LOGINสี่หนุ่มฉายา ‘เจ้าชายวิศวะ’ ที่ได้มาจากการโหวตของสาวๆ ในมหาลัยให้พวกเขาเป็นยิ่งกว่าหนุ่มฮอต เพราะไม่ใช่แค่มีดีเรื่องหน้าตา แต่ทั้งสี่หนุ่มยังเรียนเก่งติดท็อปเท็นทุกเทอมอีกด้วย ทั้งหล่อ เก่ง รวย โพรไฟล์ที่บ้านก็ดีเริศ สาวๆ จึงลงความเห็นว่าฉายานี้
ไม่เวอร์เกินไปสำหรับสี่หนุ่มเลยทว่าเจ้าของฉายากลับหัวเราะขำเมื่อได้ยินมันเป็นครั้งแรก เพราะคิดว่าตัวเองช่างห่างไกลจากคำว่า ‘เจ้าชาย’ มากโข พวกเขาไม่ได้ดีพอที่จะเอามายกย่องสรรเสริญ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเลวทราม เป็นแค่ผู้ชายสีเทาทั่วไปที่แดกเหล้าทุกคืน ดูดบุหรี่วันละซอง ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า
ไม่ดีไม่ชั่ว ไม่มั่วแต่ทั่วถึง^^
และน่าแปลกไปกว่านั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ได้คลั่งไคล้พวกเขาเพราะความดี ความเก่ง แต่คลั่งไคล้เพราะไอ้สันดานดิบพวกนั้นเสียมากกว่า หรือจะจริงที่ว่าผู้หญิงนั้นชอบคนเลว?
หล่อ เก่ง หลบไป หล่อ เลวเท่านั้นตอนนี้ที่เป็นที่ต้องการของตลาด!
ขณะที่สามหนุ่มนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เปิดใหม่ตรงหน้ามหาลัย ก็มีผู้หญิงมากมายออกอาการกระดี๊กระด๊าเมื่อเห็นพวกเขา ทั้งส่งยิ้มหวาน ส่งสายตาหลงใหลคลั่งไคล้ และใคร่รู้จักให้หนุ่มๆ กันไม่หยุด ทว่ามีอยู่แค่หนึ่งหนุ่มหล่อในกลุ่มเท่านั้นที่ตอบรับปฏิกิริยาพวกนั้นจากพวกเธอ เพราะอีกสองเป็นพวกที่ค่อนข้างเย็นชา ไม่สนหน้าไหนทั้งนั้นถ้าไม่ได้สนใจ
“นึกยังไงถึงเปลี่ยนมากินกาแฟร้านนี้วะ ร้านเก่าอร่อยกว่าตั้งเยอะ ร้านนี้หวานฉิบ!” หลังจากแจกยิ้มให้สาวๆ เสร็จ ‘ชิน’
หนุ่มหล่อมาดกวน อารมณ์ดี ทำหน้าไม่สู้ดีเมื่อได้ลิ้มรสเอสเปรสโซเย็นแก้วใหญ่ในมือ มันไม่ถูกปากเขาเอาเสียเลย จึงเอ่ยถามคนชวนที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยความสงสัย เพราะปกติพวกเขามีร้านประจำอยู่แล้ว อร่อยกว่านี้หลายเท่า ทำไมต้องพากันมากินที่นี่ด้วย“เออ กูก็ว่างั้นแหละ ร้านนี้ติดหวานไปว่ะ ไม่เข้มข้นด้วย” ‘เรนจิ’ หนุ่มหน้าหวานลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น นิสัยยิ้มยากและพูดน้อยอันดับสองของกลุ่มออกความเห็นขณะแกว่งแก้วกาแฟเล่นไปมาอย่างไม่คิดจะดื่มต่อ
ขืนแดกหมดแก้วนี้เบาหวานกินขาแน่!
“ก็ไม่ได้แย่” ‘ไนท์’ เจ้าของใบหน้าเย็นชายักไหล่ตอบในขณะที่สายตากำลังจดจ้องไปทางเคาน์เตอร์ ที่มีสองร่างเล็กยืนสั่งเครื่องดื่มอยู่
“ไม่ได้แย่ที่ว่า กาแฟหรือวิว?” ชินถามแกมแซวเมื่อจับได้ว่าเพื่อนกำลังมองอะไรอยู่ ก่อนจะเตะขาเรนจิที่นั่งอยู่ข้างๆ ให้มองตาม
“วิวสินะ ดีฉิบหาย สเปกไอ้ไนท์ชัดๆ” เรนจิที่สนิทสนมกับไนท์เป็นพิเศษเพราะมีนิสัยคล้ายคลึงกันรู้ทันทีเมื่อเห็นสองสาวหน้าตาน่ารักสองคนนั้น
สองร่างเล็กในชุดนักศึกษาพอดีตัวไม่รัดติ้วเกินงาม กระโปรงพลีทสูงเหนือหัวเข่าเล็กน้อยกับรองเท้าผ้าใบสีขาว จากการแต่งตัวและข้าวของเครื่องใช้ตามตัว บ่งบอกว่าทั้งสองมีความชอบคล้ายกันและน่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันด้วย
“คนไหนวะ” ชินถามเมื่อเดาไม่ออกว่าคนไหนที่ไนท์ชอบ สำหรับเขาทั้งสองน่ารักจนไม่สามารถบอกได้ว่าใครน่ารักกว่ากัน
ปากนิด จมูกหน่อย ตากลมโต รูปร่างเล็กกะทัดรัดน่าทะนุถนอม ผิวขาวอมชมพูทั้งตัวไอ้ไนท์มันตาดีว่ะ!
“คนที่ถือแก้วนมชมพูอ่ะ” เรนจิยักคิ้วแซวไนท์ที่หันกลับมาเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น “มองกูแบบนี้แสดงว่ากูเดาถูก”
“แต่อีกคนก็น่ารักไม่แพ้กันเลยนะเว้ย” ชินขัด ก็มันรักพี่เสียดายน้องอ่ะ เลือกยากโว้ย!
“อีกคนออกลูกครึ่งไปหน่อย ไอ้ไนท์มันชอบน่ารักแบบไทยๆ” เรนจิยืนยันความคิดตัวเองจากประสบการณ์ที่เขาเคยพบเห็นผู้หญิงที่ไนท์ให้ความสนใจ
ซึ่งเจ้าของเรือนผมสีดำขลับคนนั้นตรงตามที่เพื่อนของเขาชอบทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ว่าอีกคนจะน่ารักสู้ไม่ได้ เธอน่ารักมากเลยแหละ ยิ่งตอนยิ้มยิ่งน่ารัก ดวงตากลมโตมีถุงใต้ตานิดๆ สไตล์คาวาอี้สุดๆ ถ้าเดาไม่ผิดเธอน่าจะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นเหมือนเขา เธอจึงไม่ใช่สเปกของไนท์
“รู้ดี ไอ้สัส!” ไนท์ไม่คิดแก้ตัวเพราะสิ่งที่เรนจิพูดมาถูกต้องทุกอย่าง ทำได้แค่แดกดันความรู้ดีของเพื่อนแก้เขิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชินและเรนจิหัวเราะร่วนเมื่อเห็นคนหน้านิ่งและชอบทำตัวเย็นชาเสียอาการ เขินจนหูแดง
“มองเขาไม่วางตาขนาดนี้ มึงไม่เข้าไปจีบเขาเลยล่ะ”
ชินแนะนำในสถานะพ่อหนุ่มขี้เตาะ ขี้แอ๊ว สายพุ่งชน อยากได้ก็ต้องวิ่งเข้าใส่เท่านั้น ซึ่งมีอีกคนในกลุ่มที่มีนิสัยเหมือนกันกับเขาแต่ไม่รู้ว่ามันหายหัวไปไหน นั่งรอเป็นครึ่งชั่วโมงยังไม่โผล่หัวมาสักที“เออ เอาแต่มองเดี๋ยวหมาก็คาบไปแดก” เรนจิสนับสนุนคำพูดของชินด้วยอีกคน
“เสือก!”
“เสือกพ่องมึงดิ! เขาเรียกว่าแนะนำไอ้สัส” ชินโวย ทั้งที่เขาตั้งใจแนะนำแต่กลับโดนด่าว่าเสือก! เลยแซะปิดท้ายให้อีกคนคันตีนเล่น แนะนำดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้กวนตีนตลอด “ที่พวกกูเสือกเพราะสงสารคนจีบผู้หญิงไม่เป็นอย่างมึงหรอก”
“...” ไนท์เถียงไม่ขึ้นเมื่อโดนความจริงกระแทกหน้า แต่ถ้าจะให้เขาเดินไปทัก ขายขนมจีบอย่างที่ชินชอบทำ เขาก็ทำไม่ได้ มันต้องมีวิธีซอฟต์กว่านี้
“เมินพวกกูเฉย ไอ้ห่าไนท์ ถ้าคนอื่นคาบไปแดกเมื่อไหร่ละก็ กูสองคนจะหัวเราะเยาะมึงเป็นคนแรก คอยดู!” ชินหมั่นไส้ท่าทางเมินเฉยของไนท์ ก่อนจะเปลี่ยนบทสนทนา เมื่อเห็นไนท์หันกลับมาสนใจพวกเขาสองคนอีกครั้งหลังสองสาวเดินออกร้านกาแฟไป
“แล้วพี่มึงไปไหน ทำไมวันนี้มันสาย”“มันสายทุกวันอยู่แล้วป่ะ คนอย่างมันจะหายหัวไปไหนได้ ถ้าไม่เรื่องผู้หญิง มาสายแบบนี้เมื่อคืนไปแดกผู้หญิงไม่กลับห้องอีกตามเคย” เรนจิตอบชินแทนไนท์ด้วยความที่รู้จักอีกคนดีไม่แพ้กัน
“พวกมึงก็เดากันได้ แล้วจะถามเพื่อ” ไนท์ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายที่จะตอบคำถามเดิมๆ
“กูก็แค่ถามเพื่อความแน่ใจ เผื่อพี่มึงมีธุระปะปังอย่างอื่นบ้าง ที่ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง” ชินแย้ง
“อย่างมันจะมีอะไรสำคัญเท่าเรื่องผู้…” ไนท์พูดยังไม่ทันจบดี เจ้าของหัวข้อสนทนาก็ขัดขึ้นก่อน
“น้อยๆ หน่อยไอ้น้องชาย กูพี่มึงนะ เดี๋ยวปั๊ด” ‘เดย์’ แฝดพี่ของไนท์ขู่ฟ่อขณะเดินเข้ามานั่งลงข้างน้องชายที่พึ่งด่าตัวเองไปหมาดๆ
“!!!” สามหนุ่มทำสีหน้าตกตะลึงเหมือนเป็นเรื่องสุดแสนแปลกใจ“มึงพูดจริงป่ะเนี่ย?” ชินถามซ้ำ“เออสิวะ ช่วง2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมามึงเห็นกูเต๊าะใครไหม” ชินครุ่นคิดชั่วอึดใจก่อนส่ายหัว แล้วที่ไปตึกสถาปัตย์เดย์ก็แค่ไปส่งชินไปหาเพื่อนสมัยมัธยม ไม่ได้ไปเต๊าะสาวอย่างที่ไนท์กับเรนจิคิดเลย “เห็นกูกลับกับใครไหม”“ก็ไม่อ่ะ…. ถึงว่าช่วงนี้มึงแปลกๆ แดกเหล้าเสร็จกลับห้อง เป็นคนดีแปลกๆ”“กูจะถือว่าเมื่อกี้มึงชมก็แล้วกันนะ” เดย์บอกชินทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเพื่อนชมหรือด่า แต่คนเป็นคนคิดบวก คิดซะว่าเมื่อกี้นี้เพื่อนชมแล้วกัน“คนนี้มึงจริงจัง?” เรนจิถาม“ เป็นแฟนแล้วก็ต้องจริงจังดิ คุยกันมาซักพักแล้ว น้องเขาน่ารักว่ะ น่ารักจนใจเจ็บ”“โว้ เป็นเอามากนะมึง” ชินกลอกตาหมั่นไส้กับท่าทางกุมหัวใจเหมือนถูกกามเทพยิ่งลูกศรปักหัวใจของเดย์ อะไรจะขนาดนั้น!“แล้วมึงล่ะไอ้น้องชายไม่ยินดีกับกูด้วยเหรอ พี่ชายมีแฟนแล้วนะโว้ย” ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าไนท์เงียบกริบแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แต่เดย์ก็ยังคะยั้นคะยอเอาคำยินดีจากคนเป็นน้อง ก็แค่อยากจะแกล้งแฝดน้องเล่นเท่านั้น“เออ ยินดีด้วย” เขาดีใจกับพี่ชายมันแน่อยู่แล้ว เพราะเดย์ไม่ให้สถานะนี้ก
ทิตย์ต่อมา….ณ หน้าตึกคณะวิศวกรรมในช่วงบ่ายของวัน นักศึกษามากหน้าหลายตาในชุดเสื้อช็อปสีแดงกำลังนั่งจับกลุ่มคุยเล่น เม้ามอย หรือแม้กระทั่งนินทาชาวบ้านระหว่างรอเข้าเรียนในภาคบ่าย ซึ่งสี่หนุ่มฮอตเจ้าของฉายาเจ้าชายวิศวะก็เป็นหนึ่งในกลุ่มก้อนนั้นเหมือนกัน และวันนี้ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย ทั้งที่ปกติแล้วนักเดินสายอย่างชินกับเดย์มักจะวาปไปเต๊าะสาวคณะอื่นอยู่เป็นประจำ ทว่าช่วงหลังๆ มานี้สองหนุ่มแทบจะไม่ไปไหนเลย ซึ่งเรนจิกับไนท์ก็สงสัยในความเปลี่ยนแปลงของพ่อหนุ่มขี้เต๊าะทั้งสองคนไม่น้อย“ทำไมช่วงนี้พวกมึงไม่ไปไหนเลยวะ” เรนจิถามทั้งสองหนุ่มที่นั่งก้มหน้าก้มตากับโทรศัพท์ในมือ“แดดมันร้อน” ชินตอบอย่างขอไปทีโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนา“ปกติไม่เห็นดิน ฟ้า อากาศ จะเป็นปัญหากับมึงเลย” ไนท์เอ่ยด้วยสายตาจับผิด มองชินกับเดย์สลับไปมาไม่สบตา มีพิรุธ!“ขี้เกียจ” เดย์รีบออกตัวเมื่อชินเงียบไป“หรือพวกมึงแอบไปมีเมียกันแน่” เรนจิคาดคั้นต่อ“ไม่มี้”“....”“เสียงสูงมากไอ้สัด โคตรมีพิรุธ” เรนจิมองชินที่เริ่มมีอาการร้อนรน“พิรุธอะร้าย”“ยิ่งแก้ตัวยิ่งมีรุธ” ลนลานเก็บอาการแทบไม่อยู่ยังมีหน้ามาถามว่าพ
ผลัวะ!ไนท์ร้องเสียงหลงตอนท้ายเมื่อถูกคนหน้าม่อฟาดฝ่ามือเข้ากลางหัวเสียงดังป๊าป แต่ไม่ได้แรงมากนัก เพราะเดย์ไม่ได้ตั้งใจให้น้องชายตัวเองเจ็บ แค่หยอกกันตามประสาเด็กผู้ชายไม่แตก ไม่โน แต่ก็ชาๆ“หายหัวไม่ได้ แอบด่ากูลับหลังตลอด” เดย์ทรุดนั่งอีกฝั่งตรงข้ามคนที่พึ่งแจกฝ่ามืออรหันต์ให้ ถึงปากจะต่อว่าแต่นัยตาย์กลับยิ้มแย้มผลัวะ!เบิกบานใจได้ไม่ถึงนาทีเดย์ก็ต้องยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองปรอยๆ เพราะถูกคนเป็นน้องเอาคืนโดยไม่ทันตั้งตัว แถมยังแรงกว่าที่เขาตบเป็นเท่าตัว“ตบมาทำซากอะไร” พอเอาคืนปุ๊ปก็ว่าพี่ชายปิดท้ายก่อนนั่งลงเหมือนเดิม“พวกมึงดูดิ มันไม่เคยเคารพกูเลย” เดย์ว่าพลางลูบหัวด้วยสีหน้าเจ็บปวดไม่หาย ทั้งที่ไม่ได้เจ็บแล้ว แค่สำออยฟ้องเพื่อนอีกสองคนให้เห็นอกเห็นใจก็เท่านั้น“ตบมาตบกลับ แฟร์ๆ” ไนท์ยักไหลเปะปากบอกเดย์ เขารู้ว่าพี่ชายกำลังทำตัวสำออย ไม่ได้ตีแรงขนาดนั้นเสียหน่อย“แฟร์เหี้ยอะไร มึงตบกูแรงกว่าที่กูตบมึงอีก แถมยังด่ากูหน้าม่อด้วย”“ก็มึงหน้าม่อจริงอ่ะ! เจอผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้รีบส่อยหางกระดิกๆ ระริกระรี้เข้าไปหาเขา”“ไอ้ห่าไนท์ ไอ้น้องเวร ถ้ามึงจะด่ากูขนาดนี้ไม่ต้องเรียกกูว่าพี่แล้ว""แ
ไอญดาและนานิสองสาวเพื่อนสนิทที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้น กำลังนั่งคุยเล่นที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะระหว่างรอเข้าเรียนในภาคเช้า ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสเจ้าของเรือนผมสีดำขลับยาวสลวยก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกจ้องมองจากตึกตรงข้ามหรือตึกคณะวิศวะที่อยู่ห่างกับตึกมนุษย์เพียงแค่ลานเกียร์กั้นอยู่ตรงกลาง“นานิๆ เราว่าพี่ไนท์อะไรนั้นกำลังมองเราอยู่” ไอญดาสะกิดบอกเพื่อนสาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นหรือนานิที่นั่งถัดจากเธอ“ที่ร้านกาแฟพี่เขาก็มองไอตาไม่กระพริบเลย”“ไหนพี่เขาบอกว่าไม่เป็นไรไง แล้วทำไมถึงมองเราแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกันอ่ะ” ไอญดาว่าอย่างคนคิดไม่ตกวันนั้นทั้งเธอและเขาต่างฝ่ายต่างเดินชนกัน แต่โชคร้ายที่มีแค่เขาคนเดียวที่ซวยโดนนมชมพูเครื่องดื่มโปรดของเธอหกใส่เลอะทั้งเสื้อช็อปและเสื้อยืดตัวข้างใน ซึ่งตอนนั้นไอญดาตกใจมากเพราะคิดว่าต้องโดนคนหน้าดุแน่ๆ ทว่าเขากลับบอกเพียงว่าไม่เป็นไร แถมตอนเย็นวันนั้นยังส่งข้อความผ่านทางโซเซียลมาขอโทษอีกด้วย เธอจึงคิดว่าเลิกแล้วต่อกันไปแล้วทว่า….หลังจากวันนั้น อยู่ๆ โลกของเธอกับเขาก็เหวี่ยงเข้าหากันจนน่าแปลกใจ จากที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน กลับได้เ
“เอาเสื้อกูมาใส่ทำไม” ไนท์ถามแฝดพี่ เขารู้ว่าเสื้อนักศึกษาตัวนี้ที่พี่ชายกำลังสวมใส่อยู่คือของตัวเองที่แขวนไว้ในรถ กลิ่นน้ำหอมประจำตัวเขาลอยแตะจมูกชัดเจนขนาดนี้ทั้งสองมีกุญแจรถของกันและกัน แต่ไนท์ไม่เคยยุ่มย่ามของใช้ส่วนตัวของอีกฝ่ายเลย เก็บกุญแจไว้ใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น แตกต่างจากเดย์ที่ไม่มีมารยาททางนี้เลยชอบมาหยิบนู่นนี่ในรถไนท์ตลอด“กูไม่ได้กลับห้อง เสื้อสำรองในรถก็หมด กูเลยไปเอาเสื้อมึงมาใส่”“เอาไม่ขอ”“เอาผู้หญิงด้วยกันยังได้วะ แค่ยืมเสื้อตัวเดียวทำเป็นหน้านิ่วใส่กูไปได้” ไนท์จิ๊ปากเบือนหน้าหนีขี้เกียจเถียงกับพี่ชายตัวเอง เพราะสอนเดย์เรื่องมารยาทแบบนี้ไปหลายรอบไม่เห็นจะเข้าหัวสักที“ว่าแต่มึงเถอะ เมื่อคืนที่หายไปเป็นชั่วโมง ไปทำอะไรมา”“...” ไนท์ไม่ตอบแต่ส่งสายตารำคาญให้เดย์ที่กำลังยิ้มกริ่ม ส่วนเดย์รู้อยู่แล้วว่าไนท์ไปทำอะไร แค่อยากจะแกล้งน้องชายตัวเองเล่นเท่านั้น“มึงลืมเก็บซองถุงยางที่ตกใต้เบาะคนขับน่ะ” เดย์ว่าต่อสีหน้าเปื้อนยิ้ม“แล้วมึงไปก้มดูอะไรใต้เบาะวะ” เรนจิถามเดย์ด้วยความสงสัย ก็อยู่ๆ ใครมันจะไปก้มดูใต้เบาะรถคนอื่น“กูทำไม้แขวนตก ตอนก้มเก็บเสือกเห็นใส่พอดี”“อย่าบอก
เดย์กับไนท์เป็นฝาแฝดที่เกิดมาหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่ด้วยบุคคลิกแตกต่างกันคนละขั้ว ทำให้ทุกคนสามารถแยกออกได้ชัดเจนว่าคนไหนคือเดย์ คนไหนคือไนท์เดย์คือเจ้าของรอยยิ้มสดใส เป็นคนร่าเริง เฟรนลี่หรือที่อีกสามหนุ่มเรียกคือ เฟรนลี่เรี่ยราด เดย์เปรียบเสมือนกลางวันที่ ส่องแสงสว่างเจิดจ้า เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่เจ้าตัวทำสีอยู่อย่างสม่ำเสมอยิ่งทำให้เขาดูสดใส เป็นมิตร น่าคบหาแตกต่างจากไนท์ ที่เป็นคนพูดน้อย เย็นชา เหมือนยามค่ำคืนที่มีแค่แสงจันทร์ส่องเพียงรำไร เขาไม่ได้หยิ่งยโส แต่ด้วยบุคลิกและนิสัยห่วงความเป็นส่วนตัว ไนท์เลยดูเป็นคนเข้าหายาก บวกกับไอ้ลุคห่ามๆ จากการถูกประทับน้ำหมึกผ่านเข็มสักตรงบริเวณลำคอด้านหน้า หัวไหล่และทั่วทั้งแขนด้านขวาทำให้ดูแบดมาก หน้าตาก็ไม่รับแขก เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาสุงสิงด้วยนักส่วนเดย์ไม่นิยมการสักเพราะสิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือเข็ม ไม่ใช่แค่เข็มฉีดยาเท่านั้นแต่อะไรที่มีปลายแหลมเหมือนเข็มเขาก็กลัวทั้งนั้น ไม่ชอบให้อะไรแหลมๆ มาจิ้มแทงร่างกาย แต่ชอบเอาเข็มแท่งโตของตัวเองไปแทงสาวๆ แทน >_“ถุย เกิดก่อนมันไม่กี่นาทีทำเป็นข่ม” ชินกรอกตากับท่าทางของเดย์ที่ยกมือข







