LOGINตัดภาพกลับมาที่ฟากฝั่งของเจฟเฟอร์อีกครั้ง เขาค่อย ๆ พยุงตัวขึึ้นจากเตียงพร้อมกับลำควยที่เข้าที่เข้าทางดีแล้ว แม้ว่าความเจ็บปวดอันแสบระบม อันเป็นผลพวงมาจากขั้นตอนการรักษาจะยังคงอยู่ก็ตามที
.
"ตื่นแล้วเหรอคุณเจ้าหน้าที่ เป็นไงบ้างล่ะรู้สึกยังไงบ้าง?"
หมอยูมิโกะถามและขณะที่เจฟเฟอร์กำลังจะอ้าปากตอบ หูเจ้ากรรมก็ดันไปได้ยินเสียงฉึกฉัก ๆ คล้ายกับเครื่องยนต์อะไรสักอย่างเข้า แล้วเสี้ยวอึดใจที่หันไปหาต้นตอเท่านั้นแหละ โอ้พ่อเจ้าพ่อคุณเอ๊ย!
.
"นี่มึงยังอยู่อีกเหรอ!"
.
"พั๊ว!"
ฝ่าเท้าขนาดใหญ่จากเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ประทับลงกลางอกของมันในทันที! เจ้าหุ่นยนต์นาริตะคอขาดล้มหงายท้องหงายไส้ในบัดดล! ครานั้นด้วยคุณภาพระดับสูงที่หมอยูมิโกะผลิตเอาไว้ เจ้าหุ่นกลับยังขยับแขนสาวดุ้นอากาศฉึกฉัก ๆ ๆ ต่อไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
.
"ฉึกฉัก ๆ ๆ ฉึกฉัก ๆ ๆ"
.
"บ้าเอ๊ย! เวรแท้ ๆ !"
.
"ช่วยหยุดมันทีหมอ! ได้โปรดเถอะอวัยวะเพศผมโอเคแล้ว แต่ยิ่งผมเห็นมันน้องชายผมก็ยิ่งหดลง ถ้าหมอไม่ทำอะไรสักอย่างอีกไม่นานจากการรักษาโรคโด่ไม่รู้ล้ม มันจะกลายเป็นการรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแทนเอานะครับ"
เจฟเฟอร์ร่ายยาว เขางอตัวคุดคู้จ้องมองมันสลับกับการเหลือบดูอวัยวะ ที่เหมือนเพิ่งผ่านการถูกข่มขืนมาหยก ๆ
.
"แหมคุณก็พูดเกินไป ไม่รุนแรงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่พฤติกรรมของคุณสิคะคุณเจ้าหน้าที่ ดูสิ! เห็นไหมว่าผู้ช่วยคนสนิทของฉันเขาทุกข์ใจแค่ไหน ไม่เป็นไรนะจ๊ะยูมิจังเดี๋ยวหมอจะสร้างนาริตะจังขึ้นมาใหม่่ เอาให้เหมือนเดิมเป๊ะเลย หมอบันทึกพิมพ์เขียวเอาไว้แล้วไม่ต้องห่วงนะจ๊ะคนดี.. โอ๋ ๆ "
.
ตัดภาพมาที่ยูมิจังที่บัดนี้กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ก่อนจะช้อนตัวเอาร่างของน้องสาวขึ้นมากอด เธอร้องห่มร้องไห้ออกมาน้ำตาท่วม
.
"ฮือ ๆ ฮือ ๆ ค่ะหมอ หมอรับปากยูมิแล้วนะคะ ฮือ ๆ "
.
"ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจที่สุดกับศพคนตายก็ไม่เว้น น้องนาริตะไม่มีหัวด้วยซ้ำยังถีบลงมาได้แย่ที่สุดเลย หมออย่าต่อแขนให้เขานะยูมิเกลียดคน ๆ นี้ อะไรที่พวกเราคุยกันไว้ยูมิขอลืมและยกเลิกทั้งหมดค่ะ เจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์! "
.
ลืมตาตื่นขึ้นมายูมิก็ได้สร้างความมึนงงให้แก่เจฟเฟอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซะแล้ว ในหัวเขาคิดแต่เพียงว่านี่ร่างเทียมสังเคราะห์มีสิทธิ์จะทำหรือไม่ทำอะไรได้ด้วยเหรอ พวกเธอมีสิทธิเสรีภาพตั้งแต่เมื่อไหร่ เจฟเฟอร์ตั้งใจจะสวนคารมกลับไปเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดีที่มีหมอยูมิโกะอยู่ใกล้ ๆ แล้วเธอก็อ่านพฤติกรรมของเขาออก
.
"หยุดเลยทั้งคู่จะทะเลาะกันทำไมมิทราบ เอางี้เรื่องแขนซ้ายที่ขาดของคุณเจฟเฟอร์ เดี๋ยวคุณตามฉันเข้าไปด้านหลังม่านเจลฉันจะหาแขนที่เหมาะสมเปลี่ยนให้จะได้จบ ๆ แล้วก็จะได้ไปจากชั้น 4 นี่ซะที (อยู่มาหลายตอนแล้วนี่เราอ่ะ) ส่วนยูมิจังเดี๋ยวพอพวกเราเข้าไปข้างในแล้ว ให้เธอเอาร่างของนาริตะมานอนบนเตียงแทนนะ เก็บหัวเธอมาด้วยแล้วก็เอาป้ายงดให้บริการไปแขวนไว้ที่หน้าประตู"
.
"หมอคิดจะทำอะไรคะ?"
.
"เปล่าหรอกหมอก็แค่ต้องการจะใช้อะไหล่ มีพิมพ์เขียวอยู่ก็จริงแต่ถ้ามีชิ้นส่วนอะไหล่เดิมผสมอยู่ด้วย นาริตะจังคนเดิมจะออกมาสมบูรณ์แบบมากกว่า เพราะงั้นยูมิจังเฝ้าน้องไว้ดี ๆ ล่ะ"
.
"ได้ค่ะยูมิจะไม่กระพริบตาเลย รีบไปรีบมานะคะหมอ"
.
.
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่หลังจากจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องกันเสร็จ เจฟเฟอร์ก็พร้อมแล้วสำหรับภารกิจตะลุยแดนสนธยา เพื่อแสวงหาแขนซ้ายข้างใหม่ของตัวเอง เขาเดินตามชุดหนังรัดรูปสีเหลืองสดของหมอยูมิโกะเข้าไปติด ๆ ซึ่งในขณะที่แพทย์หญิงใช้เพียงฝ่ามือทั้งสองข้างแหวกเจลตึ๋งหนืดให้สยายออกแล้วก็แทรกตัวเข้าไป เจฟเฟอร์กลับต้องใช้ความพยายามมากกว่านั้นมาก
.
"เวรเอ๊ย! หมอลืมไปรึเปล่าว่าผมมีมือข้างเดียว อย่าเร็วนักสิรอผมด้วย"
เขาสบถในใจทันทีที่เริ่มรู้ตัวว่างานนี้แม่งไม่ได้ง่่ายอย่างที่คิด หมอยูมิโกะเดินเบียดกับเจลยางยืดเข้าไปลึกมากแล้ว แต่เขายังอยู่ที่ด้านนอกและเพิ่งสอดเพียงฝ่ามือเข้าไปได้เท่านั้น
.
"หยี! อะไรว่ะเนี่ยะเหนียวจัง น่าขนลุกชะมัด!"
เสี้ยววาบหนึ่งในภวังค์ความคิด เจฟเฟอร์ชักเร่ิมสงสัยว่าขนาดสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์เทียมอย่างยูมิยังทำได้ แล้วทำไมเขาจะทำบ้างไม่ได้ ยิิ่งเจ้าตัวหันหลังกลับไปมองใบหน้าแสยะยิ้มแกมเย้ยหยันของจักรกลพยาบาล เขายิ่งเกิดแรงฮึด
.
"เอาวะเป็นไงเป็นกัน สู้ตายโว๊ยไอ้เจฟ!"
กันกรามแน่นออกแรงสุดพลัง ดันตัวเองโดยใช้หัวไหล่แทนแขน แหวกข้างซ้ายไม่ได้ก็ช่างมันใช้แค่มือขวาข้างเดียวก็พอ เจลยางค่อย ๆ ยืดออกเมือกเหนียวเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ซ้ำร้ายหนักขึ้นเมื่อเสื้อผ้าชุดผู้ป่วยที่เจฟเฟอร์ใส่อยู่เองก็แสนจะอุ้มน้ำ นั่นยิ่งทำให้ตัวเขาหนักอึ้งเป็นเท่าทวี หายใจก็ไม่ออก! กว่าจะก้าวได้แต่ละขาหมดพลังงานไปมากกว่า 8,000 แคลอรี่
.
เจ้าหน้าที่หนุ่มรู้สึกได้เลยว่าเหมือนตัวเองกำลังจะขาดใจตาย ม่านเจลตึ๋งหนืดนี่คืออะไรกันนะ ความหนาแน่นขนาดนี้อย่าว่าแต่กันคนเข้าเลย เขาว่ามันกันได้แม้กระทั่งแรงระเบิดไดนาไมซ์เลยด้วยซ้ำ
.
"เชี้ยเอ๊ย.. ทั้งเหนียวทั้งหนัก อึบ! ย๊ากกก! อึบ! หมอแม่งหลอกูมาฆ่าทิ้งรึเปล่าวะเนี่ยะ อึบ!"
.
"สติ! สติ! ตั้งสติไว้ไอ้เจฟ! อย่าไปยอมแพ้แขนซ้ายข้างใหม่รออยู่เฟ้ย! ย๊ากกกก! อั๊ก!"
ไม่มีคนบิ้วท์ก็ต้องบิ้วท์ตัวเอง กัดฟันหลับตาปี๋ ทุ่มเททุกอย่างที่ตัวมีทะลวงมันให้ทะลุอย่างไม่หยุดยั้ง
.
แล้วทันใดนั้นเอง ผลพวงจากความพยายามก็ออกดอกออกผล แน่นอนว่าหมอยูมิโกะไม่สละมือเรียวบางของเธอเข้ามาช่่วยแน่ ๆ หากแต่เป็นตัวเขาเองที่ไล่ตามเธอทัน ลมหายใจกำลังจะหมดปอดอยู่รอมร่อ และเขาเองก็กำลังจะหมดแรง จิตสุดท้ายเจฟเฟอร์ก็เลยต้องใส่สุด เขาพยายามทิ้งทั้งหัวไหล่กระเด้าบั้นเอว เอื้อมตัวไปข้างหน้าให้ไกลที่สุด เพียงเพื่อที่จะสะกิดหลังของหมอยูมิโกะให้ได้ เพราะอย่างน้อย ๆ ถ้าเธอรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้และกำลังจะตาย หมอสาวต้องหันกลับมาช่วยแน่
.
"หมอ.. ช่วยผมด้วย.. ผมไม่ไหวแล้ว.. อ๊ากกกกกก! ยืดสุดแขนแล้ว ขอให้ถึงตัวที่เถอะ!"
.
"วืดดด!"
.
คุณพระช่วย! เมื่อสิ่งที่เจฟเฟอร์จับได้ดันเป็นแค่ปอยผมบาง ๆ ของหมอยูมิโกะเท่าน้ัน มันเบาเกินกว่าที่เธอจะรู้สึกตัวซ้ำร้ายที่เธอเองก็ดันหลุดบุ๋มออกไปจากม่านเจลไปโผล่อีกฟากเป็นที่เรียบร้อย ทิ้งให้เจฟเฟอร์ค้างเติ่ง ติดแหงกและกำลังจะสำลักเมือกที่ซึมเข้าไปทางโพรงจมูก!
.
"อึกอัก ๆ ๆ อึก ๆ อัก ๆ ชะ.. ช่วย.. ด้วย..ย..ย"
.
ความโง่เกาะกินสมองตะโกนไปก็มีแต่จะยิ่งสำลัก ในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตายเจฟเฟอร์ตายแน่ถ้าไม่แก้ปัญหานี้ เวลาของเขาเหลืออีกไม่ถึง 10 วิ ก่อนที่มวลยางตึ๋งหนืดด้านข้างจะบีบรัดตัวคืนสภาพ สายตาฝ้าฟางเลือนลางหนัก แล้วก็เป็นตอนนั้นเองที่เจ้าตัวคิดออก!
.
"ไอ้สัดกูคือสายลับเบอร์หนึ่งของ Parallel นะโว่ย โหมดจู่โจม สวิซท์ออน!"
.
โชคดีที่แขนที่ขาดเป็นแขนซ้ายที่ใช้สำหรับการ Drain ก้อนความทรงจำ เพราะฉะนั้นแขนขวาที่ใช้สำหรับยิงกระสุนพลังจึงยังใช้การได้อยู่ มุมมองสายตาบุคคลที่หนึ่งเปลี่ยนทุกอย่างให้เห็นเป็นสิีแดง (ทั้งๆ ที่ข้างนอกเองก็เป็นสีแดงอย่างกับเลือดอยู่แล้ว) พร้อมกับตัวเลขยึกยือบอกพิกัดองศา กับสไตล์การยิงแบบต่าง ๆ ที่เด้งขึ้นมาเป็นออฟชั่นให้เลือก
.
"ช่างแม่งเถอะ ล็อคเป้าข้างหน้าแล้วยิงเลย!"
.
"ยิง!!!"
.
ปลายนิ้วชี้เจฟเฟอร์หักพับลงเหมือนตอนต้นเรื่อง ชั่วพริบตาเลเซอร์ทำลายล้างพลังงานสูงก็พุ่งตรงเป็นลำส่งเสียงดัง จิ้ววววววว!!!"
.
องศาความร้อนที่แผดพุ่งเผาผลาญม่านเจลให้ลุกเป็นไฟ จากที่เคยหนาแน่นอยู่ดี ๆ กลับยุบวูบไหวเว้าแหว่ง ไอ้เจ้าเมือกเหนียวเหนอะนี่ยิ่งแล้วใหญ่ มันคือเชื้อเพลิงอย่างดีเลย ผ่านไปแค่ไม่กี่อึดใจร่างของเจฟเฟอร์ก็หลุดจากการถูกพันธนาการ เขาล้มคะมำลงก่อนจะลุกขึ้นยืนได้โดยง่าย มองออกไปข้างหน้าเห็นเป็นอุโมงค์เจลโล่ง ๆ ที่มีแสงสว่างอยู่ตรงปลาย
.
"เฮ้อ.. รอดแล้วกู โคตรแม่งเอ๊ยเกือบตายห่าแล้วไหมล่ะ ไป ๆ เดินต่อยังไม่จบเรื่องเว่ย"
.
เปลวไฟลุกท่วมอยู่รอบตัว แต่ก็ยังดีที่บางส่วนของม่านเจลยังมีความหนาแน่นอยู่ก็เลยกันเปลวไฟไว้ได้บ้าง ระหว่างเดินตรงเข้ามาเจฟเฟอร์ก็เลยจินตนาการไปว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในวงล้อมของบ่วงบาศไฟของคณะละครสัตว์ เขาผายมือออกกว้างสุดไหล่ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเหลือแขนอยู่ข้างเดียวก็ไม่สน
.
"เฮ้อ..สวยดีจังเลยเว๊ยยย! คือโคตรภูมิใจในตัวเองอ่ะ เรานี่แม่งไหวพริบดีเหมือนกันนะเนี่ยะ ภาพสวยงามเช่นนี้คือรางวัลแห่งความสำเร็จสินะ"
.
"วู้ววว! , ยะฮู้!"
.
ความเหน็ดเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง เจฟเฟอร์กำลังสนุกสนานกับการได้มีชีวิตเขาแทบจะเต้นระบำหมุนไปมากับอุโมงค์ไฟเลยมั้ง จนกระทั่งเริ่มสังเกตเห็นเงาตะคุ่มที่ปลายอุโมงค์
.
"โอ้ว.. ถึงแล้วสินะ ดินแดนสนธยาที่เขาร่ำลือกันว่าอยู่อีกฟากหนึ่งของชั้น 4 "
.
"แล้วนั่นเงาใครวะน่ะ ยืนกอดอกอยู่เชียว"
.
กระพริบตาแปร๊บ ๆ พลันใช้ม่านตาเรติน่าคลี่ตัวเป็นใบพัดเพื่อซูมภาพให้ชัดขึ้น
.
"แกร็ก ๆ ซึบบบบ!"
.
"อ๋อ.. คุณหมอยูมิโกะนางฟ้าซามูไรเสื้อเหลืองนี่เอง บัดโถ่ทีอย่างงี้ดันมายืนรอต้อนรับกอดอกโพสต์ท่าซะเหมือนเชียว ถ้าหมอรู้ว่าเมื่อกี้ผมเกือบตาย หมอคงไม่ได้ยืนเก็กแบบนี้หรอกบัดโถ่"
.
เจฟเฟอร์เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ใบหน้าเขาเปื้อนยิ้มพอ ๆ กับเปื้อนคราบเมือกเจลสกปรก แถมยังทำท่าทะเล้นเป็นเด็ก ๆ ดีใจเหลือเกินกับการพบหมอหนนี้ หนที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งทันทีที่ฝ่าเท้าของเขาเหยียบย่ำลงมายังแผ่นดินที่ยูมิโกะเป็นประมุข!
.
"ไงครับหมอ มารอต้อนรับผมเหรอ? ต้องขอโทษด้วยนะครับเรื่องม่า... ! "
.
"เปรี๊ยะ!"
.
หน้าแหว่งไปครึ่งซีก! กระดูกกรามแตกยับ! มิหนำซ้ำทั้งเนื้อทั้งตัวยังปลิวละลิ่วไปอัดเข้ากับดงป่าละเมาะ พื้นดินบริเวณที่กระเด็นไปแตกระแหงเป็นทางยาวราวกับโดนซุนโกคูดักทำร้าย! แต่ไม่เลย! นี่คือแรงตบเพียงแค่ 1 กระพี้ฝ่ามือจากผู้หญิงที่เป็นหมอคนหนึ่ง บอกแล้วไงว่านี่คือดินแดนพิศวงของเธอ ใครที่มันทำกับสมบัติส่วนตัวของเธอ เธอไม่เคยให้อภัยเลยสักคน
.
.
"คิดว่าฉันตลกด้วยเหรอ! คิดว่าฉันใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะสร้างผนังเจลที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ขึ้นมาได้ คุณกลับเผามันจนไม่มีชิ้นดีไอ้สารเลว!"
ตะแคงแหย่เย็ดกลีบผกาอยู่ร่วมนาทีนารีก็รับสภาพ หนังหีตรงหลืบถ้ำขององค์หญิงโดนดุ้นมังกรลำเขื่องปลุกปล้ำจนช้ำแดงเป็นปื้น ไนฟ์ขยำรัดเต้านมนวลน้อยของเธอชอกช้ำเป็นรอยฝ่ามือ ไหนจะคมเขี้ยวที่ฝากเอาไว้บนไหล่ซึ่งเต็มไปด้วยการแทะเล็มโลมเลียนั่นอีก มันไม่นุ่มนวลเอาซะเลย มันไม่ใช่การทำรักที่เธอชอบ เธอไม่พร้อมและจนป่านนี้น้ำหล่อลื่นก็ไม่ฟดออกจากรูฉี่แม้แต่หยดเดียว!.นาตาชายังคงครางร้องเรียกชื่อเจฟเฟอร์อยู่ตลอดเวลา ถึงมันจะขาดห้วงจากการกระหน่ำอันบ้าระห่ำไปบ้าง แต่ก็สาสมแล้วที่เธอจะออกอาการดังกล่าว หญิงสาวเจ็บจนต้องหลับตาเอาไว้ ครั้นพอจะยกมือป่ายปัดไปทางไหน ก็ถูกไนฟ์ไล่แขนล็อคเอาไว้หมด กระทั่งอีกสามนาทีให้หลังท่าเย็ดแบบใหม่จึงถูกสภาปนา."เปลี่ยนท่านะ.."เขากระซิบบอก.ทำเป็นอ่อนโยนแต่ไอเหี้ยนี่คือโจรแห่งจุดซ่อนเร้น มันลักพาเยื้อพรหมจรรย์ที่เหลือติดอยู่นิดหน่อยไปโดยสิ้นเชิง ผ่านการพลิกตัวขององค์หญิงขึ้นสู่ด้านบน."พี่ไนฟ์.. พอเถอะ.. ไม่เอาอ่ะพี่.. ช่าเจ็บ..บ..บ.. โอ๊ยยย!"."ไม่เป็นไรหรอกน่านิดเดียวเอง.. เจ็บนิดเดียวแต่เสียวซาบซ่านไง.. เยสสสส!".ยอมฟังซะที่ไหนเสี้ยววินาทีที่ร่างบางนอนหลาอยู่ข้างบน
ร้องจนเสียงหลง กัดริมฝีปากครวญเสียงซีดจากในลำคอกึ่งสุขกึ่งสับสนอยู่ในภวังค์โลกีย์ องค์หญิงหลับตาเหยเก รอยย่นบนใบหน้าบ่งบอกว่าเธอกำลังเจ็บ! เธอเสียว! และเธอก็แสบ! แต่นั่นก็ยังไม่สู้คุณเจฟที่ป่านนี้คงจะสุกกลายเป็นส่วนผสมอันโอชะ อยู่ในหม้อต้มครีมใบเขื่องไปแล้ว.ในหัวเธอคิดถึงแต่เขาแต่ร่างกายกลับปฏิเสธ มันบอกกับเธอว่าเจฟเฟอร์ก็ห่วง แต่ดุ้นควยที่หน่วงหีอยู่ทางนี้ก็ฟินอยู่พอกัน ไนฟ์ที่เปลื้องผ้าล่อนจ้อนหมดแล้วนั้น ก็เลยถือวิสาสะแห่งการลังเลกระชากเธอซะสุดแรง มวลกายนวลนุ่มพลิกกลับด้านราวกับก้อนสำลีก้อนหนึ่ง หล่อนชันเข่าฟุบหน้าคาอยู่กับพนักโซฟา โดยมีแท่งควยอันเดิมปักคาอยู่ในร่อง."ซวบบบ!"."อ๊อยยย~!".แล้วไนฟ์ก็เย็ดต่อ!."ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! "."โอ๊ยยย.. ย.. ย.. ย.. อึ.. อึ.. อึ.. พี่ไนฟ์.. ช่าขอร้องล่ะ.. โอ๊ยยย!.. โอ๊ยยย!.. อ๊อยยย!""หยุด..ก่อน..น..น..น.. ได้ไหม.. ซีดดดดด.. ตอนนี้""คุณเจฟ.. เค้า..า..า..".นับเป็นการขอร้องที่โคตรจะผิดเวลา กับชั่วยามนี้ที่หัวหน้ากลุ่มอันเดอร์กราวน์ได้ถูกความเงี่ยนเข้าครอบงำจนหมดสิ้น พลังด้านมืดเขาเต็มเปี่ยม จะดาร์คไซต์ห
ซวยสุดซอยสะเทือนใจสุดขีด เมื่อองค์หญิงนาตาชามาถึงช้าเกินไป และคนที่มาถึงก่อนคือไนฟ์กับพรรคพวก ลับหลังจากการปรากฏตัวสุดอุบาทว์ เหล่าลูกสมุนบริวารก็ต่างพากันวาร์ปออกมาจากกระจกหน้าร้านอีกเป็นโขยง! มิหนำซ้ำแต่ละคนยังถือมีดสีม่วงเป็นอาวุธประจำกายไว้ติดมือตลอดเวลา เจอแบบนี้เข้าไปใครจะกล้าแหยม! องค์หญิงก็เลยต้องหลบฉากถอยออกมาตั้งหลักก่อน.เปิดทางให้ไนฟ์ตบเกียร์ห้าเดินหน้าทำตามแผนต่อไป ซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือเชื้อพระวงศ์ลำดับที่สองอย่างองค์หญิงเจส เขาตั้งใจจะคาดคั้นเอาความให้ได้ว่า "ณ ปัจจุบันราชาเด็มบ้าบาไปมุดหัวอยู่ที่ไหน?" ทำไมเขากับพวกพลิกแผ่นดินหายังไงก็หาไม่เจอสักที พอถามใครก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นหรือยอมปริปาก.กวัดแกว่งปลายมีดขยิบตาหน่อยเดียว ประตูกระจกใสแจ๋วก็ถูกเดินผ่านไปได้โดยสะดวกโยธิน อิทธิฤทธิ์ของแร่มหัศจรรย์ได้เนรมิตม่านควันกลุ่มใหญ่ให้บดบังสายตาของพวกน้องหมาทั้งหลายเอาไว้ ทำให้ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเห่า กลุ่มอันเดอร์กราวน์คนแล้วคนเล่าจึงสามารถทะลุผ่านโซนกงขัง ที่เคยเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือด ระหว่างเจฟเฟอร์กับทหารจากรั้วพระราชวังไปได้แบบไม่ยี่หระอะไร.แล้วคิดเหรอว่าสีผมแดงแจ๋กับดวงห
คลื่นอารมณ์โถมจิตใจ ร่างลอยลมชันฟ้าห้วงมหานภา พลพรรคกองกำลังติดอาวุธจากพื้นพสุธาผงาดง้ำยึดครองฟากฟ้า ม่วงมหากาฬเต็มไปหมด จะมองไปมุมไหนเมฆหมอกก็เจือจางความโอหังนี้ไว้ไม่ได้ จบลงแล้วกับการปิดบังตัวเอง ความโกลาหลเช่นนี้แหละที่พวกมันรอคอย การป้องกันอาณาจักรที่ลดทอนลง บวกกับพลเมืองที่สูญเสียกำลังใจหลงใหลในความเงี่ยน ก็เลยไม่มีเวลาไหนที่จะเหมาะแก่การบุกขึ้นไปช่วงชิงอำนาจไปมากกว่านี้อีกแล้ว!.คนตัวเท่ามดด้วยรูปลักษณ์ของกลุ่มควันมวลเมฆ มองปราดเดียวนาตาชาก็รู้ในทันทีว่านี่คือกลุ่มกบฎอันเดอร์กราวน์มิผิดเพี้ยน จังหวะการกระโจนโบยบินบนฟากฟ้า กลุ่มควันสีม่วงจากอาวุธมีด Pussy Recon วิบวาวตระการตา ก็มีแต่กลุ่มคนเหล่านี้เท่านั้นแหละที่จะทำได้.แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ประตูหน้าต่างของบ้านพลเรือน กลายเป็นประตูมิติอันสมบูรณ์แบบ เสี้ยวอึดใจจากที่ลอยอยู่บนฟ้าอยู่ดี ๆ จู่ ๆ พวกมันก็พากันวาร์ปลงมาโผล่ยังภาคพื้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ซะอย่างงั้น! นั่นอาจจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของอุปกรณ์พิเศษเฉกเช่นแผ่นการ์ดตัวอย่างดิน กับประตูโดเรม่อนที่พกพากันอยู่คนละอันสองอันก็เป็นได้.1 คนวาร์ป! 2 คนวาร์ป! 3 คนวาร์ป! , 4...! , 5...!
ตัดภาพกลับออกมาที่ฟากฝั่งขององค์หญิงนาตาชา เธอหย่อนตัวลงบนพื้นพรมด้านล่างผ่านทางตะแกรงท่อระบายอากาศ ที่เธอใช้ฝ่าตีนกระทุ้งถีบ ใจจริงอยากจะจ้วงเท้าออกวิ่งแทบขาดใจแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเกรงว่าพวกทหารหญิงจะไหวตัวทัน ก็เลยทำได้เพียงกระหยิบย่องแบบช้า ๆ ไปพลางก่อน ซ้ำร้ายเมื่อออกไปทางประตูปกติก็ไม่ได้! กลับไปห้องพี่โซเฟียก็ไม่เข้าท่า! เนื่องจากปากท่อโดยสารอันเก่ามันเชื่อมต่อกับแนวท่อตรงตีนเขาศาลเจ้า ซึ่งไม่ตรงกับพิกัดที่เธอต้องการจะไป.ย่องไปคิดไปก้านสมองนี่ระบมพอ ๆ กับส้นตีนที่รองรับน้ำหนักตัว กระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหัวมุมห้องโถง ณ ที่ตรงนี้ยังมีร่างของทหารหญิงคนหนึ่งนอนพิงกำแพงอยู่ เธอคือผู้โชคร้ายที่โดนเจฟเฟอร์สับท้ายทอยจนสลบไปเมื่อหลายตอนก่อน เพียงแต่ว่าหนนี้กลับดูแปลกตาไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด.องค์หญิงมองเห็นแอ่งเลือดที่ซึมเปรอะอยู่บนพรม พอโผตัวเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้วสัมผัสเนื้อตัวอีกเล็กน้อย ศีรษะของศพก็หักพับลงไปด้านหลังอย่างสยดสยอง! เหลือไว้แต่ละอองเลือดที่แผดพุ่งเฉียดหน้าไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด! บาดแผลลึกฉกรรจ์มาก! แค่ดูโดยไม่ต้องสันนิษฐานก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของเจฟเฟอร์ที่ทำไว้ แล้วก็ไ
ข้างล่างวิ่งกันโกลาหล ต่างคนต่างลุกออกจากเตียงตกอกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นมันสัตว์ประหลาดรึยังไง? กลับหัวห้อยอาจจะใช่ แต่สิ่งที่ยึดไว้ไม่ใช่ใยแต่เป็นควย! ทอดสายตาลงไปนาตาชามองเห็นพ่อตัวเองชี้ไม้ชี้มือสั่งคนนั้นคนนี้ให้จัดการกับเจฟเฟอร์ ซึ่งเธอไม่มีวันยอมเป็นอันขาด เธอก็เลยออกแรงกำลำควยของเขาด้วยสองมือน้อย ๆ ที่แรงกว่าเก่า!."งึด! , งึด! , งึด! , งึด!"."อ๊ากกก!".เจ็บสิถึงร้องลั่นเก่งแค่ไหนอุปกรณ์อาวุธครบมือยังไง ขึ้นชื่อว่าผู้ชายแล้วอะไหล่ตรงเป้ากางเกงนี่แหละแพงที่สุด จริงอยู่ว่าถ้าอ่านมาแต่แรกจะรู้ว่าควยอันนี้เคยถูกหมอยูมิโกะโมดิฟายด์มาแล้วหนหนึ่ง มันถูกผสมทังสเตนคาร์ไบน์ , เหล็ก , และแมงกานิส จนสามารถใช้รับมือกับดาบ "คาตานะ" ประจำกายของหมอมาแล้ว.แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน ม่านไหมลุกชันเกรียวเข้าไปถึงรูตูด จวนจะได้จูบกันอยู่แล้วอารมณ์ก็เลยค้าง น็อตนับพันขันดุ้นกับไข่ให้ชิดติดกันแนบสนิท มันดูดีสุด ๆ โคตรเท่โคตรคูล แต่กลับเป็นความสมมาตรในพาร์ทของการขยายออกข้างนี่แหละที่มีปัญหา เมื่ออำนาจแห่งรักทำให้น้ำเมือกหล่อลื่นซึมออกมาจากปลายควยมากกว่าปกติ มันรินรดเปรอะใส่มือองค์หญิงจนทำให้