EP03
เกิดความเงียบขึ้นภายในห้องเรียนสองสายตาจ้องมองกันจนกระทั่งมิเกลเป็นฝ่ายหลบสายตาเธอรู้สึกแปลกๆ เหมือนฟีฟ่าจะจำตนเองได้ยังไงยังงั้น “พี่ล้อเล่นเฉยๆ ครับ น้องมิเกลอย่ากลัวไปเลย” พอมิเกลหลบสายตาฟีฟ่าก็พูดขึ้นมาเจือปนเสียงหัวเราะเล็กน้อยราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลกขบขันก่อนที่เขาจะโน้มตัวกลับมาแล้วยืนตรงร่างหนาเดินกลับไปประจำที่หน้าห้องเหมือนเดิม “พี่ว่าเรากลับมาสนใจเรื่องเรียนดีกว่าส่วนเรื่องปิดจ๊อบอะไรนั้นตามสบายเลยนะครับ” ฟีฟ่าบอกแค่นั้นเขาก็เริ่มสอนทันที ชายหนุ่มเปิดสไลด์การสอนขึ้นแล้ววเริ่มอธิบายและสไลด์การสอนก็เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษทั้งหมด “จากสไลด์ที่น้องๆ เห็นเป็นการจำลองเหตุการณ์บนเครื่องบิน มาดูกันว่าใครจะแก้สถานการณ์ยังไงเมื่อเราอยู่บนเครื่องแล้วเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น” ชายหนุ่มเริ่มอธิบายและทุกคนก็ต่างนิ่งฟังและคิดตามไปด้วย “พี่ให้เวลาคิดแค่สามนาทีแล้วจะซุ่มตอบเริ่มเลยครับ” พอได้ยินสัญญาณจากฟีฟ่านักศึกษาทุกคนก็เริ่มมองไปที่จอซึ่งจำลองเหตุการณ์บนเครื่องบิน เป็นไฟล์บินจากลอนดอนกลับมาที่ไทยและมีลูกค้าชาวไทยและอังกฤษมีปัญหากัน ลูกค้าชายอังกฤษเป็นหญิงชราที่วางอาหารไว้ไม่ดีจนแก้วนํ้ามันตกลงมาที่หญิงวัยรุ่นชายไทยทำให้แก้วแตกและคราบเครื่องดื่มเปื้อนเธอ แต่การคุยกันของทั้งสองท่านไม่ลงรอยหญิงชราไม่ยอมขอโทษทำให้วัยรุ่นชายไทยไม่พอใจ เหตุการณ์แบบนี้ในฐานะที่เราเป็นบุคลากรที่ดีของสายการบินและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดควรทำยังไง… “น้องเกลครับ ช่วยตอบคำถามข้อนี้ที” และเวลาในช่วงสามนาทีก็จบลงภายใต้ความเงียบเสียงของฟีฟ่าก็พูดขึ้นเขากอดอกมองเธอและจ้องรอเอาคำตอบ “เข้าไปขอโทษแทนหญิงชราคนนั้นค่ะ” “เป็นทางออกที่ดีแต่บางกรณีลูกค้าอยากให้เจ้าตัวขอโทษ” “เคลียร์กับฝ่ายก่อเหตุแทนและอธิบายด้วยเหตุผล” “เกิดฝ่ายที่ก่อเหตุเขาบอกไม่ใช่ความผิดของเขาละครับ” “ก็ต้องพูดให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าใจและยอมกันไปเพื่อเรื่องจะได้จบค่ะ” มิเกลตอบเสียงนิ่งเธอรู้ดีว่าเป็นการปั่นประสาทของฟีฟ่าเพราะอาจารย์ปกติเขาจะไม่เจาะจงที่เธอมากขนาดนี้ “ถือว่าแก้ไขปัญหาได้ดีนะครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบแล้วไปยังสไลด์ต่อไปเวลาการสอนดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดคาบ มิเกลรีบเก็บของแล้วเดินออกจากห้องทันทีโดยมีสายตาของฟีฟ่ามองอยู่ ___________________________ @สายการบิน Wine O-cean รถแลมโบสีดำด้านทั้งคันขับมาด้วยความเร็วสูงก่อนจะจอดเข้าที่ด้านหลังของสนามบินเอกชนอย่าง Wine O-cean พ่อของเขาชื่อไทเกอร์เป็นเจ้าของสายการบินนี้และมีบริษัทสำหรับทำงานก็อยู่ห่างออกไปไม่มาก ไทเกอร์มีลูกสองคนคือฟีฟ่าและนีน่าเป็นลูกสาวคนเล็กงานอดิเรกของฟีฟ่าคือการเข้ามาขับเครื่องบินไปส่งผู้โดยสารไฟล์ที่อยากบินเท่านั้นโดยไฟล์ที่เขาจะบินเป็นไฟล์ภายในประเทศ “วันนี้นายเข้าบริษัทสงสัยแอร์แลกไฟล์กันสนั่นเลยนะ” ทันทีที่ร่างหนาเดินเข้ามาในสนามบินเขาก็เจอเข้ากับโคไพล็อตที่ทำหน้าที่คู่กับกัปตันคนสนิทเอ่ยทัก มาทีน เป็นรุ่นพี่คนสนิทของเขาและเป็นคนแลกไฟล์ให้กับฟีฟ่าตลอดโดยค่าแตบแทนของนักบินที่แลกไฟล์ก็เป็นเงินจากฟีฟ่านั้นเอง “ยังไม่ชินอีกหรอ” “อีกสามสิบนาทีเครื่องจะออกแล้วรีบไปเปลี่ยนชุด” “วันนี้บินไปไหน” “เชียงใหม่” “เจอกันบนเครื่องไม่เกินห้านาที” “โอเค~” มาทีนเอ่ยตอบแล้วยกนิ้วขึ้นเป็นสัญลักษณ์โอเคแล้วฟีฟ่าก็จัดการไปเปลี่ยนชุดเป็นกัปตันให้เรียบแล้ว เขาโตมากับสิ่งสิ่งนี้และหัดขับเรียนขับเครื่องบินมาตั้งแต่เด็กโดยฝีมือของเขาเรียกได้ว่าระดับเซียนเลยก็ว่าได้ ฟีฟ่าใช้เวลาไม่นานเขาก็จัดการเปลี่ยนชุดจนเสร็จเรียบร้อยในขณะที่เขาเดินออกมาสายตาของนักท่องเที่ยวหรือแม้กระทั่งแอร์โฮสเตสก็ต่างยืนมองตาค้าง ร่างสูงสง่าและใบหน้าหล่อเหลาขลับให้ออร่าในตัวชายหนุ่มมันกระจายไปทั่วบริเวณ “เขามาจริงๆ ด้วยไฟล์ไปเชียงใหม่ ฉันคิดถูกแล้วที่แลกไฟล์จะได้อยู่ใกล้ชิดเขาสักที” “เราจะโชคดีแบบนี้อีกไหม” “ภาวนาให้เขามาบ่อยๆ เสียเงินแลกไฟล์เท่าไหร่ฉันก็ยอม” ในขณะที่เขาเดินอยู่ฟีฟ่าก็ได้ยินเสียงคุยกันของเหล่าแอร์โฮสเตสสาวชายหนุ่มเดินตรงดิ่งฃไปที่เครื่องของตนเองทันที พอขึ้นมานั่งก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย “ไหนบอกชินแล้ว” มาทีนเอ่ยถาม “ก็ยังรำคาญอยู่ดี” “แอร์อยากได้นายเป็นแฟนเยอะจะนายไม่สนใจหน่อยหรอ” “ไม่ล่ะ เอาเฉยๆ ก็พอแล้ว” ฟีฟ่าตอบแล้วส่ายหัวไปมาราวกับว่าเรื่องผู้หญิงเป็นเรื่องเบื่อหน่ายมากที่สุดในชีวิตกินแป๊บเดียวก็เบื่อ “ไม่เจออะไรที่มันน่าตื่นเต้นหน่อยรึไง” มาทีนถามแล้วเขาก็มองหน้าฟีฟ่าที่เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่อะไรที่มันน่าตื่นเต้นแบบนั้นหรอ จะว่าเจอไหมมันก็เจอแต่สิ่งที่มันน่าตื่นเต้นมันมาในรูปแบบของเก่าหน่ะสิ “ที่จริงก็เจอแล้ว” “ทำไมไม่จัด” “…มันมาในรูปแบบของเก่าอ่ะดิ” พูดจบปลายนิ้วก็ลูบคางเหมือนครุ่นคิดหรือจะลองกลับไปกินของเก่าดีเพราะของเก่าชิ้นนั้นเขากินมันบ่อยสุดแล้ว “เบื่อรึยังล่ะ” “ก็ยัง จำรสชาติไม่ได้แล้ว” “ถ้าอร่อยยังไงก็อร่อยเหมือนเดิม” “นั้นหน่ะสิ… เหมือนอาหารจานโปรด” “พูดแบบนี้แปลว่านายอยากกลับไปชิมงั้นสิ” มาทีนเลิกคิ้วถามแล้วมองฟีฟ่าอย่างรู้ใจไม่ต้องรอเอาคำตอบเขาก็พอจะรู้แล้ว “เปล่าสักหน่อย” “เรื่องนั้นไว้จะรอดูทีหลัง” เมื่อฟีฟ่าปฏิเสธมาทีนก็หันมาสนใจเช็คเครื่องต่อเพื่อรอผู้โดยสารมาขึ้นเครื่องหลังจากนั้นก็เตรียมตัวสวมอุปกรณ์ให้เรียบร้อยเพื่อจะเตรียมบินจนกระทั่งเวลาผ่านไปนานพอสมควรก็ถึงเวลาที่ผู้โดยสารจะต้องขึ้นเครื่องแล้วเสียงประกาศเริ่มยํ้าอีกที ทุกอย่างเสร็จสับเครื่องบินก็เริ่มวิ่งตามรันเวย์เพื่อจะทะยานมุ่งสู่ที่สูงและบินไปยังจุดมุ่งหมาย ___________________________ น้องอร่อยจนลืมไม่ลงสินะ😂😂😂 โคไพลอต = ผู้ที่ทำงานคู่กับกัปตัน (ตำแหน่งจะน้อยกว่า)EP60 3 ปีต่อมาสามปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับโกหก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฟีฟ่าและมิเกลคบกันอย่างมีความสุขไม่ได้มีอุปสรรคหรือเรื่องราวอะไรมาขัดขวางความรักของพวกเขาทั้งสอง ฟีฟ่าเป็นคนที่ดีขึ้นมากและไม่มีเรื่องเจ้าชู้เลย ซึ่งมันเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับมิเกล วันนี้เป็นวันสำคัญของเธอที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ถึงแม้จะผ่านมายากลำบากแต่ก็ผ่านมาได้ ส่วนฟีฟ่านั้นเขาก็ได้ทำงานที่สายการบินของป๊าตนเอง “congratulations นะมิเกล เรียนจบไปพร้อมกันแล้ว” เสียงของมุกดาเอ่ยบอกเพื่อนสนิทของตนเอง ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังยืนถ่ายรูปด้วยกันหลังจากที่เพื่อนๆ คนอื่นและสายรหัสก็ต่างทยอยมาถ่ายด้วยแล้ว “congratulations เช่นกันนะ” มิเกลบอกคนข้างกายแล้วส่งยิ้มให้ วันนี้เธอสำเร็จการศึกษาซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันที่มิเกลดีใจมากๆและมีความสุขมากที่สุด ถึงสามปีที่ผ่านมาจะไม่ได้ใช้ตังค์ตนเองก็เถอะ เพราะฟีฟ่าเป็นคนส่งเธอเรียน “เกลไปถ่ายรูปกับครอบครัวเราสิ ทุกคนเอาของขวัญมาเผื่อเกลด้วยนะ^^” มุกดาที่รู้ว่ามิเกลไม่ได้มีครอบครัวมาแสดงความยินดีเหมือนกับคนอื่นเอ่ยชวน มิเกลเลยละสายตาจากการมองหาใครบางคนมาที่มุกดา “อื้ม…ไปสิ” หญิงสาวข
EP59 เคลียร์“โอเคไหมคะ” ฟีฟ่าเอ่ยถามคนข้างกายแล้วยื่นมือไปลูบหัวปลอบใจคนตัวเล็กเบาๆ ในขณะที่เขาพาเธอมานั่งอยู่บนรถแล้วเพื่อจะเตรียมตัวกลับคอนโด “โอเคแล้วค่ะ” “พี่รู้ตัวคนที่ทำเรื่องนี้แล้วนะ” เขาบอกแล้วก็เริ่มสตาร์ทรถพร้อมกับเคลื่อนออกมาจากตัวคณะ ส่วนเรื่องข่าวพวกนั้นเขาก็บอกไทเกอร์หมดแล้วอีกไม่นานก็คงจะถูกลบออกหมด “ใครทำหรอคะ” “มิวนิค” “เธอคงชอบพี่อยู่” “ก็คงจะอย่างนั้น แต่หนูไม่ต้องกังวลนะ พี่รักหนูแค่คนเดียว” “ค่ะ” มิเกลพยักหน้าตอบแล้วฟีฟ่าก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความเพราะไลน์เขามีแจ้งเตือนข้อความใหม่เข้ามาจากไวท์ ‘ไอ้ธามอยากคุยด้วย มาเจอกันที่ร้านนุ๊ก xxx’ “พี่จะไปส่งหนูที่คอนโดก่อน แล้วพี่จะไปทำธุระต่อ หนูโอเคใช่มั้ย” ฟีฟ่าไม่ได้ตอบกลับไปเขาอ่านมันแล้วกดปิดหน้าจอมือถือเอาไว้ก่อนจะหันไปบอกแฟนสาว “โอเคค่ะ” “แล้วเดี๋ยวพี่จะรีบกลับมานะ” “….” มิเกลเพียงพยักหน้าตอบแล้วบทสนทนาบนรถก็เงียบ เธอเองก็เริ่มผล็อยหลับจากการเหนื่อยล้ากับเรื่องที่เจอไหนจะเรียนทั้งวันอีก ฟีฟ่าใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงคอนโดของตนเอง ชายหนุ่มอุ้มคนตัวเล็กออกมาจากรถและพาขึ้นไปส่งบนห้องให้มิเกลนอนบนเ
EP58 อีกด้าน…“ว่าแล้วทำไมทำตัวสนิทกับพี่ฟีฟ่า เพราะแบบนี้นี่เอง” “นั้นหน่ะสิ รอเสียบต่อจากมิว” “ไม่เจียมตัวเอาซะเลย” “เห็นในข่าวเขียนบอกเป็นเด็กกำพร้าด้วยนิ ไม่สมกับพี่ฟีฟ่าเลย” “จริงไม่มีหัวนอนปลายเท้า” มิเกลนั่งทนฟังบทสนทนาของเหล่านักศึกษาภายในเซคเดียวกันที่กำลังนินทาซุบซิบกันเรื่องของเธอทั้งวัน ว่างเป็นพูด ว่างเป็นเข้าดู ถึงแม้ว่ามิเกลไม่อยากจะได้ยินแต่บทสนทนาพวกนั้นก็เหมือนกับว่าคนพูดตั้งใจพูดให้เธอได้ยิน “เกล ถ้าไม่โอเครเราว่ากลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวเราส่งสรุปคลาสนี้ไปให้” มุกดาที่นั่งอยู่ข้างกายมิเกลเอ่ยบอก เธอเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่เพื่อนสนิทตนเองโดนว่าแบบนั้นทั้งที่ความจริงแล้วมุกดาไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น และเรื่องราวของชีวิตเธอมันก็ไม่ได้น่าดูถูก แต่คนพวกนี้ไม่ชอบที่มิเกลยุ่งกับฟีฟ่ามากกว่า และคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันมากกว่าพี่น้อง “ไม่เป็นไร อยากพูดอะไรไปก็พูดไปเถอะ” “คนพวกนี้ทำไมถึงได้ดูถูกคนอื่นขนาดนี้กันนะ ไหนจะเรื่องเกลกับพี่ฟีฟ่า ความจริงเป็นแบบไหนพวกนั้นยังไม่รู้แถมยังมาพูดจาเสียๆ หายๆ” “เดี๋ยวพอรู้ตัวคนทำทุกอย่างก็คงจะจบแล้ว” “เกลบอกเรื่อ
EP57 “ตอนนี้ฉันเชื่ออะไรไม่ได้หรอกว่าใครเป็นคนทำ แต่ฉันจะลากคอมันมาเอง” พูดจบเพียงเท่านั้นมิเกลก็หันหลังเดินออกมาจากห้อง ในเมื่อไม่มีใครยอมรับสารภาพ ทั้งธามและมิวนิคเป็นคนที่น่าสงสัยเธอก็จะจัดการเรื่องนี้เอง มิเกลเดินออกมาจากห้องก็สวนกับไวท์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ไวท์เห็นเธอเดินออกมาแล้วเลยกลับเข้าไปหาธาม “น้องมาคุยเรื่องไรวะ” เขาถามแล้วหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม“มีคนปล่อยข่าวใส่ร้ายมิเกล” “ข่าว ข่าวอะไรวะ” “เรื่องการคบกัน” “แล้วทำไมน้องต้องมาหามึง” “มิเกลสงสัยว่ากูเป็นคนทำ” ธามพูดจบก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเข้าไปอ่านตามข่าว ด้วยความที่เรื่องนี้กำลังดังในหมู่ของนักศึกษาของแอสตันอยู่แล้วเลยไม่ยากที่จะกดเข้าไปส่อง “ไหนวะ กูไม่เห็นรู้เรื่อง” ไวท์ถามธามจึงยื่นโทรศัพท์ให้ดู “แล้วแม่งใครเป็นคนทำ ไปรื้ออดีตเขามาพูดทำไม ใครจะคบกันมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนไหมวะ ไหนจะเรื่องมือที่สามอีกเป็นความจริงรึเปล่าก็ไม่รู้” ไวท์อ่านแล้วก็ขมวดคิ้วยุ่ง “กูไม่รู้หรอกว่าเรื่องนั้นจะเป็นความจริงรึเปล่า แต่ที่รู้ตอนนี้กูรู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ” ธามนั่งครุ่นคิดไม่นานเขาก็พอจะเดาออกแล้วว่าใครเป็นคน
EP56 “ค่ะ” “พี่ชอบเกลแบบที่พูดง่ายแบบนี้มากเลยรู้มั้ย เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด” ฟีฟ่าตอบออกมาแต่สายตาของเขายังคงมองอยู่บนท้องถนนตรงหน้า“ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไม่เชื่อฟังแล้ว” “อืม…ดีแล้วค่ะ” แล้วบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนก็เงียบมาตลอดระหว่างอยู่บนรถจนกระทั่งฟีฟ่าขับกลับมาถึงคอนโด ชายหนุ่มเดินจูงมือมิเกลเข้าไปใต้ล็อบบี้และตรงดิ่งเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดไปที่ชั้นห้องพักของตนเอง ไม่นานลิฟต์ก็เปิดออก ทั้งสองเลยเดินเข้ามาในห้อง “หนูรอพี่แป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่มา” พอเดินเข้ามาในห้องฟีฟ่าก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน ส่วนมิเกลก็ยืนรออยู่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินหายเข้าไป ต่อจากนั้นไม่นานฟีฟ่าก็เดินออกมาพร้อมซองกระดาษในมือ“อะไรหรอคะ?” มิเกลมองกระดาษแผ่นนั้นและถามออกไปด้วยความสงสัย “สัญญาระหว่างเรา” ฟีฟ่าตอบแล้วก็หย่อนตัวนั่งลงข้างกายเธอพร้อมกับวางซองกระดาษสีขาวลง ข้อความบนกระดาษที่เป็นหัวข้อเขียนเอาไว้ว่า ‘สัญญาระหว่างหัวเมีย’ นี้มันเรื่องบ้าอะไร?“ทำไมต้องมีสัญญาด้วยละคะ” เธอมองมันและถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ คิดว่าฟีฟ่าพูดเล่นๆ แต่ที่ไหนได้เขาดัน
EP55ตกเย็นในวันเดียวกัน..“เป็นไงบ้างวะช่วงนี้กูเห็นซึมมาเป็นเดือน” ไวท์เอ่ยถามคนข้างกายคือธามในขณะที่เขากำลังเก็บของเข้ากระเป๋าเพื่อจะออกจากห้องหลังจากเรียนจบคลาสแล้ว “ดีขึ้นแล้ว” ธามตอบคำถามเพื่อนออกไปก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อจะเดินออกจากห้องไป“มึงจะกลับเลยหรอ” “อืม” “ธาม…กูไม่อยากให้มึงกับไอ้ฟีเป็นงี้เลยว่ะ” แต่พอได้ยินคำพูดของไวท์ร่างสูงก็หยุดยืนนิ่งแล้วหันกลับไปมอง “แบบนี้คือแบบไหน” “แบบที่พวกมึงสองคนไม่มองหน้ากัน ไม่คุยกัน ทั้งที่แต่ก่อนพวกมึงยังคุยกันอยู่บ้างแต่ตอนนี้ไม่เลยว่ะ” ไวท์พูดออกมาตามที่ตนเองรู้สึก วันไหนที่ฟีฟ่ามาเรียนก่อนธามที่เห็นนั่งอยู่ไวท์เขาก็แยกตัวออกมานั่งคนเดียวเงียบๆ ฟีฟ่าเองก็เช่นกันแต่จะต่างจากฟีฟ่าเพราะเขาค่อนข้างมีเพื่อนเยอะแต่วันไหนที่ธามมาก่อนและนั่งข้างไวท์ฟีฟ่าก็จะปลีกตัวออกมาเหมือนกัน “ปกติกูก็ไม่ชวนใครคุยอยู่แล้ว” “พวกมึงเก็บแบบนี้ก็แม่งโครตอึดอัด” “ทำตัวปกติดิ ไม่มีอะไรหรอก กูไม่ได้เป็นอะไร” “มึงแน่ใจว่ามึงไม่ได้เป็นอะไร สีหน้ามึงมันฟ้องว่ะธาม ที่กูบอกเรื่องการคบกันของมันและมิเกลเพราะกูไม่ได้อยากให้มึงเกลียดมันมากกว่าเดิมนะ กู