เพราะไร้รัก ทั้ง 'เธอ' และ 'เขา' จึงต่างหมางเมิน แต่เมื่อได้รัก ทั้ง 'เธอ' และ 'เขา' จึงต่างเร่าร้อนในค่ำคืนแห่งรัก การถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่รัก นั่นย่อมไม่ใช่เรื่องน่าสนุก แต่ในเมื่อไม่อาจปฏิเสธพ่อและแม่ได้ จึงยอมให้ทุกอย่างเป็นไป แต่บ่าวสาวป้ายแดงยุคสองพันหรือจะยอมลงเอยแบบนี้ง่ายๆ ในเมื่อเขาทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันหนีห้องหอ แต่ทว่าพรหมลิขิตกับขีดเส้นให้พวกเขานั้นหนีไปเจอกันเสียนี่
View Moreภาพเปลือยเปล่าของนรากรที่เห็นไปเมื่อครู่ ทำให้ความอดทนอดกลั้นของก่อสกุลหมดลง นายตำรวจหนุ่มยื่นมือไปรั้งเธอให้เข้ามาใกล้ จากนั้นก็ล็อกตัวเธอไว้ด้วยวงแขนทั้งสองข้าง อ้อมกอดที่วันก่อนเคยธรรมดา แต่ทำไมวันนี้นรากรถึงได้รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา“พี่เอ”“ชู่วว” ก่อสกุลส่งเสียงบอกพร้อมกับวางนิ้วลงไปบนริมฝีปากอิ่มของนรากร จากนั้นก็เลื่อนนิ้วออกแล้วแทนที่มันด้วยริมฝีปากหยักของตัวเขาเองจูบที่แสนจะอ่อนโยนเกิดขึ้นหลังจากนั้น แต่ไม่นานมันก็เปลี่ยนมาเป็นจูบที่ร้อนแรงด้วยไฟแห่งความปรารถนาที่กำลังลุกโชนและยากจะดับมอดหากมันยังไม่ได้รับการปลดปล่อยอย่างถูกวิธี แม้จะตกใจ แต่ไม่นานนรากรก็โอนอ่อนไปตามสัมผัสที่ก่อสกุลมอบให้ นั่นเพราะเธอเองก็รักเขาจนหมดหัวใจนายตำรวจหนุ่มช้อนตัวนรากรขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด จากนั้นก็เดินตรงไปยังเตียงกว้าง วางเธอลงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะตามไปนอนทาบทับและปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้ตื่นตัว ทุกสัมผัสจากก่อสกุลคือความแปลกใหม่สำหรับเธอ เพราะยังไร้เดียงสานรากรจึงอยากรู้อยากเห็นว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกั
นรากรนั่งหน้าเครียดมาตั้งแต่ขับรถออกจากกรุงเทพฯ นั่นเพราะวันนี้เธอต้องทำอะไรบางอย่างตามที่ได้สัญญาเอาไว้ ซึ่งทันทีที่เจอหน้าคนรักสาว ก่อสกุลก็ถึงกับคิ้วขมวด“เป็นอะไรคุณ”“เครียดนิดหน่อย” นรากรเอ่ยบอกเศร้าๆ“แต่ดูสีหน้าคุณดูเหมือนจะไม่ได้เครียดแค่นิดหน่อยนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย”“ก็อยากให้ช่วย แต่เรื่องนี้ฉันต้องทำเองน่ะสิ” เอ่ยจบเธอก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ“ยังไง เล่ามาให้ผมฟังก่อน ช่วยได้ไม่ได้ ผมจะบอกอีกที”“คือว่าฉัน...” ในที่สุดนรากรก็ตัดสินใจเล่าให้นายตำรวจหนุ่มฟังว่าตอนที่เพลงขวัญหายตัวไปนั้น เธอบนบานกับเจ้าที่เจ้าทางที่รีสอร์ตไว้ว่าหากเพื่อนรักกลับมาอย่างปลอดภัย เธอจะ...แก้ผ้าวิ่งแก้บนรอบๆ รีสอร์ต ซึ่งทันทีที่ได้ฟังก่อสกุลถึงกับเครียดตาม“คุณนะคุณ” ก่อสกุลอยากจะบีบคอเล็กๆ ของเธอเหลือเกิน แต่ก็รู้ว่ามันผ่านมาแล้ว แก้ไขคำบนบานไม่ได้นอกเสียจากแก้บน เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบ
แต่ก็อยากให้ทุกคนมีรายได้ที่แน่นอน อชิจึงสั่งทำโรงเรือนสำหรับปลูกผักปลอดสารพิษให้อีกหลายหลัง โดยมีเจ้าหน้าที่จากโครงการหลวงเข้ามาสอนวิธีการปลูกผักปลอดสารพิษที่ถูกต้องให้แก่ทุกคนด้วย ขนาดย่าใหญ่เองก็ยังสนใจ แต่ก็ไม่ทิ้งยาสมุนไพร ยังดีหน่อยที่ดินตรงนี้ติดป่าติดเขา จึงพอจะเข้าไปหาสมุนไพรบางตัวได้“นี่จ้ะพี่ไหม” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กๆ เอ่ยบอกพร้อมกับยื่นบางสิ่งให้เพลงขวัญ“อะไร”“มงกุฎดอกไม้ พวกเราทำมาให้พี่”“ส่วนนี่ก็ของพี่อชิ” เอ่ยจบเด็กชายอีกคนก็ส่งมงกุฎหญ้ามาให้อชิ ซึ่งชายหนุ่มก็รับมันไว้แล้วเอาขึ้นสวมบนหัว“ขอบใจมากนะ” เพลงขวัญเอ่ยบอก ก่อนจะรับมงกุฎดอกไม้มาจากเด็กๆ จากนั้นก็สวมไว้บนหัวของเธอเช่นเดียวกับอชิกระแตเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้ทั้งคู่เช่นกัน นั่นเพราะเธอเองก็อยากขอบคุณเพลงขวัญและอชิ แต่คำขอบคุณหรือดอกไม้ที่เธอให้มันอาจน้อยไปด้วยซ้ำ แสงจันทร์ที่เวลานี้อุ้มลูกชายอยู่ในอกก็เดินเข้ามาหาเพลงขวัญพร้อม
“ไหมจ๋า ที่รัก ผมกลับมาแล้ว เปิดประตูให้หน่อย”“คืนนี้พี่อชิไปนอนกับคุณเอนะคะ ไหมจะนอนกับก้อย” คนในห้องตะโกนบอกออกมา“อ้าว! ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ” น้ำเสียงของอชิบ่งบอกว่าผิดหวัง“คืนเดียวเองนะคะ...นะ” เพลงขวัญร้องขอ นั่นเพราะพรุ่งนี้เช้าครอบครัวเธอ รวมไปถึงนรากรจะกลับกรุงเทพฯ กันแล้วนั่นเอง คืนนี้จึงอยากนอนคุยกับเพื่อนให้หายคิดถึง“แต่ผมจะนอนไม่หลับถ้าไม่ได้นอนกอดไหม”“สามีแกเวอร์” นรากรที่ได้ยินประโยคหวานๆ ชวนเลี่ยนของอชิเมื่อครู่นี้ถึงกับพูดออกมาพร้อมกับท่าทางขนลุก ซึ่งเพลงขวัญก็พลอยเออออไปกับเพื่อนด้วย“อื้อ...เวอร์มาก”“นะคะไหม” คนนอกห้องยังคงร้องขออย่างน่าสงสาร“ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ตอนนี้ไหมกับก้อยง่วงมาก เราจะนอนกันแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะคะพี่อชิ” เพลงขวัญเอ่ยรวบรัด นั่นทำให้อชิเดินคอตกไปนอนกับก่อสกุลอีกห้อง พอเห็นหน้าเพื่อน นายตำรวจหนุ่มถึงกับอดแซวไม่ได้“หงอยมาเลยนะเอ็ง”&ldquo
“ผมว่ากำนันน่าจะรู้ดีนะครับว่าอะไรเป็นอะไร” พันตำรวจเอกศกลเอ่ยขึ้น แต่คนอย่างกำนันหรือจะยอมแพ้อะไรง่ายๆ“ท่านรองพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ”“ผมว่ากำนันเข้าใจทุกอย่างดี หรือจะต้องให้ผมพูดออกไปว่ากำนันทำเรื่องอะไรไว้บ้าง”“ไหนท่านรองพูดออกมาซิ ว่าผมทำอะไรไว้บ้าง” แม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่กำนันสิงหาก็ยังประวิงเวลา นั่นเพราะต้องการหาช่องเพื่อหนี“กำนันหลอกโตให้ปลูกกัญชารวมไปถึงฝิ่น ยังให้พวกเขานำทั้งสองอย่างมาผลิตยาเสพติดร้ายแรง โดยอ้างว่าคนเมืองจะใช้มันเพื่อรักษาโรค กำนันอาศัยความซื่อสัตย์ของพวกเขามาเป็นเครื่องมือ แถมยังหลอกใช้โดยเอาเอกสารทางราชการที่กำนันเป็นคนยึดมาจากพวกเขาเพื่อต่อรอง แต่แทนที่กำนันจะคิดได้กลับส่งคนไปฆ่าพวกเขาให้หมด”“ผมถูกใส่ร้ายจากคนพวกนี้ ทุกๆ ท่านก็รู้ดีว่าผมเป็นกำนันที่มือสะอาด ให้ความยุติธรรมกับผมด้วย” กำนันสิงหาเอ่ยแต่ละประโยคอย่างไม่ละอายใจ ยิ่งได้ฟังโตก็ยิ่งเดือด เพลงขวัญและอชิถึงกับส่ายหน้าให้คนผิด ที่ตอนนี้ยังคงพยายามเอาตัวรอด“หากกำนันบริสุทธิ์อย่
“ว่าแต่แกกับผู้กองเป็นอะไรกัน” เมื่อถูกซักจนขาวสะอาดก็ถึงเวลาที่เพลงขวัญนั้นจะซักถามนรากรคืนบ้าง เพราะสัมผัสได้ว่าคู่นี้ทะแม่งๆ“เราสองคนคบกันอยู่ครับคุณไหม” ยังไม่ทันที่นรากรจะได้เอ่ยปาก เสียงทุ้มของนายตำรวจหนุ่มก็ดังขึ้นแทน“เอ้! จริงเหรอ” เพลงขวัญตาโตเป็นไข่ห่าน นั่นเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่เธอสงสัยจะเป็นเรื่องจริงเข้าให้“จริงครับ อันที่จริงต้องขอบคุณคุณไหมกับอชิ เพราะพวกคุณสองคนทำให้ผมได้รู้จักกับคุณก้อย”“พอเลยผู้กอง” นรากรรีบห้าม ตอนนี้ทุกคนควรดีใจที่เพลงขวัญกับอชิกลับมาอย่างปลอดภัยสิ ไปๆ มาๆ ทำไมถึงวกมาคุยเรื่องของเธอกับก่อสกุลกันได้ล่ะ“เขินเหรอแก”“พอๆ ไม่พูดแล้ว” พอถูกแซวกลับ นรากรก็ชักจะไปไม่เป็นเหมือนกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องด้วยการเข้าไปไหว้ครอบครัวของเพลงขวัญและอชิที่รออยู่ในเซฟเฮาส์ที่ทางตำรวจจัดเตรียมไว้ให้อยู่ชั่วคราว ที่นี่มันไม่เหมือนเซฟเฮาส์ในหนังสายสืบที่เคยเห็น เพราะมันคือบ้านหลังใหญ่ที่ถูกตกแต่งไว้อย่างดี รวมถึงมีการรักษาควา
Comments