Home / โรแมนติก / First Love ใจวุ่น(ลุ้น)รัก / Ep. 7 | เพื่อนเก่ากำมะลอ

Share

Ep. 7 | เพื่อนเก่ากำมะลอ

last update Last Updated: 2024-10-22 20:31:45

หลังยืนโบกมือยิ้มหวานส่งพี่แทนเสร็จ ฉันก็รีบยกกระเป๋าขึ้นมาควานหาโทรศัพท์ด้วยความรีบร้อน

ถ้าได้กินยาเมื่อไหร่ ฉันก็ไม่คิดจะเอาชีวิตไปเสี่ยงโดยการขับรถกลับเองเด็ดขาด ฉะนั้นตอนนี้ต้องหาตัวช่วย และคนที่จะช่วยฉันได้ก็มีอยู่ไม่กี่คน

ควานหาโทรศัพท์เจอ ฉันรีบกดต่อสายหาเบอร์ที่บันทึกไว้ยามฉุกเฉินทันที เราทุกคนในกลุ่ม ล้วนจัดให้เบอร์ของเพื่อน ๆ เป็นเบอร์โทรฉุกเฉิน สัญญาณรอสายดังไม่กี่ครั้ง ปลายสายก็กดรับ ไม่รอช้าฉันรีบกรอกเสียงออดอ้อนไปตามสายขอความช่วยเหลือ

“ข้าว~ มารับฉันหน่อยสิ”

[ข้าวหลับ] ทว่าแทนที่จะเป็นเสียงหวานตอบกลับมา กลับกลายเป็นน้ำเสียงดุ ๆ เจือความหงุดหงิดแทน ทำให้ต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหู ยกขึ้นมาดูชื่อบนหน้าจออีกครั้ง

ก็โทร. ถูกนี่นา แล้วทำไมถึงเป็นเสียงคนอื่น ปกติเวลานี้ข้าวฟ่างน่าจะยังอยู่ห้องตัวเองไม่ออกไปไหนนี่?

“นั่นใครน่ะ” ฉันถามเสียงแข็งกลับไป

[อะไร? เพ้อหนักแล้วนะเธอน่ะ ฉันแผ่นดินไง ผัวยัยข้าว เพื่อนสนิทที่หล่อที่สุดของเธอตั้งแต่ม.สี่ อย่าบอกนะว่าลืม ฉันกับยัยข้าวมาหัวหิน เธอลืมหรือไง ทำไมต้องตกใจ?] อ่า จริงด้วย ลืมไปเสียสนิทเลยว่าคู่รักพากันไปสวีตที่หัวหินน่ะ

แต่ว่านะ คำยกยอตัวเองของแผ่นดิน ทำฉันอยากแหมออกไปดัง ๆ มันแหงอยู่แล้วว่าแผ่นดินต้องหล่อที่สุด เพราะทั้งชีวิตฉันตอนนี้มีมันเป็นเพื่อนผู้ชายอยู่คนเดียว

เอาอย่างไรต่อดีล่ะทีนี้ เพื่อนที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีแค่

น้ำหนาว ซึ่งตัดทิ้งไปได้เลย ยัยนั่นขับรถไม่เป็น ขืนโทร. บอกนางคงได้โบกแท็กซี่มาหา แล้วใครจะเป็นคนขับรถสุดที่รักฉันกลับล่ะ

จะให้จอดทิ้งไว้ที่นี่ฉันทำไม่ได้หรอกนะ

[เงียบเลย โทร. มาทำไมล่ะแม่คุณ ได้ยินมั้ยเนี่ย?]

“...” ปลายสายดูจะหงุดหงิดอยู่ไหมนะ? ได้แต่สงสัยว่าฉันโทร. ไปขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า ทำไมแผ่นดินมันดูหัวเสียขนาดนี้

[มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมา คนจะนอน]

“ปะ...เปล่า ไม่มี้” ตอบเสียงสูง ขืนแผ่นดินรู้เหตุผลที่โทร. ไปรบกวนมีหวังโดนมันบ่นหูดับแน่ มันพูดกรอกหูบ่อยจะตายว่าอย่ารักใครมากกว่าตัวเอง (แต่เหมือนจะทำได้แค่สอน เพราะตัวมันเองก็ทำไม่ได้ - -)

[...] เงียบ

“...เออ แค่จะบอกโทร. มาบอกว่าอย่าลืมของฝากนะ ใช่ ๆ อย่าลืมของฝากเพื่อนล่ะ เที่ยวให้สนุกนะ แค่นี้แหละ” ฉันรีบละล่ำละลักบอก แล้วกดตัดสายทิ้ง ไม่รอให้มันได้ถามอะไร คุยกับแผ่นดินไปก็ไร้ประโยชน์ ชัดเจนแล้วว่ามันช่วยอะไรไม่ได้หรอก

เอาอย่างไรต่อดี ฉันเกาแขนเกาขาจนแสบผิวไปหมดแล้ว!

นึกอยากตีตัวเองเบา ๆ อยู่ที่ปล่อยให้อาการแพ้กำเริบ จนเผลอเสียมารยาทขยับตัวดุกดิกตอนทานอาหาร แต่จะให้ทำอย่างไรเล่า ก็ฉันดันแพ้กุ้งในมื้ออาหารนี่นา

คุณแฟนจะพูดไม่ผิดว่ากุ้งคือของโปรดของฉัน แต่ฉันกินได้แต่กุ้งแม่น้ำ กินกุ้งทะเลไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ฉันรู้ตัวเองดีถึงไม่กินมันเข้าไป

ตอนนั้นฉันเลือกเขี่ยกุ้งออกไว้ข้างจาน เลือกกินแต่หน่อไม้ฝรั่งเพราะเกรงใจคุณแม่พี่แทน แม้ว่าทุกคนจะสงสัยในการกระทำนั้น แต่กลับไม่มีใครถามอะไร ทำเพียงมองฉันนิ่ง ๆ และส่งยิ้มมาให้ อาจเพราะตลอดเวลาที่ทานอาหาร พี่แทนยังต้องคุยงานเป็นระยะ เขาจึงอาจหลงลืมเรื่องนี้ไป

แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้ต้องกลับไปหายาที่รถก่อน ถ้าจำไม่ผิด แด๊ดดี้เคยใส่ไว้ให้เมื่อนานมาแล้ว

พอเดินกลับมาถึงรถ ใช้เวลาค้นหาอยู่สักพัก ในที่สุดฉันก็หาสิ่งที่ต้องการเจอ ยาเม็ดเล็กถูกจับใส่ปากแล้วกรอกน้ำตามทันที ก่อนจะพาตัวเองมานั่งตรงโต๊ะหินอ่อนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากรถมากนัก

ตั้งใจรอจนกว่าอาการจะดีขึ้นแล้วค่อยขับรถกลับ แต่พอยาออกฤทธิ์บวกกับบรรยากาศร่มรื่นโดยรอบ ทั้งยังมีสายลมเอื่อย ๆ พัดมาปะทะหน้าแผ่วเบาเป็นระยะ ทำให้หนังตาเริ่มหนักอึ้ง จนในที่สุดภาพตรงหน้าก็ตัดวูบไป

“คุณ คุณ มานั่งทำอะไรตรงนี้” ไม่รู้ว่าฉันหลับไปนานแค่ไหน มารู้สึกตัวอีกทีตอนมีแรงสะกิดเบา ๆ ตรงไหล่ จึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า

ฉันเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก ภาพที่สะท้อนเข้ามาในตาทำเอาตกตะลึงและรู้สึกประหม่าไปชั่วขณะ

ผู้ชายที่ยื่นหน้าเข้ามาแทบชิดจมูก เขาสวมเพียงเสื้อยืดสีขาว กับกางเกงยีนสีเข้มที่มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าเป็นแบรนด์ดังราคาแพง ผมสีดำถูกจัดแต่งเหมือนไม่ตั้งใจ ทว่ามันกลับดูดีพิกล นัยน์ตาสีนิลเรียบนิ่งคู่นั้นช่างดูน่าค้นหา ผิวหน้าขาวเนียนละเอียดจนผู้หญิงอย่างฉันยังนึกอิจฉา ไหนจะจมูกที่โด่งเป็นสันสะดุดตานั่นอีก

ทุกอย่างบนใบหน้าสอดรับกันอย่างลงตัว ผู้ชายคนนี้เรียกว่าเป็นลูกรักพระเจ้าได้เต็มปากโดยไม่ติด ยอมรับเลยว่าเขาหล่อกว่าพี่แทนไทที่ได้รับตำแหน่งเดือนมหา’ลัยเสียอีก

“หน้าตาก็สวย แต่สติไม่ดีเหรอ?” อ้าว ทำไมคนหล่อปากหมาล่ะ เหมือนกำลังจะขึ้นสวรรค์แล้วจู่ ๆ ถูกถีบลงนรกหลุมที่ลึกที่สุด ตาคนนี้ ปากสวนทางกับหน้าตานี่หว่า

ฉันดีดตัวลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย ความเร็วและระยะห่างทำให้หัวเฉียดคางเขาเพียงนิด อย่างที่บอก เขายื่นเข้ามาจนหน้าเราแทบชนกัน พอฉันยืนขึ้นเขาถึงได้ยอมถอยหลังหนึ่งก้าว ไปยืนล้วงกระเป๋ามองฉันนิ่ง

หล่อตายแหละ ชิ!

“มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออะไรอยู่ตรงนี้” กรี๊ด นี่เขากล้าพูดจากับสาวสวยที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกแบบนี้ได้อย่างไร พระเจ้าให้ความหล่อแต่ลืมให้มารยาทเขามาด้วยหรือไง!

ฉันได้แต่กรีดร้องและก่นด่าคนตรงหน้าในใจ ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพราะไม่อยากเสวนากับคนแบบปากเสีย

“แล้วแขนไปโดนอะไรมา” ตาไวไม่พอมือยังไวไม่แพ้กัน พูดไม่ทันจบประโยค เขาก็เดินเข้ามาประชิดตัว จับแขนฉันยกขึ้นพลิกไปพลิกมา สำรวจรอยปื้นแดงระเรื่อที่เกิดจากเล็บของฉันเอง

“นี่! อย่ามาจับตัวฉันนะ” ฉันพยายามสะบัดมือ เพื่อดึงแขนตัวเองออก แต่เขากลับยิ่งจับแน่นขึ้นกว่าเดิม

มันจะเกินไปแล้วนะ

เราไม่เคยรู้จักกัน มาถูกเนื้อต้องตัวฉันแบบนี้ได้อย่างไร นอกจากปากเสียแล้ว มารยาทยังทรามขั้นสุด ฉันไม่ชอบผู้ชายแบบนี้เลย ขอถอนทุกคำพูดที่เคยชมผู้ชายคนนี้!

“บอกมาก่อน แล้วจะปล่อย” เราสองคนสบตากันนิ่ง ก่อนจะเป็นฉันที่ยอมแพ้ หลบสายตาคู่นั้น แล้วยอมตอบคำถามอย่างไม่เต็มใจนัก

“แพ้กุ้ง”

“ไม่รู้ว่าแพ้?”

“รู้”

“รู้แล้วยังจะกินอีกเหรอ สติไม่ดีจริง ๆ ด้วย” คำพูดน่ะไม่เท่าไหร่ แต่สายตานิ่ง ๆ นั่นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังโดนเขาด่าว่าโง่อยู่เลยนะ

“ฉันกินหน่อไม้ฝรั่ง ไม่ได้กินกุ้ง”

“แล้วทำไมมีอาการ?”

“มันใส่กุ้ง”

“ติงต๊อง”

“แม่แฟนตักให้กิน ก็ต้องกินปะ” เหมือนฉันกำลังเอาชนะเขาอยู่เลยแฮะ แต่ใช่ ฉันต้องการชนะหมอนี่ ด้วยการพยายามเน้นคำว่าแฟนเป็นพิเศษ

“สมองไม่ปกติ”

“ตาบ้านี่! นายว่าฉันหลายคำแล้วนะ!” ใช้จังหวะที่เขามัวแต่มองหน้า รีบกระชากแขนตัวเองกลับมายืนเท้าเอวจ้องหน้าเขาอย่างไม่สบอารมณ์

ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนพูดจาร้ายกาจใส่ฉันแบบนี้มาก่อนเลยนะ แล้วตานี่เป็นใคร กล้ามาก!

“พูดความจริง คอยเอาอกเอาใจคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน คนสติดีที่ไหนเขาทำกัน” ตานั่นไหวไหล่ท่าทางยียวนชวนโมโหชะมัด!

“ถ้าไม่รู้อะไรอย่ามาพูดดีกว่า คนหน้าหล่อแต่ปากหมาแบบนายคงไม่เคยมีแฟนล่ะสิ คงไม่มีใครอยากใช้ชีวิตร่วมด้วยหรอก เหอะ!” ฉันกอดอกสะบัดหน้าใส่ แต่คำพูดต่อมาของเขา ทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองหน้าเขาแทบไม่ทัน

“จริงอยู่ที่ไม่มีแฟน แต่ถ้ามีความรักแล้วต้องมานั่งหมดสภาพแบบเธอ ขออยู่คนเดียวดีกว่า”

“นี่นาย!” ฉันชี้หน้าคนปากดีอย่างเหลืออด เพิ่งเจอกันไม่กี่นาที แต่เขาทำฉันโมโหไปแล้วเกือบสิบครั้ง ทั้งที่ปกติฉันไม่ใช่คนโมโหใครง่าย ๆ แต่หมอนี่กลับมีบางอย่าง ที่ทำให้รู้สึกว่าเคมีของเราเข้ากันไม่ได้ เข้ากันไม่ได้อย่างแรงด้วย!

“พี่ยูนิกซ์มัวมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ ฟ้ารอนานแล้วนะ” ก่อนที่ฉันจะได้อ้าปากพูดอะไรต่อ เสียงหวานใสของใครบางคน ก็ดังแทรกขึ้นมาจากด้านหลังเขาก่อน

เธอคนนั้นเดินหน้ามุ่ยเข้ามาคล้องแขนคู่กรณีตัวสูง มองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนจะหันมามองฉัน แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความคำถาม

ฉันว่าฉันรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้นะ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน

“พอดีพี่เจอเพื่อนเก่าน่ะ ฟ้าไปก่อนเลย เหมือนเพื่อนพี่จะมีปัญหา พี่ขอช่วยเขาก่อน”

เพื่อนเก่า? ใครเป็นเพื่อนเก่าเขากัน ฉันเหรอ!?

ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าฉันกับตานี่สลับกันไปมาอย่างงง ๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบรับว่าไม่มีปัญหา แอบเห็นคนปากไม่ดีควักกุญแจรถจากกระเป๋ากางเกงส่งให้ เธอรับมันไว้ในมือพร้อมฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ

“สงสัยเพื่อนคนนี้จะสำคัญมาก ถึงยอมให้ฟ้ายืมรถได้ ปกติพี่หวงรถจะตาย”

“ไม่ต้องพูดมาก ไปได้แล้ว”

“ค่า~ ฟ้าไปก่อนนะคะ” เธอรับคำคนตัวสูง ก่อนจะหันมาผงกหัว พร้อมส่งยิ้มให้ฉันแล้วเดินหมุนตัวเดินแยกไป

“เอากุญแจมา” พอจัดการปัญหาส่วนตัวจบ ตายูนิกซ์เพื่อนเก่ากำมะลอ ก็หันกลับมาพูดเสียงนิ่งแกมบังคับกับฉัน พร้อมทั้งยื่นมือที่ประดับด้วยนิ้วเรียวสวยมาตรงหน้า

“กุญแจอะไร”

“กุญแจรถเธอไง” โอเค ฉันว่าไม่ใช่ฉันหรอกที่ผิดปกติ เขามากกว่าที่แปลก และดูเหมือนจะแปลกมากด้วย

หนึ่ง เขาเอากุญแจรถให้สาว

สอง เราไม่เคยรู้จักกัน แต่เขากล้าหันมาขอกุญแจรถฉัน?

บ้าหรือเปล่า

“ทำไมฉันต้องให้นายด้วย” ฉันกอดกระเป๋าแน่น มองเขาอย่างหวาดระแวง จู่ ๆ ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหมอนี่อาจจะเป็นมิจฉาชีพ

“...” เขาไม่พูดอะไร แต่ใช้สายตาเหลือบมองแขนฉันบอกเป็นนัย ๆ ว่าสภาพนี้จะเอาปัญญาที่ไหนมาขับรถกลับเอง ข้อนั้นไม่เถียง แต่ใครจะไปกล้าให้ผู้ชายแปลกหน้า แถมการกระทำยังแปลก พิกลไปด้วยง่าย ๆ ล่ะ

ย้ำอีกครั้ง ฉัน ไม่ เคย รู้ จัก เขา มา ก่อน!

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย

"ไม่ต้องยุ่ง! ฉันกลับเองได้"

"เหรอ?" ยูนิกซ์เลิกคิ้วเหมือนไม่เชื่อในคำพูด เขาสาวเท้าเข้ามาหาอย่างไม่รีบร้อน ทำให้ฉันเกิดตัวสั่นถอยหลังหนีไว ๆ

"นะ...นายจะทำอะไร ออกไปเลยนะ"

"เอากุญแจมา"

"บอกว่าไม่ให้ไง เป็นมิจฉาชีพเหรอยะ ฉันไม่หลงกลหรอกนะ กรี๊ด ใครก็ได้ อุ๊บ" จากที่เขาเดินเข้าหาอย่างเชื่องช้าในทีแรก เปลี่ยนเป็นพุ่งเข้ามาล็อกตัวฉันแน่น ฉันแทบสติแตก นึกก่นด่าตัวเองในใจว่ามัวแต่เมาขี้ตา จนลืมไปเลยว่าคนหล่อก็เป็นโจรได้

พอฉันโวยวาย ตานั่นก็ยกมือขึ้นปิดปาก ส่วนมืออีกข้างพยายามจะล้วงค้นกระเป๋าสะพายของฉัน เริ่มกลัวแล้วนะ...

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย เขาเป็นบ้าอะไร ทำแบบนี้ทำไม เราไม่เคยรู้จักกันเลยนะ!

"อ่อย (ปล่อย) "

"เธอสิอ่อย"

"ไอ้ไอ้โอ๊ย (ไม่ใช่โว้ย) " ตอนนี้ฉันเริ่มอยากพกยาแก้ปวดเหมือนที่ท่านประธานบอกเมื่อเช้าแล้วละ

ฉันพยายามจะดิ้นให้หลุดจากวงแขนแกร่ง แต่มันไม่ง่ายเลย ตานี่นอกจากตัวใหญ่กว่าแล้ว ยังแข็งแรงเป็นบ้า

เรายื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่เกือบสองนาทีเห็นจะได้ ในที่สุดตายูนิกซ์ก็ปล่อยฉันให้เป็นอิสระ

"ก็แค่นี้" เขาพูดขึ้นเมื่อได้สิ่งที่ต้องการไปไว้ในมือ ฉันยกหลังมือขึ้นปาดคราบน้ำลายที่เลอะมุมปาก พลางมองหน้าเขาอย่างเคียดแค้น นึกอยากเข้าไปตะบันหน้าหล่อ ๆ นั้นสักสิบรอบ แต่ติดที่ความสูงต่างกันจนน่าเจ็บใจ

"ไม่ต้องมาทำหน้าเซ็กซี่ ไปขึ้นรถ"

"ไม่!" มาชมกันตอนนี้สายไปแล้ว ฉันโกรธจริงนะอีตามิจฉาชีพ

"ไปขึ้นรถ" ยูนิกซ์เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เย็นขึ้นกว่าตอนแรก แต่ทำไมฉันต้องทำตาม?

"ไม่ไป! ถ้านายอยากได้รถฉันนักก็เอาไปเลย" ถึงจะรักรถ แต่ฉันรักชีวิตมากกว่า รถหายยังให้แด๊ดดี้ซื้อใหม่ได้ แต่ถ้าชีวิตหาย จะไปหาซื้อจากไหนเล่า

"จะไปไม่ไป"

"ไม่ปะ...กรี๊ด" พูดไม่ทันจบประโยค ฉันก็ต้องแหกปากลั่นอีกครั้ง อีตายูนิกซ์พุ่งมาหากันอีกรอบ และคราวนี้เขาไม่ได้เข้ามา

ล็อกตัว แต่กลับช้อนตัวฉันยกขึ้นในท่าเจ้าสาวเลยต่างหาก ความตกใจทำให้ฉันรีบกอดคอเขาไว้แน่นเพราะกลัวตก

"เงียบดิ๊ ถ้าร้องอีกทีจะโยนลงตรงนี้แหละ" สีหน้าและแววตาที่ก้มมาบอก บ่งบอกว่าเขากล้าทำแบบนั้นจริง ๆ ฉันเลยต้องจำใจสงบปากสงบคำ เม้มปากเข้าหากันแน่น

"เข้าไป" เขาบอกเสียงดุ เมื่อพาฉันมาส่งถึงประตูฝั่งข้างคนขับ ฉันเปิดประตูรถยัดตัวเองเข้าไปนั่งประจำที่อย่างไม่เต็มใจ แล้วดึงประตูรถปิดเสียงดัง เพื่อให้เขารู้ว่าฉันไม่โอเค

"ฉันไม่ใช่โจร ทำหน้าให้มันดี ๆ ฉันกำลังช่วยเธออยู่นะ"

"ไม่ได้ขอ" ฉันต่อปากต่อคำอีกครั้ง แม้จะนึกแปลกใจตัวเองว่าไม่ได้ไว้ใจเขา แต่กลับวางใจยอมให้เขาช่วยเหลือเสียดื้อ ๆ

เหมือนมีบางอย่างบอกว่าเขาจะไม่ทำอันตราย

แปลก

ฉันเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่างฝั่งตัวเอง ไม่อยากคุยกับคนปากไม่ดีที่ย้ำรอบที่ร้อยแล้วมั้ง ว่าเขาไม่ใช่โจร

แต่คนดีที่ไหนจะทำอะไรอุกอาจแบบนี้ล่ะ?

เอาเถอะ ฉันเหนื่อยจะเถียงแล้ว ไม่รู้ว่ากำลังมึนยาหรือว่าเมาขี้ตาไม่หาย รู้เพียงว่าไม่อยากเห็นหน้าคนข้าง ๆ และไม่อยากจะอะไรด้วยทั้งนั้น

“ไปไหน” ยูนิกซ์ถามขึ้น หลังจากจัดแจงปรับเบาะและปรับกระจกรถให้เหมาะกับตัวเอง

“D คอนโดฯ”

หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาอีก ฉันเลิกคิดไปแล้วว่าเขาเป็นคนไม่ดี เพราะเห็นเส้นทางรถที่คุ้นชิน

เขากำลังพาฉันกลับคอนโดฯ

สารถีที่ยัดเยียดตำแหน่งนั้นให้ตัวเองขับรถไปเงียบ ๆ มีเหลือบมองฉันเป็นระยะ ซึ่งฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาต้องการอะไร ดวงตาคู่นั้นมันนิ่งจนคาดเดาอะไรไม่ได้เลย

ทว่าเมื่อร่างกายสัมผัสแอร์เย็นฉ่ำ หูได้ยินเพลงโปรดที่เปิดคลอเบา ๆ หนังตาฉันก็เริ่มหนักอึ้งขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะพยายามฝืนมันมากแค่ไหน เพราะกำลังอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ

แต่สุดท้ายความเหนื่อยล้าที่ผสมฤทธิ์ยาแก้แพ้ก็ชนะอยู่ดี...

~ End Phikkaeng Part ~

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • First Love ใจวุ่น(ลุ้น)รัก   ️Special 5️

    - 10 ปีต่อมา -“เฮียขา ~”“ว่าไงครับคนสวย” ร่างสูงย่อตัวนั่งยองบนส้นเท้า กางแขนรอรับร่างลูกสาวคนสวยที่วิ่งยิ้มแป้นผมปลิวมาแต่ไกล ด้านหลังเด็กสาวผมเปียมีหนุ่มน้อยผิวขาวจัดตัดผมสีน้ำตาลธรรมชาติ ดวงตาคม รับกับริมฝีปากสีชมพูระเรื่อที่ทำเพียงยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้พูดอะไรหลังจากลูกสาวคนแรกคลอดได้ไม่ทันครบปี พริกแกงก็ตั้งท้องลูกชายอีกคน คราแรกยูนิกซ์ค้านหัวชนฝา เพราะไม่อยากเห็นแม่ของลูกต้องทรมานอีก แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเมียรักอยู่ดีทว่ารอบนี้มีการปรึกษาหมออย่างละเอียด และโชคดีที่เจ้าลูกชายเป็นเด็กดีตั้งแต่อยู่ในท้อง ไม่มีใครแพ้ท้องอาเจียนจนเป็นลมล้มพับเหมือนตอนท้องลูกสาว มีเพียงภรรยาที่ติดกลิ่นสามี ต้องตามติดแจไปไหนไปกัน ซึ่งเขาชอบมากที่เป็นอย่างนั้น ส่วนตอนคลอดเจ้าหนูก็คลอดง่ายดายต่างจากยัยแสบลิบลับฮันนี่ พรรณิกา เรเลอร์ตัน เด็กสาวแก้มป่องกับผิวขาวอมชมพูที่ใครเห็นก็อยากฟัด สีผมและนัยน์ตาดำสนิทเหมือนผู้เป็นพ่อ ตากลมโตฉายแววความดื้อรั้นมาตั้งแต่ยังไม่ทันครบขวบดี ปากนิดจมูกหน่อยดูจิ้มลิ้ม เป็นเด็กสดใสร่าเริง ไม่กลัวคน ไม่ยอมใคร แสบเหมือนแม่ แต่ติดความกวนนิด ๆ เหมือนพ่อ เป็นตัวของตัวเอง และที่สำคัญ

  • First Love ใจวุ่น(ลุ้น)รัก   ️Special 4️

    “ฮะ...เฮีย ฮึก”“คนดีเป็นอะไรครับ?” เสียงร้องเบา ๆ ทว่าเจ็บปวดจากคนตัวเล็ก ปลุกคนที่กำลังหลับใหล ให้ดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจสุดขีดหมอคินกำชับนักกำชับหนา ช่วงนี้ให้ดูแลพริกแกงอย่างใกล้ชิด แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคืนนี้ เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่มีสัญญาณเตือนอะไรอย่างที่ไอ้หมอบอกไว้ ดีที่เขาพยายามตื่นตัวและเตรียมความพร้อมตลอดเวลา“นะ...หนูเจ็บ”“อดทนหน่อยนะครับ” เสียงสั่นเทาเอ่ยปลอบทั้งภรรยาตัวเล็กและตัวเอง เขาพยายามตั้งสติห้ามมือไม้ไม่ให้สั่น แม้จะเตรียมตัวตลอดหลายวันที่ผ่านมา แต่เอาเข้าจริง เขากลับตื่นเต้นจนแทบทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเห็นชุดนอนเมียรักเปียกชุ่มไปด้วยน้ำคร่ำ อกด้านซ้ายยิ่งสั่นระรัวเหมือนจะหลุดออกจากอกยูนิกซ์จำคำเตือนของไอ้หมอได้ขึ้นใจ เมื่อไหร่ที่พริกแกงมีอาการน้ำเดิน นั่นหมายความว่า มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เจ้าตัวน้อยจะออกมาลืมตาดูโลกภายในสิบสองชั่วโมง ถ้าเป็นแบบนั้นก็แสดงว่าในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เขาจะได้เจอหน้าคนที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่ยังไม่เคยเจอกันสักครั้งว่าที่คุณพ่อทั้งตื่นเต้น ดีใจ และตกใจแต่ก็ไม่ลืมช้อนอุ้มภรรยาขึ้น กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้องด้วยความระมัดระวัง โดยมี

  • First Love ใจวุ่น(ลุ้น)รัก   ️Special 3️

    “ค่อย ๆ ลุกนะคะคุณยู มาค่ะดิฉันช่วย”“ปล่อยครับ ผมลุกเองได้ ทำไมกูมาอยู่ที่นี่ได้วะ แล้วเมียกูไปไหน ไอ้เจฟ!” เอ่ยปฏิเสธคนที่ทำท่าจะเข้ามาช่วยพยุง เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงคนอื่นมาถูกเนื้อต้องตัว แม้จะเป็นพยาบาลก็ตาม ก่อนประโยคหลังจะหันมาถามคนสนิท แต่คนที่ยืนอมยิ้มในความหวงตัวของเจ้านายกลับไม่ทันตอบ เสียงระคายหูของคนมาใหม่ ก็ทำให้คนที่เพิ่งพยุงตัวเองลุกพิงหัวเตียงได้ตวัดตามองไม่พอใจ“ตื่นมาก็ร้องหาเมียเลยนะมึง”ทำไมนอกจากหน้าไอ้เจฟ ตื่นมาคนที่เจอต้องเป็นมัน! คนที่เขาไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุดตอนนี้ด้วย! โชคดีที่โผล่มาแค่ตัวเดียว ถ้าอีกคนมาด้วย มันคงหัวเราะเยาะเขาจนเสียงแหบหรือไม่ก็คอแตกตายไปแล้วมั้ง“มึงมาทำไมไอ้เจย์”“มาดูคนกระจอก” ตอบเสียงนิ่ง พลางปัดหน้าจอดูงานทำเป็นไม่ใส่ใจ แตกต่างจากความเป็นจริงพอเขารู้ข่าวว่าน้องชายถูกหามส่งโรงพยาบาลก็รีบมาดู แต่สภาพน่าอดสูของมัน กลับทำเขาอดยิ้มเยาะในความน่าสมเพชไม่ได้เกิดมาตากแดดตากลม อดหลับอดนอนลากยาวติดต่อกันแค่ไหนไอ้ยูก็ไม่เคยป่วย แต่วันนี้มันกลับโดนเสียบสายน้ำเกลือเพราะแพ้ท้องแทนเมีย ผู้ชายห่าอะไรแพ้ท้องหนักไม่พอ ยังเหม็นกลิ่นตัวเองหนักถึงขนาดเป็น

  • First Love ใจวุ่น(ลุ้น)รัก   ️Special 2️

    “เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่าตัวเล็ก” เสียงทุ้มเอ่ยถามภรรยาด้วยความห่วงใยเขายืนหวีผมให้เมียรักเหมือนอย่างที่ทำเป็นประจำก่อนนอนทุกวัน ทว่าวันนี้กลับสังเกตเห็นใบหน้าหวานที่สะท้อนผ่านกระจกมีสีหน้าเศร้าหมองเหมือนคนคิดไม่ตก ทำให้อย่างยูนิกซ์อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้เขาชอบเห็นใบหน้าสวย ๆ ของภรรยาประดับไปด้วยรอยยิ้มมากกว่า ไม่ชอบใบหน้าอมทุกข์อย่างเช่นตอนนี้เลยสักนิดพริกแกงจับมือใหญ่ของสามีที่วางอยู่บนบ่า พลางบีบเบา ๆ สบสายตาคมผ่านกระจกบานใหญ่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะระบายลมหายใจหนัก หันมาเอ่ยกับคู่ชีวิตด้วยเสียงแผ่วเบาไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเก็บมาคิดหรือใส่ใจ“จู่ ๆ ช่วงนี้หนูก็คิดถึงข้าวฟ่างขึ้นมา ผ่านมาเป็นปีแล้ว ไม่รู้เธอจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างนะคะ”“หนูเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นเหรอ”“ก็มีบ้างค่ะ” หากไม่นับเรื่องแทนไท ข้าวฟ่างก็นับเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง เธอกับข้าวฟ่างคอยช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันมาตลอด แต่เพราะอีกคนพลาดที่มอบหัวใจให้คนผิด ไปรักผู้ชายเห็นแก่ตัวที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เรื่องมันถึงต้องจบลงแบบนั้น แต่ถึงจะไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ เธอก็ไ

  • First Love ใจวุ่น(ลุ้น)รัก   ️Special 1️

    “ทำอะไรอยู่ครับ หืม?” คุณสามีที่เพิ่งกลับมาจากทำงาน เดินเข้าไปสวมกอดภรรยา พร้อมกดปลายจมูกโด่งลงบนแก้มนิ่มฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงนับวันเขายิ่งรู้สึกทั้งรักทั้งหลงยัยตัวเล็กมากขึ้นทุกวัน กลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ พอได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงคนในอ้อมแขน ได้สูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนผมนุ่ม ก็ทำให้ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันหายเป็นปลิดทิ้ง เหมือนได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง“อ่านบันทึกค่ะ”“ไม่เบื่อเหรอ เฮียเห็นหนูอ่านแทบทุกวัน”“ไม่เบื่อค่ะ ก็มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรานี่คะ” เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน พริกแกงไม่เคยลืมเลือน เธอสามารถอ่านมันได้ซ้ำ ๆ ทุกวันไปตลอดชีวิต ทุกตัวอักษรคือเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ก่อนที่เราสองคนจะสมหวัง แล้วเธอจะเบื่อได้อย่างไรไม่มีทาง“แต่ตอนนี้หนูหยุดอ่าน แล้วมาช่วยเฮียก่อนได้มั้ยครับ?”“หือ ช่วยอะไรคะ”“อาบน้ำให้เฮียหน่อยค่ะคนดี”“...แต่หนูเพิ่งอาบไปเองนะ”“อาบแล้วก็อาบอีกได้ มาครับเมีย เฮียจะทำความสะอาดให้ทุกซอกทุกมุมเลย” แม้จะทำสีหน้าเหมือนไม่ยินยอมกับคำพูดสองแง่สองง่ามของสามี แต่เธอก็อ้าแขนออกกว้างให้เขาเข้ามาอุ้ม เรียกรอยยิ้มเอ็นดูได้ไ

  • First Love ใจวุ่น(ลุ้น)รัก   Ep. 40 | ตลอดชีวิต (END)

    “มันกวนตีนแบบนี้มานานแล้วน้องรัก เธอแค่ยังไม่เห็น!”“ถ้ามึงไม่หยุด ผมจะโทร. บอกเมียคุณนะ”“โอ๊ย ถ้าขึ้นมึงแล้ว ก็ไม่ต้องผม ๆ คุณ ๆ หรอกเพื่อนรัก” พี่เขยเอ่ยเย้า แต่พอเห็นน้องเขยในคราบเพื่อนสนิททำท่าขอโทรศัพท์จากการ์ดด้านล่าง ชานนท์ก็รีบรูดซิปปาก แล้วกลับไปนั่งเงียบ ๆ ข้างเจนิกซ์แต่โดยดี“น้องมึงแม่งชอบขู่”“กูก็โดน” พอได้ฟังเจนิกซ์ตอบก็ยิ่งต้องเงียบเสียงกว่าเดิมพี่มันยังไม่เว้น แล้วเพื่อนจะเหลืออะไรล่ะคร้าบ“กลับมาต่อนะครับ เหตุผลแค่นี้เองเหรอเนี่ยที่ทำให้เธอจำพี่ใจดีไม่ได้? งั้นพี่ช่วยตอบเพื่อนผมหน่อยสิว่าทำไม”“ที่ผิวคล้ำ เพราะช่วงนั้นบ้าเล่นเซิร์ฟครับ ครั้งแรกที่เราเจอกัน พี่ก็เพิ่งกลับจากแข่งเซิร์ฟ ส่วนทำไมผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นถึงเป็นสีน้ำเงิน มันเป็นของแจกน่ะ พี่ได้มาตอนไปลงทะเบียนแข่งครับ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก แล้วปล่อยให้เข้าใจผิดตั้งนาน ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงชอบกวน...” ยูนิกซ์ลดไมค์ลงครู่หนึ่ง ก้มลงไปใกล้ใบหูสีแดงของว่าที่ภรรยา เขาพูดเสียงกระซิบทว่ายกไมค์ขึ้นจ่อปากไว้“พี่กวนเฉพาะคนสนิท แต่กับหนู...พี่อยากกวนทั้งตัวทั้งใจเลยครับที่รัก”หลังส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอเสร็จ แขกเหรื่อแล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status