EP04
หลายชั่วโมงต่อมา... สายการบิน Wine O-cean 'Ladies and Gentlemen. We are now descending to ... Airport. Please return to your seat and fasten your seat belts' ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ท่าอากาศยาน... กรุณานั่งประจำที่ และรัดเข็มขัดที่นั่งด้วยค่ะ เที่ยวบินวีซีสามสองห้าสองบินกลับจากเชียงใหม่มาที่กรุงเทพขึ้นเสียงประกาศเพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารทราบและเตรียมตัวลงจากเครื่อง ในขณะที่เครื่องบินกำลังแลนดิ้งลงจอดโคไพลอตหนุ่มก็ทำหน้าที่ดูแลเครื่องและเอนหลังพิงกับที่นั่งเพื่อผ่อนคลายส่วนคนที่ทำหน้ากัปตันตอนนี้เขากำลังปลดปล่อยอารมณ์ตนเองกับแอโฮสเตสสาวอยู่ ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! "อึก…อื้ออ!!" "…" เสียงเนื้อกระแทกเนื้อกำลังขับเคลื่อนภายในห้องสี่เหลี่ยมคับแคบฟีฟ่ายกเรียวคาคู่สวยขึ้นเพียงหนึ่งข้างพร้อมกับตอกอัดสะโพกสอบที่สวมเครื่องป้องกันใส่ร่องบอบบางอย่างเมามัน "อ๊าา…กัปตันคะ…อื้ออ!" ไม่ทันที่สาวเจ้าจะร้องครางชื่อเขาออกมามือหนาก็รีบเลื่อนมาปิดปากสีแดงเข้มเอาไว้ไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไป เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายถาโถมความอัดอั้นเป็นจังหวะถี่เร้า "อ๊า~" "อื้ออ!!" แรงขยับของสองร่างเริ่มผ่อนลงเมื่อแท่งร้อนเกร็งกระตุกปลดปล่อยนํ้ากามสีขาวขุ่นออกมาเต็มถุงยาง ร่างหนาถอนตัวตนออกแล้วคว้าถุงยางห่อทิชชูทิ้งถังขยะ ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมเปียกชุ่มขึ้นพร้อมถอนลมหายใจหนักหน่วงออกมา "กัปตันคะ…" จีน่าเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบาในตอนที่ฟีฟ่ากำลังหันหลังให้ ชายหนุ่มจัดการกับตัวเองแล้วใช้สายตาบอกแทนคำพูดว่าเขาไม่ต้องการสานต่อกับเธอนับต่อจากนี้ไป "…" ปัง! "ดะ…เดี๋ยวค่ะ กัปตัน" ไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยเรียกเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบในชุดกัปตันสุดเนี๊ยบก็เดินออกมาประจำที่ของตนเอง พลันคนที่กำลังนั่งรออยู่ก็เอ่ยถามขึ้นมา "ไง ไม่กะจะพักเลยรึไง" มาทีนเอ่ยแซวแล้วส่ายหัวเอือมระอาในขณะที่ฟีฟ่ากำลังเดินออกมาจากห้องนํ้าแล้วหย่อนตัวนั่งลงที่เดิม ตอนนี้เครื่องกำลังแลนดิ้งลงจอดเพราะงั้นไม่จำเป็นที่ต้องจะควบคุมเครื่องก็ได้ "ยัยนั้นอ่อยเอง" ฟีฟ่าตอบอย่างไม่ใส่ใจนักแล้วถอนหายใจคลายความเหนื่อยออกมาเขานั่งรอไม่กี่นาทีเครื่องบินก็จอดเสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้งเพื่อให้ผู้โดยสารลงแอโฮสเตสต่างทำหน้าที่ของตนเอง "คราวนี้คงถูกเม้าส์อีกเหมือนเดิมว่าฟันแล้วทิ้ง" ในขณะที่รอผู้โดยสารลงจากเครื่องมาทีนก็พูดขึ้นซึ้งมันเป็นเรื่องปกติแล้วที่ข่าวฟันแล้วทิ้งในแวดวงการบินจะถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก ฟีฟ่าได้ยินเรื่องพวกนี้จนชินบางทีเขาแทบจะไม่เข้าใจผู้หญิงพวกนั้นด้วยซํ้าทั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายเสนอร่างกายทำไมถึงชอบเอาไปพูดว่าเขาผิดอยู่ตลอด ความจริงแล้วก็แค่ตอบความสนองความต้องการพวกเธอ ผู้หญิงพวกนั้นควรจะขอบคุณมากกว่าจะมาพูดจาเสียๆ หายๆ "ผู้หญิงพวกนั้นต้องการอะไรอีกนะตอบสนองความต้องการให้แล้วแท้ๆ" ฟีฟ่าพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายมันจะดีเป็นอย่างมากถ้าเรื่องพวกนั้นไม่ถึงหูของพ่อเขาจนต้องโดนเรียกตัวไปสอบปากคำอยู่เรื่อยเปื่อยบางทีมันก็น่าหงุดหงิด "พอมอบร่างกายให้แล้วก็หวังมากกว่านั้นทั้งนั้นแหละน้อยมากที่จะไม่เรียกร้องอะไร" ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายแบบเขาที่ผู้หญิงเข้าหาเป็นว่าเล่นยิ่งหายาก เขามักถูกกล่าวหาอยู่เรื่อยว่าเป็นผู้ชายคาสโนว่าความจริงแล้วผู้หญิงทุกคนที่ฟีฟ่าเอาล้วนเป็นฝ่ายเข้าหาเขาทั้งนั้นชายหนุ่มไม่เคยที่จะเข้าหาใครเลย "ก็จริงแต่กูไม่ได้แคร์สายตาคนอื่นขนาดนั้นหรอก" ฟีฟ่าตอบแค่นั้นก็เดินลงมาจากเครื่องบินตอนนี้ผู้โดยสารอยู่ในสนามบินกันหมดแล้วที่ตรงนี้เลยไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่มีเพียงบุคลากรของสายการบินซึ่งพวกเธอก็ยืนมองเขาอยู่ ร่างหนาไม่ได้สนใจมองกลับเลยแม้แต่น้อยฟีฟ่ายืนรอรถยนต์ของตนเองที่รอให้คนขับมาให้แต่ในตอนนั้นเองก็มีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือเป็นไทเกอร์พ่อของเขาที่โทรมา "ป๊าโทรมามีไร" ฟีฟ่ากรอกเสียงผ่านปลายสายโดยไม่ใส่ใจนักสายตาของเขาที่มองผ่านแว่นกันแดดสีดำก้มมองนาฬิกาข้อมือเพราะต่อจากนี้ชายหนุ่มมีนัด (มาหาป๊าที่บริษัทป๊ามีเรื่องจะคุยด้วย) "ผมพึ่งบินกลับมาเหนื่อยๆ ให้พักก่อนไม่ได้รึไง” (ไม่ได้) “โอเคงั้นผมจะรีบไปหาป๊า” ฟีฟ่าตอบแค่นั้นก็กดตัดสายทันทีเป็นจังหวะเดียวกันกับคนที่ขับรถมาจอดตรงหน้าให้ ชายหนุ่มรับกุญแจแล้วสอดตัวเข้าไปนั่งข้างในก่อนจะถอยออกมาแล้วเหยียบคันเร่งเลี้ยวออกจากบริเวณนั้นเพื่อทะยานสู่ถนนใหญ่ ฟีฟ่าขับมาไม่นานก็มาถึงบริษัทเขารีบตรงดิ่งไปที่ห้องทำงานขอบไทเกอร์ทันที “มาจนได้นะตัวดี” พอเปิดประตูเข้ามาเท่านั้นแหละก็เจอเข้ากับไทเกอร์ยืนกอดอกมองลูกชายตัวเองตาเขม็ง “สรุปป๊ามีเรื่องอะไร” เขาถามกลับอย่างไม่ใส่ใจนักแล้วเดินมาทิ้งตัวเอาขาพาดกันบนโซฟาเหมือนไม่ได้เดือดร้อนอะไร “ไปก่อเรื่องอะไรที่สนามบิน” “ผมก็แค่แลกไฟล์กับกัปตันไฟล์นั้น” “รู้ไหมว่าการที่แกแอบไปบินที่สนามบินมันทำให้ทุกคนอลเวงกันหมด บุคลากรสาวๆ ทางการบินไฟล์นั้นและทุกคนต่างขาดไฟล์กันจ้าละหวั่น” พูดจบไทเกอร์ก็ทิ้งรายงานการขายไฟล์ที่ฟีฟ่าบินลงบนโต๊ะด้วยอารมณ์ฉุนเฉี่ยวมันทำให้ชายหนุ่มต้องยกมือขึ้นนวดกุมขมับแล้วถอนหายใจออกมา “การที่ผมแลกไฟล์กับกัปตันคนอื่นมันไม่ผิดนิครับ กัปตันได้เงินผมได้ไปบินแฟร์ๆ กันแต่บุคลากรคนอื่นป๊าควรจะจัดการเองเพราะมันไม่ใช่ความผิดผม อ๋อ ไม่งั้นป๊าคงต้องให้ผมเอาปิ๊บคลุมหัวตอนไปสนามบินก็ดีเหมือนกันนะครับเพราะสาเหตุจากเรื่องนี้เพราะลูกชายของป๊าคงหล่อเกินไป” พูดจบร่างหนาที่ยังอยู่ในชุดนักบินอยู่ก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงไปยังประตูท่าทางนั้นมันทำให้ไทเกอร์หมดความอดทนจนต้องสบถออกมา “ฟีฟ่า!!” แต่การที่ไทเกอร์ทำแบบนั้นก็ไม่ทำให้ฟีฟ่าหันกลับมาได้เหมือนเดิมแล้วร่างหนาก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเสียงประตูดัง ____________________ ดูความกวนประสาทของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ใครจะมากำราบนายได้นะฟีฟ่า😆 ฟีฟ่า : เป็นลูกเจ้าของสนามบินเอกชน พระเอกของเราอายุในเรื่องปกติยังเรียนอยู่ซึ่งเป็นกัปตันไม่ได้ แต่ในเรื่องคือนางชอบแลกไฟล์และชินกับการขับเครื่องบินมาตั้งแต่เด็กฝีมือเลยเทียบเท่ากับนักบินได้เลย~~~~ แลนดิ้ง = เครื่องบินกำลังลงจอดตามศัพท์ของการบิน (ซึ่งมีคำที่ใช้แรกแทนอีก) ****หากข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะค่าาEP60 3 ปีต่อมาสามปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับโกหก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฟีฟ่าและมิเกลคบกันอย่างมีความสุขไม่ได้มีอุปสรรคหรือเรื่องราวอะไรมาขัดขวางความรักของพวกเขาทั้งสอง ฟีฟ่าเป็นคนที่ดีขึ้นมากและไม่มีเรื่องเจ้าชู้เลย ซึ่งมันเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับมิเกล วันนี้เป็นวันสำคัญของเธอที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ถึงแม้จะผ่านมายากลำบากแต่ก็ผ่านมาได้ ส่วนฟีฟ่านั้นเขาก็ได้ทำงานที่สายการบินของป๊าตนเอง “congratulations นะมิเกล เรียนจบไปพร้อมกันแล้ว” เสียงของมุกดาเอ่ยบอกเพื่อนสนิทของตนเอง ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังยืนถ่ายรูปด้วยกันหลังจากที่เพื่อนๆ คนอื่นและสายรหัสก็ต่างทยอยมาถ่ายด้วยแล้ว “congratulations เช่นกันนะ” มิเกลบอกคนข้างกายแล้วส่งยิ้มให้ วันนี้เธอสำเร็จการศึกษาซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันที่มิเกลดีใจมากๆและมีความสุขมากที่สุด ถึงสามปีที่ผ่านมาจะไม่ได้ใช้ตังค์ตนเองก็เถอะ เพราะฟีฟ่าเป็นคนส่งเธอเรียน “เกลไปถ่ายรูปกับครอบครัวเราสิ ทุกคนเอาของขวัญมาเผื่อเกลด้วยนะ^^” มุกดาที่รู้ว่ามิเกลไม่ได้มีครอบครัวมาแสดงความยินดีเหมือนกับคนอื่นเอ่ยชวน มิเกลเลยละสายตาจากการมองหาใครบางคนมาที่มุกดา “อื้ม…ไปสิ” หญิงสาวข
EP59 เคลียร์“โอเคไหมคะ” ฟีฟ่าเอ่ยถามคนข้างกายแล้วยื่นมือไปลูบหัวปลอบใจคนตัวเล็กเบาๆ ในขณะที่เขาพาเธอมานั่งอยู่บนรถแล้วเพื่อจะเตรียมตัวกลับคอนโด “โอเคแล้วค่ะ” “พี่รู้ตัวคนที่ทำเรื่องนี้แล้วนะ” เขาบอกแล้วก็เริ่มสตาร์ทรถพร้อมกับเคลื่อนออกมาจากตัวคณะ ส่วนเรื่องข่าวพวกนั้นเขาก็บอกไทเกอร์หมดแล้วอีกไม่นานก็คงจะถูกลบออกหมด “ใครทำหรอคะ” “มิวนิค” “เธอคงชอบพี่อยู่” “ก็คงจะอย่างนั้น แต่หนูไม่ต้องกังวลนะ พี่รักหนูแค่คนเดียว” “ค่ะ” มิเกลพยักหน้าตอบแล้วฟีฟ่าก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความเพราะไลน์เขามีแจ้งเตือนข้อความใหม่เข้ามาจากไวท์ ‘ไอ้ธามอยากคุยด้วย มาเจอกันที่ร้านนุ๊ก xxx’ “พี่จะไปส่งหนูที่คอนโดก่อน แล้วพี่จะไปทำธุระต่อ หนูโอเคใช่มั้ย” ฟีฟ่าไม่ได้ตอบกลับไปเขาอ่านมันแล้วกดปิดหน้าจอมือถือเอาไว้ก่อนจะหันไปบอกแฟนสาว “โอเคค่ะ” “แล้วเดี๋ยวพี่จะรีบกลับมานะ” “….” มิเกลเพียงพยักหน้าตอบแล้วบทสนทนาบนรถก็เงียบ เธอเองก็เริ่มผล็อยหลับจากการเหนื่อยล้ากับเรื่องที่เจอไหนจะเรียนทั้งวันอีก ฟีฟ่าใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงคอนโดของตนเอง ชายหนุ่มอุ้มคนตัวเล็กออกมาจากรถและพาขึ้นไปส่งบนห้องให้มิเกลนอนบนเ
EP58 อีกด้าน…“ว่าแล้วทำไมทำตัวสนิทกับพี่ฟีฟ่า เพราะแบบนี้นี่เอง” “นั้นหน่ะสิ รอเสียบต่อจากมิว” “ไม่เจียมตัวเอาซะเลย” “เห็นในข่าวเขียนบอกเป็นเด็กกำพร้าด้วยนิ ไม่สมกับพี่ฟีฟ่าเลย” “จริงไม่มีหัวนอนปลายเท้า” มิเกลนั่งทนฟังบทสนทนาของเหล่านักศึกษาภายในเซคเดียวกันที่กำลังนินทาซุบซิบกันเรื่องของเธอทั้งวัน ว่างเป็นพูด ว่างเป็นเข้าดู ถึงแม้ว่ามิเกลไม่อยากจะได้ยินแต่บทสนทนาพวกนั้นก็เหมือนกับว่าคนพูดตั้งใจพูดให้เธอได้ยิน “เกล ถ้าไม่โอเครเราว่ากลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวเราส่งสรุปคลาสนี้ไปให้” มุกดาที่นั่งอยู่ข้างกายมิเกลเอ่ยบอก เธอเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่เพื่อนสนิทตนเองโดนว่าแบบนั้นทั้งที่ความจริงแล้วมุกดาไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น และเรื่องราวของชีวิตเธอมันก็ไม่ได้น่าดูถูก แต่คนพวกนี้ไม่ชอบที่มิเกลยุ่งกับฟีฟ่ามากกว่า และคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันมากกว่าพี่น้อง “ไม่เป็นไร อยากพูดอะไรไปก็พูดไปเถอะ” “คนพวกนี้ทำไมถึงได้ดูถูกคนอื่นขนาดนี้กันนะ ไหนจะเรื่องเกลกับพี่ฟีฟ่า ความจริงเป็นแบบไหนพวกนั้นยังไม่รู้แถมยังมาพูดจาเสียๆ หายๆ” “เดี๋ยวพอรู้ตัวคนทำทุกอย่างก็คงจะจบแล้ว” “เกลบอกเรื่อ
EP57 “ตอนนี้ฉันเชื่ออะไรไม่ได้หรอกว่าใครเป็นคนทำ แต่ฉันจะลากคอมันมาเอง” พูดจบเพียงเท่านั้นมิเกลก็หันหลังเดินออกมาจากห้อง ในเมื่อไม่มีใครยอมรับสารภาพ ทั้งธามและมิวนิคเป็นคนที่น่าสงสัยเธอก็จะจัดการเรื่องนี้เอง มิเกลเดินออกมาจากห้องก็สวนกับไวท์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ไวท์เห็นเธอเดินออกมาแล้วเลยกลับเข้าไปหาธาม “น้องมาคุยเรื่องไรวะ” เขาถามแล้วหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม“มีคนปล่อยข่าวใส่ร้ายมิเกล” “ข่าว ข่าวอะไรวะ” “เรื่องการคบกัน” “แล้วทำไมน้องต้องมาหามึง” “มิเกลสงสัยว่ากูเป็นคนทำ” ธามพูดจบก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเข้าไปอ่านตามข่าว ด้วยความที่เรื่องนี้กำลังดังในหมู่ของนักศึกษาของแอสตันอยู่แล้วเลยไม่ยากที่จะกดเข้าไปส่อง “ไหนวะ กูไม่เห็นรู้เรื่อง” ไวท์ถามธามจึงยื่นโทรศัพท์ให้ดู “แล้วแม่งใครเป็นคนทำ ไปรื้ออดีตเขามาพูดทำไม ใครจะคบกันมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนไหมวะ ไหนจะเรื่องมือที่สามอีกเป็นความจริงรึเปล่าก็ไม่รู้” ไวท์อ่านแล้วก็ขมวดคิ้วยุ่ง “กูไม่รู้หรอกว่าเรื่องนั้นจะเป็นความจริงรึเปล่า แต่ที่รู้ตอนนี้กูรู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ” ธามนั่งครุ่นคิดไม่นานเขาก็พอจะเดาออกแล้วว่าใครเป็นคน
EP56 “ค่ะ” “พี่ชอบเกลแบบที่พูดง่ายแบบนี้มากเลยรู้มั้ย เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด” ฟีฟ่าตอบออกมาแต่สายตาของเขายังคงมองอยู่บนท้องถนนตรงหน้า“ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไม่เชื่อฟังแล้ว” “อืม…ดีแล้วค่ะ” แล้วบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนก็เงียบมาตลอดระหว่างอยู่บนรถจนกระทั่งฟีฟ่าขับกลับมาถึงคอนโด ชายหนุ่มเดินจูงมือมิเกลเข้าไปใต้ล็อบบี้และตรงดิ่งเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดไปที่ชั้นห้องพักของตนเอง ไม่นานลิฟต์ก็เปิดออก ทั้งสองเลยเดินเข้ามาในห้อง “หนูรอพี่แป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่มา” พอเดินเข้ามาในห้องฟีฟ่าก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน ส่วนมิเกลก็ยืนรออยู่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินหายเข้าไป ต่อจากนั้นไม่นานฟีฟ่าก็เดินออกมาพร้อมซองกระดาษในมือ“อะไรหรอคะ?” มิเกลมองกระดาษแผ่นนั้นและถามออกไปด้วยความสงสัย “สัญญาระหว่างเรา” ฟีฟ่าตอบแล้วก็หย่อนตัวนั่งลงข้างกายเธอพร้อมกับวางซองกระดาษสีขาวลง ข้อความบนกระดาษที่เป็นหัวข้อเขียนเอาไว้ว่า ‘สัญญาระหว่างหัวเมีย’ นี้มันเรื่องบ้าอะไร?“ทำไมต้องมีสัญญาด้วยละคะ” เธอมองมันและถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ คิดว่าฟีฟ่าพูดเล่นๆ แต่ที่ไหนได้เขาดัน
EP55ตกเย็นในวันเดียวกัน..“เป็นไงบ้างวะช่วงนี้กูเห็นซึมมาเป็นเดือน” ไวท์เอ่ยถามคนข้างกายคือธามในขณะที่เขากำลังเก็บของเข้ากระเป๋าเพื่อจะออกจากห้องหลังจากเรียนจบคลาสแล้ว “ดีขึ้นแล้ว” ธามตอบคำถามเพื่อนออกไปก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อจะเดินออกจากห้องไป“มึงจะกลับเลยหรอ” “อืม” “ธาม…กูไม่อยากให้มึงกับไอ้ฟีเป็นงี้เลยว่ะ” แต่พอได้ยินคำพูดของไวท์ร่างสูงก็หยุดยืนนิ่งแล้วหันกลับไปมอง “แบบนี้คือแบบไหน” “แบบที่พวกมึงสองคนไม่มองหน้ากัน ไม่คุยกัน ทั้งที่แต่ก่อนพวกมึงยังคุยกันอยู่บ้างแต่ตอนนี้ไม่เลยว่ะ” ไวท์พูดออกมาตามที่ตนเองรู้สึก วันไหนที่ฟีฟ่ามาเรียนก่อนธามที่เห็นนั่งอยู่ไวท์เขาก็แยกตัวออกมานั่งคนเดียวเงียบๆ ฟีฟ่าเองก็เช่นกันแต่จะต่างจากฟีฟ่าเพราะเขาค่อนข้างมีเพื่อนเยอะแต่วันไหนที่ธามมาก่อนและนั่งข้างไวท์ฟีฟ่าก็จะปลีกตัวออกมาเหมือนกัน “ปกติกูก็ไม่ชวนใครคุยอยู่แล้ว” “พวกมึงเก็บแบบนี้ก็แม่งโครตอึดอัด” “ทำตัวปกติดิ ไม่มีอะไรหรอก กูไม่ได้เป็นอะไร” “มึงแน่ใจว่ามึงไม่ได้เป็นอะไร สีหน้ามึงมันฟ้องว่ะธาม ที่กูบอกเรื่องการคบกันของมันและมิเกลเพราะกูไม่ได้อยากให้มึงเกลียดมันมากกว่าเดิมนะ กู