หน้าหลัก / เมือง / Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+) / บทที่ 14 : ความลับหลังเมือกเจล

แชร์

บทที่ 14 : ความลับหลังเมือกเจล

ผู้เขียน: L.sunanta
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-14 23:40:18

ตัดภาพกลับมาที่ฟากฝั่งของเจฟเฟอร์อีกครั้ง เขาค่อย ๆ พยุงตัวขึึ้นจากเตียงพร้อมกับลำควยที่เข้าที่เข้าทางดีแล้ว แม้ว่าความเจ็บปวดอันแสบระบม อันเป็นผลพวงมาจากขั้นตอนการรักษาจะยังคงอยู่ก็ตามที

.

"ตื่นแล้วเหรอคุณเจ้าหน้าที่ เป็นไงบ้างล่ะรู้สึกยังไงบ้าง?"

หมอยูมิโกะถามและขณะที่เจฟเฟอร์กำลังจะอ้าปากตอบ หูเจ้ากรรมก็ดันไปได้ยินเสียงฉึกฉัก ๆ คล้ายกับเครื่องยนต์อะไรสักอย่างเข้า แล้วเสี้ยวอึดใจที่หันไปหาต้นตอเท่านั้นแหละ โอ้พ่อเจ้าพ่อคุณเอ๊ย!

.

"นี่มึงยังอยู่อีกเหรอ!"

.

"พั๊ว!"

ฝ่าเท้าขนาดใหญ่จากเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ประทับลงกลางอกของมันในทันที! เจ้าหุ่นยนต์นาริตะคอขาดล้มหงายท้องหงายไส้ในบัดดล! ครานั้นด้วยคุณภาพระดับสูงที่หมอยูมิโกะผลิตเอาไว้ เจ้าหุ่นกลับยังขยับแขนสาวดุ้นอากาศฉึกฉัก ๆ ๆ ต่อไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

.

"ฉึกฉัก ๆ ๆ ฉึกฉัก ๆ ๆ"

.

"บ้าเอ๊ย! เวรแท้ ๆ !"

.

"ช่วยหยุดมันทีหมอ! ได้โปรดเถอะอวัยวะเพศผมโอเคแล้ว แต่ยิ่งผมเห็นมันน้องชายผมก็ยิ่งหดลง ถ้าหมอไม่ทำอะไรสักอย่างอีกไม่นานจากการรักษาโรคโด่ไม่รู้ล้ม มันจะกลายเป็นการรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแทนเอานะครับ"

เจฟเฟอร์ร่ายยาว เขางอตัวคุดคู้จ้องมองมันสลับกับการเหลือบดูอวัยวะ ที่เหมือนเพิ่งผ่านการถูกข่มขืนมาหยก ๆ

.

"แหมคุณก็พูดเกินไป ไม่รุนแรงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่พฤติกรรมของคุณสิคะคุณเจ้าหน้าที่ ดูสิ! เห็นไหมว่าผู้ช่วยคนสนิทของฉันเขาทุกข์ใจแค่ไหน ไม่เป็นไรนะจ๊ะยูมิจังเดี๋ยวหมอจะสร้างนาริตะจังขึ้นมาใหม่่ เอาให้เหมือนเดิมเป๊ะเลย หมอบันทึกพิมพ์เขียวเอาไว้แล้วไม่ต้องห่วงนะจ๊ะคนดี.. โอ๋ ๆ "

.

ตัดภาพมาที่ยูมิจังที่บัดนี้กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ก่อนจะช้อนตัวเอาร่างของน้องสาวขึ้นมากอด เธอร้องห่มร้องไห้ออกมาน้ำตาท่วม

.

"ฮือ ๆ ฮือ ๆ ค่ะหมอ หมอรับปากยูมิแล้วนะคะ ฮือ ๆ "

.

"ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจที่สุดกับศพคนตายก็ไม่เว้น น้องนาริตะไม่มีหัวด้วยซ้ำยังถีบลงมาได้แย่ที่สุดเลย หมออย่าต่อแขนให้เขานะยูมิเกลียดคน ๆ นี้ อะไรที่พวกเราคุยกันไว้ยูมิขอลืมและยกเลิกทั้งหมดค่ะ เจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์! "

.

ลืมตาตื่นขึ้นมายูมิก็ได้สร้างความมึนงงให้แก่เจฟเฟอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซะแล้ว ในหัวเขาคิดแต่เพียงว่านี่ร่างเทียมสังเคราะห์มีสิทธิ์จะทำหรือไม่ทำอะไรได้ด้วยเหรอ พวกเธอมีสิทธิเสรีภาพตั้งแต่เมื่อไหร่ เจฟเฟอร์ตั้งใจจะสวนคารมกลับไปเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดีที่มีหมอยูมิโกะอยู่ใกล้ ๆ แล้วเธอก็อ่านพฤติกรรมของเขาออก

.

"หยุดเลยทั้งคู่จะทะเลาะกันทำไมมิทราบ เอางี้เรื่องแขนซ้ายที่ขาดของคุณเจฟเฟอร์ เดี๋ยวคุณตามฉันเข้าไปด้านหลังม่านเจลฉันจะหาแขนที่เหมาะสมเปลี่ยนให้จะได้จบ ๆ แล้วก็จะได้ไปจากชั้น 4 นี่ซะที (อยู่มาหลายตอนแล้วนี่เราอ่ะ) ส่วนยูมิจังเดี๋ยวพอพวกเราเข้าไปข้างในแล้ว ให้เธอเอาร่างของนาริตะมานอนบนเตียงแทนนะ เก็บหัวเธอมาด้วยแล้วก็เอาป้ายงดให้บริการไปแขวนไว้ที่หน้าประตู"

.

"หมอคิดจะทำอะไรคะ?"

.

"เปล่าหรอกหมอก็แค่ต้องการจะใช้อะไหล่ มีพิมพ์เขียวอยู่ก็จริงแต่ถ้ามีชิ้นส่วนอะไหล่เดิมผสมอยู่ด้วย นาริตะจังคนเดิมจะออกมาสมบูรณ์แบบมากกว่า เพราะงั้นยูมิจังเฝ้าน้องไว้ดี ๆ ล่ะ"

.

"ได้ค่ะยูมิจะไม่กระพริบตาเลย รีบไปรีบมานะคะหมอ"

.

.

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่หลังจากจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องกันเสร็จ เจฟเฟอร์ก็พร้อมแล้วสำหรับภารกิจตะลุยแดนสนธยา เพื่อแสวงหาแขนซ้ายข้างใหม่ของตัวเอง เขาเดินตามชุดหนังรัดรูปสีเหลืองสดของหมอยูมิโกะเข้าไปติด ๆ ซึ่งในขณะที่แพทย์หญิงใช้เพียงฝ่ามือทั้งสองข้างแหวกเจลตึ๋งหนืดให้สยายออกแล้วก็แทรกตัวเข้าไป เจฟเฟอร์กลับต้องใช้ความพยายามมากกว่านั้นมาก

.

"เวรเอ๊ย! หมอลืมไปรึเปล่าว่าผมมีมือข้างเดียว อย่าเร็วนักสิรอผมด้วย"

เขาสบถในใจทันทีที่เริ่มรู้ตัวว่างานนี้แม่งไม่ได้ง่่ายอย่างที่คิด หมอยูมิโกะเดินเบียดกับเจลยางยืดเข้าไปลึกมากแล้ว แต่เขายังอยู่ที่ด้านนอกและเพิ่งสอดเพียงฝ่ามือเข้าไปได้เท่านั้น

.

"หยี! อะไรว่ะเนี่ยะเหนียวจัง น่าขนลุกชะมัด!"

เสี้ยววาบหนึ่งในภวังค์ความคิด เจฟเฟอร์ชักเร่ิมสงสัยว่าขนาดสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์เทียมอย่างยูมิยังทำได้ แล้วทำไมเขาจะทำบ้างไม่ได้ ยิิ่งเจ้าตัวหันหลังกลับไปมองใบหน้าแสยะยิ้มแกมเย้ยหยันของจักรกลพยาบาล เขายิ่งเกิดแรงฮึด

.

"เอาวะเป็นไงเป็นกัน สู้ตายโว๊ยไอ้เจฟ!"

กันกรามแน่นออกแรงสุดพลัง ดันตัวเองโดยใช้หัวไหล่แทนแขน แหวกข้างซ้ายไม่ได้ก็ช่างมันใช้แค่มือขวาข้างเดียวก็พอ เจลยางค่อย ๆ ยืดออกเมือกเหนียวเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ซ้ำร้ายหนักขึ้นเมื่อเสื้อผ้าชุดผู้ป่วยที่เจฟเฟอร์ใส่อยู่เองก็แสนจะอุ้มน้ำ นั่นยิ่งทำให้ตัวเขาหนักอึ้งเป็นเท่าทวี หายใจก็ไม่ออก! กว่าจะก้าวได้แต่ละขาหมดพลังงานไปมากกว่า 8,000 แคลอรี่

.

เจ้าหน้าที่หนุ่มรู้สึกได้เลยว่าเหมือนตัวเองกำลังจะขาดใจตาย ม่านเจลตึ๋งหนืดนี่คืออะไรกันนะ ความหนาแน่นขนาดนี้อย่าว่าแต่กันคนเข้าเลย เขาว่ามันกันได้แม้กระทั่งแรงระเบิดไดนาไมซ์เลยด้วยซ้ำ

.

"เชี้ยเอ๊ย.. ทั้งเหนียวทั้งหนัก อึบ! ย๊ากกก! อึบ! หมอแม่งหลอกูมาฆ่าทิ้งรึเปล่าวะเนี่ยะ อึบ!"

.

"สติ! สติ! ตั้งสติไว้ไอ้เจฟ! อย่าไปยอมแพ้แขนซ้ายข้างใหม่รออยู่เฟ้ย! ย๊ากกกก! อั๊ก!"

ไม่มีคนบิ้วท์ก็ต้องบิ้วท์ตัวเอง กัดฟันหลับตาปี๋ ทุ่มเททุกอย่างที่ตัวมีทะลวงมันให้ทะลุอย่างไม่หยุดยั้ง

.

แล้วทันใดนั้นเอง ผลพวงจากความพยายามก็ออกดอกออกผล แน่นอนว่าหมอยูมิโกะไม่สละมือเรียวบางของเธอเข้ามาช่่วยแน่ ๆ หากแต่เป็นตัวเขาเองที่ไล่ตามเธอทัน ลมหายใจกำลังจะหมดปอดอยู่รอมร่อ และเขาเองก็กำลังจะหมดแรง จิตสุดท้ายเจฟเฟอร์ก็เลยต้องใส่สุด เขาพยายามทิ้งทั้งหัวไหล่กระเด้าบั้นเอว เอื้อมตัวไปข้างหน้าให้ไกลที่สุด เพียงเพื่อที่จะสะกิดหลังของหมอยูมิโกะให้ได้ เพราะอย่างน้อย ๆ ถ้าเธอรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้และกำลังจะตาย หมอสาวต้องหันกลับมาช่วยแน่

.

"หมอ.. ช่วยผมด้วย.. ผมไม่ไหวแล้ว.. อ๊ากกกกกก! ยืดสุดแขนแล้ว ขอให้ถึงตัวที่เถอะ!"

.

"วืดดด!"

.

คุณพระช่วย! เมื่อสิ่งที่เจฟเฟอร์จับได้ดันเป็นแค่ปอยผมบาง ๆ ของหมอยูมิโกะเท่าน้ัน มันเบาเกินกว่าที่เธอจะรู้สึกตัวซ้ำร้ายที่เธอเองก็ดันหลุดบุ๋มออกไปจากม่านเจลไปโผล่อีกฟากเป็นที่เรียบร้อย ทิ้งให้เจฟเฟอร์ค้างเติ่ง ติดแหงกและกำลังจะสำลักเมือกที่ซึมเข้าไปทางโพรงจมูก!

.

"อึกอัก ๆ ๆ อึก ๆ อัก ๆ ชะ.. ช่วย.. ด้วย..ย..ย"

.

ความโง่เกาะกินสมองตะโกนไปก็มีแต่จะยิ่งสำลัก ในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตายเจฟเฟอร์ตายแน่ถ้าไม่แก้ปัญหานี้ เวลาของเขาเหลืออีกไม่ถึง 10 วิ ก่อนที่มวลยางตึ๋งหนืดด้านข้างจะบีบรัดตัวคืนสภาพ สายตาฝ้าฟางเลือนลางหนัก แล้วก็เป็นตอนนั้นเองที่เจ้าตัวคิดออก!

.

"ไอ้สัดกูคือสายลับเบอร์หนึ่งของ Parallel นะโว่ย โหมดจู่โจม สวิซท์ออน!"

.

โชคดีที่แขนที่ขาดเป็นแขนซ้ายที่ใช้สำหรับการ Drain ก้อนความทรงจำ เพราะฉะนั้นแขนขวาที่ใช้สำหรับยิงกระสุนพลังจึงยังใช้การได้อยู่ มุมมองสายตาบุคคลที่หนึ่งเปลี่ยนทุกอย่างให้เห็นเป็นสิีแดง (ทั้งๆ ที่ข้างนอกเองก็เป็นสีแดงอย่างกับเลือดอยู่แล้ว) พร้อมกับตัวเลขยึกยือบอกพิกัดองศา กับสไตล์การยิงแบบต่าง ๆ ที่เด้งขึ้นมาเป็นออฟชั่นให้เลือก

.

"ช่างแม่งเถอะ ล็อคเป้าข้างหน้าแล้วยิงเลย!"

.

"ยิง!!!"

.

ปลายนิ้วชี้เจฟเฟอร์หักพับลงเหมือนตอนต้นเรื่อง ชั่วพริบตาเลเซอร์ทำลายล้างพลังงานสูงก็พุ่งตรงเป็นลำส่งเสียงดัง จิ้ววววววว!!!"

.

องศาความร้อนที่แผดพุ่งเผาผลาญม่านเจลให้ลุกเป็นไฟ จากที่เคยหนาแน่นอยู่ดี ๆ กลับยุบวูบไหวเว้าแหว่ง ไอ้เจ้าเมือกเหนียวเหนอะนี่ยิ่งแล้วใหญ่ มันคือเชื้อเพลิงอย่างดีเลย ผ่านไปแค่ไม่กี่อึดใจร่างของเจฟเฟอร์ก็หลุดจากการถูกพันธนาการ เขาล้มคะมำลงก่อนจะลุกขึ้นยืนได้โดยง่าย มองออกไปข้างหน้าเห็นเป็นอุโมงค์เจลโล่ง ๆ ที่มีแสงสว่างอยู่ตรงปลาย

.

"เฮ้อ.. รอดแล้วกู โคตรแม่งเอ๊ยเกือบตายห่าแล้วไหมล่ะ ไป ๆ เดินต่อยังไม่จบเรื่องเว่ย"

.

เปลวไฟลุกท่วมอยู่รอบตัว แต่ก็ยังดีที่บางส่วนของม่านเจลยังมีความหนาแน่นอยู่ก็เลยกันเปลวไฟไว้ได้บ้าง ระหว่างเดินตรงเข้ามาเจฟเฟอร์ก็เลยจินตนาการไปว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในวงล้อมของบ่วงบาศไฟของคณะละครสัตว์ เขาผายมือออกกว้างสุดไหล่ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเหลือแขนอยู่ข้างเดียวก็ไม่สน

.

"เฮ้อ..สวยดีจังเลยเว๊ยยย! คือโคตรภูมิใจในตัวเองอ่ะ เรานี่แม่งไหวพริบดีเหมือนกันนะเนี่ยะ ภาพสวยงามเช่นนี้คือรางวัลแห่งความสำเร็จสินะ"

.

"วู้ววว! , ยะฮู้!"

.

ความเหน็ดเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง เจฟเฟอร์กำลังสนุกสนานกับการได้มีชีวิตเขาแทบจะเต้นระบำหมุนไปมากับอุโมงค์ไฟเลยมั้ง จนกระทั่งเริ่มสังเกตเห็นเงาตะคุ่มที่ปลายอุโมงค์

.

"โอ้ว.. ถึงแล้วสินะ ดินแดนสนธยาที่เขาร่ำลือกันว่าอยู่อีกฟากหนึ่งของชั้น 4 "

.

"แล้วนั่นเงาใครวะน่ะ ยืนกอดอกอยู่เชียว"

.

กระพริบตาแปร๊บ ๆ พลันใช้ม่านตาเรติน่าคลี่ตัวเป็นใบพัดเพื่อซูมภาพให้ชัดขึ้น

.

"แกร็ก ๆ ซึบบบบ!"

.

"อ๋อ.. คุณหมอยูมิโกะนางฟ้าซามูไรเสื้อเหลืองนี่เอง บัดโถ่ทีอย่างงี้ดันมายืนรอต้อนรับกอดอกโพสต์ท่าซะเหมือนเชียว ถ้าหมอรู้ว่าเมื่อกี้ผมเกือบตาย หมอคงไม่ได้ยืนเก็กแบบนี้หรอกบัดโถ่"

.

เจฟเฟอร์เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ใบหน้าเขาเปื้อนยิ้มพอ ๆ กับเปื้อนคราบเมือกเจลสกปรก แถมยังทำท่าทะเล้นเป็นเด็ก ๆ ดีใจเหลือเกินกับการพบหมอหนนี้ หนที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งทันทีที่ฝ่าเท้าของเขาเหยียบย่ำลงมายังแผ่นดินที่ยูมิโกะเป็นประมุข!

.

"ไงครับหมอ มารอต้อนรับผมเหรอ? ต้องขอโทษด้วยนะครับเรื่องม่า... ! "

.

"เปรี๊ยะ!"

.

หน้าแหว่งไปครึ่งซีก! กระดูกกรามแตกยับ! มิหนำซ้ำทั้งเนื้อทั้งตัวยังปลิวละลิ่วไปอัดเข้ากับดงป่าละเมาะ พื้นดินบริเวณที่กระเด็นไปแตกระแหงเป็นทางยาวราวกับโดนซุนโกคูดักทำร้าย! แต่ไม่เลย! นี่คือแรงตบเพียงแค่ 1 กระพี้ฝ่ามือจากผู้หญิงที่เป็นหมอคนหนึ่ง บอกแล้วไงว่านี่คือดินแดนพิศวงของเธอ ใครที่มันทำกับสมบัติส่วนตัวของเธอ เธอไม่เคยให้อภัยเลยสักคน

.

.

"คิดว่าฉันตลกด้วยเหรอ! คิดว่าฉันใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะสร้างผนังเจลที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ขึ้นมาได้ คุณกลับเผามันจนไม่มีชิ้นดีไอ้สารเลว!"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 66 : กระสุนวิถีโค้ง

    หน้าอกจุกเสียดแน่นท้องหายใจก็ไม่ค่อยจะออก อย่าว่าแต่การเค้นพลังลมปราณจากอวัยวะสืบพันธุ์เลย โดนสิบล้อทับทั้งคันอยู่แบบนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด เขาเจ็บแค่ไหนนาตาชาเจ็บกว่า เขาดิ้นทุรนทุรายนาตาชาชักเกร็งจะเป็นจะตายเหมือนจะขาดใจตายอยู่รอน ๆ.ร่างกายเธอกำลังขาดเลือด อาการที่เห็นคือสภาวะช็อคอันเกิดจากการมีปัญหาที่ระดับความดันโลหิต เมื่อรวมเข้ากับน้ำหนักตัวที่กดทับลงมาของโรบอทซอมบี้แล้วไซร้ อะไรต่อมิอะไรจึงดำเนินไปในแง่ลบ เธอได้ตายจริง ๆ แน่หากบุรุษหนุ่มผู้จมอยู่ใต้ดอกยางไม่ตระหง่านออกมาช่วย."อั๊ก.. อ๊ะ.. อั๊ก.. ก.. ก.. ฮึบ! ดีนะที่แขนยังพอขยับได้อยู่".เจฟเฟอร์พยายามอย่างสุดกำลังรวบรวมพลังไว้ที่ปลายนิ้ว เรียกได้ว่าเค้นออกมาทุกหยดจะลมตดหรือติ่งเล็บตีน ขอแค่เปลี่ยนเป็น Energy ได้เขาไม่เกี่ยง หน้าจอในมุมมองบุคคลที่หนึ่งมองเห็นเคอร์เซอร์วิ่งติ๊ก ๆ ๆ พลันล็อคเป้าหมายไว้ที่โรบอทซอมบี้ตัวที่กำลังง้างกงเล็บ เตรียมจะฟาดฟันใส่องค์หญิง."งับ!"."โอ๊ย! ไอ้เหี๊ยะเอ๊ย! ขากู! ยิ่งเพิ่งต่อมาใหม่ ๆ อยู่ พวกมึงก็ให้เวลากูหน่อยเป็นไร อ๊ากกก! เจ็บ ๆ เจ็บโว๊ย! อูยยย~!".โดยไม่ทันระวังตัว เพราะในระห

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 65 : ต้องรอด (18+)

    ปลายนิ้วชี้มือขวาควันขึ้นโขมง หงายฝ่ามือขึ้นดูเจฟเฟอร์เห็นแต่รอยเขม่าไหม้อันแสนดำขลับ ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือเขาได้ทำเต็มที่ขี้เต็มกางเกงแล้ว เลเซอร์สังหารจากปลายนิ้วคืออาวุธชิ้นเดียวที่เขามี แม้ว่าเจ้าตัวจะลองนั่งคุกเข่าลง แล้วก็เล็งยิงเข้าใส่เป้าหมายเดิมไปอีกหลายชุด ด้วยท่าเบสิคสัด ๆ ตัดท่ายากลีลาเยอะออกไปก็ยังไม่ได้ผล กระสุนเรืองแสงหลายสิบนัดกระทบชิ่งลำตัวของพวกมันออกไป ราวกับถูกปัดด้วยดาบไลซ์เซเบอร์ของอัศวินเจได."เป๊ง! , เป้ง! , เป๊ง! , เป้ง!".แน่นอนว่าพอไม่ได้ผลก็เหมือนเป็นการเปิดช่องให้จักรกลซอมบี้ทั้งกลุ่มเร่ิมรู้สึกตัว พวกมันไม่ได้แค่มองแล้วในตอนนี้ แต่มันเล่นทิ้งร่างเปลือยของนาตาชาไว้ในการดูแลของไอ้ตัวที่ควักเต้านมอยู่เพียงลำพังแบบโดด ๆ ที่เหลืออีกสาม ประกอบด้วยไอ้ตัวเบื้องซ้าย , เบื้องขวา , แล้วก็ไอ้ตัวที่ใหญ่ที่สุด ได้เริ่มลุกขึ้นยืนพลางสาวเท้าโทง ๆ วิ่งเข้าหาเจฟเฟอร์ในทันทีทันใด."ตุ๊ด! , ตุ๊ด! , ตุ๊ด! , ตุ๊ด! ๆ ๆ ".ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแปลว่าอะไร แค่เห็นการกระโจนพรวดเข้ามาพร้อมกันแบบนั้น เจฟเฟอร์ก็รู้แล้วล่ะว่าชะตาตัวเองกำลังจะขาด ดูเหมือนเจ้าตัวจะทำพลาดมหันต์

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 64 : ควักหัว..ออกมา (18+)

    แพลนกล้องกลับมายังทิศใต้ ณ จุดที่ห่างออกไปจากจุดที่เกิดเหตุเซ็กส์อนาฏกรรม ของคนและเครื่องจักร เขายังคงยืนเด่นเป็นสง่าถ่างขาจังก้าอยู่แบนแผ่น jumper board ที่ลอยสูงเหนือหัวกลุ่มซอมบี้โลหะเป็นแสน ๆ พวกมันทำอะไรเขาไม่ได้ อย่างเก่งก็ได้แค่กระโดดเหยง ๆ ชูไม้ชูมือ ป่ายปัดโดนขอบ ๆ ริม ๆ ของแผ่น jumper board เท่านั้น."เออ.. น่ะ ใจเย็น ๆ ไม่ต้องคลั่งกูขนาดนั้นก็ได้ ไอ้พวกนี้เดี๋ยวบัด! เหวอ ๆ ฮึบ! เห็นไหมล่ะ! บอกแล้วว่าเดี๋ยวมันตก แผ่นบอร์ดคว่ำไปมีหวังศพไม่สวยแน่กู.. ฮู่วววว!"เจฟเฟอร์ตวาดเสียงดังพลางชะโงกหน้าลงมาดูการเคลื่อนไหวเบื้องล่าง ก่อนหน้านี้เจ้าตัวดันหมดเวลาไปกับการใช้ออฟติคอลซูมซะเยอะ สายตาก็เลยล้าไปหมด มิหนำซ้ำผลพวงจากการถ้ำมองที่ไกลที่สุดจนเป็นสถิติโลกครั้งนี้ ยังทำให้อวัยวะส่วนตัวของเขาผงาดง้ำขึ้นมาอีกหน.หลังจากจัดระเบียบสังคมให้กับน้องชายผู้ซุกซนของตัวเองเสร็จ เจฟเฟอร์ก็กลับมามีสมาธิิอีกครั้ง เขาทิ้งฝูงซอมบี้สนิมเขรอะไว้เบื้องหลัง แล้วหันมาโฟกัสที่ภารกิจของตัวเองแทน ภารกิจติดตามองค์หญิงแห่งอลาลัสงั้นเหรอ หึ! ภารกิจช่วยให้นาตาชาหนีรอดจากการถูกข่มขืน? รึก็ไม่! เพราะแท้จริงแล้ว ส

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 63 : ขยี้! (18+)

    ร่างเปลือยนอนชูขาอ่อนล้าเรี่ยวแรง นาตาชาไม่เหลือแม้แต่กำลังจะดีดดิ้นพลิกตัวหลบหนีจากการย่ำยีทางเพศ เอาจริง ๆ แล้วหล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันเป็นตัวอะไร เพราะเสื้อเกาะอกที่เคยอำพรางพวงเต้าให้อูมกระชับได้รูปนั้น บัดนี้ก็ได้ถูกถลกขึ้นมาปิดตาเอาไว้จนมองอะไรไม่เห็นซะแล้ว สิ่งเดียวที่สาวเจ้ารับรู้จึงมีเพียงสัมผัสอันแปลกประหลาด ที่สากราวกับกระดาษทราย.อย่าเรียกว่าไซ้เพราะแม่งคือการแสครชเห็น ๆ นาตาชาแสบซอกคอไปหมด หลังจากโดนโรบอทตัวหนึ่งดอมดมด้วยความรุนแรง เสียงอืดดด.. อ๊าดดด กึกกัก ๆ ๆ ที่มันเปล่งออกมา ประดุจว่าแม่เทพธิดากำลังจะได้ผัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร รับประกันได้เลยมันจะไม่แค่ "ก็อป" เพราะมันจะ "ปี้" เธอแน่ ๆ หากยังยอมนอนให้กดอยู่เช่นนี้."อ๊อย! เจ็บจังเลย.. อื้อ! อื้อ! ขยับตัวก็ไม่ได้! อย่านะ อย่าทำแบบนั้นตรงหูมัน.. อร๊อยยย~!".ธิดาแห่งอลาลัสผู้โฉมหน้าคร่าตาคล้ายกับเทย์เลอร์ สวิฟต์ เบี่ยงหน้าหลบแบบสุดแรงเกิด แม้จะทำได้เพียงน้อยนิดแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้จุดที่เสียวที่สุดถูกไอ้หุ่นสนิมเขรอะตัวนี้ล่วงล้ำเอาชัย แพรผมสีบลอนด์ทองถึงกับแตกกระพือ มันคลี่ตัวออกคลุกกับเศษดินขุยขยะจนไม่เหลือเค้า

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 62 : ขยำ! (13+)

    "หยุดตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางกำลังล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว!".เห็นจะจริงถ้าหากว่านี่เป็นหนังไทยสมัย "จารุณี" แสดงเป็นพจมาน ตรงกันข้ามเมื่อประโยคแสนเชยดังกล่าวคงจะใช้กับสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ไม่ได้ ตำรวจห่าเหวอะไรล่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่ซอมบี้เชียงกงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เต็มไปหมด เจฟเฟอร์กับกลุ่มคนใช้่มีดคงสุดจะต้านทานแล้ว สังเกตได้จากการถอยร่นเอาหลังพิงกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มิหนำซ้ำกางเกงผ้ายืดเจ้ากรรมก็ดันมาพันควยพันหำจนเกือบจะล้มคะมำเสียหลัก."โอ๊ย! เอ๊ย! อุ๊ย! เดี๋ยวก่อนเซ้! อย่าเพิ่งกูยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งบุกเข้ามาตอนนี้ไอ้พวกหุ่นสารเลว!"สายลับหนุ่มขึ้นเสียงพลางกระโดดเหยง ๆ เซถลาออกจากตำแหน่ง สีข้างเขาครูดเข้ากับเศษตัวถังยานที่ลักพาตัวองค์หญิงนาตาชามา โดยสันนิษฐานคร่าว ๆ ได้ว่า ยานลำนี้น่าจะโดนยิงร่วงก่อนหน้า Gravitybike ของเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะไอร้อนจากเครื่องยนต์ยังคงอุ่น ๆ อยู่ ทำให้เจฟเฟอร์เกิดปิ้งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ก่อนจะหลุบสายตาลงมามองลำควยกับลำขาทีี่พันกันอิรุงตุงนังของตนเอง แล้วก็บ่นขมุบขมิบ."ชิ! ไอ้ควยระยำนี่ก็ช่างแข็งถึกแข็งทนเหลือเก

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 61 : รุมสกรัม! (18+)

    สอดท่อนแขนอันกำยำเข้าโอบเอว ตวัดดึงเอาร่างอันผอมเพรียวเข้ามาแนบไว้ในวงแขน พลันกระโดดม้วนตัวเอาส่วนหนารับกงเล็บของเครื่องจักรสังหาร!."เอือกกก!"เจฟเฟอร์ร้องอุทานลั่น เขากัดฟันเม้มมุมปากในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อพบว่าองค์หญิงนาตาชากำลังจ้องมองอยู่ หน้าตาเธอบิดเบี้ยวขยะแขยง หัวคิ้วลู่เข้าหากันก่อนจะกลั้นใจซุกหน้าคมสวยที่คล้ายกับเทรเลอร์สวิฟ ลงมาซบเข้าที่ซอกคอของเจฟเฟอร์."ไม่ต้องกลัวนะครับผมมาช่วย ผมเป็นสุภาพบุรุษ ผมเกิดมาเพื่อคุณ""เอื้อกกก! อื้อหือ! อื้อออ! อ๊าาา!".แม่งแสบหลังก็แสบแต่แสบหูมากกว่าที่ต้องมาฟังอะไรแบบนี้ ระหว่างที่เจฟเฟอร์ได้ใช้ความพยายามในการปกป้ององค์หญิงอย่างเต็มความสามารถ พวกจักรกลซอมบี้ก็ทำอะไรองค์หญิงไม่ได้เลย มันทำได้เพียงตะปบกรงเล็บใส่หลังเขาแบบโหมกระหน่ำ และช่่วงเวลาที่เกร็งตัวป้องกันอยู่นั้น จู่ ๆ ริมฝีปากของนาตาชาก็ได้เผยอขึ้นเครือครางขมุบขมิบ เข้าใจว่าเธอคงจะกลัวมาก ยิ่งเป็นตอนที่เธอเผลอซีดปากและพ่นลมหายใจออกมา ยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดของเจฟเฟอร์พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น."กอดผมเอาไว้ครับ ผมจะไม่ให้องค์หญิงเป็นอะไรผมสัญญา"."อือ.. อืม.. แต่คุณคะ! ขืนเป็นแบบนี้".

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status