Se connecter“อาฮะ”
นักรบขานรับก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปถึงห้องวีวีไอพีซึ่งมีเพื่อนในกลุ่มทุกคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว และคนที่มาสายอย่างไนต์ก็ไม่วายโดนเพทายแซะอีกตามเคย
“กว่าจะเสด็จมาได้ กูกำลังจะไสเสลี่ยงไปรับมึง แต่ไอ้นักรบมันอาสาไปตามก่อน มือถือมีก็ไม่รับจะมีไว้ทำไมวะ!”
เพทายเท้าเอวว่าให้เพื่อนยาวเหยียด นับตั้งแต่ทักไปก็ผ่านมาตั้งสามสิบนาทีแล้ว พวกเขารอจนรากแทบงอก ถ้าเป็นปกติเขาคงไปส่องสาวรอ แต่ตอนนี้ไม่ได้ละ ทั้งใจมีเมษาคนเดียวแม้ไม่มีสถานะก็ตาม!
“ก็มาแล้วนี่ไง” ไนต์นั่งลงบนโซฟาข้างเสือก่อนจะรับแก้วเหล้ามาจากต้าร์ที่ชงเสร็จแล้วยื่นมาให้
“เออกูรู้แล้ว!”
“เอาน่ามึงบ่นไรนักหนา เมษาไม่ตอบแชตเหรอวะ” ไฟเอ่ยแทรกก่อนจะหัวเราะในลำคอ เมื่อพูดถึงเมษาเพทายก็ทำหน้าเหมือนปลาตายเห็นแล้วตลกชะมัดเลย
“หุบปากไปเลยไม่ต้องไปพูดถึง” เพทายจิ๊ปากใส่อย่างไม่พอใจก่อนจะคว้าแก้วเหล้าในมือโซ่มายกจนหมด ทำเอาโซ่งงว่าเพทายไปกินรังแตนที่ไหนมา แต่เพื่อนก็ชินกับเพทายแล้ว ช่วงนี้ดูอารมณ์ไม่ดี จนกระทั่งไฟเอ่ยขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“ตอนไปเข้าห้องน้ำเหมือนเห็นไซซีเดินสวนออกมาจากโซนห้องพัก”
และนั่นทำให้ทุกสายตาหันไปมองไนต์ทันที เพราะหลายเดือนที่ผ่านมาไซซีเอาแต่ตามไนต์ตลอด แม้แต่ต้าร์ที่หวงน้องสาวมากยังพูดอะไรไม่ได้
“ได้ยินว่าซีตามมึง”
และเป็นโซ่ที่เปิดประเด็นขึ้นมาแม้ว่าจะได้ยินข่าวลือมา แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ถามเพราะทุกคนก็ยุ่งเรื่องของตัวเองกัน
“...” แต่คนที่ถูกถามกลับเงียบไม่ตอบและหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ ทำตัวเหมือนทองไม่รู้ร้อน
“เอาดิไนต์ ไซซีก็น่ารักนะ” เสือเอ่ยแทรกขึ้นมาทำให้พี่ชายทั้งสามคนตวัดสายตามองทันที
“ไม่ต้องเสี้ยมได้ไหม” โซ่เอ่ยอย่างไม่พอใจ
“กูเปล่า...”
“มีตัวเหี้ยอย่างมึงคนเดียวก็พอ อย่ามีไอ้ไนต์อีกคนเลยกูไม่ได้อยากได้น้องเขยแบบพวกมึง” โซ่พูดอย่างหงุดหงิด ยิ่งคิดถึงน้องสาวคนเล็กสุดที่รักอย่างซินเซีย ที่คบกับเสือเพื่อนของเขาแล้วโซ่ยิ่งถอนหายใจ
“ไอ้สัด!” เสือคว้าก้อนน้ำแข็งจะโยนใส่โซ่ แต่ไนต์ที่นิ่งเงียบมานานเอ่ยขัดซะก่อนทำให้ทุกคนหันไปมอง
“พวกมึงฟัง...”
“...”
“กูไม่ชอบ จบนะ!”
นัยน์ตาคมกริบกวาดมองเพื่อนทุกคน สายตา น้ำเสียงของเขามันบ่งบอกทุกอย่างแล้วไม่มีนอกในไม่คิดเคลมน้องสาวเพื่อน ถือว่าเรื่องนี้เป็นอันจบ!
ปึง! ปึง! ปึง!
“ตื่นนนน มีเรียนนนยัยซี”
ซินเซียในชุดเสื้อยืดกางเกงยีน คลุมทับด้วยเสื้อช็อปสีกรมยืนเคาะประตูห้องเพื่อนสาวจนมือแดง ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นทุบประตูแทน
เธอพยายามโทรแล้วไซซีไม่รับสายคาดว่ายังไม่ตื่น ทุบประตูแทบพังก็ยังเงียบ เธอเท้าเอวอย่างจนปัญญา ดูเวลาก็จวนจะสาย เฮียทุกคนออกไปเรียนหมดแล้วงั้นคงต้องทิ้งให้นอนไป วันนี้มีวิชาสำคัญด้วย ช่วงเย็นเรียนภาคปฏิบัติเลยต้องใส่กางเกงไป ซินเซียทำหน้าบึ้งก่อนจะรีบขับรถไปมหา’ลัย เมื่อคืนก็ไปด้วยกันไหงสภาพถึงต่างกันขนาดนี้!
บ่ายคล้อยร่างบางปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก คิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อได้ยินเสียงแผดร้องของมือถือข้างหัวเตียง เธอหลับตาคลำหาสะเปะสะปะก่อนจะหยิบมากดรับ
“...”
[ซี ลูกตื่นหรือยัง] เสียงอ่อนโยนแสนคุ้นเคยทำให้เธอลืมตาขึ้นมา ก่อนจะเด้งตัวขึ้นจากที่นอนและกรอกเสียงทักทายปลายสายอย่างสดใส
“สวัสดีค่ะหม่ามี้”
[มี้ก็นึกว่ายังไม่ตื่น เป็นยังไงบ้างลูก ที่เรียนโอเคไหม กลับไทยแล้วไม่ค่อยโทรมาเลยมี้ก็เป็นห่วง]
“ขอโทษนะคะที่ไม่โทรหาบ่อย ๆ ตามที่สัญญา ปีหนึ่งก็แบบนี้แหละค่ะยุ่งกิจกรรมมากมาย” เสียงใสเอ่ยไหลลื่นก่อนจะเอานิ้วชี้และนิ้วกลางไขว้หลังไว้เพราะกำลังโกหกคำโต งานยุ่งจริงแต่ติดเที่ยวเล่นอย่างเช่นเมื่อคืนที่แอบไปเที่ยวผับกับพวกเจ๊
[พี่ชายเราก็ไม่ค่อยติดต่อมา ดีหน่อยก็ตอบแชต มี้ยังงงว่าไปมีแฟนได้ยังไง แต่ส่วนเรามาไทยแป๊บเดียวก็เริ่มลืมมี้แล้ว] หม่ามี้พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจทำเอาน้ำตาฉันพานจะไหล ตอนอยู่ฮ่องกงที่เอาแต่ใจแบบนี้บอกเลยเพราะหม่ามี้ให้ท้ายนี่แหละ
“ขอโทษนะคะมี้ ซีจะพยายามโทรหาบ่อย ๆ นะคะ ส่วนเฮียรบก็ปกติอย่าไปถือสาเลย” พยายามพูดปลอบใจเพราะท่านเป็นคนขี้น้อยใจแล้วยิ่งลูกชายมาอยู่ไทยแต่เด็ก ค่อนข้างห่างเหินกันมากทีเดียว
[มี้จะพยายาม แต่เราห้ามทิ้งมี้อีกคนนะ เข้าใจไหม]
“รับทราบค่ะ รักที่สุดเลย”
[แล้ววันนี้หนูไม่มีเรียนเหรอลูก] เพียงประโยคเดียวฉันที่กำลังจะล้มตัวลงนอนเป็นอันเบิกตากว้าง สมองประมวลผลวันนี้มีเรียนค่ะแม่ วิชาสำคัญด้วย
กรี๊ดดดด ฉันลุกจากเตียงพลางวิ่งไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นแรงมากจนยากจะระงับจนต้องยกมือขึ้นมาทาบอก แม้จะรีบมากแค่ไหนก็ต้องไม่ให้หม่ามี้รู้
“เรียนค่ะพอดีพักเบรก...มี้ขาหมดเวลาพักแล้ว ซีไปเรียนก่อนนะคะ”
[โอเคจ้ะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก]
“รับทราบค่ะ”
เมื่อวางสายแล้วฉันก็รีบอาบน้ำ อย่าเรียกว่าอาบเลยเรียกว่าวิ่งผ่านน้ำยังจะดีกว่า เสร็จแล้วก็มาแต่งตัว เอากระโปรงพลีทแล้วกันวันนี้ได้วิ่งขึ้นตึกแน่ กับรองเท้าผ้าใบน่าจะสะดวกกว่า ส่วนหน้า…
“กรี๊ด! เติมปากหน่อยแล้วกันซีดอย่างกับศพ” บ่นตัวเองในใจพลางเม้มปากสองสามที ต้องรีบทำเวลาถ้าแต่งหน้าไปมีหวังไม่ทันแน่ จำได้แค่มีเรียนบ่ายเดี๋ยวไปถึงค่อยเปิดดู
“ต่อไปจะไม่กินอะไรขนาดนี้อีกแล้ว อยากจะบ้าตาย เมาไม่พอสภาพอย่างกับซอมบี้สมองก็เอ๋อ ฮืออ” ฉันเป็นคนรักสวยรักงามวันนี้เป็นครั้งแรกที่หน้าสด ผมที่ปกติดัดลอนสวยงามจำต้องมัดรวบเป็นโดนัท ดีหน่อยที่ผมหน้าม้ายังพอดูได้ไม่ชี้ออกมาให้ระคายตา
เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างนัยน์ตากลมโตสวยพลันเบิกกว้างเมื่อเห็นคนในห้วงคำนึงยืนกอดอกมองเธอนิ่ง จนต้องยกมือขึ้นมาขยี้ตาอีกรอบ นึกว่าตัวเองตาฝาดกระทั่งเขาส่งเสียง ‘หึ’ ออกมาจากลำคอ
“พี่ไนต์...”
เจ้าสมุทร Talk ผมเกิดและเติบโตในตระกูลมาเฟีย ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าต้องแข็งแกร่ง เจ้าเล่ห์ มีไหวพริบ มีอำนาจ และห้ามอ่อนแอตอนเด็กคือช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศภายในบ้านที่ร้อนราวกับไฟ มีเพียงผู้หญิงใจดีคนหนึ่งคอยมาดูแลและเล่นกับผม พ่อให้เรียกเธอว่า ‘แม่เล็ก’ ซึ่งผมในวัยเด็กก็ทำตามอย่างว่าง่ายแม่เล็กเป็นผู้หญิงจิตใจดี ท่านดูแลผมจนกระทั่งอายุเจ็ดขวบ แม่อีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาและยื้อแย่งผมไปดูแลแม่คนนี้ให้ความรู้สึกต่างจากแม่อีกคนโดยสิ้นเชิง เพราะท่านทั้งบังคับ เข้มงวด ดุด่าและกดดัน จนกระทั่งวันหนึ่งผมทนไม่ไหวเลยไปขอร้องพ่อว่าต้องการอยู่กับแม่เล็ก แต่คำตอบของท่านทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน“แม่เล็กกับน้องชายจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป”ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่เล็กต้องไปจากผม แล้วน้องชายคือใครทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย ตอนนั้นรู้สึกสิ้นหวังมากเพราะหลังจากกลับมาถึงห้อง แม่ก็ยืนกอดอกรออยู่ด้วยสีหน้าดุดัน ไม่รู้อะไรทำให้ผมเอ่ยปากถามแม่ออกไป“แม่เคยรักหมุดบ้างไหม”ไม่รอให้แม่ตอบอะไรผมก็รู้คำตอบของท่านจากแววตาร้ายกาจนั้นแล้ว แม่มักใช้มองผมอยู่ตลอดเวลา มองเหมือนกับว่า ‘ไม่ใช่ลูก’ ทำเหมือนกับผมเ
เสียงถอนหายใจของซินเซียทำให้ฉันหันไปมองเพื่อน และเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าเหม่อลอย“พวกนั้นก็พึ่งแต่งงานไปนี่เอง มีแต่เราที่แต่งงานจนมีลูกก่อนพวกเพื่อน”ฉันนึกไปถึงกลุ่มเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันอย่างเรย์ และฝาแฝดอิลแอล หลังเรียนจบแต่ละคนก็ไปหาประสบการณ์ทำงานด้านวิศวกรแล้วค่อยกลับมาสานต่อธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งแต่ละคนครองตัวเป็นโสดกันนานมากแต่สาว ๆ ไม่เคยจะขาดมือ จนเมื่อต้นปีนี้เรย์และอิลก็ทยอยแต่งงาน ส่วนแอลได้ยินว่ากำลังศึกษาดูใจอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง“นี่ถ้าไอ้สายไม่เลว บางทีความสัมพันธ์ของเพื่อนอาจจะอยู่ยาวนานกว่านี้ก็ได้นะ”เพื่อนอีกคนที่ได้รู้จักเมื่อตอนเข้ามหา’ลัยก็คือสายฟ้า แน่นอนว่าที่กล้าเอ่ยชื่อออกมาเพราะซินเซียไม่ได้อะไรกับหมอนั่นแล้ว ไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดถึง ซินเซียก็ไม่รู้สึกอะไร“อืม” สาวสวยผมบลอนด์ครางรับในลำคอก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นซึ่งฉันก็เห็นด้วย แม้จะเจอกันบ่อยกว่าคนอื่นแต่ก็ใช่ว่าจะมีเวลาได้คุยกันแบบนี้เพราะลูก ๆ ก็ซนกันมาก จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนบ่ายแก่ จีซัสและเซริมก็วิ่งเข้ามาในห้อง“หม่ามี้ จีมาแล้ว”จีซัสวิ่งเข้ามาในห้องตามด้วยเซริมที่ถือหมวกกันน็อกขนาดเล็กไว้ในอ
ร่างสูงกางแขนออกเล็กน้อยเป็นเชิงให้ภรรยาสาวสวยเข้ามาช่วยแต่งตัว เธอจึงเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะแตะปลายนิ้วลงบนอกแกร่ง และเลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนน่าหวาดเสียว“พี่จะให้ซีช่วยจริง ๆ เหรอคะ”“...” ไนต์กัดฟันแน่นเมื่อร่างบางเริ่มออกลายซุกซน“ถ้าช่วยจะนานนะ”“ไม่ช่วยมีตายก่อนพอดี เอาหน่อยถือว่ากินข้าวเช้า”เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างหูร่างบาง ก่อนจะตวัดแขนโอบรัดร่างเธอขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขน และเดินตรงไปยังห้องน้ำโดยไม่ลืมล็อกประตู“ล็อกไว้ก่อนเดี๋ยวมีคนขัดจังหวะ”เมื่อมาถึงห้องน้ำแล้วเขาก็จัดการอุ้มเธอลงอ่างพร้อมปลดเปลื้องพันธนาการทั้งหมดออก จนเผยเรือนร่างบอบบางขาวผ่องอยู่ตรงหน้า“จ้องนานไปแล้ว จะทำไหมคะ?”ริมฝีปากบางยกยิ้มก่อนจะขยับสะโพกนั่งคร่อมบนตักแกร่งภายในอ่าง แขนเรียวยกขึ้นไปคล้องคอแกร่งไว้ก่อนจะกดให้เขาโน้มหน้าลงมา“ไม่ทำตอนนี้ พี่ได้ขาดใจตายแน่”จบคำนั้นริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบเข้าหากัน ต่างฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ เล้าโลมคลอเคลียกันไม่ห่าง จนพายุสวาทโหมกระหน่ำ แก่นกายแข็งร้อนตอกตรึงใส่ร่องสวาทไม่ยั้ง สร้างความรัญจวนใจให้เธอเป็นอย่างมาก แรงกระแทกทำให้น้ำในอ่างสาดกระเซ็นออกมาตามพื้นเ
5 ปีผ่านไป ฉันนั่งมองภาพงานแต่งงานของตัวเองและพี่ไนต์ที่ผ่านมาแล้วห้าปี ตอนนี้เรามีเรือนหออยู่ระหว่างคอนโดเก่าของเขาและคฤหาสน์ชวัลกร แน่นอนว่าที่คฤหาสน์คุณปู่ก็สร้างบ้านให้อีกหลังเพราะคิดถึงหลาน เวลากลับมาจะได้เจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาหลังจากงานแต่งงานเราทั้งคู่ก็ไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเกือบเดือนเลยล่ะ ทุกที่ที่อยากไปเขาไม่เคยอิดออดและยินยอมพาไป นอกจากกิจกรรมที่โลดโผนเพราะฉันยังท้องอยู่หมับ“ทำอะไรอยู่เหรอ”แรงกอดรัดจากข้างหลังมาพร้อมกับเสียงกระซิบข้างหู ทำให้ฉันเผลอย่นคอหนีคนร้ายกาจ เขาชอบมาคลอเคลียฉันเหมือนกับแมวจนอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ก่อนนี่ตั้งท่ารังเกียจกันเหลือเกิน“ซีกำลังดูรูปภาพในงานแต่งของเราค่ะ นี่! ดูสิมีแก๊งของพี่ครบทุกคนเลย หล่อ ๆ ทั้งนั้น”ฉันชี้ไปที่รูปถ่ายครบทั้งแก๊ง ทุกคนหล่อเหมือนออกมาจากนิตยสารถ่ายแบบเลยละ ตำแหน่งหนุ่มฮอตคงไม่มีใครมาโค่นลงได้ง่าย ๆ“ไหน ไม่เห็นจะหล่อเลย” เขาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“หล่อสิ โดยเฉพาะคนนี้ หล่อที่สุดในใจของซี”พูดแล้วก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าคม เมื่อเอ่ยชมเขาแล้วเลยอยากดูปฏิกิริยา และภาพตรงหน้าก็ทำให้ฉันเผลอหัวเราะคิกคัก พี่ไนต์ห
กาแฟสวดภาวนาเสียงเบา เธออยากแต่งงานจะแย่แต่ไม่มีทีท่าว่านักรบจะขอเธอแต่งงานเลย จนเธอเรียนจะจบอยู่แล้ว!“ได้แน่นอนค่ะ แล้วพี่ควีนจะลุ้นด้วยไหม”“แต่งไปแล้วไง” ควีนฉีกยิ้มให้ซินเซียจนอีกฝ่ายตาพร่าเมื่อเจอรอยยิ้มหวานหยด“แต่งอีกก็ได้นี่ คิกคิก”“รองานพวกเธอดีกว่า”ควีนพยักพเยิดไปทางกาแฟ พินอิน และซินเซียแทน แต่สาวสวยผมบลอนด์ยกมือปฏิเสธพัลวันเพราะอาจยังไม่พร้อมเท่าไร ก่อนจะฉุกคิดถึงใครบางคน“คิดถึงเจ้เมษามาก” ซินเซียเอ่ยขึ้นมา“นั่นสิ ถ้าไม่ติดสอบเจ้แกมาแล้ว”อิงปิงเอ่ยตอบซินเซียก่อนจะหลบมุมไปยืนข้างมิกิ เพราะเธอไม่มีแฟนเลยไม่รู้จะรอรับช่อดอกไม้ไปทำไม แต่อยู่ ๆ อิงปิงพลันขนลุกซู่เมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่“จะโยนแล้วนะคะ”เสียงหวานใสของไซซีเอ่ยขึ้นมาทำให้อิงปิงสะบัดหัวไล่ความรู้สึกนั้นไป ก่อนจะได้ยินเสียงนับถอยหลังโยนช่อดอกไม้ เพราะสะบัดหัวแรงไปเลยเซไปชนกาแฟที่ยืนอยู่ด้านข้าง และอีกฝ่ายก็ไปชนมิกิอีกทอดเหมือนโดมิโนล้ม3…2…1…“0.0”ใบหน้าสวยน่ารักเบิกตากว้างเมื่อช่อดอกไม้แสนสวยตกลงมาใส่อกเธออย่างแรง ด้วยความตกใจเลยคว้าไว้ รู้ตัวอีกทีทั้งซินเซีย พี่กาแฟ เจ๊อิงปิง พี่พินอ
เสียงไวโอลินบรรเลงเพลงคลาสสิกดังคลอไปทั่วทั้งงาน ดอกไม้สดหลากหลายพันธุ์ถูกจัดตกแต่งได้อย่างสวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ฉากหลังคือทะเลสาบภายในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ในพื้นที่ร้อยไร่ แขกในงานแบ่งแยกที่นั่งจนเต็ม แม้คนร่วมงานไม่มากเพราะอยากจัดส่วนตัวแต่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นเสียงเพลงต้อนรับขบวนเจ้าสาวเดินเข้ามาในพิธี นำโดยเด็กชายเด็กหญิงหน้าตาน่ารักสองคน หนึ่งถือพระคัมภีร์และหนึ่งโปรยดอกไม้ ตามมาด้วยบรรดาเพื่อนเจ้าสาวที่แต่งชุดเดรสสีชมพูอ่อนเรียบง่ายชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวสีดำ ใบหน้าเรียบนิ่งทำให้หลายคนเดาไม่ออกว่าเขาอยากแต่งจริงไหม จนกระทั่งนัยน์ตาคมกริบมองเห็นเจ้าสาวในชุดแต่งงานเดินควงแขนบิดาเข้ามา มุมปากของเจ้าบ่าวยกขึ้นและประกายตายินดีอย่างปิดไม่มิดเรือนร่างบอบบางอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบลูกไม้ฟูฟ่อง สวยหวานจนยากจะบรรยาย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพูอ่อน ผมสีน้ำตาลถูกรวบขึ้นด้วยผ้าลูกไม้เข้าชุดคาดที่ผมอีกทีเธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อสบตากับเขา ผู้ชายที่ปักใจตั้งแต่ครั้งแรก นัยน์ตากลมโตร้อนผ่าวเมื่อผู้เป็นบิดาวางมือบางลงบนมือของเจ้าบ่าว และมองเธอด้วยสายตามีความสุขจนยากจะบรรยาย“ป๊ามาส่







