Se connecter“ถ้าไม่ใกล้จะได้เข้าเหรอคะพี่ไนต์”
ฉันพูดจบก็ผละใบหน้าออกมาสบนัยน์ตาคมกริบที่นิ่งสงบ แต่ครั้งนี้เจือแววโทสะบางเบาจนต้องเผลอยกยิ้มท้าทายให้กับเขา
ไม่คิดว่าคนหน้านิ่งจะโมโหเป็น!
“...”
เขานิ่งมากจนฉันแอบหวั่นใจ แต่กระนั้นด้วยความซุกซนก็เลื่อนมือลงมาไต่ตามอกแกร่งของเขาอย่างใจกล้าพร้อมทำหน้าระรื่น
“ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”
“ดุจังเลยนะคะ”
ฉันจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะลดมือลงมากอดอก มองเขาด้วยสายตาพราวระยับ ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ไม่มีวันไหนที่จะลืมท่าทางของเขาในคืนนั้นได้เลย คนอะไรเฉยชาเป็นบ้า ขนาดสาวสวยแบบเธอเดินเข้าไปหาก็ยังนิ่ง
“ต้องการอะไร?”
ในที่สุดเขาก็เอ่ยทำลายความเงียบ ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วเป็นปมพลางมองมาที่ฉันด้วยความไม่พอใจ ปกติพี่เขาจะเฉย แต่พอเจอฤทธิ์เดชของฉันเขากลับมีอารมณ์โกรธ
ดีจัง มีอารมณ์โกรธยังดีกว่าเฉยชา อิอิ
“พี่ไนต์รู้คำตอบดีจะถามซีทำไมอะ” แสดงความสนิทสนมด้วยการแทนตัวเองว่าซีเพราะแต่ก่อนจะแทนตัวเองว่าหนู ตอนนั้นอยากแอ๊บแบ๊วเองแหละ
“...”
“ซีชอบพี่ไนต์...ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลย ยังแสดงออกไม่ชัดเจนอีกเหรอ มีแต่พี่ชอบทำตัวเหมือนไม่รู้”
“เลิกเล่น” เขาเอ่ยเสียงเย็นทำให้ฉันขมวดคิ้วใส่อย่างไม่พอใจ เห็นไหมเขาชอบทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน
“ซีไม่ได้เล่นนะ...ไม่เคยเล่นเลย” ช้อนสายตามองเขาอย่างแน่วแน่เผื่อว่าเขาจะมองเห็นบ้าง จนกระทั่งมุมปากเขายกยิ้มทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมา
หรือว่าเขาจะ…
“วันแรกที่เธอเมาแล้วอ้วกใส่พี่น่ะเหรอ…หึ! เป็นการบอกรักที่ประหลาดดี” มุมปากยกยิ้มร้ายแต่แววตาแฝงความขบขันไว้ ก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่รู้ตัวเพราะเอาแต่กรีดร้องในใจ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
อยากจะบ้าตาย ย้อนกลับไปวันนั้นเธอจะไม่กินเยอะเลย อุตส่าห์ได้เจอคนที่ตรงสเป็กขนาดนี้แล้วดันไปอ้วกใส่เขา ทุเรศมากและมันคือสิ่งที่น่าอับอายที่สุด แม้แต่ซินเซียเธอยังไม่กล้าเล่าให้ฟังจำต้องโกหกเพื่อนไปว่าเขามาส่งบ้าน
“พี่ช่วยลืมมันไปเถอะ วันนั้นถือว่าไม่ใช่ซีก็แล้วกัน” ไซซีเม้มปากแน่นก่อนจะยกมือขึ้นมากอบกุมแก้มด้วยความอับอาย
“อาฮะ ลืมก็ได้...งั้นเธอก็ลืมที่พูดวันนี้ไปซะ!”
“ไม่เอาทำไมต้องลืม” ไซซีใบหน้างอทันที เธออุตส่าห์ออกตัวแรงแต่ไม่ได้อะไรเลยนอกจากความอับอาย
“แล้วทำไมต้องจำ!” เขาเอ่ยเสียงเข้ม ตอนนี้ต้องรีบสลัดไซซีให้หลุดเพราะสายมากแล้ว ขี้เกียจตอบคำถามเพื่อนว่าทำไมลงไปนาน
“แล้วจะดุทำไมเล่า คนมันชอบอะพี่ไม่เข้าใจเหรอ ลองเปิดใจดูสิคะ...หรือว่าพี่ไม่กล้า” ร่างบางเอ่ยขึ้นมาเพื่อท้าทายความอดทนของเขา แม้จะคอยไล่ตามร่างสูงอยู่ตลอดแต่เธอไม่เคยเดาใจหรือความคิดของเขาได้เลย
“ขอเตือนว่าล้มเลิกความคิดซะ!” ร่างสูงเอ่ยเยือกเย็นเพราะเริ่มหมดความอดทนกับเธอแล้ว นัยน์ตาคู่คมจ้องเขม็ง แม้เป็นน้องเพื่อนแต่เขาก็มีสิทธิ์ที่จะร้ายใส่ในเมื่อเธอรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเขา
“ไม่เลิก! ก็ชอบ ซีจะตื๊อจนกว่าพี่จะชอบกลับ!” เธอเชิดหน้ายกยิ้มมุมปากท่าทางเอาแต่ใจ จนเขาแค่นเสียงหัวเราะในลำคอแต่นัยน์ตาวาวโรจน์ไปด้วยเพลิงโทสะ เขาเกลียดคนเอาแต่ใจแบบนี้แหละ
“ถ้าเสียใจก็จำไว้ว่าเธอเลือกเอง”
“แสดงว่าพี่จะลองเปิดใช่ไหมคะ?” ไซซีตาลุกวาวก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาใกล้จนไนต์ต้องถอยหลังออกห่างจากร่างบาง
“ไม่!!”
“อ้าว ก็พูดเหมือนจะเปิดใจ”
“อย่าให้พี่ต้องเกลียด!”
“ทำไมล่ะ? ขอเหตุผลได้ไหมคะ” ไซซีเอียงหัวสงสัย
“เหตุผลเหรอ...เพราะพี่ไม่มีทางชอบเธอ”
เจ็บจึกทุกดอกเลย! นัยน์ตาคู่สวยมองเขาด้วยแววตาเศร้าสร้อย แต่เพียงแวบเดียวก็เปลี่ยนมาเป็นสดใสเหมือนอย่างเคย
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพี่ก็ชอบเอง” ร่างบางฉีกยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกที่หนักหน่วงและบีบรัดอยู่ภายใน ก่อนจะใช้จังหวะที่เขาไม่ทันระวังตัวขยับเข้าไปใกล้ เขย่งปลายเท้าและ
จุ๊บ!
“เพราะซีไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน”
ว่าพลางขยิบตาให้ร่างสูงอีกครั้งก่อนจะหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นเขานิ่ง นัยน์ตาเบิกกว้างอย่างตกใจ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าใครบางคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
“ไอ้รบ...”
ไซซีหุบยิ้มทันทีและหันไปทางหน้าประตูที่เปิดอ้าอยู่ ปรากฏร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉย มีส่วนคล้ายคลึงเธอมากถึงเจ็ดส่วน
“เฮียรบ...”
เสียงหวานเอ่ยในลำคอก่อนจะกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แต่เมื่อคิดได้ว่าพี่ชายแท้ ๆไม่เคยจะไยดีเธอเท่าไร ร่างบางก็เชิดหน้าขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องของไนต์ไปโดยที่ไม่ทักทายนักรบสักคำ
เป็นปกติของพี่น้องที่ไม่ค่อยสนิทกัน ยิ่งเขาไม่ค่อยพูดเธอก็ยิ่งขี้เกียจพูดกับเขาเหมือนกัน ตอนเด็กเคยแอบน้อยใจนะทำไมพี่ชายไม่อยู่ฮ่องกงกับเธอ แต่พอโตขึ้นก็เข้าใจ เขาอยากอยู่ไหนก็อยู่ แทบจะไม่แคร์หรือสนใจใครรวมถึงเธอด้วย สายสัมพันธ์พี่น้องก็เลยเปราะบาง
คล้อยหลังร่างบางไปแล้วนักรบก็จ้องมองมาที่ไนต์นิ่ง เหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่าง ไนต์เลยเดินออกมาก่อนจะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาเอง
“มึงจะพูดอะไร”
“พวกมึงจูบกัน?”
สิ่งที่นักรบเอ่ยออกมาทำให้ไนต์ถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่านักรบมาทันเห็นตั้งแต่ตอนไหน แต่เขาอยากจะบอกมันว่าน้องมันนั่นแหละที่มาจูบปากเขาก่อน เขาไม่ได้พิศวาสเธอนะ
“เอางี้นะ กูจะบอกสั้น ๆ กูไม่ได้จูบน้องมึง”
นักรบพยักหน้าเพราะพอรู้มาบ้างว่าไซซีตามติดเพื่อนสนิทของเขาอย่างไนต์ และบางทีอาจจะเป็นน้องสาวของเขาที่จูบไนต์ก่อน แต่ที่ไม่เข้าใจทำไมไนต์มันยืนให้ไซซีจูบ
“มึงชอบซีเหรอ?”
พอเพื่อนเปิดมาแบบนี้ไนต์แทบอยากจะไปลากแม่ตัวดีที่ทำเรื่องไว้มาอธิบายกับพี่ชายของเธอซะ ขนาดนักรบยังคิดว่าเขาชอบเธอ ถ้าเป็นต้าร์หรือโซ่เขาได้โดนเพื่อนกระทืบแน่ ๆ
“กูไม่ได้ชอบน้องมึง!”
เขาย้ำอีกครั้งด้วยเสียงหนักแน่นแน่วแน่ว่าไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะชอบไซซี ไม่มีวัน!!
เจ้าสมุทร Talk ผมเกิดและเติบโตในตระกูลมาเฟีย ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าต้องแข็งแกร่ง เจ้าเล่ห์ มีไหวพริบ มีอำนาจ และห้ามอ่อนแอตอนเด็กคือช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศภายในบ้านที่ร้อนราวกับไฟ มีเพียงผู้หญิงใจดีคนหนึ่งคอยมาดูแลและเล่นกับผม พ่อให้เรียกเธอว่า ‘แม่เล็ก’ ซึ่งผมในวัยเด็กก็ทำตามอย่างว่าง่ายแม่เล็กเป็นผู้หญิงจิตใจดี ท่านดูแลผมจนกระทั่งอายุเจ็ดขวบ แม่อีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาและยื้อแย่งผมไปดูแลแม่คนนี้ให้ความรู้สึกต่างจากแม่อีกคนโดยสิ้นเชิง เพราะท่านทั้งบังคับ เข้มงวด ดุด่าและกดดัน จนกระทั่งวันหนึ่งผมทนไม่ไหวเลยไปขอร้องพ่อว่าต้องการอยู่กับแม่เล็ก แต่คำตอบของท่านทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน“แม่เล็กกับน้องชายจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป”ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่เล็กต้องไปจากผม แล้วน้องชายคือใครทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย ตอนนั้นรู้สึกสิ้นหวังมากเพราะหลังจากกลับมาถึงห้อง แม่ก็ยืนกอดอกรออยู่ด้วยสีหน้าดุดัน ไม่รู้อะไรทำให้ผมเอ่ยปากถามแม่ออกไป“แม่เคยรักหมุดบ้างไหม”ไม่รอให้แม่ตอบอะไรผมก็รู้คำตอบของท่านจากแววตาร้ายกาจนั้นแล้ว แม่มักใช้มองผมอยู่ตลอดเวลา มองเหมือนกับว่า ‘ไม่ใช่ลูก’ ทำเหมือนกับผมเ
เสียงถอนหายใจของซินเซียทำให้ฉันหันไปมองเพื่อน และเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าเหม่อลอย“พวกนั้นก็พึ่งแต่งงานไปนี่เอง มีแต่เราที่แต่งงานจนมีลูกก่อนพวกเพื่อน”ฉันนึกไปถึงกลุ่มเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันอย่างเรย์ และฝาแฝดอิลแอล หลังเรียนจบแต่ละคนก็ไปหาประสบการณ์ทำงานด้านวิศวกรแล้วค่อยกลับมาสานต่อธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งแต่ละคนครองตัวเป็นโสดกันนานมากแต่สาว ๆ ไม่เคยจะขาดมือ จนเมื่อต้นปีนี้เรย์และอิลก็ทยอยแต่งงาน ส่วนแอลได้ยินว่ากำลังศึกษาดูใจอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง“นี่ถ้าไอ้สายไม่เลว บางทีความสัมพันธ์ของเพื่อนอาจจะอยู่ยาวนานกว่านี้ก็ได้นะ”เพื่อนอีกคนที่ได้รู้จักเมื่อตอนเข้ามหา’ลัยก็คือสายฟ้า แน่นอนว่าที่กล้าเอ่ยชื่อออกมาเพราะซินเซียไม่ได้อะไรกับหมอนั่นแล้ว ไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดถึง ซินเซียก็ไม่รู้สึกอะไร“อืม” สาวสวยผมบลอนด์ครางรับในลำคอก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นซึ่งฉันก็เห็นด้วย แม้จะเจอกันบ่อยกว่าคนอื่นแต่ก็ใช่ว่าจะมีเวลาได้คุยกันแบบนี้เพราะลูก ๆ ก็ซนกันมาก จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนบ่ายแก่ จีซัสและเซริมก็วิ่งเข้ามาในห้อง“หม่ามี้ จีมาแล้ว”จีซัสวิ่งเข้ามาในห้องตามด้วยเซริมที่ถือหมวกกันน็อกขนาดเล็กไว้ในอ
ร่างสูงกางแขนออกเล็กน้อยเป็นเชิงให้ภรรยาสาวสวยเข้ามาช่วยแต่งตัว เธอจึงเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะแตะปลายนิ้วลงบนอกแกร่ง และเลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนน่าหวาดเสียว“พี่จะให้ซีช่วยจริง ๆ เหรอคะ”“...” ไนต์กัดฟันแน่นเมื่อร่างบางเริ่มออกลายซุกซน“ถ้าช่วยจะนานนะ”“ไม่ช่วยมีตายก่อนพอดี เอาหน่อยถือว่ากินข้าวเช้า”เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างหูร่างบาง ก่อนจะตวัดแขนโอบรัดร่างเธอขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขน และเดินตรงไปยังห้องน้ำโดยไม่ลืมล็อกประตู“ล็อกไว้ก่อนเดี๋ยวมีคนขัดจังหวะ”เมื่อมาถึงห้องน้ำแล้วเขาก็จัดการอุ้มเธอลงอ่างพร้อมปลดเปลื้องพันธนาการทั้งหมดออก จนเผยเรือนร่างบอบบางขาวผ่องอยู่ตรงหน้า“จ้องนานไปแล้ว จะทำไหมคะ?”ริมฝีปากบางยกยิ้มก่อนจะขยับสะโพกนั่งคร่อมบนตักแกร่งภายในอ่าง แขนเรียวยกขึ้นไปคล้องคอแกร่งไว้ก่อนจะกดให้เขาโน้มหน้าลงมา“ไม่ทำตอนนี้ พี่ได้ขาดใจตายแน่”จบคำนั้นริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบเข้าหากัน ต่างฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ เล้าโลมคลอเคลียกันไม่ห่าง จนพายุสวาทโหมกระหน่ำ แก่นกายแข็งร้อนตอกตรึงใส่ร่องสวาทไม่ยั้ง สร้างความรัญจวนใจให้เธอเป็นอย่างมาก แรงกระแทกทำให้น้ำในอ่างสาดกระเซ็นออกมาตามพื้นเ
5 ปีผ่านไป ฉันนั่งมองภาพงานแต่งงานของตัวเองและพี่ไนต์ที่ผ่านมาแล้วห้าปี ตอนนี้เรามีเรือนหออยู่ระหว่างคอนโดเก่าของเขาและคฤหาสน์ชวัลกร แน่นอนว่าที่คฤหาสน์คุณปู่ก็สร้างบ้านให้อีกหลังเพราะคิดถึงหลาน เวลากลับมาจะได้เจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาหลังจากงานแต่งงานเราทั้งคู่ก็ไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเกือบเดือนเลยล่ะ ทุกที่ที่อยากไปเขาไม่เคยอิดออดและยินยอมพาไป นอกจากกิจกรรมที่โลดโผนเพราะฉันยังท้องอยู่หมับ“ทำอะไรอยู่เหรอ”แรงกอดรัดจากข้างหลังมาพร้อมกับเสียงกระซิบข้างหู ทำให้ฉันเผลอย่นคอหนีคนร้ายกาจ เขาชอบมาคลอเคลียฉันเหมือนกับแมวจนอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ก่อนนี่ตั้งท่ารังเกียจกันเหลือเกิน“ซีกำลังดูรูปภาพในงานแต่งของเราค่ะ นี่! ดูสิมีแก๊งของพี่ครบทุกคนเลย หล่อ ๆ ทั้งนั้น”ฉันชี้ไปที่รูปถ่ายครบทั้งแก๊ง ทุกคนหล่อเหมือนออกมาจากนิตยสารถ่ายแบบเลยละ ตำแหน่งหนุ่มฮอตคงไม่มีใครมาโค่นลงได้ง่าย ๆ“ไหน ไม่เห็นจะหล่อเลย” เขาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“หล่อสิ โดยเฉพาะคนนี้ หล่อที่สุดในใจของซี”พูดแล้วก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าคม เมื่อเอ่ยชมเขาแล้วเลยอยากดูปฏิกิริยา และภาพตรงหน้าก็ทำให้ฉันเผลอหัวเราะคิกคัก พี่ไนต์ห
กาแฟสวดภาวนาเสียงเบา เธออยากแต่งงานจะแย่แต่ไม่มีทีท่าว่านักรบจะขอเธอแต่งงานเลย จนเธอเรียนจะจบอยู่แล้ว!“ได้แน่นอนค่ะ แล้วพี่ควีนจะลุ้นด้วยไหม”“แต่งไปแล้วไง” ควีนฉีกยิ้มให้ซินเซียจนอีกฝ่ายตาพร่าเมื่อเจอรอยยิ้มหวานหยด“แต่งอีกก็ได้นี่ คิกคิก”“รองานพวกเธอดีกว่า”ควีนพยักพเยิดไปทางกาแฟ พินอิน และซินเซียแทน แต่สาวสวยผมบลอนด์ยกมือปฏิเสธพัลวันเพราะอาจยังไม่พร้อมเท่าไร ก่อนจะฉุกคิดถึงใครบางคน“คิดถึงเจ้เมษามาก” ซินเซียเอ่ยขึ้นมา“นั่นสิ ถ้าไม่ติดสอบเจ้แกมาแล้ว”อิงปิงเอ่ยตอบซินเซียก่อนจะหลบมุมไปยืนข้างมิกิ เพราะเธอไม่มีแฟนเลยไม่รู้จะรอรับช่อดอกไม้ไปทำไม แต่อยู่ ๆ อิงปิงพลันขนลุกซู่เมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่“จะโยนแล้วนะคะ”เสียงหวานใสของไซซีเอ่ยขึ้นมาทำให้อิงปิงสะบัดหัวไล่ความรู้สึกนั้นไป ก่อนจะได้ยินเสียงนับถอยหลังโยนช่อดอกไม้ เพราะสะบัดหัวแรงไปเลยเซไปชนกาแฟที่ยืนอยู่ด้านข้าง และอีกฝ่ายก็ไปชนมิกิอีกทอดเหมือนโดมิโนล้ม3…2…1…“0.0”ใบหน้าสวยน่ารักเบิกตากว้างเมื่อช่อดอกไม้แสนสวยตกลงมาใส่อกเธออย่างแรง ด้วยความตกใจเลยคว้าไว้ รู้ตัวอีกทีทั้งซินเซีย พี่กาแฟ เจ๊อิงปิง พี่พินอ
เสียงไวโอลินบรรเลงเพลงคลาสสิกดังคลอไปทั่วทั้งงาน ดอกไม้สดหลากหลายพันธุ์ถูกจัดตกแต่งได้อย่างสวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ฉากหลังคือทะเลสาบภายในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ในพื้นที่ร้อยไร่ แขกในงานแบ่งแยกที่นั่งจนเต็ม แม้คนร่วมงานไม่มากเพราะอยากจัดส่วนตัวแต่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นเสียงเพลงต้อนรับขบวนเจ้าสาวเดินเข้ามาในพิธี นำโดยเด็กชายเด็กหญิงหน้าตาน่ารักสองคน หนึ่งถือพระคัมภีร์และหนึ่งโปรยดอกไม้ ตามมาด้วยบรรดาเพื่อนเจ้าสาวที่แต่งชุดเดรสสีชมพูอ่อนเรียบง่ายชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวสีดำ ใบหน้าเรียบนิ่งทำให้หลายคนเดาไม่ออกว่าเขาอยากแต่งจริงไหม จนกระทั่งนัยน์ตาคมกริบมองเห็นเจ้าสาวในชุดแต่งงานเดินควงแขนบิดาเข้ามา มุมปากของเจ้าบ่าวยกขึ้นและประกายตายินดีอย่างปิดไม่มิดเรือนร่างบอบบางอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบลูกไม้ฟูฟ่อง สวยหวานจนยากจะบรรยาย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพูอ่อน ผมสีน้ำตาลถูกรวบขึ้นด้วยผ้าลูกไม้เข้าชุดคาดที่ผมอีกทีเธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อสบตากับเขา ผู้ชายที่ปักใจตั้งแต่ครั้งแรก นัยน์ตากลมโตร้อนผ่าวเมื่อผู้เป็นบิดาวางมือบางลงบนมือของเจ้าบ่าว และมองเธอด้วยสายตามีความสุขจนยากจะบรรยาย“ป๊ามาส่







