“อร๊ายยย” คำหวานร้องครางออกมาเมื่อแท่งเนื้อกดกระแทกเข้ามา
“ซี๊ด...ร่องหวานแน่นชะมัด” ธามไทครางกระเส่าแล้วเริ่มโยกสะโพก เขาจับเอวคอดไว้มั่นแล้วซอยลำเอ็นใส่ร่องรักของหญิงสาว ร่างเธอไถลไปตามแรงกระแทกจากด้านหลังจนต้องยึดโต๊ะไว้ให้มั่น ปล่อยให้คนด้านหลังขยับโยก
“อูยย อ่าส์ มันลำมากเลยหวาน”
ธามไธก้มมองท่อนเนื้อที่ผลุบเข้าออกมาร่องรัก มันอาบน้ำรักของหญิงสาวทำให้เคลื่อนเข้าออกได้สะดวกขึ้น
“ซี๊ด...อ่าส์”
“ธาม...”
คำหวานได้แต่เรียกชื่อเขา รับรู้ได้ว่าเขากระแทกลำเอ็นรัวๆ จนร่างของเธอสั่นไหว สองขาแทบไม่มีแรงยืน
“อีกนิดนะหวาน เรา...ใกล้..อะ...ใกล้แล้ว ซี๊ด เสียวมากเลย...อะ อ่า...”
ร่องรักขมิบรัดลำเอ็นทำให้เขาได้แต่แหงนหน้าคราง ธามไทเกร็งกระตุกด้วยถึงจุดสุดยอด เขาสูดลมหายใจลึกแล้วค่อยๆ ถอนแก่นกายออกตามด้วยถอดถุงยางมัดแล้วโยนทิ้งในถังขยะใกล้ๆ กัน คำหวานรู้สึกโหวงเหวงชอบกล แต่กระนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ชายหนุ่มหัวเราะอารมณ์ดี ประคองหญิงสาวขึ้นยืนแล้วดึงกางเกงของเธอขึ้น โน้มหน้าลงจูบกลีบปากเบาๆ ก่อนพาเธอไปนั่งที่โซฟา
“ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนะ” เขาพูดแล้วผลุบหายไปในห้องน้ำ
คำหวานยกมือขึ้นแตะหน้าอก เธอเริ่มหายใจเป็นเป็นปกติ แต่ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ มันเหมือนเธออยากยืดเวลาออกไปอีกนิด แต่เธอไม่กล้าพูด เธอกลัวว่าธามไทจะคิดว่าเธอเรียกร้องมากเกินไป ไม่กี่นาทีต่อมา ชายหนุ่มก็ออกมาจากห้องน้ำ เขาล้างหน้าและดูสดชื่นขึ้นแต่เธอยังเหมือนไม่มีแรงอยู่ ธามไทยิ้มให้หญิงสาวแล้วจูบหน้าผากเธอเบาๆ เข้าใจไปว่าเขาทำรักได้มันส์หยดขนาดหญิงสาวยังตาลอย
“เราไปทำงานก่อนนะ”
“อื้ม”
คำหวานได้แต่พยักหน้ารับ มองเขาเดินออกไปแล้วจึงเดินตามไปปิดประตูบ้านก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา เธออยากกรีดร้องเหมือนพี่คำรัก อยากรู้สึกเสียวซ่านมากกว่านี้ แล้วภาพพี่เขยก็ผุดขึ้นมา เธอส่ายหน้าไปมา ไม่เอาสิ เธอก็มีแฟนแล้วนะ ทำไมถึงไปคิดถึงสามีของพี่สาวได้เล่า ถ้าเธอยังคิดแบบนี้อีก คงต้องหาทางย้ายออกเร็วๆ แล้ว
คำหวานหิ้วถุงของใช้ที่ซื้อตามใบรายการที่พี่สาวจดไว้ให้ รวมทั้งของใช้ส่วนตัวเธอเข้ามาในบ้าน เธอเป่าปากระบายลมหายใจแล้วจัดการเก็บข้าวของเข้าที่ เมื่อครู่ธามไทขับรถมอเตอร์ไซค์มาส่งแล้วรีบกลับเพราะต้องไปทำงานต่อ ‘คนเป็นแฟนกันไม่ต้องทำตัวติดกันตลอดเวลา’ เธอบอกตัวเองอย่างนั้น แต่เธอก็เฝ้ารอมีเวลากับเขามากกว่าที่เคยเป็นมา เธอไม่อยากทำตัวงี่เง่าแต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าที่ผ่านมา เหมือนเขาไม่ได้ใส่ใจเธอเท่าไหร่นัก เหมือนเป็นแค่มีเซ็กส์เวลาที่เขาต้องการ ส่วนเรื่องอื่นเขาแทบไม่สนใจเธอเลย
มีแฟนที่ไม่ซัพพอร์ตความรู้สึกกัน บางที ไม่มีจะดีกว่าไหม แต่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าจะบอกเลิกธามไทยังไงดี ถ้าพูดกันตามตรง เธอรู้สึกดีกับเขาแต่ก็ไม่ถึงขั้นเรียกว่ารัก หรืออย่างน้อยก็...เวลามีอะไรกัน ใส่ใจความรู้สึกกันสักนิดก็ยังดี ให้เธอได้เสร็จบ้าง พอคิดถึงเรื่องนี้ทีไหร่ เธอก็อดคิดถึงเสียงครางกระเส่าของพี่สาวไม่ได้ หญิงสาวตบแก้มตัวเองเบาๆ เรียกสติตัวเองให้เลิกคิดเรื่องที่รบกวนจิตใจ เย็นวันศุกร์พี่สาวกับพี่เขยจะกลับค่ำ เธอไม่ต้องเตรียมอาหารเย็น คำหวานทำงานบ้านเสร็จก็เข้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่งเอกเขนกที่โซฟา เปิดโทรทัศน์ไล่หาซีรีย์ที่อยากดู พี่สาวกับพี่เขยไม่เคยว่าหากเธอจะดูหนังบ้างอะไรบ้าง แต่เธอเกรงใจ และที่สำคัญ ทั้งสองชอบทำกิจกรรมนอกห้องนอน
อาจเพราะไม่ถูกเติมเต็มให้อิ่ม คำหวานนั่งดูซีรีย์เกาหลีแต่ใจลอยคิดถึงเสียงครวญครางของพี่สาว มือไม้เลื่อนลูบไล้หน้าอวบอิ่มที่อยู่ใต้ชุดนอนแบบเสื้อยืดตัวยาวใหญ่ และด้วยความมั่นใจว่าจะไม่มีใครกลับเข้าบ้านมาตอนนี้ มืออีกข้างจึงลูบคลำเนินเนื้อใต้กางเกงชั้นใน สองขาแยกออกเพื่อให้นิ้วเรียวแทรกเข้าไปได้สะดวกขึ้น ริมฝีปากสวยเผยอขึ้นส่งเสียงเบาๆ เรียกชื่อชายหนุ่มอย่างลืมตัว
“อือ...พี่รบ พี่รบขา”
คำหวานแทบไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เรียกชื่อแฟนหนุ่ม แต่กลับเรียกหาพี่เขยของตัวเอง คิดถึงเรือนร่างกำยำของเขา รวมทั้งเสียงของพี่สาว ทำให้เธออยากรู้สึกถึงรสชาติคาวใคร่อย่างที่พี่คำรักได้รับ ร่างกายร้อนวูบขึ้นมา มือที่เคล้นหน้าอกก็หนักขึ้น การขยับนิ้วก็เร็วขึ้น
“พี่รบขา แรงอีก....หวานเสียว”
ทว่าร่างบางก็ผวาเฮือกเมื่อรู้สึกได้ว่ามีนิ้วอีกนิ้วแทรกเพิ่มความเสียวให้เธออีก คำหวานเบิกตากว้างอย่างตกใจ และยิ่งตกใจหนักขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือพี่เขยที่เธอเรียกชื่อเขาออกมา
“พะ...พี่...พี่รบ อึก...” น้ำเสียงคำหวานกระท่อนกระแท่น เพราะนิ้วสองนิ้วอยู่ในร่องรัก และตื่นตกใจที่เห็นพี่เขยอยู่ใกล้ขนาดนี้ที่สำคัญ นิ้วของเขาอยู่ในร่องรักที่เปียกชุ่มของเธอด้วย
“ไม่ต้องเกร็ง แยกขาออกอีกสิ กว้างอีกนิด อย่างนั้นแหละ”
เขาพูดทั้งที่ตัวเองโน้มตัวค้ำร่างน้องเมียอยู่ ใบหน้าสวยแดงเรื่อ ทั้งเขินอายและหวาดกลัว นักรบเองก็ไม่คิดว่ากลับมาบ้านจะมาเจอน้องเมียนอนอ้าขาช่วยตัวเองอยู่แบบนี้ ยิ่งได้ยินเสียงครางเรียกชื่อเขาแล้ว ยิ่งไม่ต้องคิดอะไรอื่น
“พี่รบ...พี่รบขา...” คำหวานบิดกายยกสะโพกขึ้นรับจังหวะซอยนิ้วของเขา ความหิวกระหายลืมไปหมดสิ้นว่าคนที่อยู่ตรงหน้ามีฐานะเป็นพี่เขย
“ไม่ต้องกลั้น พี่จะทำให้น้ำแตก” เขาพูดเสียงพร่าพลางขยับนิ้วเร็วขึ้นกว่าเดิมจนได้ยินเสียงฉ่ำแฉะดังออกมา ใช้อีกนิ้วขยี้จุดอ่อนไหวส่งความเสียวซ่านไปทั่วร่างของหญิงสาว
“ชอบให้ทำแบบนี้ใช่ไหม น้ำออกเยอะมาก” น้ำเสียงปนหัวเราะในลำคอพอใจกับการเห็นน้องเมียทรมานและสุขสมไปพร้อมกัน “แฉะมากเลยนะ”
“พี่รบ...หวานไม่ไหว อะ อ๊า!”
คำหวานถูกนิ้วแกร่งกระแทกรัวจนส่งเธอเธอถึงจุดสุดยอด ร่องรักขยิบรัดนิ้วสองนิ้วของเขาแน่น ชายหนุ่มเองก็ยิ้มอย่างพอใจปล่อยให้เธอค่อยๆ ผ่อนลมหายใจลงแล้วจึงถอนนิ้วออกมาเลียชิมน้ำหวานของหญิงสาว คำหวานเหมือนเพิ่งได้สติ รีบหุบขาที่ยังสั่นๆ ของตัวเองแล้วกระเถิบกายไปชิดด้านหนึ่งของโซฟา
“พี่...พี่เขย เข้ามาตอนไหนคะ”
“อะไรกัน พอเสร็จแล้วทำเป็นห่างเหิน” นักรบหัวเราะแล้วปลดเนคไทออกจากปกเสื้อแล้วตามด้วยปลดกระดุมเสื้ออย่างใจเย็น แต่ทำให้คำหวานกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก“หวาน...หวาน...” เธอจะแก้ตัวยังไงดี เขาต้องได้ยินเธอครางเรียกชื่อเขาเต็มสองหูแน่ๆ“ทำหน้าเหมือนกลัว เรื่องพวกนี้ธรรมดาจะตายไป ก็เหมือนกินข้าว กินไม่อิ่มก็หิว เป็นธรรมดา” เขาพูดยิ้มๆ แล้วถอดเสื้อออกพาดไปที่โซฟา อวดมัดกล้ามแน่นๆ แบบคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะ กิจกรรมบนเตียง“แฟนทำให้ไม่อิ่มสินะ ถึงหิวแบบนี้”“พี่รบ!” เธอไม่คิดว่าพี่เขยที่มักจะเงียบๆ พูดน้อยจนเรียกได้ว่าไม่ได้คุยกันเลย แต่เวลานี้สายตาโลมเลียและน้ำเสียงที่เขาใช้ เหมือนเป็นคนละคนที่เธอรู้จัก ทั้งกลัว ทั้งอาย ที่ถูกจับได้แบบนี้ คำหวานรีบลุกขึ้นหมายจะเดินหนีเข้าห้องตัวเอง แต่แขนถูกคว้าไว้ก่อน เพียงกระตุกทีเดียวเธอก็เสียหลักนั่งบนตักของเขาแล้ว“ว้าย!” คำหวานร้องเสียงหลง “ปล่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่รักกลับมาเห็นเข้า หวานไม่อยากให้พี่สองคนผิดใจกันเพราะหวาน”แทนที่อีกฝ่ายจะกลัวแต่วงแขนกลับรัดแน่นขึ้น ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหูของน้องเมียคนสวย “นี่ไม่รู้เหรอว่าพี่สาวเธอไปสัมม
“อือ...ผัว...ผัวขา....”“ดี...เมียเสียวไหม ชอบที่ผัวให้เสียวหรือเปล่า”“ชะ...ชอบ...ชอบค่ะ ผัวอึดมาก”“เวลาหิวก็มาให้ผัวทำให้ ไม่ต้องทำเอง” เขาก้มมองก้นกลมกลึงแล้วเปลี่ยนมาดึงแขนสองข้างของเธอมาด้านหลัง ทำให้เธอหนีเขาไม่ได้ต้องรองรับความเสียวกระสันจนแทบขาดใจ“ผัวขา เมียจะเสร็จอีกแล้ว”“รอบนี้พร้อมกัน ผัวจะแตกแล้ว ร่องเมียรัดแน่นมาก เอามันจริงๆ”เขาเร่งขยับสะโพกซอยลำเอ็นรัวแรงไม่สนใจกลีบเนื้อสีอ่อนจะเปลี่ยนสีแดงเพราะถูกเสียดสี เขาถาโถมรุนแรงจนร่างเธอเกร็งกระตุกร่องรักตอดรัวจนชายหนุ่มถึงกับต้องกระแทกเข้าไปจนสุดปล่อยน้ำรักจนหมดสิ้น เขาจำใจถอนแก่นกายออกแล้วจัดการถอดถุงยางที่อัดแน่นด้วยน้ำรัก มัดถุงแล้วทิ้งที่ถังขยะ คำหวานหอบหายใจจนตัวโยน เธอแทบไม่มีแรงทรงตัว ร่างกำลังจะร่วงลงไปกองกับพื้นแต่คนตัวใหญ่ช้อนร่างเธออุ้มแล้วพาเข้าห้องนอนเล็กของหญิงสาว เขาโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเธอเบาๆ ปล่อยให้เธอได้พักสักประเดี๋ยว เพราะคืนนี้เขาจัดเต็มแน่นอน! เขาชอบมองสีหน้ายามกระแทกตัวตนเข้าไปจนสุด มันทำให้เขายิ่งอัดสะโพกใส่ไม่เกรงกลีบเนื้อสีอ่อนจะบอบช้ำ เหมือนกับเวลานี้ที่แผ่นหลังของเธอแนบไปกับผนังห้องน
“เธอไม่พูด พี่ไม่พูด ไม่มีใครรู้หรอก”“แต่ว่า...”“หรืออยากเห็นพี่ทะเลาะกับคำรัก” เขาขู่และดูเหมือนจะได้ผลทำให้คำหวานยอมปิดปากเงียบ “เรื่องของพี่ไม่ต้องห่วงหรอก หวงเรื่องของตัวเองเถอะ”"“เรื่องอะไรคะ”“กับไอ้ธามไทนั้นไง” เขาเค้นเสียงพูดอย่างไม่พอใจนัก แสดงความหึงหวงออกมา“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ” เธอไม่ได้บอกว่ากดส่งข้อความบอกเลิกไป“ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองถูกหลอก”“หลอกอะไรคะ พี่รบพูดเรื่องอะไรกัน” คำหวานเอียงคอมองอย่างแปลกใจ“ไอ้หมอนั้นมันหลอกหวานอยู่นะ” เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องเมียจะใสซื่อได้ขนาดนี้ “ไม่เชื่อพี่เหรอ จะพาไปให้เห็นกับตาเลยดีไหม”คำหวานไม่แน่ใจว่าพี่นักรบหมายถึงเรื่องอะไร เท่าที่คบกันถ้าไม่นับเรื่องที่ธามไทละเลยความรู้สึกเธอ เขาก็ไม่เคยหลอกเอาเงินหรือให้เธอไปทำอะไรไม่ดีเลยนี่ เธอเห็นสีหน้ามั่นใจของนักรบแล้วก็พยักหน้ารับ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าธามไททำอะไรที่ไม่รู้บ้าง นักรบหยิบชุดกระโปรงสีดำยาวเหนือเข่าให้คำหวานผลัดเปลี่ยน มันเป็นชุดเดรสสีดำแขนกุดที่ดูเรียบร้อยที่สุดเท่าที่คำหวานพอจะนึกออก เพราะชุดเที่ยวกลางคืนของพี่คำรักเซ็กซี่มากกว่านี้ ที่เธอรู้ว่าเธอเป็นค
“แต่ในใบเสร็จซื้อของใช้ เห็นมีซื้อยาคุมด้วยนี่” “อ๊า!” เธอร้องเมื่อถูกเขารัวนิ้วอย่างแรง “หวาน...หวานกินกันไว้ค่ะ กะ...กลัวพลาด...ท้อง”“ดี” เขายิ้มกริ่มแล้วกระแทกนิ้วจนได้ยินเสียง แจ๊ะๆ น้ำรักหลั่งจนเปื้อนนิ้ว ร่างบอบบางเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมา เขาถอนนิ้วแล้วมองคำหวานทำตาเหม่อลอยมอง เขาดันเธอออกเบาๆ แล้วปลดเข็มขัดออก เพียงแค่นั้น คำหวานก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร“ขย่มพี่หน่อย”“แต่...” เธอกวาดตามองไปรอบๆ ไม่มั่นใจนัก“ถ้าไม่ขย่มลำให้พี่ ก็ใช้ปาก”คำหวานเม้มริมฝีปาก เธอเหลือบมองไปด้านนอก เห็นธามไทกับผู้หญิงคนนั้นเต้นรำนัวเนียกันอย่างสนุก ธามไทเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากหาความสุขให้ตัวเอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นพี่เขยของเธอก็ตามหญิงสาวหมุนตัวกลับมา เธอค่อยนั่งลงที่พื้นมองแท่งเอ็นที่เขาควักมันออกมานอกกางเกง ลำเอ็นยาวใหญ่ตรงปลายมีน้ำใสๆ เธอยื่นลิ้นไปแตะส่วนปลายตวัดลิ้นไล้เลียอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่พอได้ยินเสียงครางซี๊ด ของเขาแล้ว เธอก็ยิ่งลำพองใจ อ้าปากกว้างแล้วส่งลำเอ็นเข้าไปจนสุด“โอ้ว เด็กดี เก่งมาก มิดลำแล้ว อ่าห์” นักรบก้มมองริมฝีปากสวยที่กลืนดุ้นของเขาไปจนหมดลำแล้วค่อยๆ ขยับช้
“คุณเคยรักฉันบ้างไหม?” จู่ๆ คำรักก็ถาม แล้วก็ยิ้มเศร้าออกมา “ไม่เคยเลยสินะ” “ก็เคยคิดว่าจะลองรักดู แต่เรื่องพนันออนไลน์ผมรับไม่ไหวจริงๆ คุณหมดไปกี่แสนแล้ว ยังหยุดไม่ได้ ต้องหมดเท่าไหร่ถึงจะหยุดได้” “คุณไม่ลองให้โอกาสฉันสักครั้งล่ะคะ” “ผมให้ทั้งเวลาและโอกาสกับคุณแล้ว แต่คุณไม่เคยคว้ามันไว้เลย ทุกวันนี้หนี้สินคุณรุงรังไปหมดแล้ว ต่อให้ไม่ใช่ผม คนอื่นก็ทนไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องเป็นพวกศีลเสมอกันถึงจะอยู่กับคุณได้” “ถ้าฉันเซ็นใบหย่า คุณจะปิดหนี้ให้ฉันใช่ไหม” “อืม แค่ก้อนเดียว อย่างอื่นผมไม่ช่วยแล้ว” คำรักพยักหน้ารับ อย่างน้อยเธอก็รอดจากเจ้าหนี้ที่ทวงตามเงินเธอทุกเช้าเย็น และไม่เสี่ยงกับการถูกฟ้องหย่าซึ่งอาจไม่ได้อะไรกลับมาเลย “คุณชอบยัยหวานจริงๆเหรอ” “ถามบ่อยจัง” “ถึงฉันจะทำตัวไม่ดีกับน้อง แต่คำหวานก็เป็นน้องฉัน” “งั้นคุณควรสบายใจที่ผมจะดูแลคำหวานอย่างดี” เขาแค่ยิ้มบางๆ “ก็ได้ค่ะ เรานัดวันไปเซ็นใบหย่ากัน” เธอยิ้มเศร้าแล้วเดินไปหยิบกระดาษโน้ตมาเขียนที่
เรื่องสั้น เมียเด็กของคุณป๋า เจ้าของบ้านเปิดประตูห้องนอนเบาๆ ด้วยเกรงว่าคนที่หลับอยู่จะตื่น แม้จะพยายามให้เบาที่สุด แต่หญิงสาวก็รู้สึกตัวและงัวเงียลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนขนาดใหญ่ ชุดนอนเป็นเสื้อยืดลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองสดใสแต่ไหล่เสื้อเลื่อนหล่นเผยให้เห็นหัวไหลกลมมน และไร้สายเสื้อชั้นในทำให้มั่นใจได้ว่าเรือนร่างอวบอิ่มนี้สวมแค่ชุดนอนตัวหลวมแค่ชิ้นเดียว “คุณป๋ากลับมาแล้วเหรอคะ” แพรวาเอ่ยถามแล้วลุกขึ้นเดินไปหา ผมยาวสลวยยุ่งเหยิงอยู่บ้างแต่ดูน่าเอ็นดูจนชายหนุ่มวัยสี่สิบแปดอดไม่ไหวยื่นมือไปลูบผมเบาๆ “ทำให้หนูแพรตื่นเลย” “หนูแพรรอคุณป๋าแต่ไม่รู้หลับไปตอนไหน” หญิงสาวยื่นมือไปช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออก “ป๋าก็บอกแล้วว่าคืนนี้ป๋ากลับดึก” เขายิ้มและปล่อยให้มือเล็กๆ ช่วยถอดเสื้อเชิ้ตออก เธอเอาเสื้อของเขาไปหย่นลงตะกร้าใส่ผ้าแล้วหยิบผ้าขนหนูส่งให้ “ก็หนูแพรเป็นห่วงคุณป๋านี่คะ” เธอส่งยิ้มหวาน “ไปอาบน้ำนะคะ หรือจะไม่อาบก็ได้” “ป๋าไม่อาบน้ำแล้วหนูแพรจะไม่เหม็นป๋าแย่เหรอ” เขาหัวเราะออกมากับท่าทางขี้อ้อน
นั้นเป็นประโยคที่เขาไม่ได้พูดออไป ได้แต่เด้งเอวรัวใส่ร่องที่ร้อนและเปียกแฉะ แพรวาครางไม่ได้ศัพท์ร่างเล็กกระเด็นกระดอนตามแรงกระแทก ถูกสามีวัยสี่สิบแปดตอกลำเอ็นจนเสียวไปทั่วร่าง เพียงไม่กี่อึดใจ เธอก็กรีดร้องออกมาอีกรอบพร้อมกับชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ผัว’ แม้จะอายุห่างกันถึงยี่สิบหกปีก็ตาม “โอ้ววว สุดยอด หนูแพรของป๋าเด็ดจริงๆ” น้ำรักขาวขุ่นไหลทะลักล้นจนเปื้อนเปรอะ แพรวาหอบหายใจแรงก่อนค่อยๆ ยกตัวออกจากร่างแกร่งแล้วนอนแผ่หราบนเตียง ตรัยภูมิหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี ดึงเมียเด็กเข้ามากอดใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน “คุณป๋าแกล้งหนูแพร” หญิงสาวต่อว่าไม่จริงจังนักแต่วาดวงแขนกอดเขาทั้งที่ร่างเปลือยเปล่า “แกล้งอะไรกัน ก็ป๋าบอกว่ามันดึกแล้วให้หนูแพรนอน หนูแพรก็ไม่เชื่อ” แพรวาเอ่ยอย่างเพิ่งนึกได้ “อ้อ คุณดารินให้เตือนคุณป๋าว่าอย่าลืมนัดไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ” “อื้ม ป๋าลืมไปแล้ว” “ถึงวันนัดแล้วหนูแพรจะเตือนอีกทีค่ะ” หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าเข้ากับอกอุ่น หน้าที่ของเธอคือเป็นเมียของเขา แม้ว่าจะไม่ได้มีฐานะใด
เธอไม่รู้ว่าตรัยภูมิรู้ไหมว่าเธอพยายามอ่อยและให้ท่าเขามากขนาดไหน เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอรอแม่จนแอบนอนเล่นบนโซฟาในห้องทำงานของเขาเพราะคิดว่าเขากลับไปแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็กลับเข้ามาในห้อง เธอทำอะไรไม่ถูกเลยแกล้งหลับไปเสียอย่างนั้น กระโปรงนักเรียนม.ปลายร่นขึ้นเห็นเรียวขาขาวผ่อง เธอหลับตานิ่งทำเป็นกรนเบาๆ คิดว่าเขาจะลวนลามหรือทำอะไรเธอบ้าง ซึ่งถ้าตอนนั้นเขาทำจริงเธอก็เต็มใจล่ะ แต่เธอได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆ ตามด้วยเสื้อสูทตัวนอกคลุมช่วงเอวไว้ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป เธอได้ยินเสียงปิดประตูและกลั้นใจรออยู่ครู่หนึ่ง ไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะกลับเข้ามาจึงลุกขึ้นนั่ง ตอนนั้นเองที่เธอมั่นใจว่าวิธีการอ่อยไม่ได้ผลกับหนุ่มใหญ่ เธอจึงใช้กลยุทธ์สาวใสไร้เดียงสาเข้าใกล้ อาศัยว่าตัวเองหัวดี เอาผลการเรียนไปให้เขาดูบ้าง เห็นเขายิ้มใจก็เต้นแรง บางครั้งเขาก็ยื่นมือมาลูบหัวอย่างเอ็นดู ตอนนั้นเธอจึงลงสนามการประกวดสารพัดเพื่อให้ได้รางวัลไปอวดเขา หรือถ้าไม่ติดรางวัลก็ทำหน้าเศร้า เขาก็คอยปลอบใจ ที่บริษัทมีการให้ทุนการศึกษาลูกๆของพนักงานที่เรียนดีเป็นประจำ เธอได้ทุกปี แต่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือเขาให้ทุนเธอพิเศ
เธอบอกเหมือนว่าผมไม่รู้เรื่องพวกนี้ โอเค.ผมยังเวอร์จิ้น แต่ไม่ได้ไม่ประสีประสาเรื่องพวกนี้เสียหน่อย เสียงหวานเอ่ยขึ้นแล้วยื่นมือมาจับท่อนเอ็นของผมรูดมันเบาๆ มือนุ่มรูดสาวลำเอ็นอวบ ทำให้น้องชายของผมแข็งโด่ขึ้นมาอีกครั้งทั้งที่เพิ่งปลดปล่อยไป ไม่อาจถอนสายตาไปจากมือที่กำลังสาวลำเอ็นจนปลายหัวบากมีน้ำใสๆ ผุดออกมา “ซี๊ดดดด” ผมครางและหายใจแรง แล้วเธอก็ผละมือจากลำเอ็นของผม ขยับตัวไปนอนส่งสายตาหวานเยิ้มยั่วยวน “ถุงยาง” “อ่อ” ผมหมุนตัวไปหยิบซองถุงยางที่เตรียมไว้ คาบซองฟรอยในปากแล้วตามขึ้นเตียง เวลานี้เธอไม่อิดออดเหมือนครั้งแรก ผมอยากเอาเธอมาตั้งนาน ชื่อของพี่สาวสุดยั่วคือ ‘ใบเฟิร์น’ ผมรู้จักเธอมานาน จะว่าเธอน่ารักใสๆ ก็ไม่ใช่ ผมแอบเห็นเธอไปไหนมาไหนกับผู้ชายหลายครั้ง โอเค. ผมรู้มันไม่ใช่เรื่องของผม แต่ผมก็หวังว่าสักวันจะเป็นวันที่ผมได้อยู่กับเธอแบบนี้ การเรียนผมไม่ได้ห่วยนัก แต่ถ้าเทียบกับพี่ไนท์ที่อายุมากกว่าผมสามปีแล้ว แน่นอนมันห่วยมาก และมันนำความกลัดกลุ้มมาสู่พ่อกับแม่ เอาจริงๆ การให้ใบเฟิร์นมาติวให้ผมเ
“ก็ผมรู้ไงว่าพี่มีแฟน มีแฟนก็ต้องมีประสบการณ์แล้ว แล้วที่สำคัญ พี่เชื่อใจว่าพี่ใบเฟิร์นจะไม่เอาเรื่องของผมไปพูดกับคนอื่น”“นายเชื่อใจกันขนาดนั้นเลยเหรอ?”“หรือพี่จะพูดกับแฟนพี่ว่ามีอะไรกับผม”“ไอ้เด็กบ้า!” ฉันหยิบหมอนอิงมาตีเขา ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์เบียร์หรือเพราะได้คุยกันเลยสบายใจขึ้น“ก็พี่ไม่ยอมคุยกับผมดีๆเองนี่” เขาหยิบหมอนไปจากมือเรียวเล็ก “ว่าไงล่ะ แค่มีเซ็กส์กัน ไม่ได้ผูกพันกันเสียหน่อย”ก่อนคบกับพี่กันตธีร์ ฉันก็เคยมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นมาบ้าง แต่พอมีแฟนก็มีพี่เขาคนเดียว ก็รู้นะว่ามันไม่ถูกต้อง แต่...เด็กหนุ่มที่ยังเวอร์จิ้นมาน่าลองนี่น่า“แน่ใจนะว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับของเรา”“แน่นอนฮะ”แววตาจริงจังของเขาทำให้ฉันใจอ่อนยวบ ขยับตัวหันไปเผชิญหน้ากับเขา ยกกระป๋องขึ้นดื่มจนหมดแล้วส่งกระป๋องเปล่าให้เขา จากนั้นก็ยกมือแตะที่กระดุมเสื้อด้านหน้าแล้วถามเขาว่า“นายอยากแกะกระดุมเองหรือให้พี่แกะให้”“ผม...แกะเองได้ไหม”วันนี้ฉันสวมเดรสกระโปรงยาวเหนือเข่า ด้านหน้าเป็นกระดุมเรียงกันห้าเม็ด ฉันยืดตัวขึ้นให้เขายื่นมือมาแกะกระดุมได้ถนัด รู้สึกถึงลมหายใจติดขัดของเขาแล้วกลับทำให้รู้สึกดี นาย
คราวนี้ทั้งสองไปถึงจุดสุขยอดพร้อมกัน ทั้งสองจูบปากแลกลิ้นแล้วค่อยๆ ยกสะโพกออกจากลำเอ็น น้ำมนต์ถึงกับทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนเตียง อัคคีจัดการตัวเองเสร็จแล้วก็เอนตัวลงนอนเคียงข้าง ใช้นิ้ววนไล้ยอดอกของเธอเล่น“พรุ่งนี้วันเกิดมึง กูเลยมาหา” น้ำมนต์พูดหลังจากที่ปรับลมหายใจได้ปกติแล้ว“มึงมาเป็นของขวัญวันเกิดให้กูเลยสิเนี้ย”“ไม่ชอบหรือไง”“ชอบสิ” เขายิ้มแล้วจูบปากสวยก่อนจะพูดบ้าง“กูก็มีเรื่องจะบอกมึง คือกูได้ย้ายไปประจำสาขาที่กรุงเทพแล้ว”“เมื่อไหร่”“เดือนหน้า” อัคคียิ้มกริ่ม “กูก็ตั้งใจจะบอกมึงในวันเกิดกู”สองหนุ่มสามมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา ไม่รู้ว่าใครเซอร์ไพรสใครก่อน แต่ที่แน่ๆ คืนนี้อัคคีจัดหนักเพราะห่างเมียมานาน น้ำมนต์ครางจนคอแห้งเลยทีเดียว.จบ เล่นกับไฟเรื่อง ไม่ใช่เพื่อนเล่น“ผมทำได้แล้ว พี่เฟิร์นจะไม่ทำตามสัญญาเหรอ” ฉันมองหน้าเด็กหนุ่มที่จ้องมองราวกับฉันเป็นขนมหวาน ชื่อของเขาคือ ‘เดย์’ วันนี้เขาอายุสิบแปดปีแล้ว และกำลังทวงสัญญากับฉัน “พี่ใบเฟิร์น” น้ำเสียงที่เขาเรียกชื่อฉันมันทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันเห็นนายเดย์ตั้งแต่อายุส
“อื้ม! มีต้มแซ่บกระดูกอ่อนเป็นพยานไง” อัคคีทำหน้าจริงจัง “กูชอบมึง ชอบเวลาอยู่กับมึง ชอบที่มึงเป็นตัวเองแบบนี้ด้วย” “มาพูดแบบนี้ก็เขินแย่” น้ำมนต์อายจึงเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเอง “กินเยอะๆ” อัคคีใช้ส้อมจิ้มเสื้อร้องไห้วางใส่จานของน้ำมนต์ “จะได้มีแรง” “แรง? แรงอะไร” “มาถึงนี่แล้วก็ขึ้นห้องกูไง” “ไอ้ลามก” “มึงก็เอาของใช้เสื้อผ้าของมึงมาไว้ห้องกูบ้างก็ได้” อัคคีกลับมาพูดเหมือนเดิม “กูก็เอาเสื้อผ้าของกูไว้ห้องมึงไง” “เอางั้นก็ได้”“หรือไม่ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน” “บ้าสิ พ่อแม่รู้ได้ด่าตาย” “พ่อแม่มึงน่ารักจะตาย ตอนนั้นกูไปบ้านมึงยังทำกับข้าวให้กูกิน เรียกกูลูกทุกคำเลย” “พ่อแม่กูเรียกเพื่อนกูว่าลูกทุกคน” “ก็อีกหน่อยก็เป็นลูกเขยไง” “มึงนี่...” “กูจริงจังแล้วก็จริงใจด้วย” เขายิ้ม “สาบานต่อหน้าตำหอยแครงเลย” “อย่าพูดเล่น” น้ำมนต์ทำตาดุใส่ “กูไม่อยากเล่นกับไฟ” “มึงก็เป็นน้ำ น้ำก็คู่กับไฟ” เขาพูดไ
หน้าตึกคณะ “ไม่ต้องมารับก็ได้” น้ำมนต์บ่นจ้องหน้าคนที่ยืนรออยู่หน้าคณะ เพื่อนคนอื่นๆของน้ำมนต์ต่างพากันหัวเราะคิกคัก พวกเขาเห็นทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน พอรู้ว่าตกลงเป็นแฟนกันก็อดหยอกล้อกันไม่ได้ “ก็เป็นแฟนไงถึงต้องมารับ” เพื่อนคนอื่นแซวแล้วแกล้งผลักไหล่น้ำมนต์ให้เข้าไปใกล้อัคคี “ไปเถอะๆ พวกเราจะกลับแล้วเหมือนกัน” “อื้ม” อัคคีส่งยิ้มให้เพื่อนของน้ำมนต์แล้วหันมาสบตากับ...เอ่อ..แฟนหมาดๆ ของตัวเอง “ทำไมไม่อยากให้มารับ หรือกลัวคนอื่นรู้ว่าเราคบกัน หรือว่าแอบมีใครอีก” “ละเทอะน่า” น้ำมนต์ส่ายหน้าไปมา “ก็เรียนคนละคณะอยู่คนละฟากเลย เลิกเรียนก็ไม่ตรงกัน ไหนจะมีกิจกรรมอีก ไม่ต้องมาเทียวรับเทียวส่งก็ได้ คุยกันเหมือนเดิมนั้นแหละ อีกอย่างกูขับรถมา มึงจะขับรถตามกูอีกเหรอ” “งั้นคราวหน้ากูขับรถไปรับมึงมาเรียนดีไหม แล้วตอนกลับกูก็จะได้ไปส่งมึงไง” “ไอ้ไฟ กูไม่ได้เป็นง่อย” บ่นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ “มึงเองก็งานเยอะนี่ ปีสามแล้ว แล้ว...ตอนดึกมึงก็มาหากูอยู่แล้วนี่” ท้ายประโยคเสียงแผ่วเบาแถมแก้มยังแดงเรื่อ
น้ำมนต์ก็อธิบายไม่ถูก แค่รู้สึกแปลกๆ ปกติอัคคีมาห้องเธอไม่กี่ครั้ง ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันแต่เรียนคนละคณะ ก็เจอกันน้อยลง เพียงแค่ยังคุยเล่นผ่านไลน์หรือทักไปที่เฟซบุ๊คอยู่เสมอ แล้วเธอก็เจ็บทุกครั้งที่เห็นมันลงรูปคู่กับแฟน“เป็นไรไปอยู่ดีๆก็เงียบ”“เปล่า” น้ำมนต์ส่ายหน้า “แล้วมึงล่ะเป็นยังไง คราวนี้ง้อแฟนด้วยอะไร”อัคคีหน้าตึงขึ้นมาทันที “ทำไมกูต้องง้อเขาด้วย”“ทุกทีมึงง้อเขานี่” น้ำมนต์ทำหน้าเบื่อหน่อย “ซื้อกระเป๋าถือให้ รองเท้าใหม่ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ น้ำหอม เครื่องสำอาง...”“พอๆ มึงไม่ต้องรื้อฟื้นแล้ว” อัคคีกุมขมับ นี่เขาเป็นบ้าไปจริงๆ ทำไมต้องทุมเทให้ผู้หญิงที่ไม่ได้จริงใจกับเขาขนาดนี้“ดูมึงซื้อให้กูดิ แคนตาลูป แตงโม แก้วมังกร มะม่วงดอง ฝรั่งแช่บ๊วย”“แล้วมึงอยากได้อะไร กูซื้อให้ก็ได้”“แล้วมึงจะมาซื้อของให้กูทำไม วันเกิดกูก็เลยมาแล้วด้วย”“อ้าว...ทำไมมึงไม่บอกกู”“แล้วทำไมกูต้องบอกมึง” น้ำมนต์เบ้ปากใส่ “เพื่อนกันลืมวันเกิดกันก็ไม่ตายหรอก”“เป็นเพื่อนกันยิ่งต้องห้ามลืมวันเกิด” อัคคีรู้สึกผิดไม่น้อย “วันเกิดกู มึงยังจำได้”‘เพราะเป็นคนสำคัญไง’แต่น้ำมนต์ไม่ได้พูดอย่างที่คิ
“ไอ้ไฟ” “พอเห็นหน้ากูยิ้มไม่ออกเลยหรือไง” “มึงมาทำอะไรที่นี่” น้ำมนต์กดเสียงให้เบาลงเกรงว่าจะไปรบกวนคนอื่น แต่เธออยู่ในซอกด้านในแทบไม่มีใครเดินผ่านมา “คนมาห้องสมุดให้มาทำอะไรล่ะ” อัคคีถามยิ้มๆ เริ่มอารมณ์ดีขึ้นที่เห็นใบหน้าหวานแดงระเรื่อ ท่าทางเขินอายอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักยังไงไม่รู้ น้ำมนต์ไม่รู้จะทำหน้ายังไง หลังจากเรื่องคืนนั้น ก็ไม่เคยคุยเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอีก หรือจะว่าไปเธอก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร มันก็คงเป็นแค่เซ็กส์เท่านั้น ซึ่ง...เวลานั้นอาจ...ต่อให้ไม่ใช่เธอ เขาก็คงมีอะไรกับใครก็ได้ “มีอะไรหรือเปล่า” อัคคีถามอย่างเป็นห่วง แล้วก้มหน้ากระซิบที่ข้างหู “ยังเจ็บอยู่ไหม” “ถามอะไรของมึง” น้ำมนต์ขึงตาใส่ แต่ไม่อาจสะกดไม่ให้ตัวเองหน้าแดง ถึงจะพูดออกมาไม่หมดแต่ก็เข้าใจได้ว่าอัคคีหมายถึงเรื่องอะไร “ก็กูเป็นห่วงนี่”เขาพูดไปตามที่คิด ถึงจะผ่านมาหลายวัน แต่พอนึกถึงคืนนั้น ที่เขาจับร่างอวบอิ่มกินหลายรอบ ตอนเช้าตื่นมาเห็นสภาพอ่อนเพลียจนน่าสงสาร จากเดิมที่คิดว่าจะ
อัคคีครางอย่างพอใจที่รู้ว่าเพื่อนสาวเสร็จคาลำเอ็นไปแล้ว เขาเปลี่ยนท่าจับเรียวขาลงจากบ่า เรียวขางามรัดเอวไว้ เขาเร่งจังหวะกระแทกสุดๆ น้ำมนต์เด้งเอวรับ เธอเพิ่งเสร็จไปและถูกเขากระหน่ำจวนจะเสร็จไปอีกรอบ ร่องเสียวขมิบบีบรัดแก่นกายที่ผลุบเข้าออกสร้างความเสียวซ่าน เสียงครางของคนสองคนดังผสานกัน มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม ลีลาการกระแทกลำทำให้น้ำมนต์สะบัดหน้าไปมา ร่องรักปล่อยน้ำเสียวออกมามาก ความรู้สึกคับตึงหายไปหมดสิ้น เหลือแต่ความเสียวที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง“ไฟ...จะ...จะเสร็จอีกแล้ว”“เสร็จพร้อมกัน กูจะแตกแล้ว อ๊ะ ...”“อร๊ายยย” น้ำมนต์แอ่นกายขึ้นเกร็งกระตุกปับๆๆๆๆเขาโหมแรงเด้าเนินเนื้อไม่ยั้ง บดขยี้โหนกเนื้อที่เปียกชุ่มคราบน้ำรักที่แยกไม่ออกว่าของใคร ก่อนที่จะน้ำแตก เขาชักลำเอ็นออกจากร่องเสียวแล้วใช้มือชักลำเอ็นต่อจนน้ำรักขาวขุ่นพุ่งออกมาเปื้อนเปรอะหน้าท้องของน้ำมนต์ น้ำรักอุ่นร้อนทำให้เธอปรือตาขึ้นมอง เห็นอัคคีแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสมขณะที่เธอหอบหายใจจนตัวโยน เขาปรับลมหายใจครู่หนึ่งแล้วโน้มหน้าลงจูบหน้าผากของเธอก่อนจะดึงร่างเปลือยเปล่าเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แต่มือไม้ที่เปะที่หน้าอกและ
อัคคีเรียกเพื่อนเพราะเห็นว่าเงียบไป เขายันตัวขึ้นก้มมองจึงรู้ว่าน้ำมนต์หลับไปแล้ว เอื้อมมือข้ามร่างเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเพื่อดูเวลาซึ่งก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว เขาวางโทรศัพท์ลงที่เดิม ก้มมองคนที่นอนเบียดอยู่จึงพบสายตาของเพื่อนสนิทจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว“กูทำมึงตื่นเหรอ” น้ำมนต์สบตากับอัคคี นี่มันคงคิดว่าแฟนเก่าจะส่งข้อความมาหาละมั้งถึงได้วางโทรศัพท์ไว้ห่างมือไม่ได้ เธออ้าปากเหมือนจะพูดแต่เปลี่ยนใจ ขยับตัวนอนหงายแล้วยกมือขึ้นคล้องคออัคคีไว้ เหนี่ยวตัวให้มันก้มลงมาหา แล้วยื่นริมฝีปากไปประกบกับริมฝีปากหยักสวยของชายหนุ่มอัคคีทำตาปริบๆ แต่แรงขบเม้มที่ริมฝีปากทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้ฝันไป น้ำมนต์ผละริมฝีปากอุ่นแล้วพูดเบาๆ“...มึง...โสดแล้วนี่...ก็ทำแบบนี้ได้ใช่ไหม...”ในห้องที่มีเพียงแสงสว่างจากหน้าจอโทรทัศน์ แต่ก็ยังทำให้เห็นแก้มนวลแดงปลั่ง ท่าทีเขินอายดูน่ารักและน่าแทะเล็ม สายตารอคอยทำให้เขาตัดสินใจได้ในทันที“อืม กูโสดแล้ว”ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาโพรงปากของหญิงสาว หัวใจของน้ำมนต์เต้นแรงเมื่อมือใหญ่เลื่อนเสื้อนอนของเธอขึ้นเพื่อลูบไล้หน้าอกอวบอิ่มที่ไร้บราเซียปกปิด เสียงครางหวานห