ログインเดย์กับไนท์เป็นฝาแฝดที่เกิดมาหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่ด้วยบุคคลิกแตกต่างกันคนละขั้ว ทำให้ทุกคนสามารถแยกออกได้ชัดเจนว่าคนไหนคือเดย์ คนไหนคือไนท์
เดย์คือเจ้าของรอยยิ้มสดใส เป็นคนร่าเริง เฟรนลี่หรือที่อีกสามหนุ่มเรียกคือ เฟรนลี่เรี่ยราด เดย์เปรียบเสมือนกลางวันที่
ส่องแสงสว่างเจิดจ้า เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่เจ้าตัวทำสีอยู่อย่างสม่ำเสมอยิ่งทำให้เขาดูสดใส เป็นมิตร น่าคบหาแตกต่างจากไนท์ ที่เป็นคนพูดน้อย เย็นชา เหมือนยามค่ำคืนที่มีแค่แสงจันทร์ส่องเพียงรำไร เขาไม่ได้หยิ่งยโส แต่ด้วยบุคลิกและนิสัยห่วงความเป็นส่วนตัว ไนท์เลยดูเป็นคนเข้าหายาก บวกกับไอ้ลุคห่ามๆ จากการถูกประทับน้ำหมึกผ่านเข็มสักตรงบริเวณลำคอด้านหน้า หัวไหล่และทั่วทั้งแขนด้านขวาทำให้ดูแบดมาก หน้าตาก็ไม่รับแขก เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาสุงสิงด้วยนัก
ส่วนเดย์ไม่นิยมการสักเพราะสิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือเข็ม ไม่ใช่แค่เข็มฉีดยาเท่านั้นแต่อะไรที่มีปลายแหลมเหมือนเข็มเขาก็กลัวทั้งนั้น ไม่ชอบให้อะไรแหลมๆ มาจิ้มแทงร่างกาย แต่ชอบเอาเข็มแท่งโตของตัวเองไปแทงสาวๆ แทน >_<
“ถุย เกิดก่อนมันไม่กี่นาทีทำเป็นข่ม” ชินกรอกตากับท่าทางของเดย์ที่ยกมือขึ้นเหมือนจะตบหัวไนท์ แต่พอโดนสายตาดุๆ ของน้องชายตวัดใส่เท่านั้นก็ลดมือเก็บไว้ข้างตัวทันที
“งั้นกูจะเอาอะไรมาข่มมันล่ะ แล้วดูสิมันกลัวกูที่ไหน”
โดยส่วนตัวเดย์คิดว่าไนท์มันดูเป็นผู้ใหญ่กว่าตัวเองเยอะ ด้วยความคิดความอ่านและหลายๆ อย่าง แต่เขาไม่ได้พูดมันออกมาหรอก ขายขี้หน้าตัวเองเสียเปล่า“ฮ่าฮ่า ไอ้พี่ชายในนาม” ชินหัวเราะเยาะพี่ชายในนามที่ทำตัวลีบเพียงแค่โดนตวัดสายตาใส่
“กวนตีน ไอ้สัส”
“แล้วเสื้อช็อปมึงไปไหน” เรนจิถามเมื่อเห็นเดย์ใส่เสื้อนักศึกษาแทนที่จะเป็นเสื้อช็อปวิศวะอย่างทุกวัน
“ไม่ใช่ว่ามึงลืมไว้ที่ห้องสาวที่ไหนอีกนะ กูไม่ไปส่งมึงนะรอบนี้บอกไว้ก่อนเลย” ชินขัดขึ้นก่อนที่เดย์จะตอบด้วยสีหน้าขยาดเพราะเขาเคยไปส่งเดย์เอาเสื้อช็อปที่ลืมไว้ที่ห้องดาวคณะคนหนึ่งที่เดย์ไปนอนด้วย แต่คุณเธอไม่ยอมคืนให้ง่ายๆ ต่อรองนั่นนี่ ถึงขั้นบอกให้เดย์ตกลงเป็นแฟนกับเธอก่อนถึงจะคืนเสื้อช็อปให้
เหตุการณ์ในตอนนั้นค่อนข้างวุ่นวาย มีกระชากลากถูกันเอาเรื่อง ซึ่งหน้าที่ของชินคือจับตัวคุณเธอในขณะที่เดย์เข้าไปค้นเสื้อช็อปของตัวเองที่เธอคนนั้นเอาไปซ่อน ชินโดนแม่เสือสาวดาวคณะคนนั้นใช้เล็บทั้งจิกทั้งข่วนจนแขนเขาเปื่อยไปหมด ตั้งแต่วันนั้นมาชินได้สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ช่วยเดย์เรื่องแบบนี้อีก!
“ได้เขาแล้วกะจะชิ่ง แต่ดันเสือกลืมเสื้อช็อป” เรนจิแซวตอกย้ำเดย์อีกครั้ง
“กูไม่โง่ซ้ำสองหรอน่า” เดย์กระแทกเสียงตอบแล้วดึงแก้วกาแฟที่อยู่ในมือไนท์มาดื่ม
“อยากแดก แต่เสือกขี้เกียจไปต่อแถวซื้อเอง” คนโดนขโมยกาแฟว่าด้วยสีหน้าปลงๆ กับนิสัยแฝดพี่
“ยังไงมึงก็ไม่แดกอยู่แล้ว หวานเจี๊ยบขนาดนี้ รสชาติกูชัดๆ” แต่คนถูกด่าลอยหน้าลอยตาตอบหลังจากดูดกาแฟในแก้วไปพรืดใหญ่
“...” ก็เขาไม่ได้มาร้านนี้เพราะชอบกาแฟ แต่เขามาเพราะเห็นเธอคนนั้นชอบมาซื้อกาแฟที่นี่ เขาก็เลยตามเธอมาและทำแบบนี้มาเป็นเวลาเกือบอาทิตย์หนึ่งได้แล้ว เริ่มตั้งแต่วันที่เดินชนเธอวันนั้น วันที่ร้านกาแฟร้านโปรดเขาปิดเลยมาซื้อที่นี่
เขาเรียกมันว่าโชคชะตาได้ป่ะ?
“แล้วสรุปเสื้อช็อปมึงไปไหน” เรนจิถามซ้ำเมื่อเดย์ยังไม่ตอบเรื่องนี้
“มีคนเดินชนกูที่หน้าร้านเมื่อกี้ น้ำหวานหกเต็มเสื้อ กูเลยถอดให้เขาไปซัก”
“มึงถอดเสื้อช็อปให้ใครที่ไหนไม่รู้ไปซักเนี่ยนะ” ชินถามเดย์ตาโต ก็ของสำคัญแบบนั้นใครให้คนอื่นง่ายๆ กันล่ะ ก่อนจะถามต่ออย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นเดย์นั่งอมยิ้มไม่หยุด “ยิ้มห่าอะไรของมึง”
“...” เดย์ทำทียกกาแฟขึ้นมาดูดกาแฟ เมินเฉยคำถามของชินเพราะอยากให้เพื่อนเดาต่อ
“ผู้หญิง?” เรนจิพอเดาอาการเดย์ออก เพราะถ้าเป็นผู้ชายเดินชนเดย์มันซัดหน้าคว่ำไปแล้วไม่มานั่งยิ้มร่าแบบนี้หรอก
“เออ โคตรน่ารักว่ะ”
“มึงเลยถอดเสื้อช็อปให้เขาเอาไปซัก?” เรนจิถามย้ำ
“เออดิ”
“ปัญญาอ่อน” ไนท์ส่ายหัวกับความคิดของแฝดพี่ เดย์สมควรเรียกเขาว่าพี่มากกว่า ดูสมองอ๊องๆ ของมันดิ
“กูฉลาดมากกว่าไอ้น้องชาย เพราะกูได้เบอร์เขามาโว้ยยย” เดย์ยกโทรศัพท์ขึ้นโชว์ ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มอย่างโอ้อวด
“มึงมันร้าย” ชินเอ่ยชื่นชมเดย์ตามประสาผู้ชายประเภทพุ่งชนความเร็วยิ่งกว่าสัญญาณ 5G ชอบก็จีบ จะเสียเวลานั่งมองทำไม จีบไปก่อน ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน
“แล้วมึงถอดเสื้อยืดข้างในไปให้เขาด้วยงี้? ถึงได้ใส่เสื้อนักศึกษามา” เรนจิยังไม่หายสงสัยเพราะปกติพวกเขาใส่เสื้อยืดซ้อนข้างในตอนใส่เสื้อช็อป แต่เดย์กลับใส่เสื้อนักศึกษาเรียบกริบอยู่
“กูก็อยากถอดโชว์ไอ้เจ้าหกก้อนแน่นๆ นี้ ให้น้องเขาดูนะ แต่เห็นหน้าตาใสซื่อนั้นแล้ว กูกลัวน้องเขาจะเป็นลมล้มพับไปว่ะ” เดย์ตอบอย่างตลกขบขัน มือตบที่หน้าท้องตัวเองที่ตอนนี้มันไม่ได้แข็งเป้กอย่างที่เคยเป็นเพราะช่วงนี้เขาติดออกกำลังกายบนเตียงไปหน่อย
“หลงตัวเองฉิบหาย ช่วงนี้มึงแทบจะไม่ได้ไปยิมเลย”เรนจิขัด
“กูเน้นการออกกำลังกายบนเตียงโว้ย”
“ที่มึงบ่นว่าปวดเอวอ่ะนะ”
“ไอ้สัสชิน! จะปล่อยผ่านให้กูสักเรื่องไม่ได้รึไง” เดย์แหวใส่ชินแล้ววางแก้วกาแฟที่ดื่มแล้วจนหมดลงบนโต๊ะ “กาแฟร้านนี้หวานดีกูชอบ วันหลังมากินอีก”
ทว่าอีกสามหนุ่มกลับส่ายหัวไม่เห็นด้วยกับเดย์เพราะพวกเขาไม่มีใครชอบดื่มกาแฟรสหวานเลี่ยนเหมือนเดย์เลย
วันต่อมา….ตื้ด~ ตื้ด~เสียงจากการสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเหมือนมีคนโทรเข้ามาติดต่อกันหลายสายเพราะเมื่อโทรศัพท์หยุดสั่นไม่ถึงนาทีก็สั่นขึ้นมาใหม่ต่อเนื่องกันหลายครั้ง จนเจ้าของโทรศัพท์เอะใจเพราะถ้าใครโทรมาติดๆ กันแบบนี้ต้องมีเรื่องด่วนไนท์ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาดูแล้วคิ้วเรียวก็ต้องขมวดเข้าหากันยุ่งเมื่อคนที่โทรหาเขาคือนานิ ก่อนรีบกดรับอย่างร้อนใจโดยไม่สนอาจารย์ที่กำลังบรรยายอยู่หน้าห้อง เพราะถ้านานิโทรหาก็ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับไอญดาแน่นอน ระหว่างเขากับนานิไม่ได้สนิทสนมกันขั้นโทรคุยกันธรรมดา แต่ที่มีเบอร์เธอไว้ก็แค่เผื่อติดต่อไอญดาไม่ได้“พี่ไนท์ ช่วยไอด้วย ลิฟต์ที่ตึกรวมค้างแล้วไอก็อยู่ในนั้น….” แล้วหลังจากนั้นนานิก็เล่าออกมาอีกรัวๆ ว่าไอญดาเคยมีปมเรื่องลิฟต์ เพราะเคยติดอยู่ในลิฟต์คนเดียวสมัยเรียนมัธยมมาก่อน แล้วตอนนี้เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นกับเธออีกครั้ง“พวกมึงไอติดอยู่ในลิฟต์ที่ตึกรวม กูต้องไปช่วยไอ” ไนท์วางสายนานิเมื่อคุยจบก่อนจะหันไปบอกอีกสามคนในกลุ่มด้วยสีหน้ากังวลก่อนผลุนผลันวิ่งออกห้องไปอีกสามหนุ่มก็ไม่รีรอวิ่งตามออกไป โดยเฉพาะเดย์ที่วิ่งขนาบไนท์ออกไปติดๆ เข
โดยปกติหลังเลิกเรียนไนท์กับไอญดามักจะแวะทานมื้อเย็นแถวมหาลัย ไม่ก็แวะซื้อกลับไปทานที่ห้อง แต่วันนี้ต้องตรงดิ่งกลับห้องเพราะไนท์ต้องรีบไปทำรายงานที่คอนโดเรนจิ“อยู่คนเดียวได้แน่นะ”“ได้สิคะ”“วันนี้เราดูไม่สดใสเลย เป็นอะไรรึเปล่า หรือไม่สบาย” หลายวันมานี่เธอดูไม่ค่อยสดใส ใจลอย เหม่อบ่อย เหมือนมีอะไรให้คิด“ไอเหนื่อยๆ อ่ะค่ะ ไม่ค่อยสบายตัว”“เป็นวันนั้นของเดือนเหรอ?” พอได้ยินอาการก็พอเดาๆ ได้“ค่ะ มีปวดท้อง แล้วก็เพลียๆ”“งั้นพี่โทรไปเลื่อนนัดพวกมันดีกว่า ไม่อยากปล่อยให้เราอยู่คนเดียว”“ไม่เอาแบบนี้สิคะ รายงานกลุ่มนะ พี่ไนท์ต้องไปช่วยเพื่อนทำสิ แล้วไม่ต้องเป็นห่วงไอด้วย ไออยู่ได้ เป็นแบบนี้ทุกเดือนอยู่แล้ว เดี๋ยวถึงห้องก็กินยาแล้วนอนพัก ก็ดีขึ้นเอง”“ถ้าปวดท้องมากหรือต้องการอะไรเพิ่มก็โทรบอกพี่โอเคไหม”“ไอบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องพะวงเรื่องไอด้วย ตั้งใจทำรายงานนะ ไอจัดการตัวเองได้ แล้วคืนนี้ไอจะไม่โทรไปกวนนะ ไม่อยากรบกวนสมาธิ เอาไว้พี่ไนท์ถึงห้องแล้วพิมพ์บอกไอก็พอ”“ไม่เอาแบบนี้ดิ อยากได้กำลังใจ แล้วแฟนพิมพ์หาตอนทำรายงานถือว่าไม่เป็นการรบกวนแต่เป็นการส่งกำลังใจ”“หือ? ไปเอาคำพ
แล้วทั้งสี่ก็พากันโยกย้ายร่างกายตามเสียงเพลงตามคำท้าของชิน แม้นานิและไอญดาจะไม่ได้มาเที่ยวสถานที่แบบนี้เท่าไหร่ แต่ทั้งสองก็โยกย้ายตามจังหวะเสียงเพลงได้ดีไม่แพ้สายปาร์ตี้อย่างอีกสองคนเลย คงเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปจนลืมเนียมอายเลยเต้นออกมาได้อย่างไม่เคอะเขินทว่าระหว่างโยกย้ายร่างกายกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้นไอญดาเกิดเสียการทรงตัวนิดหน่อยเลยทำให้ถอยหลังไปชนกับคนที่อยู่ด้านหลัง“อุ้ย! ขอโทษค่ะ” ไอญดารีบเอ่ยขอโทษขอโพยเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่เธอพึ่งถอยหลังไปชน“ขอโทษเหมือนกันครับ” ร่างสูงขาวออร่าหนุ่มฮอตหมุนตัวมาเอ่ยขอโทษไอญดาเช่นกัน“ขอโทษเราทำไมคะ เมื่อกี้เราเป็นคนเดินชนเธอเอง” จังหวะที่ถอยหลังทำให้เธอเสียการทรงตัวนิดหน่อยเลยไปชนเข้ากับคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง“อ่าวเหรอ เรานึกว่าเราเป็นคนชนเธอซะอีก พอดีเราโดนเพื่อนผลักน่ะ”“อ่อ งั้นคงต่างคนต่างชน” ไอญดาสรุปแล้วก้มหัวขอโทษอีกฝ่ายอีกครั้งพร้อมคิดว่าจะจบแค่นั้น แต่ไม่ใช่ เพราะอีกฝ่ายได้ขยับเข้ามาที่โต๊ะของพวกเธอ ก่อนส่งยิ้มทักทายอีกสามชีวิตที่มองเหตุการณ์อยู่“เทรย์!! เทรย์เดือนบริหารปีนี้ใช่ป่ะ?” คิมตะโกนถามด้วยอาการตื่นเต้นออกหน้าออกตา ก่อ
สเต็ปเดิม ไม่ว่าจะสอบเล็ก สอบใหญ่ สอบยิบย่อย เมื่อสอบเสร็จย่อมต้องเฉพาะ แม้ว่าไม่รู้ว่าคะแนนมากหรือน้อย จะผ่านหรือร่วง แต่ก็ต้องมาฉลอง ฉลองได้สอบ ไม่ใช่สอบได้“เอ้า ชนค่าาา! ดื่มให้เมาไปเลย คืนนี้มีผู้ชายมารับด้วย ตัวอ่อนได้” คิมชูแก้วขึ้นแล้วบอกกับอีกสามสาวในโต๊ะเสียงดี๊ด๊า แล้วอีกสามแก้วก็ยกขึ้นมาชนด้วยจนเกิดเสียงกริ้งกรั้งของแก้วที่กระทบกัน“ตัวอ่อนอะไรของมึงอ่ะคิม” เอิงเอยอย่างติดใจคำศัพท์ใหม่ของเพื่อน“ก็เมาตัวอ่อนไปซบผู้ชายไง เข้าใจยากตรงไหนชะนี”“แต่นั่นพี่ชายเพื่อนค่ะ ขอร้องอย่าแรดใส่” เอิงเอยรีบปรามก่อนจะกระดกดื่มเบียร์สดในแก้วจนพร่องไปเกือบครึ่ง เพราะไม่ได้ดื่มมาหลายวันแล้ว นักดื่มอย่างเธอเลยกระหายมากกว่าปกติ“กูจะแรด แล้วมึงก็ต้องถ่ายวิดีโอตอนกูซบพี่ยูให้กูด้วย กูจะส่งไปให้พี่เตเต้อิจฉาเล่น” คิมยืนยันความตั้งใจเดิม แถมยังกับกำให้เพื่อนถ่ายวิดีโอไปอวดรุ่นพี่เกย์คนสนิทในสาขาอีกด้วย เนื่องจากเตเต้เองก็ปลื้มยูสึเกะเอามากๆ คิมเลยอยากจะแกล้งรุ่นพี่เสียหน่อย“เราพึ่งรู้นะเนี่ย ว่าพี่ยูก็ป๊อปปูล่ากับเขาเหมือนกัน” จากบทสนทนาทำให้นานิรู้ว่าพี่ชายเธอเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของตล
หลายวันต่อมา….ไนท์กลับเข้าห้องมาหลังจากลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสส่วนกลางของคอนโดหนึ่งชั่วโมงเต็มๆปกติไนท์จะออกกำลังกายกับเดย์ที่คอนโดของทั้งสอง แต่หลังจากไนท์คบกับไอญดาชายหนุ่มก็มาค้างที่คอนโดแฟนสาวเสียส่วนใหญ่ เลยถือโอกาสใช้ฟิตเนสส่วนกลางที่นี่เสียเลย โดยไม่ต้องลำบากขับรถกลับคอนโดตัวเองเพียงเพราะไปออกกำลังกายให้เสียเวลาเดินทางร่างสูงเดินเข้ามาสวมกอดจากข้างแฟนสาวที่ยืนหันหลังให้อยู่ในตรงไอส์แลนด์ห้องครัว ก่อนกดจมูกโด่งหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่เป็นการทักทาย“อุ๊ย!”“พี่ทำให้เราตกใจเหรอ” เลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจเมื่อคนในอ้อมกอดสะดุ้งตัวโหยงอย่างตกใจเขาคิดว่าเธอได้ยินเสียงประตูแล้วเสียอีก เลยเดินเข้ามากอดหอมโดยไม่ได้พูดทักทายก่อน“นิดหน่อยค่ะ” ไอญดาเอียงหน้าตอบ“เป็นอะไรรึเปล่า เห็นเหม่อๆ ใจลอยๆ คิดอะไรอยู่เหรอ?” ไนท์จับคนตัวเล็กหมุนมาเผชิญหน้าจึงเห็นว่าไอญดาดูไม่ค่อยสดใสเช่นปกติ“เปล่าค่ะ ไอก็แค่..คิดเรื่องสอบควิซพรุ่งนี้นะคะ” ไอญดาตอบติดตะกุกตะกักตอนต้นประโยค ก่อนฉีกยิ้มหวานให้ไนท์แล้วยกมือเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กตามขมับให้“ติดตรงไหนรึเปล่า เอามาให้ดูได้นะ เผื่อพี่อาจจะช่วยดูให้ได้” ถ้าเรื่องภ
ไนท์กดริมฝีปากพรมจูบตามลาดบ่า แอ้งคอ ก่อนจะขบเม้มเนื่ออ่อนตามลำคอพร้อมส่งลิ้นสากไล้เลียตามผิวขาวเนียน ต่ำลงมาที่เนินอก ก็เริ่มรู้สึกถึงอาการเกร็งของร่างมากขึ้นเรื่อย แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากห้าม“ทำต้องฝืนตัวเองด้วย”“....” ไอญดาลืมตาขึ้นมาสบตาไนท์ด้วยความรู้สึกผิด“ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม ทำไมต้องฝืนตัวเองด้วย พี่ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย บอกแล้วไงว่ารอได้ แต่มันก็มีหลุดๆ บ้าง คราวหลังถ้ายังไม่พร้อมก็ถีบได้เลย”“ไอขอโทษนะคะ”“ขอโทษทำไม เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ ขอโทษที่หื่นเกินไป”“....”“ไม่ต้องคิดมากนะ พี่รอได้จริงๆ” ไนท์บอกแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะช่วยจัดแจงเสื้อผ้าคนตัวเล็กให้กลับมาเหมือนเดิมแล้วตลบผ้าห่มคลุมให้ “พี่ขอตัวไปจัดการตัวเองในห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ”“เอ่อ ค่ะ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจัดการตัวเองของไนท์หมายถึงอะไร นัวกันมาขนาดนี้แล้วเขาก็คงมีอารมณ์ไม่น้อยเพราะไอ้ความแข็งขืนมันขูดกับขาเธอไปหมาดๆ แล้วผงาดพร้อมใช้งานขนาดนี้แล้วถ้าไม่ได้ปลดปล่อยเขาคงไม่สบายตัว“ไอนอนเลยนะ ไม่ต้องรอพี่” เพราะเขาคงต้องใช้เวลาสักพักในห้องน้ำ ไข่แข็งตึงเปรี๊ยะจนไม่มีรอยย่นรอบเดียวไม่น่าจะ







