Ep. 2
Mark talks
สี่ปีที่แล้ว....
เป็นช่วงที่เอ๋ยซึ่งเรียนครุศาสตร์ซึ่งเธอฝึกสอนครบหนึ่งปีแล้ว..และเตรียมสอบบรรจุแต่งตั้งเพื่อรับราชการครู..ส่วนผมจบปีห้าและกำลังจะเป็นหมอเอ็กเทิร์นปีหก..วันนั้นผมพาเพื่อนมาฉลองที่คอนโด..แอลกอฮอล์ของมึนเมาจัดเต็มเหมือนเป็นการปลดปล่อยจากการสอบที่เคร่งเครียด..ผมดื่มหนักพอสมควร..รู้สึกมึนหัวจึงนั่งพักที่โซฟามองเพื่อนชายหญิงที่กำลังเมาได้ที่ตะโกนคุยกันเสียงดังอย่างสนุกสนาน..ร่างบางของเอมิเพื่อนนักศึกษาแพทย์นั่งลงที่ข้างๆผม..กลิ่นน้ำหอมเจือกลิ่นวิสกี้ชั้นดีที่มิกกี้ลูกชายเจ้าของห้างดังหอบหิ้วมาจากบ้านเพื่อให้เพื่อนได้ลิ้มลองรสชาติเหล้าชั้นดี..หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้ๆผม..
“มาร์ค..เรามาสนุกกันไหม..ฉันไม่บอกใครหรอก..” ริมฝีปากบางเคลือบลิปสติกสีแดงเลื่อนมาใกล้ๆใบหน้าของผม..พลางช้อนสายตามองอย่างยั่วยวน..ทุกคนในห้องต่างไม่มีใครสนใจใคร..
“เฮ้ย..จะบ้าเหรอ? เพื่อนกันจะนอนด้วยกันได้ไง” ผมเขยิบตัวออกห่าง..ที่สำคัญผมรักเอ๋ยมาก..และไม่มีวันนอกใจเอ๋ย..
“ทำไม..แกกลัวยัยครูเอ๋ยนั่นมากเหรอ?” เอมิหัวเราะในลำคอ..
“เออ..” ถ้าเอ๋ยมาเห็นห้องในสภาพนี้..เอ๋ยต้องต่อว่าผมแน่ๆ..เพราะเธอไม่ชอบให้ผมดื่มเหล้าและทำห้องสกปรก..
“เอาน่าแก..หนุกๆกันนะ..อย่าคิดมาก..” เอมิไม่พูดเปล่า..มือเล็กๆค่อยๆถอดกระดุมเสื้อเชิร์ตนักศึกษาของตัวเอง..
“มาร์ค !!!” เสียงนั่นมันเหมือนหายนะที่กำลังจะมาเยือนผมในไม่ช้า..ผมหันขวับไปตามเสียง..เอ๋ยยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงหน้าผมกับเอมิ..ความจริงแล้วผมไม่ได้ทำอะไรเอมิเลย..แต่สภาพของเอมิที่กระดุมเสื้อหลุดสามเม็ดมองเห็นหน้าอกคัพซีอยู่ปริ่มๆเป็นใครก็ต้องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น..ทุกคนในห้องต่างพากันลุกขึ้นเก็บขวดเครื่องดื่มกับแก้วที่วางระเกะระกะในห้อง..บรรยากาศตอนนี้ทำให้เพื่อนๆของผมแทบจะสร่างเมาและขอตัวออกจากห้องไปคนละทิศละทาง..
“เอ๋ย..มันไม่ได้มีอะไรนะ” ผมลุกขึ้นจากโซฟา..แต่เอมิดึงผมลงมานั่งแถมยังเบียดหน้าอกที่แขนผมอย่างจงใจต่อหน้าเอ๋ย..ใบหน้าสวยเฉี่ยวของเพื่อนสาวเหมือนจะท้าทายแฟนสาวของผม..
“มาร์คทำไมทำอย่างนี้..ไปยุ่งกับใครไม่ว่านี่เอมิเพื่อนสนิทตัวเองนะ..” เอ๋ยถึงกับน้ำตาคลอ..จนผมทำอะไรไม่ถูก..
“เพื่อนสนิทก็กินกันได้นะคะครูเอ๋ย”
“เอมิพอได้แล้ว..” ผมลุกขึ้นจากโซฟาและเข้าไปกุมมือเอ๋ย..
“ทำไมล่ะมาร์ค..แกไม่เบื่อรึไง..นี่เมียหรือหมาวะดุฉิบหาย” เอมิยกยิ้มที่มุมปาก..
“เอ๋ย..อย่าร้องไห้..มาร์คไม่ได้ทำอะไรกับเอมิเลยนะ” ผมคว้าเอ๋ยเข้ามากอด..
“นี่ยัยครูเอ๋ย..จะบอกอะไรให้นะ..เธอควรจะให้อิสระมาร์คบ้าง..ไปเที่ยวผับก็ไม่ให้ไป..กะจะให้มาร์คเฝ้าหล่อนแต่ในห้องรึไง..รู้มั้ยมาร์คอึดอัดแค่ไหน..พอเค้าจะปลดปล่อยบ้างก็มาทำบรรยากาศเสีย..เปลี่ยนจากเมีย..เป็นแม่เค้าเถอะให้เค้าเอาดอกบัวกราบไหว้บูชาซะเลย..” พอเอมิพูดจบ..เอ๋ยดิ้นออกจากอ้อมกอดของผม..ร่างบางสะอื้นไห้จนตัวโยน..
“มาร์คไม่มีความสุขที่อยู่กับเอ๋ยอย่างนั้นเหรอ?” ใบหน้าขาวนวลเนียนเต็มไปด้วยน้ำตา..จนหัวใจผมชาหนึบ..ผมรู้สึกผิดเหลือเกินที่ทำให้เอ๋ยร้องไห้..เอ๋ยใช้มือเช็ดน้ำตาและเดินออกจากห้อง..ผมรีบวิ่งตาม..แต่เอ๋ยเรียกแท็กซี่หน้าคอนโดและรถคันนั้นก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว..จากนั้นเอ๋ยก็บล็อกผมทุกช่องทาง..เสื้อผ้าข้าวของในคอนโดของผมเธอก็ไม่กลับมาเอา..เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอย..บ้านเอ๋ยที่ผมเคยไปก็ประกาศขาย..ผมพยายามตามหาเอ๋ยมาตลอดสี่ปี..แต่ก็ไม่มีข่าวคราวของเธอเลย..ผมไม่เคยลืมเอ๋ยสักนาทีจริงๆ..ความรู้สึกเหมือนกับจะไปต่อกับคนอื่นก็ไม่ได้..เอ๋ยยังวิ่งวนอยู่ในใจของผมมาตลอด..จนกระทั่งกลางดึกซึ่งผมทำหน้าที่เป็นแพทย์เวรประจำห้องฉุกเฉิน..ผมแทบตกตะลึง..คนที่ผมตามหามาตลอด..ยืนอยู่ตรงหน้า..ทันทีที่ผมเห็นอดีตคนรักที่เลิกกันไปถึงสี่ปี..วินาทีนั้นเองผมสัญญากับตัวเองว่า..ผมจะทำให้เอ๋ยกลับมาเป็นของผมอีกครั้งให้ได้..
Aey talks
ทุกวันฉันต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่ออาบน้ำทำกับข้าวและส่งหลานรักไปโรงเรียน..เมื่อคืนดอกเหมยมีอาการท้องเสียโชคดีที่อาการดีขึ้น..แต่หลานสาวก็งอแงไม่อยากไปโรงเรียน..จนฉันต้องหว่านล้อมอยู่นาน..พอส่งดอกเหมยเสร็จฉันก็ไปทำงานสายและที่สำคัญฉันสอนชั่วโมงแรก..พอรถจอดสนิทฉันก็ขึ้นตึกไปเซ็นเวลา..จากนั้นจึงทั้งเดินทั้งวิ่งไปสอน..ร่างสูงในชุดเสื้อสูทผูกไทน์สีฟ้ากำลังยืนอยู่ในห้องเรียนของฉัน..
“ท่านรองภาณิณ..ดิฉันขออภัยค่ะที่เข้าห้องสายค่ะ” ฉันยกมือไหว้ขอโทษ..ดวงตาสีเข้มปรายตามองฉันเล็กน้อย..
“หมดชั่วโมงนี้พบผมที่ห้องด้วยนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มนั้นเหมือนเพชฌฆาตเลือดเย็น..ฉันต้องโดนเรียกไปตำหนิแน่ๆ..พอสอนชั่วโมงแรกเสร็จ..ฉันจึงเดินคอตกไปที่ห้องรองผู้อำนวยการ..ท่านรองภาณิณเป็นรองผู้อำนวยการที่อายุอานามเพิ่งสามสิบต้นๆ..ผู้บริหารไฟแรงที่ได้รับคำชื่นชมจากครูหลายคนในโรงเรียน..ที่สำคัญยังหล่อมากและยังโสด..อันนี้ยัยครูมะปรางเพื่อนสาวของฉันพูดกรอกหูทุกวันว่า..จะเป็นเจ้าสาวของรองภาณิณให้ได้..พอเปิดประตูห้องเข้าไปความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะผิวหน้า..ฉันหายใจสูดหายใจเข้าลึกๆอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด..
“ครูอัปสรนั่งก่อนสิครับ”พอใบหน้าคร้ามคมแย้มยิ้ม..บรรยากาศในห้องจึงเริ่มดีขึ้น..
“ดิฉันขอโทษค่ะที่เข้าห้องสาย หลานสาวดิฉันป่วยงอแงไม่ยอมไปโรงเรียนค่ะ..กว่าจะตะล่อมให้ไปโรงเรียนได้..ก็เลยมาทำงานสายค่ะ” ฉันก้มหน้าอย่างสำนึกในความผิด..
“ผมไม่ได้เรียกมาต่อว่าครับ..คราวถ้าครูอัปสรติดธุระโทรบอกผมนะครับ..ผมจะได้จัดครูเข้าสอนแทนก่อน..ทิ้งเด็กไว้แบบนั้นเผื่อเกิดอุบัติเหตุกับเด็กหรือเหตุทะเลาะวิวาทโดยไม่มีครูควบคุมชั้นเรียน..ครูอัปสรอาจจะมีความผิดก็ได้ครับ..ผมเป็นห่วงในจุดนี้..” ท่านรองภาณินพูดไปยิ้มไป..ฉันจึงรู้สึกผ่อนคลาย..พอคนตรงหน้ายิ้มก็ดูดีเหมือนกันนะ..
“ขอบคุณนะคะท่านรอง”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ..ผมอยากให้บรรยากาศในการทำงานเหมือนเราทำงานกับญาติสนิท..ไม่อยากวางอำนาจ..ผมขอเรียกครูอัปสรว่าครูเอ๋ยได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะท่านรอง”
“โอเคครับ..ครูเอ๋ยกลับไปทำงานได้แล้วครับ..” ท่านรองภาณิณส่งยิ้มให้อีกครั้ง..ฉันจึงยิ้มตอบ..และเดินออกจากห้องรองผู้อำนวยการด้วยความโล่งใจ..
“เข้าไปทำอะไรในห้องท่านรองสุดหล่อของฉัน” ครูมะปรางเพื่อนรักทำหน้าอยากรู้อยากเห็น..
“เมื่อเช้าดอกเหมยงอแงน่ะสิกว่าจะไปส่งที่โรงเรียนได้ต้องหว่านล้อมแทบตาย..ฉันก็เลยมาทำงานสายแถมสอนคาบแรก..ท่านรองเดินตรวจห้องสอนพอดี..ฉันเลยโดนเรียก”
“โดนดุไหมแก” มะปรางถามด้วยความเป็นห่วง..
“เปล่านี่..แถมท่านรองยังขอเรียกฉันว่าครูเอ๋ยด้วย ท่านรองใจดีจะตาย”
“เดี๋ยวนะ..ท่านรองสองมาตรฐานไปเปล่า..ทีฉันแทบจะเรียกชื่อจริงนามสกุล..ฉันว่ามีซัมติงแน่นอน..” ครูมะปรางทำหน้าล้อเลียน..ไอ้คนไม่ได้คิดอะไรจะคิดก็เพราะมีคนมาล้อนี่แหละ..
“บ้าแล้วแก..ท่ารองก็ใจดีกับทุกคนแหละ..แกคิดมากไปเองป่ะ..”
“น่าสงสัยว่ะแก..” มะปรางยื่นใบหน้ามาใกล้ๆอย่างจับผิด..
“ก็บอกว่าไม่มีอะไรไงล่ะ...จะว่าไปก็มีเรื่องปรึกษาว่ะแก..” ฉันนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วพาลนอนไม่หลับ..กว่าจะลากร่างขึ้นมาอาบน้ำทำกับข้าวให้หลานสาวก็แทบจะหลับตาเดิน..
“อะไรเหรอแก?”
“ฉันเจอหมอมาร์คเมื่อคืน”
“ห๊ะ!! บ้ามาก..โลกโคตรกลมเลยว่ะ” มะปรางคือเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจึงรู้เรื่องของฉันกับหมอมาร์คเป็นอย่างดี..
“นั่นสิ..ฉันจะทำยังไงดี..หมอมาร์คเหมือนพยายามจะมารื้อฟื้นเรื่องเก่า” ฉันลอบถอนหายใจอย่างหน่วงๆ
“แกก็จะไม่ให้โอกาสหมอมาร์คเลยเหรอ? ฉันยังหลอนตอนที่หมอมาร์คไปเฝ้าที่หน้าหอฉันเพราะคิดว่าแกมาอยู่กับฉันได้ไม่ลืม..แล้วหมอมาร์คก็ถามฉันตั้งนานว่าแกไปไหน..แกก็ใจแข็งเนอะ..ฉันนับถือจริงๆ”
“มะปราง..ฉันไม่คิดกลับไปคืนดีกับหมอมาร์คหรอก” ฉันยังจำทุกประโยคของเอมิเพื่อนของอดีตคนรักพูดได้เป็นอย่างดี..แถมวันนั้นยังเมานัวเนียกันอย่างไม่อายเพื่อนคนอื่นๆในห้องสักนิด..ถ้าฉันไม่เข้าไปก็คงไปต่อกันถึงไหนต่อไหนแล้ว..
“งั้นแก..ก็ต้องมีแฟนใหม่ให้หมอมาร์คเห็นไปเลย..เขาจะได้ไม่มาตอแยกับแก”
“เดี๋ยวนะแก..คนมาจีบยังไม่มีเลย..จะไปหาแฟนที่ไหน..” หลายปีที่ผ่านมา..ฉันไม่เคยเปิดรับใครเข้ามาในใจเลย..เพราะแท้จริงแล้ว..ฉันไม่เคยลืมหมอมาร์คเลย..ไม่เคยเลย..
“ก็ท่านรองภาณิณสุดหล่อไง...” พอยัยมะปรางพูดจบ..ฉันก็หยิกแขนเพื่อนสาวด้วยความหมั่นเขี้ยว...
“บ้า......”
30. The end You’re my world. Mark talksคุณเคยรักใครสักคนไหม? รักมากจนคิดไม่ออกเลยว่าถ้าขาดเธอหรือเขาคนนั้นไปจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ในช่วงเวลาที่ผมมีเธอ ผมไม่เคยมานั่งนึกนั่งจินตนาการเรื่องอะไรแบบนี้หรอก จนกระทั่งวันที่เธอจากผมไป แค่คิดว่าชีวิตนี้ไม่มีเธออีกแล้ว หัวใจของผมก็บีบรัดแน่นจนเจ็บ เจ็บจนหายใจไม่ออกและไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกสีเทาๆนี้ต่อไป โชคยังดีที่ผมยังมีเพื่อนๆอย่าง หมอมิกกี้ หมอปาล์มและหมอเป้ ที่อยู่ข้างๆในวันที่ไม่มีใคร ผมเพียรพยายามตามหาเธอในที่ๆคิดว่าเธอจะอยู่ บ้านที่ผมเคยไปเธอเมื่อครั้งเราคบหากันก็ประกาศขาย เอ๋ยทิ้งผมไปโดยที่ผมไม่มีโอกาสแก้ตัวอะไรเลย ผมใช้ชีวิตอยู่แบบไร้วิญญาณอยู่เกือบสี่ปี จนกระทั่งวันหนึ่ง..“มาร์คอยู่เวรแทนกูด้วยนะเพื่อน วันนี้แม่กูมา” ไอ้หมอมิกถึงกับยกมือไหว้ แม่ที่ว่าก็คงไม่แคล้วแม่ทูนหัวอย่างแน่นอน ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธเพราะเพิ่งจะออกจากเวรวอร์ดเมื่อเช้า ถึงจิตใจจะทนไหวแต่ร่างกายที่พร้อมจะหลับอยู่ทุกเมื่อมันเริ่มประท้วงว่าผมควรจะนอนยาวๆสักที“ขออีกวันนะมาร์คเพื่อนรัก วันนี้คงไม่เยินหรอก ก
Ep. 29“วันนี้หมอมาร์คจะเซอร์ไพรซ์อะไรน้า” คำถามของมะปรางทำให้ฉันอดนึกถึงเหตุการณ์วันวาเลนไทน์เมื่อหกปีที่แล้วอย่างเสียไม่ได้ มันเป็นครั้งแรกที่เรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง คืนพิเศษฉันโดนสามีหนุ่มหลอกล่อว่าไปเอาของขวัญที่คอนโดของเขา จนถึงวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าของขวัญที่ว่าคืออะไรแถมหลังจากผ่านเรื่องอย่างว่าฉันก็เป็นไข้จนไม่ได้ไปเรียนถึงสองวันและเหตุการณ์นั้นทำให้มะปรางพูดแซวอยู่นาน..“อาจจะเซอร์ไพร้ซ์ด้วยการไม่ว่างก็ได้นะ หมอนะจ้ะเผื่อติดเคสด่วนไรงี้” ฉันพูดไปตามความจริงแต่ถามว่ามาร์คติดงานแล้วฉันจะต้องงอนหรือน้อยใจ ฉันก็ไม่ใช่สาวใสวัยรุ่นแล้วถ้าไม่ว่างวันนี้ก็ไปกินข้าวกันวันอื่นก็ได้เพราะอาชีพแพทย์เอาเวลาแน่นอนนักไม่ได้“แล้วนี่ถามจริงท้องจริงรึเปล่า ทำไมหน้าท้องแบนราบอย่างนั้น บอกมานะหนูน้อยซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” มือเล็กๆของมะปรางลูบไปตามหน้าท้องที่แบนราบยิ่งกว่าตอนไม่ท้องเพราะช่วงแรกฉันแพ้ท้องมาก แทบจะกอดโถชักโครกนอน แต่มาร์คก็ช่วยหาของเปรี้ยวๆขนมปังกรอบชิ้นเล็กๆหรือลูกอมให้ฉันกินตลอดและเขาก็คือคนที่ช่วยให้ฉันผ่านช่วงทรมานนั้นมาได้ ถ้าฉันคลื่นไส้จนนอนไม่ได้เขาก็จะนั่งลูบหลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็
Ep. 28“เอ๋ย สวัสดี” แก๊งคุณหมอเพื่อนสนิทของมาร์ค ซึ่งมีคุณหมอมิกกี้ คุณหมอปาล์มและคุณหมอเป้เดินเข้ามาในบ้านใหม่ที่เราเพิ่งเข้าอยู่ได้เพียงอาทิตย์กว่าๆ เพียงเพราะสามีหนุ่มเห็นว่าบ้านหลังเดิมไม่มีพื้นที่หน้าบ้านกว้างๆให้ลูกๆได้วิ่งเล่น ส่วนบ้านหลังเดิมที่ฉันซื้อดาวน์ไว้ มาร์คก็จัดการใช้เงินก้อนปิดงวดทั้งหมดและเตรียมปล่อยขาย“สวัสดีค่ะ” ฉันส่งยิ้มให้แขกผู้มาเยือนพลางเชื้อเชิญให้ทุกคนนั่งพักที่โซฟาห้องรับแขก“ดอกเหมย สวัสดีเพื่อนๆคุณพ่อสิลูก” หนูน้อยเงยขึ้นจากกิจกรรมวาดภาพระบายสี ลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือตรงมายังกลุ่มคุณลุงหมอแล้วยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มจนตาหยีจนเห็นฟันทุกซี่“ดอกเหมยน่ารักน่าชังจังเลยลูก คุณลุงซื้อตุ๊กตามาฝากด้วย” คุณหมอมิกกี้ส่งกล่องของเล่นให้ดอกเหมย มือหนาลูบไปตามเส้นผมเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู“ขอบคุณค่ะ ของคุณลุงคนนี้กับคนนี้ไม่มีเหรอคะ?” เด็กน้อยถามพาซื่อไปตามประสาเด็กที่คิดว่าทุกคนที่มาเยี่ยมต้องมีของฝาก เรียกเสียงหัวเราะให้กับแก๊งคุณหมอ“เหมยไม่ถามแบบนั้นนะคะ ถ้าคุณลุงจะให้คงจะให้เอง” ฉันเอ็ดลูกสาวแกมสั่งสอนไปในตัว เหมยยังเด็กมากเพิ่งจะพูดรู้ความระบบความคิดบางอย่างอาจยังไ
Ep. 27Aey and Mark the first time (2)ฉันมองผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาที่สับสนปนความอยากรู้อยากลอง“เอ๋ย เป็นของมาร์คได้ไหม?”“..............” ฉันกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่แอบทำใจไว้ก่อนแล้วแต่ไม่คิดว่าวันที่ต้องมีสัมพันธ์ลึกซึ้งจะมาถึงเร็วกว่าที่กำหนดไว้..“เอ๋ย รังเกียจมาร์คเหรอ?” ใบหน้าหล่อเหลาตามแบบฉบับหนุ่มตี๋งอง้ำคล้ายจะผิดหวังที่ฉันนิ่งเงียบ จนฉันรีบโบกมือปฏิเสธ“ไม่ใช่แบบนั้นนะมาร์ค คือว่าเอ๋ย..เอ๋ย..” คือฉันไม่ได้รังเกียจมาร์คเหมือนที่ชายหนุ่มเข้าใจ แต่ฉันยังไม่พร้อมจะมีอะไรกับเขาต่างหาก“ถ้าไม่รังเกียจมาร์ค มาร์คทำต่อได้ไหม..” พอพูดจบเขาก็แตะริมฝีปากไล่ไปสันกรามเรื่อยลงมาจนถึงซอกคอทั้งสองข้าง ความรู้สึกประหลาดจู่โจมเข้ามาอีกครั้งใจนึกอยากจะปัดป้องแต่กลับไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนเป็นอัมพาตชั่วคราว อากาศในห้องนอนเย็นเยียบแม้ไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ หากแต่อยู่ในช่วงกุมภาพันธ์สภาพอากาศยังคงเย็นสบายในช่วงกลางคืน ทว่าอุณหภูมิร่างกายกลับพุ่งสูงตามอารมณ์อย่างว่าที่เริ่มก่อตัวขึ้น ว่าที่คุณหมอค่อยๆรั้งชุดเดรสของฉันขึ้นมาเหนืออกและถอดมันออกจนเหลือแต่บราเซียสีหวานกับแพนตี
Ep. 26Aey and Mark the first time (1)วันวาเลนไทน์ หกปีที่แล้ว....@ คอนโดหมอมาร์ค“แม่ง..เหี้ย..โคตรเลว” ขณะที่เหล่านักศึกษาแพทย์ปีสามกำลังจับกลุ่มกันติวหนังสือ นักศึกษาแพทย์เป้ผุดลุกขึ้นมาจากที่นั่ง เรียกความสนใจให้กับเพื่อนๆที่กำลังใช้สมาธิจดจ่อกับหนังสือได้เป็นอย่างดี“มึงเป็นอะไรไอ้เป้ กูเห็นมึงแปลกๆตั้งแต่เข้ามาแล้ว” มิกกี้หนุ่มหล่อพ่อรวยมากลูกชายเจ้าของห้างดังเอ่ยถามเจือความเป็นห่วงที่จู่ๆเพื่อนสนิทก็ลุกขึ้นมาโวยวาย“ก็นาเดียแฟนกู..ไม่สิอดีต พาผู้ชายมานอนในห้องกู แม่ง..คาหนังคาเขา” เป้กำโทรศัพท์แน่นด้วยความโกรธ เขาแทบจะปามันทิ้งถ้าไม่ติดว่ากำลังผ่อนมันอยู่อ่ะนะ“เห้..คา..เลยเหรอวะ โหมึงถ่ายคลิปไว้มั้ย?” ปาล์มหนุ่มอารมณ์ดีของกลุ่มพูดขึ้นมา เขาตั้งใจทำให้อารมณ์โกรธของเป้ลดลงไม่ได้ตั้งใจกวนบาทาเพื่อนแต่อย่างใด..“ไอ้ปาล์มมึงกวนกูเหรอ? เจ็บใจว่ะ”“มึงเป็นผัวนาเดียก่อนไอ้นั่น เรียกร้องสิทธิ์เลยถ้ามึงยังเสียดายเค้า” มิกกี้แนะนำเพราะคงเห็นเพื่อนทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเลิก ทำยังกะละครทั้งรักทั้งแค้นอะไรอย่างนั้น..“ผัวอะไร กูไม่เคยฟีทกะเขา” พอเป้บอกความลับนี้ออกมา ทำเอาทุกคนทำหน้าประหลา
Ep. 25“ป๊าครับ นี่เอ๋ยกับดอกเหมย” หมอมาร์คแนะนำฉันกับผู้เป็นพ่อของตัวเองหรือมีศักดิ์เป็นพ่อสามีของฉันนั่นเอง เจ้าสัวธนาเป็นชายวัยค่อนกลางคนที่ยังดูแข็งแรง ใบหน้าของมาร์คละม้ายคล้ายคลึงกับผู้เป็นพ่อแทบจะถอดแบบกันมาทั้งหมด ฉันยกมือไหว้พร้อมกับดอกเหมยที่เดินเข้าไปกราบที่ตักแบบน่ารักจนผู้เป็นปู่อดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้“สวัสดีค่ะอากง”“อามาร์ค ลูกลื้อนี่มันน่ารักน่าชังจริงๆ ตาเหมือนลื้อแต่คิ้วจมูกปากเหมือนอาเอ๋ย” คุณปู่ลูบเส้นผมของหลานสาวเบาๆใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา“อาม่าซื้อขนมกับของเล่นมาฝากด้วยนะ” คุณลินจงให้พนักงานหอบถุงกระดาษเกือบๆสิบถุงมาวางตรงหน้าหลานสาวคนโปรด เด็กน้อยมองของตรงหน้าอย่างตาวาว ใบหน้าเล็กๆน่ารักยิ้มกว้างอย่างมีความสุขที่จะได้ของเล่นชิ้นโปรดตามที่ผู้เป็นย่ารับปากไว้“โอโห เยอะจังเลยค่ะอาม่า เหมยจะเล่นวันละตัว” ดอกเหมยหยิบตุ๊กตาบาร์บี้คอลเลคชั่นต่างๆออกมาจากกล่อง ดวงตาแป๋วๆทอประกายความสุขที่ได้ของที่ตัวเองอยากได้“อาม่าทอดไก่ร้อนๆ อาดอกเหมยหิวรึยังลูก”“หิวค่ะ คุณแม่กับน้องก็หิว” ลูกสาวตัวน้อยเดินเข้ามาพลางซบใบหน้าเล็กๆที่ท้องของฉัน ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพี่