CLOSE FRIEND
CHAPTER 5
RAM TALKS
ผมนั่งรอคนเมาหลับมาเกือบสิบนาทีแล้ว เวลาพริกเมาแล้วเป็นแบบนี้ตลอดชอบขอให้อยู่เป็นเพื่อน ถึงผมจะเป็นเพื่อนมันแต่ยังไงผมก็ผู้ชาย มันคงไม่รู้ว่าการไม่ระมัดระวังตัวแบบนี้ทำให้ผมหงุดหงิดมากแค่ไหน
พริกเป็นคนที่ติดจะเซ็กซี่มากเกินไปโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม เพราะหุ่นเอ็กซ์ ๆ รวมถึงการแต่งตัวที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อย ถ้าไม่เห็นกันมานานคงคิดว่ามันอ่อย แต่ทุกคนรู้ดีว่ามันแค่เป็นพวกไม่ระวังตัวเลยไม่มีใครสนใจอะไร แต่ผมสนไง…
ร่างบางพยายามจะถีบผ้าห่มออกครั้งแล้วครั้งเล่า ผมก็พยายามดึงผ้าขึ้นชิดคอครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงจะเป็นเพื่อนสนิท แต่ผมก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่เห็นนมเป็นเต้า เห็นเอวคอดเล็กแล้วจะไม่รู้สึกอะไร รู้สึกสิวะ ก็แค่ไม่พูดออกมา
ไม่ใช่แค่ผม ไอ้พวกนั้นก็เหมือนกัน เพียงแต่พวกมันเห็นแล้วทำเป็นไม่เห็นไปอย่างนั้นเอง
แกร๊ก!
ประตูห้องนอนเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของไอ้เจินเดินเข้ามา มันเลื่อนคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นว่าผมยังคงนั่งหาวอยู่ข้างคนเมาโดยที่ไปไหนไม่ได้เพราะโดนล็อกมือเอาไว้
“มันหลับแล้วมั้ง”
“กูไปไม่ได้เนี่ยมึงช่วยกูแงะมือมันหน่อย” ผมชูมือให้มันดูหลักฐาน
“หึ” เจินหัวเราะเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจต่อ มันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าบานยักษ์เพื่อขนเอาชุดเครื่องนอนออกมา
ส่วนผมก็หันกลับมามองเสี้ยวหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้ม จัดการแงะมือตัวเองออกจากการเกาะกุมเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ คนเมาก็ผุดตัวขึ้นนั่งกะทันหัน นัยน์ตาเบิกโพลงส่งเสียงในลำคอ
“ไม่เอานะไอ้สัด ห้ามอ้วกบนเตียง!”
“อุ… อัวะ!”
เสียงไอ้เจินตะโกนข้ามห้องมา พร้อมกันพริกก็ยกมือขึ้นอุดปากทำท่าจะอ้วก ผมที่อยู่ใกล้มันที่สุดรีบคว้าเอวบางอุ้มกระเตงไปที่ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนทันที
“อ้วก!”
“ไอ้สัด…”
“โอ้ก!”
ผมหลับตาลงอย่างหมดคำจะพูดเมื่อของเหลวจากปากคนข้าง ๆ เทราดลงมาบนตัวผมทั้งที่เรามายืนอยู่ในห้องน้ำแล้วแท้ ๆ พริกหน้าแดงจัดหันรีหันขวางหาที่ลง ก่อนจะทิ้งเข่ากอดคอห่านส่งเสียงอ้วกเสียงดัง
“จัดการมันด้วย กูจะเอาของไปให้คนอื่นก่อน ให้มันใส่เสื้อผ้าอ้ายก่อนก็ได้” ไอ้เจินรีบออกคำสั่ง จากนั้นก็เดินผละออกไปอย่างรวดเร็ว
ไอ้เวรนี่… ปัดภาระให้กูตลอดเลย…
ผมถอดเสื้อของตัวเองซึ่งเลอะเทอะไปด้วยของเหลวออกอย่างหงุดหงิด ก็โชคยังดีที่อ้วกมันมีแค่น้ำ…
ระหว่างนั้นก็ยืนถอนหายใจมองคนตัวเล็กรวบผมตัวเองขึ้นมัด ส่งเสียงโอ้กอ้ากไม่หยุด สุดท้ายก็ผมเองที่ขยับเข้าหาลูบหลังให้มันเงียบ ๆ นัยน์ตาใสปรือมองตามประสาคนเมา ตัวมันเองก็เลอะเทอะไปหมดไม่ต่างกัน
และหลังจากปล่อยให้อ้วกจนพอใจ ผมก็รีบพามันเข้าไปอาบน้ำที่โซนเปียกโดยไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออกสักชิ้น ล้างตัวโดยใช้วิธีเปิดฝักบัวรดน้ำไปทั้งหน้าทั้งตัว
“หนาว” ร่างเล็กสั่นสะท้านยกแขนขึ้นกอดอก
“อาบน้ำก่อน มึงเลอะอ้วกเต็มเลย”
ผมพยายามดึงมือมันออกแล้วล้างทำความสะอาดร่างกายมันให้ ส่วนพริกก็ยืนนิ่งเนื้อตัวสั่นเล็กน้อยปล่อยให้ผมเป็นฝ่ายจัดการ
ตอนนี้เสื้อสายเดี่ยวบาง ๆ ชุ่มเปียกจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน เพราะมันไม่ใช่พวกเซฟตัวเองเรื่องบราไม่ต้องพูดถึงไม่มีฟองน้ำด้วยซ้ำไป แต่เพราะเป็นเพื่อนกันผมก็พยายามที่จะไม่มอง รีบเดินไปหาผ้าขนหนูมาหุ้มตัวมันไว้ ก่อนจะช่วยคนเมาถอดเสื้อออกโดยที่มีผ้าคลุมตัวอยู่ รวมถึงท่อนล่างก็ด้วย
อันที่จริง… คือเปลื้องผ้ามันทั้งตัว…
เพราะไม่อยากมองมันในสภาพนี้นาน ๆ เลยต้องรีบพาเพื่อนออกจากห้องน้ำ จากนั้นผมก็หาเสื้อผ้าของน้องอ้ายมาผลัดเปลี่ยนให้มันแทนชุดเดิม แต่แค่เปิดตู้เสื้อผ้าผมก็ต้องกุมขมับ เสื้อผ้าน้องอ้ายแทบจะเหมือนของไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างหลังผม มีแต่ตัวเล็กตัวน้อยทั้งนั้น
ผมได้แต่ถอนหายใจ คว้าเอาเสื้อยืดของเจ้าของห้องมาแทน ก่อนจะเดินกลับไปยัดเสื้อใส่หัวให้คนที่กำลังนั่งปากสั่นฟันกระทบกันดัง ‘กึก’ ‘กึก’ อยู่ที่ปลายเตียง และหลังจากจัดแจงห่มผ้าให้คนเมาเรียบร้อย ผมก็หันมาจัดการกับตัวเองที่ก็เปียกปอนไปทั้งตัวไม่ต่างกัน
พริกคงนอนหลับไปอีกรอบแล้วเพราะความมึนเมา คงเหลือก็แค่ผมคนเดียวที่กำลังเก็บชุดชั้นในรวมถึงเสื้อผ้าของมันเพื่อจะเอาไปตากลมให้แห้ง
ระหว่างนี้แน่นอนว่าไม่มีใครเข้ามา…
ทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าไอ้พริกเมาแล้วชอบอ้วกเลยไม่มีใครอยากตามเช็ดอ้วกให้มัน ยกตัวอย่างเช่นไอ้เจินเมื่อครู่นี้ไง สุดท้ายหน้าที่เวรนี่ก็ตกเป็นของผมแทบจะทุกที และถึงรู้ว่ามันจะตื่นมาโวยวายเรื่องใครเป็นคนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่ผมก็เพียงแค่นึกขำในใจ เมื่อได้เห็นว่าชุดชั้นในของมันเซ็กซี่ขนาดนี้แต่ตัวคนใส่ยังสด ๆ ซิง ๆ
ก็คง… ต้องเก็บไว้ล้อจนถึงชาติหน้านั่นแหละ...
ผมเดินออกมาก็สวนกับน้องอ้ายและน้องเหมยพอดี
“เจ๊หลับแล้วเหรอเฮีย?” อ้ายเป็นฝ่ายตั้งคำถามพร้อมสอดส่ายสายตาหาคนเมา ผมเลยพยักพเยิดไปที่ด้านใน
“มันหลับไปแล้ว เราก็ไปนอนกันได้แล้ว”
จากนั้นผมเดินเลี่ยงออกมาโดยไม่ได้สนใจอะไรอีก แค่เดินไปตากเสื้อผ้าของพริกที่ระเบียง ก่อนจะกลับเข้ามาเจอกับสายตาของเพื่อนอีกสามคนที่มองมาอย่างพร้อมเพรียง พวกมันไม่ได้พูดอะไรก็แค่มอง มองแล้วหันกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ล้างอ้วกยัง?” เจินผงกหัวขึ้นมาถาม
“จัดการหมดแล้ว” ผมทิ้งตัวลงนอนบนพื้นซึ่งมีผ้านวมผืนหนาตระเตรียมไว้ให้ เพราะรู้สึกเพลียตั้งแต่คืนก่อนเลยอยากพักผ่อนในทันที แต่ไอ้ยักษ์ก็ส่งเสียงมาอีกคน
“มึงไปแก้ผ้ามันเดี๋ยวก็ได้โดนด่า”
“กูไม่ได้มอง” ผมเถียงสวน
“ไอ้ควาย พรุ่งนี้กูจะรอดู”
“เออไอ้สัด เดี๋ยวจัดการเอง” ผมพ่นลมหายใจเบา ๆ ขี้เกียจจะคุยกับเพื่อนต่อ ก็แค่หลับไปง่าย ๆ แบบไม่คิดอะไร
ถ้าตื่นมาโดนด่าก็แค่นั้น พริกไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอะไรอยู่แล้ว ตัวผมเองก็เหมือนกัน…
ใช่ว่าไม่เคยเห็นสภาพแบบนี้เสียเมื่อไร ไม่ได้แอบมองเลยนะจริง ๆ ไม่ต้องแก้ผ้าก็เห็นวับ ๆ แวม ๆ แทบจะทุกวัน
วันต่อมา
ทุกคนตื่นสายกันมากเพราะเมื่อคืนดื่มกันไปเยอะ ถึงไม่มีใครเมาขนาดนั้นแต่ก็เพลียมากอยู่ดี ผมออกไปส่งน้องเหมยเสร็จตั้งแต่ช่วงสายของวันกลับเข้ามาทุกคนก็ตื่นกันหมดแล้ว ถึงคนที่อ้วกแตกเมื่อคืนก็กำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โซฟา
ผมผุดยิ้มทันทีที่เห็นแก้มใสแดงแปร๊ดขึ้นมา พริกที่ตอนนี้ยังสวมใส่เสื้อยืดตัวโคร่งเบนสายตามองไปทางอื่นคงเพราะความอาย ส่วนไอ้ยักษ์กำลังนอนเอกเขนกดูทีวี ในขณะที่เจินกับน้องอ้ายน่าจะอยู่ในห้องนอน
ผมมาถึงก็โยนกุญแจรถทิ้งไว้บนโต๊ะ แล้วเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง ไอ้ครามอยู่ตรงนั้น ร่างสูงของเพื่อนใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ผมที่ยาวระต้นคอมัดเป็นจุกไว้ด้านหลัง นัยน์ตาเบื่อหน่ายหันมามองกันนิดหน่อยแล้วพยักพเยิดไปยังเสื้อผ้าของพริกที่ถูกตากไว้ที่ราว
“ของไอ้พริก?”
“เออ”
“แล้วยังไง? มึงแก้ผ้ามัน?”
“ก็ตัวมันเลอะอ้วก” ผมไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ จุดบุหรี่ขึ้นสูบ ส่วนคนข้าง ๆ ก็พยักหน้านิด ๆ สายตามองเลยเข้าไปในห้อง
“ยังไงมันก็ผู้หญิง”
“กูรู้”
“?”
“กูไม่คิดจะทำอะไรมันหรอกน่า”
“อืม”
“…” ผมรู้ดีว่าเพื่อนหมายถึงอะไร
ทั้งไอ้คราม ทั้งไอ้ยักษ์ พวกมันคงเป็นห่วงกลัวว่าผมจะคิดลามกกับเพื่อนตัวเอง ถามว่ามองบ้างรึเปล่าก็คงโกหกไม่ได้ว่ามีบ้าง แต่ผมไม่เคยคิดสิบแปดบวกกับพริกมาก่อน เป็นเพื่อนกันมาก็นาน มันก็สวยขึ้นทุกปี พวกผู้ชายงี้เรียงแถวเข้ามาให้จิ้มเลือกไม่ต่างจากทุกคนในกลุ่ม
ทั้งสวย ทั้งหุ่นดี ถ้ามองแบบผู้ชายก็ต้องบอกว่าโคตรโดน แต่ความจริงก็คือมันเป็น เพื่อนสนิท ไง
ขณะที่ผมกับครามพ่นควันกันเงียบ ๆ โดยปราศจากบทสนทนาอยู่สักพัก ร่างบางของคนที่เพิ่งอยู่ในหัวข้อสนทนาเมื่อครู่ก็เลื่อนเปิดประตูเดินออกมา
ผมบิดยิ้มมองมันด้วยสายตากวน ๆ คนตัวเล็กหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาอีกรอบ ทำท่าลุกลี้ลุกลน หลบสายตาแล้วรีบคว้าเสื้อผ้าส่วนตัวทุกชิ้นก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ผมกับไอ้ครามมองหน้ากันเองก่อนจะเบนสายตาไปคนละทาง
ถ้าเอาตามจริง…
การมีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิงก็ลำบากใจไม่น้อยเหมือนกัน
RAM END