LOGINสำหรับ "ล่ามรัก" จะประกอบไปด้วยเรื่องราวของ 2 คู่ ได้แก่ 1.Chained Love ล่ามรัก [ภาคิน x ลูกพีช] 2.Chained Love ล่ามรัก 2 [พิชญ์ x มัดหวาย] โดยตัวละครจะมีความเกี่ยวข้องกันคือ 'พิชญ์' และ 'ลูกพีช' เป็นพี่น้องกันค่ะ Chained Love ล่ามรัก 2 [พิชญ์ x มัดหวาย] "เขา"เป็นพี่ชายที่อบอุ่นและแสนดีของน้องสาวตัวเอง แต่กับเธอแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลยแม้แต่น้อย "มัดหวาย"ต้องตกเป็นที่ระบายอารมณ์ของพี่ชายเพื่อนสนิทอย่างเลี่ยงไม่ได้ "ฮึก! ถ้าพี่เกลียดหวายแล้วพี่มานอนกับหวายทำไม" "ผู้ชายน่ะ สามารถเอาคนที่ตัวเองไม่รักได้นะ..." "...เผื่อเธอจะไม่รู้เรื่องนี้" "เลว หวายเกลียดพี่" "ฉันก็ไม่ได้พิศวาสเธอเหมือนกัน และก็จำเอาไว้ด้วยว่าฉันจะไม่มีความรู้สึกอื่นให้กับคนแบบเธอ นอกจากเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์เท่านั้น"
View More@สนามแข่งรถ
บรื้น! บรื้น! เสียงเร่งเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตคันหรูส่งเสียงคำรามไปทั่วสนามแข่งรถชื่อดังแห่งหนึ่งถึงแม้ว่านี่จะเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้วก็ตาม ดวงตาคมเข้มจ้องมองไปยังพื้นถนนเบื้องหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบอย่างยากจะคาดเดาในขณะที่มือยังคงกำพวงมาลัยแน่นเช่นเดียวกับเท้าหนักที่เหยียบคันเร่งอย่างเต็มแรงจนรถคันหรูเคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วอย่างเต็มกำลัง เอี๊ยด!! "เวลาตกนะ" น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นทันทีตอนที่รถจอดสนิทพร้อมกับร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรที่เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มในมือ ในขณะที่พิชญ์ไม่ได้สนใจถ้อยคำถากถางของเพื่อนสนิทแล้วเดินไปหาที่นั่งพักบริเวณด้านข้างของสนามแข่งรถแทน "ไม่ดื่มหน่อยเหรอวะ?" ขุนพลที่เดินเข้ามาเอ่ยถามแล้วหย่อนตัวนั่งลงด้านข้างพลางยื่นแก้วเหล้าในมือไปด้วยแต่พิชญ์กลับส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเอนกายเล็กน้อยด้วยความเหนื่อยล้า "เวลามึงมีเรื่องไม่สบายใจมันดูออกนะ" "ช่วงนี้กูไม่ค่อยมีสมาธิเวลาเลยตก" "ยังฝันร้ายอยู่อีกเหรอ?" พิชญ์หลับตาลงช้าๆ ตอนที่ได้ยินคำถามในขณะที่ยังคงพ่นลมหายใจสม่ำเสมอออกมา คงเป็นเพราะเขาและขุนพลเป็นเพื่อนกันมานานหลายปีจึงทำให้อีกคนค่อนข้างรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขามากพอสมควร ซึ่งมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยมีใครได้รู้นั่นก็คือความกังวลและการฝันร้ายของเขาตลอดระยะเวลาที่ผ่าน แม้ภายนอกจะดูเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยแต่กลับไม่มีใครได้เห็นถึงความอ่อนแอของเขาเลย พิชญ์ต้องขึ้นมาบริหารงานแทนพ่อของตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อนได้พรากชีวิตครอบครัวของเขาไป ซึ่งประกอบด้วยพ่อและแม่ที่เป็นเพียงที่พึ่งพิงเดียวของชายหนุ่ม ในตอนนั้นเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะมาเสียใจเลยด้วยซ้ำเนื่องจากทุกอย่างมันค่อนข้างจะกะทันหันและสิ่งที่อุบัติเหตุในครั้งนั้นได้ทิ้งไว้ค่อนข้างเป็นสิ่งที่โหดร้ายสำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อพอสมควร หากไม่มีน้องสาวตัวเล็กที่น่ารักอย่างลูกพีชอยู่เขาก็คงจะไม่ลังเลเลยที่จะตามผู้เป็นพ่อและแม่ไป เพียงแต่สิ่งนั้นกลับเป็นเพียงได้แค่ความฝันเท่านั้นตอนได้เห็นดวงตาที่เศร้าหมองของน้องสาวคนเล็ก...เขาอยากที่จะทำให้โลกของเธอกลับมาสดใสได้อีกครั้ง นั่นจึงเป็นเป้าหมายที่ทำให้พิชญ์สามารถทำให้บริษัทที่เกือบจะล้มละลายกลับเข้ามาในวงการของธุรกิจได้อีกครั้งเพื่ออนาคตของอีกคนที่เขารัก "ช่วงนี้มีเรื่องนิดหน่อยก็เลยมีบ้าง" ไม่ใช่ทุกคืนที่เขาจะฝันร้ายแบบนี้ แต่มันจะมีเพียงแค่บางครั้งเท่านั้นที่เขาเหนื่อยมากๆ หรือมีเรื่องที่ไม่สบายใจ เรื่องราวเมื่อหลายปีก่อนเลยวนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง "เรื่องพีชเหรอ? กูว่ามึงควรจะปล่อยน้องให้ได้ใช้ชีวิตของตัวเองได้แล้วนะ น้องมึงก็อยู่มหา'ลัยแล้ว ไม่ใช่เด็กมัธยมที่จะถูกหลอกง่ายๆ" "แล้วที่กูทำอยู่ทุกวันนี้ยังไม่เรียกว่าให้อิสระอีกหรือไง?" พิชญ์ลืมตาขึ้นมาตอบกลับคนด้านข้างเสียงไม่พอใจ เพราะเขาเองก็ไม่เคยที่จะบังคับลูกพีชน้องสาวของตัวเองให้ทำตามที่เขาต้องการ เพียงแต่เรื่องไหนที่เห็นว่าน่าเป็นห่วงเขาก็จะมีตักเตือนไปบ้างตามประสาพี่ชายคนหนึ่งก็เท่านั้น "กูก็เห็นว่ามึงให้อิสระน้องในเรื่องการใช้ชีวิต แต่คนที่ยังไม่เป็นอิสระสักทีก็คือมึง เพราะมึงเอาแต่เป็นห่วงน้องเขาทุกฝีก้าวอยู่แบบนั้นสุดท้ายคนที่จะไม่มีความสุขก็คือตัวมึงเอง" "แล้วเป็นมึง มึงจะไม่ห่วงน้องของตัวเองเลยเหรอ?" กลับกลายเป็นขุนพลที่เงียบไปเมื่อโดนถามกลับในเรื่องเดียวกัน ซึ่งเรื่องที่พิชญ์กำลังเป็นห่วงเกี่ยวกับน้องสาวของตัวเองอยู่ตอนนี้คือเรื่องแฟนหนุ่มของเธอที่ดูเป็นคนใจร้อนและไม่มีเหตุผลเป็นอย่างมาก จนทำให้พิชญ์มีความกังวลว่าลูกพีชอาจจะไม่มีความสุขเวลาอยู่กับอีกคนได้ ซึ่งขุนพลเองที่เคยเจอทั้งภาคินและลูกพีชอยู่สองสามครั้งก็พอจะเข้าใจในความเป็นห่วงของพิชญ์ เพียงแต่หากเป็นเขาเขาก็คงจะปล่อยให้หญิงสาวได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตเองเพราะมันเป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนจะผิดพลาดระหว่างทาง "ที่กูยอมทนอยู่แบบนี้เพราะเห็นแก่ความสุขของพีช ทั้งๆ ที่คิดว่าสักวันพีชจะต้องเสียใจเพราะมัน แต่กูก็ทำอะไรไม่ได้" "...แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันทำให้พีชเสียใจ กูเองก็ไม่มีทางปล่อยไอ้เวรนั่นไว้เหมือนกัน""สวยจัง..." ร่างบางในชุดเดรสสีชมพูอ่อนหลุดปากออกมาตอนได้เห็นวิวของเมืองหลวงและบรรยากาศบนชั้นดาดฟ้าที่ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามพร้อมกับโต๊ะดินเนอร์สุดหรูที่เด่นอยู่ตรงกลาง ทำให้เธอนึกถึงตอนได้มาเดตกับพิชญ์ครั้งแรกเมื่อสามปีก่อนที่บรรยากาศทุกอย่างก็ดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักแบบนี้ราวกับทุกอย่างไม่ได้หายไปตามกาลเวลาที่ยาวนานของทั้งคู่"เชิญครับ" พิชญ์ยื่นมือมาตรงหน้าแล้วพาคนตัวเล็กให้เดินไปยังโต๊ะอาหารซึ่งถูกจัดเตรียมเอาไว้ด้วยกันก่อนชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายเลื่อนเก้าอี้ให้แล้วรวบผมยาวสลวยให้เธออย่างอ่อนโยน"ขอบคุณนะคะ""หวายนึกถึงวันแรกที่เรามาเดตกันเลย แต่ไม่คิดว่าแด๊ดดี๊จะจำได้""พี่จำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรา" ไม่ว่าจะวันที่เจอกันวันแรก วันครบรอบที่เขาขอเธอเป็นแฟน หรือวันที่แต่งงานกันพิชญ์ล้วนจดจำมันได้ทั้งหมดถึงแม้ตลอดระเวลาที่ผ่านมาจะมีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาแต่เขากลับไม่ลืมความทรงจำที่ได้ใช้ร่วมกับหญิงสาวเลยแม้แต่วินาทีเดียว"ตอนแรกหวายเห็นแด๊ดดี๊เฉยๆ ก็คิดว่าจะลืมแล้ว...""แล้วทำไมไม่เตือนพี่ล่ะ""ก็เพราะหวายไม่อยากเป็นคนงี่เง่าไงคะ แด๊ดดี๊ทำงานเหนื่อยแล้วต้องเลี้ยงลูกอีก ถ้าจะลืมเร
"เอาลูกของเธอมาให้ฉันก่อนสิ แล้วฉันจะยอมกลับ""พอเลยพอกันทั้งคู่เลยแกกับพีชเนี่ย ฉันไม่ใช่แม่แมวที่จะคลอดลูกออกมาให้พวกแกเลี้ยงเล่นนะ""อ้าว ทำไมต้องเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยล่ะ ฉันแค่เลี้ยงหลานของฉันเองนะ""อีกหน่อยฉันจะติดป้ายไม่ให้พวกเธอสองคนเข้าบ้าน"เสียงพูดคุยที่ดังขึ้นบริเวณห้องโถงของบ้านทำให้ร่างสูงที่เพิ่งกลับจากการทำงานต้องชะงักฝีเท้าก่อนจะเห็นว่าภรรยาของตัวเองกำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อนสนิททั้งสองของเธออยู่พร้อมกับลูกน้อยที่นอนหลับอยู่ภายในเปล มุมปากหนาเผลอยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพความอบอุ่นตรงหน้าก่อนเขาจะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว"เหนื่อยไหมคะ?" และแน่นอนว่ามัดหวายเองหันมาถามเขาด้วยความเป็นห่วงอย่างเช่นทุกครั้ง มือเรียวลูบตามกรอบใบหน้าหล่อแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากหยักเบาๆ แบบที่ชอบทำโดยมีเสียงลอบถอนหายใจของสองหนุ่มสาวที่ดังออกมาอย่างเอือมระอา"นี่! ทีพวกเธอหวานกันต่อหน้าฉันยังไม่ทำขนาดนี้เลยนะ" มัดหวายหันไปแหวใส่เพื่อนรักทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในขณะที่พิชญ์ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ กับภาพเหตุการณ์ที่เขาเห็นบ่อยจนเคยชิน"ทะเลาะกันเหมือนเด็ก""ก็พวกนั้นแกล้งหวายก่อน""แ
"มะ..." เสียงของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่เอ่ยเรียกคนเป็นแม่ราวกับต้องการอะไรบางอย่างก่อนมัดหวายจะหันมาพูดกับลูกชายคนเล็กของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อรู้ว่าเวสตินต้องการอะไร"หนูอยากกินนมเหรอคะ เดี๋ยวรอให้พี่วินกินอิ่มก่อนได้ไหมแล้วตินค่อยกินนะ""ยม..." แต่ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่ค่อยเข้าใจที่คนเป็นแม่บอกเท่าไรนัก เขาจัดการคลานเข้ามาหาแม่และพี่ชายของตัวเองที่นั่งอยู่ไม่ไกล"ติน! ดะ..แด๊ดดี๊ ลูก..." ทว่าการกระทำต่อมาก็ทำให้คนเป็นแม่ต้องเอ่ยเรียกสามีเสียงสั่นเมื่อลูกน้อยพยายามที่จะดันร่างเล็กของตัวเองขึ้นก่อนเท้าเล็กจะทำการก้าวไปข้างหน้า แม้จะเป็นเพียงก้าวสั้นๆ ก่อนเวสตินจะล้มลงไปแต่กลับสร้างความตื้นตันให้กับคนเป็นแม่ไม่น้อยกับก้าวแรกของลูก"แด๊ดดี๊ ลูกเดินได้แล้วค่ะ เมื่อกี้แด๊ดดี๊เห็นไหม" มัดหวายหันไปถามสามีที่กำลังยืนอยู่นิ่งซึ่งพิชญ์เองพยักหน้ารับแล้วคลี่ยิ้มออกมาไม่ต่างกัน"เก่งมากเลยลูก หนูเก่งมากๆ เลยนะ" พิชญ์ที่เพิ่งได้สติก็วางจานขนมในมือลงแล้วเดินไปอุ้มลูกชายขึ้นมาแนบกับแผงอกแกร่งแล้วพาเข้าไปหามัดหวายเนื่องจากในตอนนี้เธอกำลังให้นมกับมาร์วินอยู่เลยทำให้ไม่สามาร
@สามปีต่อมา"นอนนะครับ คืนนี้อยู่กับอาพีชก่อนนะ" พิชญ์เอ่ยกับลูกน้อยที่กำลังนอนอยู่ในเปลภายในห้องนอนลูกพีชเสียงอ่อนโยน พวงแก้มป่องสีแดงระเรื่อที่คล้ายกับมัดหวายเวลาร้องไห้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปลูบเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยวแทนการอุ้มลูกชายมาหอมโดยตรงเนื่องจากตอนนี้ทั้งคู่ได้กินนมอิ่มหลับไปแล้ว"พี่พิชญ์ไม่ต้องห่วงนะ คืนนี้พีชจะดูแลเจ้าตัวแสบเอง รับรองว่าจะไม่เข้าไปขัดแผนการของพวกเราอย่างแน่นอน" ลูกพีชเอ่ยบอกกับพี่ชายของตัวเองอย่างมั่นใจในขณะที่กำลังถือขวดนมและของเล่นไปด้วย ซึ่งในตอนนี้บ้านของเธอก็ได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาสองคนภายในระยะเวลาสองปีกว่า ซึ่งก็คือ'มาร์วิน'ที่เป็นพี่ชายคนโต และ'เวสติน'ที่ในตอนนี้ยังคงเป็นน้องคนเล็กอยู่ แต่สถานะนั้นก็คงจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อเธอกับพิชญ์ได้วางแผนการที่จะหาน้องคนเล็กอีกคนมาแทนที่ในตำแหน่งลูกคนเล็กเพิ่ม เนื่องจากพิชญ์อยากได้ลูกสาวแต่ไม่ว่าจะพยายามขอมัดหวายอย่างไรเธอก็ยังคงไม่ยอมใจอ่อนสักที ทำให้เขาต้องทำการล่อลวงคนตัวเล็กให้มาติดกับดักในคืนนี้ให้ได้"ฝากด้วยนะพีช""ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะพีชเลี้ยงเจ้าตัวแสบมาแทบจะมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวันอีก พี
"มัดหวายอย่าวิ่ง!" เสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้เจ้าสาวคนสวยต้องหันหน้ากลับไปมอง เธอสบตากับสามีของตัวเองด้วยรอยยิ้มเจื่อนตอนเห็นพิชญ์มองมาอย่างคาดโทษ ซึ่งในตอนนี้เขากำลังทำหน้าที่ถือชายกระโปรงให้กับชุดเจ้าสาวตัวยาวของเธออยู่"พี่พิชญ์จะดุพี่สะใภ้ของพีชทำไมเนี่ย เดี๋ยวหลานก็เครียดหรอก" ลูกพีชเดินเข้ามาดุพี่ชายของตัวเองเมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือของมัดหวายทำเอาชายหนุ่มลอบพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ตอนเห็นหญิงสาวทั้งสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายปลีกตัวออกไปเพื่อหาของกินมาให้ภรรยาสาวซึ่งวันนี้ได้ทำพิธีแต่งงานเกือบทั้งวัน"พีชอยู่เป็นเพื่อนหวายก่อน เดี๋ยวพี่จะไปเอาน้ำกับของกินมาให้" "รับทราบค่ะ""หวายเป็นยังไงบ้างลูก" วิรดาเดินเข้ามาถามลูกสาวของตัวเองพลางลูบที่ใบหน้าซึ่งแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย ระหว่างนั้นเธอก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ว่าหญิงสาวจะแพ้ท้องหรือไม่ แต่โชคดีที่พิธีการทุกอย่างได้จบลงแล้วจนตอนนี้เหลือเพียงแค่การไปทักทายแขกบางคนเท่านั้น"วันนี้เจ้าตัวเล็กไม่ดื้อเลยค่ะ หวายไม่มีอาการอะไรเลย""หึ หลานของแม่เก่งเหมือนลูกแม่อยู่แล้ว งั้นเดี๋ยวหวายทักทายแขกใน
"กอดแบบนี้ไม่เมื่อยเหรอคะ?" มัดหวายเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังสวมกอดเธอเอาไว้อย่างนึกเอ็นดูเพราะตั้งแต่ที่กลับมาบ้านพิชญ์ก็เอาแต่กอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเลย"ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลดีใจมากเกินไปหน่อยเลยลืมกอด""พี่พิชญ์ปล่อยเพื่อนของพีชได้แล้ว พีชเองก็อยากกอดหลานบ้างนะ" ลูกพีชที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มงอแงเมื่อชายหนุ่มเอาเพื่อนรักของเธอไปกอดไว้อยู่คนเดียวโดยไม่ปล่อยให้เธอได้สัมผัสมัดหวายเลยแม้แต่ปลายเล็บ แต่แทนที่พิชญ์จะสนใจเสียงของเธอเขากลับยังคงกอดมัดหวายไว้อยู่อย่างนั้นจนกระทั่งวิรดาเดินเข้ามาพร้อมกับจานผลไม้ในมือ ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยคนรักให้เป็นอิสระ"พอรู้ว่ามีเจ้าตัวเล็กก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะหวาย ทั้งเรื่องการกิน การพักผ่อน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งช่วงแรกๆ ยิ่งต้องระวังเลย""หมอบอกว่าให้ลดของหวาน...""ใช่ พวกของหวานหรือของที่มีรสจัด มีการปรุงแต่งเยอะหวายควรงด หรือแม้แต่ผลไม้ก็ต้องเลือกดีๆ ให้มีประโยชน์และมีน้ำตาลน้อยที่สุด""แม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจ้างเชฟกับนักโภชนาการที่คอยให้คำแนะนำมาแล้ว ส่วนในบ้านก็คิดว่าจะติดลิฟต์เพิ่มและปรับปรุงบางอย่างเพื่อความปลอดภัยด้วย แล้วเรื่องการบำรุงทั่วไปผมค






Comments