ประตูกระจกฟิล์มทึบของห้องวีไอพีฝั่งตรงข้ามโซนบาร์ถูกเปิดออกโดยมือการ์ดรักษาความปลอดภัยของร้าน ภายในห้องมีแสงไฟสีนวลสลัว ๆ ผนวกกับแสงสีจากสปอตไลต์ด้านนอกพาดผ่านมาในบางครั้ง บนผนังสามด้านตกแต่งด้วยภาพแอบสแตร็กต์ มีชุดโซฟาหนังวางอยู่กลางห้อง และโต๊ะกระจกตัวเตี้ยตรงกลาง
เสียงครวญครางแผ่ว ๆ ดังขึ้นมา ทำให้ว่านต้องหรี่ตาลงเพื่อปรับโฟกัสในที่มืด ส่องมองภาพคนสามคนบนโซฟาที่กำลังคลอเคลียกันอยู่
“มาแล้วครับ” พี่การ์ดพูดสั้น ๆ กับคนในห้อง ก่อนจะหันมาหาว่าน “พี่ไปก่อนนะ คุยกับคุณเขาเอง”
ว่านพยักหน้าหงึกหงัก มองตามแผ่นหลังการ์ดไปจนประตูกระจกปิดลง ดวงตาคู่คมส่องผนังบานกระจกด้านหน้า มันใสแจ๋วจนเห็นข้างนอก แต่มองมาจากข้างนอกเข้ามาไม่เห็นอะไรเลย สมกับเป็นห้องวีไอพีจริง ๆ
“นั่งก่อนสิครับ” น้ำเสียงทุ้มกระเส่าติดหวานพูดขึ้นมาอย่างสุภาพ ทำให้ร่างสูงหันกลับไปมอง ทว่าภาพที่เห็นไม่ได้ชัดเจนอะไรนัก เห็นแค่ร่างกำยำคนหนึ่งกำลังก้มลงกลางหว่างขาชายร่างผอมชุดสีแดงซึ่งนั่งตรงกลาง ส่วนคนตัวสูงอีกข้างก็ลูบไล้กันไปทั้งกาย
“ขอบคุณครับ” ว่านตอบรับงง ๆ ทิ้งตัวนั่งเอนพิงโซฟา
ไหนบอกว่าอยากคุยกับเขา แล้วคนไหนกันล่ะที่อยากคุย?
“จอยมั้ย” ดวงตาคมมองเห็นแล้วว่าชายร่างผอมที่อยู่ตรงกลางเป็นคนคุยกับเขา คนคนนั้นผิวขาวผ่อง ผมสีทอง ดวงตาสีอ่อนที่เห็นไม่ชัดว่าสีอะไร อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็กและสูทสีแดงที่ดูไม่ได้แปลกตา แต่กลับมีออร่าความดูดีแม้อยู่ในที่มืด
“ผมไม่ชอบหมู่” ว่านตอบแค่นั้น ก่อนจะหันไปพยักหน้าขอบคุณบริกรที่วางแก้วเหล้าไว้ตรงหน้าเขา “ใครให้พี่การ์ดไปเรียกผมมาเหรอ”
“ฮะ ๆ ผมเอง” มือสองข้างของร่างผอมดันชายร่างกำยำข้างกายทั้งสองออก “เดินไปเอาเงินที่จอมแล้วกลับเลยครับ ผมจ่ายให้สองเท่า”
สิ้นคำบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ สองคนที่ขนาบข้างก็ลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เดินออกไปจากห้องวีไอพีแห่งนี้โดยไม่อิดออด
“ขยับมานั่งกับผมได้มั้ย เห็นหน้าไม่ชัดเลย”
ว่านชะงักมือที่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ทว่าเขาก็กระดกมันเข้าไปหมดแก้วเพราะความขุ่นมัวในอารมณ์ยังคงอยู่ ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงไปทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาตัวยาวซึ่งมีคนตัวขาวนั่งอยู่
นัยน์ตาสีฟ้าเข้มจนเกือบเป็นสีน้ำเงินเหลือบไปมองคนตัวเล็กกว่าที่นั่งอยู่ก่อน และลมหายใจของว่านก็ถึงกับสะดุดเมื่อเห็นอีกคนใกล้ ๆ อาจเพราะใบหน้าขาวผ่องที่ร่างสูงเห็นนั้นเรียกได้ว่าสวยหวานชวนใจเต้น ดวงตาสีมรกตและริมฝีปากอวบอิ่มหยักสวย เส้นผมสีทองเส้นเล็กทรงมัลเล็ตปล่อยลงไร้การเซต ดูเป็นคนที่น่าดึงดูดและดูดีกว่าที่หนุ่มเซอร์ได้จินตนาการไว้
“ผมไม่รุกนะ” ว่านไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าเรียกเขามาเพราะสนใจอะไรแบบไหน แต่เขาไม่อยากเสียเวลาเยอะไปกว่านี้ ถึงอีกคนจะดูดีมาก ๆ แต่ถ้าเป็นรับเหมือนกัน จะได้ออกไปหาคนอื่นแทน ว่านเบื่อที่จะผิดหวังซ้ำซากแล้ว “ไม่สลับด้วย”
“ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะใสกังวานดังขึ้นไม่สนน้ำเสียงติดหงุดหงิดของว่าน เจ้าของดวงตาสีมรกตยกยิ้มอารมณ์ดีไม่ถือสาหาความ “ผมก็ไม่รับเหมือนกัน”
ว่านกะพริบตาปริบ ๆ ก้มลงหน้าเล็กน้อยสบตาอีกคน เพราะเหมือนเจอขุมทรัพย์
“ผมเชาว์ คุณล่ะ”
“ว่าน”
“ครับคุณว่าน”
“แค่... ว่านก็พอ”
คนหน้าสวยยกยิ้มบาง หยิบแก้วเหล้าที่มีเพียงเหล้าเพียวสีอำพันขึ้นมากระดกดื่มรวดเดียว “ขอดูบัตรประชาชนว่านหน่อยว่าอายุเท่าไหร่แล้ว”
คนตัวสูงกะพริบตาปริบ ๆ อีกครั้ง ว่านมองเชาว์ไม่ออกว่าเป็นคนแบบไหน รู้เพียงดูดีและพูดสุภาพ นิ่ง ๆ เหมือนคุยธุรกิจตลอดเวลาจนรู้สึกเกร็ง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น มือหยาบกร้านก็ยังคงหยิบบัตรประชาชนในกระเป๋าส่งให้อีกคน
“ขอดูบัตรคุณเชาว์ด้วยได้หรือเปล่า” ร่างสูงกระแอมไอเล็กน้อยเมื่อเชาว์เลิกคิ้วสูง “คุณหน้าเด็ก”
ร่างผอมเพรียวยกยิ้มถูกใจ ก่อนจะล้วงหยิบเอาสิ่งที่อีกคนถามหาส่งให้ และเมื่อเห็นข้อมูลบนนั้น คนหน้าหล่อก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง มองบัตรในมือกับหน้าเชาว์อย่างไม่อยากเชื่อ
“คะ คุณเชาว์ นี่บัตรปลอมหรือบัตรจริงเหรอ คือ-” ว่านพูดตะกุกตะกัก ริมฝีปากหยักเม้มสลับคลายอย่างคนครุ่นคิด
“ทีว่านยังไม่เหมือนเด็กอายุยี่สิบสามเลย ผมอายุสามสิบห้าแล้วก็ไม่เห็นแปลก” เชาว์ส่งบัตรคืนและรับบัตรกลับมา
“มีแต่คนบอกว่าผมหน้าแก่ คุณเป็นคนแรกที่บอกว่าผมหน้าเด็ก” เพื่อนในสาขาเรียกเขาว่าไอ้แก่ด้วยซ้ำ และตัวว่านเองก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองหน้าเด็กด้วย
คนอายุเยอะกว่าหนึ่งรอบยกยิ้ม นัยน์ตาคู่สวยสีแปลกจ้องใบหน้าเด็กผมดำตรงหน้าอย่างสนใจ เชาว์ยอมรับว่าเขาสะดุดตาว่านตั้งแต่เด็กคนนี้เดินเข้ามาที่ร้าน หน้าหล่อ ๆ หุ่นแบบมีกล้ามเนื้อกำลังดีคือสิ่งที่เขาโปรดปรานอย่างมาก
“เข้าเรื่องเลยนะ ผมอยากผูกปิ่นโตว่าน สัญญาสามเดือน เดือนละแสน มีคอนโดฯ ให้อยู่ มีรถให้ขับ ว่านสนใจหรือเปล่า” ขาเรียวตวัดขึ้นไขว่ห้าง วางข้อศอกตั้งฉากกับเข่าแล้ววางคางลงบนมือ จ้องมองเด็กหนุ่มที่เบิกตาสีเหมือนอัญมณีกว้างจนแทบถลน “แต่ทดลองงานก่อนนะครับ ถ้าว่านสนใจ”
คนเด็กกว่ายอมรับว่านี่คือสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง ตอนแรกคนตัวสูงคิดว่าเชาว์คงจะชวนมาทำอะไร ๆ เลย ไม่ต้องมากความ แต่สิ่งที่โดนเสนอให้มันไม่ต่างจากเด็กเลี้ยงของอีกคนเลย
ว่านไม่ได้รังเกียจหรือคิดมากอะไรกับเรื่องที่คนแก่กว่าเสนอ เพียงแต่ยังงง ๆ และตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย เขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ถึงจะไม่ได้รวยล้นฟ้าแต่ทางแม่และยายมีเงินมากพอที่จะส่งให้เขาจ่ายเดือนละสองถึงสามหมื่นบาท แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือโพสิชันบนเตียงของเชาว์นั่นแหละ
“ทดลองงานยังไงเหรอครับ” ว่านรู้ว่าคงไม่พ้นลองมีเซ็กซ์กับเชาว์ แต่... อีกคนมีรีเควสต์อะไรแปลก ๆ หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
“ง่าย ๆ เลยครับ” รอยยิ้มบาง ๆ ถูกจุดที่มุมปากได้รูป ร่างผอมเพรียวเอนหลังพิงพนักโซฟา ทว่าสายตายังคงจับจ้องเพียงใบหน้าของว่าน
คนเด็กกว่ากลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง ทั้งประหม่าและตื่นเต้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
“ขย่มจนผมแตก ถ้าทำได้ ก็เลือกวันเซ็นสัญญากันเลย”
“แฮก... เสียวเหมือนจะตายเลย” คนเด็กกว่าว่าเสียงสั่น ปล่อยขาที่สั่นระริกและอ่อนแรงลงมา หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเพราะรู้สึกเหมือนกลั้นหายใจมานานเป็นนาที“ป๊ะป๋าก็เหมือนกันค่ะ จุ๊บ ชอบเซ็กซ์ตอนเช้ากับว่านจัง” คนโตกว่ายกยิ้มกว้าง หอมตรงหลังกกหูแฟนเด็กแล้วค่อย ๆ ถอนกายออกจนของเหลวสีขาวขุ่นข้นคลั่กไหลย้อนออกมาจนเลอะเตียง“แล้วตอนอื่นไม่ชอบเหรอครับ” เด็กหน้าหล่อพลิกตัวมาอย่างรวดเร็วไม่สนอาการขัดเคืองตรงสะโพก ส่งใบหน้ายู่ ๆ ให้แล้วก็งับเข้าไปตรงปลายคางเชาว์“ฮ่า ๆ ชอบค่ะ ชอบหมดทุกตอนที่ทำกับว่านนั่นแหละ” คนโตกว่าดึงเด็กหน้างอเข้ามากอด หอมแก้มสองข้างไปมาแล้วก็พรมจูบไปทุกอวัยวะบนใบหน้าด้วยความเอ็นดู “อะไรที่เป็นว่านที่ป๊ะป๋าเคยเจอมาก็ชอบทั้งหมดนั่นแหละ ไม่ใช่แค่เซ็กซ์หรอก ไม่รู้หรือไงคะ”น้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปกติพูดขึ้น เชาว์โน้มตัวลงเล็กน้อยแล้วใช้จมูกเขี่ยจมูกแสนโด่งของว่านไปมาพร้อม ทั้งยังเผยรอยยิ้มที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ“จีบเหรอ” เด็กหนุ่มถามเสียงค่อย ก่อนจะมุดเข้าไปจมอกคนโตกว่าเพื่อซ่อนใบหน้าแดงก่ำ“ถ้าว่านมองว่าป๊ะป๋าจีบก็คงจีบนั่นแหละ แต่ถ้าถามป๊ะป๋า... นั่นคือสิ่งที่ป๊ะป๋ารู้สึกแล้ว
เช้านี้เชาว์ตื่นมาด้วยความรู้สึกแปลกใหม่เล็กน้อย เพราะเมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่ทั้งเขาและว่านไม่ได้มีเซ็กซ์กันก่อนนอน แต่มันไม่ได้แย่เลย กลับกันแล้วเชาว์รู้สึกถึงความรู้สึกอบอุ่นใจและสบายใจเสียด้วยซ้ำเราพูดคุยกันด้วยเรื่องทั่วไป อย่างการทำงาน อาหาร การเดินทางและสัพเพเหระเกินกว่าจะจัดหมวดหมู่ได้ทั้งหมด คุยกันด้วยน้ำเสียงเฉกเช่นคนง่วงและอ่อนเพลีย จนผล็อยหลับกันไปทั้งคู่ ตอกย้ำว่าระหว่างเรามีบางอย่างเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ทั้งในด้านของความรู้สึกและการปฏิบัติตัวต่อกันลูกแก้วสีมรกตมองไปยังด้านหลังของแฟนเด็กร่างสูงที่นับวันจะกล้ามโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็อมยิ้ม พลางนึกย้อนกลับไปว่าเพียงเพราะคำพูดของเขาที่บอกว่าชอบกล้ามของว่าน เจ้าตัวเลยตั้งใจออกกำลังกายปั้นหุ่นมาเอาอกเอาใจกัน ถ้าเขาเอะใจสักนิดคงจะรู้ว่าว่านน่ะรู้สึกลึกซึ้งมาสักพักแล้ว แต่ถ้าว่านสารภาพความรู้สึกในใจเร็วกว่านี้ เชาว์คิดว่าตัวเองคงปฏิเสธ หากไม่ได้ใช้เวลาอยู่กันบ่อย ๆ และห่างกันนานนับเดือนในคราวนั้น เขาก็ไม่มีวันรู้เลยว่าตัวเองรู้สึกอะไรไปบ้างแล้วเหมือนกันเชาว์ส่ายหน้าไปมาสะบัดทิ้งความคิดภายในหัว ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้คนรักมากขึ้น ใช้จ
“กลับมาแล้วคร้าบ” เสียงยานคางเอ่ยขึ้นเมื่อก้าวผ่านประตูของเพนต์เฮาส์มาตรงโซนรับแขกแล้วเจอกับป๊ะป๋าในชุดคลุมผ้าซาตินสีแดงเบอร์กันดี้ที่ชอบใส่ทับชุดนอน“ไงคะ ติดงานหรือติดสังสรรค์กันล่ะ” ดวงตาคู่สวยละออกจากหน้าจอแล็ปท็อปที่กำลังอ่านอีเมลงาน ส่งมือไปด้านหน้าเป็นการเรียกเด็กตัวสูงให้เดินเข้ามาหาและจับมือกัน“สังสรรค์ครับ เพื่อนบอกว่าไม่เจอนานแล้ว พอส่งงานลูกค้าเสร็จก็ไปกินข้าวกินเบียร์กันนิดหน่อย” เด็กหนุ่มโยนกระเป๋าไว้ตรงโซฟาตัวเดี่ยวแล้วพุ่งเข้าไปกอดคนรักทั้งยังฝังหน้าไว้ตรงหน้าอกแบนราบอย่างคนหมดแรง “เหนื่อยมากเลยป๊ะป๋า”“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำงานก็ได้ ตัวแค่สิบเซ็นต์ ป๊ะป๋าเลี้ยงได้” เชาว์โดนมือขวาอย่างจอมใจพูดใส่หน้ามาในวันที่ไปคลับพร้อมกับว่านว่าเขาน่ะตามใจแฟนเกินไปแล้ว เพราะทันทีที่ว่านพูดเล่น ๆ ว่าอยากให้มีเครื่องดื่มใหม่มาบ้าง เขาสั่งให้จอมใจสรรหามาเลยทันที กะอีแค่แฟนบ่นว่าทำงานแล้วเหนื่อย เขาสามารถให้แฟนเลิกทำงานได้เลย ถึงเชาว์จะไม่ได้เข้าขั้นมหาเศรษฐีแต่การเงินก็ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับเขา“ไม่ได้อยากเลิกทำงานซะหน่อยนี่ครับ แค่อยากให้คุณแฟนโอ๋”“ฮะ ๆ โอเคค่ะ งั้นมาให้คุณแฟนโอ๋นะ”สอ
“อยากย้ายไปอยู่ที่บ้านของป๊ะป๋ามั้ยคะ”เคร้ง!คำถามบนโต๊ะอาหารจากเชาว์ ทำให้ว่านมือไม้อ่อนจนช้อนหล่นกระทบจาน เด็กหนุ่มอ้าปากค้างซ้ำยังเบิกตาโตจนเชาว์หลุดหัวเราะท่าทางนั้นหลังกลับมาจากพัทยา เชาว์มีประชุมด่วนที่บริษัทขนส่งทางเรือซึ่งเจ้าตัวเพิ่งสืบทอดจากพ่อบุญธรรม พอส่งว่านที่คอนโดฯ เสร็จก็แยกย้ายไปแล้วเจอกันอีกทีตอนค่ำ หลังจากนั้นหากวันไหนไม่ได้เลิกงานดึกเกินไป ป๊ะป๋าคนสวยของว่านก็จะเข้ามาหาและค้างคืนที่คอนโดฯ นี้เสมอ ส่วนว่านยังคงทำหน้าที่เหมือนเด็กเลี้ยง มอบเซ็กซ์เร่าร้อนหรือไม่ก็ปรนเปรอให้เชาว์ได้สบายตัวอย่างไม่อิดออด จนมาถึงวันนี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว และเหมือนว่าเชาว์จะกำลังคิดอะไรบางอย่างถึงได้ชวนย้ายที่อยู่แบบนี้“บ้าน... แบบที่หมายถึงว่าเป็นบ้านของป๊ะป๋าหรือบ้านหลังใหม่เหรอครับ”“หมายถึงเพนต์เฮาส์ที่ป๊ะป๋าอยู่ค่ะ ที่นั่นกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะกว่าแล้วก็มีทั้งแม่บ้าน คนขับรถสแตนด์บายตลอด ป๊ะป๋าไม่อยากให้ว่านเหนื่อยทำอะไรเอง อยากให้ใช้เวลาไปกับการพักผ่อนมากกว่า” เสียงทุ้มหวานอธิบายพลางใช้ส้อมจิ้มอาหารเข้าปาก “อีกอย่างแถวนี้รถติดมากขึ้นทุกวันค่ะ”“อ้อ นั่นสิครับ” เด็ก
“รู้สึกดีมากเลยครับ” เสียงของว่านยานคางปะปนอาการหอบ ใบหน้าหล่อที่นอนทับแขนคนรักเงยขึ้นมองจากมุมที่ต่ำกว่า วางคางไว้กับอกแบนราบที่ขยับขึ้นลงตามอัตราการหายใจ “ได้เรียกป๊ะป๋าว่าแฟนแล้วดีสุด ๆ เหมือนฝันเลย”นัยน์ตาสีมรกตหลุบลงมองใบหน้าที่โดนเส้นผมสีดำเปียกชื้นเป็นช่อ ๆ แนบไปทั่ว นิ้วเรียวปัดเกลี่ยมันออกไปให้พ้นกรอบหน้าแล้วจ้องดวงตาสีเหมือนอัญมณีพร้อมยกยิ้ม “ได้เรียกว่านว่าแฟนก็ดีเหมือนกันค่ะ”เด็กหนุ่มหน้าแดงซ่านเมื่อได้ยินแบบนั้น ว่านมุดใบหน้าเข้าหาหน้าอกขาวผ่อง โอบรอบเอวคอดไว้แน่นอย่างขวยเขินเล็กน้อยและทำอะไรไม่ถูก“อะไรคะเนี่ย แล้วว่านก็มาเขินป๊ะป๋าเหรอ”“ทีตอนว่านเรียกป๊ะป๋าว่าคุณแฟน ป๊ะป๋าก็เขินเหอะ” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาเถียง ยู่หน้าใส่จนเชาว์ต้องหยิกแก้มจนยืดเพราะทนมันเขี้ยวท่าทางเหล่านั้นไม่ไหว “เอ็บ (เจ็บ) ”“ช่างแซว”“ก็เขินนี่”“ยอมรับแล้วเหรอว่าเขิน” ว่านเม้มปากแน่น มองยิ้มกรุ้มกริ่มจากคนหน้าสวยแล้วก็นึกล้มเลิกการเบือนหน้าหนีเพราะคิดว่าทำไปแล้วเสียเปล่า ก่อนจะพยักหน้าให้แทน “เป็นคนหล่อที่น่ารักจริง ๆ”“ป๊ะป๋าก็เป็นคนสวยที่เท่ที่สุดของว่าน”“ปากหวาน”“มีทิปมั้ยครับ ถ้ามีทิปจะช
“อะ!” คนรักหน้าสวยของว่านจับตัวเขาพลิกไปนอนคว่ำอย่างง่ายดาย ก่อนจะดึงสะโพกของเขาให้ลอยเด่นขึ้นโดยที่กายท่อนบนแนบไปกับผืนเตียงทั้งที่เชาว์เป็นคนตัวผอม เตี้ยกว่าเขา ร่างกายไม่ได้มีกล้ามเนื้อแน่นปึ้ก แต่พอเป็นเรื่องบนเตียงทีไร รู้สึกว่าพละกำลังเยอะแยะนั่นไม่เหมาะกับตัวบาง ๆ แบบป๊ะป๋าสักนิด“อ๊า!” ระหว่างที่ว่านกำลังครุ่นคิดถึงเรี่ยวแรงของคนรัก สัมผัสชื้นที่สากและนุ่มจู่โจมตรงรูจีบด้านหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าว่านทั้งเสียวทั้งตกใจ เพราะเชาว์ไม่เคยใช้ลิ้นกับตรงนั้นของเขามาก่อน“อืม... นุ่มจังค่ะ”“ป๊ะป๋า... มัน อะ!”“ไม่ชอบให้ป๊ะป๋าเลียเหรอคะ”“ฮึก เปล่า มัน อ๊า! มันเสียว”ใบหน้าหล่อมุดเข้ากับผืนเตียง สองมือจิกขยำผ้าปูที่นอนจนขยุกอยู่ในกำมือ ปากอ้าค้างครางเสียงดัง สะโพกก็ส่ายร่อนเข้าหาปลายลิ้นที่ชอนไชเข้ามาในรูสลับกับดูดเลียอย่างตะกรุมตะกรามเสียงลามกลั่นก้องห้องนอน เชาว์ทั้งดูด เลีย แหย่ลิ้นเข้ารูเร้าอารมณ์ความรู้สึกดีให้กับแฟนเด็ก มือบีบนวดสะโพกหนั่นแน่นที่เขาโปรดปราน และเมื่อเห็นปฏิกิริยาการบิดเร่าไปทั้งกายของว่านแบบนี้ก็กลายเป็นสิ่งโปรดปรานอีกหนึ่งอย่างเสียแล้ว เพราะว่านทั้งครางร