"พี่ไปก่อนนะน้องเนย" เด็กชายวัยเจ็ดขวบพูดกับเด็กหญิงวัยห้าขวบในวันที่ต้องเดินทางกลับอเมริกาพร้อมครอบครัว "ฮือออ ฮืออออ....พี่วาตะไม่ไปได้มั้ยคะ" เด็กหญิงร้องไห้ไม่อยากให้เขาไป "พี่สัญญาว่าพี่จะกลับมาหาน้องเนย ถ้าน้องเนยโตขึ้นน้องเนยต้องเป็นเจ้าสาวให้พี่นะ" เด็กชายจับมือเด็กหญิงที่ยังเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด "สัญญาค่ะน้องเนยจะรอเป็นเจ้าสาวของพี่วาตะ" เจ้าสาวคืออะไรเธอไม่รู้หรอก รู้แค่ว่าพี่วาตะจะกลับมาหาเธอในวันที่เธอโตขึ้น "น้องเนยโตแล้วนะพี่วาตะจะกลับมาหาน้องเนยเมื่อไหร่ น้องเนยคิดถึงพี่วาตะ" เธอนั่งดูรูปพี่วาตะที่ลุงนายส่งมาให้ ดูไปก็นั่งกินขนมไปจนไม่รู้ว่ามันหมดเหลือแต่จานเปล่าๆ "ว๊า..ขนมน้องเนยหมดแล้วต้องไปขอคุณแม่ใหม่" และคำสัญญาในวันนั้นมันทำให้เขาไปไหนไม่ได้ เขาไม่อยากทีจะหมั้นไม่อยากที่จะต้องแต่งงานกับเธอ ยั ยอ้วนตุ้ยนนุ้ย เขาต้องทำให้ยัยนั่นเกลียดเขาจนยอมยกเลิกสัญญาบ้าบอนั่นด้วยตัวเอง ปล.เรื่องนี้เป็นรุ่นลูกจากเรื่อง เจ็บเพราะรัก นะคะ
ดูเพิ่มเติมสวัสดีค่ะเราขอแนะนำตัวก่อนน๊า เราชื่อน้องเนย ลูกพ่อคีย์แม่ตาหวานเป็นลูกคนที่สี่ค่ะ ตอนนี้อายุก็18ปีแล้วค่าและกำลังจะจบมอหกในอีกไม่กี่วัน เรามีพี่น้องเยอะมากเลยนะ คนแรกพี่ชายคนโตของเราชื่อพี่อคินแล้วก็พี่ครีมพี่สาวผู้เข้มงวดกับน้องๆทุกคนซึ่งเป็นฝาแฝดพี่อคิน ตามมาด้วยเจ้เค้กพี่สาวฝาแฝดเราเองที่สนิทกันที่สุด และคนสุดท้องน้องเล็กสุดเจ้าเจแปนจอมป่วน
วันนี้เราจะไปสอบเราเลยอยากได้กำลังใจจากพี่วาตะ เราเลยนั่งดูรูปพี่วาตะเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจโดยการจุ๊บที่รูปหล่อๆเหมือนอปป้าเกาหลีแม้จะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นก็เหอะ^^
"เป็นกำลังใจให้น้องเนยด้วยนะคะพี่วาตะ จุ๊บ จุ๊บ ^^"
พี่วาตะเป็นลูกชายลุงนายซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อกับแม่ ตอนนี้พี่วาตะเค้าเรียนอยู่ที่อเมริกาแต่ก็จะกลับมาแล้วนะ มาทำตามสัญญา.......
พี่วาตะอายุมากกว่าเราสองปีตอนนี้ก็น่าจะ20
อยากจะบอกว่าเราสองคนเป็นคู่หมั้นคู่หมายกัน (แบบไม่เป็นทางการ) มาตั้งแต่เด็ก แม่เล่าให้ฟังว่าพี่วาตะบอกชอบเราตั้งแต่เราอายุแค่หนึ่งขวบเองนะตอนนั้นพี่วาตะอายุสามขวบ พี่วาตะให้พวงกุญแจพี่มิคกี้เม้าท์ให้เราด้วยนะ แม่เก็บไว้ให้และเอามาให้เราตอนขึ้นมอหนึ่งเราห้อยมันที่กระเป๋านักเรียนตลอดจนถึงปัจจุบัน โหนับดูก็หลายปี และนั่นเป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน
แล้วพอโตขึ้นมาหน่อย วันนั้นเป็นวันแต่งงานแม่กับพ่อ เรากับพี่วาตะก็มาเจอกันเป็นครั้งที่สองตอนนั้นเราจำพี่วาตะไม่ได้หรอกเพราะตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่ญี่ปุ่นก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลยแม่บอกแค่ว่าพี่วาตะเป็นลูกชายเพื่อนพ่อ ในตอนนั้นเราสามขวบพี่วาตะห้าขวบ รูปถ่ายของเราสองคนก็ยังอยู่ในอัลบั้มรูปงานแต่งงานของพ่อกับแม่ มีหลายรูปมากแต่มีอยู่รูปนึงที่เป็นไฮไลท์ รูปนั้นเป็นรูปพี่วาตะจุ๊บปากกับจุ๊บแก้มเราข้างท่ามกลางญาติสนิทมิตรสหายหลายร้อยคนในวันนั้นที่มาร่วมงาน แม่เล่าว่าพ่อคีย์โมโหจนควันออกหูเลยที่ลูกสาวโดนหนุ่มน้อยจุ๊บปากกับแก้ม แต่ทุกอย่างก็ผ่านไป เพราะแม่หวาน เรากลับมาเปิดดูกี่ครั้งก็เขิน ตอนนี้ก็ยังเขินเลยค่ะ><" เราจิ๊กมาไว้ที่ห้องเราใบนึงด้วยแอบเอาไว้ใต้หมอน
และครั้งล่าสุดที่เราได้เจอกันก็ตอนเราห้าขวบพี่วาตะเจ็ดขวบ ตอนนั้นพี่วาตะมาอยู่กับอาม่าอากงของพี่วาตะช่วงปิดเทอมช่วงนั้นพี่วาตะจะมาเที่ยวเล่นที่บ้านเราบางวันเรากับเจ้เค้กก็ไปบ้านพี่วาตะ อากงกับอาม่าพี่วาตะก็รักเรากับเจ้เค้กมากเพราะท่านไม่มีหลานสาวมีแต่หลานชายคือพี่วาตะกับวายุ เราสนิทกันมากจริงๆค่ะทั้งสี่คน พี่วาตะจะใจดีกับเรามากเป็นพิเศษ และก่อนพี่วาตะจะกลับพี่วาตะก็มาขอจองเราไว้เป็นเจ้าสาวในอนาคต
คิดแล้วก็เขินอีกละ
เรายังจำคำสัญญาในวันนั้นได้ดีเลยนะแม้จะอายุแค่ห้าขวบเพราะอะไรน่ะเหรอ....ก็เพราะแม่เราถ่ายคลิปไว้ไง5555
วันนั้นพี่วาตะจะกลับอเมริกาเพราะโรงเรียนที่โน่นใกล้เปิดแล้วพี่วาตะมาลาเราบอกคงอีกนานถึงจะได้กลับมา เราไม่ยอมให้กลับเราร้องไห้หนักมากใครพูดใครปลอบก็ไม่ยอมฟัง เราไม่ยอมให้พี่วาตะกลับท่าเดียว แต่พี่วาตะก็พูดให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหาเรา และได้บอกอีกว่าถ้าเราโตขึ้นพี่วาตะจะให้เราเป็นเจ้าสาว นั่นก็แปลว่าจะให้เราแต่งงานกับพี่วาตะน่ะสิ ซึ่งเราก็เชื่อในคำมั่นสัญญานั้นนะ เราพยายามทำให้ตัวเองโตขึ้นเร็วๆโดยการกิน!!! กินทุกอย่างที่ขวางหน้า โดยเฉพาะขนมและเค้กอร่อยๆที่ร้านอานัตตี้เพื่อนของแม่และเป็นอาของพี่วาตะกับวายุจนตอนนี้น้ำหนักหน้าตราชั่งของเราอยู่ที่.....
75กิโล+++ เราคงโตพอที่จะเป็นเจ้าสาวพี่วาตะแล้วใช่ไหม
เรื่องนี้เป็นรุ่นลูกจากเรื่อง เจ็บเพราะรัก (คีย์&ตาหวาน) ใครที่ยังไม่เคยอ่านไปตามอ่านกันได้นะคะ ขอเตือนให้เตรียมทิชชู่ซับน้ำตา
สองปีผ่านไปเนย....ตอนนี้เรากลับมาเรียนแล้วค่ะและกำลังจะจบเวลาช่างผ่านไปไวมากนานะตอนนี้ก็จะสี่ขวบแล้วในอีกไม่กี่อาทิตย์และก็เข้าโรงเรียนแล้วด้วยส่วนฝาแฝดน้อยของเราก็อายุได้ขวบกว่าๆ กำลังหัดวิ่งหัดเดินช่างพูดช่างจาเหมือนนานะตอนเด็กน้อยไม่มีผิด ลูกๆ ของเราเป็นแฝดชายสองหญิงหนึ่งค่ะคนแรกชื่อน้องวินซ์ คนที่สองน้องเวียร์ส่วนน้องเล็กคนสุดท้องของเราชื่อน้องวีวี่ค่ะชื่อลูกๆ ทั้งสามพี่วาตะขอตั้งเองเพราะตอนเกิดนานะพี่วาตะบอกไม่มีโอกาสได้ตั้งชื่อให้ ตอนนี้เรากำลังจะเลิกเรียนรอพี่วาตะมารับไปดูแหวนแต่งงานเพราะเราจะแต่งงานกันค่ะ อยุ่ด้วยกันมาจนมีลูกสี่คนเรากับพี่วาตะยังไม่ไ่ด้แต่งงานกันเลยแต่ว่าก็จดทะเบียนกันแล้วนะคะเมื่อสองปีก่อน แม่เล่าว่าแม่กับพ่อกว่าจะได้จัดงานแต่งงานลูกๆ ก็โตกันแล้วเหมือนกัน เราจำได้ค่ะเพราะวันนั้นเราเจอกับพี่วาตะและพี่วาตะก็หอมแก้มเราในวันแต่งงานของพ่อกับแม่ เรานึกถึงตอนนั้นก็อดยิ้มไมไ่ด้รูปนั้นเราเอามาใส่กรอบรูปแล้วก็ตั้งไว้ในห้องนอนตรงหัวเตียงพี่วาตะชอบหยิบมันขึ้นมาดูบ่อยๆ แล้วก็ยิ้มเหมือนกัน พี่วาตะบอกว่ามันเป็นรูปแห่งความทรงจำค่ะ ขณะที่เรากำลังนั่งรอพี่วาตะมารับ"พี่เนยค
วาตะ...."มี๊ขาาา ตอนนั้นป้านีน่าเค้ามาจับมือปะป๊าด้วยค่าา" เอาแล้วไงครับลูกสาวเขาเรื่องมันผ่านมาตั้งหลายเดือนนานะก็ยังจำมันได้อีก"เหรอคะแล้วไงต่อคะ""ปะป๊าบอกป้าคนนั้นไม่ให้มายุ่งกับปะป๊าเพราะว่าปะป๊ารักมี๊คนเดียวค่ะ" เขายิ้มกับคำตอบของนานะมากพูดมาทั้งหมดเขาถูกใจคำนี้ที่สุดเด็กสองขวบใครบอกไม่รู้เรื่องครับรุ้หมดนะครับฉลาดที่สุดเลยลูกเขา เนยถึงกับพูดอะไรไม่ออก แก้เก้อด้วยการตักอาหารทาน แล้วก็ทานจนหมดครับไม่เหลืออะไรติดจานเลยแม้แต่มะเขือเทศที่ใช้ประดับจาน หลังจากเราทานอาหารกันเสร็จเขาก็ขับรถพาลูกเมียกลับบ้านทันที เนยก็ยังมีท่าทีงอนๆ เขาอยู่ครับแต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวมีวิธีง้อแบบพิเศษรับรองเธอหายงอนแน่นอนหลังจากพานะเข้านอนเรียบร้อยแล้วเขาก็เข้ามาในห้องนอนเห็นเนยกำลังนอนอ่านหนังสือให้ลูกในท้องฟังพอเธอเห็นเขาเดินมาที่เตียงก็รีบวางหนังสือนิทานแล้วก็ล้มตัวลงนอนทันทีเขาไม่รอช้ารีบขึ้นไปนอนข้างๆ แล้วก็ดึงเธอเข้ามากอดแต่เนยก็ยังมีขืนตัวเล็กน้อยครับ"จะงอนพี่ไปถึงไหนครับคนดี เนยไม่ได้ยินที่นานะบอกเหรอว่าพี่ตอบนีน่าไปว่าไง""ไม่รู้ค่ะ เนยไม่รู้อะไรทั้งนั้นเนยงอน""อืมมมถ้างอนแบบนี้คงอยากให้พี่ง้อใช่
วาตะ.....วันนี้เขาพาเนยมาทำอัลตร้าซาวด์กันอีกรอบครับเพื่อดูการเติบโตของแฝดทั้งสามซึ่งนานะก็ขอตามมาด้วยบอกอยากเห็นหน้าน้องๆ ทั้งสามคน"ปะป๊าขาน้องของหนูอยู่ตรงไหนคะน้องไม่เห็นเลย"นานะถามเขาขณะที่คุณหมอกำลังใช้เครื่องตรวจไปที่หน้าท้องของเนยเขาก็พยายามอธิบายให้แกเข้าใจว่าน้องอยุ่ตรงไหนกันบ้าง นานะดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก"มะไหร่น้องจะออกจากท้องมี๊มาเล่นกับน้องคะคุณป้าหมอขา" ถามหมอเองเลยครับคุณลูกสาวส่วนเนยก็นอนยิ้มอยู่บนเตียง"ไม่กี่เดือนนานะก็จะได้เจอน้องๆ แล้วนะคะระหว่างที่น้องๆ อยุ่ในท้องของคุณแม่นานะต้องคอยช่วยดูแลคุณแม่ให้ทานยาของคุณป้าหมอด้วยนะคะ""ได้ค่าาาาน้องจะบอกมี๊เองค่าาา""น่ารักที่สุดเลยค่านานะสมกับจะเป็นเจ่เจ้ให้น้องๆ แล้วนะคะ""น้องรักน้องๆ ทุกคนเลยค่าคุณป้าหมอขา""คุณหมอคิดว่าน้องๆ ก็จะรักนานะเหมือนกันนะคะ"ท้องแฝดสามนี่ต้องระวังเยอะมากจริงๆ นะครับเพราะเสี่ยงที่จะครรภ์เป็นพิษ และอาจจะแท้งได้ แต่โชคดีที่เนยสุขภาพแข็งแรงดีเพราะดูแลตัวเองมาตลอดแต่ก็ต้องเฝ้าระวังการยืนการเดินการทำนั้นทำนี่รวมไปถึงการควบคุมอาหาร ส่วนเรื่องกิจกรรมของเขากับเนยก็งดกันยาวๆ เลยครับเพราะตอนแรกคิดว่
น้องเนย....ตอนนี้พี่วาตะกำลังใช้ลิ้นเลียวนไปรอบๆ กลีบกุหลาบของเราอย่างช้าๆ ค่อยๆ ปาดเลียซ้ายทีขวาทีบางทีก็แหย่ปลายลิ้นลงไปในช่องทางรักของเราก่อนจะใช้ลิ้นสะกิดติ่งเสียวของเรา ทำอย่างชำนาญขนาดนี้เป็นใครจะทนไหว"หื้ออออ พี่วาตะ เนยจะไม่ไหว"ไม่ฟังหรอกค่ะว่าเราจะทรมานขนาดไหนยังคงละเลงลิ้นทั้งเลียทั้งดูดจนในที่สุดเราก็เสร็จไปหนึ่งรอบ"อ๊าาาาาาา" เราเกร็งกระตุกไปทั้งร่างก่อนจะปลดปล่อยออกมา"แผล่บ แผล่บ แผล่บ น้ำของเนยกินกี่ครั้งก็อร่อยเหมือนเดิมนะครับ"พูดแบบนี้ใครจะไม่เขินมั่งคะ พี่วาตะกวาดเลียน้ำของเราจนเสร็จจนเรารู้สึกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง คือยิ่งเลียก็ยิ่งเสียวค่ะ แล้วเราก็เริ่มต้องการพี่วาตะมากขึ้น พี่วาตะขยับตัวขึ้นมาและจัดการจับเจ้าแท่งร้อนค่อยๆ กดมันเข้ามาในร่องรักของเราอย่างช้าๆ"อื้อออออ เบาๆ ค่ะเนยจุก""เอากันมาไม่รู้กี่ครั้งของเนยก็ยังตอดรัดพี่เหมือนเดิมเลยนะพี่แทบอยากจะแตก" พี่วาตะพูดขณะที่กำลังดันส่วนนั้นเข้ามาทีละนิดทีละนิดคือมันแน่นจริงๆ ค่ะเข้ามากี่ครั้งก็เจ็บทุกครั้งแต่เป็นความเจ็บที่รู้สึกดีและมีความสุข"อื้ออออย่าเพิ่งแตกค่ะ เนยอยากให้พี่กระแทกเนยก่อน" ตอนนี้ไม่เหลือควา
วาตะ.....ตอนนี้เขาพาเนยมาที่โรงพยาบาลเพื่อฝากท้อง เขาทั้งตื่นเต้นแล้วก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูก ความกลัวพ่อตามันหายไปละครับเหลือแค่ความดีใจที่ได้เห็นภาพอัลตร้าซาวด์ของลูกครั้งแรกถึงจะเห็นไม่ค่อยชัดเป็นแค่จุดเล็กๆ ไม่เป็นรูปเป็นร่างก็เถอะคุณหมอบอกว่าอาจมีสิทธิ์ได้ลูกแฝดครับเพราะเจอถุงตั้งครรภ์มากกว่าหนึ่งใบ จากที่ตรวจดูตอนนี้เนยท้องได้ประมาณหกสัปดาห์แล้วครับ จะดูเพศหรือดูว่าได้ฝาแฝดกี่คนคงต้องรอมารอบหน้าเพราะตอนนี้อายุครรภ์ยังน้อยไม่สามารถรถบอกอะไรได้แน่ชัด แค่รู้ว่าเนยกำลังจะมีลูกให้เขาเขาก็โคตรจะดีใจแล้วแต่...ตอนนี้เขามาถึงบ้านแล้วครับใจนี่ตุ๊มๆ ต่อมๆ เมื่อต้องเจอหนัาพ่อตา คิดว่าจะไม่กลัวละนะครับแต่พอถึงบ้านความกลัวก็กลับมา เพราะเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านท่านก็ทำตัวปกติกับเขานะ แต่พอรู้จากเนยว่าเนยท้องแล้วอาคีย์รู้เรื่องนี้แล้วด้วยเขาก็กลัวขึ้นมาซะงั้น"ไม่ลงรถเหรอคะพี่วาตะ"เขายังไม่ลงจากรถยังนั่งกำพวงมาลัยอยุ่อย่างเดิมใจแม่งอยากจะเลี้ยวรถขับออกไปเลยตอนนี้อยากจะขอไปทำใจตั้งสมาธิก่อนเข้าไปเจออาคีย์แต่คงไม่ทันละครับลูกสาวของเขาเธออุ้มตุ๊กตาวิ่งมาหาเขาด้วยความดีใจ"ปะป๊ามาแย้ววววว ปะป๊าาาาา"
หนึ่งเดือนต่อมา....เนย...จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนพอดีเลยค่ะระยะเวลาที่ผ่านมาเจนดีขึ้นมากเพราะพี่วาตะกับเราคอยดูแลเอาใจใส่ไม่เคยปล่อยให้เธอต้องเหงาหรืออยู่คนเดียว ตอนแรกๆ พี่วาตะก็กลัวนะคะกลัวว่าเจนจะทำร้ายเราอีกเพราะไม่รู้ว่าเจนจะคิดอะไรไม่ดีอีกหรือเปล่า แต่เราใช้ความรักความจริงใจคอยดูแลและพาไปเที่ยวไปทานข้าวบางครั้งก็พามาที่บ้านมาเล่นกับนานะซึ่งนานะก็น่ารักค่ะพูดคุยแล้วก็เล่นกับเจนจนเจนเริ่มคุ้นเคยกับนานะ ส่วนป๊ากับแม่ของเราก็รักเจนเหมือนลูกสาวคนนึง จากที่เราสังเกตุมาตลอดหนึ่งเดือนเจนแค่ต้องการความรักความเอาใจใส่จากคนรอบข้างแค่ทุกคนเข้าใจเธอมันก็จะไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง เจนเคยพูดว่าที่ผ่านมาเธอคิดเองมาตลอดว่าลุงนายกับมี๊ไม่มีใครรักเธอจริงเพราะเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ที่เอาเธอมาเลี้ยงก็เพียงเพราะอยากมีลูกสาวเธอเลยคอยแต่สร้างปัญหา แต่ตอนนี้เธอรุ้แล้วว่าทุกคนรักและหวังดีกับเธออย่างจริงใจเธอจึงได้เปิดใจกับทุกคน ส่วนความรู้สึกที่เธอมีให้พี่วาตะเราเข้าใจค่ะก็ไม่ได้ว่าอะไร เราหวังว่าสักวันเธอจะเจอคนที่ดีที่รักเธอจริง"เจนกลับก่อนนะคะพี่วาตะพี่เนย" ตอนนี้เรากับพี่วาตะมาส่งลุงนายม
ความคิดเห็น