LOGINกลีบร่องกระซิกร้องด้วยความรัก ฉันรู้สึกเปียกจากภายนอกแต่หารู้ไม่ว่าในรูสวาทของพี่มิวท์นั้นช่างฉ่ำแฉะราวกับถ้ำน้ำตก เธอขมิบดูดเอานิ้วมือของฉันให้กระเถิบชิดในเข้าไป อุปมาดั่งกระเป๋ารถเมล์ที่ไล่เราให้เดินเข้าไปด้านหลัง ทั้งที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่เบียดกันแน่นจนแตดจะชนตูดกันอยู่แล้ว
.
พี่มิวท์ยิ้มเยาะฉันเล็กน้อยคงเพราะเห็นว่าฉันยังคงอ่อนประสบการณ์ล่ะมั้ง เธอจึงเริ่มร่อนเอวและออกแรงตรงต้นขาให้สะโพกยกลอยขึ้น ก่อนจะใช้มันอัดสวนเข้าหานิ้วมือเรียว ๆ ของฉันแบบแหย่บ้าง แยงบ้าง ตะแคงข้างบ้างก็มี พลางแผดเสียงครางออกมาจนฟองอากาศฟดฟู่ เธอน่าจะมันส์กับสิ่งนี้มาก เพราะแต่ละดอกที่ทำล้วนแต่ส่งแรงกระทุ้งขึ้นมาถึงปลายข้อศอกฉันเลย มันถูกพับไปด้านหลัง เธอขยับเข้ามาใกล้ชิดติดขึ้นเรื่อย ๆ แล้วยิ่งทำฉันก็ยิ่งประหม่าฉันกลัวจะทำให้เธอไม่ถูกใจ ก็เลยกัดฟันพูดความจริงออกไปแบบไม่มีกั๊ก
.
“สองนิ้วไหวไหมคะพี่มิวท์?"
.
“อ่าาา~! ไหวสิ.. ใส่เลย~! ใส่เข้ามาเลยค่ะน้อง”
.
จบประโยคร่างบางที่สูงกว่าฉันก็ดีดตัวเองขึ้นมาสวมกอดนาบเนื้อ คุณมิวท์จับมือข้างขวาของฉันที่แหย่คาอยู่ในกลีบร่องของเธอออกมาเลีย เธอดูดมันอย่างดูดดื่มหลับตาพริ้มเลียกินน้ำรักของตัวเองอย่างได้อารมณ์ การเผยอริมฝีปากขบทีละนิด ๆ ช่างสราญหัวใจ ซอกนิ้วของฉันเปียกปอนไปด้วยน้ำลายและเมือกพรหมจรรย์ที่เธอปรนเปรอ ก่อนที่ต่อมาเธอจะแลบลิ้นลงมาเลียที่ยอดถันของฉันในจังหวะต่อเนื่อง เผลอแป๊บเดียวนิ้วมือข้างขวาของฉันก็ถูกจับมาวางไว้คืนที่เดิมที่หน้าปากถ้ำ
.
"ขอพี่ทำให้น้องบ้างนะ น้องแหย่ของพี่ ๆ แหย่ของน้องทำพร้อม ๆ กันเลย เราจะได้ถึงสวรรค์ด้วยกัน~!”
“ซีคดด.. โอเคไหม~!”
.
ฉันพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ไหนล่ะที่บอกว่าได้ร่างของพี่เขาไปเป็นของเล่น กลับกลายเป็นตัวฉันเองที่โดนย้อนศร พวกเรานั่งหันหน้าเข้าหากัน กอดก่ายกันด้วยคู่ขาท่อนบนที่ทั้งเนียนแล้วก็เพรียวสวย พี่มิวท์จับนิ้วมือสองนิ้วของฉันยัดเข้าไปในจุดซ่อนเร้นตัวเอง ส่วนมืออีกข้างของเธอก็ใช้มันบรรเลงเพลงเสียวใส่ติ่งคริสตอริสของฉันราวกับเห็นมันเป็นแป้นคีย์บอร์ด
.
พี่เขากด , บด , บี้ พี่เขายี ๆ ๆ แล้วก็แหย่ ๆ ๆ ก่อนจะเสียบจึ๊กเข้าไป ฟังดูขี้โกงและเอาเปรียบ แต่ก็นะ! ก็ในเมื่อที่นี่คือความฝันของฉัน ครั้นจะโดนคนที่ชอบแยง 3 นิ้วยัดเข้ามาพร้อมกันฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก มันออกจะเสียวดีด้วยซ้ำ และเพราะอย่างงั้นพี่มิวท์ก็เลยจัดให้
.
“อ่าาาา , อ่าาาา , เยสสสส! , พี่มิวท์ขา! , พี่มิวท์~!”
.
“จ๋าาาา , พี่ทำถูกจุดไหม.. ใช่ตรงที่เราชอบรึเปล่า”
.
“ชอบค่ะ , ใช่เลยค่ะพี่มิวท์.. ขอแรง ๆ เลย , แรงกว่านี้อีกค่ะ , อ่าาา~!”
.
“แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ”
.
“อ๊อยยย! , โอ๊ยยย! , ซีดดด.. ด.. ด.. หนูเสียวววว~!”
.
“แจ๊ะๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ”
.
“โอ๊ยพี่มิวท์! , โอ๊ยยย! , อ๊อยย! , อ๊อยยย! , อื้อออ! , อื้อออออ , อือ…อ…อ~~!”
.
หลับหูหลับตาแล้ว วินาทีนี้ฉันถึงกับแอ่นตัวพับโค้งไปด้านหลัง ด้วยเพราะต้องการให้โหนกแคมที่ทั้งแน่นแล้วก็ฟิตนั้นยื่นเข้าไปหาแท่งนิ้วของพี่มิวท์ได้ถนัดถนี่ สอดคล้องกันกับฟากฝั่งของพี่มิวท์เองก็เช่นกัน เธอกระชับข้อมือฉันซะแน่น ยิ่งเธอใช้มือซ้ายแหย่น้องสาวฉันแรง มือขวาของเธอก็ยิ่งทำกับนิ้วมือของฉันในระดับที่เท่าเทียมกัน ฉันนี่ถึงกับมองเห็นเครื่องเพศของพี่มิวท์แดงเรื่อเปล่งนูนออกมาเลย
.
ต่างคนต่างเกร็งเสียวสั่นสะท้าน! ปลายเท้าหงิกงอเสียวขยุ้ม พวกเรากระสันกันทั้งคู่อุณหภูมิรอบกายร้อนผ่าว ฟองน้ำนี่เดือดปุด ๆ ประดุจน้ำต้ม พี่มิวท์มีแต่จะแรงขึ้นและแรงขึ้น เธอดึงนิ้วฉันเข้าออกจนข้อมือและข้อศอกสะบัดรัวราวกับ Vibrator ที่สั่งซื้อมาจากแอพค้ากามออนไลน์
.
“เยสสส! , เยสสส! , เยสสส! ๆ ๆ ๆ”
ฉันตะโกนครางด้วยความสะใจ
.
“แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ ”
.
“อ่าาาา! , อ่าาาา! , อ่าาาา! , อ่าาาา!”
.
พี่มิวท์เองก็เช่นกันถ้าเธอทำฉันเสียวจนส่ายเอวกระเด้าขึ้นหน้าได้แล้วล่ะก็ ฉันเองก็ทำให้เธอส่ายเอวออกด้านข้างเป็นเลข 8 ได้เช่นกัน เอวพี่มิวท์อย่างพริ้ว มันทั้งเร่าร้อนและน่าเด้าเปลี่ยนพวกเราสองคนให้เป็นสื่ออนาจารของกันและกันในทุกเสี้ยววินาที นี่จึงเป็นยิ่งกว่าการสำเร็จความใคร่ มันคือการได้กันในระยะใกล้โดยมีคริสตอริสอันเร้าใจเป็นพยานในที่เกิดเหตุ
.
“ซีดดดด~! , อื้อ! , อื้อ! , ซีดดดด~!”
“น้องขา.. พี่ว่าพี่จะเสร็จ”
“พี่จะเสร็จแล้ว..”
“มันจะมาแล้ว.. ว.. ว.. ว”
“อ่ะ! , อ่ะ! , อ่ะ! , อ่าาาา! , อ่าาาาา! , อ่าาาาา~!”
.
“แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ , แจ๊ะ ๆ ๆ ๆ”
.
“เยสสสส! หนูก็จะเสร็จเหมือนกันค่ะพี่ ซีดดด~! เราเอาให้เสร็จน้ำแรกพร้อมกันเลยนะคะพี่มิวท์! ”
“อื้อออออ~!”
.
เผยอดวงหน้าเข้าไปดูดปาก ปล่อยมือออกจากซอกหลืบรูรัก ฉันรีบตะปบสันนิ้วเข้าที่สองแก้มของพี่มิวท์แล้วสอดลิ้นจูบปากกับพี่เขาด้วยความเร่าร้อนรุนแรง ทั้งจูบทั้งเลีียทั้งเอียงคอไซร้ลงดูดไปตามซอกคอ กลิ่นกายพี่มิวท์หอมอย่างมีเสน่ห์ ฉันอยากจะกลืนกินเธอมันซะเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว และทำได้เพียงกระเด้าเอารอนท้องชนกระแทกกับนวลเต้าของพี่เขาด้วยความเร็วสูงสุด ตราบเท่าที่ฉันจะยังมีแรง
.
“อ๊าาาาา! , อ่าาาาา! , อ่าาาาา! , อ่าาาาา! , อ่าาาาา! , อ่าาาาา!"
“พี่มิวท์! , พี่มิวท์! , พี่มิ๊วท์! , พี่มิ๊วววท์!!!”
“อ๊อยยยยยย~!”
“อ๊อยยยยยยยยยยยยยยยย~!”
.
“ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ!”
.
เย็ดสะนั่นสะบั้นปัฐพี! โคตรพ่อโคตรแม่มมึง! พื้นสระว่ายน้ำที่เป็นกระเบื้องถึงกับแตกร้าว เส้นสายยึกยือปริแตกราวกับข้างล่างกำลังจะมีแม็กม่าจากภูเขาไฟระเบิด ระดับน้ำในสระลดลงโครมคราม ฉันเห็นแต่ฉันไม่สน! ลองได้ขี่ผู้หญิงแบบสุดอารมณ์แล้วล่ะก็ใครมันจะไปลงได้ ดอกสุดท้ายที่จำได้คือการที่ติ่งเสียวของฉันกระแทกอัดใส่กลางท้องเธอ! ฉันแตก! และน้ำฉันกระจาย!
.
โดยเพิ่งมารู้ตอนท้าย.. ว่าน้ำในสระทั้งหมดนี้ ก็คือ “น้ำเงี่ยนของฉันเอง!”
.
.
“เฮือกกกก!”
.
สะดุ้งตื่นขึ้นจากนิทราฝันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เจนิสพบว่าตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยผดเหงื่อ ผ้าปูที่นอนผ้าห่มหมอนมุ้งเปียกชื้นกระจัดกระจาย แถมยังกระซ่านกระเซ็นเละเทะราวกับเป็นฉากในหนังฆาตกรรมที่ไม่มีเลือด
.
“ที่นี่ที่ไหน.. พี่มิวท์ล่ะ!?”
คือประโยคแรกที่เจ้าหล่อนพ่นคำสบถถาม
.
กระทั่งเหลือบมองไปรอบ ๆ ถึงเริ่มตั้งสติได้ว่าอาคารไม้เพดานต่ำหลังนี้ก็คือเรือนพยาบาลของทางวิลเลจนั่นเอง ไม่มีหมอสักคน เภสัชกรก็ไม่มี จะมีก็แต่พยาบาลที่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าหายหัวไปไหน ที่เห็นอยู่จึงมีแค่เพื่อนสาววัยมัธยมของเจนิสที่คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง
.
แพรวมอบหมายให้เธอผู้นี้เป็นคนดูแลเรือนพยาบาล ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ยิ่งเป็นเจนิสเพื่อนสนิทด้วยแล้วยิ่งต้องคอยประคบประหงมเป็นพิเศษ แต่พูดก็พูดเถอะ! ว่าเจ้าหล่อนคงไม่มีทางเข้าใจในกิริยาอาการที่เจนิสแสดงออกมาเมื่อครู่เป็นแน่
.
“เป็นไงบ้างเจนิส.. โอเคขึ้นไหม?”
เธอถาม
.
“เอิ่ม.. ม.. ม.. ม ก็น่าจะโอแล้วมั้ง”
เจนิสทำหน้างงเธอยังคงวิ้งค์อยู่ในหัว เพราะยังเชื่อมต่อโลกในฝันกับโลกแห่งความจริงไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
.
“แต่ฉันไม่โอเลย! เธอทำฉันเปียกไปหมดตั้งแต่หัวคนยันหัวเข่า! , ดูสิ! , ดู!”
.
พูดไม่พูดเปล่ายังผายมือโชว์หลักฐานให้เห็น พลางชี้ให้เจ้าของมวลน้ำมองเห็นร่องรอยความเสียหายที่ตนเองกระทำเอาไว้ ไล่มาตั้งแต่ผ้าปูเตียงที่แสนจะยับยู่ หมอนที่โดนจิกโดนข่วนจนนุ่นแตก หมอนข้างที่โดนกระเด้าจนงอคดโค้งสูญเสียรูปทรง หนักสุดก็เห็นจะเป็นเตียงนอนที่หมุนสลับหัวสลับหาง ผิดด้านแตกต่างจากเตียงอันอื่น ๆ ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งบอกว่าเจนิสฝันแรงขนาดไหน
.
พี่มิวท์ในฝันของเธอนั้นช่างร้อนแรง ลำพังความเหนื่อยหอบแฮ่ก ๆ หมดเรี่ยวหมดแรงที่เป็นอยู่ คงไม่พอสำหรับจ่ายค่าเสียหายในโลกแห่งความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
.
“ฉันขอโทษนะ..”
เจนิสพูดเสียงอ่อย แม้แต่เสียงพัดลมเพดานยังดังกว่าเสียงเธอ
.
“เออ.. ช่างมันเถอะ"
"แล้วตกลงเมื่อกี้แกป็นอะไร แกเหมือนคนที่เพิ่งถึงจุดสุดยอดเลยรู้ตัวไหมเพื่อน!?”
.
“บ้า! , ไม่ใช่สักหน่อย! เอาอะไรมาพูด! ไม่จริ๊งงง! ไม่จริง!”
.
ปากพูดแบบนั้นแต่ดวงตานี่มองทะลุออกไปถึงไหนต่อไหน แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งใด เจนิสกำลังมองหาพี่มิวท์ของเธอที่เป็นคนจริง ๆ อยู่นั่นเอง
หน้าท้องแบนราบบดนาบเข้าหากัน มิวท์อยู่บนเจนิสอยู่ล่างการสั่นเทิ้มดังกล่าวค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่ใช้ห้ามหั่นจะเอาชีวิตของมิวท์ก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน เธอค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของคนปกติ จุกหัวถันชูชันเกร็งเสียว และแม้แต่กงเล็บที่ยื่นยาวออกมาก็เริ่มหดสั้นกลับลงไป."พี่มิวท์คะ.."เจนิสกระแอมถามทั้งที่ใบหน้ายังคงบี้อยู่กับร่องนมของมิวท์ เธอผินหน้าเอียงเปลี่ยนมุมไปมาพอให้มิวท์ตื่นตัว สลับกับการแลบลิ้นเลียที่ฐานเต้าด้านล่างพลันลากวนโค้งไปตามความอวบอูมของบัวตูมคู่."แผล็บ.. บ.. บ.. บ!"."อ่าาา..า..า..า..า.."รุ่นใหญ่เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทดแทนไอแห่งความเหม็นสาปจากเชื้อโควิด ตามติดมาด้วยผิวพรรณที่กลับมามีน้ำมีนวลเป็นสีชมพูบานสะพรั่งอีกครั้ง นี่คือผิวแบบลูกคุณหนูขนานแท้ มันคงผ่านการทำสปาร์มาจากหลายสถาบัน จึงไร้ซึ่งรอยด่างรอยดำ กระจ่างใสราวกับหลุดออกมาจากกระปุกครีม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โคตรจะน่าฟัด!.ทว่าพอต้องมานอนคร่อมร่างของเด็กมัธยมอยู่แบบนี้ จิตใต้สำนึกของมิวท์ก็ต้องทำหน้าที่ของมันผ่านการปกป้องตัวเอง ทำให้สาวเจ้าต้องตัวกระตุกอีกหน พลั
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ