“ว๊ายยย! , กรี๊ดดด! , บัดสีบัดเถลิง!”
.
หน้าแดงแปร๊ดสลับกับการยกมือขึ้นมาปิดป้องเลี่ยงสายตาหันไปทางอื่น ไม่คิดไม่ฝันว่าแพรวจะให้มาเห็นอะไรแบบนี้ กิจกรรมเริงสวาทระหว่างชาย Vs ชายยังคงดำเนินต่อไปต่อเนื่อง สองคนในห้องคอนโทรลกำลังร่วมรักกันอย่างเมามันส์ ชนิดที่แม้จะรู้ตัวว่ามีเด็ก ม.ต้น มองอยู่ แต่พวกเขาก็หยุดกล้ามเนื้อก้นกบของกันและกันไว้ไม่ได้
.
เสียงครางเปลี่ยนเป็นคำราม จากหน้าสู่หลังท่อนเอ็นแห่งการสืบพันธุ์ระดมยัดใส่รูทวารราวกับโหยหากันมาตลอดชีวิต เจนิสทำใจไม่ได้เธอทนเห็นของพรรค์นี้ต่อไปไม่ไหว เลยได้แต่ขอร้องวิงวอนต่อแพรวผู้เป็นหัวหน้าแคลน ว่าได้โปรดนำเธอออกจากพื้นที่ตรงนี้ที เธอไม่อยากเห็นมัน แม้ยุคสมัยนี้เสรีภาพเรื่องรสนิยมทางเพศจะเปิดกว้างมากแล้วก็ตาม
.
“ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! ,ตับ! , ตับ! , ตับ!”
.
“กรี๊ดดด! อีกแล้วอ่ะพี่! พี่ ๆ เขาเร่งอีกแล้ว! พี่แพรวคะหนูขอร้องล่ะ! พาหนูขึ้นไปคุยกันต่อข้างบนก็ได้ หนูยินดีจะรับฟังพี่ทุกอย่างเลย จะไม่เถียงไม่ตอบโต้อวดดีอะไรอีกแล้ว หนูเข้าใจแล้วค่ะว่าพี่อยากจะให้หนูเห็นของจริงแบบสมจริงแจ่มชัด”
“อือ~ แต่แบบนี้มันน่ากลัว.. นี่นา~! , อี๋~!”
.
สาวน้อยโผเข้ามากระชากแขนเรียวแบบไม่คิดชีวิต เสียงคำรามแบบสัตว์เดียรัจฉานของชายสองคนยังคงดังไล่หลังทำเอาแพรวถึงกับหลุดขำ เพราะยังไงซะเจนิสก็ยังเป็นเด็กอยู่มาก น้องแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว สุดปัญญาที่แพรวจะต้องใจอ่อนและตกปากรับคำ
.
“โอเค ๆ ก็ได้ ๆ กลับขึ้นไปข้างบนกัน จำคำพูดเมื่อกี้เอาไว้ด้วยล่ะว่าสัญญาอะไรไว้!”
.
“ค่ะ! หนูรับปากเลย ตอนนี้เราขึ้นไปให้พ้นจากตรงนี้ก่อนเถอะ พวกเขาก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้วทำไมถึงแยกแยะไม่ออกนะว่าผู้ชายเขาไม่ควรจะมีอะไรกันเอง พี่แพรวนะพี่แพรว.. พี่อ่ะแกล้งหนู~!”
.
.
เจนิสจับมือเดินตามหลังมาไม่ห่าง แพรวหัวหน้าแคลนพาน้องเดินขึ้นบันไดย้อนกลับมาที่เดิม ณ ตำแหน่งที่เพื่อน ๆ ทั้งกลุ่มกำลังจัดเตรียมที่นอนเอาไว้ให้พักผ่อน และก่อนจะถึงที่หมายแพรวก็เลยจัดแจงอธิบายเรื่องราวเมื่อครู่ให้เจนิสเข้าใจ เพื่อที่น้องจะได้เอาไปเล่าต่อให้แก่พวกเพื่อน ๆ การกระจายข่าวสารจะได้ครบสมบูรณ์ภายในค่ำคืนนี้
.
“ตั้งใจฟังนะเพราะพี่จะพูดแค่รอบเดียว ว่าไอ้ที่เธอเห็นน่ะมันไม่ใช่เซ็กส์ธรรมดา! มันอาจจะเป็นแค่การสังวาสหากมองผ่าน ๆ แต่ที่จริงแล้วมันคือกระบวนการ “ถ่ายทอดเชื้อ!” ”
.
ปล่อยมือออกโดยพลัน ตรงหัวมุมบันไดเลื่อนชั้นบนที่จอดแน่นิ่งเจนิสนิ่งพอ ๆ กับมัน เธอสะดุดหูเหลือเกินกับคำว่าการถ่ายทอดเชื้อ มีกรรมวิธีแบบนี้บนโลกด้วยเหรอ ติดก็ติดสิ! ติดแล้วจะแบ่งเชื้อให้คนอื่นเพื่อที่ตัวเองสบายขึ้นได้ไง? มันไม่น่าจะเป็นไปได้ แพรวจึงเริ่มอธิบายต่อ
.
“ใช่! ฉันรู้ว่าฟังดูแปลก! แต่พวกเราก็พิสูจน์กันมาแล้วสักระยะ ในแคลนนี้ไม่ได้มีแต่คนที่บริสุทธิ์ปลอดเชื้อ แล้วเราก็ไม่ได้มีก๊าซกระป๋องจำนวนมากพอเพื่อใช้ต่อต้าน กระบวนการถ่ายทอดนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญระหว่างสมาชิกแคลน 2 คนที่ต่างก็หลงรักกัน"
"พวกเขาติดเชื้อระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะรุนแรงที่สุด ซึ่งเราก็ได้ตัดสินใจทิ้งพวกเขาไว้ ส่วนพวกเขาเองก็เลือกที่จะถูกทิ้งโดยสมัครใจ เพราะอยากอยู่ด้วยกันในวาระสุดท้ายและไม่ต้องการเป็นภาระให้แก่ผู้อื่น”
.
“แบบคุณตาคุณยายที่กอดกันตาย ตอนเรือไททานิคจมน่ะเหรอคะ?”
.
“ช่ายยย! ไม่ยักรู้ว่าเธอเกิดทันหนังเรื่องนี้ด้วย?!”
.
“ไม่ทันหรอกค่ะ! แต่หนูได้ดูใน Net Flix ตอนโควิดระบาดใหม่ ๆ รัฐบาลเขาล็อคดาวน์ แล้วตอนนั้นเสาส่งสัญญาณ 5G ก็ยังไม่หักโค่นเพราะถูกเชื้อกัดกินแบบทุกวันนี้ ”
.
“อืม.. ม.. ม”
แพรวพยักหน้าเธอผายมือลงไปข้างล่างมุ่งไปยังชาย 2 คนที่ยังคงซอยบั้นเอวกระแทกกระทั้น อุปมาจะใช้พวกเขาเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบ
.
“ 2 คนที่ฉันพูดถึงไม่ใช่ชาย 2 คนที่อยู่ข้างล่างหรอก พวกเขาเป็นคู่รักหญิงชายตามธรรมชาติที่อยู่ด้วยกันแบบติดเชื้อมาได้อีกหลายเดือน สันนิษฐานว่าการร่วมรักระหว่างกันจะช่วยยื้อชีวิตของกันและกันเอาไว้ ตัวเชื้อน่าจะถูกถ่ายเทไปมา คงมีการแลกเปลี่ยนโควิดผ่านน้ำกามและกระแสโลหิตผสมปนเปกันจนยื้อชีวิตให้อยู่รอดมาได้ และพวกเขาก็เพิ่งเสียชีวิตลงเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ๆ ที่เธอกับเพื่อน ๆ จะมาถึงที่นี่”
.
“อ่าว! สุดท้ายก็ตายอยู่ดี!?”
.
“ก็ใช่! แต่ประเด็นคือการมีเพศสัมพันธ์จะยืดเวลาการกัดกินของเชื้อ ทำให้มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น สรรพคุณจึงเทียบเท่ากับก๊าซจากเลือดกระเทย ที่บริษัท AP ผลิตออกมาขายยังไงล่ะ นี่ต่างหากคือสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อ ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนอื่น ๆ ในเมืองรู้ทริคนี้กันรึเปล่า? แต่สำหรับคนในแคลนเราแล้วพวกเราจำสิ่งนี้ได้แม่น เราแทบจะไม่เคยทิ้งใครไว้เบื้องหลังเลย เราอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัว”
.
แพรวทอดสายตาลงไปเบื้องล่าง คราวนี้หล่อนจ้องมองไปยังชายกับชายสมาชิกที่ยังคงคำรามด้วยความซ่านเสียว
.
“ 2 คนข้างล่างไม่ได้รักกันเลย พวกเขาแค่ติดเชื้อและพยายามจะทำเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอดต่อไป เธออาจจะเห็นความเสียวนะแต่สำหรับฉันแล้วฉันเห็นแต่ความน่าสงสาร ไม่มีใครอยากตายหรอกเจนิส ฉันเองก็เหมือนกัน”
.
เย็นเยือกจับจิตเจนิสกลืนน้ำลายลงคอ บุคลิกของแพรวที่เปลี่ยนไปนั้นช่างทำให้เธอสงบ แพรวเหมือนผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้และมีแต่ความหวังดีที่มอบให้แก่ทุกคน ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครต่างก็เชื่อฟังในสิ่งที่แพรวตัดสินใจ ท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่จวนจะล่มสลายเยี่ยงนี้จะหาใครที่ทำเพื่อผู้อื่นแบบนี้ได้ ครั้นจะมีแต่คนที่เห็นแก่ตัวและหวังผลประโยชน์แบบบริษัท AP สิไม่ว่า เจนิสจึงมั่นใจแล้วว่าอย่างน้อยเธอกับเพื่อนก็คงจะรวมกลุ่มกับแพรวไปสักพัก ประสบการณ์จากรุ่นใหญ่น่าจะช่วยพวกเธอได้ แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปค่อยว่ากันอีกที การเลิกทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาและทำตามที่พี่เขาบอกน่าจะดีที่สุด
.
แต่ครานั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก เจนิสก็ยังสงสัยอยู่ดีจึงลองถามขึ้น
.
“เอ่อ.. คือ.. พี่แพรวคะ คือ.. หนูสงสัย.. ว่า”
.
“อะไร?! ไหนสัญญาแล้วไงว่าจะฟังอย่างเดียว!”
แพรวผินหน้ามาดุใส่
.
“ขะ.. ขอโทษค่ะ”
เจนิสก้มหัวหลบแทบไม่ทัน เธอผสานมือไว้บนหน้าขาทอดสายตาใสซื่อชำเลืองมอง
.
“โถ! เจนิสน้อยผู้น่าสงสาร ฉันล้อเธอเล่นหรอกน่า มีอะไรสงสัยก็ถามมาเถอะเสร็จแล้วจะได้แยกกันไปนอน ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย”
.
รอยยิ้มสวยปรากฏขึ้นบนใบหน้า ตาเป็นประกายเจนิสเลยถามขึ้นทันที
.
"คืองี้ค่ะพี่แพรวที่หนูจะถามก็คือ ทำไมพี่ต้องบอกเรื่องนี้แก่หนูด้วยคะ?"
“หรือพวกพี่จะ “เอา” พวกหนู?”
.
“จะบ้าหรอ!?”
“ยัยบ๊อง! เอาอะไรคิด?! ใครจะบ้าคิดอะไรกับเด็กแบบนั้นกันเล่า!”
แพรวถึงกับต้องอุทานเสียงดัง มันดังซะจนได้ยินไปถึงข้างล่าง ทำเอาการปฏิสนธิผ่านรูทวารเพื่อกระจายเชื้อถึงกับต้องสะดุด
.
เจ้าของแคลนรีบโน้มตัวลงมาใกล้ พลางวางมือลงบนไหล่ในท่วงท่าที่ทั้งอ่อนโยนและอบอุ่น
.
“ฟังนะแม่หนูน้อยที่ฉันบอกก็เพราะอยากให้ทุกคนรู้ในทริคนี้เหมือน ๆ กัน ฉันไม่อยากมีความลับกับใคร เราคือทีม เราคือครอบครัว โลกข้างนอกมันแย่พอแล้ว เราต่างไม่รู้ว่าจะมีชีวิตกันได้อีกนานเท่าไหร่จึงควรจะรักกันไว้ ฉันรู้อะไรฉันบอกหมดไม่มีปิดบัง สบายใจได้และโปรดไว้ใจฉัน”
“หน้าที่ของเธอคือต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อน ๆ ฉุกเฉินขึ้นมาถ้าไม่มีก๊าซกระป๋องก็ยังมีกระบวนการกระจายเชื้อด้วยเซ็กส์อยู่ อย่าเพิ่งหมดหวังและท้อแท้ไป ลากันตรงนี้แยกย้ายกันไปนอนฉันจะกลับไปเตรียมแผนสำหรับตอนเช้า เท่านี้พอทำได้ใช่ไหม? และโปรดอย่ามีคำถามอะไรอีกเลยได้โปรด”
.
“คะ.. ได้ค่ะ หนูทำได้สบายมาก”
.
ออร่ามาเต็มบารมีผู้นำถาโถมแรงกดดันใส่เจนิสอย่างหน่วงหนัก เธอแทบจะรับคำแบบไม่ต้องคิด ชั่วขณะจิตที่แพรวหักเดินไปทางซ้ายเพื่อกลับเข้าโซนที่พักส่วนตัว เจนิสก็เลือกที่จะเดินเลี้ยวมาทางขวาเพื่อกลับมายังตำแหน่งที่เพื่อนมัธยมตระเตรียมที่นอนเอาไว้ให้
.
ทางเดินตรงโล่งสบายไม่ต้องกลัวหลงแต่ทำไมในใจมันถึงเป็นงง ๆ เจนิสรู้สึกระส่ำใจหวิว เหมือนเธอจะได้ยินเสียงแว่วอนาจารจากชายสองคนเบื้องล่างดังอยู่ในหัว และแว๊บหนึ่งจู่ ๆ ก็มีแสงสีขาววาบแพร่บขึ้นมาในใจ
.
“วิ๊ง~!”
.
ภาพการร่วมรักระหว่างเธอกับแพรวปรากฏขึ้น ฉากหลังเป็นห้องคอนโทรลบนหน้าปัดปุ่มกดกลายเป็นตัวเธอเองที่นั่งเปลือยอยู่ด้านบน แพรวโน้มตัวลงมาใกล้พลันเริ่มใช้ริมฝีปากจูบพรมลงที่ซอกคอ
.
“อร๊ายยย! ฉันคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ยะ! พอ ๆ ๆ ลืมหมดแล้วว่าต้องบอกอะไรเพื่อนบ้าง!”
เขาคนดังกล่าวผละตัวออกมาจากแผงคอนโทรลพร้อม ๆ กับจอมอนิเตอร์ที่ค่อย ๆ ดับแสงลง เขาใช้หลังเท้าแหวกเขี่ยผู้คนที่นอนเกะกะขวางทางอยู่บนพื้นออก และบางจังหวะก็ถึงกับเตะวิทยุสื่อสารออกจากมือของเจ้าพวกนั้น เพื่อไม่ให้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากหน่วยเสริมได้.“เงียบไปเลยเจ้าพวก AP ชั่ว! ตอนนี้หอดูดาวแห่งนี้ได้ถูกฉันยึดครองไว้หมดแล้วโว่ย!".“เปรี๊ยง!”รวบรวมพลังกระทืบวิทยุวอร์คกี้ทอล์คกี้จนแตกเป็นเสี่ยง ต่อด้วยการหวดหลังเท้าเตะเข้าที่ปลายคางจนศัตรูสะบัดคอพับ!.โหดจริงอย่างจริงจังขนาดอยู่ตัวคนเดียวยังเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ จินตนาการไม่ออกเลยว่าหลังจากผลักบานประตูหอดูดาวแห่งนี้ออกไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับแคลนของแพรวบ้าง เหมือนเขาจะล็อคเป้าเอาไว้แล้ว ความหอบเหนื่อยที่ไม่ทราบสาเหตุเองก็เหมือนจะค่อย ๆ หายไปทีละนิดทีละน้อย และเมื่อกำลังวังชาฟื้นกลับมาครบ เขาคนเดิมก็น่าจะพร้อมต่อการออกไปเผชิญกับโลกภายนอกโดยทันที.“วู้ววว!”“เอาล่ะ.. ไปกันเลยดีกว่า”"ฮึบ!".“แอ๊ดดด!”เสียงประตูเหล็กแง้มเปิดออกแสงสว่างของแดดเช้าแลบผ่านเข้ามาแยงตา ก่อนที่สักพักต่อมา Riot โดรนจำนวน 3 ลำจะบินโฉบขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า ในท่วงท่าฉ
“นี่พูดจริงเหรอครับน้องแพรว เมื่อวานเรายังต้านพวก AP ได้อยู่เลย น้องเจรจากับพวกเขาได้นี่ พี่ว่ายังเร็วไปนะที่เราจะหนี!”ถ้อยคำขลาดเขลาจากชายในแคลนตะเบ็งออกมาต่อหน้าทุกคน ณ ตอนนี้สมาชิกทั้งหมดได้แพ็คกระเป๋าและมายืนกระจายตัวอยู่เต็มสถานีชั้นล่างแล้ว ผนังโล้นโล่งเตียนทั้งสี่ด้าน ปราดสายตาดูทีเดียวก็เห็นกันหมดว่าที่นี่โคตรจะไม่ปลอดภัย และพร้อมจะถล่มลงมาได้ตลอดเวลา.แพรวจึงโพล่งคำขึ้น.“หึ.. พี่นี่สมกับเป็นนักเต้นระบำโป๊จริง ๆ นะ! แต่ก็แล้วแต่พี่เถอะ! พี่จะไม่ไปก็ได้ใครอยากอยู่ต่อก็เชิญตามสบาย นี่คือแผนของหนู ๆ ให้เสรีภาพแก่ทุกคน เพราะหนูเองก็การันตีไม่ได้เหมือนกันว่าสิ่งที่คิดมันจะถูกต้องทั้งหมด ก็แค่ใช้การบันทึกสถิติกับชั่งน้ำหนักความเป็นไปได้ดู สุดแต่ใครจะไขว่คว้าเห็นควรยังไงงานนี้ไม่บังคับ”.สาวเจ้ายังคงย้ำชัดในจุดยืนเธอประทับเป้ขึ้นบนบ่าเรียบร้อย ไม้หน้าสามคู่ใจก็พร้อมกระชับขึ้นมือ เดินออกไปแค่ไม่กี่ก้าวโลกภายนอกอันเต็มไปด้วยเชื้อโรคก็อ้าแขนรอรับเธออยู่ก่อนแล้ว ภารโรงหนุ่มที่เพิ่งปฏิสนธิกับนักเต้นระบำโป๊ไปเมื่อวานก็เลยขอเอ่ยคำขึ้นบ้าง.“ถ้างั้นพวกเราขออยู่ที่นี่ต่อล่ะกันน้องแพรว เ
ตัดภาพมาที่ฟากฝั่งของแพรว แม้โซนที่พักตรงนี้จะถูกกันไว้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับหัวหน้าแคลน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็แค่กำแพงผุ ๆ พัง ๆ กับลังกระดาษที่เอามากั้นเป็นฉากกันลมเท่านั้น มองขึ้นไปข้างบนจะเห็นหลังคาที่เหลืออยู่แค่ครึ่งเดียว ช่องปูนเพดานแตกแหว่งเว้ามองเห็นหมู่ดาว ฟากฟ้า และอวกาศสุดสวย แพรวยังคงต้องนอนบนหนังสือพิมพ์อยู่เลย และสิ่งเดียวที่ดูดีที่สุดสำหรับโซนพักอาศัยของเธอก็คงจะหนีไม่พ้นโต๊ะญี่ปุ่นขาพับตัวเล็กกระทัดรัด ที่มีไว้สำหรับใช้เขียนและวางแผนอะไรต่อมิอะไรหลาย ๆ อย่าง.โต๊ะถูกกางออกที่ข้างหนังสือพิมพ์ปูนอน แพรวหย่อนตัวลงพลางเอี้ยวตัวไปหยิบเอากระเป๋าเป้ออกมาเช็คของ ในนั้นมีแผนที่ , เข็มทิศ , เครื่องคิดเลข , แล้วก็สมุดจดบันทึก เธอเททุกอย่างออกมากองรวมกัน ดูท่าราตรีนี้คงอีกยาวนานครั้นจะมีความง่วงแทรกซึมอยู่บ้าง แต่บรรยากาศแบบนี้แหละในตอนที่สมาชิกทุกคนหลับใหล และอุดมไปด้วยดวงดาวมากมายทอประกายเป็นเพื่อน ช่างเหมาะเหลือเกินสำหรับการทำฌานสมาธิ โพธิปัญญาคงโพยพุ่ง แล้วเส้นทางการเดินทางต่าง ๆ ก็คงจะพร้อม.“อาจจะ 2 - 3 วันข้างหน้า ตราบใดที่อาคารสถานีรถไฟฟ้านี่ยังทนการกัดกินของเชื้อ
“ว๊ายยย! , กรี๊ดดด! , บัดสีบัดเถลิง!”.หน้าแดงแปร๊ดสลับกับการยกมือขึ้นมาปิดป้องเลี่ยงสายตาหันไปทางอื่น ไม่คิดไม่ฝันว่าแพรวจะให้มาเห็นอะไรแบบนี้ กิจกรรมเริงสวาทระหว่างชาย Vs ชายยังคงดำเนินต่อไปต่อเนื่อง สองคนในห้องคอนโทรลกำลังร่วมรักกันอย่างเมามันส์ ชนิดที่แม้จะรู้ตัวว่ามีเด็ก ม.ต้น มองอยู่ แต่พวกเขาก็หยุดกล้ามเนื้อก้นกบของกันและกันไว้ไม่ได้.เสียงครางเปลี่ยนเป็นคำราม จากหน้าสู่หลังท่อนเอ็นแห่งการสืบพันธุ์ระดมยัดใส่รูทวารราวกับโหยหากันมาตลอดชีวิต เจนิสทำใจไม่ได้เธอทนเห็นของพรรค์นี้ต่อไปไม่ไหว เลยได้แต่ขอร้องวิงวอนต่อแพรวผู้เป็นหัวหน้าแคลน ว่าได้โปรดนำเธอออกจากพื้นที่ตรงนี้ที เธอไม่อยากเห็นมัน แม้ยุคสมัยนี้เสรีภาพเรื่องรสนิยมทางเพศจะเปิดกว้างมากแล้วก็ตาม.“ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! ,ตับ! , ตับ! , ตับ!”.“กรี๊ดดด! อีกแล้วอ่ะพี่! พี่ ๆ เขาเร่งอีกแล้ว! พี่แพรวคะหนูขอร้องล่ะ! พาหนูขึ้นไปคุยกันต่อข้างบนก็ได้ หนูยินดีจะรับฟังพี่ทุกอย่างเลย จะไม่เถียงไม่ตอบโต้อวดดีอะไรอีกแล้ว หนูเข้าใจแล้วค่ะว่าพี่อยากจะให้หนูเห็นของจริงแบบสมจริงแจ่มชัด”“อือ~ แต่แบบนี้มันน่ากลัว.. นี่นา~! ,
ภาพในหัวคิดถึงแต่ตัวเอง บุคลิกแบบนี้ท่าทางห้าวเป้งยอมหักไม่ยอมงอ แพรวแทบจะเห็นเจนิสเป็นตัวของเธอเองเมื่อตอนเป็นเด็ก ตานิดจมูกหน่อยผมสั้นประบ่าแววตามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว แถมยังรักเพื่อนพ้องเอามาก ๆ โกรธไม่ลงบอกตรง ๆ เจนิสยังเด็กและคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าอย่างเธอ ก็จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องสอนให้น้องเข้าใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แพรวเตะกระป๋องก๊าซตกระเบียงอาคารไปหน้าตาเฉย! .“แกร๊งงง!”.สร้างความมึนงงให้แก่ทุกคนโดยรอบ ก่อนที่เธอจะตะเบ็งเสียงเป็นคำสั่งออกมา.“แยกย้ายกันไปนอนได้แล้ว.. ยกเว้นเธอเจนิส! ตามฉันมา! ถ้าไม่แสดงตัวอย่างให้เห็นเธอก็จะเถียงฉันอยู่แบบนี้ไม่จบไม่สิ้น ไม่เชื่อฉันก็ได้! แต่จงเชื่อสายตาตัวเองโอเค๊?!”.คนที่เครียดกับกลายเป็นเพื่อน ๆ พวกหล่อนเป่าปากพรูไม่สบายใจ กลุ่มเพื่อนสาววัยใสต่างสืบเท้าถอยห่างออกมา พลางจ้องมองเจนิสกับแพรวที่กำลังเดินลับตาออกไปด้วยความเป็นห่วง.“แกว่าพี่เค้าจะพาเจนิสไปไหนวะ?”.“ไม่รู้ดิ.. ข้างล่างมั้ง? หวังว่าคงไม่โดนจับไปอีกนะ ถนนข้างนอกไม่น่าไว้ใจเลยแต่เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”.เป็นประโยคกระซิบที่เคลือบความกังวลไว้สูงมาก เหลือกันอยู่แค่นี้แค่ 4 ชีวิ
ประจันหน้ากับกลุ่มผู้ใหญ่นับสิบชีวิต เด็กสาวมัธยมมีเพียงเพื่อนหญิงที่เหลืออยู่หยิบมือเดียวคอยเป็นแบ็คให้ หมดทางเลือกท้ายที่สุดก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เธอรีบออกปากขอโทษแพรวโดยพลัน พลางก้มหัวลงกดต่ำขออภัยที่ต่อว่าแพรวออกไปเมื่อครู่.“หนูขอโทษค่ะพี่ที่พูดไม่ดี หนูก็แค่โกรธที่ต้องมาเสียเพื่อน""ถึงมันจะเป็นกระเทยที่นิสัยแย่ แต่มันก็ช่วยพวกเราไว้หลายต่อหลายครั้ง""ไม่น่าบ้าผู้ชายเล๊ย! มึงไม่น่าเป็นติ่งเกาหลีเล๊ย! ไม่น่า ๆ ๆ !”ขบกรามแน่นพอ ๆ กับกำหมัด ผ้าพันแผลบนหัวชักจะมีเลือดซึมออกมา บางทีอาจจะเป็นเพราะความดันโลหิตที่พลุ่งพล่านเวลาที่เครียด.“เธอชื่ออะไร?”แพรวถามด้วยท่ายืนจังก้ากอดอก แววตาดุดันจริงจังสมกับที่เป็นหัวหน้าแคลน.“ชื่อ “เจนิส” อายุ 15 ค่ะ ส่วนนี่ก็..”.“ไม่! ไม่ต้อง! ฉันขี้เกียจจำ! เอาเป็นว่าทั้งกลุ่ม 3 - 4 คนที่เหลือมีเธอเป็นแกนนำ""ฉันจะจำความเป็นเด็ก ม. ต้น ของพวกเธอเอาไว้ อยากติดต่อเมื่อไหร่ฉันจะคุยผ่านเธอ""ให้เธอไปกระจายข้อมูลกันเอาเองโอเค๊! เข้าใจตรงกันนะ “เจนิส” ”.ตัดจบบทสนทนาแบบเผด็จการโคตร ๆ อาศัยว่าหาที่หลบภัยตรงนี้เจอเป็นคนแรก บวกกับการคอยเจ้ากี้เจ้าการสั่งการ