“ไอ้เสืออยู่ไหน” ร่างบางเดินเข้าไปคณะวิศวกรรมด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เพียงแค่ใบบัวก้าวขาเดินเข้าไปเสียงฮือฮาของหนุ่มวิศวะก็ดังขึ้นไม่หยุด โดยมีเพื่อนรักทั้งสองเดินตามไม่ห่าง
“ทางนั้นครับ” เด็กวิศวกรรมปีหนึ่งชี้ไปยังกลุ่มของเสือที่กำลังนั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ เพียงแค่เห็นตัวต้นเหตุ ร่างบางก็ไม่รอช้ารีบเดินสับขาเรียวเข้าไปหาชายหนุ่มทันที
“ไอ้เสือ” เสียงแหลมเอ่ยเรียกชื่อบุคคลที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดด้วยความหงุดหงิดใจ
“มาที่นี่ทำไม” เพียงแค่ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง เสือก็รู้ทันทีว่าใคร? ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับไปมองหน้าใบบัวด้วยใบหน้าเรียบเฉยแฝงไปด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมฉันจะมาที่นี่ไม่ได้” ร่างบางยืนกอดอกเชิดหน้าใส่ชายหนุ่ม เธอเองไม่เข้าใจเลยสักนิดว่า ทำไมถึงมาเหยียบคณะนี้ไม่ได้
“เออใช่!! ทำไมยายใบบัวถึงมาที่นี่ไม่ได้ หรือว่าน้องเสือมีอะไรปิดบังเพื่อนพี่อยู่” ติวเตอร์ที่เห็นใบหน้าไม่สบอารมณ์ของเสือที่แสดงออกมา เมื่อเห็นใบบัวยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งแตกต่างจากสถานที่อื่นโดยสิ้นเชิง
“หรือว่าน้องเสือแอบนัดผู้หญิงมาเจอที่นี่” เฌอเอ่ยเสริมติวเตอร์ เพราะเธอก็เห็นความผิดปกติเช่นกัน
“พี่เฌอครับ เพื่อนผมไม่ใช่คนแบบนั้น” ทรอยที่เห็นเสือยังคงนิ่งไม่ยอมตอบคำถาม เขาจึงตอบกลับแทนเพื่อนของตัวเอง
“แบบนั้นหมายถึงแบบนายน่ะเหรอ”
“แบบผมมันเป็นยังไงครับพี่” ทรอยยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปประจันหน้ากับเฌอพร้อมกับยื่นหน้าหล่อเข้าไปใกล้รุ่นพี่สาว
“ไอ้เด็กบ้า ถอยออกไปเลยนะ” เสียงเอะอะโวยวายของเฌอดังขึ้น เมื่อเจอสายตาเจ้าเล่ห์ของทรอยจนเธอรีบผงะถอยหลังกับการจู่โจมของรุ่นน้องหนุ่ม
“สรุป นายไม่พอใจที่ฉันมาที่นี่” ใบบัวยืนจ้องหน้าเสืออย่างไม่ยอมแพ้ เธอเองก็อยากรู้คำตอบเหมือนกัน เพราะอะไร ทำไม? ซึ่งเรื่องนี้อาจมีผลต่อการตัดสินใจของเธอที่มีต่อเขา
“ผู้ชายมันเยอะ!!” เสียงทุ้มบวกกับอาการหัวเสียเอ่ยตอบหญิงสาว ตาคมกวาดตาไปมองโดยรอบบริเวณที่มีแต่เด็กวิศวะช็อปสีแดงเลือดหมูมองมาเป็นระยะ
“อุ๊ย!! ฉันเขิน / น้องเสือ”
“นี่พวกแกอยู่ข้างใครกันแน่” เพียงแค่ได้ยินเสียงอุทานหวานจากเพื่อนรักทั้งสอง ใบบัวถึงกับรีบหันมาค้อนใส่
“บัวมีอะไร ถึงมาที่นี่” เสือเอ่ยถามใบบัวด้วยความอยากรู้ นี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอตามหาเขา และบุกมาเยือนถึงถิ่นวิศวะ
“ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับนาย” ร่างบางเป็นอันต้องชะงัก เมื่อเธอเผลอลืมเหตุผลที่แบกหน้ามาหาเขาถึงที่นี่
“ทำไมไม่ไลน์มาบอก หรือโทร. มา” จริง ๆ ใบบัวไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เลยสักนิด เพียงแค่ไลน์หรือโทร. มา เขาก็พร้อมจะไปหาเธอทุกเมื่อ
“โอ๊ย!! ฉันทั้งลบ ทั้งบล็อกนายไปแล้ว” คำตอบที่ได้ ทำให้ร่างสูงโปร่งรีบดึงข้อแขนเล็กให้เดินตามออกจากคณะตัวเองทันที สุดจะทนกับสายตาของผู้ชายคนอื่นที่มองผู้หญิงของเขาแทบไม่วางตา
“งั้นมานี่”
“นี่นาย ปล่อยนะ!! ไอ้เถื่อน” ใบบัวพยายามสะบัดข้อมือของตัวเองออก และโวยวายให้เสือปล่อยข้อแขนของเธอ แต่ยิ่งเธอดิ้นมากเท่าไร แรงบีบรัดยิ่งแน่นมากเท่านั้น
“เงียบแล้วรีบเดิน วันหลังอย่ามาที่คณะนี่อีก” เสียงเข้มเอ่ยออกคำสั่งกับหญิงสาว เสือดูหัวเสียไม่น้อย
“ฉันจะไปไหนมาไหนมันเกี่ยวอะไรกับนาย”
“เกี่ยวสิ!! เธอเป็นเมียฉัน” เสือหงุดหงิดทุกครั้งที่หญิงสาวบอกว่า เขาไม่เกี่ยวข้องกับเธอ ขนาดเสียตัวให้เธอตั้งหลายน้ำ เธอก็ยังคงปากแข็งอยู่ดี
“ไอ้บ้า!!” ร่างสูงพาใบบัวมายังลานจอดรถที่มีรถยนต์คันหรูของเขาจอดอยู่ เสือรีบปลดล็อก และดันตัวใบบัวให้ขึ้นรถ ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งฝั่งคนขับ โดยมีหญิงสาวนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ก่อนแล้ว
“จะนั่งหน้างอคอหักอีกนานมั้ย” เมื่อเห็นคนตัวเล็กนั่งเงียบไม่ยอมเอ่ยพูดธุระสำคัญของเธอออกมา เขาเองที่เห็นใบหน้างอแงมันเขี้ยวจนต้องรีบเร่ง เพราะธุระของเธอคงสำคัญไม่น้อย
“ฉันท้อง!!” ใบบัวหลับหูหลับตาเปล่งประโยคที่อยู่ในใจออกมา มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับเธอ เหตุการณ์ที่เธอต้องแบกหน้ามาบอกว่า ท้องกับผู้ชายที่เธอบอกว่า เด็กกว่ามาโดยตลอด
“.......” ไร้เสียงตอบรับจากเสือ เขายังคงนั่งนิ่งไม่ขยับตัวไปไหน ใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา จนหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องรีบเอ่ยพูดดักคอเอาไว้ก่อน
“ฉันมาบอกนายให้รู้ไว้ นายไม่ต้องรับผิดชอบฉันก็ได้” นี่สินะสันดานที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้ คนที่บอกว่า เธอเป็นเมีย แต่พอเธอบอกว่าตัวเองท้อง เขากลับนิ่งเงียบไร้ซึ่งการยินดีกับสิ่งที่ได้ยิน
จริง ๆ เธอเองไม่ได้คาดหวังคำตอบจากเสือเท่าไรนัก เพราะเขาเองก็ยังเด็ก และพึ่งจะปีหนึ่งเอง ยังต้องเจอผู้หญิงอีกมากมาย แถมผู้ชายคนนี้ยังฮอตในหมู่สาว ๆ ในมหา’ลัยอีกด้วย
เขาคงไม่อยากหยุดหรือต้องมารับผิดชอบลูกตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้หรอก ใบบัวคิดได้ดังนั้นเธอเลือกที่จะเปิดประตูรถ
“ท้องจริง ๆ ใช่มั้ย”
เวลามักผ่านไปเร็วเสมอ ตอนนี้ตะวันเรียนจบเรียบร้อยและตอนนี้เธอกำลังทำงานที่บริษัทของพ่อพายุโดยมีข้อแม้ว่าห้ามให้ใครรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับลูกชายเจ้าของบริษัทในทุกคนในบริษัทรู้จะมีก็แต่เจ๊ซินดี้ที่เธอเคยฝึกงานด้วยส่วนพายุตอนนี้เขาขึ้นปีสองแล้วและวันหยุดเขาก็มักจะเข้าไปศึกษาดูงานที่บริษัทของพ่อตัวเองตามคำสัญญาที่เคยให้เอาไว้กับผู้เป็นพ่อ “ตะวันเสร็จรึยัง” เสียงพายุตะโกนเรียกชื่อตะวัน วันนี้คือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เขาและเธอนัดไปกันเที่ยวทะเลซึ่งตอนนี้คนตัวเล็กยังไม่เดินออกมาจากห้องนอน “มาแล้ว มาแล้ว เร่งจังเลยนะ” เสียงหวานวิ่งออกมาจากห้องนอน สายเดี๋ยวคล้องคอลายลูกไม้บวกกับกางเกงยีนขาสั้นอวดเรียวขาสวย ทำให้พายุเริ่มคิ้วขมวดกันเป็นปมกับการแต่งตัวของเธอ “ไปเปลี่ยนชุด” “จะไปชุดนี้” “ตะวัน!!” “มันไม่ได้โป๊อะไรเลยนะ” ตะวันก้มมองตัวเอง เธอไม่ได้แต่งตัวโป๊จนเกินงามแต่พายุมักจะหวงจนเกินเหตุ เมื่อเห็นว่าคนตัวโตเริ่มหงุดหงิดตะวันรีบเดินไปคล้องแขนอย่างเอาใจก่อนจะดันแผ่นหลังของเขาให้เดินออกจากห้อง
“วันนี้ดูอารมณ์ดีเชียวนะ” เสียงแบงค์เอ่ยทักพายุคนแรกที่เห็นเขาก้าวขายาวเข้ามาภายในอาคารเรียนด้วยใบหน้าที่สดชื่น “กูละสงสารพี่ตะวันจริง ๆ ที่จริงพี่เขาควรจะโกรธมึงนะ” เรียวพูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าของพายุ “กูว่าแปลกนะ ผู้หญิงอะไรไม่หวงผัวตัวเองสักนิด” เป็นภัทรที่เอ่ยขึ้นมา คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเขากำลังครุ่นคิดถึงนิสัยของผู้หญิงที่เคยเจอมา ไม่เคยมีใครเหมือนพี่ตะวันเลยสักคน “ยังไงวะ” “ไอ้พายุ มึงคุยกับพี่ตะวันเรื่องรูปในเพจรึยัง” “อืม” “แล้วพี่ตะวันเขาว่าไงบ้าง” “ไม่ได้ว่าอะไร” “พวกมึงเห็นไหม? กูว่าแปลก ไอ้แบงค์มึงคิดแบบกูรึเปล่า” แบงค์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เกิดฉงวนใจขึ้นมาตามคำพูดของภัทรซึ่งแน่นอนว่าเขาและภัทรเป็นเสือผู้หญิงเช่นเดียวกัน “อืม แบบนี้กูก็ว่าแปลก เป็นผู้หญิงคนอื่นวีนแตกไปแล้ว” มือหนาอกขึ้นลูบคางของตัวเองอย่างครุ่นคิดถึงสาเหตุ ทำให้พายุเริ่มรู้สึกตามที่เพื่อนทั้งสองของตัวเองพูดขึ้น ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเขาและเธอไม่เคยทะเลาะเรื่องผู้หญิงเลยส
เย็นวันนั้นพายุไลน์บอกตะวันให้มาหาที่คณะ เพื่อรอเขากลับคอนโดพร้อมกันเนื่องจากอาจารย์ปล่อยเลต ทำให้เขาไม่สามารถไปรับเธอได้และเขาก็ไม่อยากให้เธอกลับคอนโดเพียงลำพัง “งานดี” ไวน์ที่อาสารอเป็นเพื่อนตะวันที่ลานคณะวิศวกรรม ทั้งสองซื้อลูกชิ้นและน้ำปั่นมากินเมื่อรู้สึกหิวพร้อมกับหันไปมองผู้ชายที่เดินผ่านไปมาอย่างอารมณ์ดี “ดีแก” หนุ่มน้อยหน้าตี๋ที่พึ่งเดินผ่านทำให้ไวน์และตะวันหันขวับไปมองทันที ความน่ารักของเด็กหนุ่มที่พึ่งเดินผ่านไป “พ่อของลูกฉัน” “แต่แกไม่มีมดลูกนะวิวัฒน์” “พูดแบบนี้ ตบกันไหม? เพื่อนก็เพื่อนเถอะ” ไวน์ลุกขึ้นยืนเท้าสะเอวหาเรื่องตะวัน เรียกเสียงหัวเราะจากตะวันได้เป็นอย่างดี เสียงหัวเราะใสของตะวันทำให้พายุที่กำลังลงมาจากตึกรับรู้ได้ว่าเธออยู่ตรงไหน เขาเดินไปตามเสียงหัวเราะเรื่อย ๆ จนเห็นแผ่นหลังบางของตะวันนั่งอยู่กับเพื่อน“น่ารักจังเลย ชื่ออะไรคะ” หนุ่มตี๋คนเดิมเดินผ่านทำให้ตะวันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวเพื่อขิงเพื่อนรักอย่างไวน์ ที่กำลังทำหน้าเหมือนคนเห็นผีอยู่ตรงข้ามเธอ“เป็นอะไร? ทำหน้าเหมือนคนเห็นผี” คิ้ว
“พายุเสร็จรึยัง” เสียงเรียกพายุดังขึ้น วันนี้คือวันเปิดภาคเรียนของตะวันและพายุ หลังจากฝึกงานเสร็จตะวันต้องเข้าไปทำโปรเจคจบและเรียนเพิ่มในมหาลัยก่อนจะจบการศึกษา วันนี้พายุใส่เสื้อช็อปสีแดงเลือดกับกางเกงยีนพอดีตัวสีดำกำลังเดินออกมาจากห้องนอน ดวงตากลมโตของตะวันมองดูความหล่อเหลาของพายุจนลืมเวลา พายุนับวันยิ่งทวีความหล่อขึ้นหลายเท่าตัวบวกกับช็อปแดงที่เขาใส่อยู่ยิ่งทำให้เขาหล่อมากขึ้น “เป็นอะไร” “ปะ เปล่า” “ก็เห็นอยู่ ยืนคิดอะไร” พายุที่เห็นตะวันนิ่งไป เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ หลุบตาต่ำมองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยความสงสัย “ไม่มีอะไรหรอก รีบไปกันเถอะ”พายุขับรถมาส่งตะวันที่คณะของเธอก่อน รถยนต์คันหรูจอดสนิทหน้าคณะนิเทศของตะวัน ร่างบางประหม่าเล็กน้อย เมื่อมองออกไปด้านนอกของรถมีแต่คนมองเข้ามา“ทำไมมีแต่คนมอง”“......”“หรือว่านายมารับสาวที่คณะนี้บ่อย” เมื่อได้ยินประโยคของตัวเอง ทำให้พายุถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความคิดของเธอ“......”“นี่นายเบื่อฉันแล้วเหรอ? ถึงได้ถอนหายใจแบบนี้”“ใกล้จะเป็นเมนส์ใช่ไหม” พายุพูดออกมา
“พ่อ” หลังจากกลับมาจากบ้านตะวัน พายุรีบเดินทางมาหาผู้เป็นพ่อของตัวเองที่บริษัททันทีด้วยความรีบร้อน ร่างสูงเดินก้าวเข้าไปในห้องทำงานโดยไม่รอให้พ่อของเขาอนุญาต ชายสูงวัยที่กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กับกองเอกสารบนโต๊ะทำงาน เงยหน้าขึ้นมามองลูกชายของตัวเองที่เดินปรี่เข้ามา “มีอะไร” น้ำเสียงเรียบเฉยเอ่ยถามลูกชายตัวเอง เขามองหน้าลูกชายของตัวเองด้วยแววตาอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “พ่อ” พายุเอ่ยเรียกพ่อของตัวเองอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาเลิ่กลั่กเพราะเขาไม่รู้จะพูดอย่างไรกับพ่อตัวเองแต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของพายุ ทำให้ผู้เป็นพ่อรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง “ว่า” “พ่อไปขอตะวันให้ผมหน่อยสิ” “คิดยังไง ถึงได้มาขอร้อง” “ที่บ้านของตะวันเขาถือเรื่องนี้” ร่างสูงปรี่เดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับผู้เป็นพ่อด้วยแววตาที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน พายุและพ่อของเขาเริ่มทำตัวเลิ่กลั่กใส่กัน “แกยังเห็นฉันเป็นพ่อ?” น้ำเสียงเรียบเฉยเอ่ยถามลูกชายของตัวเองด้วยความน้อยใจไม่น้อย
“เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันกับพ่อไม่ถูกกัน” หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันพักผ่อน พายุพูดขึ้นเมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันสองคนในห้องนอนของตะวัน “ฉันรู้แต่นายควรให้เกียรติครอบครัวฉันนะ นายจะมาขอลูกสาวคนอื่นด้วยตัวเองไม่ได้” “แต่” “ถ้าเกิดนายเป็นพ่อที่มีลูกสาว วันหนึ่งเกิดผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาขอลูกสาวนายแบบนี้ นายจะว่าไง” คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมเมื่อเขาคิดตามคำพูดของตะวัน “ไม่คิด!!” “ห๊ะ!!ทำไมนายเป็นคนแบบนี้พายุ” “ไม่คิด เพราะถ้าเกิดมีลูกสาวจะไม่มีวันนั้นที่ลูกจะมีแฟน เพราะฉันเลี้ยงเขาให้สุขสบายไปทั้งชีวิตได้” ทำพูดของพายุทำให้ตะวันกุมขมับของตัวเองทันที นี่ขนาดยังไม่มีลูกสาวเธอก็เริ่มสงสารขึ้นมาจับใจ ถ้าเกิดพายุมีลูกสาวขึ้นมาจริง ๆ เธอเชื่อว่าเขาจะทำให้สิ่งที่ตัวเองเคยพูดเอาไว้“เฮ้อ!!ฉันเหนื่อยจะพูดเรื่องนี้กับนาย เอาเป็นว่าฉันต้องการในสิ่งที่ฉันพูด”“ตะวัน” ตะวันเดินหนีเข้าไปในห้องน้ำทันที เธอแค่อยากให้พายุทบทวนตัวเองมากขึ้น เขาจะทำอะไรด้วยตัวเองแบบนี้ไม่ได้อย่างน้อยเขาก็ยังมีพ่