เปรมเลือกที่จะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในร้าน เขาใช้พลาสติกใสคลุมจานชามช้อนซ่อม ซีนบานประตูหน้าต่างอย่างมิดชิดไม่ให้เชื้อโรคจากภายนอกแทรกซึมเข้ามาได้ อาหารที่กินก็เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจำพวกซีรีแล็คของเด็กทารก อาหารเหลว Ensure (เอ็นชัวร์) สำหรับผู้ป่วยติดเตียงแต่ขาดสารอาหาร รวมไปถึงสารเร่งโปรตีนอย่างผลิตภัณฑ์ Way เพื่อใช้ในการเร่งมวลกล้ามเนื้อ สร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย
.
เรียกได้ว่าจะออกไปข้างนอกก็แค่ในยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น เขาเก็บตัวเงียบเฝ้าดูข่าวสารจากทุกแพลตฟอร์มแบบเกาะติด โดยตั้งใจว่าจะใช้ร้านยาเป็นฐานที่มั่น มีสรรพวุธมากมายให้เขาหยิบใช้ได้ตลอดตราบเท่าที่ยังมีความรู้ บางวันเภสัชกรหนุ่มก็ถึงกับกระดกวิตามินซีชนิดเม็ดเข้าไปเกือบครึ่งกระปุกเลยทีเดียว เพราะสายตาที่อยู่ในความมืดนาน ๆ นั้นชักจะเริ่มมองไม่เห็น
.
"อึก.. อึก..ก..ก..ก"
"ให้มันรู้ไปสิวะว่าเราจะติดเชื้อ! กูไม่ยอมมึงหรอกเว่ยไอ้เชื้อนรก ไอ้โควิดน้ำเว่า! (เอ้ย! โควิด-19)"
.
.
สวนทางกับสถานการณ์จากภายนอก ณ ตอนนี้รอบมหาลัยเข้าขั้นวิกฤตแล้ว ร้านรวงต่าง ๆ ถูกสั่งปิดหมดชนิดที่แม้แต่มอเตอร์ไซต์ Grab bike ก็ยังห้ามรับออเดอร์ สถานที่สาธารณะกลายเป็นแหล่งหายนะโดยสมบูรณ์ บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างพากันเข้ามาตรวจสอบ พวกเขาพ่นยาฆ่าเชื้อกันนาทีต่อนาที ย้อมทุกสิ่งให้ตรึงเครียดขมุกขมัว มิหนำซ้ำยังเปลี่ยนทุกอย่างให้เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นแบบโรงพยาบาล
.
ไม่ป่วยก็เหมือนป่วย เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณย่าคุณยายถึงชอบขอคุณหมอกลับไปตายที่บ้านกันนัก ก็เพราะบรรยากาศแบบโรงบาลมันอยู่ไม่ไหวน่ะสิ มหาลัยจึงกลายเป็นที่ ๆ โคตรจะไม่น่าอยู่ แม้มันจะขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นโซนควบคุมพิเศษที่มีมาตรการเคร่งครัดสูงสุด แต่ก็ยากที่คนจะอยู่กันได้อยู่ดี
.
ยกเว้นเปรม!
.
"บ่ายโมงแล้วขอดูข่าวอีกทีซิ"
นิสิตหนุ่มพูดกับตัวเอง พลางยื่นรีโมททีวีออกไปด้านหน้ากดปุ่มเสียงดัง "ติ๊ด!"
.
ผู้ประกาศสาวรายงานว่ามีผู้คนทยอยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขอบเขตการกระจายโรคตีวงกว้างขึ้นทุกที ขยายพื้นที่เสี่ยงข้ามโซนสถานศึกษาเข้าไปถึงแหล่งอุตสาหกรรมและแหล่งน้ำ นั่นหมายความว่าแต่นี้ต่อไปน้ำประปาก็จะใช้การไม่ได้ คุณพระช่วย! นอกเหนือจากนั้น ผู้ประกาศคนงามยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า อีกสองสามวันข้างหน้าคาราวานรถตรวจเชื้อแบบเคลื่อนที่จะเข้าประจำการในพื้นที่เสี่ยง
.
พวกเขาจะบุกเข้ามาตรวจเชื้อแบบเชิงรุกถึงหน้าบ้าน หากประชาชนท่านใดไม่ให้ความร่วมมือจะถือว่ามีความผิดฐานฝ่าฝืนพรบ.สาธารณะภัยและกฎอัยการศึก มีโทษจำคุกปรับดำเนินคดีหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ก็เพื่อความสบายใจของตัวท่านเองและความปลอดภัยของคนรอบข้าง หากพบว่าติดเชื้อจะมีการสอบสวนโรค มีการตรวจสอบบุคคลใกล้ชิด เช็คข่าวกรองว่าเดินทางไปไหนมาไหนบ้าง และนำตัวเข้าสู่สถานกักกันเป็นเวลา 14 วันหรือจนกว่าโรคจะหาย หรือจนกว่าจะตายจากโลกนี้ไป
.
"ตืด.. ตือ.. ตือ.. ตื๊ด.. ตี๊ด.. ตือ.. ตือ.. ตือ~♪"
เพลงไตเติลรายการบรรเลงเข้าสู่ช่วงโฆษณา ก่อนที่มันจะจบลงในระยะเวลาอันสั้นด้วยฝีมือการปารีโมทอัดใส่หน้าจอของเปรม
.
"เพล๊งงงง!"
.
ความเดือดดานทำให้สติหลุด นิสิตหนุ่มรู้ได้โดยสุจริตใจว่าไม่ช้าไม่นานรถเคลื่อนที่คันดังกล่าว คงจะบุกมาถึงร้านยาของเขาเป็นแน่ ยิ่งวันก่อนเพิ่งมีคนตายที่ร้านฝั่งตรงข้ามด้วย อิสระภาพของเขาจึงเริ่มมีความเสี่ยง
.
"ไม่ได้การณ์จะหนีก็ไม่ปลอดภัย ข้างนอกเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าในร้านเราอีก"
"เอาไงดีวะ?"
"บ้าเอ๊ย..ย..ย..ย!"
.
คิดไปพลางหุนหันเดินฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อใส่จุดต่าง ๆ รอบร้านไปทั่ว ใครก็ตามที่บ่นว่าเสปรย์แอลกอฮอล์หายาก ความจริงก็คือเป็นร้านของเปรมนี่แหละที่กักตุนเอาไว้ ต่างก็แค่เขาไม่ได้มีไว้จำหน่ายหากแต่มีไว้ป้องกันตัวเองเป็นหลัก
.
"อืม.. เราคงต้องทำตัวให้เงียบ เก็บตัวเงียบทำเหมือนร้านปิดไม่มีคนอยู่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด"
"พวกเขาเป็นหมอ เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไม่ใช่หน่วยอรินทราชที่จะบุกเข้ามาชาร์ตโครม ๆ แบบในหนังซะหน่อย!"
"เอาวะ! เอาแบบนี้แหละ! ลงมือเลยชักช้าจะไม่ทันการณ์เอา"
.
เปรมจัดแจงทำตามที่วางแผนไว้ เขาเลื่อนประตูม้วนเหล็กหน้าร้านลงในทุกด้าน ปิดหน้าต่างลงกลอนแน่น ถอดแม้กระทั่งหลอดไฟออก กระถางหน้าร้านก็หาดินมาเติมให้มันแห้ง ๆ ให้เหมือนไม่มีคนรดน้ำมาหลายวัน พรมเช็ดเท้าก็ถูกม้วนเก็บเพื่อให้เข้าใจว่าร้านไม่ได้รับลูกค้ามานานแล้ว เซ็ตอัพทุกอย่างราวกับโปรดักชั่นกองถ่ายละคร กว่าจะเสร็จก็เล่นเอาหอบเหนื่อยสูญเสียแคลลอรี่
.
ก็เลยย้ายก้นมาจุ่มลงที่โซฟา เป่าปากพรูต่อหน้าโทรทัศน์ที่ตัวเองเพิ่งทำหน้าจอแตกไปหยก ๆ
.
"โถ่เอ๊ย! แล้วทีนี้กูจะดูข่าวยังไง?"
เกาหัวแกรก ๆ ด่าตัวเองต่ออีกคำรบ พลางใช้มืออีกข้างเลื่อนนิ้วประหลก ๆ อัพเดทข้อมูลจากจอเล็ก ๆ ในมือถือแทน
.
.
แล้วทันใดนั้นเอง!
.
.
"เพล๊งงงงง!!"
.
"เชี้ย!"
.
เปรมไม่พูดอะไรต่อจากการสบถนั้นอีกเลย เขารีบคลานตัวให้ต่ำ ใช้ข้อศอกกระเถิบตัวเองหลุน ๆ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเข้าหาที่กำบังด้วยซุ่มเสียงที่เบาที่สุด เงียบจนไม่ได้ยินเสียงหัวใจแม้ภายในจะสั่นโครมครามด้วยความตื่นเต้น
.
"ข้างในนี้เลยครับ! เราตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์ได้ แปลว่าในนี้มีคน!"
เสียงเจ้าหน้าที่ในชุดคลุม PPE คนหนึ่งบอก ตามติดมาด้วยทีมงานในชุดแบบเดียวกันอีกเป็นโขยง ที่ทยอยจ้วงเท้าผ่านประตูหน้าร้านที่พังเป็นรูเข้ามา
.
"ตรวจสอบให้ละเอียด ประชาชนที่อาศัยในโซนนี้ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว จับตัวพาหะได้คนหนึ่งจะช่วยคนอื่นได้อีกมาก.. ไป! , ไป! , ไป! , ไป! , ไป! , ไป!"
.
ไม่เหมือนห่าอะไรล่ะ! ต่างกันแค่ไม่พกปืนแค่นั้นเอง เปรมนึกว่าตัวเองกำลังสู้อยู่กับหน่วยคอมมานโด เขาใช้มือปิดปากขดตัวงอเข่าอยู่บนชั้นสองของตึกในมุมที่อับสายตาสุด ๆ ระหว่างนั้นก็แอบชำเลืองมองเป็นระยะ
.
ฟากฝั่งเจ้าหน้าที่เองก็เช่นกัน พวกเขาจำเป็นต้องแข่งกับเวลาและแบกรับความเสี่ยงในการทำงานระดับสูง ศัตรูเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แถมคนที่สันนิษฐานว่าเป็นพาหะยังซ่อนตัวได้อย่างแนบเนียน ซองยาตกเกลื่อนอยู่เต็มพื้น กระปุกยาล้มระเนระนาดกระจัดกระจาย นั่นไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่ สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเจ้าของร้านน่าจะใช้ยาเป็นจำนวนมากในการป้องกันตัวเองและสร้างภูมิต้านทาน เปรมเป็นตัวอันตราย ความรู้ของเขาอาจจะแว้งกัดเอาได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
.
ทว่าเปรมไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก เขาเลยโดนรวบตัวได้โดยละม่อมบนชั้นสอง ในสภาพที่ซูบผอมและอิดโรยจัด ๆ ซึ่งก็แหงล่ะเพราะเล่นไม่ได้กินข้าวเลยมาเป็นอาทิตย์ เรี่ยวแรงก็เหลือน้อยดวงตาก็แพ้แสงอันเป็นผลพวงมาจากการเก็บตัวอยู่ในร้านตลอดเวลาโดยไม่พบใคร โดนไฟฉายส่องเข้าหน่อยเจ้าตัวก็เลยหนีไปไหนไม่รอด
.
"อันดับแรก! ก่อนตรวจโควิด-19 คุณไปตรวจฉี่ก่อนเลย! "
"ติดยาด้วยใช่ไหมเนี่ยะเรา!?"
เสียงเจ้าหน้าที่หัวหน้าชุดกระแนะกระแหนใส่
.
.
48 ชั่วโมงผ่านไป
.
ผลการตรวจก็บอกว่าไม่รอด เรียบร้อยโรงเรียนเปรม เขาติดโควิด-19 สายพันธุ์นรกแดก! ติดจากเชื้ออสุจิ! ทำให้ต้องถูกนำตัวขึ้นรถจับเข้าสถานกักกันโรค แล้วก็กลายเป็นตัวเขาเองที่ต้องตกเป็นข่าว สื่อทุกสำนักพูดเรื่องเปรมหมด และนั่นก็ทำให้ความลับของเขาที่อุตส่าห์ปิดบังไว้ไม่เป็นความลับอีกต่อไป
.
เพราะกระบวนการสอบสวนโรคได้เก็บหลักฐานย้อนหลังเอาไว้หมด ว่า 14 วันก่อนหน้านี้เปรมไปไหนมาบ้าง กล้องวงจรปิดจับภาพเขาได้ชัดเจนว่าอยู่ที่คอนโดของมิวท์ วงจรปิดงานจราจรเองก็จับภาพรถของเขาได้เช่นกัน ว่ามีรถสีดำวิ่งฝ่าไฟแดงด้วยความเร็วสูงก่อนจะเลี้ยวเข้ามาในคอนโดอันระบุชื่อได้ชัดเจนว่าเป็นที่ไหน
.
คลิปถูกส่งต่อกันว่อนเน็ตจนกลายเป็นกระแสไวรัล ทำให้ผู้คนทั้งประเทศโดยเฉพาะย่านมหาลัยอยู่ในอาการขวัญผวา เนื่องจากเปรมเป็นบุคลากรทางการศึกษาคนแรกที่ติดเชื้อ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ ๆ มีมาตรการคุมเข้มสูงสุด แล้วอีหรอบนี้พื้นที่อื่นที่หละหลวมกว่านี้จะอยู่รอดได้ยังไง
.
ซ้ำร้าย! ที่สิ่งที่เจ้าตัวทำได้มีเพียงแค่การกล่าวคำขอโทษต่อสังคม ทั้งที่ความจริงแล้วคนที่เปรมควรจะขอโทษมากกว่าใครน่าจะเป็นมิวท์ หญิงสาวที่เขาร่วมประเวณีด้วยมากกว่า
.
.
ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าแพรวเห็นข่าวนี้แล้ว และแม้จรรณยาบรรณของนักข่าวจะปิดบังชื่อของนักศึกษาหญิงเอาไว้ แต่เธอก็รู้ได้โดยบริสุทธิ์ใจว่านั่นคือคอนโดของมิวท์อย่างแน่นอน ดูท่ามิวท์กับเปรมคงไม่ใช่เพื่อนของเพื่อนตามความสัมพันธ์ พวกเขาคงผันกริยาช่อง 3 ใส่กันจนกลายเป็นการมี "เพศสัมพันธ์" ระหว่างกันและกันไปแล้ว
.
ซึ่งแพรวรู้.. แพรวไม่ได้โง่!
ภายใต้ผนังห้องที่ทึบตันอับทึบแสง แดดจะแยงยังยากลำบาก มิหนำซ้ำยังถูกพอกทับด้วยกระดาษกาวนานาชนิดที่ปิดผนึกทุกอย่างเอาไว้กันเชื้อโรค ให้ตายเถอะถ้าไม่ขาดใจตายก็มีแต่จะร้อนตายกันเท่านั้น เพื่อนซี้ที่เพิ่งได้กันเลยค่อย ๆ เผยอเปลือกตาสะลึมสะลือขึ้น.แพรวลุกขึ้นได้ก่อนเธอเห็นทุกอย่างขาวพร่าดวงตายังไม่โฟกัส แต่สติยังอยู่ดีไม่ได้ความจำเสื่อม กลีบผกายังคงแสบเสียวสะท้อนให้เห็นว่ากระเจี๊ยวที่แยงแหย่นั้นเร่าร้อนขนาดไหน.“ซีดดด.. มึนหัวจัง”พูดพลันเอื้อมมือไปคว้าเอาเสื้อยืดตัวบางมาสวมใส่แบบโนบลา ก่อนจะนั่งลงห้อยขาโน้มตัวมาด้านหน้าทำสีหน้าเศร้า.“มึงเป็นไงบ้างพี..?”.ร่างใหญ่ตวัดพลิกดีดตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ ในชุดนุ่งลมห่มฟ้าเนื้อตัวดำกร้านของเขากลืนไปกับบรรยากาศห้องที่มืดหม่น เขาลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา เอามือผสานกันวางไว้ที่ตักแบบเดียวกับที่แพรวทำ.“ครือ..อ..อ..อ..อ~!”เสียงแอร์ดังกลบทุกสรรพสิ่ง ราวกับว่าต่างคนต่างรอให้อีกคนมีปฏิกิริยาก่อน .“เราได้กันแล้ว..”พีเปิดประเด็น.“กูขอโทษ~ กูไม่เมาหรอก~ กูไม่~ แบบ..บ..บ..บ”“เหี้ยเอ๊ย! แม่งทำอะไรลงไปวะ?”ตีอกชกตัวทำทุกอย่างที่มีความรุนแรง แต่ใบหน้าดำคล้ำ
ปลายลิ้นสากลากวนหัวถันยอดเกสรลุกชูชันเกินจะต่อต้าน แพรวเริ่มขยับหนีตามจริตจะกร้านด้วยเพราะรู้โดยสันดานว่าตัวเองก็สมยอม แต่ก็ต้องพยายามขัดเอาไว้หน่อยไม่ให้ฝ่ายนั้นคิดว่าง่ายเกินไป เธอกระเถิบตัวขึ้นไปพิงกับพนักวางแขนของโซฟา ครานั้นพีก็ยังตามขึ้นมาโดยการใช้คางพาดไว้บนเนินอก.“หนีทำไม?”เขาเค้นเสียงถาม ลมหายใจร้อนผ่าวจนผิวเต้าเกร็งลุก.“…….”แพรวไม่ตอบเธอเหลือบมองไปทางอื่น พลันใช้มือปิดบังหน้าอกตัวเองเอาไว้ ก่อนจะดันร่างอันบอบบางกระเถิบหนีขึ้นไปพิงกับพนักโซฟา.“กูไม่ให้มึงหนีหรอก มึงพลาดแล้วที่คิดจะยั่วกูอีแพรว!”.ร่างหนาโผขึ้นไปประกบ ชั่วเสี้ยวอึดใจสองกายก็กลมกลึงรวมเป็นหนึ่ง พีสอดแขนเข้าล็อคตัวแพรวเอาไว้ก่อนจะใช้เข่าดันลำตัวส่วนบนอันแน่
เทปกาวหลายขนานปิดทับช่องว่างใต้ประตู ขอบหน้าต่างอัดแน่นไปด้วยกาวยางซิลิโคน ชนิดที่แม้แต่แมลงวันสักตัวก็แทรกผ่านเข้ามาไม่ได้ แอร์ถูกปิด เปิดเพียงระบบฟอกอากาศพอให้ได้ใช้หายใจ และถ้าหากฆ่าแพรวที่มีส่วนร่วมในการแย่งหายใจทิ้งได้ พีก็คงทำไปแล้ว.“มึงเว่อร์อ่ะอีพี!”แพรวตะโกนบอก ขณะนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนโซฟา.“ช่างมึงสิ! ก็นี่มันห้องกู ๆ จะทำอะไรก็ได้ มึงไม่เห็นสิ่งที่มิวท์ทำเหรอ? มึงเห็นกับตาแล้วมิใช่รึไงว่าข้างนอกนั้นเป็นยังไงบ้าง กันไว้ดีกว่าแก้นะมึง!”ร่างหนาดั่งหมีป่าแบกตู้กับข้าวโครม ๆ พีลากมันมากั้นประตูหน้าห้องเอาไว้ เขากลัวเชื้อไวรัสขึ้นสมองจนต้องรีบกลับมารีโนเวทห้องตัวเอง ให้เป็นดั่งห้องปิดตายอย่างที่เห็น.“เฮ๊อะ! ตื่นตูมชะมัด! ต่อให้มีโคนัน 10 คนก็ไขเข้ามาไม่ได้หรอกถ้ามึงทำขนาดนี้”แพรวประชด.“ไม่ช่วยก็อย่าพาลดิ กูรู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่ในหัว ทำเป็นกลบเกลื่อนความเสียใจใช่ไหมล่ะ? ตอนซ้อนมอไซต์กูกลับมามึงถึงไม่พูดไม่จาสักคำ”.เจอประโยคนี้เข้าไปเล่นเอาสาวเจ้าถึงกับจุก แพรวเสยผมหนึ่งทีถึงรู้ว่าใบหน้าที่เคยขาวเด้งบัดนี้มีแต่คราบน้ำตา พีแทบไม่อยากเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเห
เปรมที่ยืนอยู่บนท้ายกระบะพร้อมอยู่แล้ว เริ่มมีการขยับแข้งขาให้เข้าที่ ด้านหลังเขาคือตู้ตรวจเชื้อกระจกใส แต่ด้านหน้าคือฝูงชนมากมายที่ทยอยกันเข้ามาแออัดเนืองแน่น ส่วนหนึ่งต้องชมเจ้าหน้าที่ด้วยที่ทำงานได้อย่างขมีขมัน พวกเขากวาดต้อนผู้คนได้ครบจนเกือบหมด ไม่เช่นนั้นภาพที่ออกมาคงไม่คลาคล่ำขนาดนี้.หัวหน้าหน่วยเป่าปากพรูส่วนมือก็เริ่มมีการขยับ เปรมเริ่มหมุนจุกก๊อกตรงกลางฝ่ามือออกทั้งสองข้าง พลันทิ้งฝาปิดลงกับพื้นแล้วทันใดนั้นเอง กลุ่มก๊าซสีแดงฉานก็ลอยเอ่อออกมาจากรู บุ๋ง.. บุ๋ง.. บุ๋ง.. บุ๋ง..~!.“พร้อมแล้วทีนี้ก็เข้ามาเลย! พ่อจะพ่นให้ร่วงเป็นยุงหน้าฝนเลยคอยดู ไอ้ไวรัสสารเลว ฮึ่ย~!".คิดได้ดังนั้นการลงมือก็บังเกิด สายละอองก๊าซลอยคละคลุ้งเป็นมุมเสยขึ้นไปบนฟากฟ้า อาศัยว่ายืนอยู่บนจุดที่สูงกว่ามวลก๊าซก็เลยโค้งปกคลุมลงมาโดนศีรษะของผู้ติดเชื้อแบบครบทุกคน แดงฉานบานสะพรั่ง ใครใส่เสื้อสีขาวมาเจอละอองแห่งการรักษานี้เข้าไปมีสิทธิ์กลายเป็นหนึ่งในแกนนำนปช.ได้ในทันที.แม้กระบวนการจะดูนอกคอกไปนิด แต่ก็ได้ผลดีเหมือนเช่นทุกหน ไม่มีประชาชนคนไหนคิดจะหลบหนีเลย พวกเขาต่างรู้ดีว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำคืออะไร ใ
จักรกลสี่ล้อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าพร้อมกันเป็นกลุ่มราว 3 - 4 คัน กลุ่มคาราวานนี้เคยเป็นรถกระบะใหม่เอี่ยมมาก่อน หากแต่ตอนนี้ได้แปรสภาพให้ด้านหลังมีลักษณะคล้ายกับตู้กระจก ภายในมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุด PPE หนึ่งคนนั่งประจำอยู่ งานของบุคลากรรายนี้คือการสวนโพรงจมูกชาวบ้านแล้วเอาสารคัดหลั่งมาตรวจสอบหาเชื้อในห้องแล็บ.เปรมนั่งอยู่ในห้องโดยสารของรถคันหน้าสุด คาราวานสืบสวนโรคจะเคลื่อนที่ไปทางไหนจะซ้ายหรือขวา ล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาทั้งสิ้น ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้การมีสกิลแห่งการรักษาอยู่บนฝ่ามือทำให้ทุกคนยอมทำตาม เปรมจึงกลายเป็นบุคคลที่แสนจะ VIP ไปเลย.“เอาไงดีครับคุณเปรม ให้ผมขับไปทางไหนดี?”พี่คนขับถามขึ้น แกอยู่ในชุดคลุมปลอดเชื้อบนหัวสวมใส่หน้ากากครอบแก้วเสร็จสรรพ.เปรมสอดหนังสือคำสั่งจากทางภาครัฐและพับเอกสารคู่มือการใช้ฝ่ามือเข้าไปเก็บในเก๊ะหน้ารถ ก่อนจะหันมาโฟกัสกับเจ้าของน้ำเสียง .“ไม่ต้องคิดมากพี่ที่ไหนก็ได้แบบที่เราเคยทำ เอาที่ ๆ คนเยอะ ๆ ผมพร้อมเสมอแหละ”.“งั้นเอาเป็นซอยข้างหน้าเลยนะครับ ตรงนั้นเคยเป็นถนนคนเดินเมื่อตอนที่เชื้อยังไม่ระบาดผู้คนจากทั้งย่านชอบไปเดินซื้อของกันที่
เกรียวฝาจุกหลุดร่วงลงกระทบพื้น เปรมยื่นฝ่ามือทั้งสองข้างออกไปข้างหน้าเล็งให้ตรงกับลุงขอทาน ทันใดนั้นกลุ่มก๊าซปริมาณมหาศาลสีแดงเหมือนเลือดก็พ่นออกมาจากฝ่ามือ.“ฟู่!!!”.โอ้แม่เจ้า! สสารดังกล่าวย้อมทุกสรรพสิ่งรอบบริเวณให้คละคลุ้งฟุ้งกระจาย คุณหมอผมสีดอกเลาถึงกับต้องรีบเผ่นหนี ระหว่างหนีก็ยังใช้มือถือตวัดหันกลับมาถ่ายคลิปเก็บข้อมูลหลักฐานเอาไว้ แม้จะไม่ชัดมากแต่ก็เห็นพอลาง ๆ ว่าเปรมยังคงยืนเด่นเป็นสง่า เขาไม่มีทีท่าจะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย มิหนำซ้ำยังใช้อุปกรณ์ที่เพิ่งได้รับมาได้อย่างคล่องแคล่ว.“ได้ผลจริงด้วยพวกเราทำสำเร็จแล้ว! การผ่าตัดฝังจักรกลลงอวัยวะบรรลุผล! การที่ร่างทดลองสามารถใช้อุปกรณ์ได้อย่างสมบูรณ์เป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเขา ชิ้นส่วนเหล็กกล้าเข้าไปแทนที่กระดูกกับเส้นเลือดได้อย่างหมดจด หมดความกังวล”“จบการ