ภคชนท์พาฉัตรญาดามายังร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งคนที่เขานัดมาเจอในวันนี้ก็คือภูวริษ เมื่อมาถึงเขาก็พาหญิงสาวไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ล่วงหน้าและเพื่อนของเขาก็มารออยู่ก่อนแล้ว
“มาแล้วเหรอรถติดมากใช่ไหมล่ะ” ภูวริษที่นั่งอยู่ก่อนทักทายผู้มาใหม่
“ติดมากเลยแหละ นายมานานหรือยัง”
“สักพักแล้วล่ะ”
“ญาดานี่ภูวริษเพื่อนของผม”
“สวัสดีค่ะคุณภูวริษ”
“สวัสดีครับ คุณญาดาเรียกภูเฉยๆ ก็ได้ เชิญนั่งก่อนครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“นายสั่งอะไรมาหรือยังภู” ภคชนท์ถามคนที่มาถึงร้านก่อน
“สั่งไปแล้วของโปรดของเรานั่นแหละ แล้วคุณญาดาอยากทานอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะครับ” ภูวริษส่งเมนูอาหารให้กับหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามกับเขา
“ฉันทานได้ทุกอย่างค่ะคุณภู เอาไว้อาหารมาแล้วไม่พอค่อยสั่งอีกครั้งก็ได้นะคะ”
“ทำงานกับเพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับ เขาใช้งานคุณหนักไหม”
“ไม่เท่าไหร่คะ บอสเป็นเจ้านายใจดีค่ะ” หญิงสาวตอบพลางหันมองหน้าเจ้านายที่เหมือนกำลังรอคำตอบ
“นายชนท์เนี่ยนะใจดี คุณญาดาเข้าใจผิดอะไรไปหรือเปล่าปกติเขาเป็นคนเคร่งเครียดกับการทำงานมากนะ” ภูวริษรู้ว่าเวลาทำงานภคชนท์จะจริงจังมาก
“สงสัยเพราะฉันเพิ่งเข้าไปทำงานมั้งคะ บอสก็เลยยังไม่ค่อยเข้มงวดกับฉันเท่าไหร่”
“ก็ดีนะครับที่เขารับผู้ช่วย ที่ผ่านมาเขาทำงานหนักมาตลอดพอมีคุณญาดามาช่วยงานก็คงทำให้เพื่อนผมเหนื่อยน้อยลงเยอะเลยครับ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าจะทำให้บอสเหนื่อยน้อยลงหรือจะเป็นการเพิ่มภาระของบอสเพราะฉันไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณญาดาทุกอย่างมันฝึกกันได้ ว่าแต่ก่อนหน้านี้คุณญาดาทำงานอะไรมาเหรอครับ” ภูวริษถามทั้งที่ตัวเองก็รู้มาจากภคชนท์แล้วว่าก่อนหน้านี้เธอเคยทำงานเป็นพยาบาลมาก่อน
“ฉันทำงานเป็นพยาบาลมาสามปีค่ะ”
“แล้วนึกยังไงถึงลาออกมาทำงานเป็นผู้ช่วยล่ะครับ ”
“ฉันอยากลองทำอะไรที่มันแปลกใหม่ออกไปค่ะ แล้วก็โชคดีมากบริษัทของบอสให้โอกาสกับคนที่ไม่มีประสบการณ์”
“ผมหวังว่าคุณจะชอบงานใหม่และทำงานกับเพื่อนของผมนานๆ นะครับ”
“ค่ะคุณภู”
บทสนทนาหยุดลงเพียงแค่นี้เมื่ออาหารจากทางร้านกำลังทยอยมาเสิร์ฟ
“อาหารน่าทานมากๆ เลยค่ะ บอสกับคุณภูมาทานที่นี่บ่อยไหมคะ”
“ผมกับเพื่อนชอบมาทานร้านนี้กันเป็นประจำ”
“อีกหน่อยคุณญาดาก็คงเป็นแขกประจำเหมือนกับเรานั่นแหละ เพราะเป็นผู้ช่วยนายชนท์ก็คงต้องไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด”
“ค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าจากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มรับประทานอาหารกันเงียบๆ ฉัตรญาดาสังเกตว่าเจ้านายของตัวเองนั้นเขี่ยต้นหอมและผักชีออกมาวางตรงขอบจานมันทำให้เธอนึกไปถึงผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้
“แล้วมาทานข้าวด้วยกันอีกนะครับคุณญาดา”
“ถ้าบอสชวนมาฉันก็มาค่ะ”
“ถ้าเขาไม่ชวนเรามากันสองคนก็ได้ คุณมีเบอร์กับไลน์ของผมแล้วนี่ ติดต่อมาได้ตลอดเลย ถ้าเจ้านายใช้งานหนักก็โทรมาบอกผมได้นะ ผมจะช่วยจัดการให้เอง”
“ค่ะคุณภู”
“ไปกันเถอะญาดา คุณต้องไปเอารถที่บริษัทอีกนะ”
“ฉันไปก่อนนะคะคุณภู ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ฉัตรญาดาเดินตามเจ้านายมาที่รถเพื่อให้เขาขับไปส่งเอารถที่บริษัท
“บอสคะบอสมีพี่น้องมั้ยคะ” หญิงสาวถามขณะนั่งรถของเขากลับมายังบริษัท
“ผมเป็นลูกคนเดียวถามทำไมเหรอ”
“ก็หน้าตาของบอสเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จักค่ะ ท่าทางก็เหมือนแถมยังไม่ชอบทานต้นหอมผักชีเหมือนกันอีกด้วยนะคะ” ฉัตรญาดาไม่อยากเก็บความสงสัยไว้อีกต่อไปก็เลยคิดว่าถามไปเลยจะดีกว่า
“ญาดาคนไม่ชอบทานต้นหอมผักชีบนโลกนี้มีเยอะแยะเลยนะ ผมคงไม่ใช่คนที่คุณเคยรู้จักหรอกเพราะถ้าอย่างนั้นเราก็คงจะจำกันได้แล้วใช่ไหมล่ะ”
“ค่ะ แต่ฉันคุ้นกับหน้าตาและท่าทางของบอสมากนะคะ บอสคล้ายกับเขามากจริงๆ ค่ะ เพียงแต่ชื่อนามสกุลต่างกันอีกอย่างบอสก็เรียนจบมาจากต่างประเทศ ส่วนเขาคนนั้นฉันไม่รู้เลยว่าได้เรียนจนจบหรือเปล่า”
“อ้าว...คุณพูดเหมือนคุณรู้จักผู้ชายคนนั้นแล้วทำไมถึงไม่รู้ล่ะว่าเขาเรียนจบหรือเปล่า”
“มันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาค่ะ”
“ทำไมคุณไม่ถามเขาล่ะว่าเรียนจบไหมหรือไม่กล้าถาม”
“ฉันอยากถามเขามากค่ะและก็อยากรู้ข่าวคราวของเขามากๆ แต่เขาขาดการติดต่อไปเลย”
“ตอนนี้นี้มีสื่อโซเชียลเยอะแยะนะถ้าเราจะตามหาใครสักคนมันไม่ยากเลยนะญาดา”
“ฉันรู้ค่ะว่ามันไม่ยากแต่ฉันก็ติดต่อเขาไม่ได้จริงๆ”
“ถ้าติดต่อตัวเขาไม่ได้ก็ลองกลับไปถามครอบครัวเขาสิ คนเราต้องมีครอบครัวมีญาติพี่น้องอยู่แล้ว”
“ฉันถามแล้วค่ะ แต่ญาติพี่น้องของเขาก็ตอบว่าไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหนฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องเป็นหรือเพราะเขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นกันแน่”
“ผู้ชายคนนั้นเขาทำอะไรเหรอญาติถึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวหรือว่าเขาเป็นคนไม่ดีล่ะญาดา”
“พี่วัชร์เขาเป็นคนดีค่ะ เป็นคนดีมากๆ”
“เป็นคนดีมากอย่างนั้นเหรอ”
“ค่ะ ถึงคนอื่นจะมองเขาไม่ดีแต่สำหรับฉันแล้วเขาเป็นคนดีมากๆ ฉันไม่เคยลืมเขาได้เลยถึงแม้ว่าจะไม่ได้ติดต่อกันนานสิบปีแล้วก็ตาม” น้ำเสียงที่ฉัตรญาดาพูดถึงผู้ชายในอดีตนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า
ภคชนท์ไม่รู้จะถามอะไรหญิงสาวต่อเขาอยากจะบอกว่าผู้ชายที่เธอพูดถึงก็กำลังขับรถให้เธอนั่งอยู่แต่คิดว่ามันยังเร็วไปถ้าจะถามว่าทำไมพี่สาวของเธอถึงเลิกติดต่อกับเขา
“ผู้ชายที่คุณพูดถึงเป็นแฟนคุณหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกค่ะ เขาคบกับพี่สาวของฉัน”
“ผมว่าพี่สาวของคุณน่าจะรู้ดีกว่าใครนะครับว่าตอนนี้ผู้ชายที่คุณพูดถึงอยู่ที่ไหน”
“พี่สาวของฉันเป็นคนสุดท้ายที่ฉันจะถามค่ะ” เมื่อพูดถึงพี่สาวน้ำเสียงของฉัตรญาดาก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาและดูห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด
“คุณมีปัญหากับพี่สาวเหรอญาดา”
“ทำไมบอสคิดอย่างนั้นล่ะคะ”
“ผมฟังจากน้ำเสียงน่ะ มันจริงใช่ไหม”
“จริงค่ะ”
“แก้ไขมันสิ”
“มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ”
“แล้วคุณไม่อยากเจอผู้ชายคนนั้นเหรอ”
“อยากเจอค่ะ แต่พี่สาวฉันก็คงไม่รู้หรอกว่าเขาอยู่ที่ไหนและฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่สาวมานานแล้ว”
“ทำไมล่ะ”
“เรื่องมันซับซ้อนค่ะบอส ตอนนี้พี่สาวของฉันเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลไปแล้วและฉันเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่สาวของฉันอยู่ที่ไหน”
ภคชนท์ตกใจกับคำตอบที่ได้ยินแต่ก็ยังทำตัวเป็นปกติและชวนเธอคุยต่อ
“ถ้ารู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนคุณจะทำยังไงต่อเหรอญาดา”
“ก็ไม่ทำอะไรหรอกค่ะ ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับเธออีกแล้ว”
“แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บางทีฉันอาจจะเจอเขาแล้วแต่เวลามันผ่านมานานสิบปีฉันอาจจำเขาไม่ได้และเขาเองก็คงจำฉันไม่ได้เหมือนกัน”
“ผมไม่รู้จะช่วยเรื่องนี้ได้ยังไง”
“แค่บอสฟังที่ฉันเล่าก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ”
ภคชนท์อยากจะชวนฉัตรญาดาคุยต่อแต่ตอนนี้เขาก็ขับรถมาถึงบริษัทแล้ว
“ขอบคุณนะคะบอส”
“คุยกับแม่แล้วใช่ไหมญาดา”“ค่ะญาดาบอกแม่แล้วแม่จะรีบกลับมาพรุ่งนี้ค่ะ แล้วบอสคุยกับพี่โอปอแล้วพี่เขาเป็นยังไงบ้างเขา”“ก็ยังร้องไห้อยู่คงกลัวจะติดคุกนั่นแหละ”“ญาดาขอไปคุยกับพี่ก่อนได้ไหม”“ได้สิผมนั่งรอตรงโน้นนะ”“ค่ะ”ฉัตรญาดาเดินไปหาพี่สาวที่นั่งร้องไห้อยู่ภายในลูกกรง“พี่โอปอเป็นยังไงบ้าง”“ญาดาเธอรู้มั้ยว่าผู้ชายที่เป็นเจ้านายเธอน่ะก็คือวีรวัชร์”“เขาบอกพี่โอปอแบบนั้นเหรอคะ”“ใช่เขาเพิ่งบอกพี่เมื่อกี้ ที่เขาเข้ามาในชีวิตพวกเราก็เพื่ออยากจะทำลายครอบครัวของเรา”“ญาดารู้ค่ะว่าเขาคือพี่วัชร์”“เธอรู้แต่ทำไมเธอไม่บอกพี่”“ก็เขาไม่ให้บอกนี่คะ”“แล้วเธอก็ทำตามเขาอย่างงั้นเหรอ”“ที่ญาดาทำตามที่เขาบอกก็เพราะญาดารู้สึกสงสารและเห็นใจที่เขาต้องมารับโทษแทนพี่”“เธอกำลังถูกเขาหลอกใช้ได้นะญาดาเขาเห็นเธอแค่เป็นทางผ่านเพื่อมาแก้แค้นพี่เท่านั้นแหละ”“ญาดาขอโทษ”“เธอรู้เหรอว่าเขาจะแก้แค้น”“ญาดารู้ค่ะว่าเขาจะแก้แค้นพี่เขาบอกญาดาแล้วและที่เขานัดออกมาเจอวันนี้ก็เพื่อจะบอกความจริงทุกอย่าง แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาเสียก่อน ญาดาขอโทษนะคะที่บอกพี่ช้าไปทำเลยให้พี่กับพี่อาร์ทต้องทะเลาะกัน”“พี่เพิ่งรู้นะว่า
“บอสคะญาดาว่าถ้าบอสจะคุยกับพี่โอปอ บอสน่าจะคุยกันตามลำพังนะไม่น่าจะต้องพาญาดามาด้วยเลย” หญิงสาวนั่งบ่นหลังจากเขาไปรับเธอที่คอนโดเพื่อมายังร้านอาหารที่นัดกับลดาภัสน์“ไว้ก็ผมบริสุทธิ์ใจนี่ ผมอยากให้ญาดารู้ว่าผมคุยอะไรกับพี่สาวคุณบ้างและเราจบกันจริงๆ”“แต่ญาดากลัวพี่โอปอโกรธ”“ผมรู้ว่าเขาจะต้องโกรธมาก แต่ถ้าเราไม่พูดตอนนี้เรื่องมันก็จะไปกันใหญ่ ญาดาคงไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นใช่ไหม”“ค่ะแต่บอสมั่นใจแล้วใช่ไหม”“มั่นใจเรื่องอะไรก็มั่นใจว่าเราจะคบกันจริงๆ บอสจะไม่นึกถึงอดีต”“ไม่หรอกญาดาเรื่องทุกอย่างมันจบไปแล้วแต่ที่ผมคิดจะแก้แค้นพี่สาวของญาดาก็เพราะคำพูดของเขาที่พูดกับผมวันนั้นมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บ แต่ตอนนี้ญาดาก็ทำให้ความรู้สึกเจ็บของผมหายไปแล้วผมรู้มันฟังดูแปลกที่ผู้ชายคนหนึ่งจะคบกับน้องสาวของคนที่ทำลายชีวิตเขา แต่ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยญาดาอย่าคิดมากเลยนะ”ภคชนท์ขับรถใกล้จะถึงร้านที่นัดไว้แต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน“ทำไมไม่รับสายล่ะคะ”“เดี๋ยวก็ถึงร้านแล้วผมว่าไปคุยกันที่ร้านดีกว่านะ” ชายหนุ่มไม่อยากคุยขณะขับรถแต่ดูเหมือนลดาภัสน์จะไม่ยอมง่ายๆ เธอยังคงกดโทรศัพท์มาหาเขาอีกห
ช่วงวันหยุดยาวลดาภัสน์ไม่ได้ติดต่อไปหาภคชนท์เลยเพราะสามีของเธอกลับมาที่บ้าน บรรยากาศระหว่างสามีภรรยายังคงมึนตึงกันอยู่เพราะคนกลางอย่างคุณสุชาดามารดาของหญิงสาวไปทำบุญกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดหลายวันทำให้ลดาภัสน์และอรรถพลอยู่กันตามลำพังในบ้านลดาภัสน์ตัดสินใจได้แล้วว่าเธอจะหย่าขาดจากสามีและไปเริ่มต้นใหม่กับภคชนท์หญิงสาวมั่นใจว่าชายหนุ่มไม่รังเกียจที่เธอเป็นแม่หม้ายและเขาพร้อมที่จะคบหากับเธอ จากการที่เขาแสดงออกหลายหลายอย่างมันทำให้ลดาภัสน์รู้ว่าเขาเองไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนอีกต่อไปเพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนยอมเสียเวลา เสียเงินพาไปช้อปปิ้งโดยไม่หวังอะไรในตัวเธอ“จะเอาอย่างนี้จริงๆ เหรอโอปอ ทำไมไม่นึกถึงวันเก่าๆ ของเราว่าที่ผ่านเรามีความสุขกันมากแค่ไหน” อรรถพลพยายามยื้อเพราะเขาไม่อยากจะเสียเธอไป“คำว่าวันเก่าๆ มันก็คืออดีตค่ะอาร์ทแต่ปัจจุบันโอปอไม่มีความสุขเลย อาร์ทไม่มีเวลาให้โอปอเหมือนเคย”“ผมก็พยายามหาเวลาให้โอปอมากขึ้นแล้วนะ อดทนรออีกนิดไม่ได้เหรอ”“โอปอเบื่อกับคำนี้เหลือเกินแล้วนะ”“ที่คุณอยากจะเลิกกับผมเพราะคุณมีผู้ชายคนใหม่ใช่โอปอ อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ผมให้เพื่อนตามสืบมาแล้ว คุณไปกับผู้
เมื่อได้พูดความรู้สึกออกไปแล้วภคชนท์ก็รู้สึกสบายใจขึ้น ตลอดระยะเวลาที่อยู่ภูเก็ตเขากับฉัตรญาดาตกลงกันว่าจะลืมเรื่องทุกอย่างไปก่อนแล้วจะเที่ยวด้วยกันอย่างสนุก ส่วนปัญหาที่มันยังค้างคาอยู่ค่อยกลับมาจัดการที่กรุงเทพทีหลังบ่ายวันอาทิตย์หลังจากที่ตระเวนเที่ยวกันรอบเกาะแล้ว ฉัตรญาดากับภคชนท์ก็กลับมาที่โรงแรมทั้งสองทานอาหารเย็นด้วยกันและนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันอยู่บริเวณหาดทรายหน้าโรงแรม“ญาดาดูเหมือนจะชอบทะเลมากนะ แต่ทำไมไม่เห็นจะลงไปเล่นน้ำหรือไม่ได้เตรียมชุดว่ายน้ำมา ให้ผมพาไปซื้อก็ได้นะ”“ญาดาเตรียมชุดว่ายน้ำมาค่ะ แต่เห็นคนเล่นน้ำทะเลแล้วก็เลยเปลี่ยนใจ”“ทำไมล่ะ”“คนมันเยอะไปหน่อย”“แสดงว่าชุดที่เตรียมมาต้องเซ็กซี่มากๆ เลยใช่ไหมล่ะถึงไม่กล้าใส่ลงมาเล่นน้ำ”“ก็ประมาณหนึ่งค่ะ”“ถ้าอยากเล่นน้ำจริงๆ เราย้ายไปเช่ารีสอร์ทกันไหม เอาที่ที่มีหาดส่วนตัวญาดาเราจะได้เล่นน้ำ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะบอสพรุ่งนี้เราก็ต้องเริ่มต้นทำงานแล้ว แค่ได้นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ญาดาก็มีความสุขมากๆ แล้วค่ะ บอสล่ะคะ”“ผมมีความสุขมาก เราคงต้องอาหโอกาสมาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ แล้วนะ”“บอสไม่เบื่อเหรอคะพี่ต้องขับรถพาญ
ภคชนท์มีท่าทางคิดหนักและลังเลว่าจะบอกความจริงฉัตรญาดาไปตอนนี้ดีหรือเปล่า บรรยากาศในร้านอาหารมันก็ค่อนข้างโรแมนติกมีเสียงเพลงสากลจากทางร้านคลอเบาๆ อีกทั้งยังได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งอยู่ไกลๆ“บอสเป็นอะไรคะทำไมนิ่งไปมีอะไรบอกญาดาตรงๆ ได้นะคะ”เขามองหน้าเธอก่อนตัดสินใจรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป“ให้ผมพูดตรงๆ ใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ญาดาพร้อมจะฟัง”“แล้วถ้าผมบอกว่าผมชอบญาดาล่ะ”“อะไรนะคะ” หญิงสาวตกใจจนช้อนที่อยู่ในมือแทบจะร่วง“บอสต้องล้อเล่นแน่ๆ เลย” เธอไม่เชื่อในสิ่งที่ภคชนท์พูดสายตาที่มองมีแต่ความสงสัย“ทำไมต้องคิดว่าล้อเล่นด้วยล่ะ”“ก็บอสเคยชอบพี่สาวของญาดานี่คะ”“ตัดอดีตทิ้งออกไปก่อนได้ไหมตอนนี้เราพูดกันถึงเรื่องปัจจุบัน”“บอสคะบอสเมาหรือเปล่า”“เราไม่ได้กินเหล้ากันนะ ไวน์ก็หมดไปแค่ครึ่งแก้วเอง”“บอสจะมาชอบญาดาได้ยังไง” เธอยังคงสงสัย“แล้วทำไมผมจะชอบคุณไม่ได้ล่ะ”“ไม่รู้สิคะ ญาดากับบอสอายุห่างกันตั้งเยอะนะคะ อีกอย่างญาดาก็เป็นแค่ผู้ช่วยของบอสเองมันไม่มีอะไรเหมาะสมกับบอสหรอก”“เมื่อกี้ในสเปกของญาดาไม่มีความว่าเหมาะสมเลยนะ แล้วผมก็ตรงสเปกของญาดาทุกอย่าง”“แล้วญาดาตรงสเปกของบอสตรงไหน”“ก็ตรงที่
ภคชนท์และฉัตรญาดามาถึงภูเก็ตในเวลาค่ำของวันศุกร์ทั้งสองเช็กอินเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งคุณแพรพรรณเลขาของชายหนุ่มได้จองไว้ให้แล้ว ห้องพักของทั้งสองเป็นห้องพักที่อยู่ติดกันและเมื่อเก็บของเข้าที่แล้วเขาก็พาเธอไปร้านอาหารที่อยู่ห่างออกไปจากโรงแรมโดยรถเช่าจองไว้ล่วงหน้าแล้ว“เป็นไงชอบร้านนี้ไหมญาดา”“ชอบค่ะบรรยากาศดีมากอาหารก็อร่อยบอสเคยมาทานที่นี่บ่อยไหม”“ก็ทุกครั้งที่มาภูเก็ตผมก็จะมาทานร้านนี้แหละ”“แล้วแต่ก่อนบอสมากับใครคะมากับพี่แพรหรือเปล่า”“มากับคุณแพรสองครั้งน่ะ จากนั้นก็มาคนเดียวอีกหน่อยญาดาอาจจะต้องมากับผมบ่อยขึ้น”“ไม่มีปัญหาค่ะ”“ถ้าต้องเดินทางบ่อยๆ สะดวกไหมมีใครว่าอะไรหรือเปล่า”“สะดวกค่ะ ญาดาไปได้ทุกที่” เธออยากจะพูดต่อว่าสามารถไปที่ไหนก็ได้ทุกที่ถ้าหากมีเขาไปด้วยแต่ก็หยุดคำพูดนั้นไว้แค่นั้นเพราะรู้ว่ามันไม่เหมาะสมที่จะสารภาพความรู้สึกของตนเองออกไป“เดือนหน้าก็จะต้องไปอเมริกาแล้วภาษาอังกฤษเป็นยังไงบ้างล่ะ”“สบายมากค่ะตอนนี้ญาดากำลังคิดว่าอยากจะเรียนเพิ่ม”“อ้าวไหนบอกว่าสบายมากแล้วทำไมอยากจะเรียนเพิ่มอีกล่ะ”“ญาดาไม่ได้อยากจะเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มสักหน่อย ญาดาคิดว่าจะเรียนภ