“ตื่นแล้วเหรอไหม” น้ำเสียงอบอุ่นของผู้เป็นแม่เอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวเดินเข้ามาในห้องทานอาหารของบ้าน
“ค่ะ” “ทำไมหน้าตาดูไม่สดชื่นแบบนั้นล่ะลูก นอนไม่หลับเหรอ” “ฝันร้ายนิดหน่อยนะคะแม่ไหมเลยหลับไม่ค่อยสนิท” เพลงขวัญเอ่ยบอกถึงสาเหตุที่เช้านี้ทำให้เธอตาโรยขอบตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า ขนาดใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดไว้ก็แทบจะเอาไม่อยู่ “งั้นก็กลับขึ้นไปนอนก่อนดีมั้ยลูก” “ไม่ได้ค่ะ เช้านี้ไหมมีประชุมงานกับลูกค้า” เพลงขวัญบอกปัด นั่นเพราะเธอก็อยากนอนต่อใจจะขาด แต่ทำไม่ได้ “พูดถึงเรื่องงาน เมื่อไหร่จะพร้อมเข้ามาช่วยงานพ่อที่บริษัท” เสียงของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น นั่นเพราะไม่ค่อยชอบใจงานของลูกสาวที่ทำอยู่ตอนนี้สักเท่าไหร่ บอกว่าไปช่วยงานเพื่อน บริษัทของเพื่อนแท้ๆ แทนที่จะให้ตำแหน่งใหญ่โตแต่กลับไปเป็นแค่เซลล์ วิ่งเหนือล่องใต้อยู่แบบนี้แทบจะตลอดเวลา บางครั้งก็เห็นบินไปทำงานต่างประเทศ หาประสบการณ์มันก็ดี แต่งานที่ทำมันอาจไม่เหมาะกับเพลงขวัญก็เป็นได้ “ขอเวลาไหมทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่บริษัทเพื่อนอีกสักปีสองปีก่อนนะคะพ่อ รับรองว่าไหมเข้าไปช่วยงานพ่อที่บริษัทแน่นอนค่ะ” “นานไป เพราะตอนนี้พ่อ…” ยังไม่ทันที่อาคมจะได้เอ่ยว่าตอนนี้เขานั้นหาคนสำคัญมาช่วยงานได้แล้ว และจะมาเป็นสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว มาอยู่ในฐานะลูกเขยก็ถูกผู้เป็นภรรยาปรามขึ้นเสียก่อน “คุณคะ” จิตราเอ่ยปรามสามี ก่อนจะหันมาคุยกับลูกสาวต่อ “วันนี้ลูกพอจะมีเวลาคุยกับแม่หน่อยได้มั้ย” “แม่มีธุระสำคัญอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมหน้าตาดูเคร่งเครียดชอบกล” เพลงขวัญมองแม่กับพ่อสลับกัน พ่อยังคงปกติแต่แม่ไม่ เพราะคอยแต่หลบสายตาเธอ “บอกลูกไปตามตรงเถอะคุณอ้อย ไม่ต้องอ้อมค้อมไปหรอก” เสียงของอาคมดังขึ้น เพราะจะช้าหรือเร็วเพลงขวัญก็ต้องรับรู้ “บอกตามตรง เรื่องอะไรคะพ่อ” “คุณจะบอกเองหรือว่าให้ผมเป็นคนบอก” เมื่อเห็นภรรยาอึกๆ อักๆ อาคมก็อาสา “ฉันบอกลูกเองค่ะ” “แม่คะ พ่อคะ จะพูดอะไรกับไหมคะ ดูมีลับลมคมในชอบกล หรือว่ามีใครไม่สบายร้ายแรงอะไรหรือเปล่า” “เปล่าลูก แม่กับพ่อยังสบายดี ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรทั้งนั้น” จิตราเอ่ยตอบ แต่ก็ไม่วายถอนหายใจออกมาหนักๆ นั่นเพราะเธอไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดนี้ของสามีสักเท่าไหร่ แต่ก็ขัดไม่ได้เช่นกัน “แล้วเรื่องอะไรกันคะ” “เรื่อง…” ยังไม่ทันที่จิตราจะได้เอ่ยจบประโยค อาคมที่รอจังหวะอยู่นานกลับเอ่ยแทรกขึ้นเสียเอง “อีกสามเดือนลูกต้องแต่งงานกับคนที่พ่อหามาให้” “ว่าอะไรนะคะ” ทันทีที่ได้ฟังเพลงขวัญถึงกับหูอื้อไปชั่วขณะ โลกทั้งใบของเธอเงียบสนิทไปในพริบตา จู่ๆ ต้องมารับรู้ว่าตัวเองต้องแต่งงานกับใครก็ไม่รู้แบบนี้มีใครบ้างจะไม่ช็อก “ลูกต้องแต่งงานกับลูกชายเพื่อนสนิทของพ่อ” “มะ…เมื่อไหร่คะ” “อีกสามเดือน ฤกษ์แต่งงานพ่อจัดการหาไว้ให้หมดแล้ว ลูกมีหน้าที่แค่ไปลองชุดที่จะใช้วันแต่ง ส่วนงานพิธีการและงานอื่นๆ ทางฝ่ายชายจะจ้างออแกไนซ์มาดูแลทั้งหมด สถานที่แต่งงานคือเขาใหญ่ รีสอร์ตของว่าที่เจ้าบ่าวของลูก” อาคมเอ่ยทุกคำชัดเจน แต่เวลานี้เพลงขวัญหูดับไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น จิตรากุมมือลูกสาวไว้พร้อมกับบีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจ แต่จังหวะที่หันไปสบตาลูกสาวที่เวลานี้แดงก่ำ ดวงตาคู่สวยสั่นระริกพร้อมกับมีน้ำตาเอ่อล้น หัวใจของคนเป็นแม่ก็แทบสลาย “แต่งงานแต่งการเป็นฝั่งเป็นฝาเสียตอนนี้ก็ดีแล้ว จะได้มีลูกทันใช้ อีกอย่างพี่เขาก็ไม่ได้พิการหรือขี้เหร่อะไร ไม่ต้องห่วงว่าพ่อจะหาคนไม่ดีมาให้ลูกหรอกนะ” “มะ…ไหมไปทำงานก่อนนะคะแม่พ่อ สวัสดีค่ะ” เอ่ยจบเพลงขวัญก็ลุกขึ้นพร้อมกับคว้ากระเป๋าทำงานออกไปจากบ้านด้วยอาการอึน สมองแทบไม่รับรู้อะไรแล้วในตอนนี้ “ไหม ไหวมั้ยลูก” จิตราเอ่ยถามตามหลัง แต่คนที่ตอบกลับเป็นสามีไม่ใช่ลูกสาว “ไหว” “คุณ…ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย มันทำร้ายจิตใจลูกเรานะคะ” “ไม่ชอบก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้จะฝากไหมให้ใครดูแลได้อีกแล้ว อย่าลืมว่าเราสองคนก็แก่ลงไปทุกวัน จะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้ อีกอย่างจนป่านนี้ไหมเองก็ยังไม่เข้าไปเรียนรู้งานที่บริษัท ขืนปล่อยไว้มีแต่จะเสีย ต้องให้คนมีฝีมืออย่างว่าที่ลูกเขยเรามาคอยช่วย ซึ่งผมมั่นใจว่ามองไม่ผิด” จิตราได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ แม้จะเชื่อสายตาสามีว่ามองคนไม่ผิด แต่เอาเข้าจริงก็ห่วงความรู้สึกของลูกสาวไม่น้อย “ผมมั่นใจว่าไหมต้องเข้าใจเรา”จากนั้นทั้งคู่ก็ชวนกันไปเดินดูไร่ ที่ตอนนี้ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่างเกินกว่าที่คาดไว้แต่แรกด้วยซ้ำ แต่การเริ่มต้นใหม่ของทุกคนที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะปรับตัวกับที่ทางได้ก็หลายวัน ตอนนี้พวกเขาคือคนไทยคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสจากผู้คนที่เข้ามาช่วยเหลือ“พี่ว่าคงถึงเวลาที่เราต้องกลับบ้านกันจริงๆ เสียทีนะ”“ไหมก็ว่าแบบนั้นค่ะ” เพลงขวัญเอ่ยรับ นั่นเพราะเธอเองก็มีครอบครัวรออยู่เช่นเดียวกัน การจากลาชั่วคราวจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยเพลงขวัญและอชิสัญญาว่าจะหาเวลามาเยี่ยมทุกคนเมื่อกลับมา เพลงขวัญก็เข้าไปรับตำแหน่งกรรมการผู้บริหารต่อจากผู้เป็นพ่อทันที แม้จะแต่งงานมีครอบครัว แต่เธอเองก็มีงานที่ต้องรับผิดชอบ เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนเก่งคนหนึ่ง เรื่องราวที่ผ่านมาทำให้เธอดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากในขณะที่อชิเองก็ยังรับหน้าที่บริหารงานของครอบครัวเช่นกัน ถึงงานจะยุ่งด้วยกันทั้งคู่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรักของพวกเขาน้อยลง ยิ่งอยู่ห่างกันทั้งคู่ก็ยิ่งรักกันมากขึ้นอย่างอาทิตย์นี้เพลงขวัญก็มาอยู่กับอชิที่ปา
เกือบสองเดือนที่เพลงขวัญและอชิอยู่ร่วมกับโตและทุกคน ตอนนี้เพลงขวัญกลายเป็นคนว่างงานอย่างสมบูรณ์แบบเสียแล้ว ส่วนอชินั้นกลับมาช่วยพ่อทำงาน วันหยุดก็รีบบินไปหาคนรักที่เชียงรายทันที ห้าวันที่ห่างกันทำไมความรู้สึกเหมือนห้าปีแสงก็ไม่รู้บ่ายวันนี้อชิจะต้องขับรถขึ้นไปเชียงราย แต่เพราะต้องขับรถไกลจึงเลี้ยวรถเข้าไปยังปั๊มน้ำมันเพื่อซื้อกาแฟดื่มสักแก้ว ระหว่างทางที่กำลังเดินไปร้านกาแฟ สายตาของเขาก็มองเห็นใครคนหนึ่งเข้า จึงเดินตรงเข้าไปหาก่อน“สายป่าน”“พี่อชิ” คนถูกทักอุทานออกมาอย่างตกใจ นั่นเพราะไม่คิดว่าจะได้เจออชิ เธอรับรู้ข่าวว่าชายหนุ่มกลับมาอย่างปลอดภัยหลังจากถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่อยู่หลายเดือน แต่ก็ไม่รู้รายละเอียดมากไปกว่านี้ และอีกเรื่องที่ได้ยินมาคือเขายังรักกันดีกับภรรยาที่ชื่อว่าเพลงขวัญ“ขายอะไร”“ผลไม้ค่ะ” สายป่านก้มหน้าก้มตาบอก นั่นเพราะอายสภาพของตัวเองที่ใส่เสื้อผ้าตัวเก่าๆ รองเท้าเก่าๆ แถมยังต้องมาเข็นผลไม้ขาย“ร้านตั
ภาพเปลือยเปล่าของนรากรที่เห็นไปเมื่อครู่ ทำให้ความอดทนอดกลั้นของก่อสกุลหมดลง นายตำรวจหนุ่มยื่นมือไปรั้งเธอให้เข้ามาใกล้ จากนั้นก็ล็อกตัวเธอไว้ด้วยวงแขนทั้งสองข้าง อ้อมกอดที่วันก่อนเคยธรรมดา แต่ทำไมวันนี้นรากรถึงได้รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา“พี่เอ”“ชู่วว” ก่อสกุลส่งเสียงบอกพร้อมกับวางนิ้วลงไปบนริมฝีปากอิ่มของนรากร จากนั้นก็เลื่อนนิ้วออกแล้วแทนที่มันด้วยริมฝีปากหยักของตัวเขาเองจูบที่แสนจะอ่อนโยนเกิดขึ้นหลังจากนั้น แต่ไม่นานมันก็เปลี่ยนมาเป็นจูบที่ร้อนแรงด้วยไฟแห่งความปรารถนาที่กำลังลุกโชนและยากจะดับมอดหากมันยังไม่ได้รับการปลดปล่อยอย่างถูกวิธี แม้จะตกใจ แต่ไม่นานนรากรก็โอนอ่อนไปตามสัมผัสที่ก่อสกุลมอบให้ นั่นเพราะเธอเองก็รักเขาจนหมดหัวใจนายตำรวจหนุ่มช้อนตัวนรากรขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด จากนั้นก็เดินตรงไปยังเตียงกว้าง วางเธอลงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะตามไปนอนทาบทับและปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้ตื่นตัว ทุกสัมผัสจากก่อสกุลคือความแปลกใหม่สำหรับเธอ เพราะยังไร้เดียงสานรากรจึงอยากรู้อยากเห็นว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกั
นรากรนั่งหน้าเครียดมาตั้งแต่ขับรถออกจากกรุงเทพฯ นั่นเพราะวันนี้เธอต้องทำอะไรบางอย่างตามที่ได้สัญญาเอาไว้ ซึ่งทันทีที่เจอหน้าคนรักสาว ก่อสกุลก็ถึงกับคิ้วขมวด“เป็นอะไรคุณ”“เครียดนิดหน่อย” นรากรเอ่ยบอกเศร้าๆ“แต่ดูสีหน้าคุณดูเหมือนจะไม่ได้เครียดแค่นิดหน่อยนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย”“ก็อยากให้ช่วย แต่เรื่องนี้ฉันต้องทำเองน่ะสิ” เอ่ยจบเธอก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ“ยังไง เล่ามาให้ผมฟังก่อน ช่วยได้ไม่ได้ ผมจะบอกอีกที”“คือว่าฉัน...” ในที่สุดนรากรก็ตัดสินใจเล่าให้นายตำรวจหนุ่มฟังว่าตอนที่เพลงขวัญหายตัวไปนั้น เธอบนบานกับเจ้าที่เจ้าทางที่รีสอร์ตไว้ว่าหากเพื่อนรักกลับมาอย่างปลอดภัย เธอจะ...แก้ผ้าวิ่งแก้บนรอบๆ รีสอร์ต ซึ่งทันทีที่ได้ฟังก่อสกุลถึงกับเครียดตาม“คุณนะคุณ” ก่อสกุลอยากจะบีบคอเล็กๆ ของเธอเหลือเกิน แต่ก็รู้ว่ามันผ่านมาแล้ว แก้ไขคำบนบานไม่ได้นอกเสียจากแก้บน เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบ
แต่ก็อยากให้ทุกคนมีรายได้ที่แน่นอน อชิจึงสั่งทำโรงเรือนสำหรับปลูกผักปลอดสารพิษให้อีกหลายหลัง โดยมีเจ้าหน้าที่จากโครงการหลวงเข้ามาสอนวิธีการปลูกผักปลอดสารพิษที่ถูกต้องให้แก่ทุกคนด้วย ขนาดย่าใหญ่เองก็ยังสนใจ แต่ก็ไม่ทิ้งยาสมุนไพร ยังดีหน่อยที่ดินตรงนี้ติดป่าติดเขา จึงพอจะเข้าไปหาสมุนไพรบางตัวได้“นี่จ้ะพี่ไหม” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กๆ เอ่ยบอกพร้อมกับยื่นบางสิ่งให้เพลงขวัญ“อะไร”“มงกุฎดอกไม้ พวกเราทำมาให้พี่”“ส่วนนี่ก็ของพี่อชิ” เอ่ยจบเด็กชายอีกคนก็ส่งมงกุฎหญ้ามาให้อชิ ซึ่งชายหนุ่มก็รับมันไว้แล้วเอาขึ้นสวมบนหัว“ขอบใจมากนะ” เพลงขวัญเอ่ยบอก ก่อนจะรับมงกุฎดอกไม้มาจากเด็กๆ จากนั้นก็สวมไว้บนหัวของเธอเช่นเดียวกับอชิกระแตเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้ทั้งคู่เช่นกัน นั่นเพราะเธอเองก็อยากขอบคุณเพลงขวัญและอชิ แต่คำขอบคุณหรือดอกไม้ที่เธอให้มันอาจน้อยไปด้วยซ้ำ แสงจันทร์ที่เวลานี้อุ้มลูกชายอยู่ในอกก็เดินเข้ามาหาเพลงขวัญพร้อม
“ไหมจ๋า ที่รัก ผมกลับมาแล้ว เปิดประตูให้หน่อย”“คืนนี้พี่อชิไปนอนกับคุณเอนะคะ ไหมจะนอนกับก้อย” คนในห้องตะโกนบอกออกมา“อ้าว! ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ” น้ำเสียงของอชิบ่งบอกว่าผิดหวัง“คืนเดียวเองนะคะ...นะ” เพลงขวัญร้องขอ นั่นเพราะพรุ่งนี้เช้าครอบครัวเธอ รวมไปถึงนรากรจะกลับกรุงเทพฯ กันแล้วนั่นเอง คืนนี้จึงอยากนอนคุยกับเพื่อนให้หายคิดถึง“แต่ผมจะนอนไม่หลับถ้าไม่ได้นอนกอดไหม”“สามีแกเวอร์” นรากรที่ได้ยินประโยคหวานๆ ชวนเลี่ยนของอชิเมื่อครู่นี้ถึงกับพูดออกมาพร้อมกับท่าทางขนลุก ซึ่งเพลงขวัญก็พลอยเออออไปกับเพื่อนด้วย“อื้อ...เวอร์มาก”“นะคะไหม” คนนอกห้องยังคงร้องขออย่างน่าสงสาร“ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ตอนนี้ไหมกับก้อยง่วงมาก เราจะนอนกันแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะคะพี่อชิ” เพลงขวัญเอ่ยรวบรัด นั่นทำให้อชิเดินคอตกไปนอนกับก่อสกุลอีกห้อง พอเห็นหน้าเพื่อน นายตำรวจหนุ่มถึงกับอดแซวไม่ได้“หงอยมาเลยนะเอ็ง”&ldquo