"ในเมื่อฉันปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขาไม่ได้ ฉันก็ต้องทำให้เขารักจนหัวปักหัวปำ คนอย่างฉันมันไม่มีอะไรจะเสีย…นอกจากเสียตัวให้เขา"
view more"นี่…เอาของฉันคืนมานะ นั้นตุ๊กตาของฉัน"
"ฉันไม่ให้แล้วจะทำไม แน่จริงก็วิ่งตามมาให้ทันสิยัยอ้วน"
"เอาคืนมานะ…"
"ไม่คืน…แบร่!"
ปึก!
"อะ โอ้ย…ฮึก…"
"ฮ่า ๆ สมน้ำหน้า ฉันไม่อยากได้ตุ๊กตาของเธอแล้ว เอากลับไป ยัยอ้วนดำปากเป็ด ฮ่า ๆ"
"น้ำฝน…"
"น้ำฝน!"
"หะ ห๊ะ!?" หญิงสาวสะดุ้งเฮือกในตอนที่เสียงของคนข้าง ๆ ขึ้นเสียงเรียกสติ เธอหลุดออกจากภวังค์วังวนของความคิดแล้วหันมองต้นเสียงด้วยใบหน้าเหลอหลาทำอะไรไม่ถูก
"เป็นอะไรไปเนี่ย…" ผู้ชายรูปร่างสูงเอ่ยถามขึ้น เขากำลังเรียกสติน้ำฝนนักแสดงในสังกัดเขาที่เหม่อลอยเหมือนนึกถึงอะไรบางอย่างแสดงออกถึงความกังวลจนเธอนึกเป็นห่วง
"ฉันแค่อินไปหน่อยเจ๊ เด็กพวกนั้นเล่นดีไปหน่อย" เจ๊คิมหรือคิมมี่ผู้จัดการหนุ่มรูปร่างชายแต่ใจหญิงของน้ำฝนที่ร่วมงานกันมานานจนสนิทสนม เธอหันไปถามคิมมี่พร้อมกับพยักพเยิดไปทางนักแสดงเด็กที่กำลังถ่ายทำละครอยู่ไม่ไกลจากที่เธอยืน
"ก็น้องเอ็กซ์ตราทั่วไป แกน่ะไปเข้าฉากได้แล้ว ฉันเรียกตั้งนานก็ไม่ยอมตอบซักที"
"จะไปเดี๋ยวนี้ค่า" ว่าจบร่างบางหุ่นเพรียวก็เดินไปเข้าฉาก เธอกำลังถ่ายทำละครที่ใกล้จะปิดกล้องในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแล้วซีนนี้ก็เป็นซีนสุดท้ายที่จะเล่นให้กับกองละครนี้ จนในที่สุด...
"ผ่าน ปิดกล้อง!"
"เย้ ๆ" ทันทีที่ผู้กำกับลั่นออกมาทุกคนในกองก็ต่างพากันส่งเสียงเอะอะดีใจ เช่นเดียวกับน้ำฝนที่กำลังยืนปรบมือให้นักแสดงและทีมงานที่เหนื่อยล้ากันมาถึงครึ่งปีกับการถ่ายทำในครั้งนี้ แล้วมันก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่นในที่สุด
"เจอกันเลี้ยงปิดกล้องนะครับน้ำฝน" พระเอกหนุ่มนักแสดงหันมาเอ่ยกับนางเอกที่ประกบคู่พร้อมกับส่งยิ้มหวาน ทว่าน้ำฝนไม่ได้เลือกจะตอบอะไร เธอเพียงแต่ส่งยิ้มบาง ๆ พอเป็นมารยาทแล้วปลีกตัวจากหน้าฉากถ่ายทำมาหาผู้จัดการที่ยืนรอไม่ไกล
"โดนผู้เต๊าะอีกแล้วฉันเห็นนะ" คิมมี่ขยับตาหวานอย่างรู้ทัน เป็นเรื่องปกติที่น้ำฝนมักจะถูกโปรยขนมจีบจากพระเอกอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่เธออยากจะสานสัมพันธ์ด้วย ไม่ว่าคนนั้นจะดังหรือหล่อมากแค่ไหนก็ตาม
"ฉันโอนให้เจ๊"
"ฉันเอาจริงนะ" ทันทีที่น้ำฝนพูดจบคิมมี่ก็ตาลุกวาว
"ฉันก็ไม่ได้ล้อเล่น ไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ" ว่าแล้วร่างบางก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหมายจะกลับบ้านเมื่อเสร็จงาน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อยังเห็นพระเอกคนเดิมกำลังยืนขวางเธออยู่หน้าห้องเปลี่ยนชุดราวกับกำลังดักรออยู่ก่อนแล้ว
"ขอทางหน่อยค่ะ" ไม่ว่าเธอจะหลีกหนีทางไหนเขาก็ดักแทบทุกทาง จนต้องหยุดเดินแล้วเงยหน้าไปบอกเขาน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
"สุดสัปดาห์หน้ามีอีเวนต์คู่ ผมไปรับนะครับ" เป็นปกติที่หลังจากละครที่จะออนแอร์จะมีงานอีเวนต์ต่าง ๆ เข้ามามากมาย ยิ่งอีเวนต์คู่เพื่อเดินทางไปโปรโมทก็ถล่มทลายนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่ได้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องให้เขามาตามรับตามส่ง เพราะเธอไปเองได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมีผู้จัดการ"
"แต่จะดีกว่าไม่ใช่เหรอถ้าเราจะไปด้วยกัน"
"คนอย่างฉันไม่เห็นมีความจำเป็นที่ต้องใช้กระแสคู่จิ้นกับคุณ" น้ำฝนเริ่มเกิดอาการหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่ออีกคนเอาแต่ตอแยไม่เลิก ตอนนี้เธอเองก็ดังระเบิดระเบ้ออยู่แล้ว เห็นทีคงจะมีแต่เขาที่กำลังต้องการผลประโยชน์จากเรื่องนี้เพื่อเกาะเธอดังไปด้วย ทำไมเรื่องแค่นี้คนอย่างเธอถึงจะดูไม่ออกกัน
"ทำไมไม่คิดว่าทำไปเพื่องานล่ะครับ"
"เหรอคะ ฉันนึกว่าคุณทำเพื่อตัวเองเสียอีก ขอโทษทีค่ะ ฉันอาจจะเข้าใจคุณผิดไป แต่ถ้าทำเพื่องานฉันคิดว่าควรดูที่ผลงานมากกว่านะคะ ถ้าฝีมือคุณดีสักวันคุณก็คงจะดังได้โดยไม่ต้องเกาะกระแสในด้านนี้ ขอตัวค่ะ" น้ำฝนว่าจบก็เดินชนไหล่หนาที่กำลังยืนขวางทาง ถ้าคนจะชอบก็ควรชอบที่งานการแสดงในจอ ไม่ใช่การจิ้นนอกจอที่ไม่มีความจริงทว่ามีแต่ผลประโยชน์แอบแฝง
ชายหนุ่มผู้โดนปฏิเสธหน้าชากัดฟันกรอดด้วยความโกรธแค้นในความเย่อหยิ่งของหญิงสาว เขาเพียงแต่คิดว่าท้ายที่สุดเขาต้องทำให้เธอคลานเข่ามาหาเขาให้ได้ แม้จะต้องใช้วิธีที่แสนสกปรกแลกมาด้วยความสะใจก็ตาม
"เฮ้ออออ~" เสียงหายใจผ่อนยาวออกทันทีที่ได้ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนอนนุ่ม ร่างสวยที่เพิ่งจะกลับจากที่ทำงานรีบกอบโกยเวลาแห่งความสุขในการพักผ่อนอยู่ห้องเดี่ยวของคอนโดหรูหราใจกลางเมืองเพียงคนเดียวแหล่งพักพิงที่ปลอดภัยสำหรับเธอด้วยความปลอดภัยที่แน่นหนาเพราะเป็นถึงลูกสาวของเจ้าของคอนโด แต่แล้วความสุขเพียงชั่วครู่ก็ต้องชะงกลงเมื่ออยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์จากเครื่องหรูก็ดังขึ้นอย่างน่าหงุดหงิด
ครืดดดดดด!
ลิลิน.
"ว่าไงคะ ตั้งแต่มีแฟนก็หายหัวไปจากพี่เลยนะ" ทันทีที่รับสายเธอก็รีบกรอกเสียงใส่ปลายสายที่เป็นน้องสาวคนสนิท แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ ซึ่งมันคือความผิดปกติเพราะอีกคนไม่เคยเงียบใส่เธอแบบนี้ในทุกครั้งที่โทรมา
"ฮัลโหล แกเป็นอะไรลิลิน ใครทำอะไรแกหรือเปล่า…"
(จะ เจ๊…) ในที่สุดปลายสายก็เอ่ยตอบด้วยเสียงที่สั่นเครือ เหมือนคนกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นทำเอาคนนอนพักรีบดีดลุกขึ้นจากเตียงในทันที
"แกเป็นอะไรลิลิน บอกเจ๊มา ใครทำแก!" น้ำฝนถามอย่างคนร้อนรนใจ
(ฉันทะเลาะกับพี่ฟินซ์ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฮึก…เจ๊มารับฉันหน่อย)
"แกใจเย็น ๆ เคลียร์กับเขาหรือยัง"
(ไม่มีอะไรต้องเคลียร์แล้ว เจ๊มารับฉันนะ ฮึก…)
"โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้" ว่าแล้วมือบางก็คว้ากระเป๋าพร้อมกุญแจรถลงจากคอนโดหรูรีบตรงไปรับน้องสาวคนสนิทอย่างไม่ลังเล
ปึก!
ประตูรถสีขาวมุกถูกปิดลงด้วยฝีมือของลิลิน เธอเข้ามานั่งในรถด้วยใบหน้าที่อาบท่วมน้ำตาทำเอาน้ำฝนรู้สึกเคืองคนรักของน้องที่ปล่อยให้คนร้องไห้ยากอย่างลิลินฟูมฟายได้ถึงขนาดนี้
"เขาทำอะไรแก บอกฉันมา ฉันจะไปจัดการให้"
"ฮึก…ไม่ต้องหรอกเจ๊ ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว"
"แล้วมันเกิดอะไรขึ้น เขาปล่อยแกออกมาได้ยังไง?"
"ฉันหนีออกมา"
"ยัยลิน…" น้ำฝนถึงกับถอนหายใจยาวเฮือก แม้ว่าจะโกรธเคืองแฟนหนุ่มของน้องแต่ก็ไม่ได้ชอบใจนักที่น้องหนีออกมาโดยไม่ได้เคลียร์ใจเพราะมันไม่ได้เป็นผลดีเลยสักนิด มีแต่จะทำให้ค่ำคืนนี้วุ่นวายมากขึ้นเพราะแฟนลิลินคงจะไม่พอใจอย่างหนักที่อยู่ ๆ แฟนสาวหายไป
"เจ๊พาฉันหนีไปที ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่" ลิลินเขย่าแขนเรียวด้วยท่าทีขอร้องอ้อนวอน แน่นอนว่าน้ำฝนก็ยอมใจอ่อนเคลื่อนรถออกจากหน้าคฤหาสน์ของตระกูลฟานซ์แฟนหนุ่มของลิลิน ขับออกถนนใหญ่เรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง
"แกจะไปไหน ไปนอนคอนโดฉันไหม?" จนสุดท้ายน้ำฝนก็ออกปากถามคนที่นั่งเงียบตลอดทาง
"ฉันอยากไปผับ" ร่างบางข้าง ๆ ตอบจบคิ้วเรียงสวยของน้ำฝนก็เลิกขึ้นในทันที
"ตอนนี้?"
"ใช่ ฉันอยากระบายอารมณ์กับเครื่องเสียง เจ๊พาฉันไป TW หน่อย"
"แต่พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานเช้า แล้วแฟนแกต้องไม่พอใจแน่"
"เขาไม่พอใจก็เรื่องของเขาสิ นะเจ๊…แค่เพลงเดียว แล้วฉันจะกลับเลย"
"กลับคฤหาสน์ผัวแกใช่ไหม?"
"กลับคอนโดเจ๊" น้ำฝนถอนหายใจเฮือกใหญ่เป็นรอบที่ร้อย เธอไม่ได้ติดปัญหาที่น้องอยากมานอนด้วยเพราะห้องของเธอรับแขกได้หลายคน ทว่าปัญหาคือแฟนหนุ่มของเธอที่จะตามมาทีหลังต่างหาก เพราะเธอเชื่อว่ายังไงฟินซ์ก็คงปล่อยแฟนไว้ได้ไม่นาน เธอรู้นิสัยของเขาดี
***********
วอร์ม รุ่นลูกของเรื่อง FORCED LOVE พันธกานต์รัก(เลว) (ธาวิน x เพียงขวัญ)
น้ำฝน รุ่นลูกของเรื่อง FORCED LOVE บังคับรับ(รัก)บอส (พร้อม x น้ำฟ้า)
- SET EVIL LOVE -
1. EVIL LOVE รักร้ายนายเย็นชา (คีรัน x เอวา)
EVIL LOVE รักร้ายนายมาดกวน (คีริว x อิงดาว) ** ตอนพิเศษ
2. EVIL LOVE รักร้ายนายเดิมพัน (เวกัส x นิชา)
3. EVIL LOVE รักร้ายนายฟีนิกซ์ (ฟีนิกซ์ x ลิลิน)
4. EVIL LOVE รักร้ายนายหมอมาเฟีย (วอร์ม x น้ำฝน)
ณ บ้านพักตากอากาศบนดอยบ้านพักหลังเดิมที่เป็นสถานที่แรกในการฮันนีมูนของทั้งสองคนและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจทุกปีที่เมื่อถึงวันครบรอบแต่งงานพวกเขาก็ต้องมาที่นี่ เป็นที่ที่เธอมากี่ครั้งก็ชอบทุกครั้งและไม่เคยรู้สึกเบื่อ ทั้งอากาศร่มรื่นสายลมโกรกเย็นสบาย ไร่ชาและสวนดอกไม้ที่รักไม่มีที่ไหนที่ถูกใจเธอได้มากกว่าที่นี่แล้ว"เดี๋ยวหนูไปเตรียมของว่างให้นะคะ""ครับ" น้ำฝนบอกกับสามีที่กำลังอุ้มเด็กน้อยวัยสามขวบที่หลับคาอกคนเป็นพ่อไปแล้ว โดยเธอแยกเข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมของว่างให้สามีที่ขับรถมาไกล ในขณะที่เขาพาลูกสาวคนเล็กเข้าห้องนอน เหลือคนเป็นพี่ชายที่แยกออกไปรับลมที่ระเบียงในยามเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน"เวคินมาทานผลไม้ลูก" เสียงหวานเดินมาพร้อมกับจานผลไม้ที่เตรียมให้สามีและลูกชาย ยังไม่ทันที่เวคินจะขานตอบคนเป็นพ่อที่ไปส่งลูกสาวก็เดินออกมารับลมที่ระเบียงด้วย"แม่ครับ ทำไมเราถึงต้องมาที่นี่ทุกปีเหรอครับ" เวคินถามขึ้น เป็นคำถามที่ทำให้น้ำฝนปรายตาไปมองพ่อของเขา ก่อนที่จะยิ้มตอบคำถามที่ลูกสงสัย"เพราะที่นี่เป็นที่แรกที่ทำให้แม่ตกหลุมรักป๊าของลูก""ดังนั้นป๊าก็เลยซื้อที่นี่ไว้เพราะแม่ชอบมาบ่อย ๆ
"เวคินลูกเสร็จหรือยัง?" เสียงหวานคนเป็นแม่เปิดประตูเข้าห้องลูกชายพร้อมเอ่ยถาม ก่อนที่จะเจอเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดลำลองสุดเท่ พร้อมกับกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบที่เตรียมไว้พร้อม"เสร็จแล้วครับแม่""ลูกชายแม่หล่อมาก""ผมหล่อได้ป๊า" เด็กน้อยเข้าใจพูด ใคร ๆ ก็ต่างบอกว่าทั้งหน้าและนิสัยได้พ่อมาเต็ม ๆ ในขณะที่ลูกสาวนั้นได้แม่มาทั้งหมด รวมไปถึง…"แม่ขาา!!!" นิสัยสุดแสบที่ถอดแบบมาเต็ม ๆ"เวนิสแม่บอกแล้วใช่ไหมคะว่าจะเข้าห้องเฮียต้องเคาะประตู" น้ำฝนดุลูกสาวเบา ๆ เพราะเล่นพรวดพราดเข้าห้องพี่ชายที่หวงความเป็นส่วนตัวจนเจ้าของห้องต้องคิ้วขมวด"ขอโทษค่ะ" ร่างเล็กยกมือไหว้ขอโทษตาปริบ ๆ"ขอโทษเฮียค่ะ ไม่ใช่ขอโทษแม่""ขอโทษค่ะเฮียคิน เวนิสไม่ได้ตั้งใจ" น้ำฝนได้แต่อมยิ้มกับท่าทีของลูกสาว เพราะเธอกำลังทำหน้าเศร้าสร้อยตาละห้อยเพื่อไม่ให้พี่ชายโกรธ จนสุดท้าย…"อืม ไม่เป็นไร" มันก็ได้ผลทุกที เวคินกับวอร์มไม่ต่างอะไรกันเลยแพ้ลูกอ้อนสาว ๆ ในบ้านกันทั้งนั้น"งั้นเรารีบไปโรงพยาบาลกันดีกว่าไหมคะ ป่านนี้ปาป๊าคงรอทานข้าวแย่แล้ว""ไปกัน!" เวนิสตื่นเต้นใหญ่ เพราะวันนี้ทั้งครอบครัวไม่ได้จะไปแค่โรงพยาบาลเพื่อไปหาคนเป็นพ่อ
"แม่ ๆ ~" เวนิสชี้ไปที่หน้าจอทีวีที่ปรากฏตัวแม่ของเธอกำลังแสดงละครเรื่องสุดท้ายหลังจากที่ประกาศอำลาจากวงการบันเทิง วันนี้ทั้งครอบครัวตั้งหน้าตั้งตารอดูกันพร้อมหน้า แถมยังเป็นตอนจบของละครอีก เป็นกิจกรรมในครอบครัวที่ดีเลยทีเดียว"โตขึ้นหนูอยากเป็นแบบแม่ไหมคะ?" น้ำฝนเอ่ยถามเด็กน้อยที่นั่งบนตักคนเป็นพ่อ จนเธอพยักหน้าหงึก ๆ พร้อมตาที่เป็นประกาย"งั้นหนูก็ต้องมั่นใจในตัวเองนะคะ หนูทำได้" เธอแค่ไม่อยากให้ลูกต้องมาเจออย่างที่เธอเคยเจอ ถ้าวันนั้นไม่มีวอร์มที่เดินเข้ามาปลอบเธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป คงจะโทษตัวเองไปอีกนาน…"แม่ครับ ผมง่วงแล้ว" เวคินที่นั่งคั่นกลางระหว่างน้ำฝนกับวอร์มก็พูดขึ้นต่ออีกคน พร้อมสายตาที่งัวเงียใกล้จะหลับเต็มที"งั้นลูกขึ้นไปนอนนะคะ เดี๋ยวแม่ไปเป็นเพื่อน""ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้""ฝันดีนะคะลูกรัก""ฝันดีครับแม่ ฝันดีครับป๊า" ว่าจบเวคินก็เดินขึ้นบันไดกลับห้องตัวเอง เช่นเดียวกับเวนิสที่เริ่มเคลิบเคลิ้มบนหน้าอกแกร่งของคนเป็นพ่อ"ใกล้หลับแล้ว" น้ำฝนกระซิบเสียงเบาบอกกับสามี มือหนาจึงลูบแผ่นหลังเล็กเพื่อกล่อมนอน ในขณะที่มืออีกข้างก็ดึงภรรยามาโอบพร้อมกับดูล
"ปาป๊าขา ~" เจ้าของเสียงใสวัยสามขวบรีบวิ่งไปเกาะขาคนเป็นพ่อหลังจากที่คุณหมอใหญ่ของโรงพยาบาลออกเวรก็บึ่งตรงกลับบ้านในทันทีทันใด"เวนิสสวัสดีหรือยังคะ" ภรรยาสาวที่เดินตามมาเอ่ยขึ้น เด็กน้อยจึงปล่อยแขนจากคนเป็นพ่อแล้วพนมมือไหว้สวย ๆ อย่างที่คนเป็นแม่เคยสอน"สวัสดีค่ะปาป๊า""สวัสดีค่ะคนสวย" หมอวอร์มยกยิ้มกว้างกับความน่ารักของลูกสาวช้อนตัวมาอุ้มพร้อมกับหอมแก้มนุ่มยกใหญ่ ไม่วายที่จะเอื้อมไปกอดแล้วหอมแก้มภรรยาสาวด้วยยืนไม่นานเสียงอีกคนที่มาใหม่ก็ดังขึ้น"ไม่มีวันไหนที่ผมกลับมาแล้วป๊ากับแม่ไม่สวีทกัน" เวคินเอ่ยเสียงเรียบ เขามักเห็นภาพนี้จนชินแต่ก็ไม่เบื่อที่จะบ่นอุบอิบตามประสา"งั้นลูกก็มาให้แม่กอดด้วยสิคะ" น้ำฝนเอ่ย"ไม่ล่ะครับ ผมโตแล้ว""ลูกโตแค่ไหนก็กอดแม่ได้""ผมให้แค่กอดนะครับ" เวคินขยับเข้ามาให้น้ำฝนกอดอย่างถนัด น้ำฝนถึงกับหลุดยิ้มกับความเขินอายต่อการแสดงความรักของลูกมาก"โตเกินวัยไปนะเรา" มือบางขยี้หัวเล็กเบา ๆ จนคนในอ้อมกอดเริ่มจะหน้าแดงจึงค่อย ๆ ผละคนเป็นแม่แล้วรีบหยิบกระเป๋าที่แบกกลับจากโรงเรียนวิ่งขึ้นชั้นบนห้อง"ผมจะไปอาบน้ำแล้วจะลงมาดูละครเป็นเพื่อนแม่นะครับ" ว่าจบเวคินก็วิ่งเข้า
"ขอบคุณสำหรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมที่มอบให้ฉันถึงสี่ปีซ้อน เป็นเวลาสิบปีแล้วที่ฉันโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงที่เป็นงานที่ฉันรัก ทั้งงานแสดงงานอีเวนต์รวมไปถึงงานโฆษณา ขอบคุณทุกคนทั้งแฟนคลับและเพื่อนร่วมงานที่ผลักดันให้ฉันน้ำฝนมายืนอยู่ตรงนี้ได้ และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือครอบครัวของฉัน"ดาราสาวที่ยืนถือถ้วยรางวัลแห่งเกียรติยศของการเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมกำลังกล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่เธอได้รับสิทธิ์นั้นมาถึงสี่ปีซ้อน ดวงตากลมโตกวาดมองเพื่อนนักแสดงหลายคนรวมไปถึงแฟนคลับของเธอที่ต่างแห่กันมาเป็นแรงใจเพื่อส่งถึงเธอ รวมไปถึงคนสุดท้ายที่เธอไม่มองไม่ได้นั้นก็คือ...วอร์มสามีของเธอหมอหนุ่มยกยิ้มเบา ๆ อย่างเป็นกำลังใจภรรยา ในยามที่เธอทำตามฝันก็มักจะมีแสงสว่างออกมาจากตัวของเธอให้เปล่งประกายอยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มกว้างมีความสุขของคนบนเวทีนั้นพลอยทำให้เขามีความสุขไปด้วย"วันนี้ฉันยินดีที่จะประกาศอย่างยิ่งว่าฉันน้ำฝนอยากจะวางมือจากวงการอย่างถาวร" สิ้นเสียงหวานเอ่ยเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง สิ่งที่น้ำฝนกำลังพูดต่างทำให้ทุกคนตกใจอย่างไม่คาดคิดรวมไปถึงสามีของเธอที่ชะงักเบา ๆ เพราะเรื่องนี้เธอ
ครืดดดดด!ลิลิน : ส่งตำแหน่งที่ตั้งลิลิน : ทุกอย่างพร้อมแล้วเจ๊มาตามโลเคชั่นที่ฉันส่งไปได้เลยน้ำฝนก้มมองข้อความที่ส่งมาจากลิลินน้องรักของเธอ ก่อนที่จะปรายไปมองกระจกเพื่อดูความเรียบร้อยชุดของตัวเองเพื่อจะออกจากบ้าน วันนี้เธอตั้งใจจะเซอร์ไพรส์เรื่องท้องให้สามีรับรู้ แต่เอาเข้าจริงเธอเองก็ไม่รู้แผนการณ์อะไรเลยสักอย่าง ทุกอย่างล้วนแต่เป็นลิลินเป็นคนวางแผนเสียหมด รวมถึงเลือกเสื้อผ้าให้ใส่แล้วนัดกันไปเจอทีเดียวถึงจะระแวงว่าลิลินจะทำอะไรแผลง ๆ อยู่บ้างแต่ถึงตอนนี้เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว จึงเดินไปที่ลานจอดรถคนของเฮียวอร์มก็เตรียมรถรอเธออยู่ก่อนแล้ว"ไปตามโลเคชั่นนี้นะคะ" น้ำฝนยื่นตำแหน่งที่ลิลินส่งมาให้คนขับรถ"ผมรู้จักที่นี่ครับ" ได้ยินดังนั้นเธอก็เข้าไปนั่งในรถอย่างสบายใจ อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้เมื่อนึกภาพตอนที่สามีรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นพ่อคน เขาคงมีความสุขน่าดูมือบางลูบหน้าท้องแบนราบที่มีเจ้าก้อนตัวน้อยที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอและเขา เด็กคนนี้กำลังเข้ามาเติมเต็มให้ความรักของเธอสมบูรณ์ขึ้นเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกอย่างที่เขาตั้งใจณ ร้านอาหารริมแม่น้ำรถหรูเคลื่อนมาจอดหน้าร้านอาหารริมแม่น้ำก
Mga Comments