“เฮ้อออ ลำบากเนอะ เกิดมาสวยเนี้ย” เสียงน้องชายฉันเองแหละ
“นั้นสินะ ทำไงดีอ่ะ” ฉันหันไปทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่น้องชาย
“ฮ่าๆ ๆ อารมณ์ดีแล้วนิ จะกลับยังล่ะ” ไดมอนด์ถามฉัน
“อือ กลับเลยดีกว่า” ฉันตอบน้องชาย
“งั้นไลลากลับก่อนนะค่ะ” ฉันหันมาบอกพี่ๆ ทีมงาน ที่ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งทำหน้าอึ้งกันทั้งโต๊ะ ออ คงจะอึ้งความหล่อน้องฉันล่ะสิหรืออาจจะอึ้งที่เราสองพี่น้องพูดหยอกล้อกัน
“เค้าขอกลับด้วยนะตะเอง เขามิได้เอารถมาอ่ะ” พอเห็นคนมองเยอะไดมอนด์ก็เล่นใหญ่เข้าไปอีก
“ได้สิค๊า..” ฉันหันไปดึงแก้มไดมอนด์ทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว
“โอ๊ะโอ๊ยยย เค้าเจ็บนะ” ไดมอนด์โอดครวญลูบแก้มตัวเองปอยๆ แล้วฉันก็เดินควงแขนไดมอนด์ออกจากผับ โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่ามีสายตาหนึ่งจ้องมองพฤติกรรมของเราสองคนพี่น้องไม่วางตา
ฉันขับรถออกมาจากผับตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่ง
“จะให้ไปส่งไหน” ฉันถามน้องชายตัวเอง
“ไปส่งที่ค่ายเพลงก็ได้ครับ รถมอนด์จอดอยู่นั้น” ไดมอนด์ตอบ
“แล้วเราไปผับกับใครล่ะ” ก็ถ้าจอดรถไว้นี่แล้วไดมอนด์จะไปกับใคร
“ไปกลับพวกเฮียซัมดีเฮียเจนะครับ” สงสัยจะเป็นคนที่ทำงานด้วยกัน
“แล้วไปรู้จักกับพี่เรย์ได้ไง” ฉันสงสัยตั้งแต่อยู่ในผับล่ะเห็นเขาเดินมากลับน้องชายฉัน
“อ๋อ เฮียเรย์เขาเป็นเจ้าของค่ายเพลงมอนด์เอง” เป็นเจ้านายน้องฉันนี่เอง
ฉันเลี้ยวรถเข้ามาจอดใต้ตึกของค่ายเพลง LayMusic ตึกใหญ่ใช้ได้
คลื่น.......คลื่น.....คลื่น......
“ว่าไง” ไดมอนด์รับโทรศัพท์ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที
“เดี๋ยวจะรีบไป” ไดมอนด์วางโทรศัพท์ ลงจากรถฉันแล้วเดินไปที่รถตัวเองหยิบอะไรสักอย่างออกมา แล้วก็เดินกลับมาหาฉัน
“มีอะไร” ฉันถามน้องด้วยความสงสัย
“มอนด์มีธุระด่วนอ่ะ พี่ไลลาช่วยเข้าไปในตึกแล้วเอาถุงกระดาษสีดำมาให้หน่อย มันอยู่ในห้องสุดทางเดินของชั้นสอง เอาไปไว้ที่คอนโดพี่นะ” ไดมอนด์สั่งฉันยาวเป็นชุดพร้อมกับยื่นคีการ์ดให้ฉัน
“แล้วแกจะรีบไปไหน” ยังไม่ทันได้คำตอบไดมอนด์ก็ขับรถออกไปแล้ว อะไรของมันเนี้ย จะรีบอะไรขนาดนั้น
ฉันลงจากรถเดินไปที่ประตูหยิบคีการ์ดที่ไดมอนด์ให้ไว้มารูด ประตูก็เปิดออกตึกใหญ่โตขนาดนี้ไม่มียามเลยรึไง ทำไมข้างในมันวังเวงจัง ฉันรีบเดินขึ้นไปยังชั้นสองตามที่ไดมอนด์บอก มองหาห้องที่ว่าแล้วก็เจอมันอยู่สุดทางเดินฉันรีบตรงดิ่งไปที่ห้องนั้นทันที
ฉันเอื้อมมือไปเลือนประตูกระจกเปิดออก ภายในห้องนี้มีเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด วางไว้อย่างเป็นระเบียบ ด้านซ้ายมีเก้าอี้หนึ่งตัวตั้งอยู่กับพวกเครื่องดนตรี มีโซฟาตัวใหญ่วางชิดผนังห้องอยู่ฝั่งขวา มีโต๊ะเล็กๆ ตั้งอยู่ข้างโซฟามีผ้าห่มกับหมอนวางอยู่เหมือนจะมีคนนอนที่นี้เลยเหะ รีบหาของแล้วก็รีบออกไปดีกว่า แล้วฉันก็เจอถุงกระดาษสีดำเจ้าปัญหานั้นวางแอบๆ อยู่บนโซฟา
เรย์
หลังจากแยกกับพวกเฮียซัมดี เฮียเจ โลโค่ ส่วนไดมอนด์มันชิ่งหนีไปกับสาวสวยไลลาซะแล้ว ผมขับรถตรงดิ่งมาที่บริษัทตอนแรกกะจะไปนอนที่คอนโดแต่ว่าคงขับต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ ไปนอนที่บริษัทแล้วกัน
ปกติผมก็นอนที่ค่ายเพลงบ่อยๆ อยู่แล้ว เวลาทำเพลงเสร็จดึกๆ ก็ขี้เกี้ยจกลับคอนโด จะซื้อไว้ทำไมก็ไม่รู้ ไม่ค่อยได้กลับไปนอนสักเท่าไร พอผมเปิดประตูเข้าไปในห้องก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับร่างบางของใครบางคน
“เธอมาทำอะไรที่นี้ แล้วเข้ามาได้ไง” ไลลาดูตกใจไม่น้อยที่เจอผม รึอาจจะตกใจในคาวมหล่อของผมก็เป็นได้ ^_^
“ไลลามาเอาของค่ะ” ไลลาตอบ
“ของอะไร” ของๆ ไลลาจะมาอยู่ที่บริษัทผมได้ไง ไลลายกถุงกระดาษสีดำชูขึ้นให้ผมดู
“แล้วมันมาอยู่นี่ได้ไง” ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“ไดมอนด์ลืมไว้” อ๋อ..เธอคงจะมากับไดมอนด์สินะถึงเข้ามาในตึกได้ เห็นออกมาด้วยกันอยู่ แล้วทำไมถึงมาที่นี้ล่ะ
“แล้วไดมอนด์อยู่ไหน” เพราะตั้งแต่เดินเข้ามายังไม่เห็นไดมอนด์เลย
“กลับไปแล้ว” ไลลาตอบ
“อ้าว แล้วทำไมเธอยังอยู่นี่ล่ะ” ผมขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย
“จะกลับเดียวนี้แหละ” ไลลาทำท่าจะเดินออกไป ผมรีบยืนบังประตูไว้ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องกันเธอไว้
“ช่วยหลีกทางด้วยค่ะ ไลลาจะกลับแล้ว” ไลลาชักสีหน้าไม่พอใจ
“นั่งคุยกันก่อนสิ” จะให้กลับง่ายๆ ได้ไงในเมื่อผู้หญิงที่แอบปลื้มมาอยู่ตรงหน้าแล้ว
“แต่ไลลาจะกลับแล้ว ช่วยหลบทางด้วยค่ะ” เล่นตัวด้วยเหะ.. ผมยืนกอดอกมองหน้าไลลานิ่ง ไม่ให้กลับง่ายๆ หรอก..
“นี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอค่ะ” ไลลาเริ่มหงุดหงิดใส่ผม ทำหน้าแบบนี้แล้วน่ารักจัง..
“รู้....” ผมหยักไหล่ตอบกวนๆ ทำหน้ากวนตีนใส่เข้าไปอีก ไลลาเริ่มอารมณ์เสียแล้วล่ะ
“งั้นก็ช่วยหลบด้วยค่ะ” เธอเริ่มแสดงความหงุดหงิดออกทางสีหน้า ไลลาทำท่าจะผลักผมออก ผมเลยจับข้อมือไลลาไว้ เธอรีบสะบัดมือออกอย่างแรงทำให้ถุงกระดาษสีดำร่วงลงพื้น ของที่อยู่ในถุงกระเด็นออกจากถุง ผมแกล้งไลลาแรงไปรึเปล่านะเธอเริ่มโมโหจริงๆ แล้ว ผมย่อตัวนั่งลงช่วยเธอเก็บของ มีกล่องนาฬิกาสองกล่องแล้วก็....กล่องถุงยางอนามัย
แถมอีกนิด...หลังจากคลอดลูกฉันก็ฟิตหุ่นอย่างหนักจนตอนนี้ฉันก็กลับมาหุ่นดีเหมือนเดิมแล้วราเรซก็เป็นเด็กดีมากไม่งอแง้ให้ฉันต้องเหนื่อยเลย“แม่ค่ะ ฝากราเรซแป๊บนะ” ฉันหันไปบอกแม่ ตอนนี้แม่ฉันมาอยู่ช่วยเลี้ยงหลานชั่วคราว“จะไปไหนลูก” แม่หันมาถามฉัน“ไปธุระนิดหน่อยค่ะ”ตอบแม่เสร็จฉันก็เดินขึ้นรถคู่ใจตรงดิ่งไปยัง ST ผับ เพราะอะไรนะหรอ หึ!สายของฉันรายงานมาว่า สามีฉันและเพื่อนๆ ของเขารวมทั้งไอ้น้องชายตัวแสบด้วยกำลังถ่ายเอ็มวีเพลงโปรโมทค่ายของพวกเขาพวกนั้นพานางแบบสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ยี่สิบกว่าคนใส่บิกินี่มาถ่ายแต่นั้นก็ไม่เท่าไรหรอก พอได้เห็นรูปที่สายของฉันส่งมาก็ทำให้ฉันปิ๊ดแตกทันทีเมื่อสามีตัวดีของฉันนั่งอยู่บนโซฟาแล้วมีสาวๆ นั่งขนาบข้างคนหนึ่งก็ลูบไล้อีกคนก็เต้นยั่วและที่สำคัญพี่เรย์จับก้นแล้วก็โอบยัยพวกนั้นด้วย เพราะฉะนั้นต้องมีฉันร่วมแฟรมด้วยก็ฉันนะนางแบบหุ่นเอ็กซ์ตัวแม่“สวัสดีค่ะ ทุกคน” เมื่อฉันปรากฏตัวก็ทำให้ทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียวใช่ว่ามองเพราะฉันคือเมียของพี่เรย์หรอกนะ แต่ที่มองก็เพราะว่าฉันใส่บิกินี่สุดวาบหวิวแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังรู้สึก“แบะ! เจ้า” เฮียซัมดี“แล่มมาก” เฮียเจ
บทส่งท้าย....วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต เป็นความฝันของลูกผู้หญิงทุกคนที่ใฝ่ฝันไว้ว่าอยากจะใส่ชุดแต่งงานสีขาวกระโปรงยาวๆ เดินไปบนพื้นพรมที่โปรยไปด้วยดอกกุหลาบหลายสีงานแต่งของฉันจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวที่ทางโรงแรมเขาเตรียมไว้ให้“พร้อมรึยังลูก” พ่อเดินเข้ามาถามฉัน“ค่ะ” ฉันลุกขึ้นยืนเข้าไปกอดพ่อ“ลูกสาวพ่อสวยจังเลย” ความอบอุ่นจากพ่อทำให้ฉันคลายความกังวลลงได้ไม่มีอ้อมกอดไหนจะอุ่นเท่ากับอ้อมกอดของพ่อแม่แล้วล่ะตื่นเต้นจัง ฉันเดินค้วงแขนพ่อเข้ามาในงาน มีแขกมาร่วมงานกันมากมายเพื่อนของฉันก็มาด้วย มิโน่ เฌอรีน และหนูน้อยมิริน พวกเขาส่งยิ้มแสดงความยินดีมาให้กับฉันฉันมองไปเบื้องหน้าก็เจอกับผู้ชายหน้าคม ผิวขาวออร่าพุงเหมือนวันแรกที่เจอกันเขาอยู่ในชุดสูทสีขาวทำให้เขาดูน่ามองยิ่งนัก เขายืนส่งยิ้มแสนอบอุ่นมาให้“พ่อฝากลูกสาวพ่อด้วยนะ เรย์” พ่อฉันบอกเขา พร้อมกับจับมือฉันไปวางไว้บนมือหนาที่ยื่นมารอรับอยู่แล้ว“เรย์จะรักและดูแลไลลา ให้ดีที่สุด เรย์ให้สัญญาครับ” พี่เรย์ยืนยันคำมั่นกับพ่อของฉัน“แม่ฝากไลลาด้วยนะเรย์” ฉันเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยควา
หนึ่งเดือนต่อมา ณ บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง“พ่อครับ ผมทำลูกสาวพ่อท้องครับ” เสียงผู้ชาย หล่อ ผิวขาว หน้าคม พูดขึ้น“ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย” ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพ่อ ทำสีหน้างงงวยเป็นเสียงสนทนาระหว่างพ่อของฉันกับว่าที่สามี พี่เรย์ นี่เขาคุยกับผู้ใหญ่ไม่เป็นรึไงจะมาขอลูกสาวเขาแต่มาบอกกับพ่อเขาว่าทำลูกสาวเขาท้องเนี้ยนะ“จริงครับพ่อ” เสียงน้องชายตัวดีพูดเสริม ไดมอนด์“ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีลูกชายผมมันใจร้อนไปหน่อยไม่รอให้ผมที่เป็นพ่อของมันมาพูดให้นะครับ” เสียงผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับภรรยาของเขา“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ” ฉันยกมือไหว้ท่านทั้งสอง เขาคือพ่อแม่ว่าที่สามีฉันเอง“ก็พ่อช้านิครับ” พี่เรย์หันไปโว๊ยพ่อตัวเอง“จะมาขอลูกสาวเขาทั้งที ไม่เตรียมสินสอดทองหมั้นมาแล้วใครเขาจะยกลูกสาวให้ ห๊ะ! ไอ้เรย์” พ่อพี่เรย์บ่นลูกชาย“นี่ค่ะ สินสอดแล้วก็ของหมั้น” แม่พี่เรย์วางพานที่เต็มไปด้วยเงินสด ทองแหวนเพชรและเครื่องประดับอื่นๆ มีใบโฉนดที่ดินด้วยฉันมองหน้าพี่เรย์อย่าง งงๆ“แล้วผมจะกล้าขัดได้ไง ในเมื่อพร้อมกันซะขนาดนี้” พ่อฉันได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ“เรื่องสินสอดนะให้เขาคุยกันเอง
“เบาๆ สิ เดี๋ยวกระเทือนลูก” พี่เรย์แกล้งดุฉัน“แค่นี้เอง ไม่กระเทือนหรอกน่า” ฉันบอกพี่เรย์“งั้นมาต่อแขนต่อขาลูกหน่อยไหม” นั้นไงพอเห็นไม่ว่าอะไรเข้าหน่อยนี่ เอาใหญ่เลย“มาเล่นเกมส์กันก่อนดีกว่า” ฉันเสนอ“เกมส์อะไร” พี่เรย์พูดอย่างหงุดหงิดนิดๆ“มาเป่ายิงชุบกัน ผู้ชนะมีสิทธิ์ถอดเสื้อผ้าชิ้นไหนก็ได้ของผู้แพ้” ฉันอยากทรมานเขาเล่น“งั้นพี่ยอมแพ้ ไลลาถอดพี่ได้เลย” พี่เรย์พูดจบก็ทำท่าจะถอดเสื้อผ้าตัวเอง“ไม่ค่ะ ต้องเป่ายิงชุบก่อน” ไม่ยอมง่ายๆ หรอก อยากหื่นดีนัก“มาค่ะ ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” ฉันชนะฉันจับชายเสื้อข้างล่างของพี่เรย์แล้วก็ดึงออกทางศีรษะ“ถอดกางเกงเลยไม่ได้หรอ” ดูทำพูดเข้า ใจร้อนจริงฉันส่ายหน้าให้แทนคำตอบ“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะ“ถอดกระโปรงเลย” พูดจบก็พุงตัวมาจับฉันถอดกระโปรง“ทำไมไม่ถอดเสื้อก่อนเล้า..พี่เรย์ มันจั๊กจี้นะ ฮ่าๆ” เขาพยายามจะถอดกระโปรงให้ได้พอฉันยึดจับกระโปรงไว้พี่เรย์ก็จี้เอวฉัน“มาต่อเลย” เขายึดกระโปรงไปเป็นที่เรียบร้อย คนบ้าฉันต้องเอาหมอนมาวางที่ตักไว้แทนมันวาบหวิวไปหน่อย“ยันยิงเยาปักกะเป้ายิงชุบ” พี่เรย์ชนะอีกแล้ว“ถอดกางเกงในเลยทีนี้” โอ๊ยย
“อ้าว พี่เรย์มาได้ไงคะ” เฌอรีนถามเขาตอนนี่พี่เรย์จ้องหน้าฉันนิ่ง แววตาเสียใจไหววูบไปกับน้ำตาที่เริ่มคลอ“เพราะแบบนี้สินะ ถึงไม่ยอมบอกพี่” พี่เรย์พูด สายตาเจ็บปวด“ไม่ใช่นะ ไลลามะ...” ฉันพยายามอธิบาย“พี่เข้าใจแล้วล่ะ” พี่เรย์กำลังจะเดินข้ามถนนหนีฉันไป“ฉันท้องกับพี่แก ยัยเฌอบ้า” ฉันหันมาตะคอกเฌอรีนฉันรีบวิ่งตามข้ามถนนโดยไม่ทันระวังตัว“ไลลา ระวัง” ฉันหันหน้ากลับมามองเฌอรีน เธอกำลังวิ่งตามฉันมาปริ๊นนนน โครม...เฌอรีนผลักฉันให้พ้นทางแต่ฉันก็กอดเฌอรีนไว้ด้วยเธอพลิกตัวเองไปทางรถยนต์ทำให้เฌอรีนโดนชนเต็มๆ“เฌอรีน!!” ฉันร้องลั่นเมื่อเห็นเลือดจากหัวของเฌอรีน“ละ..ลูก ฉัน” มือของเธอกุมท้องตัวเองไว้“ไม่เป็นไรๆ ลูกยังโอเคร ไม่เป็นไรนะ” น้ำตาฉันไหลพราก สงสารเฌอรีน“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แกสมควรตาย ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ” ฉันหันไปตามเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งนั้น แพทตี้หรอยัยแพทตี้เป็นคนขับรถชนเฌอรีน“ไลลา!” พี่เรย์วิ่งตาตั้งมาจากไหนก็ไม่รู้“ช่วยพยุงเฌอรีนหน่อย” ฉันบอกให้พี่เรย์ พยุงเฌอรีนแทนฉันฉันลุกขึ้นเดินตรงไปที่ยัยแพทตี้ ที่กำลังหัวเราะเหมือนคนบ้า“ซะใจมากใช่ไหม มานี่” ฉันกระชากผมแพทตี้อย่างแรงตามด้วยฝ่าม
หลังจากกลับมาจากถ่ายแบบที่ทะเล ฉันก็ขอพี่แมนนี่พักหน่อยเพราะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย พี่เรย์ก็ทำงานอยู่ที่ค่ายเพลงไม่ค่อยได้กลับมาคอนโด ไปหาดีไหมน่าจะยุ่งอยู่รึเปล่าฉันขับรถมาจอดที่ใต้ตึก LayMusic ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตึกขึ้นไปยังชั้นสองตรงไปที่ห้องสุดทางเดิน ฉันเลือนประตูกระจกไปด้านข้าง โคมไฟบนโต๊ะส่องแสงพอให้มองเห็นภายในห้อง ใบหน้าคมขาวเนียนกำลังนอนหลับอยู่บนโซไฟตัวใหญ่ เวลาหลับก็ดูไม่มีพิษมีภัยอยู่หรอก แต่ถ้าตื่นล่ะก็คนล่ะเรื่องเลย ฉันเดินไปหยิบผ้าห่มที่โต๊ะข้างโซฟามาคลุมร่างหนา ดูใกล้ๆ ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี้ย ฉันนั่งลงกับพื้นพรมมองหน้าพี่เรย์ ฉันค่อยๆ ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ“แอบลักหลับพี่หรอ ไลลา” พี่เรย์พูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา“รู้ได้ไงว่าเป็นใคร” ยังไม่ลืมตาซะหน่อยพี่เรย์ลุกขึ้นนั่งแล้วก็ดึงฉันไปนั่งตรงกลาง แขนแกร่งก็โอบรอบเอวฉันไว้หลวมๆ“ก็เมียพี่นิ ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ”เพิ๊ยะ ฉันตีแขนเขาไปหนี่งที พูดจาแสลงหู“ใครเมียพี่ค่ะ” ยังไม่ได้แต่งกันสักหน่อย“ทบทวนความจำสักหน่อยไหมล่ะ” เห็นไหมล่ะ พอตื่นมาก็หื่นใส่เลย“ทบทวนเรื่องไหนคะ เรื่องพี่เรย์กับมินนี่นะหรอ” ฉันเลยแขวะเข้าให้“ไม่