“เอาล่ะ! ถึงแล้ว เลิกกลัวได้แล้ว”
.
กำปั้นหนาทุบเข้ากับฝาผนังด้านข้าง และเพียงชั่วเสี้ยวอึดใจทุกอย่างรอบตัวก็สว่างโพลงขึ้น กลายเป็นภาพของห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์อันทันสมัย สายไฟระโยงระยางหน้าจอสถานะต่าง ๆ กระพริบวูบวาบราวกับห้องแล็บของคณะวิทย์ มีการจัดสรรเป็นโซนเป็นล็อคอย่างดี มีห้องนั่งเล่น , ห้องน้ำ , ห้องทำงาน , ห้องครัว ทำให้แพรวถึงกับต้องยืนอึ้งอยู่พักใหญ่
.
เธอปล่อยมือออกจากพ่อแล้วลองมองกลับไปข้างหลังดู ทำให้พบว่าก็ยังคงมืดตึดตื๋ออยู่เหมือนเดิม มิหนำซ้ำพอลองก้าวเท้าตามเข้ามาโดยพลัน จู่ ๆ ประตูอัตโนมัติก็เลื่อนเข้ามาปิดให้เองราวกับเซเว่นอีเลฟเว่น ดีที่ไม่มีเสียงติ๊งหน่อง แต่แค่นี้ก็ถือว่ามากพอแล้วที่จะทำให้เธอสับสน เรียนตามตรงว่าบริเวณดังกล่าวเหมือนกับห้องใต้ดินที่มีระบบการถ่ายเทอากาศเป็นอย่างดี อย่าว่าแต่โควิดเลยลึกขนาดนี้แม้แต่ขีปนาวุธก็ทำอะไรบังเกอร์นี้ไม่ได้
.
“ใช่! บังเกอร์! ที่นี่เหมือนบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยอะไรแนวนั้นไม่มีผิด! นี่พ่อแอบสร้างไว้เหรอคะ?!”
หญิงสาวเปล่งวาจาขึ้นถาม
.
ในขณะที่ลุงกลับเดินตรงเข้าไปยังส่วนที่กั้นไว้เป็นห้องนั่งเล่น พร้อมกับกวักมือเรียก
.
“ทำเป็นลืมไปได้โถ่เอ๊ย นี่น่ะคือห้องแล็บของเราไงนุช”
“พวกเราเคยทำงานให้บริษัท AP แต่ก็ต้องถูกไล่ออกเพราะเหตุอันไม่คาดฝัน เธอเลยนำโปรเจคที่ค้างอยู่กลับมาสานต่อที่นี่ แล้วก็ปิดทุกอย่างไว้เป็นความลับจำไม่ได้เหรอ?”
“แต่ก็ช่างมันเถอะ! มาสิ! มานั่งพักตรงนี้ก่อนอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย อุตส่าห์กลับมาทั้งทีเดี๋ยวฉันจะเข้าไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้นะ”
.
“อะ.. เอิ่ม.. ม.. ค่ะ”
แพรวรับลูกสวมรอย ด้วยความสัตย์จริงว่าเธอเองก็สงสัยอยู่ว่าพ่อของพีดื่มอะไรเข้าไปถึงได้เพี้ยนหนักเหลือเกิน แต่ครานั้นเธอก็ไม่ได้คิดว่าพ่อโกหกหรอก เพราะหลักฐานก็เห็นอยู่ทนโท่ โถงใต้ดินแบ่งพื้นที่ 70% เป็นห้องแล็บ มีโต๊ะวางของ , มีหลอดแก้วสำหรับใส่สารเคมี , บิกเกอร์ , ตะเกียงแอลกอฮอล์ , แล้วก็มีหน้าจอแสดงค่าต่าง ๆ ที่แพรวเองก็ไม่เข้าใจ ส่วนบริเวณที่เป็นโซนสำหรับพักผ่อนก็กินพื้นที่รวมกันแค่ 30% จากโถงใต้ดินทั้งหมดเท่านั้น
.
ซึ่งพอเอามารวมเข้ากับชุดข้อมูลที่พีเคยบอก ว่าพ่อของเขาเคยเป็นทีมนักวิจัยของบริษัท AP มาก่อนทุกอย่างก็ลงล็อคพอดี แพรวจำสติกเกอร์องค์กรที่แปะอยู่หลังรถกระบะบุโรทั่งที่จอดอยู่ข้างบนได้ เพียงแต่เธอไม่คิดมาก่อนว่าพ่อของพีจะยังทำงานแบบลับ ๆ และซ่อนทุกอย่างไว้ใต้ดินตรงนี้อยู่
.
เธอจุ่มก้นลงบนโซฟา พยายามกวาดสายตามองรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อประเมินสถานการณ์
.
“(ไป ๆ มา ๆ ดันไม่อยากจะหนีแฮะ ที่นี่น่าสนใจมากอย่างกับในหนังสายลับแหนะ กลับขึ้นไปเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ แล้วก็ไม่แน่ว่าบางทีไอ้บ้านไม้ผุ ๆ พัง ๆ ข้างบนก็อาจจะเป็นแค่ตัวหลอก มันอาจะเป็นแค่พร็อบเอาไว้ตบตาผู้คนทั้งที่ความจริงแล้ว พ่ออีพีอาจจะไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ข้างบนเลยก็ได้ ใต้ดินตรงนี้ต่างหากที่เป็นที่อยู่อาศัยหลัก)”
.
“(แล้วไหนจะเรื่องราวของแม่ที่ชื่อว่านุชอีก พีไม่เคยพูดถึงแม่ให้เราฟังเลยนี่นา ตายห่าล่ะ! นี่ฉันกลายเป็นเรดี้ขี้เสือกแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันควรจะมานั่งรับรู้เรื่องอะไรเหล่านี้ไหม พีก็ปลอดภัยแล้ว แล้วยาคุมฉุกเฉินของฉันล่ะเรื่องตัวเองยังไม่เคลียร์เลยนะแพรว!?)”
.
หล่อนพรั่นพรึงกับตัวเองในใจ โดยปฏิเสธไม่ได้ว่าพอสถานการณ์ภายนอกเริ่มปลอดภัยในหัวก็เลยฟุ้งซ่าน เดชะบุญที่คุณลุงแกเดินโซเซออกมาจากห้องพักพอดี แถมไม่ได้มามือเปล่า ผ้าขนหนูที่ว่าจะไปเอาก็ไม่ได้เอามา แต่ดันมาพร้อมกับสมุดบันทึกไดอารี่แล้วก็อัลบั้มรูปแทน
.
“อั๊ก.. ก.. ก อึก.. ก.. ก นุชจ๋านี่คือบันทึกที่ฉันจดไว้ แล้วก็รูปภาพของพีลูกรักของเรา ฉันจดทุกอย่างเอาไว้เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะกลับมา.. อึก.. ก.. ก.. ก”
“แล้ววันนี้ก็มาถึง.. อั๊ก.. ก.. ก.. ก”
สะอึกเป็นพัก ๆ น้ำเสียงตะกุกตะกัก ประหนึ่งว่าที่เข้าไปในห้องนั้นได้กระดกเติมลงท้องไปอีกกลม
.
แพรวก็เลยรู้สึกกระอักกระอ่วน เพราะอาจดูไม่เข้าท่าไปหน่อยหากเธอจะผิดมารยาทอ่านอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของคนอื่น เธอก็เลยพยายามที่จะเลี่ยง
.
“เอ่อ.. คือพ่อคะหนูไม่ใช่คุณนุชค่ะ.. หนูชื่อแพรวเป็นเพื่อนของพี.. หนูแค่..”
.
“อ๊อ! ผ้าเช็ดตัวใช่ไหม?! อั๊ยย่ะ! ลืมไปซะสนิทเลยฉันต้องไปเอาผ้าเช็ดตัวให้เธอนี่ รออีกแป๊บนะ!”
.
พ่องมึงตาย! “อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา” เห็นทีจะเป็นสำนวนไทยที่เข้าใกล้กับสิ่งนี้เป็นที่สุด เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะแทนที่แกจะเดินย้อนกลับไปที่ห้องเหมือนเก่า แกกลับดันเดินโซซัดโซเซเข้าไปในครัวซะอย่างงั้น ไปยืนคุยกับตู้เย็นต่ออีกสักพัก แล้วถึงได้เปิดมันออกมาจนเห็นเป็นไอเย็นโพยพุ่ง ไหนล่ะผ้าเช็ดตัว? พูดอะไรไปเหมือนสมองจะจำไม่ได้ ตอนนี้พ่อของพีก็เลยกลายเป็นไอ้แก่ขี้เหล้า มากกว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ในสายตาของเพื่อนลูก
.
“คออ่อนดื่มเหล้าแดง.. คอทองแดงกินเหล้าขาว.. คอเด็กสาวดื่มน้ำโค้ก.. อืม.. ม.. ม.. เธอจะดื่มอะไรดีล่ะนุช?”
สะบัดหน้าหันมาถาม ดวงตาแดงก่ำแต่ยังคงแฝงไปด้วยความหวังดี
.
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ..”
แพรวตอบแกมยิ้มแห้ง
.
ด้วยเพราะเห็นอย่างแจ่มแจ้งว่าลุงขึ้เมาก็แค่แกล้งถามไปส่ง ๆ จะเป็นไปได้ยังไงก็ในเมื่อตู้เย็นทั้งตู้แม่งมีแต่ขวดเบียร์เต็มไปหมด สาบานได้ว่าแพรวนี่คิดถึงพีขึ้นมาเลย ทักษะขี้เมาของเขาแทบไม่ต้องสืบก็รู้ว่าคงถ่ายทอดมาทางรหัสพันธุกรรม
.
พ่อของกระเทยหนุ่มตัวดำกินเหล้าต่างน้ำ ความเมาที่แผ่ซ่านน่าจะทำให้เขาลืมภรรยาที่จากกันไปนานแสนนานลงได้ แกก็เลยมีแต่ดื่มแล้วก็ดื่ม ขวดพร้อมแก้วพร้อม ลีโอเหน็บรักแร้ขวา ช้างเหน็บรักแร้ซ้าย ปากคาบแก้วเดินย่องแย่งเอามาวางลงตรงโต๊ะไม้เล็ก ๆ ด้านหน้าโซฟาเบื้องหน้าแพรว
.
“ตรึม!!!”
ดั่งเหมือนจงใจกระแทก แต่เปล่าหรอกไม่ได้เจตนาดูหมิ่นดูแคลนอะไรทั้งสิ้น พ่อก็แค่เมาจนกะน้ำหนักมือตัวเองไม่ถูก
.
“เบียร์เย็น ๆ จะทำให้เราอุ่นขึ้น แอนติบอดี้ในร่างกายมีค่าเป็นเบสเมื่อทำการควบแน่นกับกรดอะซิติกที่ทรานซิสชั่นออกมาจากแอลกอฮอล์ นั่นจะทำให้เธอรู้สึกดี~ ฟิน~ เหมือนถึงจุดสุดยอด~ อัก.. ก.. ก.. อึก.. ก.. ก.. นี่คือของขวัญต้อนรับการกลับบ้านจากฉัน~ โอเคมั้ย~!”
.
“จ๊อก.. ก.. ก.. ก..”
จัดแจงรินเบียร์ใส่แก้วให้เรียบร้อย พลางยื่นส่งให้แพรวเองกับมือ
.
ฝั่งหญิงสาวก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ เจอสำนวนคำพูดแบบนักวิทย์เข้าไป ถึงจะรู้ว่ามีลูกมั่วตบตาอยู่บ้างแต่แพรวก็ไม่อยากที่จะขัดน้ำใจ ดื่มพอเป็นมารยาทหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง พ่อคงไม่มอมเธอหรอก เพราะดูลักษณะแล้วอีกไม่นานคงจะเป็นเขาเองต่างหากที่น่าจะตกเป็นภาระของเธอ ขี้คร้านฟื้นสติขึ้นมาจะหาว่าแพรวบุกรุกเอาสิไม่ว่า
.
“อึก.. ก.. ก.. ก ๆ ๆ”
.
“อ่าาา~ หวานมากค่ะพ่อ”
“แล้วพ่อล่ะคะไม่เอาสักหน่อยเหรอ?”
.
นี่สิคนจริง! หล่อนท้ากลับราวกับอยากวัดรอยเท้า
.
“จุ ๆ ๆ นู๊ชชชช นุช!.. นุช!.. นุช!.. นุช!”
“เธอนี่ช่างไม่รู้อะไรเลย จากไปนานจำไลฟ์สไตล์ฉันไม่ได้ซะแล้ว อืม.. ม.. ม.. , อัก.. ก.. ก.. ก”
“แฮ่มมม.. แก้วน่ะมันใช้กับฉันไม่เคยพอหรอก..ก..ก คนดี~!”
.
จบประโยคดังกล่าวสีหน้าแพรวก็ถึงกับเปลี่ยนสี เธอวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะข้างกันกับสมุดไดอารี่และอัลบั้มรูป พลันจ้องมองการกระทำของพ่อพีแบบไม่วางตา
.
ชายรุ่นใหญ่ผมสีดอกเลากระเสือกกระสนตัวเองกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง เขาเดินอ้อมโต๊ะตัวใหญ่ที่มีไว้ใช้ทานอาหาร พลันค่อย ๆ สอดมือเข้าไปยังช่องว่างด้านหลังระหว่างผนังกับตู้เย็น ก่อนจะได้ออกมาเป็นเสาเหล็กเล็ก ๆ ที่มีตะขออยู่ส่วนปลายด้านบน แล้วก็มีล้อสำหรับเลื่อนอยู่ด้านล่าง ใช่แล้ว! มันก็คือเสาให้น้ำเกลือที่เราเคยเห็นตามโรงพยาบาลนั่นแหละ แต่ของเหลวที่อยู่ในถุงกลับไม่ใช่น้ำเกลือหรือวิตามิน , ไม่ใช่เลือด , ไม่ใช่ยา , แต่เป็นเหล้าล้วน ๆ
.
“เอี๊ยดดดดดด..!”
เสียงลากล้อดังลากยาว พ่อจัดแจงจอดมันไว้ที่ข้างโต๊ะกินข้าว เหยียบเก้าอี้ขึ้นไปเทสุราเติมลงไปในถุงให้ล้นทะลัก ตามติดมาด้วยการไล่ลมสายยางแล้วก็ตรวจเช็คว่าเข็มแหลมพอหรือไม่
.
“ไง.. เริ่มจำได้แล้วใช่ไหม?”
นั่งลงบนเก้าอี้ กดหน้าลงต่ำจ้องเขม็งเข้ามาในแววตาแพรวที่ทั้งเลิ่กลักแล้วก็หวาดกลัว
.
.
“จึก!!!”
เข็มแหลมทิ่มลงมาบนท้องแขน ปล่อยกระแสสุราไหลธารเข้าสู่กระแสโลหิต แล้วพ่อก็กลับมาฟินอีกครั้ง
“เอาล่ะ! ถึงแล้ว เลิกกลัวได้แล้ว”.กำปั้นหนาทุบเข้ากับฝาผนังด้านข้าง และเพียงชั่วเสี้ยวอึดใจทุกอย่างรอบตัวก็สว่างโพลงขึ้น กลายเป็นภาพของห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์อันทันสมัย สายไฟระโยงระยางหน้าจอสถานะต่าง ๆ กระพริบวูบวาบราวกับห้องแล็บของคณะวิทย์ มีการจัดสรรเป็นโซนเป็นล็อคอย่างดี มีห้องนั่งเล่น , ห้องน้ำ , ห้องทำงาน , ห้องครัว ทำให้แพรวถึงกับต้องยืนอึ้งอยู่พักใหญ่.เธอปล่อยมือออกจากพ่อแล้วลองมองกลับไปข้างหลังดู ทำให้พบว่าก็ยังคงมืดตึดตื๋ออยู่เหมือนเดิม มิหนำซ้ำพอลองก้าวเท้าตามเข้ามาโดยพลัน จู่ ๆ ประตูอัตโนมัติก็เลื่อนเข้ามาปิดให้เองราวกับเซเว่นอีเลฟเว่น ดีที่ไม่มีเสียงติ๊งหน่อง แต่แค่นี้ก็ถือว่ามากพอแล้วที่จะทำให้เธอสับสน เรียนตามตรงว่าบริเวณดังกล่าวเหมือนกับห้องใต้ดินที่มีระบบการถ่ายเทอากาศเป็นอย่างดี อย่าว่าแต่โควิดเลยลึกขนาดนี้แม้แต่ขีปนาวุธก็ทำอะไรบังเกอร์นี้ไม่ได้.“ใช่! บังเกอร์! ที่นี่เหมือนบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยอะไรแนวนั้นไม่มีผิด! นี่พ่อแอบสร้างไว้เหรอคะ?!”หญิงสาวเปล่งวาจาขึ้นถาม.ในขณะที่ลุงกลับเดินตรงเข้าไปยังส่วนที่กั้นไว้เป็นห้องนั่งเล่น พร้อมกับกวักมือเรียก.“ทำเป
ชานระเบียงหน้าบ้านยังคงเปิดรับ แม้จะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวแต่บ้านของพีหลังนี้ก็มีพื้นที่สำหรับรับแขกที่มากในระดับที่น่าพอใจ มันไม่กว้างหรือแคบเกินไปแต่ก็มีข้อดีตรงที่โควิดยังกัดกินเข้ามาไม่ถึงตรงนี้ ฝนที่เริ่มตกหนักบวกกับลมที่พัดรุนแรงถูกหลังคาเสริมเหล็กด้านบนขวางกั้นเอาไว้หมด ด้วยความบริสุทธิ์ใจจากมุมมองภายนอก แพรวเห็นหยดน้ำเป็นสายธารหลากลงมาตามร่องกระเบื้องมุงหลังคา ก่อนจะหยดลงมาเป็นสายตกกระทบชิ่งลงดินเกิดเป็นควันฟดฟู่.“ฟู่~~~~!”.“อ๊ายยย! ถ้าโดนเข้าไปผิวเราเป็นรอยแน่!”นักศึกษาสาวคิดในใจ พลันเบี่ยงตัวตะแคงข้างกระโจนขึ้นไปเหยียบบนชานระเบียงที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด.โดยลืมไปซะสนิทว่าพื้นดังกล่าวเป็นไม้ ลำพังแค่ก้าวขึ้นไปเหยียบเบา ๆ เหมือนตอนแรก ไม้ระแนงที่รับน้ำหนักตัวก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเลือนลั่นแล้ว แต่นี่เล่นกระโดดขึ้นไปแบบโครม ๆ โถมน้ำหนักตัว คิดเหรอว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบเดียวกัน.“แอ๊ดดดดดด!!! , เอี๊ยดดดดดดด! , แอ๊ดดดดดดด!!!”.“ชิบหายแล้ว!”ดวงหน้าสะบัดปอยผมเปียก ๆ กระพรือสลวยก่อนจะมองไปในทิศเบื้องขวา ณ ตำแหน่งที่ห่างจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่ราว 2 - 3 เมตร แน่นอนว่ามันคือจ
“ฟ้า~! ฟ้าไม่ส่งมา~! ให้เธอมีใจ! บอกกันสักคำเป็นไร ว่าเหตุใดเธอมาทำร้าย ♪ ”.เป็นเพลงเก่าของวง Tattoo color ที่เสร่อร้องออกมาแบบผิด ๆ ถูก ๆ เพราะเนื้อแท้แล้วก็แค่อยากจะข่มใจตัวเองไม่ให้กลัว ไหน ๆ ก็อุตส่าห์หนีตาลุงชั่วมาได้แล้ว ครั้นจะหันหลังกลับไปก็ดูจะไม่สมเหตุสมผล นี่คือสิ่งที่แพรวกำลังคิดอยู่ในหัว เธอยังคงเชิดหน้าเดินลัดสนามหญ้าหน้าบ้านออกมา ทั้งที่ภายในหน้ากากยังแสดงตัวเลขแจ้งเตือนว่าอากาศใกล้จะหมดเป็นสีแดงสว่างโพลง .“ไม่รู้ล่ะ! ยังไงซะเราก็ต้องมองหารถสักคันที่พอจะพาเราไปจากที่นี่ได้"แพรวรำพึงในใจ ทว่าฟ้าก็ดันร้องออกมาสอดคล้องกับเม็ดฝน ที่พรมลงมาหนาเม็ดขึ้นเรื่อย ๆ .“ครืมมม! , โครมมม! , ครืมมม! , ครืมมม!” "ซ่าาาา! , ซ่าาาา! , ซ่าาาา!" .“ฝนก็ตก! รถก็ไม่มีสักคัน! โดนกระเทยปล้ำ! แถมยังมาโดนพ่อเขาลวนลามอีก นี่มันวันซวยอะไรของฉันเนี่ยะ แล้วจนป่านนี้ก็ยังหายาคุมฉุกเฉินกินไม่ได้เลย ให้ฉันท้องด้วยเลยไหมล่ะ? ทำไมพระเจ้าถึงไม่เข้าข้างฉันเลย!”.ประชดชีวิตได้แค่แป๊บเดียว ฟ้าเบื้องบนที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ก็ได้สำแดงเดช ด้วยการผ่าโครมลงมาใส่ตึกแถวที่ขนาบข้างบ้านของพี."เปรี๊ยงงง
“แกร๊ก! ๆ , แอ๊ดดด!”.ดูท่าจะไม่ทันการณ์ซะแล้ว เพราะทันทีที่สายถูกตัดไปประตูไม้หน้าบ้านก็อ้ากว้างออกแทบจะทันที หญิงสาวผงะหงายหลังให้แก่ชายร่างโย่งคนหนึ่ง ที่แม้จะเคยเห็นหน้ากันมาแล้วหนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่การพบกันแบบประจันหน้าสองต่อสองในลักษณะนี้ แพรวจึงพยายยามเลี่ยงด้วยการชูโทรศัพท์ขึ้นมาประกบนาบกับสองฝ่ามือ แล้วผงกหัวไหว้ไปแบบส่ง ๆ พอเป็นพิธี.“สะ.. สวัสดีค่ะคุณพ่อ.. พอดีหนูว่าจะมาหาพีแต่ตอนนี้เหมือนมันจะไม่อยู่?”.“อะ.. แฮ่ม.. ม.. ม.. อืม พีไม่อยู่จริง ๆ นั่นแหละ ว่าแต่เธอเป็นใคร? ฉันไม่เห็นจำได้ว่าเราเคยรู้จักกัน.. อืม.. ม.. ม..”เสียงอู้อี้ในลำคอซุ่มเสียงสำเนียงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมาเต็มขั้น นี่ถ้าไม่ได้วงกบประตูค้ำไว้ล่ะก็ป่านนี้พ่อของพีคงล้มกระเท่เร่ไปแล้ว.“คือหนูเป็นเพื่อนพีค่ะ.. เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งแล้วตอนที่พ่อมาเคลียร์กับด่านตรวจโควิดให้ แต่ถ้านึกไม่ออกก็ไม่เป็นไรนะคะคือหนูจะกลับแล้ว บังเอิญมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ขอโทษที่มารบกวนจริง ๆ ค่ะคุณพ่อ..”โน้มตัวลงสนทนาอย่างสุภาพอ่อนน้อม และต่อให้เบื้องหน้าจะเป็นไอ้ขี้เหล้าเมายาแต่อย่าลืมกันสิว่าถ้านับตามศักดิ์แล้วล่ะก็ เขา
ม่านควันจางหายไปคล้ายลมหมอก ทุกอย่างขาวโพลนประหนึ่งชายหนุ่มหญิงสาวที่จูงมือกันในงานวิวาห์สมรส ทว่าตอนนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น พีกระเสือกกระสนดึงศีระตัวเองออกมาจากเครื่อง ฝ่าเท้าของเขาประทับแนบกับพื้นคอนกรีตฟุตบาทได้อย่างมั่นคง แม้จะยังมึนหัวอยู่สักหน่อย.ทัศนวิสัยค่อย ๆ ปรับชัดขึ้นทีละนิด ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First person) ด้านในหน้ากากครอบแก้วจะมีตัวเลขแสดงค่าความเข้มข้นของโอโซนอยู่ตรงมุมบนด้านขวา ซึ่งจะแทนค่าความบริสุทธิ์ด้วยเฉดสีและตอนนี้มันก็เป็นสีฟ้าน้ำทะเล บ่งบอกว่าภายในหน้ากากทรงหมวกกันน็อคอันนี้คือสะอาดสุด ๆ เชื้อโรคสักตัวก็เข้ามาไม่ได้ เสียอย่างเดียวตรงที่มีกำหนดระยะเวลานับถอยหลังอยู่.“ติ๊ก! , ติ๊ก! , ติ๊ก! , ติ๊ก! , ติ๊ก!”.“ฟืดดด.. ด.. ด.. ด.. ด , ฮืดดด.. ด.. ด.. ด , ฮาดดด.. ด.. ด.. ด”พีเร่งสูดลมหายใจโดยพลัน.“ชิ! นี่แหละธุรกิจ! นี่แหละโลกแห่งทุนนิยม! ถ้าใช้ซ้ำได้บริษัท AP ก็คงไม่รวยระเบิดระเบ้อขนาดนี้ ฉันล่ะอิจฉาเธอจริง ๆ เลยมิวท์ รวยขนาดนี้ทำไมถึงเอากับแฟนเพื่อนได้นะ!”คิดในใจไปพลางโดยไม่ฉุดคิดสักนิดว่าตัวเองก็เพิ่งผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนมาหยก ๆ พีเร่งอ้าปากงับ
เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ของผู้คนหลากหลายหน่วยยังคงอึกทึก รอบตัวมั่วซั่วโกลาหลวิ่งกันให้วุ่นจนพีแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ชุด PPE ปลอดเชื้อสีเขียวกระจายตัวอยู่กลาดเกลื่อน แล้วก็เป็นความจริงที่ว่าจากที่ซ่อนด้านหลังพุ่มไม้ตรงนี้ สายตากระเทยหนุ่มแทบมองไม่เห็นพลเมืองคนอื่นเลย ทุกคนคงล็อคดาวน์ตัวเองและขังตัวตนหลีกเลี่ยงการติดเชื้อกันหมด และขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปสภาวะเสี่ยงสูงจากการโดนจับก็คงตกเป็นของเขา.“แหงล่ะ! ก็ฉันมันสาวประเภทสองนี่นา~! เช๊อะ!”ชายหนุ่มพยายามใช้คำที่สุภาพเมื่อพูดกับตัวเอง เขาให้เกียรติเพศสภาพตัวเองเสมอ แม้ตอนนี้เพื่อนร่วมอุดมการณ์จะถูกจับใส่กรงไม่ต่างจากหมาแลกกะละมังที่เห็นกันตามชนบท.“จริงสิคิดออกแล้ว! บริษัท AP เขามีแอพพลิเคชั่นด้วยนี่นา ถ้าเรากดเข้าไปในแอพจะมีสินค้าของบริษัทวางขายแบบออนไลน์ แล้วในโหมดแผนที่ก็จะมีที่ตั้ง shop ต่าง ๆ อยู่ ที่นั่นมีตู้หน้ากากหยอดเหรียญวางอยู่ด้านหน้าเสมอ”“โป๊ะเช๊ะ! นี่แหละใช่เลย!”.สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ ประหนึ่งแสงแห่งชัยชนะพุ่งเสยออกมาจากกอไม้ พีดีใจมากพลันชะเง้อคอมองซ้ายแลขวาเช็คว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจ ก่อนจะควักโทรศัพท์ปาดนิ้วหาแอพ