LOGINสี่หนุ่มฉายา ‘เจ้าชายวิศวะ’ ที่ได้มาจากการโหวตของสาวๆ ในมหาลัยให้พวกเขาเป็นยิ่งกว่าหนุ่มฮอต เพราะไม่ใช่แค่มีดีเรื่องหน้าตา แต่ทั้งสี่หนุ่มยังเรียนเก่งติดท็อปเท็นทุกเทอมอีกด้วย ทั้งหล่อ เก่ง รวย โพรไฟล์ที่บ้านก็ดีเริศ สาวๆ จึงลงความเห็นว่าฉายานี้
ไม่เวอร์เกินไปสำหรับสี่หนุ่มเลยทว่าเจ้าของฉายากลับหัวเราะขำเมื่อได้ยินมันเป็นครั้งแรก เพราะคิดว่าตัวเองช่างห่างไกลจากคำว่า ‘เจ้าชาย’ มากโข พวกเขาไม่ได้ดีพอที่จะเอามายกย่องสรรเสริญ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเลวทราม เป็นแค่ผู้ชายสีเทาทั่วไปที่แดกเหล้าทุกคืน ดูดบุหรี่วันละซอง ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า
ไม่ดีไม่ชั่ว ไม่มั่วแต่ทั่วถึง^^
และน่าแปลกไปกว่านั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ได้คลั่งไคล้พวกเขาเพราะความดี ความเก่ง แต่คลั่งไคล้เพราะไอ้สันดานดิบพวกนั้นเสียมากกว่า หรือจะจริงที่ว่าผู้หญิงนั้นชอบคนเลว?
หล่อ เก่ง หลบไป หล่อ เลวเท่านั้นตอนนี้ที่เป็นที่ต้องการของตลาด!
ขณะที่สามหนุ่มนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เปิดใหม่ตรงหน้ามหาลัย ก็มีผู้หญิงมากมายออกอาการกระดี๊กระด๊าเมื่อเห็นพวกเขา ทั้งส่งยิ้มหวาน ส่งสายตาหลงใหลคลั่งไคล้ และใคร่รู้จักให้หนุ่มๆ กันไม่หยุด ทว่ามีอยู่แค่หนึ่งหนุ่มหล่อในกลุ่มเท่านั้นที่ตอบรับปฏิกิริยาพวกนั้นจากพวกเธอ เพราะอีกสองเป็นพวกที่ค่อนข้างเย็นชา ไม่สนหน้าไหนทั้งนั้นถ้าไม่ได้สนใจ
“นึกยังไงถึงเปลี่ยนมากินกาแฟร้านนี้วะ ร้านเก่าอร่อยกว่าตั้งเยอะ ร้านนี้หวานฉิบ!” หลังจากแจกยิ้มให้สาวๆ เสร็จ ‘ชิน’
หนุ่มหล่อมาดกวน อารมณ์ดี ทำหน้าไม่สู้ดีเมื่อได้ลิ้มรสเอสเปรสโซเย็นแก้วใหญ่ในมือ มันไม่ถูกปากเขาเอาเสียเลย จึงเอ่ยถามคนชวนที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยความสงสัย เพราะปกติพวกเขามีร้านประจำอยู่แล้ว อร่อยกว่านี้หลายเท่า ทำไมต้องพากันมากินที่นี่ด้วย“เออ กูก็ว่างั้นแหละ ร้านนี้ติดหวานไปว่ะ ไม่เข้มข้นด้วย” ‘เรนจิ’ หนุ่มหน้าหวานลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น นิสัยยิ้มยากและพูดน้อยอันดับสองของกลุ่มออกความเห็นขณะแกว่งแก้วกาแฟเล่นไปมาอย่างไม่คิดจะดื่มต่อ
ขืนแดกหมดแก้วนี้เบาหวานกินขาแน่!
“ก็ไม่ได้แย่” ‘ไนท์’ เจ้าของใบหน้าเย็นชายักไหล่ตอบในขณะที่สายตากำลังจดจ้องไปทางเคาน์เตอร์ ที่มีสองร่างเล็กยืนสั่งเครื่องดื่มอยู่
“ไม่ได้แย่ที่ว่า กาแฟหรือวิว?” ชินถามแกมแซวเมื่อจับได้ว่าเพื่อนกำลังมองอะไรอยู่ ก่อนจะเตะขาเรนจิที่นั่งอยู่ข้างๆ ให้มองตาม
“วิวสินะ ดีฉิบหาย สเปกไอ้ไนท์ชัดๆ” เรนจิที่สนิทสนมกับไนท์เป็นพิเศษเพราะมีนิสัยคล้ายคลึงกันรู้ทันทีเมื่อเห็นสองสาวหน้าตาน่ารักสองคนนั้น
สองร่างเล็กในชุดนักศึกษาพอดีตัวไม่รัดติ้วเกินงาม กระโปรงพลีทสูงเหนือหัวเข่าเล็กน้อยกับรองเท้าผ้าใบสีขาว จากการแต่งตัวและข้าวของเครื่องใช้ตามตัว บ่งบอกว่าทั้งสองมีความชอบคล้ายกันและน่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันด้วย
“คนไหนวะ” ชินถามเมื่อเดาไม่ออกว่าคนไหนที่ไนท์ชอบ สำหรับเขาทั้งสองน่ารักจนไม่สามารถบอกได้ว่าใครน่ารักกว่ากัน
ปากนิด จมูกหน่อย ตากลมโต รูปร่างเล็กกะทัดรัดน่าทะนุถนอม ผิวขาวอมชมพูทั้งตัวไอ้ไนท์มันตาดีว่ะ!
“คนที่ถือแก้วนมชมพูอ่ะ” เรนจิยักคิ้วแซวไนท์ที่หันกลับมาเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น “มองกูแบบนี้แสดงว่ากูเดาถูก”
“แต่อีกคนก็น่ารักไม่แพ้กันเลยนะเว้ย” ชินขัด ก็มันรักพี่เสียดายน้องอ่ะ เลือกยากโว้ย!
“อีกคนออกลูกครึ่งไปหน่อย ไอ้ไนท์มันชอบน่ารักแบบไทยๆ” เรนจิยืนยันความคิดตัวเองจากประสบการณ์ที่เขาเคยพบเห็นผู้หญิงที่ไนท์ให้ความสนใจ
ซึ่งเจ้าของเรือนผมสีดำขลับคนนั้นตรงตามที่เพื่อนของเขาชอบทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ว่าอีกคนจะน่ารักสู้ไม่ได้ เธอน่ารักมากเลยแหละ ยิ่งตอนยิ้มยิ่งน่ารัก ดวงตากลมโตมีถุงใต้ตานิดๆ สไตล์คาวาอี้สุดๆ ถ้าเดาไม่ผิดเธอน่าจะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นเหมือนเขา เธอจึงไม่ใช่สเปกของไนท์
“รู้ดี ไอ้สัส!” ไนท์ไม่คิดแก้ตัวเพราะสิ่งที่เรนจิพูดมาถูกต้องทุกอย่าง ทำได้แค่แดกดันความรู้ดีของเพื่อนแก้เขิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชินและเรนจิหัวเราะร่วนเมื่อเห็นคนหน้านิ่งและชอบทำตัวเย็นชาเสียอาการ เขินจนหูแดง
“มองเขาไม่วางตาขนาดนี้ มึงไม่เข้าไปจีบเขาเลยล่ะ”
ชินแนะนำในสถานะพ่อหนุ่มขี้เตาะ ขี้แอ๊ว สายพุ่งชน อยากได้ก็ต้องวิ่งเข้าใส่เท่านั้น ซึ่งมีอีกคนในกลุ่มที่มีนิสัยเหมือนกันกับเขาแต่ไม่รู้ว่ามันหายหัวไปไหน นั่งรอเป็นครึ่งชั่วโมงยังไม่โผล่หัวมาสักที“เออ เอาแต่มองเดี๋ยวหมาก็คาบไปแดก” เรนจิสนับสนุนคำพูดของชินด้วยอีกคน
“เสือก!”
“เสือกพ่องมึงดิ! เขาเรียกว่าแนะนำไอ้สัส” ชินโวย ทั้งที่เขาตั้งใจแนะนำแต่กลับโดนด่าว่าเสือก! เลยแซะปิดท้ายให้อีกคนคันตีนเล่น แนะนำดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้กวนตีนตลอด “ที่พวกกูเสือกเพราะสงสารคนจีบผู้หญิงไม่เป็นอย่างมึงหรอก”
“...” ไนท์เถียงไม่ขึ้นเมื่อโดนความจริงกระแทกหน้า แต่ถ้าจะให้เขาเดินไปทัก ขายขนมจีบอย่างที่ชินชอบทำ เขาก็ทำไม่ได้ มันต้องมีวิธีซอฟต์กว่านี้
“เมินพวกกูเฉย ไอ้ห่าไนท์ ถ้าคนอื่นคาบไปแดกเมื่อไหร่ละก็ กูสองคนจะหัวเราะเยาะมึงเป็นคนแรก คอยดู!” ชินหมั่นไส้ท่าทางเมินเฉยของไนท์ ก่อนจะเปลี่ยนบทสนทนา เมื่อเห็นไนท์หันกลับมาสนใจพวกเขาสองคนอีกครั้งหลังสองสาวเดินออกร้านกาแฟไป
“แล้วพี่มึงไปไหน ทำไมวันนี้มันสาย”“มันสายทุกวันอยู่แล้วป่ะ คนอย่างมันจะหายหัวไปไหนได้ ถ้าไม่เรื่องผู้หญิง มาสายแบบนี้เมื่อคืนไปแดกผู้หญิงไม่กลับห้องอีกตามเคย” เรนจิตอบชินแทนไนท์ด้วยความที่รู้จักอีกคนดีไม่แพ้กัน
“พวกมึงก็เดากันได้ แล้วจะถามเพื่อ” ไนท์ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายที่จะตอบคำถามเดิมๆ
“กูก็แค่ถามเพื่อความแน่ใจ เผื่อพี่มึงมีธุระปะปังอย่างอื่นบ้าง ที่ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง” ชินแย้ง
“อย่างมันจะมีอะไรสำคัญเท่าเรื่องผู้…” ไนท์พูดยังไม่ทันจบดี เจ้าของหัวข้อสนทนาก็ขัดขึ้นก่อน
“น้อยๆ หน่อยไอ้น้องชาย กูพี่มึงนะ เดี๋ยวปั๊ด” ‘เดย์’ แฝดพี่ของไนท์ขู่ฟ่อขณะเดินเข้ามานั่งลงข้างน้องชายที่พึ่งด่าตัวเองไปหมาดๆ
แล้วทั้งสี่ก็พากันโยกย้ายร่างกายตามเสียงเพลงตามคำท้าของชิน แม้นานิและไอญดาจะไม่ได้มาเที่ยวสถานที่แบบนี้เท่าไหร่ แต่ทั้งสองก็โยกย้ายตามจังหวะเสียงเพลงได้ดีไม่แพ้สายปาร์ตี้อย่างอีกสองคนเลย คงเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปจนลืมเนียมอายเลยเต้นออกมาได้อย่างไม่เคอะเขินทว่าระหว่างโยกย้ายร่างกายกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้นไอญดาเกิดเสียการทรงตัวนิดหน่อยเลยทำให้ถอยหลังไปชนกับคนที่อยู่ด้านหลัง“อุ้ย! ขอโทษค่ะ” ไอญดารีบเอ่ยขอโทษขอโพยเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่เธอพึ่งถอยหลังไปชน“ขอโทษเหมือนกันครับ” ร่างสูงขาวออร่าหนุ่มฮอตหมุนตัวมาเอ่ยขอโทษไอญดาเช่นกัน“ขอโทษเราทำไมคะ เมื่อกี้เราเป็นคนเดินชนเธอเอง” จังหวะที่ถอยหลังทำให้เธอเสียการทรงตัวนิดหน่อยเลยไปชนเข้ากับคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง“อ่าวเหรอ เรานึกว่าเราเป็นคนชนเธอซะอีก พอดีเราโดนเพื่อนผลักน่ะ”“อ่อ งั้นคงต่างคนต่างชน” ไอญดาสรุปแล้วก้มหัวขอโทษอีกฝ่ายอีกครั้งพร้อมคิดว่าจะจบแค่นั้น แต่ไม่ใช่ เพราะอีกฝ่ายได้ขยับเข้ามาที่โต๊ะของพวกเธอ ก่อนส่งยิ้มทักทายอีกสามชีวิตที่มองเหตุการณ์อยู่“เทรย์!! เทรย์เดือนบริหารปีนี้ใช่ป่ะ?” คิมตะโกนถามด้วยอาการตื่นเต้นออกหน้าออกตา ก่อ
สเต็ปเดิม ไม่ว่าจะสอบเล็ก สอบใหญ่ สอบยิบย่อย เมื่อสอบเสร็จย่อมต้องเฉพาะ แม้ว่าไม่รู้ว่าคะแนนมากหรือน้อย จะผ่านหรือร่วง แต่ก็ต้องมาฉลอง ฉลองได้สอบ ไม่ใช่สอบได้“เอ้า ชนค่าาา! ดื่มให้เมาไปเลย คืนนี้มีผู้ชายมารับด้วย ตัวอ่อนได้” คิมชูแก้วขึ้นแล้วบอกกับอีกสามสาวในโต๊ะเสียงดี๊ด๊า แล้วอีกสามแก้วก็ยกขึ้นมาชนด้วยจนเกิดเสียงกริ้งกรั้งของแก้วที่กระทบกัน“ตัวอ่อนอะไรของมึงอ่ะคิม” เอิงเอยอย่างติดใจคำศัพท์ใหม่ของเพื่อน“ก็เมาตัวอ่อนไปซบผู้ชายไง เข้าใจยากตรงไหนชะนี”“แต่นั่นพี่ชายเพื่อนค่ะ ขอร้องอย่าแรดใส่” เอิงเอยรีบปรามก่อนจะกระดกดื่มเบียร์สดในแก้วจนพร่องไปเกือบครึ่ง เพราะไม่ได้ดื่มมาหลายวันแล้ว นักดื่มอย่างเธอเลยกระหายมากกว่าปกติ“กูจะแรด แล้วมึงก็ต้องถ่ายวิดีโอตอนกูซบพี่ยูให้กูด้วย กูจะส่งไปให้พี่เตเต้อิจฉาเล่น” คิมยืนยันความตั้งใจเดิม แถมยังกับกำให้เพื่อนถ่ายวิดีโอไปอวดรุ่นพี่เกย์คนสนิทในสาขาอีกด้วย เนื่องจากเตเต้เองก็ปลื้มยูสึเกะเอามากๆ คิมเลยอยากจะแกล้งรุ่นพี่เสียหน่อย“เราพึ่งรู้นะเนี่ย ว่าพี่ยูก็ป๊อปปูล่ากับเขาเหมือนกัน” จากบทสนทนาทำให้นานิรู้ว่าพี่ชายเธอเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของตล
หลายวันต่อมา….ไนท์กลับเข้าห้องมาหลังจากลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสส่วนกลางของคอนโดหนึ่งชั่วโมงเต็มๆปกติไนท์จะออกกำลังกายกับเดย์ที่คอนโดของทั้งสอง แต่หลังจากไนท์คบกับไอญดาชายหนุ่มก็มาค้างที่คอนโดแฟนสาวเสียส่วนใหญ่ เลยถือโอกาสใช้ฟิตเนสส่วนกลางที่นี่เสียเลย โดยไม่ต้องลำบากขับรถกลับคอนโดตัวเองเพียงเพราะไปออกกำลังกายให้เสียเวลาเดินทางร่างสูงเดินเข้ามาสวมกอดจากข้างแฟนสาวที่ยืนหันหลังให้อยู่ในตรงไอส์แลนด์ห้องครัว ก่อนกดจมูกโด่งหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่เป็นการทักทาย“อุ๊ย!”“พี่ทำให้เราตกใจเหรอ” เลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจเมื่อคนในอ้อมกอดสะดุ้งตัวโหยงอย่างตกใจเขาคิดว่าเธอได้ยินเสียงประตูแล้วเสียอีก เลยเดินเข้ามากอดหอมโดยไม่ได้พูดทักทายก่อน“นิดหน่อยค่ะ” ไอญดาเอียงหน้าตอบ“เป็นอะไรรึเปล่า เห็นเหม่อๆ ใจลอยๆ คิดอะไรอยู่เหรอ?” ไนท์จับคนตัวเล็กหมุนมาเผชิญหน้าจึงเห็นว่าไอญดาดูไม่ค่อยสดใสเช่นปกติ“เปล่าค่ะ ไอก็แค่..คิดเรื่องสอบควิซพรุ่งนี้นะคะ” ไอญดาตอบติดตะกุกตะกักตอนต้นประโยค ก่อนฉีกยิ้มหวานให้ไนท์แล้วยกมือเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กตามขมับให้“ติดตรงไหนรึเปล่า เอามาให้ดูได้นะ เผื่อพี่อาจจะช่วยดูให้ได้” ถ้าเรื่องภ
ไนท์กดริมฝีปากพรมจูบตามลาดบ่า แอ้งคอ ก่อนจะขบเม้มเนื่ออ่อนตามลำคอพร้อมส่งลิ้นสากไล้เลียตามผิวขาวเนียน ต่ำลงมาที่เนินอก ก็เริ่มรู้สึกถึงอาการเกร็งของร่างมากขึ้นเรื่อย แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากห้าม“ทำต้องฝืนตัวเองด้วย”“....” ไอญดาลืมตาขึ้นมาสบตาไนท์ด้วยความรู้สึกผิด“ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม ทำไมต้องฝืนตัวเองด้วย พี่ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย บอกแล้วไงว่ารอได้ แต่มันก็มีหลุดๆ บ้าง คราวหลังถ้ายังไม่พร้อมก็ถีบได้เลย”“ไอขอโทษนะคะ”“ขอโทษทำไม เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ ขอโทษที่หื่นเกินไป”“....”“ไม่ต้องคิดมากนะ พี่รอได้จริงๆ” ไนท์บอกแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะช่วยจัดแจงเสื้อผ้าคนตัวเล็กให้กลับมาเหมือนเดิมแล้วตลบผ้าห่มคลุมให้ “พี่ขอตัวไปจัดการตัวเองในห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ”“เอ่อ ค่ะ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจัดการตัวเองของไนท์หมายถึงอะไร นัวกันมาขนาดนี้แล้วเขาก็คงมีอารมณ์ไม่น้อยเพราะไอ้ความแข็งขืนมันขูดกับขาเธอไปหมาดๆ แล้วผงาดพร้อมใช้งานขนาดนี้แล้วถ้าไม่ได้ปลดปล่อยเขาคงไม่สบายตัว“ไอนอนเลยนะ ไม่ต้องรอพี่” เพราะเขาคงต้องใช้เวลาสักพักในห้องน้ำ ไข่แข็งตึงเปรี๊ยะจนไม่มีรอยย่นรอบเดียวไม่น่าจะ
จุ๊ฟ! จุ๊ฟ!ทันทีที่ประตูเปิดออกไอญดาก็ถูกจู่โจมด้วยจูบหนักๆ หลายที จนคนถูกจูบต้องเบี่ยงหน้าหนี แล้วถามที่มาของจูบพวกนั้น “หือ? ทำไมอยู่ๆ ถึงมาขโมยจูบกันปุ๊บปั๊บคะเนี่ย”“คิดถึงครับ” ไนท์โอบล้อมเอวเล็กแล้วบอกคิดถึงพร้อมรอยยิ้มบาง“คิดถึงแล้วทำไมมาสาย” สายเป็นชั่วโมงเลย ไอญดายู่ปากต่อว่าไม่จริงจังนัก“ไอ้ดำมันดื้อนิดหน่อย” เอาไอ้เจ้าบิ๊กไบค์คันโตมาอ้างเพราะไม่อยากบอกเธอว่าจริงๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา“แล้วพี่ไนท์กลับยังไง เอาน้องไปซ่อมรึยัง” ไอญดาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย“ควบมันมานั่นแหละ ไม่ได้เอาไปซ่อม ซ่อมเอง ลองถอดนั่นเสียบนี่ มันก็ดีเอง” ไนท์ตอบติดตะกุกตะกักนิดหน่อย เขาไม่ชินกับการโกหกสมองเลยคิดไม่ค่อยทัน“ซ่อมเองแน่นะคะ” เอียงคอถามอย่างไม่เชื่อ“ดูถูกหนุ่มวิศวะเหรอ” บอกแล้วปล่อยมือข้างหนึ่งที่โอบเอวเธอมาบีบจมูกเล็กอย่างมันเขี้ยวที่หรี่ตาลงจับผิดเขา“พี่ไนท์เรียนโยธานะ ไม่ใช่เครื่องยนต์”“รู้ทันอีก แต่ซ่อมเองจริงๆ มันเป็นแบบนี้บ่อยแล้ว คิดจะขับพวกนี้ต้องมีสะกิลช่างติดตัวบ้าง” อันนี้ความจริงไม่ได้โกหก เขาซ่อมได้จริงๆ แต่แค่พื้นฐาน ถ้าต้องเปลี่ยนอะไหล่จริงจังเลยไม่ได้ เพราะเรียนการโคร
หลายวันต่อมา….กริ๊งๆ!!เสียงออดหน้าห้องดังไอญดาจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูด้วยรอยยิ้ม เธอมีนัดดูหนังกับไนท์เย็นนี้ แต่ไม่ได้เป็นการไปดูหนังที่โรงหนัง แค่นั่งดูกันที่ห้องแล้วก็สั่งข้าวเย็นมากินด้วยกันอยู่ๆ กิจกรรมนี้ก็กลายเป็นกิจกรรมวัตรประจำวันของเธอกับเขา นอกเหนือจากนี้ก็มีไปทานข้าวข้างนอกกันบ้าง หาร้านกาแฟใหม่ๆ ชิมบ้าง แล้ววันศุกร์หรือเสาร์ไนท์ก็จะออกเที่ยว ถ้าไม่เที่ยวก็มาคลุกตัวอยู่กับแฟนสาวแกร๊ก!!พอเปิดประตูออกมารอยยิ้มหวานค้างตึงก่อนจะหุบยิ้มฉับเมื่อคนที่มากดกริ่งไม่ใช่ไนท์แต่เป็นคนที่เธอไม่คาดคิดว่าจะเจอที่หน้าห้องตัวเองอีกพึ่บ!“พี่เดย์!” ไอญดาเรียกชื่อเดย์ด้วยความตกใจเมื่อเปิดประตูออกป๊บเดย์ก็โผล่เข้ากอดเธอปั๊บ แถมยังกอดรัดเธอจนเธอแทบจะขยับตัวไม่ได้“พี่คิดถึงไอ” เดย์พึมพำบอกเสียงเบา ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่กว่าเดิม เมื่อคนในอ้อมกอดดิ้นคลุกคลักและพยายามดันตัวเขาออก“พี่เดย์ไม่มีสิทธิ์มากอดไอแบบนี้นะ ปล่อยไอเดี๋ยวนี้เลย”เดย์ส่ายหัวปฏิเสธอย่างดื้อรั้น ก่อนพร่ำคำขอร้องอ้อนวอน “กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมไอ กลับมารักพี่เหมือนเมื่อก่อนได้ไหม ให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวอีกครั้งนะไ







