หลังจากที่ไคล์พักรักษาตัวจนหายดี เขาก็เริ่มกลับไปทำงาน แต่ทุก ๆ ตอนเที่ยงเขาจะพาน้ำตาลออกไปทานข้าวด้วยกันทุกครั้ง เขาไม่เคยปล่อยให้เธออยู่บ้านโดยไม่มีเขาเลยสักครั้ง“รีบ ๆ สิครับ”“รีบไปไหนกันคะ”“ผมมีที่ที่อยากจะพาคุณไป”“อะไรกันคะ คุณทำให้ฉันกังวลนะ”“ผมมีพิรุธขนาดนั้นเลยเหรอ”“ก็คุณดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ สีหน้าของคุณดูง่ายจะตาย”“แสดงว่าที่ผ่านมาคุณอ่านความคิดของผมออกหมดเลยเหรอ”“เปล่าหรอกค่ะ เพราะก่อนหน้านี้แม้แต่หน้าของคุณฉันยังไม่กล้ามอง แล้วฉันจะสังเกตได้ยังไง”“แล้วตอนนี้ล่ะ”“ก็มองทุกวันไงคะ มองจนจำได้หมดแล้วว่าถ้าทำปากแบบนี้” เธอดึงแก้มของสามีจนปากของเขาเป็นเส้นตรง “แสดงว่ากำลังงอล”“รักคุณจังเลยครับ”“ไม่เบื่อบ้างเหรอคะ”“หรือคุณเบื่อที่จะฟังแล้ว”“ไม่เลยค่ะ ฉันฟังได้ทุกวัน”“ผมก็บอกรักคุณได้ทุกวัน ไม่เบื่อเลย”“คุณสั่งตัดชุดมาให้ฉันอีกแล้วเหรอ”“ครับ” เขาเดินเข้าไปช่วยน้ำตาลรูดซิปด้านหลัง “ก็ท้องของคุณเริ่มโตแล้ว”“พอคลอดแล้วฉันจะเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปไว้ที่ไหนละคะ”“จะกังวลไปทำไมครับ คลอดเสร็จก็ท้องอีก”“อะไรนะ”“เราจะมีลูกด้วยกันสักห้าคนดีมั้ย”“คุณท้องเองมั้ยล่ะคะ ถ้าท้องเองจะ
“อะไรนะครับ” ไคล์ตาลุกวาวเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่น้ำตาลพูด“...”“พูดอีกทีสิครับ คุณบอกว่าจะใช้ปากให้ผมใช่มั้ย” เขาดีใจจนออกนอกหน้า แทบจะลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว“ก็คุณไม่อยากฟังนี่นา”“อยากฟังแล้วครับ อยากฟัง”“คุณอดทนรอจนถึงคืนนี้ได้มั้ยคะ” เธอไม่ได้จะทำตอนนี้“งื้อ อยากให้ทำตอนนี้เลย”“ถ้าทำอยู่แล้วมีคนมาเยี่ยมคุณล่ะ”“ผมจะติดป้ายห้ามเยี่ยมเดี๋ยวนี้เลย”“คุณนี่หื่นจริง ๆ”“เร็วครับ ผมอดทนรอไม่ไหวแล้วนะ”“ฉันไม่มั่นใจเลย” เธอไม่เคยเสนออะไรแบบนี้กับเขาเลยสักครั้ง และที่ผ่านมาเธอก็ทำมันได้ไม่ดีเท่าไหร่ “ไม่รู้ว่าคุณจะชอบหรือเปล่า”“ทำไมจะไม่ชอบล่ะครับ แค่คุณบอกว่าจะทำให้ผมก็เกือบจะเสร็จเพราะคำพูดของคุณแล้ว จับดูสิมันเหนียวหมดแล้ว”“เดี๋ยวฉันมานะคะ” อยู่ ๆ น้ำตาลก็ลุกขึ้นยืน“จะไปไหน”“ไปบอกบอดี้การ์ดของคุณไง ว่าห้ามไม่ให้ใครเข้ามา จนกว่าคุณจะสั่ง”ไคล์ยิ้มกว้างมองตามหลังหญิงสาวไป เพราะอยู่ด้วยกันทุกวัน เขาจึงไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้เธอดูมีน้ำมีนวลขึ้น ก้นก็กลมและใหญ่ขึ้น ช่างเซ็กซี่เหลือเกิน“อึก!” หลายครั้งที่ไคล์สวนสะโพกขึ้นมา ทำให้เอ็นร้อนของเขาดันเข้าไปจนถึงคอหอยของเธอ ถึงจะเป็
น้ำตาลถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนถึงประตูห้องทำงาน ในขณะที่หลินหลินก็ถือมีดแล้วย่างสามขุมเข้ามาหาเธอเรื่อย ๆแกร็ก!!ฉึก!!มีดปักลงไปตรงท้องด้านขวาของคนที่เข้ามาขวางไว้ เขาจับน้ำตาลให้มาแอบอยู่ด้านหลังของเขา“คุณ...” น้ำตาลตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่โดนมีดแทงคือไคล์“ถอยออกไปก่อน” เขาหันไปบอกน้ำตาลอย่างใจเย็น “ผมไม่เป็นไร”“แต่...” เธอไม่ยอมปล่อยมือออกจากเขา ซ้ำยังเดินเข้าไปเพื่อเอามือกดแผลให้เขา“เชื่อผมเถอะนะ” เขาพูดเชิงขอร้องน้ำตาลยอมถอยออกไปโดนมีเซียวหม่ายืนคุ้มกัน เธอไปยืนอยู่ที่ประตูห้องทำงาน ส่วนไคล์เดินเข้าไปข้างในซึ่งมีหลินหลินกำลังทำหน้าสติแตกอยู่“หยุดอยู่ตรงนั้น” ไคล์ตะคอกเมื่อเห็นว่าหลินหลินกำลังเดินเข้ามาหาเขา “ห้ามเข้ามาใกล้ผม”“ทำไมละคะ หลินไม่ได้ตั้งใจ คนที่หลินจะแทงคือมันต่างหาก”“ตอนนี้ผมไม่ได้โกรธที่คุณแทงผมหรอก แต่ผมโกรธที่คุณกล้าเข้ามาทำร้ายคนของผมถึงที่นี่”“ฉันสงสัยมาตลอดว่าเราสองคนใครกันแน่ที่นอกใจก่อนกัน”“ใครจะนอกใจใครก่อนหรือหลังมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร เพราะสุดท้ายเราสองคนก็ไม่ได้รักกันแล้ว”“ไม่รักแล้วจะยื้อฉันไว้ทำไม”“หลังจากที่ร้องขอความรักจากคุณในวันนั้น ผมก็ไม่ได้ทำ
เวลา 21.00 น ภายในบ้านหลังใหญ่ ทั้งคู่ก็พากันเข้าห้องนอน หลังจากที่ออกจากห้างมาจนหาหมอแล้วกลับถึงบ้าน ไคล์สังเกตเห็นว่าน้ำตาลดูเงียบผิดปกติ“คุณไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า” เขาเปิดประเด็นขึ้นมาเพื่อหวังให้เธอระบายเรื่องที่ไม่สบายใจกับเขา“ไม่มีค่ะ”“น้ำตาล” ไคล์เดินไปนั่งลงข้าง ๆ เธอ “ผมอยากให้เราเปิดใจคุยกันสักครั้ง เพราะผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่คุยกันและต่างเดาความคิดของอีกฝ่ายไปต่าง ๆ นา ๆ”“...”“หากคุณมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ หรืออยากให้ผมทำอะไรคุณบอกผมได้นะ”ทันทีที่ไคล์พูดประโยคนั้นจบ น้ำตาลก็มองไปยังแหวนของเขา เธอมองจนเขาสังเกตเห็น“คุณไม่ชอบให้ผมใส่มันเหรอ” เขายกมือข้างที่สวมแหวนขึ้น“ฉันเคยอ่านเจอ เขาบอกว่าผู้ชายที่นี่จะใส่แหวนนิ้วกลางข้างซ้ายหลังจากที่หมั้นหมายแล้ว”“แล้วไงต่อ”“คุณกับเธอคง...”“ผมรู้แล้ว...” คราวนี้เขารู้แล้วว่าน้ำตาลคิดอะไรอยู่ เขาเลยลุกจากที่นอนแล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานของเขา “รอผมแปบนึงนะ”ไคล์เดินกลับมาพร้อมบางอย่างในมือ เขาส่งมันให้เธอ“ยื่นมือมาสิ”“อะไรคะ” น้ำตาลยื่นมือออกไป เธอนิ่งไปเมื่อเห็นสิ่งที่เขาวางอยู่บนฝ่ามือของเธอ “คุณให้ฉันทำไม”“ก็มั
“ผมรักคุณนะ”“ฮึก ๆ ๆ” นั่นยิ่งทำให้น้ำตาลร้องหนักกว่าเดิม“อย่าร้อง อย่าร้องสิ” ไคล์ตกใจที่อยู่ ๆ เธอก็ร้องไห้หนักขึ้น“คุณมันขี้โกง บอกรักฉันทำไม บอกทำไม” มือเล็กตีไปบนอกแกร่ง“ทำไม ไม่ชอบเหรอ ไม่อยากได้ยินคำนั้นจากปากของผมเหรอ”“คนโกหก ถ้าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจะพูดออกมาทำไม”“หยุดร้องสิ” ไคล์จับมือของน้ำตาลมาวางบนอกของเขาน้ำตาลดึงมือกลับทันที ยิ่งเธอเห็นแหวนบนนิ้วกลางของเขายิ่งทำให้เธอโกรธเขาหนักกว่าเดิม“ถอยออกไปห่าง ๆ ฉันนะ”“...” คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากัน เขาเริ่มไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าเป็นอะไร เดี๋ยวร้อง เดี๋ยวโกรธ หรืออาการทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าเธอกำลังท้อง“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”“คุณจะไล่ผมให้ออกไปข้างนอกเหรอ”“ก็ใช่ไง”ไคล์ไม่อยากให้น้ำตาลอารมณ์ไม่ดีไปมากกว่านี้ เขาเลยยอมเดินออกไปแต่โดยดี“จะไปหาใครก็ตามสบายเลย ฉันมัน...” เธอทรุดตัวลงนั่ง “ฉันมันบ้า”ทั้ง ๆ ที่ทำปากดีพูดออกไปว่าต่อให้เขาจะพาเธอเข้ามาในฐานะผู้หญิงลับ ๆ ของเขาก็ไม่เป็นไร แต่ความจริงแล้วเธอเสียใจมากพรึ่บ!!“เป็นอะไรครับ” ไคล์หันกลับมาแล้วเห็นน้ำตาลนั่งอยู่กับพื้นก็รู้สึกตกใจ คิดว่าเธอหน้ามืดแล้วล้มลงไป เขาจึงรีบเ
กว่าสองอาทิตย์ที่ไคล์พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้น้ำตาลกลับไปกับเขา หลังจากที่เธอยื่นข้อเสนอให้เขาในวันนั้นเขาก็เว้นระยะห่างเพื่อให้เธอสบายใจ แล้วกลับมานอนที่โรงแรมทุกวัน แต่ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่แวะเวียนไปหาเธอ“วันนี้คุณทานยาแล้วยัง” ทันทีที่ประตูห้องนอนเปิดออกจากคนด้านใน เขาก็เอ่ยปากถามเธอทันที“...”เป็นอีกวันที่คน ๆ นี้โผล่หน้ามาในตอนเช้าก่อนที่เธอจะออกไปทำงาน ถึงแม้เธอจะพยายามทำเป็นไม่สนใจ เขาก็ยังตื๊อเธอไม่เลิก“นั่นคุณจะไปไหน”“...” น้ำตาลไม่ยอมตอบเธอเลือกที่จะเดินเลี่ยงเขาไป“จะไปไหนครับ” ไม่ถามเปล่าเขาเดินเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วเอาคางเกยไหล่มนไว้ และดูเหมือนว่าคนตัวเล็กคนนี้จะเมินเขาเก่งขึ้นทุกวัน“ปล่อยค่ะ ฉันจะไปทำงาน”“ผมบอกแล้วไงว่าให้ลาออก”“ไม่ค่ะ” น้ำตาลปฏิเสธ “อ้อ วันนี้ฉันจะแวะถอนเงินในบัญชีทั้งหมดแล้วคืนให้คุณ”“ไม่รับคืนครับ”“ถ้าคุณไม่รับคืนไป ฉันจะไม่พูดกับคุณอีก”“ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาขู่ผม คุณก็รู้ว่าผมยอมทุกอย่างแค่ให้ได้อยู่ใกล้ ๆ คุณ”“เลิกพูดจาน่าขนลุกเถอะค่ะ ฉันว่าคุณควรกลับไปทำงานของคุณดีกว่า คุณทิ้งบริษัทมานานแบบนี้ทางนั้นไม่วุ่นวายหรือไง”“ถ้าคุณลาออก