"ผมเองครับ" ทุกคนในห้องโถงคฤหาสน์ตระกูลนักธุรกิจใหญ่พากันหันไปมองตามเสียงของคนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดเชิ้ตกางเกงสแลกซ์แว่นตากรอบหนาเดินเข้ามาอย่างมั่นใจ ก่อนที่จะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่เคารพแล้วลงมานั่งตรงข้ามหญิงสาวผู้ตกเป็นข่าวด้วยกัน
"คนในรูปคือวอร์มเหรอลูก" น้ำฟ้าเอ่ยถามด้วยใบหน้าแปลกประหลาดใจ เช่นเดียวกับพร้อมพงศ์ผู้เป็นพ่อของหญิงสาว เขามองชายหนุ่มด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แล้วอีกฝ่ายก็เอ่ยออกมาเสียงหนักแน่น
"ใช่ครับ ในรูปคือผมเอง" หมอวอร์มพูดจบก็หันสบตากับหญิงสาว เธอยังคงอ้าปากหวอกับการปรากฏตัวของเขาที่ไม่ทันคาดคิด
"…" หลังจากนั้นภายในห้องก็เกิดความเงียบงัน พลันสายตาของน้ำฟ้าก็หันไปมองคนเป็นสามี เขายังคงจดจ้องชายหนุ่มไม่ห่าง เช่นเดียวกับวอร์มที่ถูกจับตามองก็มองคนเป็นอากลับบ้าง สองคนมองหน้ากันเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจ จนสุดท้ายก็เป็นน้ำฝนที่เป็นคนพูดทำลายความเงียบหลังจากที่ตนได้สติ
"เห็นไหมคะปาป๊า เรื่องก็เกิดขึ้นกับคนกันเองทั้งนั้น ถ้าจัดแถลงข่าวแล้วบอกเป็นพี่ชายคนสนิทของหนู ทุกคนก็ต้องเชื่อหนูอยู่แล้ว" น้ำฝนพูดออกไปตามความคิด เธอเริ่มคิดว่าเรื่องยิ่งเล็กลงแล้ว อีกคนที่ตกเป็นข่าวก็เป็นคนกันเอง ถึงจะไม่ได้สนิทกับเธอแต่ก็พอจะสนิทกับพ่อเธออยู่บ้าง เรื่องแค่นี้เขาก็คงจะยินดีที่ยื่นมือมาช่วยเธออีกครั้ง
"อยู่ตรงนี้ไม่ต้องไปไหน ส่วนวอร์มตามอามา" ประโยคแรกพร้อมพงศ์เหลือบบอกกับลูกสาวคนเดียวของตน ก่อนที่จะหันไปบอกกับอีกคนที่พูดจบก็เดินนำเข้าไปในห้องทำงานของเขา
"ขอตัวนะครับคุณน้า" วอร์มยกยิ้มบาง ๆ ให้น้ำฟ้า หยัดยืนขึ้นแล้วเดินตามพร้อมพงศ์เข้าห้องทำงานอย่างไม่รีรอ ห้องโถงของคฤหาสน์จึงเหลือเพียงแค่สามสาวที่มองชายหนุ่มสองคนที่เดินจากไป
"ทำไมปาป๊าต้องเรียกเฮียวอร์มไปคุยในห้องด้วยล่ะคะ เป็นความลับเหรอ?" คนขี้สงสัยโพล่งถามคนเป็นแม่ ชวนให้น้ำฟ้าเริ่มอึกอักเพราะเธอเองก็ไม่รู้จะตอบลูกสาวอย่างไรเหมือนกัน
"หม่ามี้ก็ไม่รู้ ว่าแต่คนในข่าวคือเฮียวอร์มของลูกจริง ๆ เหรอ?" น้ำฟ้ายังคงประหลาดใจไม่หาย เธอช่างไม่รู้ว่าท่าทางของเธอกำลังทำให้ลูกสาวเริ่มสงสัยขึ้นตาม
"จริงค่ะ แล้วทำไมหม่ามี้ถึงต้องตกใจขนาดนั้นล่ะคะ?"
"ปะ เปล่า ไม่มีอะไรสักหน่อย" เธอรีบตอบปฏิเสธลูกสาวในทันที
"จะว่าไปเฮียวอร์มของแกแซ่บมาก ทำไมไม่เคยบอกว่ามีหมอประจำตัวหล่อขนาดนี้" คิมมี่ที่เงียบอยู่นานเริ่มพูดขึ้น เธอเก็บความรู้สึกนี้อยู่ตั้งนาน จนสุดท้ายก็อดที่จะพูดออกไปไม่ได้ ถึงจะไม่ใช่เวลาแต่เพราะนั้นเป็นนิสัยที่เธอห้ามไม่ได้ แต่พอได้เห็นสายตาของน้ำฟ้า คิมมี่ก็รีบยกมือขอโทษยกใหญ่ ลืมไปเสียสนิทว่ายังมีอีกคนอยู่ด้วย
"แหะ…ขอโทษค่ะ คิมมี่ลืมตัว"
"ไม่เป็นไรจ้ะหนูคิมมี่ น้าเข้าใจสถานการณ์มันกดดันเกินไป น้าก็อึดอัด" น้ำฟ้าป้องปากพูดเบา ๆ กลัวสามีออกมาได้ยินในสิ่งที่เธอไม่ค่อยได้พูดออกมาเท่าไหร่
"หนูจะฟ้องปาป๊า" น้ำฝนยกยิ้มกริ่ม แม่ของเธอเป็นคนอ่อนหวาน ซึ่งต่างไปจากเธอมาก นั้นจึงทำให้เธอชอบแกล้งคนเป็นแม่อยู่บ่อย ๆ
"เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมเรา"
"แหนะ!…เดี๋ยวนี้หม่ามี้ของหนูเก่งขึ้นเยอะเลย ต้องให้ปาป๊าทำโทษหน่อยแล้ว"
"ยังจะเล่นอีกน้ำฝน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา หม่ามี้ก็ช่วยลูกไม่ได้"
"คงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ แค่ข่าวซุบซิบทั่วไปเอง ปาป๊าคงจะไม่ได้ซีเรียส" แม้ปากจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ข้างในก็รู้สึกหวั่น ๆ ไม่หาย ยิ่งตอนที่เรียกวอร์มเข้าพบพร้อมพงศ์ดูนิ่งเรียบกว่าทุกครั้ง เธอจึงไม่แน่ใจว่าครั้งนี้มันจะออกมาเป็นอย่างไร
"หม่ามี้ก็ขอให้เป็นแบบนั้น"
ผ่านไปหลายต่อหลายนาทีชายหนุ่มสองคนที่หายเข้าไปในห้องก็ยังไม่ออกมา น้ำฝนเริ่มอยู่ไม่สุข เธอเดินวนไปวนมาเพื่อหวังจะคลายความกังวลได้บ้างโดยที่โทรศัพท์มือถือก็เริ่มมีสายของต้นสังกัดโทรเข้ามาเป็นระยะ เช่นเดียวกับนักข่าววงการบันเทิงที่กระหน่ำโทรไม่ซ้ำสำนัก แต่เธอก็ยังกดรับไม่ได้เพราะต้องรอข้อสรุปจากคนเป็นพ่อเสียก่อน
ตึก
ตึก
ในที่สุดเสียงฝีเท้าของคนสองคนก็เดินเข้ามาในห้องโถง ทั้งพร้อมพงศ์และวอร์มกลับมานั่งลงที่เดิม แน่นอนว่าทันทีที่คนเป็นพ่อก้นติดเบาะลูกสาวที่รอคำตอบก็รีบสวนถามขึ้นมาในทันที
"ตกลงหนูให้ต้นสังกัดตั้งโต๊ะแถลงข่าวเลยนะคะ"
"อืม จะมีการแถลงข่าวของหนูเกิดขึ้น" พร้อมพงศ์ตอบ ซึ่งเรียกรอยยิ้มจากลูกสาวยกใหญ่ แต่ก็ไม่ทันที่เธอจะได้พูดต่อ คนที่ยังพูดไม่จบก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
"แต่ไม่ใช่แถลงข่าวอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เป็นการแถลงข่าวประกาศว่าวอร์มเป็นคู่หมั้นของหนูแทน"
"ห๊ะ!?" ทุกคนในห้องอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน โดยเฉพาะน้ำฝนที่เบิกตาโพลงยกใหญ่ ริมฝีปากบางอ้าปากหวอพูดอะไรไม่ออก อะไรคือการแถลงข่าวบอกว่าเขาสองคนเป็นคู่หมั้นกัน
"ได้ยินไม่ผิด ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ป๊าจะให้หนูหมั้นแล้วก็แต่งงานกับเฮียเขา"
"แต่งงาน!?" สิ่งที่ได้ยินยังคงมาถึงจุดพีคขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนยังคงตกใจไม่หยุดโดยเฉพาะน้ำฝนที่ไม่คิดว่ามันจะออกมาในรูปแบบนี้
"ดะ เดี๋ยวนะคะ หนูว่าคงต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ คือในรูปมันไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลยสักนิด เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน อยู่ในฐานะของหมอกับคนไข้ จะเอาประวัติการรักษาให้คนอื่นเขาดูก็ได้ มันยังมีอีกหลายวิธีที่ไม่ใช่การแต่งงาน ปาป๊าต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ ๆ"
"ป๊าไม่ได้เข้าใจอะไรผิด ลูกต้องแต่งงานกับเฮียวอร์ม คิมจัดการเรื่องแถลงข่าวด้วย" คิมมี่เริ่มหันไปถามความเห็นของรุ่นน้องดาราสาว เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าต้องทำแบบนั้นจริง ๆ
"แต่เราไม่ได้รักกันนะคะป๊า!"
"วันนี้ฉันมีงานต่อ ไว้ค่อยคุยกันวอร์ม"
"ครับอาพร้อม" ว่าจบพร้อมพงศ์ก็รีบเดินออกไปโดยไม่สนใจคำประท้วงจากลูกสาว สับเท้าอย่างเร็วไวไม่แม้แต่จะหันมาทักทายภรรยาอย่างที่ชอบเป็น
"หม่ามี้ทำไมปาป๊าไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะคะ"
"หม่ามี้จะลองไปถามให้นะคะ" ว่าแล้วคนเป็นแม่ก็เดินหายไปตามสามี ที่ตรงนั้นจึงเหลือแค่ผู้จัดการส่วนตัวเธอ เธอ และเขา…
"เฮียไม่เดือดร้อนที่เราต้องแต่งงานกันเลยเหรอคะ!?" หญิงสาวเริ่มเปิดประเด็นถามอีกคน เขาไม่มีความเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลยสักนิด ใบหน้ายังคงนิ่งเรียบเช่นเดิมในขณะที่เธอลนลานพยายามหาคำตอบของเรื่อง
"ไม่" วอร์มตอบแค่คำถามสั้น ๆ พูดจบเขาก็หยัดยืนขึ้นหมายจะเดินหนีแต่ก็ถูกน้ำฝนเรียกไว้ก่อน
"เฮียวอร์มมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"
"ฉันมีเคสด่วน" เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นกระชับกรอบแว่นแล้วเดินออกไป น้ำฝนถอนหายใจพรืดใหญ่ คนเนิร์ดแบบเขาคงจัดอยู่ในคนประเภทหัวอ่อน ใครให้ทำอะไรก็ทำโดยไม่ขัดคำสั่งเลยสักนิด พร้อมพงศ์คงบังคับให้เขาทำแบบนั้น แต่เธอเองยังคาใจอยู่มาก ในเมื่อคนไม่ได้รักกันแล้วจะแต่งงานกันได้ยังไง?
ณ บ้านพักตากอากาศบนดอยบ้านพักหลังเดิมที่เป็นสถานที่แรกในการฮันนีมูนของทั้งสองคนและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจทุกปีที่เมื่อถึงวันครบรอบแต่งงานพวกเขาก็ต้องมาที่นี่ เป็นที่ที่เธอมากี่ครั้งก็ชอบทุกครั้งและไม่เคยรู้สึกเบื่อ ทั้งอากาศร่มรื่นสายลมโกรกเย็นสบาย ไร่ชาและสวนดอกไม้ที่รักไม่มีที่ไหนที่ถูกใจเธอได้มากกว่าที่นี่แล้ว"เดี๋ยวหนูไปเตรียมของว่างให้นะคะ""ครับ" น้ำฝนบอกกับสามีที่กำลังอุ้มเด็กน้อยวัยสามขวบที่หลับคาอกคนเป็นพ่อไปแล้ว โดยเธอแยกเข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมของว่างให้สามีที่ขับรถมาไกล ในขณะที่เขาพาลูกสาวคนเล็กเข้าห้องนอน เหลือคนเป็นพี่ชายที่แยกออกไปรับลมที่ระเบียงในยามเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน"เวคินมาทานผลไม้ลูก" เสียงหวานเดินมาพร้อมกับจานผลไม้ที่เตรียมให้สามีและลูกชาย ยังไม่ทันที่เวคินจะขานตอบคนเป็นพ่อที่ไปส่งลูกสาวก็เดินออกมารับลมที่ระเบียงด้วย"แม่ครับ ทำไมเราถึงต้องมาที่นี่ทุกปีเหรอครับ" เวคินถามขึ้น เป็นคำถามที่ทำให้น้ำฝนปรายตาไปมองพ่อของเขา ก่อนที่จะยิ้มตอบคำถามที่ลูกสงสัย"เพราะที่นี่เป็นที่แรกที่ทำให้แม่ตกหลุมรักป๊าของลูก""ดังนั้นป๊าก็เลยซื้อที่นี่ไว้เพราะแม่ชอบมาบ่อย ๆ
"เวคินลูกเสร็จหรือยัง?" เสียงหวานคนเป็นแม่เปิดประตูเข้าห้องลูกชายพร้อมเอ่ยถาม ก่อนที่จะเจอเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดลำลองสุดเท่ พร้อมกับกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบที่เตรียมไว้พร้อม"เสร็จแล้วครับแม่""ลูกชายแม่หล่อมาก""ผมหล่อได้ป๊า" เด็กน้อยเข้าใจพูด ใคร ๆ ก็ต่างบอกว่าทั้งหน้าและนิสัยได้พ่อมาเต็ม ๆ ในขณะที่ลูกสาวนั้นได้แม่มาทั้งหมด รวมไปถึง…"แม่ขาา!!!" นิสัยสุดแสบที่ถอดแบบมาเต็ม ๆ"เวนิสแม่บอกแล้วใช่ไหมคะว่าจะเข้าห้องเฮียต้องเคาะประตู" น้ำฝนดุลูกสาวเบา ๆ เพราะเล่นพรวดพราดเข้าห้องพี่ชายที่หวงความเป็นส่วนตัวจนเจ้าของห้องต้องคิ้วขมวด"ขอโทษค่ะ" ร่างเล็กยกมือไหว้ขอโทษตาปริบ ๆ"ขอโทษเฮียค่ะ ไม่ใช่ขอโทษแม่""ขอโทษค่ะเฮียคิน เวนิสไม่ได้ตั้งใจ" น้ำฝนได้แต่อมยิ้มกับท่าทีของลูกสาว เพราะเธอกำลังทำหน้าเศร้าสร้อยตาละห้อยเพื่อไม่ให้พี่ชายโกรธ จนสุดท้าย…"อืม ไม่เป็นไร" มันก็ได้ผลทุกที เวคินกับวอร์มไม่ต่างอะไรกันเลยแพ้ลูกอ้อนสาว ๆ ในบ้านกันทั้งนั้น"งั้นเรารีบไปโรงพยาบาลกันดีกว่าไหมคะ ป่านนี้ปาป๊าคงรอทานข้าวแย่แล้ว""ไปกัน!" เวนิสตื่นเต้นใหญ่ เพราะวันนี้ทั้งครอบครัวไม่ได้จะไปแค่โรงพยาบาลเพื่อไปหาคนเป็นพ่อ
"แม่ ๆ ~" เวนิสชี้ไปที่หน้าจอทีวีที่ปรากฏตัวแม่ของเธอกำลังแสดงละครเรื่องสุดท้ายหลังจากที่ประกาศอำลาจากวงการบันเทิง วันนี้ทั้งครอบครัวตั้งหน้าตั้งตารอดูกันพร้อมหน้า แถมยังเป็นตอนจบของละครอีก เป็นกิจกรรมในครอบครัวที่ดีเลยทีเดียว"โตขึ้นหนูอยากเป็นแบบแม่ไหมคะ?" น้ำฝนเอ่ยถามเด็กน้อยที่นั่งบนตักคนเป็นพ่อ จนเธอพยักหน้าหงึก ๆ พร้อมตาที่เป็นประกาย"งั้นหนูก็ต้องมั่นใจในตัวเองนะคะ หนูทำได้" เธอแค่ไม่อยากให้ลูกต้องมาเจออย่างที่เธอเคยเจอ ถ้าวันนั้นไม่มีวอร์มที่เดินเข้ามาปลอบเธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป คงจะโทษตัวเองไปอีกนาน…"แม่ครับ ผมง่วงแล้ว" เวคินที่นั่งคั่นกลางระหว่างน้ำฝนกับวอร์มก็พูดขึ้นต่ออีกคน พร้อมสายตาที่งัวเงียใกล้จะหลับเต็มที"งั้นลูกขึ้นไปนอนนะคะ เดี๋ยวแม่ไปเป็นเพื่อน""ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้""ฝันดีนะคะลูกรัก""ฝันดีครับแม่ ฝันดีครับป๊า" ว่าจบเวคินก็เดินขึ้นบันไดกลับห้องตัวเอง เช่นเดียวกับเวนิสที่เริ่มเคลิบเคลิ้มบนหน้าอกแกร่งของคนเป็นพ่อ"ใกล้หลับแล้ว" น้ำฝนกระซิบเสียงเบาบอกกับสามี มือหนาจึงลูบแผ่นหลังเล็กเพื่อกล่อมนอน ในขณะที่มืออีกข้างก็ดึงภรรยามาโอบพร้อมกับดูล
"ปาป๊าขา ~" เจ้าของเสียงใสวัยสามขวบรีบวิ่งไปเกาะขาคนเป็นพ่อหลังจากที่คุณหมอใหญ่ของโรงพยาบาลออกเวรก็บึ่งตรงกลับบ้านในทันทีทันใด"เวนิสสวัสดีหรือยังคะ" ภรรยาสาวที่เดินตามมาเอ่ยขึ้น เด็กน้อยจึงปล่อยแขนจากคนเป็นพ่อแล้วพนมมือไหว้สวย ๆ อย่างที่คนเป็นแม่เคยสอน"สวัสดีค่ะปาป๊า""สวัสดีค่ะคนสวย" หมอวอร์มยกยิ้มกว้างกับความน่ารักของลูกสาวช้อนตัวมาอุ้มพร้อมกับหอมแก้มนุ่มยกใหญ่ ไม่วายที่จะเอื้อมไปกอดแล้วหอมแก้มภรรยาสาวด้วยยืนไม่นานเสียงอีกคนที่มาใหม่ก็ดังขึ้น"ไม่มีวันไหนที่ผมกลับมาแล้วป๊ากับแม่ไม่สวีทกัน" เวคินเอ่ยเสียงเรียบ เขามักเห็นภาพนี้จนชินแต่ก็ไม่เบื่อที่จะบ่นอุบอิบตามประสา"งั้นลูกก็มาให้แม่กอดด้วยสิคะ" น้ำฝนเอ่ย"ไม่ล่ะครับ ผมโตแล้ว""ลูกโตแค่ไหนก็กอดแม่ได้""ผมให้แค่กอดนะครับ" เวคินขยับเข้ามาให้น้ำฝนกอดอย่างถนัด น้ำฝนถึงกับหลุดยิ้มกับความเขินอายต่อการแสดงความรักของลูกมาก"โตเกินวัยไปนะเรา" มือบางขยี้หัวเล็กเบา ๆ จนคนในอ้อมกอดเริ่มจะหน้าแดงจึงค่อย ๆ ผละคนเป็นแม่แล้วรีบหยิบกระเป๋าที่แบกกลับจากโรงเรียนวิ่งขึ้นชั้นบนห้อง"ผมจะไปอาบน้ำแล้วจะลงมาดูละครเป็นเพื่อนแม่นะครับ" ว่าจบเวคินก็วิ่งเข้า
"ขอบคุณสำหรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมที่มอบให้ฉันถึงสี่ปีซ้อน เป็นเวลาสิบปีแล้วที่ฉันโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงที่เป็นงานที่ฉันรัก ทั้งงานแสดงงานอีเวนต์รวมไปถึงงานโฆษณา ขอบคุณทุกคนทั้งแฟนคลับและเพื่อนร่วมงานที่ผลักดันให้ฉันน้ำฝนมายืนอยู่ตรงนี้ได้ และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือครอบครัวของฉัน"ดาราสาวที่ยืนถือถ้วยรางวัลแห่งเกียรติยศของการเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมกำลังกล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่เธอได้รับสิทธิ์นั้นมาถึงสี่ปีซ้อน ดวงตากลมโตกวาดมองเพื่อนนักแสดงหลายคนรวมไปถึงแฟนคลับของเธอที่ต่างแห่กันมาเป็นแรงใจเพื่อส่งถึงเธอ รวมไปถึงคนสุดท้ายที่เธอไม่มองไม่ได้นั้นก็คือ...วอร์มสามีของเธอหมอหนุ่มยกยิ้มเบา ๆ อย่างเป็นกำลังใจภรรยา ในยามที่เธอทำตามฝันก็มักจะมีแสงสว่างออกมาจากตัวของเธอให้เปล่งประกายอยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มกว้างมีความสุขของคนบนเวทีนั้นพลอยทำให้เขามีความสุขไปด้วย"วันนี้ฉันยินดีที่จะประกาศอย่างยิ่งว่าฉันน้ำฝนอยากจะวางมือจากวงการอย่างถาวร" สิ้นเสียงหวานเอ่ยเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง สิ่งที่น้ำฝนกำลังพูดต่างทำให้ทุกคนตกใจอย่างไม่คาดคิดรวมไปถึงสามีของเธอที่ชะงักเบา ๆ เพราะเรื่องนี้เธอ
ครืดดดดด!ลิลิน : ส่งตำแหน่งที่ตั้งลิลิน : ทุกอย่างพร้อมแล้วเจ๊มาตามโลเคชั่นที่ฉันส่งไปได้เลยน้ำฝนก้มมองข้อความที่ส่งมาจากลิลินน้องรักของเธอ ก่อนที่จะปรายไปมองกระจกเพื่อดูความเรียบร้อยชุดของตัวเองเพื่อจะออกจากบ้าน วันนี้เธอตั้งใจจะเซอร์ไพรส์เรื่องท้องให้สามีรับรู้ แต่เอาเข้าจริงเธอเองก็ไม่รู้แผนการณ์อะไรเลยสักอย่าง ทุกอย่างล้วนแต่เป็นลิลินเป็นคนวางแผนเสียหมด รวมถึงเลือกเสื้อผ้าให้ใส่แล้วนัดกันไปเจอทีเดียวถึงจะระแวงว่าลิลินจะทำอะไรแผลง ๆ อยู่บ้างแต่ถึงตอนนี้เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว จึงเดินไปที่ลานจอดรถคนของเฮียวอร์มก็เตรียมรถรอเธออยู่ก่อนแล้ว"ไปตามโลเคชั่นนี้นะคะ" น้ำฝนยื่นตำแหน่งที่ลิลินส่งมาให้คนขับรถ"ผมรู้จักที่นี่ครับ" ได้ยินดังนั้นเธอก็เข้าไปนั่งในรถอย่างสบายใจ อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้เมื่อนึกภาพตอนที่สามีรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นพ่อคน เขาคงมีความสุขน่าดูมือบางลูบหน้าท้องแบนราบที่มีเจ้าก้อนตัวน้อยที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอและเขา เด็กคนนี้กำลังเข้ามาเติมเต็มให้ความรักของเธอสมบูรณ์ขึ้นเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกอย่างที่เขาตั้งใจณ ร้านอาหารริมแม่น้ำรถหรูเคลื่อนมาจอดหน้าร้านอาหารริมแม่น้ำก