิวร้องเสียงหลง ยกมือขึ้นตีหน้าผากตัวเองอย่างสุดเซ็ง “มึง... ฉันว่านางไม่ไหวแล้วว่ะ พามันไปส่งคอนโดเถอะ” บีรีบเข้ามาพยุงคนเมาอีกข้าง ซึ่งตอนนี้กิ๊ฟคอพับคออ่อนไปแล้ว ณ บริษัทเดอะคิง บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ ก่อตั้งมานานกว่า 60 ปีแล้ว เมื่อประธานบริษัทคนเก่าเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก “ภูวเดช พิพัฒน์พัฒนาไพศาล” จึงขึ้นนั่งแท่นเป็นประธานบริษัทแทนบิดา ติ๊ง...... เสียงสัญญาณข้อความในไลน์แอปพลิเคชันดังขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน เมื่อรถของประธานบริษัทวิ่งผ่านเข้ามาในตัวอาคารของบริษัทแล้ว พนักงานทุกคนต่างตื่นตัวกับข้อความในไลน์กลุ่มลับที่มีชื่อว่า - พนักงานคิงลี้- บางคนรีบปิดจอเฟสบุ๊ค บางคนรีบเก็บเครื่องสำอางที่นำออกมาแต่งหน้า บางคนรีบรื้อเอกสารขึ้นมาแกล้งจัดหน้าเพื่อให้ตนเองดูยุ่งอยู่ตลอดเวลา ติ๊ง...... ไลน์กลุ่มพนักงานคิงลี้ขึ้นข้อความต่อมาว่า ....ท่านประธานคิงขึ้นลิฟต์มาแล้ว.... (ส่งโดย : น้องก้อย ประชาสัมพันธ์) เมื่อเห็นข้อความนี้ทุกคนแทบจะกลั้นหายใจ รอว่าเมื่อไหร่บอสใหญ่จะก้าวผ่านประตูเข้ามาเสียที “สวัสดีครับ ท่านประธาน” ปีเตอร์ พนักงานฝ่ายธุรการที่นั่งอยู่โต๊ะแรก ใกล้กับประตูที่สุดลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ทักทายประธานบริษัทเป็นคนแรก ‘คิง’ ในชุดสูทสีดำ เรียบกริบ เนี้ยบตั้งแต่ผมจรดปลายเท้า เพียงแค่พยักเบา ๆ ให้กับคำทักทายนั้น แล้วเดินผ่านไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “สวัสดีค่ะ / ครับ ท่านประธาน” ตลอดทางที่เขาเดินผ่านพนักงาน ทุกคนต่างลุกขึ้นทักทาย ยกมือไหว้ โน้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม แต่แล้วเขาก็ชะงักฝีเท้าลง ที่โต๊ะพนักงานสาวคนหนึ่ง หล่อนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอย่างเพลิดเพลินจึงไม่รู้ว่า สายตาอันคมกริบของประธานหนุ่มกำลังจับจ้องเธออยู่ “น้องฟาง.... น้องฟาง......” พี่นา หัวหน้าฝ่ายพัสดุ พยายามส่งเสียงเรียกลูกน้องใต้บังคับบัญชาให้รู้สึกตัว แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าว่าจะรู้ตัวแม้แต่น้อย เสียงของเธอยังกรอกลงไปในโทรศัพท์พร้อมกับรอยยิ้มว่า “พี่ธีอย่าทำงานหนักนะคะ..... ค่ะ.... ตอนเย็นฟางรอที่เดิมนะคะ จุ๊บุ... จุ๊บุ.... รักนะคะ”“โธ่เอ๊ย !... ให้มันได้แบบนี้สิ”คิงลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการปลดปล่อยตัวเองอย่างสุดเซ็ง“คืนนั้น ฉันยังไม่ได้เสียตัวให้คุณเหรอ แล้วทำไมฉันตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่าแบบนั้นล่ะ แถมยังนอนกอดคุณด้วย”กิ๊ฟซักถามสามี เช้าวันนั้นสภาพที่เห็น ทำให้เธอเข้าใจว่าได้เขาเป็นสามีไปแล้ว มิน่าเล่า ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย“ผมเป็นคนถอดเสื้อผ้าคุณออก สร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าเรามีอะไรกันแล้ว เพื่อผูกมัดคุณไม่ให้หนีผมไปไง แต่คิดไม่ถึงว่า ผมยอมลงทุนขนาดนั้นแล้ว คุณยังกล้าทิ้งผมไปอีก ! คืนนี้คุณอย่าหวังว่าจะรอดเลย”คิงคำรามลั่น พร้อมกับพลักเจ้าสาวลงไปกับเตียง จากนั้นก็ขึ้นทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว“ว๊าย ! เดี๋ยวคะ”หญิงสาวร้องโวยวายขึ้น ใช้สองมือดันหน้าอกเขาไว้ให้ออกห่าง หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่เธอจะเสียตัวจริง ๆ“เดี๋ยวอะไรอีก”ชายหนุ่มถามติดจะหงุดหงิด“กะ... กิ๊ฟกลัว” ร่างของเธอสั่นระริกขึ้นมาจริง ๆ ใบหน้าแดงก่ำ เธอเอ่ยตะกุกตะกักออกไปว่า “ขอกิ๊ฟดื่มเหล้าย้อมใจก่อนได้ไหม เผื่อว่าจะได้หายกลัว”คิงหัวเราะเต็มเสียง เลขาสาวผู้แสนจะเก่งกาจไม่เ
หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมา แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับแผงอกจนรับรู้ได้ถึงไออุ่นที่แสนคุ้นเคย แต่หัวใจเธอกลับบีบรัดกันแน่นจนรู้สึกเจ็บ เพราะหากเธอยอมกลับไปอยู่ในสถานะเดิม วันหนึ่งประวัติของเธอก็คงจะซ้ำรอยเหมือนกับแม่ของเธอแน่ ๆ“ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณคิง เราสองคนไม่คู่ควรกัน สักวันหนึ่งคุณก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่คุณเลือกให้”เธอพยายามขยับตัวหนี แต่เขากลับรัดวงแขนแน่นขึ้นไปอีก“ไม่ ผมไม่ปล่อย ผมอุตส่าห์ตามคุณมาถึงที่นี่ ทำทุกอย่างเพื่อให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน คุณยังคิดจะหนีไปจากผมอีกหรือ.....”เขาส่งเสียงตัดพ้อออกมา ทันทีที่เขารู้เรื่องราวของหญิงสาวทุกอย่าง และรู้ว่าบริษัทไอยรา กรุปกำลังย่ำแย่ จึงวางแผนเข้ากวาดซื้อหุ้นของไอยรา แย่งชิงสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอกลับคืนมาให้ แล้วบีบให้คนที่ทำร้ายเธอในอดีตให้จนตรอกอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะหมดเงินไปกี่หมื่นล้านก็ตามชายหนุ่มจับต้นแขนของเธอทั้งสองข้าง แล้วผลักให้หญิงสาวหันมาสบตาเขา ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ชั่วชีวิตนี้ผมจะรัก และแต่งงานกับคุณแค่คนเดียวเท่านั้น”“ถ้าแม่คุณ.....”กิ๊ฟเอ่ยออกมาได้ยากยิ่ง เพราะก้อนแข็ง ๆ วิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ น้ำตา
คิงแกล้งส่งเสียงไอขึ้น พลางปรายตาคมดุมองมาที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันที่จีบกันไม่รู้จักเวล่ำเวลา ทำเอาคนทั้งคู่ยิ้มเจื่อนไปทันที“ผมยังพูดไม่จบ...” คิงเอ่ยขึ้นอย่างทรงอำนาจแม้ว่าจะอยู่ในบริษัทของคนอื่นก็ตาม “เงื่อนไขของผมคือ หุ้นของบริษัทไอยรา กรุปในมือผม จะถูกโอนไปให้นางสาวกนกพิชญ์ เรืองระวี ทันทีที่เธอยอมลงนามในทะเบียนสมรส”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เจ้าหน้าที่อำเภอรีบนำเอกสารขึ้นมาทันที ทั่วทั้งต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน คิงจึงเอ่ยต่อท่ามกลางความเงียบนั้นว่า“หากคุณจันทิราต้องการให้ลูกชายของคุณครองตำแหน่งประธานบริษัท ก็เอาเงินที่มีทั้งหมดมาขอซื้อหุ้นจากคุณกิ๊ฟไปได้ แต่ตอนนี้ราคาหุ้นสูงขึ้นมากแล้ว อาจจะได้แค่ 2 – 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”เมื่อคิงเอ่ยจบ คุณจันทิมาถึงกับกรีดร้องออกมาลั่นห้องทันที“กรี๊ดดดดดดด ฉันไม่ยอม !” หากนังลูกเมียเก็บนั่นยอมจดทะเบียนสมรสกับมหาเศรษฐีหนุ่มคนนี้ เธอสองแม่ลูกก็จะตกเป็นเบี้ยล่างมันทันที นี่เธอตกอับถึงขนาดต้องไปกราบกรานขอซื้อหุ้นจากมันเชียวหรือ“มันไม่ใช่คนในตระกูลไอยรา มันก็แค่ลูกเมียเก็บ มีสิทธิ์อะไรมาครอบครองหุ้นของโรงแรมนี้ !”จันทิราโวยวายขึ้นอย่างไม่ลืมหูลื
“ขออนุญาตค่ะ มิสเตอร์อเล็กซานเดอร์มาถึงแล้วค่ะ”เลขานุการของไอยรา เปิดประตูให้กับแขกคนสำคัญเดินเข้ามา ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาในห้องเกือบสิบคนสามคนสุดท้ายที่เดินเข้ามานั้น ทำให้กิ๊ฟถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง หัวใจเธอเต้นโครมครามทันทีที่สบเข้ากับดวงตาคมกริบคู่นั้น“คุณคิง”เสียงแผ่วเบาหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาว ในขณะที่น้องชายของเธอก็เอ่ยขึ้นว่า“ยินดีต้อนรับครับมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์” เก่งรีบลุกขึ้นเข้าไปจับมือทักทายกับแขกคนสำคัญ “เชิญนั่งครับ”คณะของมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์ หรือ คิงนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เขามองหญิงสาวที่แสนคิดถึงนั้นด้วยแววตาวาววับคมกล้า ในขณะที่เขาเอ่ยแนะนำคนในทีมของตนให้อีกฝ่ายรู้จักผู้ร่วมทีมของเขาในวันนี้ประกอบด้วยทนายความฝีมือดีที่สุด ผู้แทนของบริษัทหลักทรัพย์ (Broker) เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร ผู้จัดการสินทรัพย์ของบริษัท รองประธานคณะกรรมการ และหัวหน้าฝ่ายการตลาดนิวนี่ที่ถูกแนะนำเป็นคนสุดท้าย แอบยักคิ้วให้กับเพื่อนสาว ที่ยังคงนั่งแข็งค้างคล้ายคนถูกสาป คนในตระกูลไอยราไม่ทราบว่าเขากับกิ๊ฟเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้น เขาจึงร่วมทีมมากับคุณเค และคุณคิงโดยไม่ต้อง
จันทิราชะงักฝีเท้า แล้วหันมามองสามี แต่เมื่อแลเลยไปเห็นลูกสาวของเมียอีกคนของเขา คอเธอก็ชูตั้งแข็งขึ้นมาทันที“คุณแม่ครับ เชิญมาคุยกันก่อน”เก่งลุกขึ้น เข้าไปโอบมารดาให้มานั่งลงที่โซฟานุ่ม เพื่อที่จะได้สนทนาเรื่องสำคัญ“เรื่องอะไร มีอะไรต้องพูดกัน ทุกวันนี้แกสองพ่อลูกเคยเห็นฉันอยู่ในสายตาไหม ดีแต่จะคอยโอ๋เอาใจคนอื่น”จันทิราปรายตามองไปที่กิ๊ฟ จงใจกระแทกเสียงคำว่า – คนอื่น – ให้ลูกเมียเก็บได้ยิน“แต่คนอื่นที่คุณเอ่ยถึง คือ ลูกสาวของผม และคือคนที่ช่วยบริษัทของเราไว้ เป็นคุณเสียอีกที่ขายบริษัทให้กับคนอื่นกับมือตัวเอง !”ปนนธีร์ขึ้นเสียงเข้มกับภรรยา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง“นี่คุณอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ ! ฉันขายบริษัทให้ใครที่ไหน”จันทิราตวาดสามีกลับ ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้พลาดพลั้งทำอะไรลงไป“ก็หุ้นของไอยรากรุป ที่คุณขายออกไปจนหมดอย่างไงล่ะ”ปนนธีร์จ้องหน้าภรรยาด้วยใบหน้าถมึงทึง“ฉันขายหุ้นในส่วนของฉัน มันผิดตรงไหน ถ้าราคามันสูงขึ้นเราก็รีบขายเอากำไรสิ ใคร ๆ เขาก็ขายกัน”จันทิราเถียงคอเป็นเอ็น ให้ตายเธอก็ไม่ยอมรับว่าเป็นคนขายบริษัท“พ่อครับ แม่ครับ ใจเย็น ๆ แล้วฟังผมอธิบายก่อนนะ
“เหอะ ! ไปทำงานที่บริษัทไม่กี่วัน แกก็จะนับญาติกับผู้หญิงคนนั้นแล้วเหรอ ผู้หญิงเขาทิ้งพี่แกไป แกยังจะไปเห็นดีเห็นงามอะไรอีก ยังไงยัยหนูมิ้น ลูกสาวของคุณหญิงก็ดีกว่าเป็นไหน ๆ”นริศรเชิดหน้าขึ้น พูดได้ไม่เต็มปากนัก เธอยังไม่อยากยอมรับหญิงสาวเป็นลูกสะใภ้ในตอนนี้ เพราะกลัวจะเสียหน้า“ที่คุณกิ๊ฟเขาทิ้งผมไป ก็เป็นเพราะว่าคุณแม่เป็นคนบีบบังคับให้เธอต้องหนีไป” คิงเอ่ยเสียงขรึม“ตาคิง !”นริศรเสียงสูง ตกใจที่ลูกชายของตนรู้เรื่องที่เธอแอบทำทั้งหมดแล้ว“ส่วนผู้หญิงที่คุณแม่อยากได้มาเป็นสะใภ้นั้น เธอมีผัวแล้ว และที่สำคัญครอบครัวเป็นหนี้ธนาคารอยู่ร้อยล้าน”“ไม่จริง !”นริศรส่ายหน้าอย่างยากที่จะยอมรับได้“คุณแม่ดูคลิปนี่ครับ”เคเปิดคลิปในมือถือให้คุณนริศรดูในหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ปรากฏภาพของมายด์มิ้นเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยความหงุดหงิดนริศรได้ยินเสียงของมายด์มิ้นคุยโทรศัพท์กับคุณหญิงแม่ชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า......ถ้าลูกชายของยัยป้านริศรหน้าโง่นั่นจับง่ายก็ดีสิ ฉันกับแม่จะได้สบายไปทั้งชาติ...........มิ้นกลับไปนอนกอดผัวให้กีฉ่ำดีกว่า....“ตายแล้ว !”นริศรยกมื