"อย่ารู้สึกกับฉันเกินกว่าสถานะที่เธอมี" "ใครกันแน่ที่กำลังรู้สึกแบบนั้น"
View Moreกฎข้อห้ามของสถานะ ของเล่นแก้เหงา คือห้ามให้ความรู้สึกถลำลึกไปมากเกินกว่าสถานะที่มี เพราะไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่เคยมีความสุขจะก่อตัวเป็นความอึดอัดในใจจนไม่มีความสุขเหมือนที่เคยเป็น
“จัสมิน!”
เจ้าของชื่อที่นั่งแต่งหน้าอยู่ละมือที่กำลังจับแปรงแต่งหน้า เงยหน้าขึ้นมองตรงไปที่กระจกเงาตรงหน้าเพื่อดูว่าใครคือคนที่เรียกเธอเมื่อกี้นี้
“คุณไนต์เรียกหาเธอ” หญิงสาวที่อยู่ในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปกระโปรงสั้นสีขาวเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมือเห็นเจ้าของชื่อที่เรียกไปเงยหน้าขึ้นมองกลับมาผ่านกระจก
“ตอนนี้เหรอ?” เจ้าของใบหน้าสวยเซ็กซี่ถามกลับด้วยความสงสัย
“ไม่รู้สิเขาไม่ได้บอกเวลา”
“เข้าใจแล้วล่ะ” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะหยิบแปรงแต่งหน้าขึ้นมาแต่งหน้าตัวเองต่อโดยไม่ได้สนใจคนที่ยืนอยู่ด้านหลังอีก
จัสมิน พีอาร์สาวตัวท็อปของไนต์คลับชื่อดัง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยเซ็กซี่ผู้ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เพราะรูปร่างของเธอนั้นก็ยังคงเพอร์เฟคจนผู้หญิงด้วยกันยังอิจฉา
จัสมินใช้เวลาแต่งหน้าต่อจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมตัวเองอีกครั้ง มือเล็กดึงชุดเกาะอกรัดรูปสีดำให้เข้าที่ จัดระเบียบชายกระโปรงที่สั้นแค่คืบ เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงหมุนตัวเดินออกไปจากห้องแต่งตัวของคลับสุดหรูชื่อดังที่ตัวเองทำงานอยู่
หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยเซ็กซี่เดินลัดเลาะไปตามทางสำหรับพนักงานของคลับ เพื่อจะขึ้นไปยังห้องทำงานของเจ้าของคลับที่อยู่ชั้นสามของสถานบันเทิงแห่งนี้ เดินมาจนถึงทางขึ้นก็พบกับการ์ดรักษาความปลอดภัยยืนอยู่ที่หน้าบันได
“จะไปไหนครับ” น้ำเสียงเข้มดุดันของชายร่างสูงใหญ่ผิวสีแทนเอ่ยถามพร้อมกับยื่นแขนออกไปขวางทางเพื่อหยุดร่างบางไม่ให้ก้าวเดินต่อ
“คุณไนต์เรียกไปพบค่ะ” จัสมินตอบคำถามของการ์ดด้วยน้ำเสียงปกติ
การ์ดสองคนที่ยืนคุมอยู่ที่หน้าบันไดทางขึ้นไปยังชั้นสองและสามมองหน้ากัน ก่อนที่การ์ดอีกคนจะยกมือขึ้นแตะเครื่องมือสื่อสารที่หู ทำให้หญิงสาวร่างบางต้องยืนรอก่อน เพราะรู้ดีว่าระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่นั้นแน่นหนาขนาดไหน ต่อให้บอกว่าเจ้าของคลับเรียกพบก็ไม่มีทางได้ขึ้นไปง่ายๆ หากยังไม่ได้รับการยืนยันมาจากลูกน้องคนสนิทของเจ้าของคลับนี้
“เชิญครับ” ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีการ์ดคนเดิมกับที่ตั้งคำถามก่อนหน้าก็ลดมือลงขยับหลีกทางให้เมื่อได้รับการยืนยันลงมาจากชั้นบนสุดแล้วเรียบร้อย
จัสมินก้าวขึ้นบันไดไปด้วยความคล่องแคล่ว แม้ว่าตอนนี้เธอจะสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเธอเลยสักนิด เรียกได้ว่าเธอคุ้นชินกับการสวมใส่รองเท้าส้นสูงพอๆ กับสถานบันเทิงแห่งนี้ ให้หลับตาเดินยังได้
พอเดินขึ้นมาถึงชั้นสามที่เป็นชั้นบนสุดของคลับก็พบชายร่างสูงโปร่งคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องที่เธอคุ้นชิน เพียงแค่เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่คิดถามอะไร เอื้อมมือขึ้นไปจับก้านลูกบิดประตูแล้วเปิดมันให้กับเธอทันที
เพียงแค่ก้าวเข้ามาในห้องก็พบกับอุณหภูมิที่เย็นเฉียบจนเจ้าของร่างบางต้องยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองเพื่อเพิ่มไออุ่นให้กับร่างกาย
“เหมือนฉันให้คนไปตามเธอนานแล้วนะ”
น้ำเสียงเรียบนิ่งของคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานดังขึ้นท่ามกลางความเงียบที่แสนเย็นเฉียบ ใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้าขึ้นจากสมาร์ทโฟนในมือขึ้นมองตรงไปยังร่างบางในชุดเกาะอกรัดรูปสีดำที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง
“ฉันแต่งหน้าแต่งตัวอยู่เลยมาช้าค่ะ” จัสมินบอกเหตุผลที่ทำให้ตัวเองขึ้นมาช้า พร้อมกับก้าวเท้าเดินตรงไปหาร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานโดยไม่ต้องรอให้เขาเรียก
ไนต์ เจ้าของคลับหรูชื่อดังแห่งนี้ ชายหนุ่มผู้มีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมดุจเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากได้รูป จ้องมองไปที่ร่างบางในชุดเดรสเกาะอกสีดำรัดรูปกำลังเดินตรงเข้าหาอย่างไม่วางตา จนกระทั่งเธอเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างเขา
หมับ!
มือหนาตวัดโอบเอวคอดของพีอาร์สาวสุดสวยแล้วดึงให้เธอนั่งลงบนตักของตัวเอง ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปเอ่ยชิดใบหูเล็กด้วยโทนเสียงที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไรนัก
“เธอก็รู้นี่ว่าถ้าฉันหงุดหงิดจะเป็นยังไง”
“ขอโทษค่ะ ครั้งหน้าจะรีบมาทันทีที่คุณเรียก”
‘ปีศาจร้าย’ นั่นคือคำที่เธอนิยามให้เขาเมื่อเขาอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดหรือไม่พอใจอะไรบางอย่าง ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาที่มีกลิ่นอายของหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษคนนี้นั้นน่ากลัวไม่น้อย เป็นไปได้เธอก็ไม่ได้อยากจะทำให้เขาหงุดหงิดนักหรอก
“รู้ก็ดี”
“ทำไมวันนี้ถึงเรียกฉันมาหาเวลานี้คะ” คนที่นั่งอยู่บนตักแกร่งถามอย่างสงสัย เพราะปกติแล้วไนต์จะเรียกเธอมาหาตอนที่คลับปิดแล้วเท่านั้น
“อยาก” คนถูกถามตอบกลับสั้นๆ อย่างไม่อาย กดหน้าลงซุกไซ้คลอเคลียร์กับลำคอระหงของคนบนตัก ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อพบว่ากลิ่นบนตัวเธอนั้นไม่เหมือนเดิม “เธอเปลี่ยนน้ำหอมงั้นเหรอ”
“ค่ะ”
“กลับไปใช้กลิ่นเดิมซะ”
“ทำไมล่ะคะ กลิ่นนี้ก็หอม…”
“เพราะฉันชอบกลิ่นนั้น” ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบเขาก็พูดแทรกขึ้นทันที
ไม่เจอแค่สองสัปดาห์แทนที่จะอารมณ์ดีที่ได้เจอ แต่เธอก็ดันทำให้เขาหงุดหงิดเพราะกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยนี้ พอเธอเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมแล้วให้ความรู้สึกแปลกๆ คล้ายกับว่าคนที่นั่งอยู่บนตักให้เขาคลอเคลียร์อยู่ตอนนี้ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่จัสมินคนที่เขาคุ้นเคยมานานหลายเดือน
จัสมินพยักหน้ารับโดยไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้คนตัวสูงโอบกอดลูบไล้คลอเคลียร์เธออยู่อย่างนั้นโดยไม่คิดห้ามปราม เพราะห้ามไปเขาก็ไม่ฟัง ในเมื่อเอ่ยปากมาแล้วว่า ‘อยาก’ สิ่งเดียวที่จะทำให้เขาหายอยากได้ก็คือเซ็กซ์...จากเธอ และสิ่งที่เขาต้องการก็คือสิ่งที่เธอปรารถนาเช่นกัน...
แก่นกายใหญ่ถูกดันเข้าไปภายในความคับแน่นของกายสาว ผนังร้อนที่นุ่มหยุ่นด้านในตอดกระตุกรัดแน่นทุกการเคลื่อนไหวที่ผ่านเข้าไป“อ๊ะ อื้อ...”จัสมินครางกระเส่าร่างกายเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่คนตัวสูงส่งผ่านมา สายตาที่พยายามจะโฟกัสที่ท้องฟ้าถูกคนตัวสูงดึงดูดความสนใจไปหมดแล้วการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาสะกดให้เธอเพ่งมองแค่เขาไม่อาจละสายตา มือหนาที่จับขาเธอแยกออกจากกันกว้างเลื่อนขึ้นมาจับเอวคอดของเธอไว้แน่น กดจังหวะรัวเร็วขึ้นตามอารมณ์ปรารถนาที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงไนต์ปล่อยมือจากเอวคอดกิ่วของคนตัวเล็ก โน้มตัวลงหาเธอจนแผงอกแกร่งแนบชิดกับหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น กดริมฝีปากจูบลงที่ไหล่เล็กไล่ขึ้นตามลำคอระหง สองแขนค้ำยันทรงตัวเร่งจังหวะถี่รัวจนคนตัวเล็กเกร็งกระตุกอยู่ใต้พันธนาการ“อ๊ะ คุณไนต์ อื้อ... คะ คุณ...” คนตัวเล็กครางกระเส่า ยกมือขึ้นโอบกอดคนตัวสูงไว้แน่น จิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างระบายความเสียวซ่านที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงใกล้ถึงขีดสุดริมฝีปากหยักได้รูปไล่จูบซับขึ้นตามลำคอระหงจนถึงใบหูเล็ก ตวัดลิ้นเลียที่ใบหูของเธอจนร่างบางสั่นสะท้านหนักขึ้นกว่าเดิม“อื
“อ๊ะ...”เสียงครางแผ่วดังมาจากคนตัวเล็กที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาโกนหนวดด้วยความตั้งใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนตัวสูงไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือ“เป็นอะไร ทำต่อสิ” ไนต์ถามเสียงเรียบทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ความเป็นจริงเขากำลังก่อกวนเธอด้วยการบีบเคล้นสะโพกของเธออยู่“คุณก็อยู่นิ่งๆ ก่อนสิคะ”“สั่งฉัน?”“ถ้าคุณไม่นิ่งฉันก็ทำไม่ได้ เงยหน้าหน่อยค่ะ”ไนต์เงยหน้าขึ้นตามที่คนตัวเล็กบอก หยุดมือที่บีบขย้ำสะโพกของเธอลง ท่าทางตั้งใจนั่นทำให้เขายอมอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เธอโกนหนวดให้ต่อไปจัสมินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่คนตัวสูงยอมเงยหน้าตามที่เธอบอกง่ายๆ แถมยังยอมหยุดขย้ำสะโพกเธอด้วย แต่มือเขาก็ยังวางแหมะอยู่ที่ข้างต้นขาของเธอไม่ยอมขยับออกห่าง“เม้มปากให้หน่อยค่ะ”เป็นอีกครั้งที่ไนต์ทำตามคำสั่งอย่างไม่ถกเถียงอะไร ทำให้การโกนหนวดของจัสมินราบรื่นขึ้นจนใกล้จะเสร็จเรียบร้อยมือเล็กลูบเบาๆ ไปตามกรอบหน้าและปลายคางของคนตัวสูง เพื่อทดสอบดูว่าตัวเองนั้นโกนหนวดให้เขาเกลี้ยงเกลาดีแล้วหรือเปล่าสายตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้ดูจริงจังอย่างตั้งใจไม่วางตา เกิดคำถามขึ้นในใจว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เล่นกับเธอได้นานขน
จัสมินกลับถึงคอนโดตัวเองในช่วงเย็นที่แสงสว่างจากธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยแสงไฟ เธอกับไนต์แยกกันที่ลานจอดรถ และเธอไม่ได้ถามว่าเขาจะไปไหนต่อ หรือเอาง่ายๆ คือเธอไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องส่วนตัวของเขา แม้จะอยากรู้ว่าเขาจะไปไหนทำอะไรก็ได้แต่เก็บความสงสัยที่มีเอาไว้ในใจกล่องนาฬิกาเรือนหรูที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ ถูกหยิบออกมาเปิดดูอีกครั้ง ก่อนจะถูกเก็บเข้าไว้ในตู้โชว์อย่างดิบดี ดวงตาคู่สวยกวาดมองดูตู้เครื่องประดับของตัวเองที่มีทั้งนาฬิกา กำไลข้อมือ สร้อย แหวน รวมไปถึงตุ้มหู และเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย รวมๆ แล้วในตู้นี้มีมูลค่ามากถึงเลขเจ็ดหลัก ถ้ารวมพวกกระเป๋ารองเท้าด้วยราคาก็น่าจะเหยียบแปดหลักได้เธอคงจะเป็นของเล่นราคาแพงอย่างที่เขาว่าจริงๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะสิ่งของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเขาที่ให้มา แต่จะมีกระเป๋าใบหนึ่งที่ลูกค้าประจำที่เธอดูแลซื้อให้เป็นของขวัญ แต่ไนต์ไม่รู้ เขาคิดว่าเธอซื้อเอง และเธอก็ตั้งใจให้เขาเข้าใจแบบนั้น เพราะไม่อยากจะให้มีปัญหาตามมาครืน… ครืน…สมาร์ทโฟนที่ถูกปิดเสียงไว้เกิดแรงสั่นขึ้นให้ได้ยิน จัสมินละสายตาจากตู้เครื่องประดับมองหาสมาร์ทโฟนของตัวเองคิ้วเรียว
จัสมินและเทียร์น่าเดินเลือกซื้อเครื่องสำอางกันอย่างสนุก จากที่แรกๆ จัสมินเกร็งจนไม่กล้าหยิบจับอะไร แต่พอถูกเทียร์น่าจับให้ลองนั่นนี่ก็คลายความเกร็งที่มีลง ไปๆ มาๆ พวกเธอสองคนคล้ายจะคุยกันถูกคอซะแล้ว“เทียร์ว่ากลิ่นนี้เหมาะกับพี่มินมากเลยค่ะ หวานๆ แต่ซ่อนความเซ็กซี่ ดูน่าค้นหาสุดๆ”จัสมินชะงักมือที่กำลังจะหยิบน้ำหอมกลิ่นประจำของตัวเอง หันไปมองตามเสียงของเทียร์น่าที่ยื่นกระดาษเทสกลิ่นน้ำหอมส่งมาให้เธอลองดมดู“หอมดีนะคะ แต่พี่มีกลิ่นประจำที่ชอบอยู่แล้ว” เธอเคยลองเปลี่ยนไปใช้กลิ่นอื่นดูแล้วแต่ไนต์ไม่ชอบ...เลยต้องกลับมาใช้กลิ่นเดิม“กลิ่นไหนคะ ขอเทียร์ลองหน่อยสิ”ได้ยินแบบนั้นจัสมินก็หยิบน้ำหอมกลิ่นที่ตัวเองใช้ประจำส่งให้กับเทียร์น่าได้ลองดมกลิ่นดู“เอ๋...กลิ่นนี้คุ้นๆ เหมือนเคยได้กลิ่นมาจากพี่ไนต์เลยค่ะ” เทียร์น่าเอ่ยด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย พลางลอบสังเกตความผิดปกติของพี่สาวคนสวยที่เพิ่งได้รู้จักกัน“สงสัยคุณไนต์ก็คงใช้กลิ่นนี้ด้วยมั้งคะ”“พี่มินคะ นี่น้ำหอมผู้หญิงค่ะ พี่ไนต์ไม่ใช้อะไรแบบนี้หรอก” เธอว่าเธอมองไม่ผิดแน่ พี่ชายของเธอกับจัสมินต้องมีอะไรมากเกินกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่
จัสมินก้มหน้าก้มตาทานราเมงที่สั่งมา กะว่ารีบทานให้เส็จเร็วๆ จะได้รีบออกไปจากร้านนี้ แต่ทว่าขณะที่เธอกำลังเร่งรีบ คนที่นั่งอยู่โต๊ะในระดับสายตาก็พากันลุกขึ้นแล้วเดินออกไปก่อนเธอแล้วคนตัวเล็กมองตามสองคนหนุ่มสาวที่เดินออกจากร้านอาหารไป แล้วแอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดในการทานอาหารมื้อนี้ตอนแรกก็กะว่าจะรีบทานรีบออกไป แต่พอเห็นคนทั้งคู่ลุกไปก่อนเลยเลือกที่จะนั่งทานอาหารมื้อแรกของวันต่ออย่างใจเย็น แต่ในหัวก็ยังเอาแต่นึกถึงภาพของสองคนนั้นอยู่ตลอดเวลา อยากจะรู้ใจจะขาดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ถ้าเป็นคนรักของเขา เธอจะได้รีบจัดการตัวเองออกจากความสัมพันธ์นั้นโดยเร็ว ก่อนที่คนของเขาจะรู้ตัว...ฟุ่บ!ขวับ!ใบหน้าสวยหันขวับด้วยความรวดเร็วเมื่ออยู่ๆ ที่ว่างข้างกายก็มีคนเดินมานั่ง ความตกใจทำให้เธอรีบขยับออกห่างอย่างอัตโนมัติ และเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งลงเป็นใครก็ไม่ได้ทำให้ความตกใจของเธอลดน้อยลงเลย“คุณไนต์?!” ทำไมเขาถึงกลับมาได้ล่ะ เขากลับมาหาเธอเหรอ หรือว่าลืมของไว้แล้วแค่เดินกลับมาเอาไนต์จ้องมองคนตัวเล็กที่ดีดตัวออกห่างด้วยแววตานิ่งเฉย ก่อนจะละสายตาจากร่างบางมองไปบนโต๊ะที่มีถ้วยรา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะเข้ากับผิวกายที่โผล่พ้นออกมานอกผ้าห่ม ปลุกให้คนตัวเล็กที่หลับไหลไปด้วยความอ่อนเพลียรู้สึกตัว มือเล็กเอื้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายตัวเองจนถึงคอทั้งที่ตายังหลับ ขยับขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยความรู้สึกหนาวเย็นแรงขยับตัวของเธอดึงความสนใจจากคนตัวสูงที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ให้ละสายตาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือหันไปมอง ไนต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางการนอนของคนตัวเล็กผ่านรูปร่างของผ้าห่มผืนใหญ่ เธอขดตัวเข้าหากันจนแทบจะเป็นก้อนกลมๆ อยู่แล้วสายตาคมเหลือบมองที่รีโมทคอนโทรลของเครื่องปรับอากาศ เอื้อมมือหยิบขึ้นมากดปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เพราะตอนแรกที่เขามาถึงเขาเปิดทิ้งไว้ที่ 18 องศา จากนั้นก็มีกิจกรรมเข้าจังหวะกันไปไม่น้อยกว่าสองรอบ ทำให้ไม่ได้รู้สึกว่าอุณหภูมินั้นเย็นเกินไป แต่ตอนนี้กิจกรรมนั้นจบลงแล้ว และคนตัวเล็กเจ้าของห้องก็หมดแรงไปแล้วอย่างที่เห็นหมับ!ไนต์รีบหันกลับมามองเมื่อมีแรงกอดกระชับลงบนขาที่อยู่ใต้ผ้าห่ม คนที่เคยนอนขดตัวอยู่ข้างๆ ตอนนี้ขยับตัวเองมาแนบชิดกอดขาเขาไว้แน่นแล้วซุกใบหน้าลงที่ข้างเอวสอบของเขาไปด
Comments