แนนเริ่มมีความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าที่ว่าแดงและร้อนเนื่องจากฤทธิ์ของน้ำเมา แต่ตอนนี้มันกลับมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นมากกว่าเดิมราวกับคนเป็นไข้
แต่แล้วคำถามที่เธอถามไปก็ไม่ได้รับคำตอบ เพราะคนตัวสูงเลื่อนใบหน้าเข้ามาข้างแก้ม พ่นลมหายใจอุ่นร้อนกระทบใบหู แนนรู้สึกว่ากำลังถูกมือหนาล่วงเกินด้วยการจับตรงซิปที่หน้าอก
“รูดมันขึ้นหน่อยไหมครับ ผมไม่ชอบให้ใครเห็น”
เสียงทุ้มกระซิบข้างหู พร้อมกับมือที่ถือวิสาสะรูดซิปชุดเดรสของเธอขึ้น ก็ทำให้แนนรู้สึกตื่นเต้นและร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัว พลางทำให้ขนกายลุกชันอย่างห้ามไม่อยู่
แต่แล้วคำพูดของเพื่อนก็ผุดขึ้นในหัวมาว่าถ้าหากอยู่ใกล้ใครแล้วใจมันรู้สึกหวิว เนื้อตัวร้อนวูบวาบ ขนลุกขนพอง แสดงว่าผู้ชายคนนั้นคือคนที่เธอรู้สึกดีด้วย
คือเขาอย่างนั้นหรือ
แนนยังคงสับสนกับใจตัวเอง เธอรู้สึกไม่มั่นใจว่าสิ่งที่คิดมันจะใช่หรือไม่ เพราะความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป เธอและเขาแทบไม่เคยทำความรู้จักกันเลย นอกจากการบังเอิญเจอกันก็เท่านั้น
เควินเลื่อนใบหน้าออกก็สบเข้ากับดวงตาคู่หวานที่ช้อนสายตาขึ้นมอง แนนเผลอมองหนุ่มหล่อที่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา และแล้วคนตัวสูงก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้จนหน้าของทั้งคู่แทบจะชนกันอยู่รอมร่อ
วินาทีนี้มันเหมือนกับว่าเข็มนาฬิกาได้หยุดเดิน ใจของเธอเต้นตึกตักแข่งกับเสียงเบสของลำโพง แต่หูของเธอก็เหมือนว่ากำลังมีปัญหาเพราะไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น และแปลกที่เธอเองก็ยังยืนนิ่งไม่ได้คิดจะขัดขืน
แนนคิดว่าคืนนี้คงต้องเสียจูบแรกให้เขาอย่างแน่นอน
แต่ใครจะคิดว่าอีกนิดที่เดียวปากของทั้งคู่จะประกบเข้าด้วยกัน ก็มีคนเมาเดินผ่านและเซมาชนกับแผ่นหลังของเควินอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เขาพุ่งตัวไปด้านหน้า หัวโหม่งเข้ากับกำแพง
เควินสอดมือเข้าไปประคองศีรษะของแนนเอาไว้ตามสัญชาตญาณ เพื่อป้องกันไม่ให้หัวของเธอกระแทกกับฝาผนัง
ใบหน้าหวานตอนนี้แนบชิดอยู่ที่แผงอกด้วยความตกใจปนกับความเสียดาย ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันผุดขึ้นมาได้อย่างไร แต่เมื่อกี้เธอกับเขากำลังจะจูบกันอยู่แล้ว
กรี๊ด… แนนหลับตาปี๋ส่งเสียงกรีดร้องในใจ
เควินมองตามหลังชายคนดังกล่าวที่โซเซเข้าไปในห้องน้ำ ลอบถอนหายใจด้วยความเสียดายที่มีคนเข้ามาขัดจังหวะ เขาผละตัวออกเล็กน้อย ก้มลงมองคนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“เมื่อกี้...” เขากะจะพูดถึงเรื่องจูบ แต่ก็โดนขัดจังหวะ
“โอ๊ะ”
แนนเงยหน้ามองคนตัวสูง แต่แล้วก็ต้องเปล่งเสียงอุทาน ยกมือเล็กชี้ที่หน้าผากที่แดงเถือกและกำลังเริ่มมีรอยนูน
เควินเลื่อนมือขึ้นลูบหน้าผากก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความอาย โดนชนจนเสียเรื่องยังไม่พอ นี่ยังมาหัวโนต่อหน้าสาวอีกหรือ
“ชนแรงเหรอคะ หัวโนง่ายจัง หึหึ”
แม้ว่าจะเป็นห่วงที่เขาได้รับบาดเจ็บ แต่สติที่เลือนลางไปบ้างก็ทำให้เธอถามคำถามที่เหมือนจะเป็นการแซวเขาเสียมากกว่า แถมเธอยังแค่นหัวเราะในลำคอเพราะพยายามกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
“สมองจะได้รับการกระทบกระเทือนไหมครับ ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกมึน ๆ”
เควินลูบหน้าผากปรอย ๆ ทำหน้าเหยเก ผิวของเขานั้นบอบบางมาก โดนชนนิดหน่อยก็เกิดรอยแดงและหัวโนได้ง่ายอย่างที่เธอว่า
“ไม่มั้งคะ ตอนเด็ก ๆ ฉันก็หัวโนแบบนี้ประจำ ตอนนี้ฉันก็ยังอยู่ดี ที่คุณคีย์รู้สึกมึน ๆ อาจจะเพราะดื่มเหล้ามาด้วยมั้งคะ”
แนนพูดไปตามความจริง ตอนวัยเด็กเธอเป็นคนที่ซุกซนและซุ่มซ่าม เรื่องเจ็บตัวแบบนี้จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
เควินได้ฟังก็อึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะเอ่ยต่อ
“คุณช่วยประคบให้หน่อยได้ไหมครับ ถ้าคืนนี้ไม่ได้ประคบ เช้ามาเลือดต้องคลั่งแน่ ๆ” เขาจ้องใบหน้าหวานที่ดูเป็นคนจิตใจดีเพื่อรอฟังคำตอบ
“คุณมีผ้าเช็ดหน้าไหมคะ เดี๋ยวฉันไปห่อน้ำแข็งที่โต๊ะมาให้”
แนนคิดวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้แค่นี้ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
“ไม่มีครับ” เขารีบปฏิเสธ ทั้งที่ได้พกผ้าเช็ดหน้าติดตัวตลอดเวลา
“งั้นจะทำยังไงกันดีคะ”
เควินคว้าข้อมือของเธอให้เดินตามกันออกไป แนนก็เดินตามอย่างเชื่อฟังทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“จะพาฉันไปไหนเหรอคะ”
“ร้านขายยาครับ”
พอได้รับคำตอบแนนก็เข้าไปนั่งในรถโดยไม่คิดอะไร และส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าขอตัวกลับก่อน โดยให้ข้ออ้างว่ามีธุระด่วน
“นั่งรอในนี้นะครับ เดี๋ยวผมมา”
พอไปถึงเควินก็เอ่ยกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสุภาพไม่ต่างจากเวลาที่ไม่ได้ดื่ม จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถ
ผ่านไปไม่ถึงห้านาที เขาก็กลับมาพร้อมกับถุงที่มีเจลประคบเย็นสองก้อนอยู่ในนั้น ทำเอาแนนรู้สึกแปลกใจว่าซื้อเจลประคบเย็นมาก็ต้องหาตู้แช่อีก ไม่อย่างนั้นคงจะใช้ประคบไม่ได้
“ผมขอเอาเจลไปแช่ตู้เย็นห้องคุณได้ไหมครับ”
ดวงตาคู่คมที่จ้องเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวก็เหมือนกับมีมนตร์สะกด คืนนี้เธอคงดื่มเยอะไปทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“ได้ค่ะ”
และแล้วแนนก็เผลอตอบตกลงทันที
@ อะพาร์ตเมนต์สีเหมียว
รถของเควินดับเครื่องลงเมื่อเข้าไปถึงโรงจอดรถที่อยู่ด้านข้างของตึกเจ็ดชั้น ทั้งสองคนก้าวลงจากรถ ดวงตาคู่คมเงยดูแผ่นป้ายขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ตรงหน้าตึกก็กระตุกยิ้มขึ้นและบังคับตัวเองไม่ให้หลุดขำ
“รู้นะคะว่าคิดอะไร”
“อะไรเหรอครับ”
“ขำชื่ออะพาร์ตเมนต์ใช่ไหมล่ะ คิกคิก”
ก็มันน่าขำจริง ๆ ขนาดเธอเห็นก็ยังหลุดหัวเราะทุกครั้งก่อนจะเข้าไปด้านใน
“ปะ เปล่านะครับ”
“ไม่ต้องมาทำฟอร์มหรอกค่ะ ครั้งก่อนคุณคีย์ก็ว่าให้ฉันชอบไปสถานที่ที่มีชื่อแปลก ๆ”
“จำได้ด้วยเหรอครับ ผมก็พูดไปอย่างนั้นเอง” เควินเอ่ยพลางลูบท้ายทอยอย่างคนเสียอาการ
“ถือซะว่าเป็นห้องเช่าอารมณ์ดี ใครเข้าพักก็มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ฮ่าฮ่า” แนนเอ่ยพลางส่งเสียงหัวเราะชอบใจ
คงจะอารมณ์ดีอย่างที่เธอว่า เพราะเควินเองก็หลุดขำออกมาเบา ๆ เช่นกัน
ประตูลิฟต์ชั้นเจ็ดได้เปิดออก แนนก็เดินนำคนตัวสูงไปยังห้องหมายเลข 757 แล้วเปิดกระเป๋าสะพาย หยิบคีย์การ์ดออกมาเปิดประตู
“นั่งรอที่โซฟาก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันเอาเจลไปแช่ตู้เย็นก่อน”
“ครับ”
ระหว่างที่รอให้เจลเย็นตัวแนนก็มานั่งเป็นเพื่อนผู้มาเยือน เนื่องจากมีโซฟาตัวยาวแค่ตัวเดียวจึงต้องนั่งด้วยกัน แม้ทั้งสองจะไม่ได้สนิทกัน แต่ด้วยเหล้าที่ดื่มไปปริมาณมาก มันก็เพียงพอที่จะไม่ทำให้บรรยากาศในห้องมันกระอักกระอ่วน
จากนั้นแนนก็เริ่มชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบ
“ห้องเล็กไปหน่อยนะคะ พอดีฉันอยู่คนเดียว”
“ผมก็อยู่คนเดียวเหมือนกันครับ”
“หึหึ โสดเหมือนกันเลยสินะคะ”
แนนแค่นหัวเราะใส่คนที่กำลังนำเสนอว่าตัวเองเป็นหนุ่มโสด แบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่กับคนมีเจ้าของสองต่อสอง
เควินหย่อนก้นลงนั่งปลายเตียงให้หญิงสาวนั่งควบบนตัก ริมฝีปากหยักบดจูบกับริมฝีปากอวบอิ่มอย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นตวัดกวาดต้อนเอาน้ำหวานที่คละเคล้ากับเครื่องดื่มมึนเข้าปาก“อืม” เสียงหวานดังขึ้นในลำคอของแนน ขณะที่เอียงคอให้ชายหนุ่มผละริมฝีปากออกและเลื่อนใบหน้าหล่อมาซุกไซ้ซอกคอและขบเม้มติ่งหูแม้ว่าอากาศของที่นี่จะหนาวยะเยือก แต่ก็แพ้ให้กับอารมณ์สวาทในกายที่ร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนผลัดกันถอดเสื้อผ้าออกจนหมดทุกชิ้น เควินก็อุ้มหญิงสาวขยับขึ้นไปนอนอยู่กลางเตียงทั้งคู่ผลัดกันมอบบทรักให้กันและกันด้วยปาก โดยการนอนหันหัวสลับกัน แนนนอนคร่อมร่างเขาอยู่ด้านบน ยกสะโพกมนขึ้นเล็กน้อย แล้วอ้าปากครอบครองแก่นกายของเขาพร้อมกับแลบลิ้นเลียปลายหัวขณะที่เควินนอนอยู่ด้านล่างก็ใช้ปลายลิ้นแลบเลียกลีบกุหลาบงาม โดยเน้นย้ำที่ติ่งรัญจวนสองร่างส่งเสียงพึงพอใจในลำคอ เควินถูกแนนแยงปลายลิ้นลงที่รอยแยกปลายหัวบานสีชมพูที่มีน้ำสีใสเยิ้มออกมา สลับกับเลียตั้งแต่บนลงถึงโคนที่มีลูกบอลสองลูกเควินก็แลบปลายลิ้นส่งเข้าไปในร่องรัก แล้วผงกหัวแทงลิ้นเข้าออกในร่องสาว จนแนนรู้สึกเกร็งกระตุกด้วยความเสียวซ่านขับน้ำหวานสีใสออกมาให้ช
เช้าวันต่อมาคนตัวเล็กกำลังถูกเควินปลุกด้วยการแทรกตัวเข้ามาอยู่กลางหว่างขา แนนปรือดวงตาขึ้นอย่างงัวเงีย เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบจะตีสอง ไหนจะต้องเก็บกวาดเศษซากแจกันที่ตกแตก และเก็บข้าวของที่ล่วงหล่นบนพื้นห้องอีกเธอมองการกระทำของแฟนหนุ่มก็ส่งยิ้มหวานให้ และปล่อยให้เขาระบายความต้องการที่มีออกมา แค่เพียงมือหนาลูบไล้สัมผัสบนเรือนร่าง เธอก็รู้สึกเสียวและเกิดอารมณ์นั้นเช่นเดียวกันบทรักในช่วงเช้ากินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็พากันหยุด ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มคงต้องไปทำงานสาย ส่วนเธอที่ยังทำงานกะบ่ายจึงพอมีเวลาพักอีกครึ่งวัน“ไว้เจอกันที่บริษัทนะครับ”“ค่ะ”เควินเอ่ยกับแฟนสาวหลังจากที่ทั้งคู่กินมื้อเช้าด้วยกันเสร็จ และก่อนจะออกจากห้องก็หอมแก้มและจูบที่ริมฝีปากของเธอ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานพอใกล้จะได้เวลาทำงานแนนก็กดเรียกรถแท็กซีผ่านแอปพลิชันออนไลน์ แล้วลงไปรอที่ป้ายรอรถประจำทางที่อยู่หน้าอะพาร์ตเมนต์ และบังเอิญเจอกับหญิงวัยกลางคนที่พักอยู่ชั้นหกกำลังยืนเมาท์มอยกับคนรู้จัก แต่ประโยคที่พูดออกมานั้นก็ทำให้แนนถึงกับนั่งไม่ติด“ไม่รู้ว่าชั้นบนเป็นห่าอะไร แหกปากร้องยิ่งกว่าผีเข้า”“แล้วไม่ล
ก๊อก ก๊อก“ยัยแนน แกมัวทำอะไร รีบเปิดประตูเร็ว” เสียงของหลินดังอยู่นอกประตูพร้อมกับมือที่เคาะเรียก“ใครมาครับ” เควินถามเสียงเบา“เพื่อนค่ะ” แนนเอ่ยออกไปพร้อมกับสอดสายตาหาที่หลบซ่อนให้แฟนหนุ่มเธอยังไม่ได้บอกเพื่อนว่ามีแฟน แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องหลบ คงเป็นเพราะหลินมาหากะทันหันเลยทำให้ตกอยู่ในอาการลนลานแนนรีบพาเควินเข้าไปหลบอยู่ตรงระเบียง แล้วจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่และทำตัวเป็นปกติที่สุด เดินเปิดประตูให้เพื่อนสาว“กว่าจะเปิดได้นะยัยแนน ฉี่ฉันแทบจะราดแล้วเนี่ย” หลินขมวดคิ้วมุ่น รีบจ้ำอ้าวตรงไปที่ห้องน้ำระหว่างที่ยืนรอเพื่อนอยู่หน้าห้องน้ำ แนนก็ปรายตามองไปหลังห้องที่ไม่ได้เปิดไฟเป็นระยะ แต่ก็ยังพอมีแสงสว่างจากข้างนอกและภายในห้องสาดส่องออกไปให้พอมองเห็นแค่เลือนลาง“แกอยู่กับใคร เมื่อกี้ฉันได้ยินเหมือนเสียง…” คราง คำนี้หลินเอ่ยในใจ“ไม่มีใครเลย” แนนเอ่ยเสียงสูง ยิ่งทำให้เพื่อนจ้องหน้าพยายามจับพิรุธ“ไม่มีจริงอะ แกซ่อนผู้ชายไว้ใช่ไหม หรือว่าแอบมีแฟนแล้วแต่ไม่บอกฉัน”หลินสอดสายตาไปทั่วห้อง แต่แล้วก็พบกับเงารูปร่างกำยำผ่านหน้าต่างบานเล็กที่ติดอยู่ตรงผนังห้อง และมองผ่านทะลุไปยังนอกระเบ
เธอกำลังตกอยู่ในความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จะบอกว่าดีใจที่เขายอมเปิดเผยความจริงมันก็ดีใจไม่สุด แต่จะให้โกรธที่เขาเลือกโกหกมาตั้งหลายเดือนก็โกรธไม่ลงเควินลุกออกจากเก้าอี้ เข้ามาสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง เกยปลายคางลงที่ไหล่บาง เอียงหน้าเอ่ยกับเธอที่ริมใบหู“ขอโทษนะครับ ผมแค่ไม่อยากให้คุณลำบากใจ”“ทำไมฉันต้องลำบากใจ” เธอยังไม่เข้าใจเหตุผลของเขาอยู่ดี“ตอนนั้นคุณเข้ามาทำงานใหม่ ผมกลัวว่าถ้ามีใครรู้ว่าเรากำลังคบกันแล้วจะโดนมองไม่ดี ผมกลัวทุกคนจะคิดว่าคุณจะใช้เส้นสายเข้ามาทำงานแล้วเกิดการกลั่นแกล้งกันขึ้น ผมแค่เป็นห่วงแล้วก็หวังดีกับคุณนะครับ” เขาเอ่ยพลางจับมือของหญิงสาวเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน แล้วให้เธอนั่งตักได้ยินดังนั้นเธอก็เผลอยิ้มขึ้นเล็กน้อย พอได้ฟังเหตุผลแล้วมันก็พอยอมรับได้ ดังที่สาวรุ่นพี่ได้บอกไว้ว่าต้องดูที่เหตุผลว่าโกหกทำไมเขากำลังโกหกเพื่อปกป้องเธอ และเธอเองก็ไม่อยากถูกกล่าวหาว่าได้ทำงานที่นี่ก็เพราะมีแฟนเป็นเจ้าของบริษัท ไหนจะรางวัลที่เพิ่งได้รับอีก“คุณคิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอคะ”“ครับ ผมขอโทษนะ” เสียงทุ้มเอ่ยข้างหูพร้อมกับกดจมูกหอมที่แก้มของเธอหนึ่งฟอดแนนระบายยิ้มย่นคอหน
วันนี้แนนเข้าทำงานกะบ่าย เช้านี้เธอเลยตั้งใจออกไปซูเปอร์มาเก็ตที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด เพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารแล้วนำไปเซอร์ไพร์สแฟนหนุ่มที่ทำงานอยู่บริษัทใกล้กัน ส่วนเธอก็แบ่งใส่กล่องกะจะไปกินที่โรงอาหารของบริษัทเช่นกัน“สวัสดีค่ะ ฉันฝากของให้คุณคีย์หน่อยได้ไหมค่ะ” แนนเอ่ยกับพนักงานประชาสัมพันธ์ที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์แนนตั้งใจว่าจะไม่โทรไปหาเขาเพราะกลัวว่าจะยังติดงานอยู่ เธอเลยจะฝากไว้กับพนักงานแทน“คีย์ไหนเหรอคะ”พนักงานคนดังกล่าวถามกลับ ก็ทำให้เธอเริ่มแปลกใจ หรือว่าจะเป็นพนักงานใหม่เลยไม่รู้จัก“คุณคีย์ที่เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดน่ะค่ะ”“ขอโทษนะคะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของที่นี่ไม่ได้ชื่อคีย์ค่ะ คุณคงจะจำผิดคน หรือไม่ก็มาผิดที่แล้วค่ะ”@ บริษัทจำกัด เค วี คอนแท็กต์ เซ็นเตอร์แนนเดินเข้าบริษัทพร้อมกับคิ้วเล็กที่ขมวดเป็นปม จะไม่มีคนชื่อคีย์ได้อย่างไร ก็เขาเป็นคนบอกเองว่าทำงานอยู่ที่นั่นในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดหน้าที่การงานก็ไม่ใช่ระดับล่างขนาดนั้น ทำไมแม้แต่พนักงานประชาสัมพันธ์ก็ยังไม่รู้จักเที่ยงนี้แนนกินก็ข้าวไม่ลง เธอรู้สึกสับสนไปหมด นี่เขากำลังโกหกเธออย่างนั้นหรือ แล้วจะทำไปเพื
ทั้งคู่นอนพักกันบนเตียง และพอหายเหนื่อยเควินก็อุ้มหญิงสาวเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วใส่เสื้อผ้าดังเดิม ถ้าจะพากันอาบน้ำด้วยก็คงจะไม่ทันกับอาหารที่ใกล้จะได้เวลาขึ้นมาส่งบนห้องก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้น เควินจึงเดินไปเปิดประตูและรับอาหารที่สั่ง“อาหารมาแล้วครับ”“แนนช่วยจัดใส่จานนะคะ”หลายคนมักจะพูดกันว่าการมีเซ็กซ์ช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย มันก็คงจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะทั้งสองคนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ต่างคนต่างมีความสุขในช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน ได้กินข้าวด้วยกัน และได้ทำอะไรแบบลึกซึ้งด้วยกันและไม่รู้ว่าใครเสพติดใครกันแน่ พอกินข้าวเสร็จเควินก็ชวนหญิงสาวเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน เสร็จแล้วก็มานั่งเล่นที่โซฟาเพื่อดูรายการโทรทัศน์ต่อเควินเลื่อนแขนไปโอบเอวของหญิงสาว ส่วนแนนก็วางศีรษะซบที่ต้นแขนของเขา“วันนี้ทำงานเป็นยังไงบ้างครับ มีเรื่องที่ทำให้ลำบากใจหรือเปล่า”แนนรู้สึกแปลกใจกับคำถามของคีย์ที่เหมือนตาเห็น ทำไมเขาถึงได้เดาแม่นจัง เพราะวันนี้เธอก็มีเรื่องลำบากใจจริง ๆ และเขาก็คงจะถามด้วยความเป็นห่วง“งานก็สนุกดีค่ะ แต่วันนี้มีคนโทรมาป่วนด้วย”ใจจริงก็ไม่ได้อยากเล่าเพราะถือว่าเป็นความลับของ