เพนท์เฮ้าส์ E-vanขนมปังในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่แขนสั้นลายสีฟ้าสลับขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำกำลังยืนเลือกชุดที่จะใส่ออกไปเคาท์ดาวน์ หลังจากเลือกสถานที่ได้แล้วว่าจะไปฉลองปีใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ติดริมแม่น้ำ แล้วก่อนหน้านี้เธอกับอีวานเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับบัตรเชิญให้เข้าร่วมงานในโซนพิเศษสำหรับนักธุรกิจ ดารา นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์ และเซเลบริตี้อีกอย่างนี่ก็เป็นปีแรกที่เธอจะไปเคาท์ดาวน์กับอีวานได้ลองทำอะไรในสถานที่ใหม่ ๆ ด้วยกันคงเป็นการเริ่มต้นที่ดี..“ใส่ชุดนี้หรือชุดนี้ดีล่ะ”“สวยคนละแบบเลือกไม่ถูกเลย อืมม”เธอยืนลังเลมองชุดสลับไปมาระหว่างชุดหรูสองแบรนด์คือ chanel กับ dior พอยืนคิดไปสักพักจบที่เธอเลือกใส่เดรสสีดำเกาะอกสั้นของดิออร์ เมื่อเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ได้แล้วเธอก็เริ่มอาบน้ำแล้วออกมาแต่งหน้าต่อMessages from Pie (เฮียพาย)Pie : ขนมปังPie : เฮียกำลังจะไปญี่ปุ่นนะPie : เฮียยังไม่มีกำหนดกลับมาประเทศไทย..Pie : ไม่ต้องเป็นห่วงเฮียนะครับPie : เฮียจะไม่ทำให้ขนมปังเดือดร้อนร่างบางที่กำลังเตรียมตัวจะออกไปเคาท์ดาวน์ข้างนอกกับแฟนหนุ่ม จู่ ๆก็ได้รับข้อความจากพี่ชายและครอบครัวเพีย
“ฉันไม่มีวันไม่ชอบเธอหรอกนะ”อีวานยกเธอขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงาน แขนยันกับโต๊ะโน้มตัวลงไปจุมพิตปากอวบอิ่มสีชมพูธรรมชาติ จูบอย่างอ่อนโยน แขนเรียวเล็กคล้องคอเขาเธอเริ่มจูบเขาอย่างดูดดื่มมือหนาเริ่มอยู่ไม่นิ่งเขาสอดมือไปในเสื้อบีบเต้านมแสนสวยผ่านบราเซียราคาแพง เมื่อปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระร่างบางก็เอ่ยคำชวนอย่างเย้ายวน“อยากพักจากงานแล้วมาทำอย่างอื่นกันไหมคะ”“เดี๋ยวก็อดไปเคาท์ดาวน์หรอก”“ทำไมคะ?”“เพราะฉันจะเปลี่ยนเป็นเอาเธอข้ามปีแทน”“อีวาน! ทะลึ่งมาก”“ไม่ชอบเหรอ ก็ได้ยินว่าร้องขออีกรอบ”“คนบ้า ฉันจะไปเลือกที่เคาท์ดาวน์ต่อแล้วค่ะ”ขนมปังดันอีวานให้ถอยออกไป เธอลงจากโต๊ะทำงานหอมแก้มเขาไปหนึ่งที“สู้ ๆ ขอให้ทำงานเสร็จนะคะ”อีวานยิ้มออกมาเล็กน้อยมองยัยตัวเล็กเดินออกไปจากที่ทำงาน แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อาร์มอถือเอกสารเข้ามา“กำลังมีความสุขเหรอครับ” อาร์มอก็อดจะแซวไม่ได้เมื่อเจ้านายเอาแต่ยิ้มขณะจรดปากกาเซ็นเอกสาร“คงงั้น ความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสกูพึ่งได้เข้าใจก็วันที่มีเธออยู่ข้างกาย”“ถ้านี่เป็นฝัน กูก็ไม่อยากตื่นเลยว่ะ”“แต่นี่คือเรื่องจริงครับ นายท่านไม่ได้ฝัน”“ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงที่ถ
31 ธันวาคม วันสุดท้ายของปี เต็มไปด้วยบรรยากาศของช่วงเวลาให้ได้ลำลึกนึกถึงอดีต หลายคนใช้เวลาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาในตลอดปี ทั้งความสุข ความทุกข์ ความสำเร็จ และความผิดหวัง นำมาซึ่งความรู้สึกที่หลากหลายและคาดหวังว่าในปีใหม่นี้พวกเขาจะได้กระทำสิ่งที่ยังไม่ได้ทำให้สำเร็จ หรือบางคนก็สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้สำเร็จเพื่อรอทำเป้าหมายต่อไปในปีใหม่มันอาจมีบางเรื่องที่ทำให้เราเจ็บปวดแต่ก็ยังมีเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข ซึ่งในแต่ละปีเรื่องเหล่านั้นจะทำให้เราเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นทุกสิ้นปีจึงเป็นโอกาสให้ได้ทำการรีเซ็ตความคิด เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ต้อนรับสิ่งใหม่อะไรที่ไม่ดีผ่านมาได้แล้วก็ทิ้งมันไว้ในปีเก่า แล้วมาเริ่มต้นใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้จากสิ่งที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในอนาคตและเช่นเดียวกับคู่รักคู่ใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นปลูกต้นรักกันไม่นาน แต่พวกเขานั้นผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะมาก ถึงจะมีช่วงที่ทั้งสองห่างกันไปแต่พวกเขาก็ไม่เคยลืมกันเลย มันคงเป็นโชคชะตาที่นำพาให้พวกเขามารักกันหวังว่าความรักนี้จะคงอยู่ตลอดไปเพนท์เฮ้าส์ E-vanพอเปิดตัวว่าคบกันขนมปังก็ตัว
“เฮ้อ เหนื่อยอะ”ขนมปังฟุบหน้าลงทิ้งตัวนอนบนหน้าอกแกร่ง เสียงหายเธอหอบเหนื่อยอย่างคนที่ผ่านการวิ่งมาสิบห้านาทีแต่เปลี่ยนเป็นการทำให้เขากับเธอได้ปลดปล่อยความสุขทางกาย“แค่นี้เหนื่อยแล้ว?”“ค่ะ เหนื่อยแล้ว ฉันขอยอมแพ้ค่ะ”ระหว่างที่พูดก็ยังคงหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ทำไมตอนเขาทำเธอไม่เห็นว่าอีวานจะบ่นออกมาเลยว่าเหนื่อยมากเลย เริ่มสงสัยแล้วว่ามาเฟียหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอทำแค่เกร็งขาขยับขึ้นลงนี้ยังรู้สึกเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน“ยอมแพ้อย่างนี้ก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งน่ะสิ”“ค่ะ สั่งมาเลย”แก่นกายใหญ่ไซซ์ 60 ยังคงเสียบคากระตุกหงึก ๆอยู่ด้านในสวดดอกไม้แสนสวยของขนมปัง อีวานลูบก้นงอนเนียนนุ่มบีบขย้ำเบา ๆ“แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรล่ะคะ”“ช่วยตัวเองให้ฉันดู ตอนนี้!”“คะ!!!”“ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า”ขนมปังเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง อยากให้สิ่งที่เธอได้ยินนั้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาเพิ่งพูดว่าให้เธอ ‘ช่วยตัวเองให้เขาดู’ ใช่ไหม“เธอได้ยินไม่ผิดหรอกเด็กดื้อ”“อีวาน..ฉัน”“เธอแพ้เองนะ จะไม่ก็ได้แต่เราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกก็เท่านั้น”“…” ขนมปังเม้มปากเข้ากันแน่นพร้อมหลบ
แกร๊ก ปึง! เสียงประตูบ้านเปิดออกแล้วปิดกระแทกอย่างแรงบ่งบอกว่าอารมณ์คนที่ปิดประตูนั้นกำลังอารมณ์เดือดแบบสุด ๆ ขนมปังที่นั่งเงียบ ๆ รออีวานอยู่ที่โซฟายังสะดุ้งจนหัวใจเต้นแรง แต่ก็พยายามเก็บอาการรีบเปลี่ยนสีหน้าที่ตกใจแสดงออกว่าบึ้งตึง ‘ฉันจะไม่ยอมพูดกับเขาก่อน’ ‘ไอ้คนเย็นชา’ ‘…!’ ผิดคาดจากที่ขนมปังคิดเอาไว้ว่าอีวานจะโวยวายเดินมาหาเรื่องหรือพูดเคลียร์เรื่องเลย์ตัน แต่สิ่งที่อีวานทำคือการเดินผ่านเธอไปโดยไม่มองหน้า เขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศ… ขนมปังอึ้งไปเลยเพราะอีวานไม่เคยเมินเธอแบบนี้มาก่อน ขนมปังจึงรีบลุกเดินไปจับแขนอีวาน เขาเอียงหน้าหันกลับมามองสายตายังคงเฉยชาใส่เธอเหมือนเดิม ขนมปังขยับปากเล็กเอ่ยถาม “อีวาน” “มีอะไร” “คุณไม่ได้จะคุยกับฉันเหรอคะ” “ฉันบอกเหรอว่าจะคุย?” “ก็คุณบอกให้ฉันกลับมาที่บ้าน..” “ฉันคิดว่าคุณจะเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วทำไมถึงได้เมินใส่กันล่ะคะ” เธอเม้มริมฝีปากลงแล้วคลายออกด้วยความสับสน ดวงตากลมโตสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลแววตาของเขาฉายให้เห็นความเย็นชา “เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีเรื่องจะพูดกับฉันแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอธิบายอะ
“พาเธอออกไป!”“คะ..ครับ”บอดี้การ์ดเข้ามาจับแขนเล็กพยายามจะดึงให้คนที่เคารพดั่งนายหญิงพาเธอออกไปจากบ้านพักตากอากาศตามคำสั่งของนายท่าน ขนมปังขืนตัวไม่ไปตามแรงที่ดึงตัวเธอ ขนมปังหันกลับมาพูดทักท้วงอีกรอบ“อีวาน คุณจะเอาแบบนี้ใช่ไหมคะ?”“จะไม่ยอมฟังกันเลยใช่ไหมคะ?”“คิดว่าพูดในสถานการณ์ตอนนี้มันฟังขึ้นไหมล่ะ”“ฉันบอกให้ไปรอที่บ้าน”“ฉันไม่อยากพูดซ้ำประโยคเดิมหลายรอบขนมปัง”น้ำเสียงไร้ความอ่อนโยน นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไม่สั่นคลอเลยแม้แต่เศษเสี้ยว“โอเค ได้ค่ะ”“ฉันทำได้แค่ต้องฟังแล้วก็ทำตามคำสั่งคุณเท่านั้นใช่ไหม”“ใช่ เธอควรฟังคำสั่งของฉัน”“งั้นขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งค่ะ”“ถ้าคุณเลือกจะไม่ฟังกันแล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้วค่ะ”ขนมปังมองไปที่อีวานด้วยแววตาน้อยใจ ส่วนอีวานกลับมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉยแววตาที่ว่างเปล่าไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย สายตาคู่นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง กำแพงที่เกือบถูกหลอมละลายกับถูกปกคลุมด้วยกำแพงเหล็กอันใหม่…ที่ดูแล้วจะทำลายยากกว่าเดิมอีก“ไม่ต้องจับ ฉันเดินเองได้ค่ะ”ขนมปังสะบัดตัวออกจากลูกน้องของอีวานแล้วหันหลังเดินออกไปรอเขาอยู่ที่บ้านพักตากอาก