“กรี๊ดดด!”
“พ่อคะ! พ่อจะกินเหล้าด้วยการฉีดเข้าเส้นไม่ได้!”
แพรวแทบจะสำลักเอาแอลกอฮอล์ที่กระดกลงคอไปเมื่อครู่ออกมา ดวงตาเธอถลนถมึงทึง พลันกุลีกุจอลุกขึ้นพรวดพราดหวังจะปรี่เข้าไปห้าม เดชะบุญที่ถูกพ่อห้ามเอาไว้ แกหงายฝ่ามือขึ้นแล้วก็อมยิ้มแบบเมา ๆ ตามสไตล์
.
“ชู่ววว!”
“นั่งเถอะนุช ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ ประเทศนี้แม้แต่สุราก็ตอบสนอง Demand ของฉันไม่ได้ เก็บภาษีมากมายแต่แอลกอฮอล์ก็ไม่เคยจะแรงขึ้นเลย โคตรกระจอก! โคตรไร้ค่า!”
“โอ๊กกก.. ก.. ก.. ก.. ก , อึก.. ก.. ก ๆ”
กระอึกกระอักในลำคอ คางแทบจะแนบคาอยู่บนโต๊ะ เหลือแต่ดวงตาที่ยังคงเผยอมองมาทางแพรวแบบไม่ลดราวาศอก
.
กลายเป็นรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านเล่นงานจนสาวเจ้าเริ่มจะทำอะไรงก ๆ เงิ่น ๆ เพราะเธอเองก็ไม่ได้สนิทกับพ่อของพีเท่าไหร่นัก ครั้นจะห้ามปรามออกไปก็โดนพ่อพูดดักทางเอาไว้หมด แล้วก็เป็นการพูดแบบมะนาวไม่มีน้ำ จับต้นชนปลายอะไรไม่ได้ เข้าขั้นถามอย่างตอบอย่างจนสุดท้ายแพรวก็เลือกที่จะเงียบ เธอกระดกแก้วเบียร์ยกขึ้นดื่มพลางฟังพ่อพล่ามเรื่องของพีไปเพลิน ๆ
.
กลับดีซะอีกเพราะเธอเองก็ไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของเพื่อนสนิทคนนี้เลย เจอกันครั้งแรกก็ตอนโตเป็นหนุ่มสาวมหาลัยกันแล้ว ตอนพีเป็นเด็กเขาผ่านชีวิตมายังไงแพรวแทบไม่รู้เลย พีเคยเป็นเด็กผู้ชายมาก่อนรึเปล่า เขาไปทำอีท่าไหนถึงได้เสียทรงจนกลายเป็นกระเทยคิงคองเฉกเช่นปัจจุบันนี้ แค่เงียบแล้วก็ฟังบางทีวันนี้อาจจะเป็นฤกษ์งามยามดี ให้เรื่องของเขาได้คลายตัวออกจากโลกแห่งความลับก็ได้
.
“ดูในอัลบั้มรูปสินุชเปิดหน้าแรกมีรูปพีตอน ป.1 ตอนขึ้นอ่านเรียงความในงานวันเด็กด้วยนะ ลูกเราฉายแววมากเลย”
.
กระดกเบียร์ลงคอไปหนึ่งแก้ว แพรวทำตามอย่างว่าง่ายจนหลัง ๆ คนเป็นพ่อแทบไม่ต้องพูดอะไร หญิงสาวปล่อยตัวปล่อยใจจมลงไปในความขำ ความเพลินเพลินที่ได้เห็นรูปเพื่อนในอิริยาบถต่าง ๆ พลิกหน้าถัดไปก็เป็นภาพของพีตอนอายุ 10 ขวบ ในนั้นเขาสวมกางเกงมวยขาสั้นและกำลังง้างเท้าเตะกระสอบทรายโครม ๆ ใบหน้าจริงจังดุดันมาก ชนิดที่ไม่มีเค้าลางว่าจะเป็น LGBTQ+ เหมือนตอนนี้เลย
.
หรือจะเป็นอีกสามหน้าถัดไป คราวนี้เป็นรูปคู่เป็นภาพของพีกับคุณแม่โพสต์ท่าคู่กันกับถาดอบขนม มีแบล็คกราวน์เป็นห้องครัวแล้วก็ตู้อบขนาดใหญ่ บนถาดน่าจะเป็นคุ๊กกี้เนยสด และบางทีนี่ก็อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาเริ่มมีไลฟ์สไตล์เหมือนเด็กผู้หญิงในระยะแบ่งเซลล์ นั่นทำให้แพรวสงสัยจนถึงกับต้องเปล่งวาจาขึ้นถาม
.
“ผู้หญิงในรูปนี้คือแม่ของพีเหรอคะพ่อ?”
ถามทั้ง ๆ ที่ยังไม่ละสายตาออกจากอัลบั้ม พลันเอื้อมมือบางไปกำน้ำแข็งมาโยนใส่แก้วเบียร์ตัวเอง แล้วก็รินเบียร์ในขวดใส่ตามลงไปสมทบ
.
“กร๊อก.. ก.. ก.. ก ๆ , กร๊อก.. ก.. ก.. ๆ”
น้ำแข็งกระทบแก้วหมุนวนเกรียวกราว แพรวยังคงพลิกอัลบั้มรูปต่อไป เปิดหน้าใหม่ทีก็ยกเบียร์ขึ้นจิบทีสลับกันไปเรื่อย ๆ ชิวสุด ๆ ราวกับเห็นบังเกอร์ใต้ดินแห่งนี้เป็นเกสเฮาส์ส่วนตัวก็มิปาน
.
“หืม.. ว่าไงล่ะคะคุณพ่อ? ทำไมเงียบไปล่ะคะ.. หลับเหรอ?”
ร่างบางเชยคางขึ้นถาม
.
ก่อนจะตกใจสะดุ้งโหยงเพราะสิ่งที่ทักดันกลายเป็นจริง แก้มแนบคาโต๊ะฟองฟดจากน้ำเบียร์ปริ่มทะลักออกมาจากปาก ไหลหลากออกมาทางจมูก ส่วนลำตัวนั้นครูดลงไปกองพับอยู่ด้านล่าง เหลือแต่คางที่ยังคงเกาะกับขอบโต๊ะเอาไว้ ช่างเป็นสารรูปที่โคตรจะดูไม่ได้ แดกเหล้าผ่านสายน้ำเกลือว่าเหี้ยแล้ว ลงไปกองแบบนั้นก็ไม่ต่างจากตัวตะกวดเลยหากจะพูดกันตามตรง แพรวก็เลยอยู่เฉยไม่ได้เธอรีบโผเข้าไปดูอาการทันที
.
“กรี๊ดดด! , พ่อคะ?!”
.
ลุกพรวดออกมาจากโซฟาจ้วงเท้าต่ออีกสองสามที ร่างหนาของพ่อก็ถูกประคองให้นั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม จัดท่าจัดทางให้เรียบร้อยต่ออีกนิด โดยไม่ลืมใช้หลังมืออังกับโพรงจมูกเช็คลมหายใจดูว่ายังมีชีวิตอยู่รึเปล่า?
.
“วู่ววว.. โอเคยังอุ่น ๆ อยู่คงแค่หลับแหละ โถ่เอ๊ย! ทำหนูตกใจหมด!”
“แต่ก็นะ! เล่นฉีดเข้าเส้นขนาดนั้นมันก็ระดับเฮโรอีนเลยนี่นา การดูดซึมมันคนละเรื่องกับยากินหรือยาทาอยู่แล้ว หนูรู้หนูเรียนมาค่ะพ่อ”
สาวเจ้าอธิบายแข่งกับเสียงกรนของคนแก่ ดูทรงแล้วพ่อคงจะหมดแล้วจริง ๆ แพรวจึงถือวิสาสะถอดเข็มน้ำเกลือ (น้ำเบียร์) ออกให้ พลางลากเสาค้ำทรงสูงเข้าไปเก็บไว้ตรงซอกหลังตู้เย็นตามเดิม แต่ก็มิวายเอื้อมมือขึ้นไปปลดเอาถุงใส่เบียร์ที่แขวนอยู่บนสุดกลับลงมาด้วย หวังจะเอาน้ำเมาสีอำพันนี้ไปเทรวมกับแก้วของตัวเองตรงหน้าโซฟา
.
“อ่าาาา~ ก็มันน่าเสียดายนี่นา น้ำแข็งก็พร้อมจะปล่อยไว้ให้ชืดเสียรสชาติทำไม”
.
สตรีไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ถ้าไม่ติดว่าเหล้ายี่ห้อแสงโสมมีพรีเซ็นเตอร์เป็นด็อกเตอร์อาจองไปแล้ว เบียร์ที่รินเต็มแก้วก็คงไม่พ้นแพรวที่กลายเป็นแบรนด์แอมบัสเดอร์แน่นอน เธอยังคงเดินกลับมาที่โซฟาตัวเดิมอีกครั้ง ทว่าต่างจากเดิมหน่อยตรงที่คราวนี้ไม่ได้นั่งลงแล้ว นักศึกษาสาวกลับเลือกที่จะหยิบสมุดไดอารี่กับแก้วเบียร์ขึ้นมาถือไว้คู่กันแทน
.
"เอ๋..แบบนี้ก็ไม่ต้องเกรงใจคุณพ่อแล้วสิ? แกหลับก็เท่ากับว่าเราสามารถอ่านเรื่องราวในนี้ได้แบบเต็มที่ไร้สิ่งรบกวน แถมยังมีเบียร์ให้จิบฟรีเต็มตู้เย็นอีกต่างหาก สวรรค์ชัด ๆ ก็ไม่เลวนะ ถือว่าชดเชยกับเรื่องแย่ ๆ ข้างบนก็แล้วกัน ฉันขอเสือกเรื่องแกกับครอบครัวหน่อยนะอีพี”
.
แพรวคิดในใจภายใต้สีหน้าที่ขี้โกงสุด ๆ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มบวกกับความเมากรึ่ม ๆ ทำให้เธอดูเหมือนนางอิจฉาในละครมิผิดเพี้ยน มิหนำซ้ำยังเดินเตร็ดเตร่ย้ายมุมไปตรงโน้นทีตรงนี้ทีเป็นว่าเล่น ประหนึ่งตั้งใจจะเดินสำรวจให้หมดทุกซอกทุกมุมว่าบังเกอร์ใต้ดินแห่งนี้ซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง
.
ซึ่งก็จริงอย่างที่วิเคราะห์เพราะโอกาสแบบนี้ย่อมไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ไทม์มิ่งมันลงล็อคพอดีแล้วพ่อก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย แพรวจึงจัดแจงมูฟร่างกายตัวเองไปเริ่มต้นที่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งเป็นจุดแรกสุดที่เธอเดินลงมา มันมีลักษณะเป็นบานเลื่อนสองอันมาประกบติดกันแบบร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
.
“เอาล่ะ.. พอทางสะดวกก็น่าจะเริ่มกันจากตรงนี้ล่ะนะ เริ่มจากลองกดเปิดประตูดูหน่อยซิ?”
.
จับไดอารี่หนีบไว้ที่ใต้รักแร้พลางใช้มือขวาถือแก้วเบียร์ ส่วนมือซ้ายเอาไปทุบเข้ากับกำแพงเสียงดัง “ตุบ!” แบบเดียวกับที่เห็นพ่อทำ ทว่าประตูกลับไม่เปิด! ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงทีเดียวว่าระบบ security ของที่นี่คงไม่ได้บันทึกลายนิ้วมือของแพรวเอาไว้
.
“เฮ้! งั้นฉันก็กลับขึ้นไปทางเดิมไม่ได้น่ะสิ! ไม่รู้ล่ะ! บางทีห้องใต้ดินนี่อาจจะมีทางออกอื่น น่าสนใจแฮะน่าสนใจจริง ๆ เอาเป็นว่าฉันจะกวาดสายตาดูที่นี่ให้ครบทุกซอกทุกมุมเลยละกัน ชีวิตแกไม่ได้มีแค่ในไดอารี่กับอัลบั้มรูปวัยเด็กหรอกนะพี อย่างน้อยถ้าฉันพลาดตั้งท้องกับแกขึ้นมา ฉันจะได้บอกลูกของเราได้ว่าพ่อมันไม่ได้เป็นแค่กระเทยดาด ๆ ”
.
กระดกเบียร์ที่เหลืออยู่ลงคอไปจนหมดแก้ว นิสิตสาวปลดเปลื้องมวลอำพันไหลเปรอะเลอะเสื้อ แม้มันจะเปียกอยู่ก่อนแล้วจากคราบน้ำฝน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เธอคว้ำแก้วลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี พลันหันมาเพ่งสมาธิเต็มที่กับสมุดไดอารี่ที่มีตัวหนังสือยืกยืออัดแน่น มีการระบุวันและเวลาเอาไว้ตรงมุมบนด้านขวาอย่างชัดเจน บ่งบอกว่าคนที่เขียนนั้นมีความละเอียดถี่ถ้วนตามสไตล์ของนักวิทยาศาสตร์ แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้เธอเกรงใจอยู่ดี แพรวกำลังคิดจะเสือกมิหนำซ้ำยังเป็นเวอร์ชั่นที่ดีกรีจากแอลกอฮอล์กำลังจะออกฤทธิ์ซะด้วย
.
“เอาไงดีน๊าาา.. ไดอารี่ก็อยากอ่าน.. ห้องใต้ดินก็อยากสำรวจ”
“อืมมม.. ม.. ม.. , มึนหัวจัง”
“เอางี้! ทำคู่กันไปเลยล่ะกันห้องอีพีอยู่ตรงไหน? เอาหนังสือไปนั่งอ่านในห้องมันเลยดีกว่า เพื่อความได้ฟิว~!”
.
เมาแหละดูออกขาแทบจะขวิดกันเป็นเลขแปดหวิดจะล้มแหล่มิล้มแหล่ แต่หล่อนก็ยังเอามือแปะผนังคลำทางไปได้เรื่อย ๆ ก่อนจะเพิ่งมารู้ตัวว่าแท้จริงแล้วตัวเองมองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ไป นั่นก็คือภาพถ่ายบนกำแพงที่แขวนรูปครอบครัวเรียงรายไว้เป็นระยะราวกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ
.
รูปพวกนี้กำลังจะบอกอะไรกันแน่? เราคงต้องรอดูในตอนต่อไป?
“หายใจดิพี่.. ลองหายใจดู!”เสียงโบ๊ทตะคอกอัดหน้า เขาสะบัดมือพึบพับโบกอากาศอัดใส่หน้าตัวเองให้แพรวดู.สาวหัวหน้าแคลนถูกช่วยเป็นรายสุดท้าย ร่างบางของเธอถูกวางลงบนพื้นอย่างละมุนละม่อน โดยโดรนอารักขาที่ใช้งานได้ในหลายรูปแบบ ตลิ่งดินกลายเป็นที่แลนด์ดิ้งที่ปลอดภัย เจนิสกับเพื่อน ๆ ปลดหน้ากากครอบแก้วออกหมดแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ โบ็ทเองก็เช่นกัน จะมีก็แต่แพรวที่ยังคงใส่หน้ากากกันแก๊สเวอร์ชั่นเก่าแก่ที่ได้มาจากบ้านของพีอยู่.“หายใจได้แล้วพี่แพรว! ที่นี่มีอากาศบริสุทธิ์ สุดยอดไปเลยพี่ ๆ ต้องลองดูด้วยตัวเองนะ”โบ๊ทย้ำเจตนารมณ์เดิม เขาผละตัวออกจากแพรวพลันชูแขนกระโดดโลดเต้น วิ่งไปรวมกลุ่มกับพวกเจนิสราวกับเด็ก ๆ ที่เห่อของเล่นใหม่ ทิ้งแพรวให้อยู่กับโดรนเพียงลำพัง ในสภาพที่มอมแมมเต็มขั้นเนื้อตัวเต็มไปด้วยดินโคลน.ลมโชยโบยแก้มกลิ่นธรรมชาติพัดแสงแรกแย้ม ชโลมผิวหนังเบิกดวงตาพราวสดใส ความเขียวขจีของทุ่งหญ้าช่อผกาโบกไสวปลิวสลวย นานแค่ไหนแล้วที่แพรวไม่ได้เห็นของแบบนี้เลยในมหานคร บ้านเรือนไทยทรงวินเทจตั้งเรียงรายอยู่บนริมท่า ชวนให้นึกถึงขุนช้างขุนแผนกับเหล่านางสีดาในวรรณคดี .“กึก!”สุดท้ายก็ต้องลอง หน้
“ผมทุบกระป๋องก๊าซได้รึยังพี่แพรว!”หนูน้อยป้องปากตะโกนถาม ภายใต้กระแสลมต้านที่พุ่งอัดเข้ามาอย่างรุนแรง .ณ ตอนนี้หัวเรือกำลังเชิดทำมุมราว 30 องศา มันแล่นแหวกอากาศและโดนน้ำทะเลน้อยมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะทุกครั้งที่แรงพุ่งจากก๊าซด้านหลังเริ่มซาลง ส่วนหน้าที่โบ๊ทรับผิดชอบอยู่ก็จะเป็นที่แรกที่โดน Covid-19 เล่นงานก่อนส่วนอื่น แพรวจึงรีบตะโกนตอบน้องกลับไปในเสี้ยวอึดใจ.“รอจังหวะให้เรือช้ากว่านี้อีกนิดแล้วจัดการเลยโบ๊ท! เราต้องทำงานให้สัมพันธ์กันนะ งั้นจะใช้ประโยชน์จากก๊าซได้ไม่เต็มที่!”“เราอาจจะหนีไปไม่พ้นเมืองหลวงก็ได้ ถ้าก๊าซในสต็อกเราหมดก่อน!”.“ครับพี่.. ผมเข้าใจแล้ว!”.ร่างเล็กของเด็กประถมก้มต่ำลงจนลำตัวแทบจะครูดกับพื้นเรือ โบ๊ทเจตนาจะทำให้ตัวเองสัมผัสโดนลมให้น้อยที่สุด พลันกระเถิบตัวขึ้นหน้ากระดืบ ๆ ไปราวกับตัวหนอน กระทั่งมาถึงจุดที่เป็นมุมสามเหลี่ยมตรงหัวเรือได้สำเร็จ ที่นี่เขาก้มลงไปมองผืนน้ำด้านล่างได้อย่างสบาย อ่านค่าความเร็วจากการกะด้วยสายตา แล้วทันทีที่เห็นว่าเรือเริ่มช้า เขาก็ได้ทุบก๊าซกระป๋องหนึ่งแล้วก็ปามันลงไป.“ตูมมมมม!!!!”.“ฟู่~~~!!!!!!!
“ซ่าาาา~!”เสียงโครงเรือยอร์ชที่ยังต่อไม่เสร็จกระทบผิวน้ำกระซ่านเซ็น พอดีกันกับโดรนอารักขาที่ใช้งานได้โคตรจะคุ้ม มันตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงออกไปหมดสิ้น พลันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อทำหน้าที่ฉายไฟส่องสว่างลงมา ราวกับสปอร์ตไลท์ตามสนามกีฬากลางแจ้ง.“แชะ! , แชะ!”.ราตรีกาลเข้าครอบครองท้องฟ้า ส่วนท้องธาราก็เป็นไปตามการคำนวณ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจริงเฉกเช่นที่แพรวฟันธงเอาไว้ ต่างคนต่างรีบกระโจนลงเรือ และแม้ตัวบอดี้จะโคลงเคลงหนักมาก แต่ก็นับว่าดีอย่างที่ยังพอจะแบกรับน้ำหนักของทุกคนไหว ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทักษะของช่างต่อเรือ หรือไม่ก็เศรษฐีเจ้าของทุนทรัพย์ เพราะลำพังก้าวแรกที่ย่ำลงมา แพรวก็เห็นแล้วว่าทุกส่วนของโครงสร้างล้วนทำขึ้นจากวัสดุชั้นเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น .เธอสั่งให้สองเด็กสาวเพื่อนเจนิสเอาเศษไม้แผ่นแบน ที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปมาทำเป็นที่คัดท้าย มีความโชคดีอย่างที่ของเหล่านี้ไม่ใช่ของหายากอะไรนัก ถ้าอยู่บนเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ หลังจากนั้นก็สั่งให้พวกเธอ Stand by รอคัดท้ายตามคำสั่งอีกที ก็เลยเหลือแต่เจนิสกับโบ๊ทที่ยังว่างงานและยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร.เรือค่อย ๆ แล่นออ
นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊
ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ
พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่