“เอาล่ะ! ถึงแล้ว เลิกกลัวได้แล้ว”
.
กำปั้นหนาทุบเข้ากับฝาผนังด้านข้าง และเพียงชั่วเสี้ยวอึดใจทุกอย่างรอบตัวก็สว่างโพลงขึ้น กลายเป็นภาพของห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์อันทันสมัย สายไฟระโยงระยางหน้าจอสถานะต่าง ๆ กระพริบวูบวาบราวกับห้องแล็บของคณะวิทย์ มีการจัดสรรเป็นโซนเป็นล็อคอย่างดี มีห้องนั่งเล่น , ห้องน้ำ , ห้องทำงาน , ห้องครัว ทำให้แพรวถึงกับต้องยืนอึ้งอยู่พักใหญ่
.
เธอปล่อยมือออกจากพ่อแล้วลองมองกลับไปข้างหลังดู ทำให้พบว่าก็ยังคงมืดตึดตื๋ออยู่เหมือนเดิม มิหนำซ้ำพอลองก้าวเท้าตามเข้ามาโดยพลัน จู่ ๆ ประตูอัตโนมัติก็เลื่อนเข้ามาปิดให้เองราวกับเซเว่นอีเลฟเว่น ดีที่ไม่มีเสียงติ๊งหน่อง แต่แค่นี้ก็ถือว่ามากพอแล้วที่จะทำให้เธอสับสน เรียนตามตรงว่าบริเวณดังกล่าวเหมือนกับห้องใต้ดินที่มีระบบการถ่ายเทอากาศเป็นอย่างดี อย่าว่าแต่โควิดเลยลึกขนาดนี้แม้แต่ขีปนาวุธก็ทำอะไรบังเกอร์นี้ไม่ได้
.
“ใช่! บังเกอร์! ที่นี่เหมือนบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยอะไรแนวนั้นไม่มีผิด! นี่พ่อแอบสร้างไว้เหรอคะ?!”
หญิงสาวเปล่งวาจาขึ้นถาม
.
ในขณะที่ลุงกลับเดินตรงเข้าไปยังส่วนที่กั้นไว้เป็นห้องนั่งเล่น พร้อมกับกวักมือเรียก
.
“ทำเป็นลืมไปได้โถ่เอ๊ย นี่น่ะคือห้องแล็บของเราไงนุช”
“พวกเราเคยทำงานให้บริษัท AP แต่ก็ต้องถูกไล่ออกเพราะเหตุอันไม่คาดฝัน เธอเลยนำโปรเจคที่ค้างอยู่กลับมาสานต่อที่นี่ แล้วก็ปิดทุกอย่างไว้เป็นความลับจำไม่ได้เหรอ?”
“แต่ก็ช่างมันเถอะ! มาสิ! มานั่งพักตรงนี้ก่อนอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย อุตส่าห์กลับมาทั้งทีเดี๋ยวฉันจะเข้าไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้นะ”
.
“อะ.. เอิ่ม.. ม.. ค่ะ”
แพรวรับลูกสวมรอย ด้วยความสัตย์จริงว่าเธอเองก็สงสัยอยู่ว่าพ่อของพีดื่มอะไรเข้าไปถึงได้เพี้ยนหนักเหลือเกิน แต่ครานั้นเธอก็ไม่ได้คิดว่าพ่อโกหกหรอก เพราะหลักฐานก็เห็นอยู่ทนโท่ โถงใต้ดินแบ่งพื้นที่ 70% เป็นห้องแล็บ มีโต๊ะวางของ , มีหลอดแก้วสำหรับใส่สารเคมี , บิกเกอร์ , ตะเกียงแอลกอฮอล์ , แล้วก็มีหน้าจอแสดงค่าต่าง ๆ ที่แพรวเองก็ไม่เข้าใจ ส่วนบริเวณที่เป็นโซนสำหรับพักผ่อนก็กินพื้นที่รวมกันแค่ 30% จากโถงใต้ดินทั้งหมดเท่านั้น
.
ซึ่งพอเอามารวมเข้ากับชุดข้อมูลที่พีเคยบอก ว่าพ่อของเขาเคยเป็นทีมนักวิจัยของบริษัท AP มาก่อนทุกอย่างก็ลงล็อคพอดี แพรวจำสติกเกอร์องค์กรที่แปะอยู่หลังรถกระบะบุโรทั่งที่จอดอยู่ข้างบนได้ เพียงแต่เธอไม่คิดมาก่อนว่าพ่อของพีจะยังทำงานแบบลับ ๆ และซ่อนทุกอย่างไว้ใต้ดินตรงนี้อยู่
.
เธอจุ่มก้นลงบนโซฟา พยายามกวาดสายตามองรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อประเมินสถานการณ์
.
“(ไป ๆ มา ๆ ดันไม่อยากจะหนีแฮะ ที่นี่น่าสนใจมากอย่างกับในหนังสายลับแหนะ กลับขึ้นไปเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ แล้วก็ไม่แน่ว่าบางทีไอ้บ้านไม้ผุ ๆ พัง ๆ ข้างบนก็อาจจะเป็นแค่ตัวหลอก มันอาจะเป็นแค่พร็อบเอาไว้ตบตาผู้คนทั้งที่ความจริงแล้ว พ่ออีพีอาจจะไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ข้างบนเลยก็ได้ ใต้ดินตรงนี้ต่างหากที่เป็นที่อยู่อาศัยหลัก)”
.
“(แล้วไหนจะเรื่องราวของแม่ที่ชื่อว่านุชอีก พีไม่เคยพูดถึงแม่ให้เราฟังเลยนี่นา ตายห่าล่ะ! นี่ฉันกลายเป็นเรดี้ขี้เสือกแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันควรจะมานั่งรับรู้เรื่องอะไรเหล่านี้ไหม พีก็ปลอดภัยแล้ว แล้วยาคุมฉุกเฉินของฉันล่ะเรื่องตัวเองยังไม่เคลียร์เลยนะแพรว!?)”
.
หล่อนพรั่นพรึงกับตัวเองในใจ โดยปฏิเสธไม่ได้ว่าพอสถานการณ์ภายนอกเริ่มปลอดภัยในหัวก็เลยฟุ้งซ่าน เดชะบุญที่คุณลุงแกเดินโซเซออกมาจากห้องพักพอดี แถมไม่ได้มามือเปล่า ผ้าขนหนูที่ว่าจะไปเอาก็ไม่ได้เอามา แต่ดันมาพร้อมกับสมุดบันทึกไดอารี่แล้วก็อัลบั้มรูปแทน
.
“อั๊ก.. ก.. ก อึก.. ก.. ก นุชจ๋านี่คือบันทึกที่ฉันจดไว้ แล้วก็รูปภาพของพีลูกรักของเรา ฉันจดทุกอย่างเอาไว้เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะกลับมา.. อึก.. ก.. ก.. ก”
“แล้ววันนี้ก็มาถึง.. อั๊ก.. ก.. ก.. ก”
สะอึกเป็นพัก ๆ น้ำเสียงตะกุกตะกัก ประหนึ่งว่าที่เข้าไปในห้องนั้นได้กระดกเติมลงท้องไปอีกกลม
.
แพรวก็เลยรู้สึกกระอักกระอ่วน เพราะอาจดูไม่เข้าท่าไปหน่อยหากเธอจะผิดมารยาทอ่านอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของคนอื่น เธอก็เลยพยายามที่จะเลี่ยง
.
“เอ่อ.. คือพ่อคะหนูไม่ใช่คุณนุชค่ะ.. หนูชื่อแพรวเป็นเพื่อนของพี.. หนูแค่..”
.
“อ๊อ! ผ้าเช็ดตัวใช่ไหม?! อั๊ยย่ะ! ลืมไปซะสนิทเลยฉันต้องไปเอาผ้าเช็ดตัวให้เธอนี่ รออีกแป๊บนะ!”
.
พ่องมึงตาย! “อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา” เห็นทีจะเป็นสำนวนไทยที่เข้าใกล้กับสิ่งนี้เป็นที่สุด เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะแทนที่แกจะเดินย้อนกลับไปที่ห้องเหมือนเก่า แกกลับดันเดินโซซัดโซเซเข้าไปในครัวซะอย่างงั้น ไปยืนคุยกับตู้เย็นต่ออีกสักพัก แล้วถึงได้เปิดมันออกมาจนเห็นเป็นไอเย็นโพยพุ่ง ไหนล่ะผ้าเช็ดตัว? พูดอะไรไปเหมือนสมองจะจำไม่ได้ ตอนนี้พ่อของพีก็เลยกลายเป็นไอ้แก่ขี้เหล้า มากกว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ในสายตาของเพื่อนลูก
.
“คออ่อนดื่มเหล้าแดง.. คอทองแดงกินเหล้าขาว.. คอเด็กสาวดื่มน้ำโค้ก.. อืม.. ม.. ม.. เธอจะดื่มอะไรดีล่ะนุช?”
สะบัดหน้าหันมาถาม ดวงตาแดงก่ำแต่ยังคงแฝงไปด้วยความหวังดี
.
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ..”
แพรวตอบแกมยิ้มแห้ง
.
ด้วยเพราะเห็นอย่างแจ่มแจ้งว่าลุงขึ้เมาก็แค่แกล้งถามไปส่ง ๆ จะเป็นไปได้ยังไงก็ในเมื่อตู้เย็นทั้งตู้แม่งมีแต่ขวดเบียร์เต็มไปหมด สาบานได้ว่าแพรวนี่คิดถึงพีขึ้นมาเลย ทักษะขี้เมาของเขาแทบไม่ต้องสืบก็รู้ว่าคงถ่ายทอดมาทางรหัสพันธุกรรม
.
พ่อของกระเทยหนุ่มตัวดำกินเหล้าต่างน้ำ ความเมาที่แผ่ซ่านน่าจะทำให้เขาลืมภรรยาที่จากกันไปนานแสนนานลงได้ แกก็เลยมีแต่ดื่มแล้วก็ดื่ม ขวดพร้อมแก้วพร้อม ลีโอเหน็บรักแร้ขวา ช้างเหน็บรักแร้ซ้าย ปากคาบแก้วเดินย่องแย่งเอามาวางลงตรงโต๊ะไม้เล็ก ๆ ด้านหน้าโซฟาเบื้องหน้าแพรว
.
“ตรึม!!!”
ดั่งเหมือนจงใจกระแทก แต่เปล่าหรอกไม่ได้เจตนาดูหมิ่นดูแคลนอะไรทั้งสิ้น พ่อก็แค่เมาจนกะน้ำหนักมือตัวเองไม่ถูก
.
“เบียร์เย็น ๆ จะทำให้เราอุ่นขึ้น แอนติบอดี้ในร่างกายมีค่าเป็นเบสเมื่อทำการควบแน่นกับกรดอะซิติกที่ทรานซิสชั่นออกมาจากแอลกอฮอล์ นั่นจะทำให้เธอรู้สึกดี~ ฟิน~ เหมือนถึงจุดสุดยอด~ อัก.. ก.. ก.. อึก.. ก.. ก.. นี่คือของขวัญต้อนรับการกลับบ้านจากฉัน~ โอเคมั้ย~!”
.
“จ๊อก.. ก.. ก.. ก..”
จัดแจงรินเบียร์ใส่แก้วให้เรียบร้อย พลางยื่นส่งให้แพรวเองกับมือ
.
ฝั่งหญิงสาวก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ เจอสำนวนคำพูดแบบนักวิทย์เข้าไป ถึงจะรู้ว่ามีลูกมั่วตบตาอยู่บ้างแต่แพรวก็ไม่อยากที่จะขัดน้ำใจ ดื่มพอเป็นมารยาทหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง พ่อคงไม่มอมเธอหรอก เพราะดูลักษณะแล้วอีกไม่นานคงจะเป็นเขาเองต่างหากที่น่าจะตกเป็นภาระของเธอ ขี้คร้านฟื้นสติขึ้นมาจะหาว่าแพรวบุกรุกเอาสิไม่ว่า
.
“อึก.. ก.. ก.. ก ๆ ๆ”
.
“อ่าาา~ หวานมากค่ะพ่อ”
“แล้วพ่อล่ะคะไม่เอาสักหน่อยเหรอ?”
.
นี่สิคนจริง! หล่อนท้ากลับราวกับอยากวัดรอยเท้า
.
“จุ ๆ ๆ นู๊ชชชช นุช!.. นุช!.. นุช!.. นุช!”
“เธอนี่ช่างไม่รู้อะไรเลย จากไปนานจำไลฟ์สไตล์ฉันไม่ได้ซะแล้ว อืม.. ม.. ม.. , อัก.. ก.. ก.. ก”
“แฮ่มมม.. แก้วน่ะมันใช้กับฉันไม่เคยพอหรอก..ก..ก คนดี~!”
.
จบประโยคดังกล่าวสีหน้าแพรวก็ถึงกับเปลี่ยนสี เธอวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะข้างกันกับสมุดไดอารี่และอัลบั้มรูป พลันจ้องมองการกระทำของพ่อพีแบบไม่วางตา
.
ชายรุ่นใหญ่ผมสีดอกเลากระเสือกกระสนตัวเองกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง เขาเดินอ้อมโต๊ะตัวใหญ่ที่มีไว้ใช้ทานอาหาร พลันค่อย ๆ สอดมือเข้าไปยังช่องว่างด้านหลังระหว่างผนังกับตู้เย็น ก่อนจะได้ออกมาเป็นเสาเหล็กเล็ก ๆ ที่มีตะขออยู่ส่วนปลายด้านบน แล้วก็มีล้อสำหรับเลื่อนอยู่ด้านล่าง ใช่แล้ว! มันก็คือเสาให้น้ำเกลือที่เราเคยเห็นตามโรงพยาบาลนั่นแหละ แต่ของเหลวที่อยู่ในถุงกลับไม่ใช่น้ำเกลือหรือวิตามิน , ไม่ใช่เลือด , ไม่ใช่ยา , แต่เป็นเหล้าล้วน ๆ
.
“เอี๊ยดดดดดด..!”
เสียงลากล้อดังลากยาว พ่อจัดแจงจอดมันไว้ที่ข้างโต๊ะกินข้าว เหยียบเก้าอี้ขึ้นไปเทสุราเติมลงไปในถุงให้ล้นทะลัก ตามติดมาด้วยการไล่ลมสายยางแล้วก็ตรวจเช็คว่าเข็มแหลมพอหรือไม่
.
“ไง.. เริ่มจำได้แล้วใช่ไหม?”
นั่งลงบนเก้าอี้ กดหน้าลงต่ำจ้องเขม็งเข้ามาในแววตาแพรวที่ทั้งเลิ่กลักแล้วก็หวาดกลัว
.
.
“จึก!!!”
เข็มแหลมทิ่มลงมาบนท้องแขน ปล่อยกระแสสุราไหลธารเข้าสู่กระแสโลหิต แล้วพ่อก็กลับมาฟินอีกครั้ง
“หายใจดิพี่.. ลองหายใจดู!”เสียงโบ๊ทตะคอกอัดหน้า เขาสะบัดมือพึบพับโบกอากาศอัดใส่หน้าตัวเองให้แพรวดู.สาวหัวหน้าแคลนถูกช่วยเป็นรายสุดท้าย ร่างบางของเธอถูกวางลงบนพื้นอย่างละมุนละม่อน โดยโดรนอารักขาที่ใช้งานได้ในหลายรูปแบบ ตลิ่งดินกลายเป็นที่แลนด์ดิ้งที่ปลอดภัย เจนิสกับเพื่อน ๆ ปลดหน้ากากครอบแก้วออกหมดแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ โบ็ทเองก็เช่นกัน จะมีก็แต่แพรวที่ยังคงใส่หน้ากากกันแก๊สเวอร์ชั่นเก่าแก่ที่ได้มาจากบ้านของพีอยู่.“หายใจได้แล้วพี่แพรว! ที่นี่มีอากาศบริสุทธิ์ สุดยอดไปเลยพี่ ๆ ต้องลองดูด้วยตัวเองนะ”โบ๊ทย้ำเจตนารมณ์เดิม เขาผละตัวออกจากแพรวพลันชูแขนกระโดดโลดเต้น วิ่งไปรวมกลุ่มกับพวกเจนิสราวกับเด็ก ๆ ที่เห่อของเล่นใหม่ ทิ้งแพรวให้อยู่กับโดรนเพียงลำพัง ในสภาพที่มอมแมมเต็มขั้นเนื้อตัวเต็มไปด้วยดินโคลน.ลมโชยโบยแก้มกลิ่นธรรมชาติพัดแสงแรกแย้ม ชโลมผิวหนังเบิกดวงตาพราวสดใส ความเขียวขจีของทุ่งหญ้าช่อผกาโบกไสวปลิวสลวย นานแค่ไหนแล้วที่แพรวไม่ได้เห็นของแบบนี้เลยในมหานคร บ้านเรือนไทยทรงวินเทจตั้งเรียงรายอยู่บนริมท่า ชวนให้นึกถึงขุนช้างขุนแผนกับเหล่านางสีดาในวรรณคดี .“กึก!”สุดท้ายก็ต้องลอง หน้
“ผมทุบกระป๋องก๊าซได้รึยังพี่แพรว!”หนูน้อยป้องปากตะโกนถาม ภายใต้กระแสลมต้านที่พุ่งอัดเข้ามาอย่างรุนแรง .ณ ตอนนี้หัวเรือกำลังเชิดทำมุมราว 30 องศา มันแล่นแหวกอากาศและโดนน้ำทะเลน้อยมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะทุกครั้งที่แรงพุ่งจากก๊าซด้านหลังเริ่มซาลง ส่วนหน้าที่โบ๊ทรับผิดชอบอยู่ก็จะเป็นที่แรกที่โดน Covid-19 เล่นงานก่อนส่วนอื่น แพรวจึงรีบตะโกนตอบน้องกลับไปในเสี้ยวอึดใจ.“รอจังหวะให้เรือช้ากว่านี้อีกนิดแล้วจัดการเลยโบ๊ท! เราต้องทำงานให้สัมพันธ์กันนะ งั้นจะใช้ประโยชน์จากก๊าซได้ไม่เต็มที่!”“เราอาจจะหนีไปไม่พ้นเมืองหลวงก็ได้ ถ้าก๊าซในสต็อกเราหมดก่อน!”.“ครับพี่.. ผมเข้าใจแล้ว!”.ร่างเล็กของเด็กประถมก้มต่ำลงจนลำตัวแทบจะครูดกับพื้นเรือ โบ๊ทเจตนาจะทำให้ตัวเองสัมผัสโดนลมให้น้อยที่สุด พลันกระเถิบตัวขึ้นหน้ากระดืบ ๆ ไปราวกับตัวหนอน กระทั่งมาถึงจุดที่เป็นมุมสามเหลี่ยมตรงหัวเรือได้สำเร็จ ที่นี่เขาก้มลงไปมองผืนน้ำด้านล่างได้อย่างสบาย อ่านค่าความเร็วจากการกะด้วยสายตา แล้วทันทีที่เห็นว่าเรือเริ่มช้า เขาก็ได้ทุบก๊าซกระป๋องหนึ่งแล้วก็ปามันลงไป.“ตูมมมมม!!!!”.“ฟู่~~~!!!!!!!
“ซ่าาาา~!”เสียงโครงเรือยอร์ชที่ยังต่อไม่เสร็จกระทบผิวน้ำกระซ่านเซ็น พอดีกันกับโดรนอารักขาที่ใช้งานได้โคตรจะคุ้ม มันตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงออกไปหมดสิ้น พลันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อทำหน้าที่ฉายไฟส่องสว่างลงมา ราวกับสปอร์ตไลท์ตามสนามกีฬากลางแจ้ง.“แชะ! , แชะ!”.ราตรีกาลเข้าครอบครองท้องฟ้า ส่วนท้องธาราก็เป็นไปตามการคำนวณ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจริงเฉกเช่นที่แพรวฟันธงเอาไว้ ต่างคนต่างรีบกระโจนลงเรือ และแม้ตัวบอดี้จะโคลงเคลงหนักมาก แต่ก็นับว่าดีอย่างที่ยังพอจะแบกรับน้ำหนักของทุกคนไหว ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทักษะของช่างต่อเรือ หรือไม่ก็เศรษฐีเจ้าของทุนทรัพย์ เพราะลำพังก้าวแรกที่ย่ำลงมา แพรวก็เห็นแล้วว่าทุกส่วนของโครงสร้างล้วนทำขึ้นจากวัสดุชั้นเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น .เธอสั่งให้สองเด็กสาวเพื่อนเจนิสเอาเศษไม้แผ่นแบน ที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปมาทำเป็นที่คัดท้าย มีความโชคดีอย่างที่ของเหล่านี้ไม่ใช่ของหายากอะไรนัก ถ้าอยู่บนเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ หลังจากนั้นก็สั่งให้พวกเธอ Stand by รอคัดท้ายตามคำสั่งอีกที ก็เลยเหลือแต่เจนิสกับโบ๊ทที่ยังว่างงานและยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร.เรือค่อย ๆ แล่นออ
นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊
ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ
พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่