"ขอบคุณนะ..." ร่างสวยที่นอนงอตัวอยู่บนเตียงเงยหน้าไปบอกคนที่ยืนด้านข้างเตียงนอนมองหน้าเธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง หลังจากที่เขาจัดการขับรถมาส่งเพื่อนตัวเล็กจนถึงคอนโดหรูของเธอ
"กระเป๋าน้ำร้อนอยู่ที่ไหน" คีรันใช้สายตาคมสอดส่องหาสิ่งของทั่วห้องก่อนที่จะหลุบสายตามาถามเธอเมื่อกลับหามันไม่เจอ
"ห ห้ะ? อ๋อ...อยู่ในลิ้นชัก" เอวาตอบพร้อมกับพยักพเยิดไปทางซ้ายมือที่เป็นลิ้นชักไม้สีขาว
"นายไม่ต้องทำก็ได้ เดี๋ยวฉันทำเอง" เสียงหวานเอ่ยกับคนที่กำลังจะเดินไปทางนั้น ใบหน้าสวยที่ซีดเซียวพยายามประคองตัวให้นั่งทรงตัวก้าวเท้าเล็กลงจากเตียงนอนหมายจะเดินไปหยิบและจัดการทำด้วยตัวเอง
"..." ทว่าก็ไม่ทันความรวดเร็วของอีกคน เท้าหนักเดินไปเปิดลิ้นชักพร้อมกับหยิบมันออกมาแล้วเดินหายเงียบไปในครัวขนาดกลางของคอนโดหรูอย่างรวดเร็ว
"ฮืออ...ทำไมมันถึงเจ็บแบบนี้นะ" เอวาที่เห็นดังนั้นก็ล้มตัวนอนอีกครั้งอย่างทำอะไรไม่ได้ เรียวปากสวยพึมพำกับตัวเองด้วยความงอแง ความเจ็บปวดที่ได้รับมีมากเกินกว่าที่เธอจะเดินไปขัดเพื่อนตัวสูงได้
"เอาไปประคบ" กระทั่งผ่านไปสักพักคีรันก็เดินกลับมาพร้อมกับกระเป๋าน้ำร้อนในมือ มือหนาเอ่ยพร้อมกับยื่นส่งให้เธอได้ประคบเพื่อบรรเทาความเจ็บ
"ขอบคุณนะ นายรู้ด้วยเหรอ?" เอวาเอ่ยเสียงเบารับมาอย่างไม่รีรอ ก่อนที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัยที่เห็นว่าเพื่อนสนิทรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องละเอียดอ่อนของผู้หญิง
"จะทานอะไร" คำถามกลับไม่ถูกตอบ ทว่าปากหนากลับถามอีกคำถามขึ้นมาแทน
"ฉันยังไม่หิว" เอวาส่ายหัว
"..." ดวงตาคู่คมส่งผ่านแกมบังคับเพื่อนตัวเล็กจนเธอสัมผัสได้ถึงความเข้มดุที่แผ่กระจาย
"เอาข้าวต้มก็ได้"
"อืม" ว่าแล้วเพื่อนตัวสูงที่พึงพอใจก็เดินไปนั่งบนโซฟากว้างที่ตั้งตรงข้ามเตียงนอน มือหนากดโทรศัพท์ยุกยิกเพื่อจัดการสั่งอาหารให้เธอ
ผิดกับคนตัวเล็กที่เมื่อได้ปะทะเข้ากับเครื่องปรับอากาศเย็นๆ ที่นอนกว้างสบาย ดวงตากลมก็เริ่มหรี่ตาลงโดยที่มีมือเล็กคอยกดกระเป๋าน้ำร้อนให้ติดกับท้องน้อยเพื่อบรรเทา กระทั่งเอวาที่ทนต่อความง่วงที่กำลังโจมตีไม่ไหวก็ผล็อยหลับไปในที่สุด
ดวงตาคู่คมปรายตาไปมองคนตัวเล็กที่นอนหลับตาพริ้มบนเตียงนอน เท้าหนักเดินเข้าไปหาพร้อมกับจัดท่าให้คนตัวเล็กได้นอนสบาย เลื่อนผ้าห่มผืนหนาปกปิดเรือนร่างสวยแล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟาดังเดิม นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจับจ้องไปที่คนตัวเล็กพร้อมกับความคิดอะไรบางอย่างที่แล่นเข้ามาในหัวของเขา
.
.
"อื้ออ~" เวลาผ่านไปไม่นานเสียงคำรามในลำคอของเธอก็เริ่มดังขึ้นพร้อมกับดวงตากลมที่เริ่มขยายออก เรือนร่างสวยบิดตัวไปมาไล่ความขี้เกียจ ความหน่วงที่ท้องเริ่มดีขึ้นบ้างจากการประคบร้อนและนอนพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม
กระทั่ง...
"ตื่นแล้วก็ทานข้าว" แต่แล้วเสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กชะงัก เธอเบนสายตาไปมองตามเสียงนั้น ก่อนที่จะเห็นว่าเป็นเพื่อนตัวสูงที่เดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยข้าวต้มในถาดยื่นมาให้เธอ
"นายยังไม่กลับเหรอ?..." เอวาเอ่ยถามพร้อมกับรับมาวางไว้บนตัก
"อืม" คีรันเค้นเสียงทุ้มตอบแล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นอีกครั้ง
"นายทานอะไรหรือยัง นั่งเฝ้าฉันตลอดเลยเหรอ"
"ไม่หิว"
"บังคับให้ฉันทาน แต่ตัวเองดันไม่ทาน" เรียวปากที่เริ่มหายจากความซีดเซียวเอ่ยพึมพำเบาๆ คีรันทำเป็นไม่ได้ยินและไม่สนใจแสดงทีท่ากดเล่นโทรศัพท์รอคนตัวเล็กทานข้าวเงียบๆ
"นายกลับก่อนก็ได้ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว" เอวาผละออกจากถ้วยข้าวต้มเอ่ยบอกกับเพื่อนสนิท
"หายดีแล้ว?"
"อื้ม...ยังปวดนิดหน่อย แต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว"
"อืม อิงดาวกำลังมา"
"ห้ะ ยัยอิงกำลังมาเหรอ? มาทำไม?"
"ฉันกลับก่อน พรุ่งนี้ถ้าไม่หายดีก็ไม่ต้องไปเรียน" ทันทีที่พูดจบ คีรันก็หยัดตัวยืนขึ้นก่อนที่จะเดินออกจากห้องปล่อยให้คนตัวเล็กนั่งงงกับประโยคก่อนหน้าของเขา
"เฮ้อ...ถามอะไรก็ไม่เคยจะได้คำตอบเลย" เอวาบ่นมุบมิบมองตามแผ่นหลังกว้าง นิสัยไม่ชอบพูดไม่ชอบตอบคำถามทำให้คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกชินไปบ้างแต่ก็อดไม่ได้ที่บ่นไปตามประสา
อ็อด ~
"เฮลโล้ว...เพื่อนสาว" บานประตูหนาของคอนโดถูกเปิดออกจนได้ยินเสียงหวานของอิงดาวที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีอารมณ์ดีพร้อมกับแบกกระเป๋าสะพายเดินเข้ามาในห้องของเอวา
"เอากระเป๋ามาจะไปไหน"
"ก็มานอนกับแกไง" อิงดาววางกระเป๋าลงแล้วกระโดดขึ้นบนเตียงนอนที่มีเอวานั่งอยู่
"นอนกับฉัน?" เสียงเล็กเปล่งถามด้วยความงุนงง
"ช่าย...คืนนี้ฉันจะมานอนกับแก"
"คิดยังไงของแกถึงมานอนกับฉันได้"
"ก็ไม่ได้คิดยังไงอะ โดนไอแฝดพี่บังคับมา...แล้วอีกอย่างฉันก็เป็นห่วงแกด้วย"
"คีรันบังคับแกมานอนกับฉันเหรอ?..."
"อืม...มันดูเป็นห่วงแกมากเลยนะ" เสียงหวานตอบกลับเพื่อนสนิทโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ทว่าประโยคของเธอกลับทำให้เอวาชะงักเก็บมาคิดในหัวเล็ก ก่อนที่เธอจะคลี่รอยยิ้มบางๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"เป็นอะไรเนี่ย...อยู่ๆ ก็ยิ้มคนเดียว"
"ก ก็ดีใจไงที่แกมานอนด้วยไง ฉันจะได้ไม่เหงา"
"เวอร์ไปหรือเปล่า...แต่ช่างเถอะ ห้องแกมีอะไรกินไหม ฉันโคตรหิวเลย~" อิงดาวพูดพร้อมกับลูบท้องของตัวเองปอยๆ
"ฉันก็ไม่แน่ใจอะ แกลองไปดู..." ยังไม่ทันที่เอวาจะพูดจบ อิงดาวก็รีบพุ่งตัวลงจากเตียงนอนกว้างแล้วตรงไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็ว
"เอวา...ทำไมเธอกินแต่ของพวกนี้เนี่ย มันไม่ดีต่อสุขภาพมากเลยนะ" เสียงเล็กของอิงดาวตะโกนออกมาจากครัว ก่อนที่เธอจะเดินกลับมาพร้อมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำอัดลมที่อยู่ในมือมากมาย
"แกลองกินคู่กันดูสิ มันอร่อยนะ" เอวาตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มไม่สนใจในคำบ่นของเพื่อนสนิท
"ไม่แปลกใจเลยแหละ ทำไมแกถึงปวดท้องก็เพราะชอบทานอะไรแบบนี้ไง ดูสิ...ตัวก็เริ่มผอมแล้วโซเดียมในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมันเยอะมากเลยนะ..." อิงดาวบ่นยาวออกมาพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในครัว ไม่วายที่เรียวปากเล็กยังคงบ่นอุบไม่หยุด จนเอวาถึงกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นพลางๆ ฟังที่เพื่อนสาวบ่นผ่านอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากมาย
เรือนร่างฉันถูกจับพลิกตัวให้นอนราบไปกับโซฟาหรู ก่อนที่มือหนาจะจับเอวคอดไว้แล้วดันให้บั้นท้ายฉันกระดกขึ้นตั้ง หันหน้าไปมองทางประตูระเบียงแล้วเอื้อมมาล็อกมือฉันไว้แน่น"วิวสวยไหม?" คีริวถามพร้อมกับลูบไล้ต้นขาอ่อนฉันเบาๆ เขาเอ่ยเสียงแหบแห้งเพิ่มความเร่าร้อนในจินตนาการของฉันที่เริ่มคิดไปไกลว่าเขาจะลงโทษร่างกายฉันอย่างหนัก"สะ สวย…" ฉันตอบเสียงสั่นเครือ ตัวลอยไปตามแรงเคลิบเคลิ้มของสัมผัสยั่วอารมณ์จากฝ่ามือหนาที่ลูบไล้ก้นงอนของฉันด้วยความเบามือ"วันนี้อิงแสบมากรู้ตัวหรือเปล่า…""ระ รู้…""ริวเตือนอะไรไม่เคยฟังเลย""ฟังแล้ว…""ฟังแล้วทำไมยังดื้ออยู่อีก"เพียะ!ทันทีที่เขาพูดจบฝ่ามือหนาจากที่ลูบไล้กลับฟาดลงบนแก้มก้มฉันเสียงดังจนฉันสะดุ้งโหยงหลุดออกจากห้วงภวังค์ของความวาบหวาม"จะ เจ็บนะ" ฉันหันกลับมาจะลุกหนีแต่คีริวกลับจับเอวมั่นแล้วจัดการฟาดก้นฉันอีกครั้งอย่างไม่ยั้งแรงเพียะ!"สำหรับเด็กดื้อ" อย่างนี้มันหลอกกันนี่นา ฉันคิดว่าเขาจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเสียแล้ว เขาทำดีเพื่อทำให้ฉันชะล่าใจ สุดท้ายก็กลับมาตีก้นฉันเป็นการลงโทษโดยที่ฉันไม่สามารถหนีไปไหนได้เพราะถูกเขาล็อกไว้ทุกทาง"งื้อ…เจ็บ ไหนริวบ
"อิงมีเหตุผลที่ทำไปนะ ไม่ได้ทำเพราะอยากแกล้งสักหน่อย" ทันทีที่เข้ามานั่งในรถฉันก็รีบพูดแก้ต่าง ปรายตามองคีริวที่กำลังคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อที่จะขับรถมุ่งหน้ากลับคอนโด"ว่าอะไรหรือยัง" เขาตอบโดนไม่มองหน้า ลดกระจกยิ้มให้พ่อกับแม่ฉันแล้วรถก็เคลื่อนขับออกไปจากหน้าบ้าน"งั้นก็แสดงว่าริวไม่โกรธอิงเหรอ?""ถ้าบอกว่าโกรธ?""อิงทำเพราะทดสอบ ริวต้องห้ามโกรธ""แล้วฉันเลือกอะไรได้ สุดท้ายฉันก็โกรธเธอไม่ได้อยู่ดี""อย่าพูดแบบนั้นสิ…" ฉันตอบเสียงหงอย ผิดคาดที่คิดว่าขึ้นมาในรถแล้วเขาจะโกรธและโวยวายใส่ ไม่คิดว่าเขาจะมาแนวดราม่าตัดพ้อแบบนี้ เจอแบบนี้ยัยอิงดาวถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว"คาดเข็มขัดด้วย" เขาเหลือบมามองฉันแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่สนใจที่จะแก้ต่างจนลืมคาดเข็มขัดนิรภัย เจ้าตัวก็รีบพูดขึ้นทันที"ขับไหวหรือเปล่า สลับให้อิงขับไหม""ไม่เป็นไร นอนเถอะ ถึงห้องเดี๋ยวฉันปลุก""ไม่เอาจะนั่งเป็นเพื่อน" ฉันรีบส่ายหัว แบมือไปตรงหน้าตักเขาจนเจ้าตัวก้มมามอง"อะไร?""ไม่โกรธก็ขอจับมือหน่อย""จับมืออะไรขับรถอยู่เห็นไหม?"โกรธชัวร์…"ทีตอนอื่นริวยังให้จับเลย" ฉันทำหน้าหงอยมองเขา เฮ้อ…มีหลายคดีตามติดตัวมาต
"อย่าปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนาน ไม่มีใครเคยบอกหรือไง?" หลังจากที่นั่งเราสองคนนั่งลงติดเบาะโซฟาข้างกันเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นทันที พ่อฉันยังคงการแสดงละครยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ไม่เคยผิดหวังที่เกิดมาเป็นลูกของท่านเลยสักนิด"ขอโทษครับ" คีริวเอ่ยเสียงเรียบ ยอมรับโดยไม่มีเถียงอะไรสักคำ"พ่อไม่เห็นต้องว่าริวขนาดนั้นเลย…" ฉันเอ่ยเสียงเบา มองหน้าพ่อกับแม่เลิ่กลั่ก เพราะฉันคิดแต่แผนแกล้งเพื่อทดสอบเขาแต่ฉันไม่ได้คิดว่าต้องเฉลยยังไง…ตอนนี้ไม่อยากแกล้งต่อแล้ว รู้ซึ้งทุกอย่างจนต้องมองหน้าพ่อแม่เพื่อพยายามหาทางออกและหาตัวช่วยแล้ว"ผมซื้อของมาฝากคุณพะ…เอ่อ…คุณอัทธ์ด้วยครับ ขอโทษที่พึ่งเอามาให้ครับ" คีริวที่ปรายตามองของฝากที่อยู่ข้างๆ โซฟาก็รีบยกขึ้นมาไว้บนโต๊ะกลาง เป็นเซ็ตของรังนกแท้กล่องสีทองราคาแพงที่เขาตั้งใจเลือกก่อนมาถึง รีบวางไว้เพราะเจ้าตัวพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเอามาฝากด้วย"รังนกของโปรดคุณเลยนี่คะ ขอบคุณนะจ้ะ" แม่ที่เหมือนจะเข้าใจท่าทีของฉันก็พยายามลดใบหน้าที่กำลังตึงใส่คีริว เอื้อมไปหยิบกระเช้าตรงหน้าพร้อมกับยิ้มขอบคุณให้จนคนด้านข้างฉันเหวอไปเลยพึ่งจะชมไปหมาดๆ ว่าการละครบ้านนี้ดีแค่ไหน แต่การที่แม่แสดงแ
"ยังเรียนกันไม่จบ จะเลี้ยงลูกสาวฉันได้เหรอ?" ทันทีที่ฉันเดินมาถึงวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะกลางของโซฟากลางห้อง เสียงทุ้มของพ่อฉันก็พูดขึ้นแสดงละครบทโหดอย่างต่อเนื่อง"ผมช่วยงานป๊าได้รับค่าตอบแทนทุกเดือนครับ" คีริวตอบอย่างไม่ลังเล ฉันหันไปขยิบตาใส่พ่อโดยไม่ให้คีริวเห็น ก่อนที่จะลงไปนั่งบนโซฟาใกล้ๆ คีริวที่กำลังโดนสอบสวนอย่างหนักหน่วง"อิงดาวมานั่งใกล้แม่" ก้นถึงเบาะได้ไม่ถึงหนึ่งวินาทีแม่คนสวยก็เรียกฉันไว้ ฉันแสร้งทำหน้ายิ้มแหย่ๆ หันมามองหน้าคีริวอย่างลำบากใจจนเจ้าตัวพยักหน้าฉันก็เปลี่ยนไปนั่งข้างแม่แทนตีบทแตกกระจายทั้งพ่อและแม่ ลูกคนนี้ภูมิใจมากที่สุดเลย"ช่วยงาน? งานอะไร?" พ่อถามต่อ"ผู้ช่วยผู้บริหารครับ หลังจากที่ผมเรียนจบผมต้องบริหารที่นั้นต่อทันที คุณพ่อวางใจได้ครับ ผมไม่ทำให้อิงดาวต้องลำบากแน่ๆ""ใครพ่อแก!" พ่อฉันรีบตวาดลั่นจนคีริวสะดุ้งโหยง ฉันแทบอยากจะขำกับท่าทีตั้งตัวไม่ทันของคีริวที่ไม่คิดว่าพ่อฉันจะเล่นใหญ่เสียงดังใส่จนตัวเองตกใจแต่ก็ต้องหายใจเข้าหายใจออกลึกๆ ไว้ อดทนไว้ก่อนอิงดาวห้ามขำ แกยังต้องพิสูจน์ในตัวเขาต่อ"ขอโทษครับคุณลุง""ฉันไม่เคยมีน้องชายเป็นพ่อแก" เนียนมากค่ะพ่อ ทำเ
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นตกอยู่ในความเงียบงันไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ฉันปรายตามองพ่อและแม่ที่กำลังมองมาที่เราสองคนอย่างไม่ละสายตา ตั้งแต่ที่ฉันมาถึงทั้งสองก็ต่างไม่มีใครพูดอะไร เว้นแต่ประโยคชวนจากแม่ฉันเพียงแค่หนึ่งประโยคที่ยังตามให้เรานั่งทานข้าวด้วยกัน"เป็นอะไรกัน?" เสียงนุ่มลึกของคนเป็นพ่อเอ่ยขึ้นกลางวงอาหาร ฉันตกใจเล็กน้อยกับน้ำเสียงที่เข้มดุ แต่ดูเหมือนว่าคนด้านข้างฉันจะไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย เขารีบโพล่งตอบแทนฉันทันที"ผมเป็นแฟนอิงดาวครับ" คีริวตอบเสียงฉะฉาน เขากลายเป็นคนที่น่าเชื่อถือเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อกับแม่ฉัน มุมจริงจังที่ยากจะเห็นเขาในมาดนี้ เว้นแต่ตอนที่ดุฉันเท่านั้น"ฉันถามลูกสาวฉัน" เหมือนการทานอาหารครั้งนี้จะไม่ค่อยราบรื่นสินะ พ่อฉันช้อนสายตามองคีริว เข้มดุอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่สายตานั้นจะกลับมามองที่ฉันเพื่อรอคำตอบ"แฟนค่ะพ่อ" ทันทีที่ฉันตอบคีริวก็หันขวับมามอง คงจะตกใจในคำตอบของฉันที่พูดออกไปว่าเป็นแฟนกัน ทั้งที่ทุกครั้งที่เขาขอ ฉันปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง"คบกันนานเท่าไหร่แล้ว?" คำถามที่สองมาอีกครั้ง"เรา…""พ่อถามมัน" ขณะที่ฉันกำลังจะอ้าปากตอบ คนที่นั่งหัวโต๊ะกลับพูดด
"อะ โอ้ย…เจ็บ…" เสียงทุ้มร้องลั่นทั่วห้องคอนโดหรูทันทีที่ฉันใช้สำลีที่ชุ่มด้วยแอลกอฮอล์แตะลงที่มุมปากหนาของคีริว ท่ามกลางสายตาของคีรันและเอวาที่กำลังมองมาที่ฉันที่กำลังทำแผลให้ก็พากันหัวเราะชอบใจใหญ่ โดยเฉพาะพี่แฝดของคีริวเอง"หึ สมน้ำหน้า" คีรันหัวเราะในลำคอ ส่ายหน้ามองดูสภาพของน้องชายตัวเอง"ผู้หญิงบ้าอะไรมือหนักชิบ" จนเจ้าตัวเอื้อมมาจับที่มุมปากพร้อมกับตาขวางเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้"ก็สมควรกับที่มึงทำไม่ใช่เหรอ?" คีรันเอ่ยต่อ"ตกลงนายพิสูจน์ให้อิงดาวดูยังไงถึงกลับมาเจ็บตัวแบบนี้" เอวาเอ่ยถาม วันนี้หลังจากที่เราอ่านหนังสือสอบกันมาได้ครึ่งวัน คีริวก็นึกคึกเมื่อเราเถียงกันเรื่องที่เขาไปดูรูปสาวๆ แล้วฉันจับได้ หลังจากนั้นฉันก็ถูกลากให้ไปที่คอนโดที่ไหนสักที่ บอกฉันว่าจะพิสูจน์ให้ฉันมั่นใจว่าเขาเลิกกับผู้หญิงทุกคนแล้วจริงๆ สภาพถึงออกมาอย่างที่เห็น"ก็คงเรียกพวกผู้หญิงของมันมายืนยันให้อิงดาวเข้าใจว่าเลิกกันแล้วจริงๆ" คีรันตอบแทนน้องชาย ซึ่งฉายารู้ใจน้องชายมากที่สุดไม่เกินจริงเลย อย่างที่คีรันบอกทุกอย่าง เขาเรียกอดีตผู้หญิงของเขาเกือบห้าคนมายืนเรียง เพื่อยืนยันให้ฉัน