Share

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)
Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)
Author: L.sunanta

บทนำ

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-06-08 11:01:54

มลพิษในอากาศพุ่งทะยานสูงไปถึง 3,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในยุคนี้เราอาจจะได้ยินคำว่าฝุ่นผง Pm 2.5 แต่เชื่อไหมว่าในขณะที่นิยายเรื่องนี้ดำเนินไปตัวเลขมันพุ่งไปถึง Pm 8.0 เข้าไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ปริมาณฝุ่นในอากาศที่มนุษย์อาศัยได้โดยไม่เป็นอันตรายคือ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

.

ด้วยความสัตย์จริงโลกไม่ได้เกิดสงครามนิวเคลียร์ แต่พวกเรากำลังเผชิญอยู่กับเชื้อร้ายที่แผ้วถางทุกสรรพสิ่งอย่าง "โคโรน่าไวรัส" แล้วก็อาจจะเป็นเพราะจำยากล่ะมั้ง เหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายจึงตั้งชื่อโรคอุบัติใหม่นี้ว่า "covid -19" ซึ่งเกิดจากการรวมคำสามคำ (c)orona , (vi)rus , (d)isease และ starting in 20(19) เข้าด้วยกัน!

.

ไวรัสร้ายกัดกินไปทุกพื้นที่มันแทรกซึมเข้าสู่ผู้คน , สัตว์เลี้ยง , ปศุสัตว์ , หรือแม้กระทั่งแหล่งน้ำ ปลาทะเลสัตว์น้ำจืดต่าง ๆ ล้วนถูกปนเปื้อนหมด การแพร่ระบาดอันหนักหน่วงเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2019 จวบจนถึงปีปัจจุบัน แล้วโลกก็ถึงกาลปาวสานอย่างสมบูรณ์แบบ!

.

ทั่วทุกหัวระแหงกลายสภาพเป็นทะลทราย ตึกรามบานช่องถูกทิ้งร้างเต็มไปด้วยฝุ่นผงและเถ้ากระดูกของซากศพที่ตายแล้วไม่ได้ฌาปนกิจ พวกเขาถูกปล่อยให้เน่าตายอย่างน่าสงสาร การกักตัวอันแสนทรมานทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่ในสภาวะอดอยากขาดของกิน เกิดการจราจลปล้นสะดมไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เงินไม่มีค่าแบงค์พันเป็นปึกก็ไม่ต่างจากเศษกระดาษ เพราะเอาไปซื้ออะไรใครก็ไม่ยอมขาย

.

ซากกระดูกร่างหนึ่งหล่นลงมาจากแง่งระเบียงของคอนโดที่เคยหรู ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นชายหรือหญิง รู้แต่ว่าแห้งผากเหมือนขาดน้ำ อวัยวะภายในระเหยหายไปหมดไม่ต่างจากมัมมี่ วินาทีที่ตกกระทบพื้นจากความสูงระดับตึก 10 ชั้น ทำให้เศษชิ้นส่วนแตกกระจายเกลื่อน ผมเผ้าไม่เหลือสักเส้น แขนไปทางขาไปทางชวนให้จิตตก ก่อนที่จู่ ๆ จะมีฝูงหมาหิวโซราว 3 - 4 ตัว ปรี่เข้ามารุมแทะ

.

"บ๊อก! , บ๊อก! , บ๊อก!"

"งั่ม! , ง่ำ ๆ ๆ , ง่ำ ๆ ๆ , งั่ม!"

.

กระดูกกับหมาล้วนเป็นของคู่กันแต่ทำไมนะทำไมกัน คราวนี้เห็นทีจะไม่ใช่! เมื่อ covid-19 กินลึกเข้าไปถึงไขกระดูก มันยักย้ายถ่ายเทเชื้อจากร่างพาหะหนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง โดยไม่สนว่าจะเป็นคนหรือเป็นหมา ฉะนั้นทันทีที่ฝูงหมาดังกล่าวถอยร่นออกมาหลังกินเสร็จ ร่างของพวกมันก็เริ่มหลอมละลาย

.

covid - 19 พัฒนาการได้เร็วมากใน ค.ศ.นี้ มันไม่ได้เล่นงานแค่ปอดทำให้หายใจลำบากอย่างเดียว แต่มันฆ่าทุกเซลล์ พลาสม่าในกระแสเลือดเหยื่อจะทำปฏิกิริยากับเอมไซม์ทำให้เลือดมีสภาพเป็นกรด

.

หลักฐานคือการหอนแบบแหบแห้งที่ไม่ต่างจากการไอ กลุ่มเจ้าตูบผู้หิวโหยนอนเอาหัวพิงกันตะกุยตะกายแช่มช้า แล้วต่อมาขนของพวกมันก็เริ่มหลุดร่วง ผิวหนังปริแตกออกเป็นเยื่อบาง ๆ เปื่อยยุ่ยไหลลงมากองรวมกันบนพื้นอย่างน่าขนลุก มีเลือดกรดไหลซึมออกมาพร้อมกับฟองอันฟดฟู่ ช่างเป็นภาพที่น่าหดหู่แต่ก็ยังดีที่ไม่กี่อึดใจต่อมา สัตว์ทั้งหลายก็สูญสลายกลายเป็นไอละออง

.

"ฟู่~~~!"

.

เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นทุกตารางเมตรบนโลก ไม่ว่าจะในเมืองหลวงหรือชนบท มนุษย์โลกลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วนับจากการระบาดเมื่อ 3 ปีก่อน ณ ปัจจุบันเราเหลือจำนวนประชากรโลกเพียง 1 ใน 3 หรือ 2 พันล้านคนจาก 7 พันล้านคนเมื่อปี 2019 แล้วก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุดลงเลย นับวันคนก็ยิ่งตาย สภาวะอดอยากเข่นฆ่าแย่งทรัพยากรมีปรากฏให้เห็นในทุกประเทศ ไม่ว่าจะชาติไหนหรือนับถือศาสนาอะไร

.

พระเจ้าไม่อาจช่วย อัลเลาะห์ก็ไม่แยแส ส่วนเจ้าชายสิทธัตถะจากอินเดียน่ะเหรอ ต้นโพธิ์ที่พระองค์นั่งตรัสรู้ตอนนี้ก็น่าจะถูก covid -19 กัดกร่อนลงไปยังรากลึกแล้ว โลกกำลังจะตายโดยไม่ต้องสืบ วิกฤตโลกร้อน Climate Change , ปรากฏการณ์เอลนินโญ่ , พายุหมุน , สึนามิ , สกิลการทำลายของภัยพิบัติเหล่านั้นช้าเป็นเต่าคลาน เมื่อเทียบกับความตะกละตะกลามของไวรัสร้ายนามว่าโควิด

.

.

ณ แอ่งน้ำอันแห้งขอดแห่งหนึ่ง สันนิษฐานจากสายตาคิดว่าน่าจะเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียของโครงการบ้านจัดสรรสักที่ ทว่ากลับไม่มีใครสน ฝ่าเท้าที่ห่อหุ้มด้วยรองเท้าบูธหุ้มข้ออย่างดีย่างกายไต่ขอบตลิ่งลงไปสู่ก้นบ่อด้านล่าง เศษธุลีดินโบยบินเศษหินปลิวว่อนฟุ้งโขมง บ่งบอกว่าความเหือดแห้งกลางใจเมืองนั้นแสบทรวงขนาดไหน

.

หล่อนย่ำเท้าไปข้างหน้า 30 ก้าว กว่าจะค้นพบแหล่งที่มีความชื้นปรากฏ สักพักรองเท้าบูธก็เริ่มมีรอยบุ๋มและมีเศษดินโคลนเปื้อนติด นั่นทำให้เธอพอจะมีความหวัง

.

"ได้การณ์ล่ะ! ตรงนี้พอจะมีน้ำแฮะ!"

หญิงสาวพูดกับตัวเอง พลันซ่อนรอยยิ้มสวยเอาไว้ภายใต้หน้ากากกันฝุ่นรุ่นพิเศษ

.

จากนั้นจึงค่อย ๆ ย่อตัวลงช้อนฝ่ามือทั้งสองข้างแหวกผ่านมวลโคลนตม เพื่อตักเอาน้ำอันน้อยนิดขึ้นมาซดเสียงดัง โครกกกก!! ลงสู่ลำคอ

.

"อึก ๆ , อึก ๆ , อึก...ก...ก..ก , อึก ๆ"

.

"อ่าาาาาา~!"

.

ไม่ถึงกับชื่นใจแถมยังฝืดคอเป็นที่สุด อย่างที่รู้ว่ามันคือบ่อบำบัดน้ำเสียแล้วจะไปเอาความสะอาดสดใสเหมือนน้ำดื่มตราสิงห์ในขวดพลาสติกได้ยังไง เม็ดทรายนับล้านกลิ้งกลอกลงลำคอ แต่ก็ช่างมันเถอะ! ในเมื่อความกระหายกำลังจะฆ่าเธอกับเพื่อน ๆ ให้ตายอยู่รำไร เจออะไรก็ต้องกระดกเอาไว้ก่อน

.

หญิงสาวอยู่ในชุดผ้าคลุมสีเขียวขี้ม้า เธอมีผมตรงยาวประบ่าสีส้มอมแดงแถมยังเต็มไปด้วยคราบเขม่า เนื้อตัวสกปรกมอมแมมตามสไตล์ของผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายซึ่งละม้ายคล้ายกับซอมบี้มากกว่าจะเป็นคน แต่ก็ไม่ใช่เพราะเธอยังมีจิตใจเมตตาเป็นกุศลอยู่ หลังจากซดน้ำล้างคอเสร็จ ก็เลยตัดสินใจลงมือทำแบบเดิมซ้ำอีกรอบ

.

ทว่าคราวนี้ต่างจากเดิมหน่อยเพราะน้ำในอุ้งมือที่ช้อนมาได้จู่ ๆ ก็ถูกเทเข้าไปในกระเป๋ากางเกงซะอย่างงั้น! เธอนั่งลงตักอีกสามสี่ทีจนกระเป๋ากางเกงตุงได้ที่ จึงได้ยืนขึ้นแล้วก็เอื้อมมืออีกข้างมาตบลงที่กระเป๋าเสียงดัง "เพลี๊ยะ!" ทำให้มีน้ำกระฉอกออกมาเล็กน้อย

.

สิ่งนี้คือนวัตกรรมล้ำโลก เป็นเทคโนโลยีที่ถูกผลิตขึ้นในปีปัจจุบันโดยบริษัทสัญชาติไทยยักษ์ใหญ่นามว่า "AP" ซึ่งมีเจ้าของเป็นเจ้าสัวคุมกิจการการค้าและสินค้าทางการเกษตรของทั้งภูมิภาค

.

การตบเมื่อครู่ทำให้ตัวเลขดิจิตอลแสดงขึ้นที่ตะเข็บกระเป๋ากางเกง ก่อนที่สาวเจ้าจะหลุบสายตาลงไปมองแล้วก็ใส่ตัวเลข 70 เข้าไป แล้วก็กดปุ่ม "Enter" ไม่ช้าไม่นานกระเป๋ากางเกงลายพรางที่มีน้ำ 3 อุ้งมือก็เริ่มสั่นไหว! กระบวนการแยกกรดเบสท์ออกจากอนุภาคไอออนเกิดขึ้นในกระเป๋า จนกระทั่งผ่านไปราวครึ่งนาทีเสียงสัญญาณเตือนดัง "ติ๊ด!" ก็ดังขึ้น

.

"อืม..เรียบร้อยแล้วสินะ!"

.

เธอพูดหลังจากยืนเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางอ่างเก็บน้ำอันเวิ้งว้างและแห้งแล้ง ก่อนจะใช้มือเปล่า ๆ สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แล้วก็ได้ออกมาเป็นแคปซูลบรรจุน้ำจำนวน 70 เม็ดตามที่ได้คีย์ข้อมูลเอาไว้ จัดว่าเป็นอะไรที่พกง่ายกินตอนไหนก็ได้ แถมยังง่ายต่อการจำหน่ายจ่ายแจก

.

"โอเคเท่านี้ก็ย้อนกลับขึ้นไปหาทุกคนข้างบนได้แล้ว ต้องขอบคุณบริษัท AP กับเจ้าสัวคนรวยพวกนั้นล่ะนะ ที่ผลิตของเจ๋ง ๆ แบบนี้ออกมาในยามที่ชาติวิกฤต แต่จะดีกว่านี้มากถ้า AP ช่วยขจัดเชื้อ covid -19 ให้ออกจากประเทศเราไปเลย!"

.

จบประโยคปลายนิ้วสวยก็ได้กดปุ่มเล็ก ๆ บริเวณหลังหู แล้วทันใดนั้นเอง! ครอบแก้วขนาดพอเหมาะก็พับตัวขึ้นมาเหวี่ยงสะบัดงับปิดใบหน้า "แกร็ก!" เว้นแค่ลูกตาเอาไว้เหมือนใส่หน้ากาก พอกดปุ่มเดิมซ้ำอีกทีใบพัดสีแดงสะท้อนแสงแวววับที่อยู่ภายในก็เริ่มหมุน มันจะทำการฟอกอากาศทุกอณูที่เข้าไปให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ที่ไม่มีพิษและปลอดเชื้อ ซึ่งหน้ากากแก้วตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ทางบริษัท AP คิดค้นขึ้นเพื่อช่วยคนในชาติเช่นกัน

.

"ฮืดดด....ฮาดดดด....ฮืดดดด.....ฮาดดดดด"

.

"ใกล้แล้วทุกคน.. ใกล้แล้ว.. ฉันจะเอาน้ำขึ้นไปให้เดี๋ยวนี้แหละ.. อดทนหน่อยนะ.. แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ"

.

แพรว อิสรา คือชื่อของเธอ ด้วยบุคลิกและท่าทางในตอนนี้ผู้อ่านอาจจะคิดว่าเธอเป็น "อลิส" ในหนังเรื่อง Resident evil แต่ความจริงนั้นตรงกันข้าม! แพรวก็แค่นักศึกษาหญิงธรรมดาคนหนึ่งที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โลกหลังการระบาดของ covid- 19 เปลี่ยนโฉมหน้าไปโดยสิ้นเชิง มันทำให้คนรวยเปลี่ยนเป็นคนโลภ , คนจนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว , แล้วก็เปลี่ยนคนใจดีให้เป็นฆาตกร ไม่เว้นแม้แต่เธอ ที่เปลี่ยนสถานภาพจากนักศึกษากลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้?

.

"เฮือกกกกก! "

"ถึงแล้ว! แฮ่ก ๆ , ถึงสักที! แฮ่ก ๆ"

.

หน้ากากครอบแก้วเต็มไปด้วยฝ้าละออง ใบพัดฟอกอากาศทำงานหนักมากเพราะต้องแข่งกับการหายใจที่หอบรัว แพรวยิ้มอยู่ภายในโดยไม่ให้ใครเห็น การทำความดีคงไม่ต้องอวดเบ่งคือสิ่งที่เธอคิดหลังก้าวขึ้นมาบนขอบตลิ่งได้สำเร็จ นั่นเผยให้เห็นภาพเบื้องหน้าที่เป็นคาราวานรถออฟโร้ดจำนวน 4 คัน จอดเรียงกันอยู่ รอยกระสุน , เศษดินโคลน , กระจกกระจังหน้าที่แตกร้าว , บวกกับความสมบุสมบันสารพัด ล้วนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนกลุ่มนี้ผ่านอะไรร่วมกันมาบ้าง

.

ผู้คนเริ่มทยอยออกมาจากหลังรถ พวกเขากระชับพานท้ายปืน กำมีดกำไม้กำด้ามกระทะทำทุกอย่างเพื่อเตรียมปะทะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น กะจากสายตาน่าจะมีกันราว 15 ชีวิตเห็นจะได้ ดูจากชุดที่แต่งก็บอกได้อีกเช่นกันว่ามีกันหลายอาชีพ ไล่มาตั้งแต่นักศึกษา , พยาบาล , คนขายล็อตเตอรี่ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก!

.

พวกเขาน่าจะหนีตายกันมาแล้วก็ถูกแพรวช่วยไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้กลุ่มค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นเป็นคาราวานที่รักและคอยปกป้องซึ่งกันและกัน หลักฐานก็คือเสียงตะโกนของเด็กชายคนหนึ่งที่แว่วดังออกมาจากกลุ่ม

.

"พี่แพรวมาแล้วววววว!! , น้ำมาแล้ว!!"

หัวกลมผมชี้วิ่งพรวดออกมากระโดดกอดแพรวอย่างน่าเอ็นดู หนุ่มน้อยรายนี้น่าจะอายุราว 8 - 9 ขวบเท่านั้น เทียบกันแล้วก็น่าจะอยู่ราวป. 2 - ป. 3 แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อโรงเรียนทั้งหมดล้วนถูกสั่งปิดไปตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน

.

"หมับ!"

พวกเขาสวมกอดกัน ด้วยสภาพที่โคตรจะมอมแมมสกปรก

.

"อย่าวิ่งเร็วนักสิโบ๊ท! เอ้านี่! แบมือมาเอาน้ำไปกิน!"

แพรวส่งแคปซูลน้ำที่เพิ่งเก็บมาให้ 1 เม็ด หนูน้อยไม่รอช้าอ้าปากงับทันทีในเสี้ยวอึดใจ

.

"ง่ำ ๆ , อ่าาาาาา~ ชื่นใจจังครับพี่แพรว , พี่แพรวใจดีที่สุดเลย!"

.

"..........."

เธอไม่ตอบอะไรบุคลิกขี้อายกับรอยยิ้มสวย ๆ ล้วนถูกซ่อนไว้ใต้หน้ากากครอบแก้ว ก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนออกมา วางอาวุธแล้วเอาน้ำไปกินแก้กระหายกัน พวกเขากินน้ำกันครั้งสุดท้ายก็เมื่อ 2 - 3 วันที่แล้ว

.

.

การรับแจกแคปซูลดำเนินผ่านไปด้วยดีตามวัตถุประสงค์ แต่ทว่าเมื่อถึงคิวคนสุดท้ายพี่พยาบาลวัยกลางคนที่ไม่ได้สวมชุดพยาบาลก็ได้ป้องปากบอกกับแพรวว่า คาราวานมีปัญหาบางอย่างที่เธอไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ด้วยตัวคนเดียว

.

"ซุบซิบ ๆ , ซุบซิบ ๆ "

.

"ห๊ะ! เป็นไปได้ไงคะพี่! หนูอุตส่าห์กำชับกับพี่ไว้แล้วว่าอย่าให้เรื่องนี้เกิดขึ้น! พี่คือหมอที่เก่งที่สุดที่เรามีแล้วนะคะ!"

.

"ใจเย็นค่ะน้องแพรว อย่าเสียงดังไปเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน เอาเป็นว่าน้องมาดูกับพี่ก่อน.."

.

"ค่ะ...เอางั้นก็ได้"

.

ปล่อยให้ชาวแก๊งค์คนอื่น ๆ ดื่มด่ำกับน้ำแคปซูลที่เก็บมาจากบ่อบำบัดไป ส่วนสองสาวผู้กุมความลับไว้ก็ได้เดินอ้อมกลุ่มรถออฟโร้ดมายังรถคันที่อยู่หลังสุด สีของมันดำขลับตัวถังเต็มไปด้วยร่องรอยเฉี่ยวชนและการบุบจากการโดนกระแทก กระบะหลังมีการเชื่อมโครงเหล็กทำเป็นลูกกรงเอาไว้ พลางใช้ผ้าใบสีดำคลุมทับอีกทีราวกับเป็นของสำคัญมากๆ ที่ต้องปกป้อง แต่สุดท้ายก็ต้องโดนแพรว อิสรา กระชากออกอยู่ดี

.

"พรึบบบบ!!!!"

.

สว่างจ้าแสบตาเป็นยองใยเมื่อภาพที่เห็นคือกลุ่มเด็ก ๆ อายุราว ๆ กับโบ๊ทนั่งเว้นระยะห่างกันประมาณ 1 ช่วงแขนตามทฤษฎี Social Distancing เป๊ะ! ๆ ดูจากสายตาน่าจะมีราว ๆ 10 กว่าคนแล้วก็มีทั้งเพศชายและเพศหญิง พวกเขาไม่ได้มีท่าทางตกใจอะไรแต่แค่แสบตาเล็กน้อย มิหนำซ้ำยังยิ้มให้พี่แพรวใจดีของพวกเขาด้วย

.

"แล้วไงคะพี่..แพรวก็เห็นว่าทุกคนปกติดี"

.

"ไม่ค่ะ!?"

พยาบาลตอบเสียงสั่น เธอเอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อหยิบเอาปืนวัดอุณหภูมิออกมาถือไว้ ก่อนจะพูดต่อ

.

"หมายเลข 013 ออกมาที่หน้ากรงด้วย.."

.

เด็กหญิงผูกผมเปียตาบ่องแบ้วคนหนึ่งค่อย ๆ แหวกขอทางเพื่อนออกมา สีหน้าเธอเป็นกังวลผิดวิสัยมิหนำซ้ำยังตัวสั่นเป็นลูกนก ราวกับรู้ตัวว่าตนเองผิดปกติ

.

สอดคล้องกันกับคุณพยาบาลที่จัดแจงยิงปืนวัดอุณหภูมิเข้าที่หน้าผาก ตัวเลขสูงปรี๊ดขึ้นไปถึง 39.7 ทั้งที่อุณหภูมิปกติกของคนเราอยู่แค่ 37 องศาเท่านั้น สิ่งนี้บ่งบอกว่าแม่หนูหมายเลข 013 กำลังเป็นไข้ แล้วแพรวผู้เป็นหัวหน้าก็ต้องทำอะไรสักอย่าง

.

"นะ...หนูขอโทษพี่แพรว...หนู....ฮือ...ฮือ...ฮือ...."

ร่างจิ๋วร้องไห้เกาะลูกกรงอย่างน่าสงสาร แม้แต่พี่พยาบาลเองก็ต้องเดินเลี่ยงออกไปน้ำตาคลอเบ้า หลังจากสังเกตเห็นสิ่งที่แพรวกำลังจะทำ

.

เธอเอื้อมมือไปที่ด้านหลัง สอดฝ่ามือขวาล้ำเข้าไปใต้ชายเสื้อกล้ามสีเขียวขี้ม้า พลันควักเอาปืนพก 9 มม. กร็อก 18 Burst Fire ความจุกระสุน 33 นัด ขึ้นมาถือไว้ในมือ ก่อนจะหันปลายกระบอกปืนไปจ่อเข้าที่กึ่งกลางหน้าผากเด็ก!

.

"ปัง!!!!!!!"

หนึ่งนัดเข้าหน้าผาก

.

"ปัง!!! , ปัง!!! , ปัง!!!! , ปัง!!!!"

โหมด Burst Fire ทำให้ที่เหลือเป็นการยิงรัวกราดซ้ำจนหมดแม็ก! ศพเด็กกองอยู่ใต้ลูกกรง!

.

.

เสียงปืนดังกล่าวดังสนั่นหวั่นไหว! จนทำให้ทุกคนที่เคยกระโดดโลดเต้นเพราะได้น้ำกินหันมองเป็นตาเดียวกัน ไม่มีคนพูดอะไร สักพักถึงมีวัยรุ่นในกลุ่ม 3 - 4 คนเดินมาเก็บศพราวกับรู้หน้าที่ พวกเขาโยนร่างอันไร้วิญญาณลงไปในบ่อน้ำอันแห้งเหือดดด..

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 76 : เรือยอร์ชที่เคยหรู

    นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 75 : Drink water

    ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 74 : ไปไหนไปด้วยเราก็ช่วย 2 บาท

    พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 73 : โบ๊ท

    เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 72 : นักบินโดรน

    เหลือเชื่อว่าจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดแทนที่กระสุนปืน เจนิสส่งทุกคนเข้านอนและตอบแทนความไว้ใจจากแพรวด้วยการห่มผ้าให้กับพี่สาว แม้จะรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะข่มตาหลับ แต่ชีวิตนั้นก็ต้องก้าวต่อไป แพรวอุตส่าห์นำทุกคนให้รอดมาถึงพื้นที่ใต้ทางด่วนตรงนี้ได้ แล้วมีหรือที่สายแข็งนักนอนเช้าอย่างเจนิสจะไม่ตอบแทนกลับไปบ้าง.เธอค่อย ๆ ย่องห่างออกมาจากจุดพัก สอดส่ายสายตาผ่านทะลุไปตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่คิดว่าน่าสงสัย พลันตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าเสียงจิ้งหรีดนั้นมาจากไหน ถ้าเป็นเสียงปืนหรือเสียงคนฆ่ากันตายยังจะเป็นไปได้มากกว่า.“นั่นน่ะสิ! แปลกมากเลย? โควิดมันกินได้แม้กระทั่งผนังปูน แล้วกับสิ่งมีชีวิตเปลือกหุ้มอย่างจิ้งหรีดกลางคืนเนี่ยะนะ ไม่ใช่ล่ะ! เป็นไปไม่ได้!”“ถ้าเราไม่หูแว่วไปเอง เราควรจะตรวจสอบทุกจุดที่น่าสงสัยให้ละเอียดที่สุด”.กระชับหน้ากากครอบแก้วให้ติดแน่น ตัวเลขสถานะก๊าซลดลงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ส่วนในมือที่ถืออยู่ก็คือพลองไม้ขนาดยาวที่เป็นเหมือนอาวุธประจำกายของเธอ มันทั้งง่อนแง่นแล้วก็ดูบอบบางจนจินตนาการไม่ออกว่าถ้าเอาไปฟาดหัวใครเข้า Damage จะเข้าสักเท่าไหร่ แต่ครานั้นเจนิสก็

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 71 : ยาม

    ฝุ่นตลบอบอวลควันโขมงโฉงเฉง ต่างคนต่างกรี๊ดกันไม่ออกด้วยเพราะถูกแพรวใช้ฝ่ามือปิดปากเอาไว้ 4 ชีวิตรอดตายแบบเฉียดฉิว รอจนกระทั่งทุกอย่างเริ่มเจือจาง และแสงจันทร์เริ่มจะสาดแสงทุกสายตาถึงเริ่มขยับเขยื้อน แผ่นปูนผืนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านเป็นกำบังให้ ส่วนพวกสาว ๆ เองก็ต่างพยายามจะชะเง้อออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังการถล่มของตึกหลังใหญ่ผ่านพ้น.“เบา ๆ นะระวังด้วย..”แพรวกระซิบเตือน.ความอยากรู้อยากเห็นนี่แหละที่เป็นทั้งคุณและโทษ มันทำให้เกิดความกระตือรือร้นก็จริง แต่ก็ทำให้เกิดช่องโหว่ได้ในคราวเดียวกัน เพราะสิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือขบวนรถพยาบาลที่วิ่งเข้ามากันอย่างขวักไขว่ สัญลักษณ์ AP บนตัวถังเด่นหลา มีการขนคนเจ็บรายทางออกมา แถมยังมีบางส่วนที่วิ่งตรงเข้าไปยังจุดปะทะเพื่อไปเอาคนเจ็บที่ตกค้างออกมาจากสมรภูมิ ไฟไซเรนหมุนติ้ววนวกคล้ายกันกับความสับสนแน่นอก ว่าจะเอายังไงต่อไปดี.พิจารณาแล้วคงเป็นไปไม่ได้หากแพรวจะยังดันทุรังทำตามแผนเดิม ถึงจะไม่รู้ว่าพวก AP กำลังสู้อยู่กับอะไร แต่ยังไงซะถ้าเข้าไปในสภาพแบบนี้ก็เท่ากับไปตายเปล่า แคลนของแพรวจะเอาอะไรไปสู้ ลำพังอาวุธที่มีอยู่ในมือก็ทำได้แค่ป้องกันตัวเอง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status