Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-03-18 02:44:28

กูแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง หน้านี่ชาไปครึ่งซีก ส่งผิด! ส่งผิด! ถ้าไม่ส่งให้ฉันมันตั้งใจจะส่งให้ใคร อย่าบอกนะ ว่าอินังสายหมอยนั่น

แม่งเอ้ย! ฉันปลดล็อคโทรศัพท์เปิดไลน์อ่านทันที ไลน์บอกว่าคิดถึง แล้วอีกห้านาทีบอกว่าส่งผิด มึงบ้าไหม!

LINE | KAI

[KAI: ส่งผิด]

[BAIMAI: 🦶🏻(เอาบาทากูไป)]

[KAI: ดุจังป้า ฉีดยารึยัง? ^^]

ทำไมตอบเร็วนักล่ะ !!! อ่านปุ๊บปับอย่างกับเขาแนบโทรศัพท์ไว้ข้างหัว

[BAIMAI: นายนั่นแหละ ฉีดยาต้านเอดส์รึยัง? -_-]

[KAI: ไม่ รอเอาไปติดป้าก่อน ^^]

อิไคล์! ฉันกำหมัดแน่น อยากกรี๊ดมาก และตอนนี้ความโมโหก็ทำมือฉันสั่น จนพิมพ์ตอบเขาไม่ได้ ฉันจึงรีบขับรถกลับคอนโดไปสงบสติอารมณ์

แต่รู้อะไรไหม ฉันดันอยู่คอนโดเดียวกันกับไคล์! ตอนนั้นฉันบ้าไคล์มาก บ้าขนาดขอซื้อคอนโดแยกจากเจ๊ปลายฟ้า มาอยู่ใกล้ ๆ เขา

โอ้ย! กูอยากจะเทขายห้องละสองบาทตอนนี้เลย

ฉันเดินตึงตังไปกดลิฟต์ ระหว่างรอก็มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง เพราะไคล์เขารู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ แต่ฉันยังไม่ชวนเขาเข้าห้องนะ ฉันยังไม่ว่างแว๊กซ์ขนหน้าแข้ง

พอ ๆ ช่างมันเถอะ กวนตีนแบบนี้ฉันไม่อยากนึกถึง รอใจเย็นลงแป๊บนึง แต่จะใจเย็นได้ไงวะ เข้ามาให้ห้องก็... ควาย ควาย ควาย ตอกย้ำกูชัด ๆ

เตะแม่ง! โอ้ย! ไม่เอา! หงุดหงิดฉิบ หงุดหงิดจนไม่รู้จะลงกับอะไร ฉันจึงมองไปที่ระเบียงอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบเปิดประตูกระจกเดินออกไป

ยืนกำมือสองข้าง เชิดหน้าขึ้น...

“อิไคล์ อิดอก...” เหลือเชื่อ... ฉันรู้สึกโล่งมาก ห้องข้าง ๆ จะด่าพ่อด่าแม่ก็เรื่องของมัน แต่ที่ฉันแหกปากเมื่อกี้มันได้ผลจริง ๆ ตอนนี้ฉันยืนมองรถมองถนนนิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าตัวเองจะรู้สึกยังไงต่อดี อยากเลิกชอบ แต่ก็ทำไม่ได้

ฉันจึงเดินไปรินไวน์มานั่งจิบเงียบ ๆ จนค่ำ รถบนท้องถนนเริ่มเปิดไฟเป็นดวง ๆ และติดแจบนทางด่วน เออ... คนไทยแม่งทนเก่งว่ะ รถติดจะตายยังขับรถส่วนตัวไปทำงานกัน แต่ก็นะ มันสบายกว่ารถสาธารณะนี่หว่า

ก็เหมือนฉันที่ชอบไคล์ ชอบมานาน ฉันมีความสุขที่ได้ชอบเขา ถึงแม้มันจะเป็นแบบเดิมซ้ำ ๆ อย่างน้อยชีวิตก็มีสีสันกับความมโนของตัวเอง เฮ้อ... มันไม่เกี่ยวกับรถติดหรอก แต่กูไม่รู้จะเปรียบอะไรดี ให้ตัวเองเป็นคนโง่ที่มีสมองคิดกับเขา

เซ็ง... สมแล้วที่ไคล์ให้ควายกูมาหลายตัว

ฉันดื่มไวน์เมาได้ที่ก็อาบน้ำนอน พรุ่งนี้มีประชุมแรกและประชุมเช้า เฮ้อ... ควายไคล์ ฉันขอกำลังใจหน่อยสิ

ฉันดึงตุ๊กตาควายบนเตียงมากอดแนบอก ตั้งแต่เขาให้ฉันมา ถึงมันจะเน่าแค่ไหนฉันก็ไม่กล้าซัก เพราะฉันชินกับกลิ่นควายพวกนี้แล้ว มันคล้ายกับกลิ่นไคล์

ตื่นเช้ามาฉันก็รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำ ชีวิตน่าเบื่อมาก ฉันไม่ชอบงานที่พ่อให้ทำ เรียนมาก็เหนื่อยแล้ว แม่งต้องมาทำงานงก ๆ อีก ฉันอยากไปเที่ยวสักสิบปี มีผัวเป็นกัปตันพร้อมตั๋วฟรีทุกเดือน

จริง ๆ ไม่ได้หวังอะไรเรื่องตั๋วหรอก แค่อยากมีผัวเป็นกัปตัน

เห็นไหม! ฉันควรไปพบจิตแพทย์ เมื่อวานโดนไคล์กวนบาทามาแท้ ๆ อีกวันมากูก็พร่ำถึงเขาแล้ว

เรื่องจิตแพทย์เอาไว้ทีหลัง เพราะตอนนี้ถึงบริษัท ฉันก็ตรงดิ่งเข้าห้องประชุมทันที ก่อนที่จะเห็นทุกคนเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว ทั้งฝ่ายไอที การเงิน PR บลา ๆ ฉันเองก็จำไม่หมดหรอก ประชุมครั้งแรกนี่หว่า

“สวัสดีค่ะคุณใบไม้ มาทันเวลาพอดีเลยนะคะ” ฉันเป็นผู้บริหารที่เด็กไปสินะ พนักงานอาวุโสถึงได้ถามคำถาม เชิงประชดประชันใส่

“ดีกว่าสาย คุณมีปัญหาอะไรกับฉันไหม?” เงียบ เลขาพี่เจที่เดินตามหลัง เธอวางแฟ้มรายละเอียดการประชุมให้ฉันทันที ก่อนที่ฉันจะเลื่อนเก้าอี้นั่งมองหน้าทุกคน

“แผนกไหนพร้อม?” แผนกไอทียกมือขึ้น ส่วนคนอื่นนั่งอ่านเอกสารตัวเอง แม่งเหมือนไม่เตรียมพร้อมกันเลย

“ไอทีครับ”

“งั้น... แผนกไอทีทีหลัง เชิญการเงิน”

“คะ? กะ การเงินเหรอคะ?”

“ใช่ ต้องให้ฉันเชิญคุณอีกกี่ครั้ง?” ป้าอาวุโสบ่นอุบอิบเบา ๆ จนเจ๊ฝ่ายการเงินเธอลุกขึ้น เดินกอดแฟ้มไปที่โปรเจคเตอร์

พ่อรับคนเข้าทำงานประสาอะไรวะ เฉื่อยฉิบหาย

ดูดิ แต่ละคนท่าทางไม่ได้เรื่องสักคน จะเข้าไปชุมแล้วแท้ ๆ ยังไม่พร้อม เอกสารกูว่าพิมพ์เมื่อเช้าแน่นอน เดินผ่านทีกลิ่นหมึกยังใหม่อยู่เลย

“สวัสดีค่ะ สักครู่นะคะ” เธอเปิดแฟ้มพรึบพับอย่างลุกลี้ลุกลน อะไรวะ! นี่มันพรีเซนโครงงานของเด็กประถมเหรอ!

“คุณเป็นผู้จัดการแผนกได้ยังไง?” ฉันถามและอ่านชื่อในแฟ้มไปด้วย ‘รษา’

“คะ? คุณบอสเลื่อนตำแหน่งให้ เมื่อสองเดือนที่แล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ยัง...” ฉันยกมือขึ้น สั่งให้เงียบ

“ฉันขอดูรายงานการเงินและการบัญชีประจำเดือน เดือนสาม เดือนสี่ เดือนห้า ก่อนหน้าที่คุณจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมา”

“คะ คือฉันไม่ได้สรุปมาน่ะค่ะ เป็นของผู้จัดการคนเก่า มีแค่เดือนที่แล้วค่ะ นึกว่าหัวข้อประชุมคือยอดทั้งหมดของเดือนที่แล้ว”

“คุณเพิ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน แต่ไม่มีข้อมูลยอดสรุปของผู้จัดการคนเก่าเข้าประชุมด้วย คุณทำงานได้ยังไง?”

“คือ...”

“หน้าที่คุณคืออะไร? รับผิดชอบอะไร? หน้าที่คุณแค่โชว์ตารางขึ้นโปรเจคเตอร์และอ่านงั้นเหรอ?”

“คุณใบไม้คะ รษายังใหม่ค่ะ” พนักงานคนอื่นเริ่มออกปากช่วยเธอ แต่พอฉันหันไปมองก็เงียบกริบ

“คุณไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ไปทำตัวเองให้พร้อม แล้วฉันจะพิจารณาอีกที”

“จะลดตำแหน่งพนักงาน คุณใบไม้ต้องปรึกษาคุณบอสก่อนนะคะ” ป้าอาวุโสรีบพูดขึ้นมา

“ปรึกษาทำไม? จะเรียกคะแนนให้พ่อฉันสงสารงั้นเหรอ ฝ่ายไอทีเชิญ ฉันไม่อยากเสียเวลา”

ฝ่ายไอทีลุกขึ้นเสียบแฟลชไดร์ฟทันที แผนกนี้เป็นแผนกที่มีแต่ผู้ชาย ไม่จุกจิกและไม่มีทีท่าทำปากมุบมิบใส่ฉัน

“นี่คือเว็บหลัก หน้าบ้านของบริษัทxx ตามด้วยระบบการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูงสุด ทางเราจะส่งมอบอาทิตย์หน้าครับ”

ฉันมองตามเมาส์และพยักหน้าเบา ๆ

“ส่งมอบอาทิตย์หน้า ระบบแอดมินเรียบร้อยรึยัง?”

“เรียบร้อยครับ ตอนนี้กำลังให้ฝ่ายความปลอดภัยลองตรวจสอบ”

“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันลองแฮ็กเอง ไว้เจอช่องโหว่ฉันจะเขียนรายงานไป มีรายละเอียดงานที่จะส่งอีกไหม?”

“มีครับ... ของบริษัทนำเข้า”

“อืม พูดมา”

ฉันนั่งฟังแต่ละแผนก สรุปรายงานเดือนที่ผ่านมา ทั้งรู้สึกดีและไม่ดี รู้สึกดีคือผู้จัดการบางคน กระตือรือร้นที่จะตอบคำถาม และนำเสนองานตัวเอง แต่ไม่รู้สึกดีคือ ป้าแก่ ๆ ที่อยู่มารุ่นพ่อแม่ แกชอบขัดฉัน คิดว่าฉันเป็นเด็กที่ต้องฟังผู้ใหญ่

ออกจากห้องประชุม ฉันก็เดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ระหว่างที่ฉันก้นแตะชักโครกเล่นโทรศัพท์ เสียงหมามันก็เห่าขึ้นมาใกล้ ๆ

“ประชุมเมื่อกี้เป็นอะไรที่เชี่ยมาก” เสียงรษาที่พยายามกระซิบบอกใครสักคน ฉันได้ยินชัดมาก

“เออ อยู่ ๆเด็กเมื่อวานซืนก็มาลดตำแหน่งกู ไม่เห็นใจดีเหมือนเจ้านายเก่าเลยว่ะ เออ เหมือนเด็กเก็บกด ยิ้มก็ไม่ยิ้ม โคตรเกลียดคนบ้าอำนาจ”

บ้าเอ้ย! ฉันถอนหายใจเสียงดังแล้วกดชักโครกทันที ก่อนที่จะเดินออกไปยืนพิงอ่างล้างหน้า กอดอกรอ

“แค่นี้นะ ไปเป็นขี้ข้าเหมือนเดิมละ” ขี้ข้า... เหอะ!

ฉันกระตุกริมฝีปากเบา ๆ อย่างสมเพช จนผู้หญิงคนนั้นที่ฉันคิดว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน เธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา

เธอเงยหน้ามองฉันตกใจมาก และพยายามก้มหน้าก้มตาเดินไปล้างมือ ไกล ๆ

“อีขี้ข้า”

“คะ? พูดกับดิฉันเหรอคะ”

“ใช่...” ฉันหันไปมองรษา ที่ทำหน้าตกใจเบิกตากว้าง เธอพยายามกำมือที่เปียกๆสองข้างไว้ เพื่อสงบสติอารมณ์ อะไรของมึง กูต่างหากที่ต้องสงบสติอารมณ์!

“ทำไมคุณใบไม้เรียกรษาแบบนั้นล่ะคะ”

“เธอพูดเองนี่ ว่าเธอเป็น ขี้ข้า” เท่านั้นแหละ รษาเธอรีบเดินมาหาฉันทันที แต่ฉันถอยไปยืนอีกฝั่งและมองเธอหัวจรดเท้า

“คุณใบไม้คะ คือ... รษาไม่ได้ตั้งใจค่ะ รษาแค่รู้สึกแย่ที่ถูกลดตำแหน่ง เลยพูดไปไม่คิด”

“ฉันไม่ว่า ถ้าเธอจะด่าว่าฉันยังไง แต่จำใส่หัวด้วย ว่าที่เหยียบอยู่...มันบริษัทฉัน”

พนักงานคนอื่นที่จะเข้าห้องน้ำ ถึงกลับรีบเบรกกะทันหัน พวกเขายืนมองฉันกับรษา จนเธอพยายามหันหน้าไปทางอื่นอาย ๆ

“คือ...”

“สงสัยฉันต้องเข้าห้องน้ำพนักงานบ่อย ๆ จะได้กำจัดพวกมารหัวขนทิ้ง ๆ ให้หมด ไง... ที่ยืน ๆ ฟัง มีใครอยู่แผนก HR ไหม”

พนักงานคนนึงยกมือขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

“ดิฉันค่ะ”

“ฝากจัดการให้ฉันด้วย เอาขี้ข้าคนนนี้ออกไป” รษายืนอ้าปากค้าง และหายใจฟึดฟัดกระทืบเท้าใส่ แต่ฉันไม่สนใจ เดินออกไปผ่านพนักงานที่แหวกทางให้ กลับห้องตัวเอง

เรื่องนี้ฉันไม่อยากคุยกับใคร เพราะฉันไม่ได้รู้สึกดีที่ได้ไล่ใครออก แต่ถ้าเขาไม่รักบริษัท ไม่รักที่จะทำงานที่นี่ ก็ออกไปเถอะ อยู่ไปก็เท่านั้น

พอฉันมาถึงหน้าห้องทำงาน พี่เจเลขาก็ยืนขึ้นทันที ก่อนที่เธอจะทำหน้าตกใจ และชี้นิ้วที่ประตูห้องฉัน

“อะไรคะพี่เจ?” พี่เจเลขาเธอยิ้ม แล้วก้มหน้าลง เหมือนจะเขินหรือกลัวฉันก็ไม่แน่ใจ สงสัยพ่อมาโวยฉันแน่เลย

ฉันจึงรีบดันประตูเปิดเข้าไป จนฉันเห็นเก้าอี้ทำงานตัวเองหันหลัง และหมุนไปหมุนมาอยู่ที่โต๊ะทำงาน

“ข่าวไวนะคะ ถามจริง ๆ เถอะ พ่อรับคนทำงานด้วยอะไร ผลงาน ความขยัน หรือนม?”

“นม” ห้ะ! ไม่ใช่เสียงพ่อ แต่เป็นเสียง...

อิไคล์!

จริง ๆ ด้วย เขาหมุนเก้าอี้กลับมามองฉัน พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วมีสิทธิ์อะไรมานั่งที่โต๊ะทำงานฉัน! อยากเป็นผัวฉันนักเหรอ?

แม่ง... ได้เป็นจริง ๆ แล้วจะหนาว!

“มาทำไม”

“อยากมา” ฉันเดินไปหาเขาที่โต๊ะทำงาน แล้วกอดอกจ้องเขาแทน

“มา ทำ ไม!” เมื่อฉันถามย้ำ เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก้าวมาชิดตัวฉันทันที

ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ ฉันได้กลิ่นตัวหอม ๆ เขา และรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา

“อยาก... มา”

“ไคล์ ออกไปห่าง ๆ”

“ทุกวันนี้ก็ห่างจะตายอยู่แล้ว ไม่อยากห่างเลย” เขาจับผมฉันขึ้นไปดมแล้วยิ้มจนตาหยี โอ้ย! แกจะมาไม้ไหนอีก! ดมผมขนาดนี้ กอดกูเลยสิ คืนนี้จะได้ไม่ต้องอาบน้ำ

“อย่ามาล้อเล่นไคล์ มาทำอะไร”

“เรื่องเว็บ แบรนด์เสื้อผ้าแม่” เออ กว่าจะพูดได้ มโนไปถึงดาวอังคารแล้วกู

“นั่งสิ...”

“ไม่ดีกว่า ป้ากินอะไรรึยัง? เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวและคุยกันข้างนอกไหม” เขาล้วงกระเป๋ากางเกงถามฉัน มึง... ริมฝีปากสวย ๆ เขาไม่หุบยิ้มเลย

ตอนนี้กูไม่หิวข้าวแล้ว กูหิวเด็ก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   บทที่ 344

    "ถามจริง? o_O เฮ้อ...สงสารน้องนะ แต่จะทำยังไงได้ เราว่าไทเปเข้าใจเชนนะ อย่าคิดมากเลย^^"เจแปนยังน่ารักและดีกับผม ขนาดผมทำร้ายจิตใจเธอและนอกใจเธอมานานซึ่งผมรู้สึกโชคดีมาก..ที่สิ่งที่ผมทำ มันไม่ได้จบที่เสียใครสักคนไปผมยังมีเพื่อนที่ดี มีแฟนที่ดี..และได้ลงเอยกับคนที่รักผมทั้งใจและตอนนี้มีผมก็มีพยายา

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   บทที่ 343

    พามาส่งงั้นเหรอ?ผมอึ้งไปเลย...ผมรู้สึกผิดมาก ทำไมผมต้องถ่อไปพระรามสองดูชุดเครื่องนอนเอาวันนี้ ทำไมผมถึงทิ้งโทรศัพท์ปล่อยให้เธอโทรเข้าจนแบตหมดทำไมวะ?!ถ้าไทเปกับลูกเป็นอะไร ผมไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆ"ขอบคุณมากครับ ขอบคุณจริงๆ"ผมยกมือไหว้พี่บุรุษไปรษณีย์รอบที่สิบ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะยิ้มและตบไหล่ผมเบ

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   บทที่ 342

    ฉันขยับตัวซ้ายทีขวาทีบนโซฟา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งวางหมาดๆ ขึ้นมากดโทรหาพี่เชนอีกครั้งแต่โทรเท่าไหร่พี่เชนก็ไม่รับ แถมสายหลังๆยังปิดเครื่องอีกต่างหากเขาขับรถอยู่ ติดประชุม หรือยุ่ง? ทำไมไม่บอกฉันบ้าง นี่จะมืดค่ำแล้วนะฉันเป็นห่วง และท้องฉันก็แก่มากด้วย ทำไมพี่เชนกล้าทิ้งฉันไว้แบบนี้ตุบๆฉันคลำ

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   บทที่ 341

    ตอนนี้เราคุยไปทำไป..แถมยังห้ามลูกเด็กเล็กแดงไปด้วย จนสักพักของเซอร์ไพรส์เราเสร็จ ฉันพับกระดาษผลตรวจเป็นรูปหัวใจห้อยลูกโป่งไว้เพียบแต่!....ลูกโป่งหลายลูก กระดาษพับหัวใจก็หลายดวง พี่เชนจะมีความอดทนไขปริศนาแสนเซอร์ไพรส์ฉันได้ไหม?!"เรียบร้อย! เฮ้อ..พี่เจแปนคิดแผนเซอร์ไพรส์เก่งแบบนี้ เซอร์ไพรส์พี่กัปตั

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   บทที่ 340

    เรื่องท้องไม่ท้อง..คงต้องเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ฉันกับพี่เชนถูกดึงกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่แล้ว และทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวว่าฉันควรมีลูกแฝด มีแข่งกับพี่เจแปนไปเลย"ไม่ไหวครับๆ คนเดียวก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่?^^" พี่เชนตอบยิ้มๆแล้วตักนู่นตักนี่ให้ฉันกิน"ไม่ไหว? เออๆเดี๋ยวยกโซลให้ไปเลี้ยงหนึ่งวัน คงไม

  • Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย...อย่าท้าทายกัปตัน   บทที่ 339

    ฉันก้มมองท้องโตๆพี่เจแปน แล้วพยักหน้าทั้งน้ำตา"ค่ะ ไทเปจะรีบตามไป"ก้อก ก้อก ก้อก..."ออกมาได้แล้ว พวกเธอสองสาว^^" เมื่อฉันเห็นแม่ฮายเคาะประตูเปิดเข้ามา..น้ำตาฉันก็ไหลอีก เพราะฉันจำได้ ว่าเราไม่ถูกกันและเกลียดกันมาก.. แต่วันนี้ท่านกลับมาเป็นที่ปรึกษาและเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ฉัน ฉันนึกไม่ถึงจริงๆว่าเราจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status