เมื่อได้ฟังข้อมูลทั้งหมดจากฉัตรญาดามาแล้วภคชนท์ก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงตามหาตัวเธอไม่เจอเพราะเธอเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าที่เธอทำแบบนั้นเพราะอยากจะหลบหนีเขาหรือเพราะอยากจะลืมเรื่องราวในอดีตเหมือนกับที่เขาเองก็เปลี่ยนชื่อ
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามสิ่งที่หญิงสาวทำกับเขาในอดีตมันไม่เคยลืมเลือนไปจากใจเขาเลย แม้ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าจะแก้แค้นเธอยังไง
ภคชนท์ก็อยากจะเจอฉัตรรวีอีกสักครั้ง เขาอยากถามว่าความจริงในอดีตมันเป็นยังไงกันแน่ แต่ครั้งนี้เขาจะใช้สติไตร่ตรองให้มากขึ้นและจะต้องฟังสิ่งที่เธอพูดกับสิ่งที่น้องสาวของเธอพูดว่ามันตรงกันแค่ไหน ถ้าหากจะเลือกเชื่อใครสักคนระหว่างฉัตรรวีและฉัตรญาดาเขาก็คงเลือกที่จะเชื่อฉัตรญาดามากกว่า
ไม่ใช่เพราะเขากับเธอใกล้ชิดกันในตอนนี้แต่เพราะที่ผ่านมาในอดีตเขามองว่าฉัตรญาดาไม่เคยมีอะไรโกหกเขาเลยสักครั้ง แต่บางอย่างมันก็ยังคาใจถ้าหากฉัตรรวีคิดจะหลอกใช้เขาแล้วระหว่างที่เขาอยู่ในสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนทำไมฉัตรรวีถึงยังเขียนจดหมายหาเขา เธอคอยให้กำลังใจปลอบใจและบอกให้เขาสู้บอกให้เขาเรียนจากข้างในนั้นเพื่อที่ออกมาจะได้มีอนาคตที่ดีขึ้น
ชายหนุ่มเชื่อฟังคำพูดในจดหมายของเธอทุกถ้อยคำ เขาตั้งใจเรียนและประพฤติตัวเป็นคนดีตลอดหนึ่งปีที่อยู่ในสถานพินิจแต่เรื่องมันก็เลวร้ายลงเมื่อหลังจากเขาอายุครบ 18 ปีก็ถูกย้ายไปยังเรือนจำ จากนั้นเขาและฉัตรรวีก็ไม่ติดต่อกันอีกเลย
เขาถามมารดาที่กลับมาร่วมงานศพของคุณยายแต่มารดาบอกว่าครอบครัวนั้นย้ายออกจากบ้านหลังเดิมไปตั้งแต่เกิดเรื่อง มันยิ่งทำให้ภคชนท์แปลกใจมากขึ้นเพราะจดหมายทุกฉบับที่เขาส่งมันก็จ่าหน้าซองไปที่บ้านหลังนั้นและได้รับการตอบกลับมา
มีเรื่องราวในอดีตอีกหลายอย่างที่ทำให้ภคชนท์สับสนและไม่รู้ว่าอะไรมันคือเรื่องจริงกันแน่
เขายังเก็บรวบรวมจดหมายทุกฉบับไว้กับตัวเองบางครั้งก็หยิบ มันขึ้นมาอ่านเพราะข้อความเหล่านั้นมันทำให้เขามีกำลังใจในการเรียนมีกำลังใจในการต่อสู้และใช้ชีวิตให้ดีกว่าเดิม
หลังจากส่งฉัตรญาดาที่บริษัทแล้วภคชนท์ก็ขับรถมาที่ร้านของกษิเดชซึ่งภูวริษมารออยู่ก่อนแล้ว
“หน้าเครียดมาเชียวมีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันคุยกับญาดาเธอบอกว่าพี่สาวของเธอเปลี่ยนชื่อและนามสกุลไปแล้วและตอนนี้ญาดากับพี่สาวก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย” เขาถอนหายใจก่อนจะนั่งลงเหมือนคนหมดหวัง
“นี่นายถามคุณญาดาไปตรงๆ เลยเหรอ นายบอกเธอแล้วเหรอว่านานเป็นใคร” ภูวริษค่อนข้างตกใจเพราะคิดว่ามันคงเร็วไปที่จะเปิดเผยตัวว่าเคยรู้จักกันมาก่อน
“เปล่าหรอกเราคุยกันหลายเรื่องแล้วเธอก็พูดถึงบางเรื่องในอดีตให้ฟัง”
ภคชนท์เล่าเรื่องที่เขาคุยกับฉัตรญาดาให้เพื่อนฟังอย่างละเอียดอีกครั้ง เหตุผลที่เขาคุยกับภูวริษทุกเรื่องก็เพราะตอนที่เขาออกจากเรือนจำแล้วย้ายไปอยู่กับมารดาที่อเมริกาเขามีอาการซึมเศร้าและเก็บตัวจนมารดาต้องพาไปพบจิตแพทย์
ชายหนุ่มรักษาอาการซึมเศร้าและจิตแพทย์แนะนำว่าเขาควรมีใครสักคนที่พูดคุยปรึกษาทุกเรื่องและภูวริษก็คือเพื่อนคนเดียวที่ภคชนท์ยังติดต่อด้วยแม้จะเปลี่ยนชื่อนามสกุลและย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วก็ตามแต่ทุกครั้งที่ได้พูดได้ระบายเรื่องต่างๆ ออกมามันทำให้จิตใจเขาสงบมากขึ้น แม้ตอนนี้จะหายขาดจากโรคซึมเศร้าและหยุดทานยามาหลายปีแต่ภคชนท์ก็ยังติดนิสัยเดิมคือเล่าเรื่องทุกอย่างให้กับภูวริษฟัง
“แล้วคุณญาดาได้บอกได้ไหมว่าพี่สาวของเธอเปลี่ยนไปชื่ออะไรเราจะได้ช่วยกันหาว่าตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหน”
“ฉันไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรไปถามน่ะ เอาไว้รอให้สนิทกว่านี้ค่อยถามก็ได้”
“นายจะเอายังไงต่อล่ะจะจ้างเธอทำงานต่อไปไหม”
“เธอไม่ผิดอะไรนี่”
“ถ้าเจอกับรู้ดีรวีอีกครั้งนายจะจำเธอได้ไหม”
“ถ้าเธอไม่ไปทำศัลยกรรมฉันคิดว่าต้องจำได้”
“แล้วคิดไว้หรือยังว่าจะทำยังไงกับเธอ”
“ก็กำลังคิดอยู่”
“ฉันว่ามันผ่านมาเป็นสิบปีแล้วนะชนท์ ลืมได้ก็ควรลืมมันไม่ดีกับตัวนายเองเลยนะ”
“แล้วถ้าเป็นนายโดนแบบฉันนายจะลืมไหมล่ะ” เขาถามกลับ
“ก็ยากที่จะลืมแต่การแก้แค้นก็ไม่ใช่ทางออก อย่าลืมนะว่าเธอเป็นผู้หญิง” เขาเตือนด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าภคชนท์เคยป่วยมาแล้วเพราะความเครียด
“ไหนว่าผู้หญิง ผู้ชายเท่าเทียมกันไงล่ะ”
“มันก็ใช่แต่ฉันนึกไม่ออกว่าจะแก้แค้นยังไง”
“อันดับแรกก็ต้องทำให้เธอสนใจฉัน หลงฉันและทำทุกอย่างเพื่อฉันเหมือนที่ฉันทำทุกอย่างเพื่อเธอเมื่อสิบปีก่อน”
“ถ้านายไม่ปล่อยวางก็จะไม่มีความสุขเลยนะชนท์” ภูวริษเตือนเพราะไม่อยากเห็นเพื่อนจมอยู่กับความทุกข์
“ความสุขของฉันมันหายไปแล้วตั้งแต่วันที่ฉันตัดสินใจช่วยรวีแล้วล่ะ” น้ำเสียงของภคชนท์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ฉันรู้ว่ามันทำใจลืมยากฉันก็แค่เป็นห่วงกลัวว่านายจะทำอะไรเธอแล้วต้องกลับเข้าไปอยู่ในนั้นอีก”
“ไม่มีทางหรอก ในเมื่อรวีใช้ความรักของฉันมาทำร้ายฉัน ฉันก็จะใช้ความรักทำร้ายเธอบ้าง”
“ถ้าเธอมาขอโทษมาอธิบายเหตุผลที่เงียบหายไปล่ะ นายคิดว่าจะยกโทษให้เธอได้ไหม”
“ฉันว่ามันสายไปแล้วนะภู เวลามันผ่านไปนานมันทำให้ฉันรู้และเข้าใจดีเลยว่ารวีไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลย เธอก็แค่หลอกใช้แค่นั้นเอง”
“มันก็ใช่”
“นายรู้มั้ยอะไรที่ฉันให้ทำให้ฉันเสียใจที่สุด”
“ก็เรื่องที่นายรับผิดแทนเธอยังไงล่ะ”
“เรื่องนั้นก็ใช่แต่มีอีกเรื่องที่ฉันรู้สึกเสียใจและไม่อาจให้อภัยรวีได้”
“เรื่องอะไร”
“ก่อนฉันจะถูกพาตัวไปอยู่สถานพินิจฉันฝากให้รวีช่วยดูแลยายแต่เธอไม่ทำ”
“เธอก็อาจจะดูแลแต่นายอาจไม่รู้ก็ได้นะ”
“มันก็ใช่ที่ฉันอาจจะไม่รู้ แต่ในงานศพยายรวีไม่มาเลยสักวัน”
“นายรู้ได้ยังไง”
“ฉันถามแม่”
“แม่ของนายอาจจะไม่รู้จักรวีก็ได้”
“ทำไมแม่จะไม่รู้จักล่ะบ้านเราอยู่ติดกันมานานแม่บอกว่ามีแต่ญาดาที่มาช่วยงานทุกวันทั้งที่ตอนนั้นบ้านของรวีไม่มีคนอยู่แล้ว”
“ฉันว่าถ้ามีโอกาสนายต้องถามญาดานะว่าระหว่างที่นายไม่อยู่มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“นายจะให้ฉันบอกเธอเหรอว่าฉันเป็นใคร”
“เปล่าหรอกนายก็แค่สนิทกับเธอให้มากขึ้น ทำให้เธอไว้ใจเธออาจจะเล่าเรื่องในอดีตให้นายฟังเหมือนอย่างที่เธอเล่าเรื่องพี่สาวก็ได้”
“ฉันจะลองทำตามดูนะ”
“ฉันให้นายหลอกถามจากคุณญาดานะแต่ไม่ใช่ให้นายแก้แค้นที่เธอ”
“ญาดากับรวีมันคนละคนกันและฉันก็แยกแยะออก”
“คุยกับแม่แล้วใช่ไหมญาดา”“ค่ะญาดาบอกแม่แล้วแม่จะรีบกลับมาพรุ่งนี้ค่ะ แล้วบอสคุยกับพี่โอปอแล้วพี่เขาเป็นยังไงบ้างเขา”“ก็ยังร้องไห้อยู่คงกลัวจะติดคุกนั่นแหละ”“ญาดาขอไปคุยกับพี่ก่อนได้ไหม”“ได้สิผมนั่งรอตรงโน้นนะ”“ค่ะ”ฉัตรญาดาเดินไปหาพี่สาวที่นั่งร้องไห้อยู่ภายในลูกกรง“พี่โอปอเป็นยังไงบ้าง”“ญาดาเธอรู้มั้ยว่าผู้ชายที่เป็นเจ้านายเธอน่ะก็คือวีรวัชร์”“เขาบอกพี่โอปอแบบนั้นเหรอคะ”“ใช่เขาเพิ่งบอกพี่เมื่อกี้ ที่เขาเข้ามาในชีวิตพวกเราก็เพื่ออยากจะทำลายครอบครัวของเรา”“ญาดารู้ค่ะว่าเขาคือพี่วัชร์”“เธอรู้แต่ทำไมเธอไม่บอกพี่”“ก็เขาไม่ให้บอกนี่คะ”“แล้วเธอก็ทำตามเขาอย่างงั้นเหรอ”“ที่ญาดาทำตามที่เขาบอกก็เพราะญาดารู้สึกสงสารและเห็นใจที่เขาต้องมารับโทษแทนพี่”“เธอกำลังถูกเขาหลอกใช้ได้นะญาดาเขาเห็นเธอแค่เป็นทางผ่านเพื่อมาแก้แค้นพี่เท่านั้นแหละ”“ญาดาขอโทษ”“เธอรู้เหรอว่าเขาจะแก้แค้น”“ญาดารู้ค่ะว่าเขาจะแก้แค้นพี่เขาบอกญาดาแล้วและที่เขานัดออกมาเจอวันนี้ก็เพื่อจะบอกความจริงทุกอย่าง แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาเสียก่อน ญาดาขอโทษนะคะที่บอกพี่ช้าไปทำเลยให้พี่กับพี่อาร์ทต้องทะเลาะกัน”“พี่เพิ่งรู้นะว่า
“บอสคะญาดาว่าถ้าบอสจะคุยกับพี่โอปอ บอสน่าจะคุยกันตามลำพังนะไม่น่าจะต้องพาญาดามาด้วยเลย” หญิงสาวนั่งบ่นหลังจากเขาไปรับเธอที่คอนโดเพื่อมายังร้านอาหารที่นัดกับลดาภัสน์“ไว้ก็ผมบริสุทธิ์ใจนี่ ผมอยากให้ญาดารู้ว่าผมคุยอะไรกับพี่สาวคุณบ้างและเราจบกันจริงๆ”“แต่ญาดากลัวพี่โอปอโกรธ”“ผมรู้ว่าเขาจะต้องโกรธมาก แต่ถ้าเราไม่พูดตอนนี้เรื่องมันก็จะไปกันใหญ่ ญาดาคงไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นใช่ไหม”“ค่ะแต่บอสมั่นใจแล้วใช่ไหม”“มั่นใจเรื่องอะไรก็มั่นใจว่าเราจะคบกันจริงๆ บอสจะไม่นึกถึงอดีต”“ไม่หรอกญาดาเรื่องทุกอย่างมันจบไปแล้วแต่ที่ผมคิดจะแก้แค้นพี่สาวของญาดาก็เพราะคำพูดของเขาที่พูดกับผมวันนั้นมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บ แต่ตอนนี้ญาดาก็ทำให้ความรู้สึกเจ็บของผมหายไปแล้วผมรู้มันฟังดูแปลกที่ผู้ชายคนหนึ่งจะคบกับน้องสาวของคนที่ทำลายชีวิตเขา แต่ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยญาดาอย่าคิดมากเลยนะ”ภคชนท์ขับรถใกล้จะถึงร้านที่นัดไว้แต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน“ทำไมไม่รับสายล่ะคะ”“เดี๋ยวก็ถึงร้านแล้วผมว่าไปคุยกันที่ร้านดีกว่านะ” ชายหนุ่มไม่อยากคุยขณะขับรถแต่ดูเหมือนลดาภัสน์จะไม่ยอมง่ายๆ เธอยังคงกดโทรศัพท์มาหาเขาอีกห
ช่วงวันหยุดยาวลดาภัสน์ไม่ได้ติดต่อไปหาภคชนท์เลยเพราะสามีของเธอกลับมาที่บ้าน บรรยากาศระหว่างสามีภรรยายังคงมึนตึงกันอยู่เพราะคนกลางอย่างคุณสุชาดามารดาของหญิงสาวไปทำบุญกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดหลายวันทำให้ลดาภัสน์และอรรถพลอยู่กันตามลำพังในบ้านลดาภัสน์ตัดสินใจได้แล้วว่าเธอจะหย่าขาดจากสามีและไปเริ่มต้นใหม่กับภคชนท์หญิงสาวมั่นใจว่าชายหนุ่มไม่รังเกียจที่เธอเป็นแม่หม้ายและเขาพร้อมที่จะคบหากับเธอ จากการที่เขาแสดงออกหลายหลายอย่างมันทำให้ลดาภัสน์รู้ว่าเขาเองไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนอีกต่อไปเพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนยอมเสียเวลา เสียเงินพาไปช้อปปิ้งโดยไม่หวังอะไรในตัวเธอ“จะเอาอย่างนี้จริงๆ เหรอโอปอ ทำไมไม่นึกถึงวันเก่าๆ ของเราว่าที่ผ่านเรามีความสุขกันมากแค่ไหน” อรรถพลพยายามยื้อเพราะเขาไม่อยากจะเสียเธอไป“คำว่าวันเก่าๆ มันก็คืออดีตค่ะอาร์ทแต่ปัจจุบันโอปอไม่มีความสุขเลย อาร์ทไม่มีเวลาให้โอปอเหมือนเคย”“ผมก็พยายามหาเวลาให้โอปอมากขึ้นแล้วนะ อดทนรออีกนิดไม่ได้เหรอ”“โอปอเบื่อกับคำนี้เหลือเกินแล้วนะ”“ที่คุณอยากจะเลิกกับผมเพราะคุณมีผู้ชายคนใหม่ใช่โอปอ อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ผมให้เพื่อนตามสืบมาแล้ว คุณไปกับผู้
เมื่อได้พูดความรู้สึกออกไปแล้วภคชนท์ก็รู้สึกสบายใจขึ้น ตลอดระยะเวลาที่อยู่ภูเก็ตเขากับฉัตรญาดาตกลงกันว่าจะลืมเรื่องทุกอย่างไปก่อนแล้วจะเที่ยวด้วยกันอย่างสนุก ส่วนปัญหาที่มันยังค้างคาอยู่ค่อยกลับมาจัดการที่กรุงเทพทีหลังบ่ายวันอาทิตย์หลังจากที่ตระเวนเที่ยวกันรอบเกาะแล้ว ฉัตรญาดากับภคชนท์ก็กลับมาที่โรงแรมทั้งสองทานอาหารเย็นด้วยกันและนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันอยู่บริเวณหาดทรายหน้าโรงแรม“ญาดาดูเหมือนจะชอบทะเลมากนะ แต่ทำไมไม่เห็นจะลงไปเล่นน้ำหรือไม่ได้เตรียมชุดว่ายน้ำมา ให้ผมพาไปซื้อก็ได้นะ”“ญาดาเตรียมชุดว่ายน้ำมาค่ะ แต่เห็นคนเล่นน้ำทะเลแล้วก็เลยเปลี่ยนใจ”“ทำไมล่ะ”“คนมันเยอะไปหน่อย”“แสดงว่าชุดที่เตรียมมาต้องเซ็กซี่มากๆ เลยใช่ไหมล่ะถึงไม่กล้าใส่ลงมาเล่นน้ำ”“ก็ประมาณหนึ่งค่ะ”“ถ้าอยากเล่นน้ำจริงๆ เราย้ายไปเช่ารีสอร์ทกันไหม เอาที่ที่มีหาดส่วนตัวญาดาเราจะได้เล่นน้ำ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะบอสพรุ่งนี้เราก็ต้องเริ่มต้นทำงานแล้ว แค่ได้นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ญาดาก็มีความสุขมากๆ แล้วค่ะ บอสล่ะคะ”“ผมมีความสุขมาก เราคงต้องอาหโอกาสมาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ แล้วนะ”“บอสไม่เบื่อเหรอคะพี่ต้องขับรถพาญ
ภคชนท์มีท่าทางคิดหนักและลังเลว่าจะบอกความจริงฉัตรญาดาไปตอนนี้ดีหรือเปล่า บรรยากาศในร้านอาหารมันก็ค่อนข้างโรแมนติกมีเสียงเพลงสากลจากทางร้านคลอเบาๆ อีกทั้งยังได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งอยู่ไกลๆ“บอสเป็นอะไรคะทำไมนิ่งไปมีอะไรบอกญาดาตรงๆ ได้นะคะ”เขามองหน้าเธอก่อนตัดสินใจรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป“ให้ผมพูดตรงๆ ใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ญาดาพร้อมจะฟัง”“แล้วถ้าผมบอกว่าผมชอบญาดาล่ะ”“อะไรนะคะ” หญิงสาวตกใจจนช้อนที่อยู่ในมือแทบจะร่วง“บอสต้องล้อเล่นแน่ๆ เลย” เธอไม่เชื่อในสิ่งที่ภคชนท์พูดสายตาที่มองมีแต่ความสงสัย“ทำไมต้องคิดว่าล้อเล่นด้วยล่ะ”“ก็บอสเคยชอบพี่สาวของญาดานี่คะ”“ตัดอดีตทิ้งออกไปก่อนได้ไหมตอนนี้เราพูดกันถึงเรื่องปัจจุบัน”“บอสคะบอสเมาหรือเปล่า”“เราไม่ได้กินเหล้ากันนะ ไวน์ก็หมดไปแค่ครึ่งแก้วเอง”“บอสจะมาชอบญาดาได้ยังไง” เธอยังคงสงสัย“แล้วทำไมผมจะชอบคุณไม่ได้ล่ะ”“ไม่รู้สิคะ ญาดากับบอสอายุห่างกันตั้งเยอะนะคะ อีกอย่างญาดาก็เป็นแค่ผู้ช่วยของบอสเองมันไม่มีอะไรเหมาะสมกับบอสหรอก”“เมื่อกี้ในสเปกของญาดาไม่มีความว่าเหมาะสมเลยนะ แล้วผมก็ตรงสเปกของญาดาทุกอย่าง”“แล้วญาดาตรงสเปกของบอสตรงไหน”“ก็ตรงที่
ภคชนท์และฉัตรญาดามาถึงภูเก็ตในเวลาค่ำของวันศุกร์ทั้งสองเช็กอินเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งคุณแพรพรรณเลขาของชายหนุ่มได้จองไว้ให้แล้ว ห้องพักของทั้งสองเป็นห้องพักที่อยู่ติดกันและเมื่อเก็บของเข้าที่แล้วเขาก็พาเธอไปร้านอาหารที่อยู่ห่างออกไปจากโรงแรมโดยรถเช่าจองไว้ล่วงหน้าแล้ว“เป็นไงชอบร้านนี้ไหมญาดา”“ชอบค่ะบรรยากาศดีมากอาหารก็อร่อยบอสเคยมาทานที่นี่บ่อยไหม”“ก็ทุกครั้งที่มาภูเก็ตผมก็จะมาทานร้านนี้แหละ”“แล้วแต่ก่อนบอสมากับใครคะมากับพี่แพรหรือเปล่า”“มากับคุณแพรสองครั้งน่ะ จากนั้นก็มาคนเดียวอีกหน่อยญาดาอาจจะต้องมากับผมบ่อยขึ้น”“ไม่มีปัญหาค่ะ”“ถ้าต้องเดินทางบ่อยๆ สะดวกไหมมีใครว่าอะไรหรือเปล่า”“สะดวกค่ะ ญาดาไปได้ทุกที่” เธออยากจะพูดต่อว่าสามารถไปที่ไหนก็ได้ทุกที่ถ้าหากมีเขาไปด้วยแต่ก็หยุดคำพูดนั้นไว้แค่นั้นเพราะรู้ว่ามันไม่เหมาะสมที่จะสารภาพความรู้สึกของตนเองออกไป“เดือนหน้าก็จะต้องไปอเมริกาแล้วภาษาอังกฤษเป็นยังไงบ้างล่ะ”“สบายมากค่ะตอนนี้ญาดากำลังคิดว่าอยากจะเรียนเพิ่ม”“อ้าวไหนบอกว่าสบายมากแล้วทำไมอยากจะเรียนเพิ่มอีกล่ะ”“ญาดาไม่ได้อยากจะเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มสักหน่อย ญาดาคิดว่าจะเรียนภ