คำหวานสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่บ้านเกิดอยู่ไกลเดินทางไม่สะดวกจึงต้องมาอยู่หอพัก ช่วงเรียนปี1 เธอพักอยู่หอในของมหาวิทยาลัย พอขึ้นปีสองก็มาอยู่บ้านเดียวกับพี่สาวและพี่เขยเพราะพ่อกับแม่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายจึงฝากฝังลูกสาวคนเล็กให้มาอยู่กับ ‘คำรัก’ พี่สาวที่แต่งงานได้ปีเศษ จะเรียกว่าแต่งงานได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เธอรู้ว่าพี่สาวจดทะเบียนสมรสกับนักรบ แต่ไม่มีพิธีแต่งงานอะไร ได้ยินพ่อกับแม่พูดว่าเสียดายเงินค่าจัดงานแต่ง เอาเงินมาตั้งตัวดีกว่า
บ้านของ ‘นักรบ’ พี่เขยวัยสามสิบอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรใกล้มหาวิทยาลัยและใกล้ที่ทำงานของพี่ทั้งสอง เธอย้ายเข้ามาอยู่ได้เทอมหนึ่งแล้ว ระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้อยู่ฟรีกินฟรี เธอทำงานบ้านทุกอย่าง ยังดีที่บ้านชั้นเดียวหลังเล็กกะทัดรัดจึงดูแลไม่ยากนัก ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของพี่ทั้งสองรวมทั้งทำอาหารง่ายๆ ที่พี่สาวมักจดรายการให้เธอซื้อของสดมายัดใส่ตู้เย็นไว้ จะว่าไปก็ไม่ได้ลำบากอะไร ยกเว้นเรื่องกิจกรรมเข้าจังหวะของพี่สาวกับพี่เขยที่ระยะหลังมานี้ เอ่อ...เหมือนจะเสียงดังและทำกิจกรรมนอกห้องนอนกันบ่อยๆ ทำให้เธอนอนไม่หลับไปด้วย
"ขอบตาดำไปแล้วนะ ทาครีมบำรุงบ้างสิ”
คำรักพูดหยอกน้องสาวแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ในห้องครัวขนาดเล็ก คำหวานยกชามข้าวต้มหอมกรุ่นมาตั้งตรงหน้าแล้วรินน้ำดื่มให้ เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่เขยเดินเข้ามา เธอรีบหันไปรินกาแฟดำที่เตรียมไว้แล้วยกมาให้เขาทันที นักรบเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วรับแก้วกาแฟดำไปดื่ม
“ขนมปังปิ้งด้วยไหมคะ” คำหวานถามผู้ชายคนเดียวของบ้าน ปกติเธอกับเขาแทบไม่เคยพูดคุยกันเลย แทบจะถามคำตอบคำด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายนิ่งๆขรึมๆ แบบนี้ เวลา....เอ่อ...ทำเรื่องนั้นจะดุเดือดขนาดได้ยินเสียงพี่สาวเธอครวญครางแทบขาดใจ
“ยัยหวานทำข้าวต้มอร่อยนะคะ พี่รบไม่กินรองท้องสักชามก่อนไปทำงานล่ะ”
คำรักคะยันคะยอแล้วหันไปขยิบตาให้น้องสาว คำหวานจึงรีบไปตักข้าวต้มยกมาให้ชายหนุ่มทันที คำรักฉีกยิ้มกว้าง ชีวิตการเงินของเธอยังต้องพึ่งพาเขา จะทำอะไรก็ต้องคอยดูสีหน้า ยังดีที่แม่ส่งคำหวานมาให้อยู่ที่นี่ เธอจึงสบายตัวหน่อย ไม่ต้องทำงานบ้านเอง ประหยัดเงินค่าจ้างแม่บ้านไปหลายพันเลยทีเดียว
เมื่อชามข้าวต้มถูกยกมาตั้งตรงหน้าแล้ว นักรบจะปฏิเสธก็ไม่ได้ เขาจึงกินอาหารเช้าไปอย่างเงียบๆ แต่สายตายังคงอ่านข่าวจากหน้าจอมือถือ คำหวานเองก็ชินกับบรรยากาศแบบนี้แล้ว ถ้าวันไหนเธอมีเรียนเช้าก็ไม่ได้อะไรเป็นพิเศษ แต่ถ้าวันไหนมีเรียนสายก็ตื่นเช้ามาทำอาหารไว้ หรืออย่างวันนี้ วันเสาร์ เธอไม่มีเรียนก็ต้องทำหน้าที่แม่บ้านทำอาหารเช้าและจัดการซักเสื้อผ้าทำความสะอาดบ้าน เอาเถอะ อย่างน้อยพี่เขยก็ไม่ได้ใช้งานเธอฟรีๆ บางทีเขาก็ยื่นเงินให้บ้าง แต่ผ่านมือพี่สาวหรอกนะ แต่ก็พอให้เธอได้มีค่าขนมเพิ่มจากที่แม่โอนให้รายเดือน
สองสามีภรรยาออกไปทำงานแล้ว เธอจัดงานกินมื้อเช้าของตัวเอง เปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือแล้วทำงานบ้าน เพราะเธอทำทุกวันอยู่แล้วจึงไม่รกอะไรนัก แต่เวลาซักเสื้อผ้าให้พี่สาวต้องแยกพวกผ้าลูกไม้ ชุดนอนบางเบา ชุดชั้นในซีทรู อะไรพวกนี้มาซักด้วยมือ จึงใช้เวลามากหน่อย แต่สิบโมงเช้าทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยดี ผ้าที่ซักด้วยเครื่องซักผ้าตากเป็นระเบียบที่ริมรั้ว
“หวาน”
“ธาม”
ธาม หรือ ธามไท ชายหนุ่มวัยเดียวกันหัวเราะจนดวงตาหยีเล็ก รอหญิงสาวเดินมาเปิดประตูรั้วให้ เขาเอารถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดด้วยความเคยชิน ทั้งสองมาจากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน สอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เดียวกันแต่เรียนคนละคณะ อาจเพราะความไกลบ้านทำให้ทั้งสองกลับมาสนิทกันและกลายเป็นแฟนกันในเวลาไม่นาน
“หิวจัง” ธามไทสารภาพไปตามตรง เขาต้องทำงานด้วยเรียนด้วย เวลาที่ไม่มีเรียนก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารในแอปสีเขียว
“ไข่เจียวหมูสับได้ไหม”
“หวานทำอะไรเราก็กินได้ทั้งนั้นแหละ”
คำหวานหัวเราะแล้วไปทำไข่เจียวโปะข้าวสวยร้อนๆ เธอรินน้ำเย็นให้เขาแล้วนั่งมองคนที่เธอเรียกว่า ‘แฟน’ กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย เพราะธามไทมาบ้านนี้บ่อยๆ พี่สาวกับพี่เขยก็รู้เรื่องนี้ เธอจึงไม่ได้นั่งเป็นเพื่อนเขา แต่ลุกขึ้นไปหยิบตะกร้าผ้าของพี่สาวออกมานั่งพับรอเวลาธามไทกินข้าวเสร็จ เขามักมาฝากท้องที่บ้านบ่อยๆ เธอเองก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรเพราะธามไทเป็นคนกินง่ายอยู่แล้ว ได้ช่วยเขาประหยัดค่าอาหารไปหนึ่งมื้อ เธอก็มีความสุขแล้ว
“เสื้อผ้าของพี่รักนี่เซ็กซี่ชะมัด” ธามไทอดพูดไม่ได้ เขากินข้าวเสร็จก็ยกจานไปไว้ที่อ่างล้างจานแล้วล้างมือพลางเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ผนังห้อง “อยากเห็นหวานใส่ชุดชั้นในเซ็กซี่บ้างจัง เอาไว้เงินเดือนเราออก เราซื้อให้หวานใส่สักชุดดีไหม”
“ไม่เอาหรอก” คำหวานส่ายหน้าไปมา ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ “แพงจะตาย ชุดละเป็นพันเลย”
เธอเคยเห็นป้ายราคาชุดชั้นในของพี่คำรัก บางชุดราคาหลักพันเลยก็มี แต่ก็มีชุดชั้นในแบบธรรมดาที่พี่คำรักใส่ไปทำงานแต่ยังราคาแพงสำหรับเธอที่ยังขอเงินพ่อกับแม่ใช้อยู่
ชายหนุ่มเดินเข้ามากอด จมูกสูดดมกลิ่นหอมหวานจากกายสาว สองมือเลื่อนมาลูบไล้หน้าอกเบาๆ
“หวานใส่อะไรก็สวย แฟนธามสวยจะตาย ยิ่งไม่ใส่อะไรเลยยิ่งสวย”
“ธาม...” คำหวานเรียกเสียงแผ่ว “มะ..ไม่...ไม่รีบไปทำงานเหรอ”
“อยากกินหวานก่อนสักรอบก่อนไปทำงานได้ไหม” เขาถามแต่ไม่ต้องรอคำตอบ เพราะยังไงเธอก็ยอมเขาทุกครั้งอยู่แล้ว มือข้างหนึ่งเลื่อนไปด้านล่างขยำเนินเนื้ออวบอิ่ม คำหวานเป็นผู้หญิงซ่อนรูป ทุกสัดส่วนเต็มไม้เต็มมือไปหมด
“อือ..ธาม...” เธอเข่าอ่อนเพราะนิ้วของเขาแทรกเข้ามาในร่องรักสะกิดปุ่มเสียวกระสัน มือข้างหนึ่งสอดมาใต้เสื้อยืดแล้วขยำหน้าอกบีบเคล้นจนเธอต้องครางออกมา
“ถ้าอยู่ด้วยกันจะทำแบบนี้ทุกคืนเลย”
ธามไทพูดเสียงพร่าไม่แพ้กัน เขามีเวลาไม่มากจึงเร่งซอยนิ้วเรียกน้ำหวานจากร่องรักที่ตอดนิ้วหนุบหนับ คำหวานยืนมือไปยันโต๊ะอาหารเพื่อทรงตัว แค่เขาสะกิดไม่กี่นาทีเธอก็เปียกฉ่ำจนน่าอาย
“อ๊า...ธาม..เบามือ..หน่อย” คำหวานพูดตะกุกตะกักเพราะความเสียวซ่าน คนด้านหลังถอนนิ้วออกแล้วรูดกางเกงของเธอลง เขาสาวลำเอ็นที่ผงาดหัวสั่นหงึกหงัก จับส่วนปลายเขี่ยกลีบเนื้อสีหวาน สะโพกกลมกลึงส่ายไหวไปมาด้วยความต้องการ เขาอยากจ้วงแทงไปทันทีแต่ต้องยั้งใจไว้ หยิบซองถุงยางอนามัยออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขากัดซองฉีกออกแล้วสวมถุงยาง มือข้างหนึ่งกดแผ่นหลังของเธอให้โน้มตัวไปด้านหน้า ก่อนจะจับแก่นกายของตนกดกระแทกเข้าไปในร่องรักที่เปียกแฉะ
วิรัชถอนลำเอ็นออกจากปากของเด็กสาว ร่างแกร่งเกร็งกระตุกปล่อยน้ำรักใส่ปากที่เผยอขึ้นรอน้ำรักที่อัดอั้นมา น้ำสีขาวขุ่นไหลย้อยเปื้อนมุมปาก “มัดสอบผ่านไหมคะ ทำคุณอาน้ำแตกแบบนี้เป็นแฟนได้หรือยัง” เธอยิ้มยั่วพลางยกมือขึ้นลูบหน้าอกของตัวเอง เมื่อครู่ถูกเขาแกล้ง เธอยังไม่ทันเสร็จเขาก็หยุดเสียก่อน มือข้างหนึ่งเลื่อนไปด้านล่าง นิ้วเล็กๆ เขี่ยติ่งเสียวแล้วบิดกาย “คุณอาขา...”แต่มองเธอเขี่ยติ่ง ลำเอ็นก็แข็งขึ้นอีกรอบ เขาจับแท่งเนื้อเขี่ยปลายถันที่ชูชัน ท่อนเนื้ออุ่นร้อนก็พองโตพร้อมรบ เขาจับร่างเล็กให้พลิกนอนคว่ำหน้า จับสะโพกเธอขึ้นแล้วกดแก่นกายแทรกเข้าไปในร่องสวาทที่เปียกชุ่มอยู่ก่อนแล้ว โดนกระทุ้งทีเดียวมิดด้ามทำเอามัดหมี่หวีดร้องออกมา“อ๊า!” “อยากได้เอ็นอุ่นไม่ใช่เหรอ” เขากัดฟันพูดเพราะร่องสาวขมิบรัดลำเอ็นแน่นไปหมด “อาใส่ไม่ยั้งแล้วนะ”“อื้อ...คุณอาขา...” เหมือนท่อนเนื้อของเขาจะขยายขึ้นกว่าเดิม มันใหญ่กว่าตอนที่อยู่ในปากเธอเสียอีก สัมผัสกระแทกกระทั้นจากด้านหลังทำมันลึกและแน่นจนเธอจุก แต่มันก็เสียวไปทั่วร่างจนถึงปลายนิ้วเท้า เขาจับเอวเธอแน่นแล้วซอยเอวดุดัน ช่องสวาทเล็กแคบแต่ขยายรับท่อน
วิรัชประคองร่างที่อ่อนปวกเปียกกลับมาที่ห้องพัก เดิมทีก็คิดว่าจะชวนดื่มเล่นๆ แต่ไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะคออ่อนขนาดนี้ แล้วนี่เวลาที่เขาไม่อยู่ด้วย คนอื่นจะหิ้วเธอไปไหนต่อไหนละเนี้ย แค่คิดก็โมโหขึ้นมา เขาพาร่างอ่อนนุ่มไปทิ้งบนเตียงนอน แล้วก็ยืนมองพยายามสงบใจ“คุณอา...คุณอาขา..”เสียงหวานเรียก ดวงตาหวานฉ่ำจ้องมองร่างกำยำที่กำลังถอนเสื้อผ้าของตนออกจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ส่วนนั้นแข็งขันตั้งตระหง่านพร้อมรบ มัดหมี่ยันกายขึ้นนั่ง เลียริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว ดูกี่ครั้งเขาก็น่ากินเสมอจริงสิ คืนนี้เธอต้อง ‘ขอบคุณ’ ที่เขาพามาเที่ยวนี่น่ามัดหมี่เพิ่งเคยดื่มไวน์เป็นครั้งแรก เธอไม่รู้เลยว่าน้ำหวานๆ นี่จะเมาได้เร็วขนาดนี้ ไม่เหมือนเวลาดื่มเหล้ายังรู้สึกขมจึงยั้งตัวเองได้ เธอมองเขาแล้วก็เลิกชุดกระโปรงขึ้นทางศีรษะ เหลืองชุดชั้นในสีแดงสดตัดกับผิวขาวนวล ดวงตาคมหรี่ตามองแล้วปีนขึ้นเตียง เขาเอื้อมมือไปปลดตะขอชุดชั้นในออก หน้าอกอวบใหญ่ปรากฏตรงหน้า ผิวเนียนสัมผัสแอร์เย็นฉ่ำในห้อง แต่เพียงครู่เดียว ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาใช้บราเซียสีแดงมัดข้อมือสองข้างของเธอไว้ด้วยกัน
“ชอบอาไงคะ”“พูดให้คนแก่ดีใจอีกแล้ว”“ก็แค่เกิดก่อนมัดหมี่ไม่กี่ปีเอง” เธอหัวเราะอารมณ์ดี“งานอาเสร็จแล้ว” เขานิ่งไปครู่หนึ่ง “ไปเที่ยวกันไหม เอาใกล้ๆ ค้างสักคืนค่อยกลับ”“ไปค่ะ!” มัดหมี่รีบตอบรับทันที ดวงตาเป็นประกายวิบวิบ “ไปไหนดีคะ”“อาให้มัดหมี่เลือกเอาเลย” เห็นยิ้มแบบนี้ทีไรก็ใจอ่อนทุกที“ทะเลได้ไหมคะ”“ได้ครับ” เขายิ้ม “กินข้าวแล้วก็เตรียมตัวเลยดีไหม มัดหมี่เพลียหรือเปล่า”“ได้ค่ะ สำหรับอาวิรัชแล้ว มัดหมี่พร้อมเสมอ”มัดหมี่ไม่ได้พูดเกินจริง ต่อให้มีเรียนเธอก็โดดเรียนได้ แค่ไม่อยากเสียประวัติก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญ ตั้งแต่มีอะไรกันมา เขาไม่เคยชวนเธอไปเที่ยวไหนเลย เขาอาจจะใจอ่อนกับเธอแล้วก็ได้.ทะเล “ทะเล!” มัดหมี่ร้องดีใจเมื่อได้เห็นทะเลตรงหน้า ทั้งสองไม่ได้ไปจากกรุงเทพฯ นักเพราะไม่อยากเสียเวลาขับรถนานเกินไป จึงเลือกมาที่หาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี “หาที่พักก่อน” วิรัชหัวเราะที่เห็นเด็กสาวยิ้มจนดวงตาหยีเล็ก “อยากได้แบบไหน โรงแรมหรือรีสอร์ทดี” “โรงแรมที่มีอาหารเช้าและมีสระว่ายน้ำ” “ได้ครับเจ้าหญิง” วิรัชเลือกโ
“อึก...อ๊ะ...อ๊ะ มัดเสียวจัง เอ็นคุณอาทำร่องมัดเสียวมาก” มัดหมี่ครางกระเส่าเธอขย่มลำเอ็นเร็วๆด้วยความเสียวซ่าน “อื้ม ร่องหนูมัดก็รัดลำเอ็นอา” เขาพูดเสียงแหบพร่ามองหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตรงหน้า แล้วก็อ้าปากกัดปลายจุกสีหวาน “อ๊ะ! คุณอา!” เธอบิดตัวเร่าๆ เสียวทั้งบนเสียวทั้งร่าง “มัดจะไม่ไหวแล้ว จะแตกแล้ว...อะ อร๊ายยย” มัดหมี่ขย่มลำเอ็นจนตัวเองเสร็จไปก่อน เธอนั่งทับท่อนเอ็นที่ยังแข็งขัน ร่องรักเธอขมิบรัวทำเอาวิรัชได้แต่ครางซี๊ดเสียวไปทั่วร่าง เขารัดเอวบางแล้วจับเด้งเอวกระแทกร่องที่ร้อนฉ่า “ร่องตอดดี เสียวมาก” “มัดก็เสียวค่ะคุณอาขา”เธอยื่นหน้าไปจูบปากแลกลิ้นในขณะที่ท่อนล่างถูกเขากระเด้าเอวรัวๆ เขามอบความสุขเสียวซ่านให้เธอมากกว่าที่เคยได้รับจากเพื่อนชายในมหา’ลัย พวกนั้นดีแต่กระแทกๆ พอน้ำแตกก็แยกย้าย แต่อาวิรัชทำเธอเสร็จทุกครั้ง ลีลาเด็ดแถมยังอึดและทน แม้นานๆ จะเจอกันที แต่ได้มีความสัมพันธ์กับเขาทีไหร่ก็เสียวถึงใจทุกครั้ง “เสียวก็ร้อง อาจะได้รู้ว่าหนูมัดชอบ” เขากระแทกสุดโคนเหมือนปลายหัวบากจะชนเข้ากับม
เรื่อง คุณอาใจร้าย“แต่...คุณอาไม่ใช่แฟนของมัด...มัดไปใครก็ได้” เธอก็น้อยใจเขาเป็นเหมือนกันนะ มีอะไรกัน โทรคุยกัน ใส่ใจทุกเรื่อง เหมือนเป็นคนรักทุกอย่าง แต่สถานะมันไม่ใช่ มันคลุมเครือจนใจเจ็บ แต่เธอก็จำยอมเพราะรักเขามาก ทั้งที่เคยคิดเปิดใจกับคนอื่น แต่ไม่เคยลืมเขาได้เลย แค่เขาโทรมาหรือบอกว่าจะมาหา เธอก็ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา. เรื่องของ มัดหมี่ “ทำไมดื้อแบบนี้นะ” “มัดหมี่ไม่ได้ดื้อนะคะ” “ดื้อ” น้ำเสียงทุ้มต่ำดุ “ดื้อแล้วยังชอบเถียง” “คุณอาขา...มัดหมี่ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ...เสียว” เสียงหวานครางกระเส่า ร่างอวบอิ่มเสื้อผ้าหลุดรุ่ยเอนหลังผิงแอ่นอกของคุณอาหนุ่มวัยสามสิบห้าที่กำลังใช้นิ้วเรียวยาวขยับซอยในร่องรักของมัดหมี่ -เด็กสาววัยยี่สิบปี กระโปรงพลีทสั้นเหนือเข่าร่นขึ้นมากองที่เอว กางเกงชั้นในลูกไม้สีชมพูถูกรูดไปอยู่ที่ข้อเท้า กระดุมเสื้อนักศึกษาถูกปลดออกเผยให้เห็นหน้าอกคัพซีที่ล้นมือ สองขาถูกแยกออกพาดกับขาของชายหนุ่มเจ้าของคอนโดหรู เขาชอบสีหน้าเธอเวลาเสร็จ อยากเห็นเธอแตกด้วยมือของเขา “คุณอาข
เมื่อวานออกสนามบินก็ตรงดิ่งกลับบ้าน เธอบอกแม่กับพ่อไว้ก่อนแล้วทั้งสองจึงไม่แปลกใจที่เห็นลูกสาวกลับบ้าน เธอก็พยายามฉีกยิ้มร่าเริงแต่ไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น จริงๆ แล้วก็ไม่มีเรื่องให้น่าเล่าเท่าไหร่นัก อย่างน้อยก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้จริงจังหรือสานความสัมพันธ์ เขาก็ยังคงเป็นลุงดินของเจ้าขา แต่ไม่ใช่ฐานะของคนรัก(กัน) อย่างที่เธออยากให้เป็น เอกสารเกี่ยวกับการเรียนต่อกองอยู่ตรงหน้า เธอตั้งใจจัดการให้เรียบร้อยแต่ยังไม่มีอารมณ์อยากทำอะไรทั้งสิ้น ได้แต่นอนเล่นกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่แบบนี้ เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น จันทร์เจ้าคิดว่าเป็นคนรับใช้นำของว่างมาให้ก็ไม่ได้ให้ไปมอง “เอาวางไว้ที่โต๊ะนั้นแหละ” เธอออกปากสั่งแต่ไม่ได้ยินเสียงขานรับจึงลุกขึ้นมาหันไปมองแล้วก็ต้องอ้าปากค้าง ถึงกับยกมือขึ้นขยี้ตาเพราะคิดว่าตาฝาดไปแน่ๆ “ลุงดินของเจ้าขาเอง” “ลุงดินจริงๆด้วย” จันทร์เจ้าถลาเข้าไปหาแต่ก็ต้องชะงักแล้วหยุดมองเขา “มีธุระมากรุงเทพฯ หรือคะ” “อื้ม” พสุธาพยักหน้า แม้จะเหนื่อยล้ากับการขับรถคนเดียวหลายร้อยกิโลเมตร แต่เมื่อได้เห็นหน