Home / LGBTQ+ / I'm all yours / ฝืน 4

Share

ฝืน 4

Author: smith
last update Last Updated: 2025-10-21 11:11:44

เป็นช่วงเวลาไม่กี่สิบนาทีที่เนิ่นนานเหลือเกินในความรู้สึกของริค ทั้งคู่มาถึงบ้านซูได้ครู่หนึ่งแล้ว ตอนนี้เขานั่งเงียบอยู่ที่หน้าเฉลียง เขายังไม่รู้เลยว่าซูมาบ้านเขายังไง รถก็ไม่ได้ขับมา สองวันก่อนที่ตรงนี้ยังมีแต่ความสุข ทำไมฉากเปิดเรื่องราวแสนโรแมนติคของเขามันจบลงเร็วนักนะ เรื่องราวที่เขาคือตัวเอก เหตุใดมันถึงไม่สง่าเอาเสียเลย เขาเพิ่งบอกรักนางเอกสาวสวย นางในฝันของเขา เมื่อวานเรายังใช้เวลาด้วยกันอย่างหวานชื่น เรื่องอื่นๆ ของใครๆ ไม่ควรมีผลกับเราเร็วเท่านี้สิ มันเพิ่งจะสองวัน... เท่านั้นเอง

          ซูหายไปไม่ถึงห้านาทีเธอก็กลับออกมา ตอนนี้เธอหิ้วกระเป๋าสะพายผ้าถัก ใบที่เขาเห็นบ่อยๆ ในวันหยุดเวลาได้เจอซู เธอสวมเสื้อผ้าชุดเดิม สีหน้าเหมือนจะดีขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

          “ไปค่ะ คุณจักโรงพยาบาลอีตันใช่ไหม”

          “ครับ” ริคตอบเธอด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรียบเฉย ซูสบตาริคเพียงเล็กน้อย ตอนนี้เธอไม่ต้องเงยหน้ามองเขาแล้ว เมื่อริคอยู่ที่บันไดชั้นกลางหน้าเฉลียง ส่วนซูยังไม่ได้ก้าวลงมา ในมุมนี้เธอแปลกไปเป็นคนละคน เมื่อสายตาที่เธอใช้มองเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ในมุมเงย เหมือนเขาเองที่กลายเป็นคนตัวเล็กๆ ต้องแหงนหน้ามองแฟนสาวเสียเอง ทุกอย่างดูกลับกลายเป็นสูงส่งกว่าเขาทั้งหมด โดยเฉพาะ “แซม” เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ซูเหลือบมองริคอย่างเฉยเมยแล้วเดินเลยไปที่รถ

          ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ทั้งคู่ก็ยังไม่พูดจากัน ริคน้อยเนื้อต่ำใจที่สุด นี่ยังไม่คิดถึงว่าหากนี่คือนิสัยแท้จริงของซู เขาจะทนเป็นคนต่ำต้อยแบบนี้ไปตลอดได้ไหม ที่ผ่านมาทำไมเขาไม่เคยเห็นเลยนะ ตลกสิ้นดี แต่แค่วันสองวันมันยังเร็วเกินไปที่จะเรียกกิริยานี้ว่าธาตุแท้ ไม่ๆ คำนี้มันแรงเกินไป แต่มันก็ชวนให้สับสนลังเลไม่น้อยเลยเสียด้วยยสิ

          ริคหน้าบูดอยู่หลังพวงมาลัยรถจนถึงโรงพยาบาลที่แซมรักษาตัวอยู่ เขาจอดรถด้านหน้าให้ซูลงสบายๆ ส่วนเขาจะไปหาที่จอดเอง

          “คุณจะขึ้นไปด้วยกันไหม” ซูหันมาถามก่อนจะก้าวขาลงไป

          ริคมองหน้าซูอีกครั้ง ทำไมเธอถามแบบนี้ล่ะ ก็เขาเป็นคนเอ่ยปากชวนมาเยี่ยมแซมเอง เขาก็ต้องขึ้นไปด้วยสิ ซูกลับถามเหมือนไม่รู้

          “ขากลับจะให้ผมมารับไหม” ริคถามด้วยแววตาไม่ต้องการคำตอบ แต่เขาก็พร้อม หากเธอจะโดยสารรถเขากลับอีกสักรอบ

          “ฉันเกรงใจคุณน่ะค่ะ ไม่รู้จะเยี่ยมเสร็จตอนไหน” ริคเบือนหน้าหันกลับมาที่พวงมาลัยทันที

          “ไว้คืนนี้โทรหาผมนะครับ ที่รัก” เขาหันกลับไปบอกกับเธอพร้อมยิ้มอ่อนๆ ให้

          “ค่ะ” ซูตอบเขาสั้นๆ เพียงเท่านี้

          ด้านหลังมีรถเข้ามาเทียบจอดอีกคัน เจ้าหน้าที่เวรเปลและรถเข็นกุลีกุจอมารอรับผู้ป่วย ริครีบขยับรถมาด้านหน้าให้พ้นทาง สายตาเขามองซูเดินเข้าไปเหมือนไม่ใยดีเขาแม้แต่น้อย เขาเข้าใจ ว่าเขาและเธอเพิ่งตกลงคบกัน ความผูกพันอาทรใดๆ คงยังน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนรักอย่างแซมที่กำลังป่วยอยู่โรงพยาบาล มีผู้หญิงอีกคนเฝ้าไข้ ซูโกรธและเสียใจ... มันใช่เหรอ มันสมเหตุสมผลตรงไหน เขาได้แต่ข้องใจแล้วขับรถกลับออกมา

          ซูเดินเข้าประตูหน้า เลี้ยวซ้ายไปเล็กน้อยตามป้ายบอกจุดเคาน์เตอร์เวชระเบียนจนพบเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ซูแจ้งชื่อนามสกุลของแซมไป

          “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบซาแมนธา ธีโอพักอยู่ห้องไหนคะ”

          เจ้าหน้าที่ป้อนชื่อนามสกุลของแซมตามที่ซูบอก เธอคลิกเมาส์สองสามทีแล้วจึงบอกกับซูให้ทราบ

          “คนไข้ดิสชาร์จไปแล้วนะคะ” ซูงงไปหมด

          “ดิสชาร์จ... กลับบ้านน่ะเหรอคะ ยังไงกัน เมื่อเช้าฉันเพิ่งได้รู้เองว่าเธอเข้ามารักษาที่นี่จึงรีบมาเยี่ยม อะไรกัน” ซูบ่นแกมโวยวายเบาๆ

          “ค่ะ คุณผู้หญิง คนไข้ดิสชาร์จไปแล้ว”

          “เธอต้องรีบมาโรงพยาบาลด่วน แต่ตรวจๆ เสร็จแล้วให้นอนต่อเดี๋ยวหนึ่ง แล้วก็กลับบ้านไปเนี่ยนะ” สิ้นประโยคของซู นางพยาบาลที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันก็หันมาช่วยเจ้าหน้าที่อธิบาย

          “เมื่อคืนตอนค่ำฉันเป็นคนรับไข้คุณธีโอเองค่ะ คุณหมอแผนกฉุกเฉินตรวจดูเรียบร้อยแล้ว เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เพื่อความแน่ใจเราจึงให้เธอนอนพักฟื้นที่นี่ ให้น้ำเกลือสักคืน เช้านี้คุณหมอก็ตรวจอีกครั้ง แล้วฉันก็เป็นคนทำนัดให้เธอเข้ามาติดตามอาการตามคำสั่งของคุณหมอ เราได้แจ้งกับญาติคุณธีโอ เธอเข้าใจทุกอย่างหมดแล้วนะคะ ยังไงขออภัยในความไม่สะดวกด้วยค่ะ” แซมได้ฟังก็พอเข้าใจไปตามลำดับ แต่เธอไม่เข้าใจแซม ทำไมแซมไม่บอกเธอ ไม่เข้าใจยัยเพื่อนคนนั้นของแซมอีกคนที่ขยับมาเป็นญาติกันแล้วงั้นเหรอ

          ซูพยักหน้าแสดงออกให้ทั้งสองคนที่เคาน์เตอร์รู้ว่าเธอเข้าใจแล้ว

          “ขอบคุณมากค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ฉันมาเสียเที่ยวก็เลยโกรธตัวเองนิดหน่อย” ซูขอโทษทั้งเจ้าหน้าที่และนางพยาบาล ทั้งสองคนนั้นยิ้มตอบ บอกกับซูว่าไม่เป็นไร นางพยาบาลก้มลงเขียนอะไรยุกยิกของเธอต่อไป ซูคล้อยหันหลังกลับมาจากตรงนั้น น้ำตาเอ่อคลอดวงตาทั้งสองเบ้า แล้วเธอควรจะไปไหนต่อล่ะ ริคจะไปถึงไหนแล้วนะ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูหน้าจอ พลางสาวเท้าเดินไปตามทางเดินภายในโรงพยาบาล ซูรู้สึกเสียหน้า เหมือนคนที่ปรี่เข้างานเลี้ยงโดยไม่มีบัตรเชิญแล้วถูกปิดประตูใส่หน้าทั้งที่ทิ้งคนข้างกายไว้อย่างใจร้าย ซูนั่งลงที่เก้าอี้พักคอยตัวหนึ่ง ใช้นิ้วมือลูบแป้นตัวเลขที่มือถือ เธอจะโทรหาใครดีล่ะตอนนี้ น้ำตาของซูเอ่อคลอและคงจะล้นเบ้าออกมาในไม่ช้า นอกจากความสับสนในใจตอนนี้แล้ว ซูเพิ่งรู้ตัวด้วยว่าเสียมารยาทกับริคอย่างไม่น่าให้อภัย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 6

    คืนนั้นผ่านพ้นไปจนถึงช่วงสายๆ ของวันต่อมา แคลร์งัวเงียลุกขึ้นจากโซฟา หยิบชุดนอนขึ้นมาสวม เธอเดินไปที่ห้องน้ำ เปิดประตูชะโงกหน้าเข้าไปมองดู แล้วจึงเดินขึ้นชั้นสองไปดูตามห้องต่างๆ ในบ้าน ออสซีกลับไปแล้วงั้นเหรอนี่ เธอกลับเข้าไปในห้องนอน หยิบแว่นตาที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นมาสวม ในห้องมืดสนิทแม้จะสายแล้ว เธอเดินไปอีก 4-5 ก้าวก่อนจะถึงหัวเตียง เธอหยิบมือถือขึ้นมาดู มืออีกข้างชักรอกม่านทึบแสงเปิดออก แดดส่องเข้ามาเต็มที่จนเธอต้องหลับตาหลบแสงจ้า แคลร์นอนแผ่หลาลงบนเตียง เมื่อคืนที่หลับไปบนโซฟาทำให้เธอปวดเมื่อยเนื้อตัวจากการนอนผิดท่า เธอยืดแขนขาจนสุดเหยียดแล้วจึงกดโทรศัพท์ดู มีสายไม่ได้รับห้าสายเป็นสายของแอนนาทั้งหมด เธอรีบโทรกลับทันที “ฮัลโหล แคลร์” แอนนารับสายโดยที่แคลร์ไม่ต้องรอนาน “แอนนา มีอะไรรึเปล่า” แอนนาเงียบไป “ไม่ใช่สิ คือฉันหมายถึงที่โทรมาตั้งห้าสายน่ะ มีเรื่องร้ายแรงอะไรรึเปล่า แล้วเมื่อคืนคุณกลับบ้านปลอดภัยดีใช่ไหม” แคลร์รีบเปลี่ยนคำถามให้เข้าท่าเข้าทางกว่าการถามว่า มีอะไรรึเปล่า พลางส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดีที่ถามแบบนั้นออกไป “เมื่อคืนฉ

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 5

    “ใช่ บางทีคนเราก็มีเรื่องมากมายที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้ ถึงจะอยากเล่าอยากเอ่ยมากแค่ไหนก็ตาม” เธอจิบวิสกี้ตามปิดท้ายประโยค เวลานี้ออสซีรู้สึกเหมือนแคลร์กำลังแบกอะไรเอาไว้ในอก เขาต้องช่วยแบ่งมันมาไหมนะ อย่าเลยดีกว่า เพราะเขาพยายามมาแต่ไหนแต่ไรแล้วที่จะไม่ให้คนอื่นเข้ามาชิดใกล้เกินไป เงื่อนไขหนึ่งคือต้องไม่รู้ความลับของคนคนนั้นด้วย แคลร์ขยับเข้ามาใกล้เขา เธอซบลงบนไหล่ของออสซี “ไหล่คุณกว้างพอดีตัวฉันเลย ออสซี ดูสิ อบอุ่นสบายดีจัง” แคลร์พูดแล้วแหงนหน้ามาส่งยิ้มให้ คางของเธอยังเกยอยู่ที่ไหล่ของออสซี ออสซีตัวแข็งทื่อ “นั่งดีๆ น่าแคลร์ โซฟาตั้งกว้าง” เขาเบี่ยงตัวพยายายามออกห่าง แต่แคลร์กอดเขาเอาไว้ “ไม่เอาอ่ะ ตรงนี้ล่ะสบายดีแล้ว เรานอนกันตรงนี้เลยดีไหม” แคลร์ถาม “ก็ได้ เอาสิ บ้านคุณนี่นะ” ออสซีตอบ แคลร์ดันตัวออสซีลงนอนบนโซฟาโดยที่ตัวของเธอทับเขาอยู่ด้านบน “อุ้ยแคลร์ นอนดีๆ สิ ขยับไปหน่อย ผมไปนอนโซฟาตัวนู้นก็ได้” แคลร์จูบปากออสซี เขาตกใจมาก “แคลร์ แคลร์” เขาผละตัวเองออก แคลร์ยังไม่หยุด “คุณบอกเองนะว่าบ้านฉัน ฉันก็ถามแล้วว่าเรา

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 4

    “เอาเลย ไม่ต้องเกรงใจ” แคลร์ยกแก้วขึ้นจิบนำ “มาร์ตินี่เผือกเหรอ” ออสซีถาม แคลร์ยกแก้วขึ้นที่ริมฝีปากอีกครั้ง คราวนี้ดื่มเข้าไปเต็มอึก “ลองดูซิว่าใช่ไหม” แคลร์บอก ออสซียกแก้วขึ้นจิบ แล้วทำท่าเหมือนจะสำลัก “อะไรเนี่ย” เขาทำสีหน้าบูดเบี้ยว “ชาทิเบต แอนนากับแซมได้ชิมแล้วนะ เหลือแต่คุณที่ยังไม่ลอง” ออสซีคุ้นๆ ว่าได้ยินแคลร์พูดถึงอยู่เมื่อวันก่อนตอนแซมมาถ่ายงานที่นี่ “ขอโทษนะฮะ รสชาติไม่ได้เรื่อง” เขาบอกแคลร์ไปตรงๆ “มันดึกแล้ว ก็บอกแล้วไงว่าดื่มอะไรกันเบาๆ ดีกว่า ให้ฉันรินอย่างอื่นมาให้เดี๋ยวเกิดเมาแล้วได้กันเองทำไงล่ะ” แคลร์หยอกออสซี ตอนนี้เธอยิ้มออกแล้ว “บ้า” ออสซีเอียงอายสวนกลับไป “นั่นคุณเขินเหรอ” แคลร์ถามเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของออสซี “ก็คุณพูดบ้าอะไรเล่า” ออสซีหน้าแดง “พูดบ้าอะไร ฉันก็ล้อเล่น ทำเป็นไม่เคยไปได้” แคลร์มองออสซีอย่างประหลาดใจ แต่เธอก็ยังยิ้มให้เขา ออสซีหลบสายตาแซมอย่างชัดเจน เขาลองดื่มชาอีกครั้ง คราวนี้เขาลองดื่มให้เต็มอึก ค่อยๆ กลืนมันลงไป แล้วบอกกับแคลร์ “ไม่ไห

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 3

    “หาห้องนอนเอานะ ของกินเครื่องดื่มมีอยู่ที่โซนครัว บริการตัวเองตามสบาย” แคลร์พูดแบบไม่หันหน้ามามองออสซีเลย จังหวะนี้เขารู้สึกไม่ค่อยดี “ผมกลับไปนอนบ้านตัวเองได้นะ ถ้าคุณไม่สะดวก ไว้เจอกัน” ออสซีรอฟังคำตอบจากแคลร์ แคลร์หันมามองเขา “ขอโทษทีค่ะ ฉันเสียมารยาทไปหน่อย แต่บ้านนี้ต้อนรับคุณเสมออยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่รอให้คุณกลับด้วยกันหรอก นอนนี่แหละ ดึกแล้ว ขอโทษอีกที คราวหน้าฉันเลี้ยงนะ” แคลร์บอกกับออสซี ทั้งที่ทุกครั้งเธอจะเป็นเจ้ามือเกือบจะตลอด ออสซีคลายสีหน้าลง “ครับ” เขาตอบแคลร์สั้นๆ “พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะ ราตรีสวัสดิ์” แคลร์ยิ้มอ่อนๆ ให้เขาแล้วชูมือขึ้นมาบอกราตรีสวัสดิ์ตอบ แคลร์เดินขึ้นชั้นสองไป ออสซีทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วกลับต้องสะดุ้งโหยง “ตาบ้า!” แคลร์ชะโงกหน้ามาเอ็ดเขาจากหัวบันได ออสซีกระเด้งขึ้นมานั่ง หันหน้ามามองตามเสียง “ขึ้นมาชั้นสองสิยะ ห้องหับเยอะแยะ เลือกเอา!” แล้วแคลร์ก็ผลุบหายไปอีก ออสซีไม่ได้ตอบอะไร เขาเหนื่อยใจกับผู้หญิงกลุ่มนี้จริงๆ “ผมว่าจะนั่งพักสักเดี๋ยวนึงก่อนน่ะ ขอบคุณมากนะแคลร์” เขาตะโกนขึ้นไป แ

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 2

    แคลร์มองตามหลังแซมที่เดินออกจากร้านไปอย่างรู้สึกไม่ดี เธอหันมามองแอนนาซึ่งรอสบตากับแคลร์อยู่แล้ว แคลร์เม้มปาก ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงไม่เห็นด้วยกับการกระทำ “ให้ฉันลาออกเลยไหม” แอนนาถาม ทุกคนในโต๊ะตึงเครียดไปกันใหญ่แล้ว “เดี๋ยวก่อนแอนนา คุณเป็นอะไรของคุณ ถ้าฉันใช้งานคุณหนักไปก็ขอโทษด้วยนะวันนี้” แคลร์ขอโทษปัดๆ ไปเพื่อไม่ให้บรรยากาศในโต๊ะยิ่งแย่ ออสซีไม่รู้จะพูดอะไร เขาหยิบไหมไทยที่เหลือกระดกลงคอจนหมด แล้วลุกขึ้น “คืนนี้เรากลับกันก่อนแล้วกันนะ ผมไปจ่ายเงินก่อน พวกคุณนั่งคุยกันไป ผมจะไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เลย” “เดี๋ยวฉันเคลียร์ให้นะ ออสซี” แคลร์ตะโกนไล่หลังมาแบบไม่ดังมาก “ไม่เป็นไร ผมเลี้ยงเอง มีของแซมที่ช่วยจ่ายมาแล้ววางอยู่บนโต๊ะ ผมเลี้ยงที่เหลือไหวน่า” ออสซียิ้มให้แคลร์แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ แอนนายังคงนั่งเฉยในท่าไขว่ห้าง “ตกลงยังไง” แอนนาถามแคลร์ “แอนนา ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นอะไรนะวันนี้ แต่รบกวนช่วยให้เกียรติฉันในฐานะนายจ้างด้วย ฉันไม่เคยอยากไล่คุณออก คุณก็รู้นี่ว่าฉันไว้ใจและชอบการทำงานของคุณ แต่นี่อะไร คุณม

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 1

    ดวงไฟประดับห้อยระย้าเป็นแนวระหว่างต้นไม้ในร้าน ตัดกับท้องฟ้ายามกลางคืนที่มืดไร้แสงจันทร์ แซมเงยหน้าขึ้นมองฟ้าอย่างผ่อนคลาย บรรยากาศในร้านยังอบอุ่นไม่เปลี่ยนไป มันยิ่งทรงเสน่ห์มากขึ้นด้วยแสงนวลๆ ของไฟประดับที่โยงเป็นแนวระหว่างต้นไม้สูงแต่ละต้น และไฟดวงที่เล็กกว่าเหมือนหมู่ดาวบนเรือนยอดไม้ ไม่รู้เพราะอะไรแซมถึงชอบเวลากลางคืนนัก มันสงบทั้งที่โดยรอบก็ครึกครื้น มันรู้สึกผ่อนคลายแม้จะมีเสียงพูดคุยจอแจ แม้ว่าบางเสียงจะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ แซมชอบสีดำ ชอบความมืดของค่ำคืน ชอบความเงียบที่ถูกเสียงต่างๆ สอดแทรกรบกวนอยู่ตลอดจนกว่าจะดึกสงัดจริงๆ ยิ่งมีลมพัดมาเป็นระยะอย่างนี้ เหมือนธรรมชาติที่แฝงตัวอยู่ในเขตเมืองกำลังพยายามปลอบประโลมเธออย่างแผ่วเบาเมื่อสายลมนั้นพัดเข้ามากระทบร่าง แซมสูดหายใจเข้าออกอย่างผ่อนคลาย ลูกค้าหลายๆ โต๊ะในร้านเริ่มเป็นลูกค้าหน้าเดิมๆ ที่มากันตั้งแต่เย็น จนล่วงเลยเวลาของมื้อค่ำกลายมาเป็นชั่วโมงกินดื่มกับกลุ่มสังสรรค์แล้ว โต๊ะของแซมก็เช่นกัน พวกเขายังนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิม ยังสั่งอาหารกันเรื่อยๆ สลับกับเครื่องดื่มเป็นระยะ “ทำไมเราไม่ไปไนต์คลับกันซะเลยนะ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status