Home / เมือง / Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+) / บทที่ 1 : ณ ปีปัจจุบัน

Share

บทที่ 1 : ณ ปีปัจจุบัน

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-06-10 20:14:03

"ใครที่ติดเชื้อถือเป็นเลือดไม่บริสุทธิ์ ใช้ไม่ได้! หวังว่าทุกคนคงเข้าใจ!"

แพรวแผดเสียงดังขึงขัง เธอลดปืน 9 มม.กร็อก18 เก็บเข้าที่ซองเก็บด้านหลัง พลันผายมือบอกให้ทุกคนขึ้นรถ

.

เชื่อไหมว่าไม่มีใครกล้าหือกับเธอสักคน ทุกคนนิ่งเงียบก้มหน้าก้มตาเก็บของทำตามคำสั่ง การที่มีเด็กท้ายรถคนหนึ่งติดเชื้อนั่นหมายความว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป อาจจะต้องหิวข้าวหิวน้ำกันอีกหลายวัน แต่ก็ช่วยไม่ได้! ทุกคนต่างรีบเคี้ยวแคปซูลที่ได้รับแจกมากันตุ้ย ๆ ก้นหน้าก้มตากลับมาทำหน้าที่ของตัวเองตามเดิม

.

"มันไม่โหดไปหน่อยเหรอคะน้องแพรวพี่ว่า.. บางที.. ขวัญกำลังใจของ.ง.ง"

.

"ไม่หรอกค่ะหนูเข้าใจว่าพี่เป็นพยาบาล พี่เคยอยู่ในที่ ๆ เต็มไปด้วยพลังบวก มีแต่คนใจดีอยู่รอบตัวเต็มไปหมด พี่ไม่เหมือนหนูโลกแบบนั้นไม่มีอีกแล้วพี่ ให้ความสวยอยู่บนใบหน้าหนูก็พอ พี่ไม่ต้องโลกสวยหรอกมันเปล่าประโยชน์!"

.

กดปุ่มที่หลังหูดัง "กริ๊ก" โดยฉับพลัน! หน้ากากครอบแก้วอันเดิมตวัดขึ้นมาครอบหน้า พร้อมกับการทำงานของใบพัดฟอกอากาศ ~~ฟู่...ฟู่..~~

.

"แต่น้องแพรวคะ!?"

.

"ไม่ค่ะพี่! ใส่หน้ากากซะแล้วไปขึ้นรถ! ต่อไปนี้พี่ต้องคุมรถคันหลังสุดให้ดี ในกรงนั่นไม่ใช่เด็ก ๆ พวกเขาคือสินค้า พลาสม่าในเลือดอันบริสุทธิ์คือยารักษาเชื้อ Covid - 19 ที่ประเมินค่าไม่ได้ ได้โปรดจำเอาไว้ด้วย! อย่าให้เลือดบริสุทธิ์ปนเปื้อนอีกเป็นอันขาด เด็กเหล่านั้นคือทางรอดเดียวของพวกเรา"

"ส่วนเรื่องอาหารการกิน , ที่อยู่อาศัย , การคุ้มกันความปลอดภัย หนูกับทีมส่วนหน้าจะเป็นคนรับผิดชอบเอง พี่ไม่ต้องห่วงแค่ทำหน้าที่ของพี่ให้ดีที่สุดก็พอโอเคนะคะ!"

.

"อะ..อืม..ค่ะ"

พยาบาลสาวตอบกลับเสียงอ่อย แม้ไม่อยู่ในชุดเครื่องแบบแต่สีหน้าท่าทางของเธอ ก็ยังคงเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตาธรรมอยู่ดี

.

เธอเดินอ้อมไปอีกฟากเพื่อเช็คประตูลูกกรง ก่อนจะเปิดประตูรถด้านข้างคนขับขึ้นไปนั่ง ส่วนแพรว อิสรานั้นอ้อมไปอีกฝั่ง เธอชะโงกหน้าขึ้นไปคุยกับพี่โชว์เฟอร์คนขับ ที่บัดนี้ก็คาดหน้ากากครอบแก้วแบบเดียวกับเธอไว้แล้ว เสียงปั่นของใบพัดสองอันดังจนคุยกันไม่ได้ยินนัก แต่ถึงกระนั้นแพรวก็แค่ยื่นมือมาเคาะที่จอตรงคอนโซลหน้ารถสองสามที พลางทำมือชี้ไปข้างหน้าเท่านี้ก็เป็นอันรู้กัน

.

"รับทราบครับคุณแพรว.. แผนที่กับพิกัดเป้าหมายต่อไปจะส่งมาทางจอนี้ใช่ไหมครับ?"

.

"(ค่ะ^^)"

เธอตอบด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนไว้ใต้หน้ากาก ก่อนจะกระโดดลงจากประตูรถออฟโรดโหลดสูง แล้ววิ่งย้อนกลับไปยังรถคันแรกเพื่อสั่งการบังคับบัญชาไปสู่ที่หมายต่อไป

.

ที่ ๆ เธอเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ รู้แต่ว่าเป็นที่ ๆ ปลอดภัยสำหรับทุกคน เพราะมีตัวเลขของการแพร่กระจายสะสมน้อยที่สุด

.

"ขึ้นเหนือกันพี่! ลองขับขึ้นเหนือดูเมืองหลวงอย่างที่นี่ ไม่เหลืออะไรให้เราแสวงโชคอีกแล้ว!"

.

.

"บรื้นนนนน!!!! ๆ ๆ ! , บรื้นนนนนน!!! ๆ ๆ ! , ปี้น ๆ ๆ !"

.

.

ล้อรถหมุนบดพื้นถนนสอดคล้องกับเข็มบนหน้าปัดนาฬิกาที่หมุนกลับทิศ ย้อนเล่าเหตุการณ์ถอยหลังกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ปี 2019 ปีที่ไวรัสโคโรน่าส่งผลรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามของคนทั้งโลก

.

ณ หอพักนักศึกษาในย่านกลางเมืองอันแสนสงบ ขอสงวนชื่อเอาไว้แต่อยากให้รู้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ สถาบันแห่งนี้ผ่านมาแล้วทั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง , สงครามกลางเมือง 14 ตุลา 2516 , หรือแม้กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าถาโถมเข้าใส่อัครสถานแห่งการศึกษาแห่งนี้ แต่ก็ไม่มีครั้งไหนแปลกประหลาดเท่าครั้งนี้มาก่อน มหาลัยต้องปิดการเรียนการสอนทั้งหมด หอพักนักเรียนต้องขับไล่ผู้คนออกจากโรงนอน เพียงเพราะเชื้อไวรัสร้ายที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

.

โรคระบาด! แต่ทว่าก็ยังมีพวกขี้กากที่อาศัยอยู่ในหอต่อไปโดยไม่แคร์คำสั่งจากเบื้องบน เขาคนนั้นคือ "เปรม" ชื่อจริงคือ "เปรมนัศ" ที่ไม่ใช่ "ธรรมนัส" ผู้โด่งดังจากการค้าแป้งบนเวทีการเมือง เปรมลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันหนึ่งที่เพื่อน ๆ คนอื่นต่างพากันขนข้าวของย้ายออกไปกันหมด ความหล่อของเขาเรียกได้ว่าทรมานกระจกทุกบาน แต่ก็สายเกินต้านเมื่อหอรวมแห่งนี้ไม่มีสาว ๆ เหลืออยู่เลยสักคน ทุกอย่างโล่งเตียนเงียบเหงาจนหอพักที่ใหญ่ที่สุดในย่านมีสภาพไม่ต่างจากอพาร์ทเมนต์ผีสิง

.

น้ำสะอาดกระซ่านเซ็นเต็มใบหน้าพอชำระล้างหน้าตาเสร็จ เปรมก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เขาหยิบสมาร์ทโฟนของตนเองขึ้นมาเช็ควันเวลาบนหน้าจอ แต่ทว่าสิ่งที่เห็นกลับกลายเป็นเบอร์โทรศัพท์ของสาวเจ้านางหนึ่งซึ่งเป็นคนที่เขาแอบรัก

.

"เฮ้อ.. เราจะตายก่อนรึเปล่านะ?"

"ไอ้เปรมเอ๊ย! แค่บอกรักผู้หญิงคนเดียวยังไม่กล้า อุตส่าห์อยู่หอนี้มานานจนได้เป็นถึงประธานหอแล้วแท้ๆ ดันไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง"

"เวรเอ๊ย! เกลียดตัวเองชะมัด!"

พูดเสร็จก็คว่ำหน้าจอสมาร์ทโฟลงบนโต๊ะตามเดิม ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกทีชำระล้างร่างกายให้สะอาดสดชื่น

.

เสร็จแล้วจึงเดินออกมาใหม่พร้อมกับทรงผมทรงเก่งและเสื้อกราวน์สีขาวสุดเนี๊ยบ

.

ใช่แล้ว! เปรมคือนักศึกษาคณะเภสัชชั้นปีที่ 3 เขาอาจจะต้องใช้เวลาเรียนอีกหลายปีกว่าจะจบ แต่บารมีกับภาษีสังคมที่ได้รับมานั้นก็ถือว่าใช่ย่อย ความหล่อยืนหนึ่งบุคลิกภูมิฐานสะอาดสะอ้านตามมาเป็นอันดับสอง ซึ่งแค่นั้นก็มากพอแล้วที่จะทำให้พี่น้องชาวหอทั้งหลายยกเปรมให้เป็นประธานโดยไม่ต้องเลือกตั้ง น้ำเสียงที่สุภาพ , ท่วงท่าที่อ่อนน้อม , ดูผ่าน ๆ บุคลิกของเขาช่างคล้ายคลึงกับคุณหมอทวีศิลป์ โฆษกสาธารณสุขที่แถลงข่าว covid- 19 ให้พวกเราฟังอยู่ทุกวันเหลือเกิน ต่างกันแค่เป็นเวอร์ชั่นย้อนยุคและยังหนุ่มยังแน่น

.

เปรมเดินออกมาจากหอพักลัดเลาะไปตามขอบฟุตบาท ใช้เวลาอยู่ร่วม 5 นาทีในที่สุดก็มาถึงร้านขายยาอันเป็นเป้าหมาย ร้านแห่งนี้เป็นร้านของคุณน้าของเขา และด้วยความที่มหาลัยไม่มีการเรียนการสอนเปรมก็เลยต้องมาหาอะไรทำที่นี่ไปพลางก่อน

.

ด้วยความรู้ความสามารถที่มีถึงจะยังเรียนไม่จบ แต่ถ้าเป็นเพียงยาสามัญประจำบ้านแล้วล่ะก็คงมิใช่ปัญหา เขาสามารถแนะนำและจัดยาให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างสบาย ๆ

.

ครืดดดดด! , ครืดดดดดดด!

เสียงประตูเหล็กหน้าร้านเปิดสูงขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าของคนที่อยู่ภายใน

.

"เอ้าเปรม! มาแล้วเหรอลูก! มาเร็วจัง!"

.

"ครับน้า! บอกเลยนะครับว่าวันนี้จะให้ผมทำอะไร คิดซะว่าผมเป็นเด็กฝึกงานคนหนึ่ง"

.

น้าสาวพยักหน้าเอ็นดูในความตั้งใจของหลาน เพราะงั้นถึงสั่งให้เปรมเอาโต๊ะพับไปกางที่หน้าร้าน "พวกเราจะทำการแจกหน้ากากอนามัยกัน" แกว่าอย่างงั้น ไอเท็มโคตรแรล์ของที่หายากยิ่งกว่าทองคำในยุคสมัยที่พ่อค้าคนกลางพากันกักตุนและฟันกำไรมหาศาล ทว่ากับร้านขายยาแห่งนี้ ญาติสนิทมิตรสหายของเปรมกำลังจะทำการแจกจ่ายมันฟรี ๆ ให้แก่ใครก็ได้ที่เดินผ่านไปผ่านมา

.

"ช่วยในแบบที่เราช่วยได้.. ถ้าน้าทำกับข้าวอร่อยป่านนี้น้าทำกับข้าวแจกทุกคนไปแล้ว"

น้าสาวยิ้มกว้างใจดีตามสไตล์ แล้วก็คงเป็นเพราะแบบนี้ละมั้งเปรมจึงมีนิสัยหล่อ ๆ เหมือนกับหน้าตาของเขาที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

.

ใช้เวลาตระเตรียมแบกลังหน้ากากมากองสุม ทำป้ายประชาสัมพันธ์อยู่อีกหน่อยนึงไม่นานก็แล้วเสร็จ ปรากฏว่ามีคนมาเข้าคิวรับหน้ากากแจกเป็นระยะ แล้วก็มีคุณป้าคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาขอคำแนะนำจากเปรมผู้ซึ่งแต่งตัวดูเหมือนหมอที่สุดในกลุ่ม แกถามเขาว่า

.

"มันเหมือน "โบโลน่า" ที่ใส่แซนวิซไหมลูก ไอ้ไวรัส "โคโรน่า" อะไรเนี่ยะ?"

.

เปรมทำหน้างง แม้แต่เจ้าของร้านกับลูกน้องคนอื่น ๆ ก็งงตามไปด้วย

.

"ไม่เหมือนหรอกครับป้า.. ป้าใส่แมสไว้ตลอดนะครับ.. ถ้าไม่อยากตาย!"

เขาตอบห้วน ๆ เรียกเสียงหัวเราะเฮฮาไปทั่วบริเวณ

.

.

กว่าจะแจกของเสร็จช่วงเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ตอนเย็นซะแล้ว หนุ่มหล่อลุคคุณหมอจึงเลือกที่จะเข้ามาเดินเล่นในมหาลัย ที่นี่เงียบเหงามากจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าสถานการณ์ยืดยาวต่อไปผู้คนจะมีชีวิตอยู่กันยังไง? ความดีที่ทำไปจะมีประโยชน์อะไร? เขาคิดย้อนถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำผิด ความพลั้งพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำกับเธอคนนั้นให้เสียใจจนยากจะให้อภัยตัวเอง..

.

ลมโชยโบยแก้มก่อนจะมาหยุดฝีเท้าเอาตรงหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า "Gutuso cafe" มันเคยเป็นที่ ๆ เขากับเธอชอบมานั่งด้วยกันเป็นประจำ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนผันไปหมดแล้ว

.

รูดม่านปิดบัง! , กันสาดถูกพับ! , ดอกไม้ในกระถางแห้งตาย! , ต้นไม้เหี่ยวเฉา! , ชานระเบียงที่ยื่นออกมาเต็มไปด้วยขี้ฝุ่น!

.

"เปรี๊ยะ!!!"

.

แล้วจู่ ๆ โสตประสาทก็รับรู้ได้ถึงเสียงฝ่ามือที่กระทบใบหน้า! ความเจ็บแปร๊บนี้แลบขึ้นมาจากห้วงแห่งความทรงจำของเปรม

.

"เธอทำแบบนี้กับเราได้ไง?!"

"ไม่คิดอะไร..? , แล้วใจที่มันให้ไปแล้วล่ะวะ..? , ใครจะรับผิดชอบ!"

.

แพรว อิสรา ในชุดนักศึกษาตะโกนขึ้นกลางร้าน เธอปรี่เข้ามาประชิดตัวแล้วทุบตีเปรมด้วยสันกำปั้นอันแผ่วเบา ทุบ ๆ ๆ ! ตี ๆ ๆ ! ยิ่งตีน้ำตาก็ยิ่งไหล ฝั่งเปรมเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากกอดเธอไว้ เขาปล่อยให้เธอทำต่อไปทำทุกอย่างตราบเท่าที่เธอสบายใจตามแต่ใจต้องการ

.

"เราขอโทษ..~"

เขาพูด จำนวนคนในร้านอาจจะบางตาทว่าหน้ากากที่ใส่แล้วเห็นแต่ลูกตาก็บ่งบอกได้ว่าพวกเขากำลังตกเป็นเป้าสนใจ

.

กระทั่งตัวเขาต้องดึงสติกลับออกมาสู่โลกปัจจุบัน! เปรมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เคลื่อนตัวแช่มช้าคล้ายจะหยุดนิ่ง สีเหลืองอมส้มแดงเรื่อของมันถูกฉาบทับด้วยม่านควันจากฝุ่นละออง PM 3.0 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก.. หายใจก็ไม่ออก.. เจ้าตัวยังคิดอยู่เลยว่าตัวเองผ่านเรื่องแบบนั้นมาได้ยังไง

.

.

เขายังคงหวนคิดถึงมันอยู่เรื่อย ๆ แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ที่หน้าร้านกาแฟร้านเก่ง บรรยากาศเดิม ๆ ครื้นเครง ต่างกันแค่หนนี้ไม่มีใครเห็นเลย (มันมีแต่ความเงียบเหงา)

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 76 : เรือยอร์ชที่เคยหรู

    นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 75 : Drink water

    ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 74 : ไปไหนไปด้วยเราก็ช่วย 2 บาท

    พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 73 : โบ๊ท

    เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 72 : นักบินโดรน

    เหลือเชื่อว่าจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดแทนที่กระสุนปืน เจนิสส่งทุกคนเข้านอนและตอบแทนความไว้ใจจากแพรวด้วยการห่มผ้าให้กับพี่สาว แม้จะรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะข่มตาหลับ แต่ชีวิตนั้นก็ต้องก้าวต่อไป แพรวอุตส่าห์นำทุกคนให้รอดมาถึงพื้นที่ใต้ทางด่วนตรงนี้ได้ แล้วมีหรือที่สายแข็งนักนอนเช้าอย่างเจนิสจะไม่ตอบแทนกลับไปบ้าง.เธอค่อย ๆ ย่องห่างออกมาจากจุดพัก สอดส่ายสายตาผ่านทะลุไปตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่คิดว่าน่าสงสัย พลันตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าเสียงจิ้งหรีดนั้นมาจากไหน ถ้าเป็นเสียงปืนหรือเสียงคนฆ่ากันตายยังจะเป็นไปได้มากกว่า.“นั่นน่ะสิ! แปลกมากเลย? โควิดมันกินได้แม้กระทั่งผนังปูน แล้วกับสิ่งมีชีวิตเปลือกหุ้มอย่างจิ้งหรีดกลางคืนเนี่ยะนะ ไม่ใช่ล่ะ! เป็นไปไม่ได้!”“ถ้าเราไม่หูแว่วไปเอง เราควรจะตรวจสอบทุกจุดที่น่าสงสัยให้ละเอียดที่สุด”.กระชับหน้ากากครอบแก้วให้ติดแน่น ตัวเลขสถานะก๊าซลดลงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ส่วนในมือที่ถืออยู่ก็คือพลองไม้ขนาดยาวที่เป็นเหมือนอาวุธประจำกายของเธอ มันทั้งง่อนแง่นแล้วก็ดูบอบบางจนจินตนาการไม่ออกว่าถ้าเอาไปฟาดหัวใครเข้า Damage จะเข้าสักเท่าไหร่ แต่ครานั้นเจนิสก็

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 71 : ยาม

    ฝุ่นตลบอบอวลควันโขมงโฉงเฉง ต่างคนต่างกรี๊ดกันไม่ออกด้วยเพราะถูกแพรวใช้ฝ่ามือปิดปากเอาไว้ 4 ชีวิตรอดตายแบบเฉียดฉิว รอจนกระทั่งทุกอย่างเริ่มเจือจาง และแสงจันทร์เริ่มจะสาดแสงทุกสายตาถึงเริ่มขยับเขยื้อน แผ่นปูนผืนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านเป็นกำบังให้ ส่วนพวกสาว ๆ เองก็ต่างพยายามจะชะเง้อออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังการถล่มของตึกหลังใหญ่ผ่านพ้น.“เบา ๆ นะระวังด้วย..”แพรวกระซิบเตือน.ความอยากรู้อยากเห็นนี่แหละที่เป็นทั้งคุณและโทษ มันทำให้เกิดความกระตือรือร้นก็จริง แต่ก็ทำให้เกิดช่องโหว่ได้ในคราวเดียวกัน เพราะสิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือขบวนรถพยาบาลที่วิ่งเข้ามากันอย่างขวักไขว่ สัญลักษณ์ AP บนตัวถังเด่นหลา มีการขนคนเจ็บรายทางออกมา แถมยังมีบางส่วนที่วิ่งตรงเข้าไปยังจุดปะทะเพื่อไปเอาคนเจ็บที่ตกค้างออกมาจากสมรภูมิ ไฟไซเรนหมุนติ้ววนวกคล้ายกันกับความสับสนแน่นอก ว่าจะเอายังไงต่อไปดี.พิจารณาแล้วคงเป็นไปไม่ได้หากแพรวจะยังดันทุรังทำตามแผนเดิม ถึงจะไม่รู้ว่าพวก AP กำลังสู้อยู่กับอะไร แต่ยังไงซะถ้าเข้าไปในสภาพแบบนี้ก็เท่ากับไปตายเปล่า แคลนของแพรวจะเอาอะไรไปสู้ ลำพังอาวุธที่มีอยู่ในมือก็ทำได้แค่ป้องกันตัวเอง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status